ระยะทางของสาย คือสาเหตุที่ทำให้สายมีหลายเกรด ไม่เหมือนกันครับ
สายราคาสูงขึ้นที่ตัวนำคุณภาพสูงขึ้นด้วย ไม่ใช่แบบที่หลอกขาย
มักจะนำสัญญาณได้ระยะที่ไกลกว่า โดย error ไม่มาก
ขัดบทความที่แปลมานิดตรง digital 0 1 ก็มี error เมื่อถึงปลายทางได้ ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย
จึงมีทฤษฎี error detection/correction จำนวนมากออกมา
หากข้อมูลถึงปลายทาง มี error มากเกินกำหนด เช่น 1 กลายเป็น0, 0กลายเป็น1 เพราะระดับไฟฟ้าเปลี่ยน ทำให้ปลายทางตีความผิด
ทำได้แค่ตรวจจับ แก้ไขปลายทางไม่ได้
ความเร็วส่งระดับ 1,000 ล้านบิทต่อวินาที หากสายไม่ดี อาจเสียสัก 20 ถึง 50ล้านบิทต่อวินาที
และเมื่อเป็นภาพเสียงที่แสดงทันที ไม่ใช่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่รอส่งใหม่กันได้แบบการ copy file (detect แต่ไม่สามารถ correct ต้องใช้ retransmission)
เมื่อมีการส่งข้อมูลซ้ำใหม่อีกรอบ ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะข้อมูลนั้นไม่เป็นที่ต้องการแล้ว (เล่นภาพวินาทีถัดไปแล้ว วินาทีที่เสียก่อนหน้า ถึงส่งข้อมูลดีมาใหม่ก็ไร้ค่า)
ดังนั้นเมื่อเกิด error มาก จึงแสดงออกบนจอแสดงผล เช่น ภาพกระตุก หรือเสียงสะดุด ส่วนใหญ่ no signal เลย รออุปกรณ์ทดสอบเชื่อมต่ออีกครั้ง
ส่วนสายที่ดี เทียบกับที่ดีมาก อันนี้ใช้คนดู โดยไม่ใช้เครื่องมือวัดค่า แยกได้ยากมาก
เพราะ error เล็กน้อย ตาคนแยกไม่ออก เช่น จุดสีเสียไม่กี่ pixels จากในจอแสดงอยู่เป็น 2ล้านกว่า pixels ต่อ frame (full hd 1920x1080 i/p) เสี้ยววินาทีเปลี่ยน frame แล้ว ทำให้ดูไม่ออก เว้นแต่เป็นต่อเนื่องตลอดเวลา ทำให้เห็นเป็นจุดรบกวน
แนะนำว่า ควรดูระยะทาง หากสั้นสุด ใช้สายถูก คุณภาพหัวเชื่อมต่อดี ก็เพียงพอแล้ว
หัวเชื่อมต่อสำคัญ หากไม่สนิท เห็นผลเสียได้ชัดเจน
Edited by RockLobster, 23 May 2008 - 12:59 AM.