Shrine of Storms 4-1ถึงตอนนี้เพื่อนๆคงจะคุ้นเคยกับเส้นทางในด่านนี้กันพอสมควร มาเริ่มกันเลยดีกว่า ถ้าหากตอนนี้ตัวละครของเรามี Dex อยู่ที่ประมาณ 30 ก็จะสามารถฆ่า Silver Skeleton ด้วย Hard Arrow 1 ดอกโดยยิงด้วย Viscous Compound Long Bow +5 ในกรณีที่มันไม่ตายด้วยดอกธนูของเรา ให้จัดการมันต่อด้วยหอก Moon Winged Spear
NOTE: จากที่ผมลองเล่นมาการฆ่ามันด้วยวิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ Soul Arrow ยิงมันสลับกับการป้องกันด้วย Purple Flame Shield
จากจุดวาปเริ่มต้น จัดการเจ้า Silver Skeleton จนเราไปถึงกำแพงที่มี Silver Skeleton(ธนู) 2 ตัวอยู่ข้างบน เดินไปทางด้านซ้ายและขึ้นไปจนถึงชั้นบนสุด จัดการเจ้า Silver Skeleton อีกตัวที่อยู่ข้างบน และเก็บ Copper Key ที่อยู่สุดทางอีกทางหนึ่ง เดินทางกลับมาและจัดการ Silver Skeleton(ธนู)ที่อยู่อีกฝากหนึ่ง จะมี Silver Skeleton อยู่ด้วยระหว่างทาง จัดการมันไปเรื่อยๆ เดินกลับมาข้างล่างจะเจอบันใดลงไปข้างล่างต่อได้ แต่จะเจอกำแพง ให้โจมตีใส่กำแพงก็จะมีทางเปิดให้ไปต่อไป โดยข้างในจะมี Silver Skeleton อยู่ด้วย ให้ระวังให้ดี เพราะทางที่เราอยู่จะแคบมาก เดินต่อไปเรื่อยๆ ที่จุด(13)จะเจอ Graverobber’s Blige ไขประตูช่วยเค้าออกมาด้วย Copper Key และเดินทางไปตามเส้นทางอีกทางก็จะโผล่ขึ้นมาบนพื้น
ซึ่งจะเห็นประตูหนึ่งปกคลุมไปด้วยหมอก ให้เดินเข้าประตูนั่นไป
NOTE: จะมีเส้นทางที่เดินทางได้เร็วกว่ามาก แต่จะมี Mini Boss ขวางเราอยู่ เจ้าบอสที่เราเจอตอนด่านฝึกหัด
วิธีจัดการง่ายๆเลย คือ ให้ซื้อดอกธนูไปเยอะๆ สัก 200 กำลังดี เดินทางไปที่กำแพงยังจุดที่เจ้า Silver Skeleton (ธนู) 2 ตัวอยู่ในตอนแรก จัดการยิงมันจากข้างบนนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถจัดการกับมันได้ โดยที่มันจะไม่ทำอะไรเราเลย แนะนำให้ใส่ Thief’s Ring ด้วยเพื่อความชัวร์ ซึ่งหากเราจัดการเจ้า Mini Boss ตัวนี้ได้ก็เป็นการเปิดเส้นทางโดยเราสามารถวิ่งตรงมาเรื่อยๆจากกำแพงไปยังประตูที่เร
าเจอตอนขึ้นมาบนอุโมงค์เหมือนกัน แต่เส้นทางนี้จะเร็วกว่ามาก และไม่ต้องเจอเจ้า Silver Skeleton ในทางแคบๆเลยด้วย
เมื่อมาถึงจุดที่เราผ่านหมอกมา ให้เราเดินขึ้นบันไดไปจะเจอ Silver Skeleton(ดาบ) และ Silver Skeleton(ธนู) อย่างละตัวจัดการมัน ระวัง Flying Manta ที่คอยบินโจมตีเราอยู่ด้วย หากเราเดินผ่านไปตามทาง ก็จะเจอ Dual Katana Skeleton ซึ่งเฝ้า Adjudicator’s Shield อยู่ หากเพื่อนๆอยากลองจัดการกับมัน วิธีง่ายๆคือ ใช้ Fire spray ยิงสักพัก พอมันเริ่มวิ่งไล่ให้เราวิ่งหนีจนมันเดินกลับไปที่เดิมก็ให้กลับไปทำอย่างนี้เรื่อยๆ สักพักก็จะสามารถฆ่ามันได้
แต่ถ้าเพื่อนๆยังไม่อยากยุ่งกับมันตอนนี้ ก็ให้เลือกไปอีกเส้นทางหนึ่ง โดยหลังจากขึ้นบันไดมาแล้วจัดการเจ้า Silver Skeleton 2 ตัวนั้นแล้วทางซ้ายมือจะเจอบันไดลิง ให้ปีนขึ้นไป เดินไปตามทางเรื่อยๆจะเจอแผ่นไม้พาดอยู่ให้เราโดดลงแผ่นไม้นั้นมา ก็จะมาอยู่ในเส้นทางที่ไม่ต้องผ่าน Silver Skeleton เดินไปตามทางเรื่อยๆ จะมีกับดัก ซึ่งยิงมาใส่เราข้างหลัง ให้เหยียบกับดักแล้วรีบหันหลังยกโล่ขึ้นป้องกัน จากนั้นเดินทางต่อไปอีกสักนิดก็จะเจอทางแคบๆไปตามหน้าผาโดยตรงนี้จะมี Golden Skeleton เฝ้าอยู่ ตามทาง ให้เราจัดการยิงมันด้วยธนูจากระยะไกลหรือใช้ Soul Arrow จัดการโดยHit & Run ไปเรื่อยๆ ก็จะจัดการมันได้ไม่ยาก สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับเราในตรงนี้คือ Flying Manta ที่จะคอยตอดเราให้เสียจังหวะ แนะนำให้จัดการมันก่อนที่จะจัดการ Golden Skeleton หลังจากผ่านหน้าผาแคบๆมากได้ ก็จะมีทางไปต่อตามซากปราสาท โดยจะมีกับดักวางอยู่ หลังจากเหยียบมันก็ให้ยกโล่กันทันที ตรงบริเวณนี้จะมี Flying Manta คอยตอดเราอยู่ด้วย ไม่จำเป็นต้องฆ่ามัน ให้เราอยู่ตรงประตูที่เราเหยียบกับดัก ก็จะไม่ถูกการโจมตีของมัน ข้างหน้าจะมีบันไดลงไปข้างล่าง อย่าเพิ่งรีบลงไปเพราะจะมี Dual Katana Skeleton เฝ้าอยู่ ให้ยิงมันด้วย ธนูจากบริเวณบนสุดของบันได แล้ววิ่งมาหลบใต้ประตูตรงจุดเหยียบกับดัก ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ อาจใช้เวลานานหน่อย แต่คุ้มค่ากว่าการตายแล้วต้องเดินทางมาใหม่ อย่าลืมใส่ Thief’s Ring ด้วยนะครับ ข้างหลังเจ้า Dual Katana Skeleton ตัวนี้ก็คือ Boss 4-1
การจัดการกับ Boss 4-1, Adjudicator หลังจากผ่านหมอกมาแล้ว ให้วิ่งลงไปให้ถึงตัวบอสที่ข้างล่างสุด ไม่แนะนำให้โจมตีระยะไกลจากข้างบน เพราะอาจถูกลิ้นของมันโจมตี ซึ่งถึงตายได้ การสู้กับบอสตัวนี้โดยใช้การต่อสู้ประชิดจะเป็นวิธีที่ง่ายกว่า โดยใช้ Crescent Falcion ฟันมันที่ท้อง ตรงที่มีดมันปักอยู่สังเกตดีๆจะมีเลือดท่วมๆบริเวณท้องตรงนั้น การหลบการโจมตีให้วิ่งไปทางขวาของเรา หรือตรงซ้ายมือของบอส เพราะบอสตัวนี้จะใช้มือขวาโจมตีเสมอ หลังจากฟันที่แผลมันไปสักพัก มันจะล้มลง ให้ล็อกเป้าที่หัวของมัน และฟันมันไปเรื่อยๆ พอมันลุกขึ้นมาก็ให้ทำแบบเดิม สักพักก็จะจัดการเจ้าบอสตัวนี้ได้
NOTE: หลังจากที่บอสตัวนี้ล้มครั้งแรก อาจมีบางครั้ง ซึ่งผมเจอบ่อย ก็คือ มันจะลุกขึ้นและตัวมันจะไปปิดทางทำให้เราวิ่งวนขวาไม่ได้ หากเพื่อนๆเจอกรณีนี้ ต้องอาศัยฝีมือนิดๆ โดยให้วิ่งไปทางซ้ายไปยังข้างหลังมันก่อนที่มันจะฟันดาบลงมา หลังจากหลบการโจมตีได้ก็ให้รีบวิ่งกลับมาฟันท้องมันต่อ
สำรวจแท่นวาปและเดินทางกลับ Nexus
จากแท่นวาป 4-2 เดินตรงไปเรื่อยๆ กระโดดแล้วหันหลังกลับเดินทางต่อไปยังอุโมงค์ จะเจอ Graverobber Blidge ยืนขายของอยู่ทางขวา เดินต่อไปสักพัก จะเจอประตู ซึ่งข้างล่างเราจะมี Reaper (ยมทูต) กับลูกน้องมันอยู่ ให้ยืนอยู่บนขอบๆเล็งธนูลงไป และจัดการเจ้า Reaper ซะ ลูกน้องของมันก็จะหายไปเอง
NOTE: เพื่อนๆสามารถ Farm Soul ได้ที่จุดนี้นะครับ โดยวิธีการฟาร์มนั้นคือ หลังจากที่ฆ่ามันเสร็จก็ให้วิ่งกลับไปโดดหน้าผาข้างหลังเรา แล้วเราจะไปเกิดตรงแท่นวาป 4-2 วิ่งลงมาใหม่ก็จะเจอ Soul ของเราในอุโมงค์ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
แต่หากเพื่อนๆต้องการเก็บ Item Splinter and Chunk of Darkmoonstone ซึ่ง Drop จาก Reaper ซึ่งใช้หลอมพวกอาวุธ Blessed ก็ให้โดดลงไปเก็บ โดยตรงแถวๆแท่นหินจะมีสวิทให้เหยียบ หลังจากเหยียบก็จะมีทางไปต่อข้างหลังเรา จัดการเก็บ Item แล้วกระโดดลงหน้าผาที่อยู่หลังประตูที่เปิดออก
ตรงใกล้ๆกับ Reaper จะมีดวงไฟหลายๆสีซึ่งนำทางเราไปหา Patches the Hyena ซึ่งมันจะกวนโอ๊ยเรา แต่ย้ำว่า อย่าฆ่ามัน เพราะเราจำเป็นต้องซื้อดอกธนูจากมัน ทำตามที่มันบอก และมันจะถีบเราลงไปข้างล่าง ซึ่งตรงนี้เราจะพบกับ Urbain ซึ่งก็ถูกเจ้า Patches ถีบตกลงมาเหมือนกัน คุยกับ Urbain จากนั้นจัดการเจ้า Black Phantom ที่เฝ้าทางออกอยู่ โดยยิงมันด้วยธนูจากระยะไกลก็จะจัดการมันได้ไม่ยาก ก้าวไปที่หินก็จะเปิดประตูให้เราขึ้นไปข้างบนได้ สังเกตว่าจะมีItem อยู่บนศพที่อยู่บนยอดหิน ตอนนี้เรายังเก็บมันไม่ได้ เพราะฉะนั้นยังไม่ต้องไปใส่ใจกับมัน เมื่อขึ้นมาถึง เจ้า Patches จะขอโทษเราและให้แหวน Ring of Gash Resistance กับเรา
NOTE: ในช่วงเหตุการณ์นี้ หากกลับไปที่ Nexus อาจจะไม่พบเจ้า Patches เนื่องจากมันมารอถีบเราอยู่ที่ด่าน 4-2 นี้เอง แต่หลังจากจบเหตุการณ์นี้ มันก็จะกลับไปขายของที่ใน Nexus เหมือนเดิม
เดินกลับ Nexus โดย Urbain จะอยู่หลังหินวาป World 1
คุยกับ Urbain และเรียน Miracle Rage of God โดยใช้ Dragon Demon’s Soul
ถึงตอนนี้ถ้าเพื่อนๆมีหิน Eye of Ephemeral Stones 5 ก้อน ให้ทำการชุบชีวิต และฆ่าตัวตายใน World 4
วิธีที่ง่ายที่สุดคือ โดดลงหน้าผาที่แท่นหินวาป 4-2 ถึงตอนนี้ World 4 ก็จะเป็น Pure Black โดยสมบูรณ์แล้ว หากเพื่อนๆ เข้าไปที่แท่นวาป 4-1 ก็จะเจอกับ Black Phantom Satsuki ซึ่งหลังจากเพื่อนๆ Farm Soul เพื่อ Up Lv ได้พอสมควรก็ถึงเวลาจัดการกับเจ้า Black Phantom Satsuki กันซะที
การฆ่า Black Phantom Satsuki and the Primeval Demon ใน Shrine of Stormsการฆ่าเจ้า Black Phantom Satsuki นั้นค่อนข้างอาศัยจังหวะอยู่พอสมควร จากประสบการณ์ที่ผมเล่นตายไปเป็น 10 สาเหตุง่ายๆคือ เวลาที่มันใกล้จะตาย มันจะวิ่งหนีไป Heal ตัวเอง โดยการ Heal ของมันจะทำให้พลังฟื้นเต็มหลอด T-T
นี่คืออาวุธที่ผมใช้ตอนจัดการกับ Black Phantom Satsuki
Left Hand: Purple Flame Shield <=> Adjudicator Shield
Right Hand: Winged Spear <=> Talisman of Beast
Ring: Clever Rat's Ring, Cling Ring.
การจัดการมันให้ใส่แหวน ใช้โล่ Adjudicator’s Shield ป้องกัน จนพลังเราลดเหลือ <30% จะมีสัญลักษณ์หนูขึ้นที่ใต้แถบเลือดของเรา ให้รีบเปลี่ยนมาใช้ Purple Flame Shield ซึ่งจะสามารถป้องกันการโจมตีของ Satsuki โดยที่เลือดของเราไม่ลด แต่หากมันโจมตีหนักใส่เรา จะสามารถทำให้ Guard เราแตกได้ เฉพาะฉะนั้นระวังให้ดี อาศัยจังหวะดีๆ วิ่งถอยออกมาร่าย Rage of God ใส่ ทำเช่นนี้ประมาณ 3 ครั้ง ( Faith ประมาณ 20 นิดๆ) โดยครั้งที่ 3 หลังจากที่มันโดนโจมตี ให้รีบเปลี่ยนไปใช้ Winged Spear วิ่งเข้าไปโจมตี เพราะมันจะหนีไป Heal ตัวเอง
หลังจากฆ่า Satsuki ได้อย่าเพิ่งกลับไป Nexus เพราะนั้นจะทำให้ World Tendency เราเปลี่ยน และจะทำให้เราไม่สามารถทำเหตุการณ์ Pure White ของ World นี้ได้ ให้เดินทางต่อไปจนถึงแท่นวาปที่ 4-2 จัดการเจ้า Reaper ตรงทางซ้ายมือของเรา จะมีบันไดลงไปข้างล่าง ตรงจุดพักของบันไดให้ฟันที่กำแพงจะมีทางลับไปต่อ ในกรณีที่สับสนให้จำว่า บันไดจะอยู่คนละฝั่งจะทางที่จะไปหา Patches ตอนแรก
หลังจากเจอทาง สุดทางจะมี Dual Katana Skeleton เฝ้าอยู่ให้ Hit & Run มันด้วย Fire Spray (ผมไม่แน่ใจว่ามีไอเท็มอะไรหรือเปล่าที่ Dual Katana Skeleton เฝ้าอยู่ ยังไงเพื่อนๆก็ลองสำรวจดูนะครับ พอดีจำไม่ได้ละ แหะๆ) เดินไปตามหน้าผาจะเจอ Crystal Gecko อยู่การฆ่ามันตรงนี้จะยากสักหน่อย แต่ลองพยายามดูนะครับ ถัดไปจาก Crystal Gecko สักนิดจะเจอเจ้า Primeval Demon อยู่ หากเพื่อนๆมี Large Sword of Searching ก็ให้ใส่มันเพื่อเพิ่มโอกาส Drop Colorless Demon’s Soul มีวิธีง่ายๆที่จะจัดการเจ้า Crystal Gecko นั้นก็คือตรงจุดที่เราฆ่าเจ้า Primeval Demon ให้ใส่แหวน Thief’s Ring แล้ว Load Game จากนั้นใช้ธนูยิงเจ้า Crystal Gecko นั้นซะ กลับสู่ Nexus โดยอาจใช้Miracle Evacuate เพื่อความรวดเร็ว ถึงตอนนี้ World Tendency ของ World4 จะเกือบเป็น Pure White แล้ว สิ่งที่ต้องทำก็คือการจัดการกับBoss 4-2 นั่นก็คือ Old Hero
การทำ Pure White World Tendency สำหรับ Shrine of Stormsโปรดแน่ใจว่าเพื่อนๆอยู่ในร่าง Soul หากเพื่อนๆยังอยู่ในร่าง Body ให้กระโดดฆ่าตัวตายใน Nexus ซะ
ในระหว่างการเดินทางไปยัง Boss จากแท่นหินวาป 4-2 จะเจอ Reaper ทั้งหมด 3 ตัว ซึ่งตัวแรกจัดการได้ง่ายๆ ก็คือเจ้าตัวที่เพื่อนๆใช้ Farm Soul กัน หลังจากจัดการเจ้าตัวแรกได้ให้เดินหันหลังกลับไปทางหน้าผาที่มีศพ Flying Manta เยอะๆ จะมีเส้นทางไปต่อตามหน้าผาไปสู่ ถ้ำซึ่งจะมี Reaper ตัวที่ 2 อยู่
การผ่านเจ้า Reaper ตัวที่ 2 นี้จะค่อนข้างลำบาก และผมไม่แนะนำให้ฆ่าเจ้า Reaper ตัวนี้ เพราะเพื่อนๆอาจถูกฆ่าตายได้ก่อน วิธีผ่านคือให้วิ่ง Sprint (Xค้างไว้) โดยเมื่อเข้าถ้ำจะเจอ Ghost ซึ่งเป็นลูกน้องของ Reaper ให้ฆ่าเท่าที่ขวางทางนะครับ คำว่าขว้างทางในที่นี้คือ ถ้าทางมันแคบแล้ววิ่งสวนกันไม่ได้ก็ให้ฆ่า แต่ถ้าทางมันกว้างพอจะวิ่งสวนมันไปได้ก็ไม่ต้องฆ่านะครับ เพราะถึงฆ่าไป Reaper มันก็จะเสกออกมาเรื่อยๆ วิ่งไปตามทาง ลงไปเรื่อยๆ จนถึงพื้นที่กว้างๆตรงจุด(15)ให้รีบวิ่งไปข้างหน้าจนสุดทางแล้วเลี้ยวขวา แล้ววิ่งไปตามทางเรื่อยๆ ก็จะออกจากถ้ำนี้มาได้(16)
หากเพื่อนๆต้องการฆ่าเจ้า Reaper ตำแหน่งของมันอยู่ตรงมุมอับ หลังจากเราลงบันไดมาแล้วจะอยู่ทางขวามือเรา แต่ผมไม่แนะนำให้ฆ่านะครับ เพราะมันไม่เกินประโยชน์อะไรจิงๆ รังแต่จะทำให้ตายแล้วต้องไปเริ่มใหม่เปล่าๆ ไม่ต้องไปสนใจสมบัติที่อยู่ตรงใกล้ๆทางออก มันคือ Crescent Moon Grasses ซึ่งหากเราไปเก็บจะมี Female Ghost คอยดักโจมตีเราอยู่
หลังจากออกจากถ้ำไปได้ก็จะมีถ้ำใหม่ซึ่งข้างในจะมี Ghost ดักเราอยู่จัดการมันซะ ตรงจุด(17)จะมี Reaper ตัวที่3 ซึ่งอยู่หลังมุมไป วิธีจัดการง่ายๆคือให้เราร่าย Rage of God ตรงบริเวณหัวมุมก็จะโดนมันด้วย หลังจากจัดการเจ้า Reaper ตัวที่3 เดินไปตามทางจะเจอถ้ำที่เต็มไปด้วยลูกไฟลอยอยู่ ซึ่งจะระเบิดเมื่อเราไปถูก หากไปถูกมันเข้าให้ใช้โล่Purple Flame Shield ป้องกัน แต่โปรดจำไว้ว่าจะไม่สามารถป้องกันได้หากลูกไฟมาระเบิดข้างหลังเรา ทางที่ดีที่สุดคือพยายามอย่าโดดลูกไฟเลยจะดีกว่า เพราะทีเดียวดับแน่นอน หลังจากผ่านถ้ำนี้ไปได้ก็จะเจอกับสถานที่ที่เราจะสู้กับ Boss 4-2, Old Hero กันสักที หากเพื่อนๆมาถึงตรงนี้โดยที่ World Tendency ยังเป็น Pure Black อยู่ จะมี Black Phantom Dual Katana Skeleton เฝ้าอยู่ด้วย ซึ่งเราสามารถFarm มันเพื่อเก็บ Pure Bladestone ใน New Game+ หลังจากที่เราได้ Soulsucker มาแล้ว
การจัดการกับ Boss 4-2, Old Hero บอสตัวนี้แข็งแกร่งมากแต่ข้อได้เปรียบของเราคือมันตาบอด(555) ถ้าเพื่อนๆใส่ Thief’s Ring และเดินไปเรื่อยๆ มันจะไม่รู้เลยว่าเพื่อนๆอยู่ตรงไหน ที่ผมบอกว่าเดินในที่นี้คือ ให้เพื่อนๆเลื่อน Analog ทางซ้ายเบาๆ ย้ำนะครับว่าให้ตัวละครเราเดินจิงๆ ไม่ใช่วิ่ง ไม่งั้นบอสจะรู้ตำแหน่งของเรา อย่าตกใจวิ่งนะครับให้เดิน แล้วมันจะโจมตีสุ่มไปเอง แนะนำให้เดินหลังเสาไปเรื่อยๆครับ มันจะช่วยกันการโจมของบอสได้ หากว่าเจอ Jackpot มันสุ่มโจมตีโดน แต่จากที่เล่นมาไม่เคยมีนะครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจ ให้ใจเย็นๆ ค่อยยิงมันด้วย Soul Arrow ไปเรื่อยๆ สักพักมันก็ตายครับ
หลังจากฆ่าบอสตัวนี้ได้ ให้สำรวจแท่นหิน 4-3 แล้วกลับไป Nexus ถึงตอนนี้ World 4 ก็จะเป็น Pure White แล้ว
กลับไปที่ 4-2 ตรงจุดที่เราเจอ Urbain ตอนแรก จำItem ที่อยู่บนศพที่เราหยิบไม่ได้ตอนแรกได้หรือเปล่า? มาถึงตอนนี้มันจะอยู่บนพื้นและเพื่อนๆสามารถเก็บมันได้ นั่นก็คือ Magic Sword “Makoto” ซึ่งคุณสมบัติคือใช้เมื่อสวมใส่จะทำให้เลือดเราลดลงเรื่อยๆ ซึ่งใช้ Combo กับ Clever Rat's Ring นั่นเอง
Storm Kingเข้าวาปไปยังแท่นหินที่ 4-3 เดินขึ้นไปเพื่อนๆก็จะเจอกับพื้นที่ของ Storm King ซึ่งเป็นบอสตัวสุดท้ายของ World 4
มี 2 วิธีที่จะจัดการกับมัน
วิธีที่1 (แนะนำ)
สวมแหวน Thief’s Ring แล้ววิ่งไปในบ้านจากทางด้านหลัง หากวิ่งไปที่ประตูจะไม่สามารถเข้าบ้านได้นะครับ หามุมบ้านที่ดีๆ จะสามารถป้องกันการโจมตีของ Flying Manta ได้ จัดการมันด้วย ธนู หรือเพื่อนๆจะสะดวกใช้เวทย์ก็แล้วแต่นะครับ เมื่อยิงมันตายไปสักจำนวนหนึ่ง Storm King ก็จะปรากฏตัว จัดการมันเหมือนจัดการเจ้าพวก Flying Manta แค่นี้แหละครับ ^^
ตรงกองหินจะมี Crystal Gecko อยู่2 ตัวจัดการมันซะ และเข้าไปเก็บดาบ StormRuler ซื่งเป็นอาวุธที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับ Flying Manta
วิธีที่2 (ไม่ค่อยแนะนำ)
สวมแหวน Thief’s Ring แล้ววิ่งไปที่กองหินเก็บดาบ Stormruler ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ Crystal Gecko หนีไป จากนั้นวิ่งไปที่บ้าน จัดการพวก Flying Manta ด้วย Stormrulerที่พิ่งเก็บมา หลังจากนั้น Storm King จะโผล่ออกมา จัดการมันด้วย ธนู แล้วพวก Flying Manta ที่เหลือจะตายไปเอง
สำรวจหินเพื่อเก็บ Storm Demon’s Soul แล้วกลับ Nexus
ถึงตอนนี้จะได้ Storm Demon’s Soul ซึ่งมีประโยชน์มากๆ โดยสามารถเอาไปสร้าง Morion Blade ซึ่งจะเพิ่ม Damage เมื่อ HP <30% โดยคุณสมบัติจะบวกเพิ่มกับ Clever Rat’s ring ซึ่งจำเป็นมากใน New Game+ หรือระดับที่สูงกว่า
หรือจะเอาไว้ใช้เรียน Miracle , Anti-Magic Field จาก Urbain ซึ่งในการเล่นครั้งแรก เราจำเป็นที่จะต้องเรียน Anti-Magic Field เพื่อที่จะผ่าน Tower of Latria
ถึงตอนนี้ แนะนำให้เรียน Anti-Magic ส่วน Morion Bland นั้นค่อยไปตีเอาตอน New Game+
การทำให้ Tower of Latria เป็น Pure Black World Tendencyการทำให้เป็น Pure Black นั้นเพื่อนๆคงคุ้นกันดีอยู่แล้ว โดยใช้ Stone of Ephemeral Eyes ทำการชุบชีวิตแล้วฆ่าตัวตายไปเรื่อยๆ จุดที่สามารถฆ่าตัวตายได้ง่ายๆคือแท่นหิน 3-2 โดยกระโดดลงจากบันได เมื่อคิดว่าเป็น Pure Black แล้ว ให้กลับ Nexus เพื่อ Update World Tendency ถึงตอนนี้เพื่อนๆจะต้องใช้ Anti-Magin Field ที่เพิ่งเรียนมาแล้ว เข้าวาปมาที่ 3-1 ใส่ Thielf’s Ring หากต้องการที่จะย่องเข้าไปหา Mind Flayer
สิ่งแรกที่เพื่อนๆจะต้องทำคือการหา Black Phantom Lord Rydell และจัดการเค้าซะ โดย Lord Rydell จะอยู่ที่ชั้น 2 ซึ่งจะอยู่นอกกรงขังแล้วในตอนนี้ การไปยังจุดที่เค้าอยู่นั่นง่ายๆ โดยเริ่มจากตรงแท่นหินวาป 3-1 เดินทางขึ้นบันไดไปชั้น 4 โดยก่อนที่จะต่อสู้กับ Mind Flayer ให้ทำการร่าย Anti-Magic Field
การตรวจสอบว่ามันอยู่ในสนามหรือไม่ ให้สังเกตที่ตัวมัน ว่ามีไฟฟ้าขึ้นเหมือนตัวเราหรือเปล่า โดยระยะเวลาของAnti-Magic Field นั้นนานพอสมควร ซึ่งหากเพื่อนๆไม่มี Miracle นี้ เราจะไม่สามารถฆ่ามันตายก่อนที่มันจะร่ายเวทย์ใส่เรา ซึ่งนั้นจะทำให้เราตายทันที
จากนั้นเดินออกไปยังฝั่งตะวันออก และลงบันไดไปชั้น 2.5 ข้ามฝั่งไปอีกฝั่งแล้วลงบันไดไปยังชั้น 2 เราจะเห็นเงาลางๆของ Blank Phantom Lord Rydell อยู่ไกลๆ ให้ใช้ดาบ Magic Sword “Makoto” Combo กับ Clever Rat’s Ring ยิงธนูจากระยะไกลแล้ววิ่งหนีกลับมาตรงบันได ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อHP ของ Rydell ลดต่ำกว่า 30% แหวน Dull Rat’s Ring จะเริ่มทำงาน ทำให้ Damage เรายิงแรงน้อยลง แต่ก็ให้ทำแบบเดิมไปเรื่อยๆก็จะจัดการได้ไม่ยาก
สิ่งที่ต้องทำต่อไปคือการจัดการกับเจ้า Primeval Demon ซึ่งอยู่ที่ 3-2 โดยให้เดินไปนะครับ อยากวาปกลับ Nexus เพราะจะทำให้ World Tendency เราเปลี่ยนไปแล้วเจ้า Primaval ก็จะหายไปด้วย
การหา Primeval Demon ใน 3-2จากแท่นวาปที่ 3-2 เส้นทางจะค่อนข้างเป็นเส้นตรง เมื่อมาถึงเตาหลอมให้ไปตามเส้นทางทางขวา จะมี Gargoyle อยู่ สังเกตที่ตา จะแยกออกว่าตัวไหนเป็นรูปปั้นตัวไหนเป็นตัวจิง โดยหากเป็นตาสีแดงก็คือตัวจิง
การจัดการมันค่อนข้างง่ายโดยสามารถฆ่ามันได้ด้วยอาวุธแทบทุกชนิด ที่แนะนำคือ Combo โล่กับหอก หรือ โล่ กับ Soul Arrow
จากนั้นเดินทางไปเรื่อยๆ แล้วจะเจอเส้นทางวนเป็นวงกลม ไปตามทางซ้าย สุดทางจะเจอเส้นเลือดขวางทางอยู่ ให้เดินทางไปทางซ้ายไปยังจุดที่ (13) ดูแผนที่ประกอบด้วยนะครับ ทางจะค่อนข้างวกวน ตามทางจะมี Gargoyle อยู่เรื่อยๆ จัดการมันไปนะครับ ไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับ Gargoyle
เดินต่อไปเรื่อยๆจะเจอหอคอยที่มีบันไดวนขึ้นไป เดินขึ้นไปเรื่อยๆ จะมี Gargoyle อยู่ตามทาง อย่ารีบร้อนเดินนะครับ เพราะสุดทางจะมีลิฟท์ขึ้นลงอยู่ตลอด หากวิ่งเร็วไป ลิฟท์ยังลงมาไม่ถึง เดี๋ยวตกลงไปตาย หลังจากขึ้นลิฟท์มาแล้วจะมี Gargoyle ซึ่งแนะนำให้ใช้ โล่กับหอกจัดการมัน เพราะการใช้หอกจะทำให้เราไม่ขยับตัว หากใช้อาวุธอื่นในพื้นที่แคบๆอาจตกลงไปได้
ขึ้นบันไดมาเรื่อยๆจนถึงข้างบนที่จุด (7)จะเจอนักบวช 4 คนกำลังทำพิธีอยู่ เมื่อฟันมันตายหมดทั้ง 4 ตัวจะทำให้โซ่เส้นใหญ่หล่นลงเส้นหนึ่ง จะมีเส้นทางซึ่งพาไปยังแสงไฟหลายๆสี อย่า!!! ขอย้ำนะครับว่าอย่า!!! กระโดดลงไป ยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะหากเพื่อนๆกระโดดลงไปจะเป็นการบังคับให้เราต้องปล่อย Yurt, the Silent Chief ซึ่งมันจะไปฆ่า NPC ใน Nexus ของเรา และตอนนี้แนะนำว่าเรายังไม่ควรสู้กับ Yurt ใน Pure Black และจำไว้ว่าตอนนี้เราเพียงแค่ต้องการหา Primeval Demon เท่านั้น
จากทางแยกสังเกตดีๆจะมีกรงที่เปิดอยู่ให้เดินเข้าไปแล้วเราจะลงมายังบึงน้ำ ถึงตรงจุดนี้ให้เดินหาเจ้า Primeval Demon ให้ทั่ว ซึ่งมันจะอยู่ในบึงแห่งนี้
NOTE: ข้อพึงระวัง ซึ่งผมโดนมากับตัว คือในบึงนี้จะมีศัตรูที่คล้ายๆ Primeval Demon ตัวใหญ่ๆ ยิงลำแสงใส่เรา อย่าเข้าใจผิดคิดว่ามันเป็น Primeval Demon นะครับ หาให้ทั่วให้แน่ใจนะครับ
โดยในบึงนี้จะมี Face Worm อยู่ด้วย แต่ก็ไม่ค่อยเป็นอันตรายสักเท่าไหร่ เพียงแค่ระวังตัวหน่อยก็ดี เพราะถ้าเราตายต้องกลับไปเริ่มเดินกันใหม่
หลังจากจัดการเจ้า Primeval Demon แล้วก็เดินทางกลับ Nexus โดยตอนนี้ World 3 จะเกือบเป็น Pure White แล้ว เหลือเพียงแค่จัดการบอสอีกตัวเดียวก็จะทำให้เป็น Pure White โดยสมบูรณ์
งานต่อไปคือการจัดการกับ Boss 3-2 โดยให้เดินทางไปยังบึงที่เราจัดการเจ้า Primeval Demon
ให้เดินไปตามแผ่นไม้เรื่อยๆ ก็จะไปเจอกับทางเข้าหอคอย ซึ่งระหว่างทางจะมี Face Worm อยู่ด้วย โดยทางเข้าจะอยู่ตรง (10) ดูแผนที่ประกอบ โดยเมื่อเข้ามาถึงหอคอยจะเจอกับ Black Phantom Mind Flayer ที่บริเวณจุด (11) จัดการร่าย Anti-Magic Field ก่อนที่จะจัดการกับมัน ซึ่งถึงจุดนี้ หากเพื่อนๆเลือกที่จะตีดาบ Marion Blade การต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นงานหินสุดๆ
หลังจากจัดการมันแล้วเดินทางต่อไปยังชั้นบนสุด จะเจอ Face Worm อยู่จำนวนหนึ่ง และจะมี Crystal Gecko ซึ่ง Drop แร่ทุกขนาดของ Moonlightstone รวมถึง Pure Moonlightstone เดินทางต่อไปจะเจอทางไปต่อทางขวา ซึ่งนำเราไปสู่หอคอยที่คล้ายๆกับ หอคอยที่เราจัดการพวก 4 นักบวชตอนแรก ซึ่งข้างบนจะเจอนักบวช 4 คนอีกชุด ระวังลิฟท์ก่อนเดินขึ้นไปบนสุดเหมือนเดิมนะครับ หลังจากจัดการเจ้า 4 นักบวชเสร็จแล้ว โซ่เส้นที่ 2 ก็จะหล่นลงมา ซึ่งจะทำให้หัวใจยักษ์ตกลงมา และมี Face Worm ออกมาด้วย ซึ่งถึงตอนนี้หากเพื่อนๆเดินไปยังพื้นที่ช่วงแรกๆก็จะเจอเจ้า Face Worm ด้วย
ที่ชั้นบนสุด จะมีทางให้กระโดดลงมาซึ่งจะมายังจุดที่ใกล้ๆกับแท่นวาป 3-2 เดินทางไปยังตึกกลมๆที่เรามาตอนแรกไปทางขวา จะมีเส้นทางลับอยู่หลังแจกัน ซึ่งจะมีบันไดพาเราไปสู่ห้องสมบัติ โดยจะมีสมบัติที่สำคัญชิ้นหนึ่งก็คือ Gold Mask ซึ่งสามารถแลกกลับ Crow ใน 4-1 เป็น Colorless Demon’s Soul ได้
การแลกนั่นง่ายๆ ให้ Drop ของลงตรงจุดที่ crow พูด หาก Drop ของถูกต้อง มันจะทำการแลกให้เอง โดยให้เรา Load Game ขึ้นมาใหม่ก็จะเจอของที่แลกเปลี่ยนอยู่บนพื้น
กลับมาที่หอคอยตอนแรกไปทางซ้ายเหมือนเดิม ยังจำเส้นทางที่มีเส้นเลือดขวางอยู่กันได้หรือเปล่า ถึงตอนนี้จะมีทางไปต่อได้แล้ว ไปตามทางเรื่อยๆ จะเจอ Black Phantom Mind Flayer รออยู่ จัดการร่าย Anti-Magic Field หลังจากจัดการได้ เดินไปอีกนิดก็จะเจอกับประตูพาไปสู่ Boss 3-2,Maneaters
การต่อสู้กับ Boss 3-2, Maneatersจะมี Maneater 2 ตัวในการต่อสู้ครั้งนี้ ซึ่งการสู้กับมันพร้อมกัน 2 ตัวนั้นหนักหนาเอาการอยู่
นี่คือวิธีจัดการกับมัน
เดินไปทางซ้ายของประตูให้ติดกับหมอกเลย แต่อย่าเพิ่งเดินเข้าหมอกนะครับ ให้เปลี่ยนมาใช้ธนู แล้วเข้าสู่โหมดเล็ง ซึ่งจะทำให้เราเห็นเจ้า Maneaer จัดการยิงมันไปเรื่อยๆ ตัวแรกเราก็จะจัดการมันได้ง่ายๆแล้วคับ จากนั้นเดินเข้าหมอกไปจัดการอีก 1 ตัว การจัดการมัน ให้สู้กับมันตรงบริเวณกลางฉาก ที่มีเตาไฟอยู่นะครับ ให้ใช้เตาป้องกันการโจมตีของมัน แล้วใช้ Soul Arrow หาจังหวะยิงไปเรื่อยๆ แป๊ปเดียวมันก็ตายแล้วครับ
จัดการเก็บ Demon’s Soul ของมันแล้วเดินทางกลับ Nexus
ถึงตอนนี้ Tower of Latria ก็จะเป็น Pure White ซะที
Tower of Latria, Pure White World Tendencyเดินทางไปยังพื้นที่ 3-2 ตรงจุดที่เราปล่อยโซ่อันแรก ขึ้นไปต่อตอนนี้จะมีทางไปต่อให้เราไปเก็บกุญแจเพื่อไขห้องขังในชั้น 2 ของพื้นที่ 3-1 เดินทางกลับไปยังพื้นที่ 3-1 จากนั้นไขห้องขังของ Lord Rydell ที่ชั้น 2 แล้วเค้าจะให้แหวน Dull Rat’s Ring ซึ่งเพิ่ม Defense เมื่อ HP <30% และก้อนหินที่ขวาทางเราตอนแรกก็หายไปแล้วเช่นกัน เดินทางไปที่ชั้น 1 ไปยังฝั่งตะวันออก อย่าลืมจัดการเจ้า Crystal Gecko ด้วยนะ จากนั้นขึ้นบันไดมายังชั้น 2 ฝั่งตะวันออก เปิดห้องขังด้วยกุญแจที่เพิ่งได้มา จะสังเกตว่าห้องขังที่นี้ยังคง Lock อยู่ ให้เดินไปเรื่อยๆ จะเจอกุญแจอยู่บนศพ ซึ่งจะสามารถไขห้องขังฝั่งนี้ได้ จัดการเก็บสมบัติ ที่เหลือก็ครบเหตุการณ์ White World ใน World 3
ต้นฉบับ ENG โดย Volumn(a.k.a. Cold_Drake) เวป
http://demonssouls.wikidot.comแปลไทย by Lengkochi
To be continued…