ความแตกต่างระหว่างสาย HDMI ราคาถูกกับราคาแพง
#81
Posted 12 July 2008 - 10:17 PM
ู้จริงๆ
#82
Posted 27 July 2008 - 01:44 PM
โชคดีมาอ่านก่อนงับ เลยขอใช้เวลาหาข้อมูลต่ออักครับ
แต่ถ้าถามจากใจ ผมว่าสายถูกสายแพงมีผลครับ แน่นอนครับ
แต่ว่าผลที่ได้กับราคาที่จ่ายออกไป ต้องนำมาพิจารณาครับ
Edited by shimafuguro, 22 August 2008 - 10:41 PM.
#83
Posted 25 August 2008 - 11:33 PM
สงสัยจะได้ไปซื้อสายยี่ห้อดีๆมาใช้แล้วมั้งครับ
#84
Posted 28 August 2008 - 12:43 PM
#85
Posted 17 September 2008 - 03:18 PM
สายแลนก็เหมือนกัน
แถวบ้านเีรียนจบป4 สายลำโพงเขาใช้สายไฟธรรมดานี่แหละ
#86
Posted 25 September 2008 - 07:18 AM
เอามาให้อ่านกันหน่อย
http://forums.overclockzone.com/forums/sho...9145&page=4
http://forums.overclockzone.com/forums/sho...mp;postcount=19
#87
Posted 26 September 2008 - 05:35 PM
#88
Posted 14 October 2008 - 11:23 AM
•ผมมี hdmi 1m สายแถมจาก dvd philips เล่นได้เต็มที่ 720p 1080i ครับ ปรับไปที่ 1080p ภาพเน่าครับ
•เคยซื้อ monster 1m กับ 2m จาก ebay เจอของปลอม ดูจากงาน รู้เลย (claim ได้ refund คืน)
เอามาลอง ตัว 1m ปล่อย 1080p ไม่มีปัญหาครับ
ตัว 2m เล่นได้เต็มที่ 720p 1080i ครับ ปรับไปที่ 1080p ภาพเน่าครับ
•ซื้อ hdmi 1m ของจีนมา 390.- จากร้านขายเกมส์
เอามาลองปล่อย 1080p ไม่มีปัญหาครับ
•ซื้อ audioquest hdmi-3 1m มาจาก ebay เช่นกัน ไ่ม่รู้ปลอมหรือเปล่า
เอามาลองปล่อย 1080p ไม่มีปัญหาครับ และเทียบเรื่องภาพแล้ว ดูดีกว่าของ hdmi จีน 390.- ทั้งในเรื่องสีสัน ความสว่าง ความเนียนไหลลื่นของภาพ
#89
Posted 21 December 2008 - 07:52 PM
ส่วนตัวนะครับ
ด้วยความคิดส่วนของผมเอง ผมว่ามันต่างครับ
ทั้งอุปกรณ์ที่นำมาใช้ ทั้งวีธีการผลิต ต่างทำให้สายแต่ละสายที่ได้มามีคุณภาพที่ต่างกัน
ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น สาย lan ส่งข้อมูลแบบ digital ถูกไหมครับ
ทำไมสาย lan ต้องมีหลายแบบ -> shield twisted pair (สายบิด+หุ้มป้องกัน), twisted pair เฉยๆ
หรือ สาย fiber optic ที่ไว้ใช้่ส่งสัญญาณไกลๆเป็น km
ทำไมต้องมี shiled เพราะเนื่องจากจริงๆแล้ว การส่งสัญญาณ digital เมื่อส่งไปไกลๆ
ก็ยังมี noise ที่เข้ามารบกวนสัญญาณการส่งได้
มันถึงได้มีพวก hub switch เพื่อทำการ boost สัญญาณ ในระยะที่ยังสามารถ boost ได้โดยมีค่าผิดเพี้ยนน้อย
ที่ผมกล่าวมาด้านบนก็คือ สาย hdmi ก็ยังเป็นการส่งสัญญาณ digital ซึ่งก็สามารถมีสัญญาณ drop ได้เหมือน
กับสาย lan หรือ fiber optic นั่นแหละครับ
เพียงแต่ hdmi ท่านต่อกันในหลักเมตร ไม่เหมือนสาย lan หรือ fiber ที่ต้องต่อเป็น 10 หรือ 100 เมตร หรือ km
จึงทำให้ drop น้อยมาก หรือแทบไม่ drop สัญญาณหรือคุณภาพเลยย
แต่!!!
มันก็มีปัจจัยอื่นๆอีกเช่น
บริเวณที่ท่านๆวางหรือเดินสาย ว่าท่านวางที่ไหน มีสัญญาณไฟฟ้าอื่นๆที่สามรถรบกวนได้ไหม
แค่วางใกล้สายไฟฟ้าบ้านบางบ้าน ก็สามารถรบกวนได้แล้วครับ
เพียงแต่บางที เรา "ไม่รู้สึก" กับการรบกวนนั้นๆ เท่านั้นเองครับ
และปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย ที่มีผลกระทบการส่งสัญญาณ
ปล. ค่อยๆอ่านนะครับ
ปล2. อย่าลืมครับ ที่ผมเขียนไป เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น
------
ปล3. ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยครับ
#90
Posted 23 December 2008 - 01:27 PM
#91
Posted 03 January 2009 - 11:18 PM
ไปซื้อของ sony มา เพราะคิดว่าสายแพงคงดีกว่า... งานนี้แอบเศร้าไปเลย
ปล. ขอถามเพิ่มเติมนะครับ แล้วสาย component ล่ะครับ เหมือนกันป่าว?? ถูก/แพง
#92
Posted 05 January 2009 - 09:58 AM
ไปซื้อของ sony มา เพราะคิดว่าสายแพงคงดีกว่า... งานนี้แอบเศร้าไปเลย
ปล. ขอถามเพิ่มเติมนะครับ แล้วสาย component ล่ะครับ เหมือนกันป่าว?? ถูก/แพง
เนื่องจากสาย component เป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณอนาล็อก ซึ่งเมื่อ pick up สัญญาณรบกวนแล้วจะทำให้สัญญาณผิดเพี้ยนได้ (ดูการเปรียบเทียบเรื่องขั้นบันไดจากกระทู้แรกเลยครับ) ซึ่งมีผลให้คุณภาพของสายมีผลต่อคุณภาพของสัญญาณครับ
#93
Posted 06 March 2009 - 11:57 AM
#94
Posted 07 March 2009 - 10:47 AM
เลยออกไปซื้อสาย Sony จีนแดงขายตาม Carrefour เส้นละพัน แปะหน้ากล่องว่า "Certified 1.3a" มาลองเสียบ ได้เรื่องครับปรับเป็น 1080p ภาพออกครับ แต่เป็น snow เม็ดเล็ก ๆ เต็มไปหมด ภาพกระตุกแวบ ๆ สรุปดูไม่ได้อีกเช่นกัน
เพิ่งไปรับ Furutech xv ของที่ Clef มาหวังว่าจะดีนะคร้าบ ลองแล้วจะรีบมาบอก
แต่ขอยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ใครบอกสาย digital ไม่ต่าง ลองซะก่อน แล้วจะรู้ว่ามัน "ต่าง" ครับผม
#95
Posted 23 March 2009 - 10:59 AM
เช่นเดียวกับ หนังชนโรง VCD VCD Master DVD Hi-Def มันมีความต่างในตัวมันเอง คือคุณภาพ ราคา มันอยู่ที่ความพึงพอใจส่วนบุคคล
บวกกับกำลังในกระเป๋าครับ สำหรับผมขอราคาถูกๆถึงปานกลางก็พอเพียงครับ
ปล.ความเห็นส่วนตัว
#96
Posted 24 March 2009 - 10:10 AM
เลยออกไปซื้อสาย Sony จีนแดงขายตาม Carrefour เส้นละพัน แปะหน้ากล่องว่า "Certified 1.3a" มาลองเสียบ ได้เรื่องครับปรับเป็น 1080p ภาพออกครับ แต่เป็น snow เม็ดเล็ก ๆ เต็มไปหมด ภาพกระตุกแวบ ๆ สรุปดูไม่ได้อีกเช่นกัน
เพิ่งไปรับ Furutech xv ของที่ Clef มาหวังว่าจะดีนะคร้าบ ลองแล้วจะรีบมาบอก
แต่ขอยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ใครบอกสาย digital ไม่ต่าง ลองซะก่อน แล้วจะรู้ว่ามัน "ต่าง" ครับผม
สาย HDMI มีสองมาตราฐาน หรือสอง category ครับ ถึงแม้จะบอกว่าเป็น HDMI 1.3
Category 1 หรือมาตราฐานจะรับได้แค่ 1080/720p (74.5 MHz)
Category 2 หรือ High-speed จะรับได้ถึง 1600p ได้ (340MHz)
สายที่ผลิตหลังตุลา 08 จะต้องระบุ category ไว้ที่สาย
สัญญาณในรูปดิจิตอล หรือ stream ที่ได้จากการทำ Pulse Code Modulation (PCM) หรือคือการสุ่มตัวอย่างสัญญาณอนาลอกมาเพียงบางส่วน แล้วแทนค่าแรงดันสัญญาณนั้นด้วยตัวเลขดิจิตอล (A to D)
จุดแข็งของดิจิตอลก็คือมันทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงค่าของตัวมันเอง อีกทั้งยังมีกลไกกู้เมื่อผิดพลาดปริมาณหนึ่งได้
จุดอ่อนก็คือ "จังหวะ" ของการสุ่มสัญญาณ (Sampling) และการแปลงกลับเป็นอนาลอก เช่นตอนแปลงเป็นดิจิตอลนั้นสุ่มด้วยระยะห่างกัน 20.83 us (ไมโครวินาที, 48KHz) ระยะห่างนี้ต้องคงที่แป๊ะ และตอนส่งชุดข้อมูลดิจิตอลก็ต้องส่งเข้า D to A ด้วยระยะห่าง 20.83 ไมโครวินาทีเช่นกัน มิฉนั้นรูปคลื่นอนาลอกก็จะผิดไป ถึงแม้ข้อมูลดิจิตอลจะถูกต้อง 100% ก็ตาม
คุณภาพของวงจรสุ่มต้องให้ clock ที่คงที่มากๆ และวงจรแปลงกลับก็ต้องมี clock ที่คงที่ถูกต้องตามต้นทางมากๆเช่นกัน
สาย HDMI จะใช้การส่งสายข้อมูลเสียงสลับกันไปกับสายข้อมูลภาพ ไม่มีสายเสียงแยกเป็นการเฉพาะ ฉะนั้นจังหวะของชุดข้อมูลเสียงก็อาจเบี่ยงเบนไปได้โดยเฉพาะสายข้อมูลที่เป็นแบบ PCM uncompressed ที่ใช้ Blu-ray
ที่ปลายทางจะต้องสร้าง clock สำหรับสัญญาณเสียงขึ้นมาใหม่ เพราะ clock ใน HDMI จะเป็นของข้อมูลภาพ ตรงนี้ต้องการคุณภาพที่สูงเช่นกันในการกู้สัญญาณนาฬิการ (clock) เพื่อใช้ในการแปลงดิจิตอลเป็นอนาลอก
สาย HDMI จึงยังไม่เป็นที่นิยมสำหรับนัก audiophile นัก เครื่องเล่นราคาสูงๆก็จะให้ HDMI out สองขั้ว ภาพและเสียงแยกกัน เพื่อให้การส่งเสียงเป็นไปได้อย่างราบรื่น
และเครื่องเล่นราคาสูงๆมีระบบควบคุมการส่งข้อมูลเสียงเป็นกรณีพิเศษ ถึงแม้ชิพที่ใช้ส่ง HDMI 1.3 จะมีการใส่ความสามารถนี้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกชิพที่ใช้ในเครื่องระดับ consumer
โดยทั่วไปแล้วปัจจัยของคุณภาพเสียงจะไปอยู่ที่เครื่องแปลงอนาลอกเป็นดิจืตอล เครื่องส่งดิจิตอล และเครื่องรับหรือแปลงดิจิตอลเป็นอนาลอกมากกว่าที่จะอยู่ที่สาย
หลายคนเหลือกที่จะส่ข้อมูลเสียงที่เข้ารหัสหรือบีบอัดเช่น DD, DTS, Digital TrueHD, DTS-HD มากกว่าจะส่งแบบ PCM ไปในสาย HDMI เพราะคิดว่ามันเป็นก้อนข้อมูลที่ต้องไปพักที่เครื่องรับก่นอเพื่อถอดรหัสหรือคลายข้อ
มูล แล้วค่อยส่งไปที่วงจร D to A ซึ่งสามารถควบคุมจังหวะแต่ละ sample ข้อมูลเสียงได้ดีกว่ารับแบบ PCM มาแล้วส่งเข้า D to A เลย
แต่การเบี่ยงเบนของแต่ละ sample ข้อมูลเสียงในความเป็นจริงก็ไม่ได้พิดเพี้ยนระดับฟังออกได้ง่ายนัก สำหรับระบบราคาถูก เพราะด้านหนึ่งเราก็ไม่รู้ว่าต้นฉบับเป็นอย่างไรแน่
ถ้าจะถามเอาความเพี้ยน การแปลงเป็นดิจิตอลก็เกิดความเพี้ยนไปมากตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ตามความถี่เสียงยิ่งสูงก็ยิ่งเพี้ยน เพราะใช้ clock ในการสุ่มสัญญาณคงที่
การใช้ clock สูงขนาดขนาด 192Khz ก็จะช่วยได้มาก ที่จะลดความผิดเพี้ยน (CD ใช้ 44.1KHz, DVD/BD movie 48KHz, concert 96/192 Khz) แค่ยิ่งใช้ clock ที่สูง ความถูกต้องคงที่ของ clock ก็ต้องสูงตามไปด้วย เพราะระยะห่างระหว่าง sample จะน้อยมากตามไปด้วย
ถ้าจะเน้นคุณภาพ (ให้เหมือนต้นฉบับ) ก็คงต้องเน้นที่เครื่องเล่นและเครื่องแปลงที่มีคุณภาพมากกว่าจะมาเน้นที่สายระดับแพง
มากๆ
แน่นอนว่า jitter หรือการเบี่ยงเบนในสายย่อมมี เพราะการสูญเสียงที่ทำให้การ detect จังหวะของ pulse 1 หรือ 0 อาจเบี่ยงเบนไปได้ แต่ปัจจัยหลักจะอยู่ที่เครื่องส่งและเครื่องรับและ protocol ของ HDMI มากกว่า
#97
Posted 24 March 2009 - 09:34 PM
#98
Posted 24 March 2009 - 09:35 PM
สามารภแบ่งประเภทสายตามราคาได้ 4 ประเภทคือ
1. ราคาถูกและไม่ได้มาตรฐาน <1000
2. ราคาถูกและได้มาตรฐาน <1000
3. ราคาปานกลาง 1000-3000
4. ราคาแพง >3000
สาย ราคาถูกจะมีความแตกต่างกับสายราคาแพงอย่างเห็นได้ชัด
ส่วน สายราคาปานกลางกับสายราคาแพงจะไม่เห็นความแตกต่าง
#99
Posted 25 March 2009 - 06:14 PM
สาย ถูกหรือแพง แสดงผลเรื่องภาพและเสียงเหมือนกัน
สาย ถูกหรือแพง ต่างกันที่วัสดุ ซึ่งมีผลต่อความทนทาน(อายุในการใช้งาน)
สาย ที่ได้มาตรฐาน จะถูก จะแพง จะแสดงผลที่ความสามารถเดียวกัน
สาย ที่ไม่ได้มาตรฐาน จะถูก จะแพง ก็จะแสดงผลภาพและเสียงออกมาได้ห่วย หรือ เน่า
สมมตินะครับ
ผมซื้อนาฬิกา rolexมา ดูเวลาได้ปรกติ สิบปีเจ๊ง มีทอง มีเพชรอร่าม เดินตรง
ผมซื้อนาฬิกา casio ดูได้ เดินเหมือนกัน แต่ไม่มีเพชร เดินตรง เจ๊งเร็วกว่า ข้างบน
ผมซื้อนาฬิกา ห่วยๆ จากจีน ดูได้ เดินไม่ค่อยจะตรง แป้บเดียวเจ๊ง
ถูกไหมครับ
#100
Posted 25 March 2009 - 08:58 PM
ราคา HDMI เอง ส่วนหนึ่งมาจากค่า License ผู้ที่จะเอา HDMI ไปใช้ต้องจ่ายเป็นรายปีให้กับ HDMI Licensing, LLC ที่เป็นหน่วยงานดูแลเรื่องนี้
แรกๆต้องจ่ายปีละ $15,000 ที่มาลดเหลือ $10,000 เมื่อราวๆกลางปี 2006 เมื่อมีการนำไปใช้กันมากขึ้น ก็น่าจะราวๆ 3-4 แสนต่อปี
เข้าใจว่าผู้ผลิตสายก็คงต้องเสียด้วย ฉะนั้นสาย noname ที่ไม่ต้องจ่าย license ก็คงต้องมีราคาถูกกว่า ดังนั้นราคาจึงไม่ได้ฟ้องถึงคุณภาพของสัญญาณที่วิ่งผ่านมันเสมอไป
ว่ากันไปตามมูลค่าวัสดุ และปริมาณการผลิต ผลิตมากต้นทุนต่อหน่วยก็ต่ำ
วัสดุดีก็ทนทานและทำให้สูญเสียต่ำถูกรบกวนอยาก ก็แพง อยู่ที่ว่าการใช้งานของเราต้องการสิ่งเหล่านี้แค่ไหน
ในทางเทคนิด ทางด้านภาพค่อนข้างจะเห็นว่าไม่มีผล ถ้าดีก็เห็นภาพปกติ ถ้าไม่ดีก็เห้น noise หรือจุดของภาพที่ข้อมูลผิดพลาดเกินกู้ หรือใช่ๆไปสัญญาณขาดหายไปเลย
จะไม่ออกมาแนวเส้นนี้ให้รายละเอียดสูงกว่าเส้นนี้ ให้สีอิ่มสดกว่าเส้นนี้
เพราะภาพแต่ละเฟรมมันมีความถี่ต่ำ 50-60 Hz มีเวลารอนานพอสำหรับสัญญาณถ้ามันจะมาผิดเวลาไปเล็กๆน้อยๆ
แต่ทางด้านเสียงก็อย่างที่กล่าว มันมีประเด็นบางประการที่เกี่ยวกับ protocol ของ HDMI แต่ปัจจัยของมันอยู่ที่ตัวเครื่องด้านส่งและรับมากกว่า
ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันไปจบแน่นอน
ก็เพียงให้ข้อมูลเอาไปดูว่าควรเลือกแค่ไหนก็เพียงพอ ไม่ใช่ซื้อ feature ของ 4W แต่เพียงเพื่อใช้ไปจ่ายตลาด ซื้อของเถื่อนก็ถูกลงหน่อยเป็นต้น