ปัญหาครอบครัวที่หนักมากตอนนี้...เพื่อนๆช่วยผมที
#1
Posted 23 June 2021 - 09:02 PM
ขอมาเข้าเรื่องก่อนเลยนะครับ พอมาเดือน มิถุนายน 2563 ที่ผมเคยสอบขึ้นบัญชีครูผู้ช่วยไว้ก็เรียกถึงผมจริงๆ และโชคดีมากที่ผมก็ได้บรรจุใกล้ๆบ้านผมประมาณ 3-4 ก.ม ตอนนี้ก็ยังไม่ครบ 2 ปียังไม่ผ่านครูผู้ช่วยเลยเงินเดือนโดนหักทุกอย่างเหลือแค่ 13,800 ผมต้องให้แฟนเดือนละ 5,000 ซื้อแพมเพิสลังละ 1,500/เดือน นม 1,500/เดือนแยกตังหาก หักค่าใช้จ่ายทั้งหมดผมเหลือใช้ 4-5,000 ต่อเดือน ผมต้องได้ประหยัดเอามากๆแต่ก็อาศัยอยู่บ้านกับพ่อแม่ผม เงินมันไม่เหลือให้พ่อแม่ผมด้วยซ้ำ และแฟนผมก็ไม่ยอมเอาลูกมาอยู่ด้วยกับผมที่บ้านอ้างว่าอยู่บ้านผมแล้วอึดอัด เพราะแม่ผมชอบบ่นเรื่องเงินๆทองๆตลอดตอนแฟนผมอยู่บ้าน นั้นก็เพราะแม่ผมรับผิดชอบเลี้ยงดูคนในครอบครัวรวมทั้งผม พ่อผมก็เกษียณแล้วเงินก็แทบไม่เหลือ แม่ผมก็เปิดร้านซักรีดเพื่อหารายได้เข้าครอบครัว ไหนจะหนี้ที่เคยเอาบ้านไปเข้าธนาคารที่แม่ต้องเก็บเงินจ่ายแต่ละปีอีก ผมก็ช่วยได้แค่จ่ายค่าอินเตอร์เน็ตให้เดือนละ 600 บางเดือนก็ให้แม่บ้างเดือนละ 1,000 แต่บางเดือนก็ไม่ได้ให้เลยเพราะหมดกับลูกเมียไปมากกว่า เมียก็ยังบ่นอยู่ตลอดว่าไม่พอใช้ มันก็ไม่แปลกที่ไม่พอใช้เพราะว่าเงินที่ผมให้เมียเดือน 5,000 เมียผมก็เอาไปให้พ่อแม่เค้าอีกเดือน 2-3,000 แล้วก็บอกว่าไม่พอใช้ ขนาดนั้นพ่อแม่ฝั่งเมียก็ไม่ได้ว่าผมดีตอนไปอยู่ที่บ้านเค้าทำอะไรก็ผิดอีก เมียยายฝั่งนั้นก็ชอบพูดเปรียบเปรยอยู่ตลอดว่าบ้านคนอื่น ผัวเค้าเลี้ยงดูพ่อตาแม่ยายดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่ได้พูดใส่ผมตรงๆ ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงขนาดพ่อแม่ผมยังไม่ค่อยจะได้ให้เลยพ่อแม่ผมลำบากมากว่าอีกนะ เค้าคาดหวังกับผมไว้มากแต่พอผมได้บรรจุครูผมยังไม่ได้ทดแทนบุญคุณเลย มีแต่หมดไปกับลูกกับเมียหมดกับครอบครัวเค้ามากว่า
ขอมาถึงที่มันเป็นปัญหาในตอนนี้เลยละกันครับ คือปัญหาตอนนี้คือว่าแฟนผมท้องอีกคนแล้วประมาณ 1 เดือนกว่า เพราะแฟนผมไม่ยอมกินยาคุมไม่ยอมฉีดยาคุมมัวแต่กลัวผลข้างเคียง แล้วทีนี้ฝั่งโน้นเค้าอยากให้ผมกู้เงินไปแต่งตามที่เคยคุยกันไว้ตอนที่หมั้น 2 แสน ทอง 2 บาท ไม่รวมกับที่เคยหมั้นไว้ 5 หมื่น รวมทั้งหมด 3 แสนกว่าเลย ทีนี้ผมได้นำเรื่องมาปรึกษากับพ่อแม่ แม่ผมได้ยินแรกๆไม่ยอมให้กู้ไปแต่งเลยครับ เพราะว่าแม่ผมกว่าเงินเดือนไม่เหลือ จะไม่สามารถดูแลตัวเองได้เพราะเงินเดือนยังน้อยอยู่ ถ้าจะกู้มาแต่งจริงๆ ต้องกู้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูมาอย่างน้อย 400,000 และโดนเข้าหุ้นอีก 20%กว่า จะเหลือแค่ 3 แสนกว่าเองแทบจะไม่เหลือเลย ก็เข้าใจอยู่แม่เป็นห่วงเรื่องนี้ ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ด้วย แถมอาจจะเป็นภาระแกหลังจากกู้ยืมอีกผมก็เข้าใจแกนะ ผมพยายามคุยกับแฟนว่าให้ลดลงมาหน่อย 150,000 + ทอง 2 บาท หรือ 2แสน ไม่มีทองก่อนได้หมด แต่แฟนผมไม่ยอมไม่ฟังเลย จะเอาเต็มจำนวณอย่างเดียว ผมพยายามยังไงแฟนผมก็ไม่ฟัง ผมบอกว่าถ้าแต่งเต็มจำนวณก็ได้แต่ให้แม่แฟนแบ่งเงินให้ครึ่งหนึ่งให้ ผมและแฟนได้ตั้งต้นชีวิต แฟนผมก็บอกว่าแล้วแต่แม่เค้าจะให้ แต่ผมรู้จักแม่เค้าดีว่าถ้าแล้วแต่แม่เค้าคงไม่ได้คืนแน่ๆเพราะว่าเค้าวางแผนอยากได้เงินไปซื้อที่นาที่ผมเคยได้ยิน ที่จริงมันอยู่ที่แฟนผมคนเดียวว่าจะลดลงได้ไหม แต่ก็เหมือนจะคุยกันไม่รู้เรื่องเลยคุยยังไงแฟนผมก็ไม่ยอม และก็เร่งรัดและบีบผมมาก ถามว่าทำไมยืมไม่ได้ติดอะไรอยู่ ผมก็ไม่รู้จะบอกยังไงก็เลยบอกความจริงว่าแม่ผมยังไม่อยากให้ยืมเยอะขนาดนั้น และผมก็บอกว่าให้แฟนผมรอไปก่อนผมพยายามเครียร์ให้อยู่ ผมได้ไปคุยหาวิธีทางออกหาทางแก้ไขกับแม่ผมก็บอกให้แม่ไปคุยกับผู้หลับผู้ใหญ่แถวบ้านให้ไปช่วยคุยเรื่องค่าดองหน่อย เพราะผมกับแฟนคุยกันไม่รู้เรื่องไม่ลงตัวแล้วแม่ผมก็บอกตกลงวันรุ่งขึ้นแม่ก็กำลังจะไปคุยกับผู้หลับผู้ใหญ่แถวบ้านให้ แต่ปัญหามันก็เกิดขึ้นจนได้เมื่อน้องเมียผม ไปโพสหน้าเฟสเค้าว่า....เฒ่าสิตายอยู่แล้ว ยังไม่อยากรับผิดชอบ ยังห่วงสมบัติ ...นี้คือโพสที่ 1 และโพสที่ 2 ว่า พวกหัว...ค....เอ้ย ลูกกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง....ทีนี้ละครับงานเข้าบ้านลุกเป็นไฟเลยเมื่อแม่ผมมาอ่านเจอ.....แม่ผมด่าผมเป็นชุด รามไปหมด บอกว่าอย่าให้ไปเหยียบบ้านเค้าอีก ไม่ให้ไปแต่งแล้วด้วยซ้ำ ถ้าจะไปก็ตัดแม่ตัดลูกเลย...ฝั่งเมียผมก็ขู่ผมอีกถ้าไม่มาแต่งภายใน 25 ก.ค นี้จะเลิกกับผมและจะเอาลูกออกหนี้ไปทำงาน กทม คืนนั้นผมก็นอนไม่หลับทั้งคืนเลยไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตแล้ว คิดถึงลูกก็คิดถึง เวลาที่ผมพยายามแก้ปัญหาก็จะมีคนมาสร้างปัญหาเพิ่มใหม่ตลอด ผมนอนไม่หลับทั้งคืนจนเช้าวันต่อมาได้ขอลาโรงเรียนเพื่อไปบ้านแฟนให้พ่อผมช่วยขับรถให้เพราะผมจิตใจร่างกายตอนนั้นขับไม่ไหวแล้ว และเช้าวันจันทร์ผมก็ไปบ้านแฟนกับพ่อ พอไปถึงก็เจอเมียกับแม่ยาย ผมก็เอาพ่อไปคุยด้วย ผมก็บอกว่าพยายามเครียร์กับแม่ให้แล้วแต่น้องเมียก็มาโพส แม่ยายก็ว่าลูกเค้าโพสแบบนั้นก็ผิดอยู่ แต่เค้าว่าแม่ผมไม่อยากให้มาแต่งเค้าว่าเค้าเสียความรู้สึก ผมก็บอกว่าฐานเงินเดือนผมยังน้อยอยู่แม่ผมไม่อยากให้เป็นหนี้กลัวจะเอาตัวไม่รอด แต่ฝั่งเค้าก็ไม่ฟังไม่ได้ว่าน้องเมียผิดด้วยซ้ำที่ไปโพสแบบนั้น และเมียยายยังบอกอีกว่าถ้าผมไม่มาแต่งตามที่ตกลงกันไว้จะให้เมียผมเอาลูกออกและให้ไปทำงานงานโรงงานที่ กทม ไม่ให้ผมเจอหน้าลูกอีก.......
ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงผมรักลูกมาก หาทางออกก็มีแต่ทางตัน และผมก็บอกผมจะหาทางออกเองแต่วันนี้ผมอยากให้เมียผมไปขอขมาขอโทษแทนน้องเมียที่ไปโพสแบบนั้นใส่แม่ผม และวันนั้นผมก็รับเมียกับลูกกลับบ้านไปไหว้ขอขมาแม่ผม แรกๆแม่ผมก็ไม่มองหน้าเมียผมด้วยซ้ำ แต่ผมก็ช่วยพูดและเอาลูกมาด้วยแม่ผมก็ใจอ่อนลงยอมเล่นกับหลานและคุยกับเมียผม แต่แกยังโกรธน้องเมียผมอยู่ และเที่ยงวันนั้นผมก็ขอร้องให้เพื่อนครูมาช่วยคุยกับเมียผมและแม่ผมให้ปัญหาได้คลี่คลายลงก็เหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น และวันนั้นผมก็ขอให้เมียผมกับลูกน้องบ้านผมก่อนคืนนึง พอเช้ามาก็กลับเหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น ผมก็ได้ไปทำงานตามปกติ แต่พอผมกลับบ้านจากทำงานแม่ผมก็พูดเรื่องเงินที่จะกู้ไปแต่งอีกครั้ง แม่ผมไม่ยอมให้กู้เยอะขนาดนั้น แกยังเป็นห่วงผมอยู่กลัวจะเอาตัวไม่รอดและเงินที่ไปกู้มาต้องได้แบ่งให้แม่ด้วยอย่างน้อยก็ 4-5หมื่น คือตอนนี้ถ้าจะไปแต่งจริงๆ จะไม่ได้ 2 แสน ทอง 2 บาท แต่ปัญหาคือผมคุยกับเมียผมเรื่องเงินไปแล้ว 3-4 วันเมียผมก็ยังยืนกรานไม่ยอมลดลงให้เลย เหมือนแต่ละฝ่ายไม่ยอมถ่อนคนละก้าวเลย ผมคนที่อยู่ตรงกลางอึดอัดมากไม่รู้จะทำยังไง ฝั่งนั้นก็ไม่สนพ่อแม่ผมเลยอยากให้ผมกู้เงินมาแต่งตามที่เค้าต้องการอย่างเดียว พ่อแม่ผมไม่อนุญาตไม่มาร่วมงานผูกแขนด้วยก็อยากให้กู้ไปแต่งอยากเดียว ยิ่งแม่ยายยิ่งตัวดี บอกอีกว่าจะเลือกลูกเมียหรือเลือกแม่อีก
ผมก็เข้าใจเมียผมนะว่าเมียผมคงโดนแม่เค้าพูดเปรียบเทียบใส่ตลอดว่าได้เงินกับน้อง ได้ทองกับน้องตลอด เพราะว่าน้องเมียผมเป็นสาวพริตตี้ มีผู้ใหญ่เลี้ยงซื้อรถเก๋งให้ ซื้อทองเส้นใหญ่ให้พ่อแม่ให้เงินพ่อแม่ตลอด ก็อยากทำให้พ่อกับแม่บ้าง....แต่เมียผมไม่ได้คิดถึงฝั่งผมเลยว่าฝั่งผมก็ลำบากเหมือนกัน ยิ่งผมตั้งแต่ได้บรรจุครูมาไม่เคยได้ทำอะไรให้พ่อกับแม่เลย มีแต่เรื่องทำให้พวกท่านลำบากใจ ผมไม่อยากเลือกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจริงๆ ทำไมต้องมาบังคับผมแบบนี้ด้วย เรื่องนี้มันทำให้ผมกินไม่ได้นอนไม่หลับไปหลายวันแล้วจริงๆ ปรึกษาเพื่อนๆที่สนิสกันหลายคนเค้าบอกแนวทางเหมือนกันถ้ามันไปกันไม่รอดจริงๆก็ต้องได้จบกันเท่านี้ ถ้าคนมันรักกันจริงๆก็ไม่น่าจะทำแบบนี้
ที่แม่ยายพูดว่าถ้าไม่มาแต่งจะให้เมียผมเอาลูกออกแล้วจะให้ลงไปทำงานโรงงานที่ กทม เค้าบอกผมว่าผมสามารถฟ้องแม่ยายได้ว่ายุยงให้แฟนผมทำแท้ง ให้ครอบครัวเค้าแตกแยก ยิ่งจะให้เมียผมหย่ากับผม ผมสามารถไม่หย่าได้ให้เค้าไปฟ้องหย่าเอง ว่าผมผิดอะไร และผมก็สามารถฟ้องสิทธิเลี้ยงดูบุตรได้ด้วยเพราะเป็นข้าราชการ แต่ฝั่งเค้า ไม่มีอาชีพที่รายได้หมั่นคง ตอนนี้แฟนผมก็ว่างงานอยู่ด้วย แต่ผมไม่อยากทำถึงขนาดนั้นในตอนนี้ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ วันเสาร์นี้ผมก็จะไปคุยเรื่องค่าดองกับพ่อผมอีกครั้งไม่รู้จะลงตัวไหม ผมจะพยายามเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าจะให้ทำอย่างที่เค้าต้องการแต่ฝั่งพ่อแม่ผมไม่เอาด้วยผมก็จะไม่ทำ….เพื่อนสนิสผมเคยบอกไว้แล้วตั้งแต่หมั้นว่าจะมีปัญหาตามมาอีกแต่ผมก็ไม่ฟังเอง ผมสงสารลูกในท้องตอนนั้น
ปัญหาครอบครัวที่ผมเจออยู่ตอนนี้เพื่อนๆคิดว่ายังไงครับ ผมถึงทางตันแล้วจริงๆหรอ
#2
Posted 23 June 2021 - 10:07 PM
ดูจากปัญหา หลักๆ น่าจะมาจากบ้านผู้หญิงชอบเปรียบเทียบพี่กับน้อง
น้องได้เงินได้ทองมาแบบนั้น แปลว่าเป็นเมียน้อยให้ผู้ใหญ่หรือเปล่า ได้เงินมาแบบนั้น ที่บ้านไม่ห้ามเหรอ
ส่วน จขกท ผมนึกออกแค่ต้องหารายได้เพิ่ม ทำออนไลน์ขายของก็ได้ แต่คงไม่ทันหาได้ถึง 2 แสน มันต้องใช้เวลา
เรื่องแม่ยายบอกจะให้ทำแท้ง ถ้าเขาจะทำจริง บ่งบอกได้เลยว่า บ้านนั้นหวงหน้าตาชื่อเสียงเงินทอง มากกว่าสายเลือดตัวเอง
คบคนแบบนี้ไม่เจริญนะครับ
เอาใจช่วย จขกท ให้แก้ปัญหาเคลี่ยคลายได้นะครับ
#3
Posted 23 June 2021 - 10:19 PM
pee po, on 23 June 2021 - 10:07 PM, said:
ดูจากปัญหา หลักๆ น่าจะมาจากบ้านผู้หญิงชอบเปรียบเทียบพี่กับน้อง
น้องได้เงินได้ทองมาแบบนั้น แปลว่าเป็นเมียน้อยให้ผู้ใหญ่หรือเปล่า ได้เงินมาแบบนั้น ที่บ้านไม่ห้ามเหรอ
ส่วน จขกท ผมนึกออกแค่ต้องหารายได้เพิ่ม ทำออนไลน์ขายของก็ได้ แต่คงไม่ทันหาได้ถึง 2 แสน มันต้องใช้เวลา
เรื่องแม่ยายบอกจะให้ทำแท้ง ถ้าเขาจะทำจริง บ่งบอกได้เลยว่า บ้านนั้นหวงหน้าตาชื่อเสียงเงินทอง มากกว่าสายเลือดตัวเอง
คบคนแบบนี้ไม่เจริญนะครับ
เอาใจช่วย จขกท ให้แก้ปัญหาเคลี่ยคลายได้นะครับ
#4
Posted 23 June 2021 - 10:36 PM
ค่อยๆ ทำไปครับ อย่าหวังแต่เงินเดือนอย่างเดียววครับผม
อาชีพเสริมเยอะแยะมากมาย ค่อยๆ เริ่ม ค่อยๆทำ มันไม่เห็นผลภายในวันนี้ พรุ่งนี้ แต่ถ้าทำจริงๆ อย่างน้อยมีรายได้เพิ่มเข้ามา น้อยบ้าง มากบ้าง ดีกว่าไม่มีเลยครับ
ส่วนปัจจุบัน สำหรับผมผมเลือกพ่อ แม่ ผมก่อนครับ คนอื่นก็คือคนนอก
ยิ่งถ้าคุณกู้เพื่อมาแต่งงาน ผมไม่เห็นด้วย อย่างแรงเลยครับ
รับรองได้ว่า มีมาเอาเงินอีกแน่นอน
ปล อันนี้ความคิดส่วนตัวผมนะครับ ไม่ต้องเชื่อผม นะครับ
#5
Posted 23 June 2021 - 10:43 PM
เรื่องนี้ถ้าเป็นผม ผมเอาฝั่งแม่ ฝั่งครอบครัว
เขารู้นิสัยคุณดีสุด ผมแค่ตามอ่านผมยังพอเดาได้เลย
คุณเหมือนเป็นคนคิดไม่เยอะ ไม่รอบคอบ
ยิ่งเรื่องกู้นี่เรื่องใหญ่ เอาเงินอนาคตมาใช้ ก่อนกู้ต้องวางแผน
ใช้หนี้ให้ดีก่อน ไม่ใช่กู้ก่อนแล้วค่อยคิด
แม่คุณเป็นคนดีมาก คิดเยอะ คนที่หวังดีจริงๆ
ไม่มีใครอยากให้คนที่ตัวเองรักเป็นหนี้หรอกครับถ้าไม่จำเป็น
ผมเข้าใจว่า จข.ทู้รักลูกนะ แต่แม่เจ้าของทู้ก็รักตัวท่านที่เป็นลูก ก่อนตัดสินใจอะไรๆในชีวิต คิดให้เยอะๆครับ
เรื่องนีัผมอยู่ฝั่งแม่คุณครับ
#6
Posted 23 June 2021 - 11:31 PM
ไม่มีเงินก็เป็นหมา ครับ ลูกเราต้องกินทุกวัน อดแบบเราไม่ได้ เอาลูกมาเลี้ยงเองครับ แล้วหา คนที่ช่วยกันเดินไปไม่ใช้ให้เรามาแบกอย่างเดียว
#7
Posted 24 June 2021 - 12:54 AM
ผมว่าไม่
ทีนี้คุณก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดู 5000 เหมือนเดิม การใช้หนี้ที่กู้มายิ่งยากขึ้นอีก เงินคุณจะเหลือน้อยลง
แล้วสมมุติว่า ถ้าภรรยาคุณมาอยู่และต่อให้ไม่ต้องจ่ายเดือนละ 5000 คุณก็ต้องใช้หนี้ที่กู้และยังไงก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องลูก ภรรยา และเงินกู้ด้วย ซึ่งเงินเดือนครูไม่มีหนี้ก็แทบไม่พออยู่แล้ว ทำให้ต้องพึ่งแม่คุณอยู่ดี
ผมว่าทางออกทีดีที่สุดคือเอาลูกมาเลี้ยงเองเท่านั้นครับ เอาเงิน 5000 มาให้สิ่งดีๆ แก่ลูกเราดีกว่า
Edited by Avant-garde, 24 June 2021 - 12:59 AM.
#8
Posted 24 June 2021 - 07:30 AM
1. ห้ามกู้มาแต่ง โควิดด้วย กระทบหมด
2. ยังคิดไม่ตก ให้อ่านข้อ 1
3. พ่อแม่เมียนิสัยแปลกๆ ไม่ชอบอย่างแรง ห่วงแต่เงินกับหน้าตา แม่คุณรักคุณ
4. เมียไม่คุม ทำไม่คุณไม่ใส่ถุง คนเดียวก็แย่แล้ว
5. ถ้าผมเอง เจอแบบนี้ ผมจะหาทางเอาลูกมาเลี้ยงเองให้ได้ ส่วนอนาคตจะเลิกหรือเปล่าต้องดูกันไป
#9
Posted 24 June 2021 - 08:38 AM
ชีวิตอยู่ที่ครอบครัวเราเองครับ ถามคู่ชีวิตว่าจะตามเกมแม่หรือ จะเลือกสร้างครอบครัวดูแลลูกไปด้วยกันครับ
อาชีพ จขกท มั่นคงนะครับ อาจจะลำบากติดหน่อยในช่วงแรกๆ ถ้าไปกู้โดนที่ไม่เกิดประโยชน์มันส่งผลต่ออนาคตครับ
#10
Posted 24 June 2021 - 09:07 AM
#11
Posted 24 June 2021 - 11:37 AM
แล้วเรื่องที่เล่าก็เป็นฟังความข้างเดียว ผมก็ไม่แน่ใจกับการใช้ชีวิต การขวนขวาย ของ จขกท เป็นอย่างไร ถ้าให้แนะนำคงต้องหมั่นพัฒนาตนเอง หาอาชีพเสริมอะไรก็ได้ทำครับ อาจจะพูดยากแต่ก็ได้ลงมือทำหรือยัง ? ห้ามกู้เด็ดขาดจะสร้างหนี้แบบไม่ใช่เรื่อง เปิดอกคุยกันทั้งฝั่งคุณและภรรยา เอาผู้ใหญ่มาคุยกันด้วย ใช้เหตุ ใช้ผล หาทางออกร่วมกันครับ ยังไงก็ลูกก็หลานในไส้ จะพังทั้งหมดหรือจะช่วยกันหาทางออก เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ด้วยครับ
#12
Posted 24 June 2021 - 01:01 PM
#13
Posted 24 June 2021 - 01:26 PM
#14
Posted 24 June 2021 - 01:30 PM
สุดท้ายคุณทำทุกอย่างๆดีที่สุดแล้ว แต่มันก็คงยังไม่พอกับสิ่งที่เค้าต้องการอยู่ดี
เพราะ.. คุณไม่ได้มี 'สิ่งที่เค้าต้องการ'
คนชอบพูดเอาเก๋ว่า "ทุกปัญหามีทางแก้"
โดยไม่ได้ดูว่า ต่อให้มันมีทางแก้ ก็ไม่ใช่ทุกคนจะแก้มันได้
และบางปัญหา.. ก็ไม่คู่ควรที่จะแก้
Edited by 9th TEARDROP, 24 June 2021 - 01:51 PM.
#15
Posted 24 June 2021 - 01:42 PM
2. เงินคือปัญหาหลักๆ ไม่ว่าจะเรื่องจำเป็น (การใช้ชีวิต) หรือไม่จำเป็น (การแต่งงาน) ก็ต้องใช้เงิน บริหารดีๆ คิดดีๆ คุณเป็นหัวหน้าครอบครัวได้หรือไม่อยู่ที่แนวคิด และต้องกล้าคิด กล้าตัดสินใจ
3. เมียท้องลูกคนที่สอง คุณโทษแต่เมียคุณ ไม่กินยา ไม่ฉีดยาคุม แล้วทำไมคุณไม่ใส่ถุงยาง ... เรื่องนี้มันแสดงให้เห็นทัศนคติบางอย่างที่ไม่โอเคนะครับ อาจจะมีผลกับการคิดและตัดสินใจในเรื่องอื่นๆด้วย (โทษแต่คนอื่นไม่โทษตัวเอง)
#16
Posted 24 June 2021 - 05:37 PM
ให้ใครแนะนำก็ไม่รู้เท่าตัวคุณหรอกครับ
เป็นผมจะไปไหนกันก็ไปเหอะ อยากได้ลูกไปยิ่งดี เลี้ยงให้ด้วย หาเมียใหม่แล้วตกลงกันให้ดีๆ
ปล.ไม่ใช่ไม่รักลูกนะ ความรักไม่ใช่การครอบครอง เราไหวเท่าไหร่ ก็ทำเท่านั้น อย่าทำอะไรเกินตัวครับ (บอกตัวเอง 555)
#17
Posted 24 June 2021 - 06:50 PM
#18
Posted 24 June 2021 - 08:03 PM
nut99, on 24 June 2021 - 05:37 PM, said:
ให้ใครแนะนำก็ไม่รู้เท่าตัวคุณหรอกครับ
เป็นผมจะไปไหนกันก็ไปเหอะ อยากได้ลูกไปยิ่งดี เลี้ยงให้ด้วย หาเมียใหม่แล้วตกลงกันให้ดีๆ
ปล.ไม่ใช่ไม่รักลูกนะ ความรักไม่ใช่การครอบครอง เราไหวเท่าไหร่ ก็ทำเท่านั้น อย่าทำอะไรเกินตัวครับ (บอกตัวเอง 555)
#19
Posted 24 June 2021 - 09:15 PM
#20
Posted 25 June 2021 - 09:07 AM
Edited by ekbee, 06 July 2021 - 08:31 AM.