+วันแรก+
ครูบอกพ่อแม่ของฉันว่า ฉันเป็นเด็กสมองช้าที่สุดในชั้นอนุบาลของฉัน แต่วันนี้ . . ฉันสร้างดาวฤกษ์ดวงหนึ่งขึ้นมาครูประหลาดใจมากทีเดียว ครูพยายามซ่อนมันเสีย และบอกกับฉันว่าปฏิกิริยาฟีนิกซ์สุริยะก็ดูเป็นงานศิลป์ดีอยู่หรอก แต่ทว่ามีประโยชน์อะไร?
ฉันไม่สนใจหรอก ยังไงๆ ฉันก็คิดว่ามันสวยดี . .
+วันที่สอง+
วันนี้ ฉันลองสร้างดาวเคราะห์ขึ้นมาอีกหลายดวง ขนาดใหญ่ 4 ดวง , ขนาดกลาง 2 ดวง และก็ขนาดเล็กอีก 3 ดวง . .ครูหัวเราะ และบอกว่าฉันจะต้องไปสร้างดาวเคราะห์ขึ้นมาตั้งมากมายหลายดวงอย่างนั้นทำไม ในเมื่อยกเว้นเพียง 3 ดวงเท่านั้น ดาวเคราะห์ของฉันก็ล้วนแต่ร้อน หรือเย็นเกินไปสำหรับสิ่งมีชีวิต . .
และดาวเคราะห์ดวงใหญ่นั้นก็มีมวลมากเกินไป แถมบรรยากาศก็ยังเป็นพิษอีกด้วย ไม่มีประโยชน์อะไรเลย . .
ครูไม่เข้าใจหรอกว่าการสร้างอะไรขึ้นมา มิใช่จะต้องคำนึงถึงเฉพาะประโยชน์การใช้งานของมันเท่านั้น . .
สำหรับฉัน วงแหวนรอบดาวเคราะห์ดวงที่ 6 ช่างสวยงามสะกดตาเสียจริงๆ!!
+วันที่สาม+
วันนี้ฉันสร้างชีวิตขึ้นมา ฉันเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคนของฉันจึงยกย่องการสร้างเหนือสิ่งอื่นใด . .ฉันเคยได้ยินผู้ใหญ่นักคิดถกเถียงกันเรื่อง จุดมุ่งหมายแห่งสิ่งก่อกำเนิด เป้าหมายของการก่อเกิด . . แต่ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เท่านั้น . .
ก่อนถึงวันนี้ ความสุข และความสนุกก็เพียงพอสำหรับฉัน ขอให้ได้สนุกกับเด็กคนอื่นๆ
ได้ตะลุยท่องเที่ยวไปในอวกาศอันไร้ขอบเขต ได้ทำให้ดาวฤกษ์บางดวงที่มีเสถียรภาพไม่ดีนักระเบิดขึ้นเป็นโนวา . .
ได้หนีไปให้ไกลพ้นจากเงื้อมมือแห่งความโกรธของผู้ใหญ่ที่ถูกพวกเราแหย่ . .
และชีวิตของพวกเราคงจะเป็นเช่นนี้ตลอดชั่วนิรันดร์กาล . .
ทว่า . .
มาบัดนี้ฉันเริ่มรู้แล้วว่า ชีวิตต้องมีจุดมุ่งหมายและหน้าที่ . .
ครูของฉันพูดถูกแล้ว ในบรรดาดาวเคราะห์ทั้งหมดที่ฉันสร้างขึ้นมา มีเพียงดาวเคราะห์ขนาดกลาง 2 ดวง และดาวเคราะห์ขนาดเล็กดวงเดียวเท่านั้นที่จะมีชีวิตเกิดขึ้นได้ และจะต้องมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ด้วย . .
ฉันสร้างชีวิตให้เกิดมีขึ้นบนดาวเคราะห์ทั้ง 3 ดวง แต่ประสบความสำเร็จจริงๆเฉพาะกับดาวเคราะห์ดวงที่ 3 นับจากดวงอาทิตย์ . .
ฉันให้สิ่งมีชีวิตบนดาวเคราะห์ดวงนั้นมีเป้าหมายแห่งชีวิตเพียงแค่อย่างเดียว นั่นคือ ความอยู่รอด!!
+วันที่ 4+
ความสนใจของฉันทั้งหมดทุ่มเทให้กับดาวเคราะห์ดวงที่สาม น้ำในทะเลเต็มไปด้วยสรรพชีวิต . .วันนี้
ฉันมอบประสงค์แห่งชีวิตเป้าที่สองให้กับชีวิตบนดาวเคราะห์ นั่นคือ การเพิ่มจำนวน!!
ชีวิตในทะเลเพิ่มความสลับซับซ้อนขึ้นตลอดเวลา เหล่าผองเพื่อนเด็กๆ ของฉันเรียกฉันไปเล่นด้วยกัน แต่ฉันไม่ไป . .
เพราะสิ่งที่ฉันกำลังทำมันสนุกกว่ามาก!!
+วันที่ห้า+
วันนี้ฉันทำให้สัตว์บางตัวตกค้างอยู่บนพื้นแผ่นดินแห้งเป็นครั้งคราว และทำให้พวกมันมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าปรกติ ในที่สุดฉันก็ทำได้สำเร็จจนได้ สัตว์น้ำบางตัวบางชนิดสามารถปรับตัวมาเป็นสัตว์บกได้ . .ฉันคิดถูกแล้ว ทะเลมีขีดจำกัดอย่างสำคัญต่อการพัฒนาของสิ่งมีชีวิต!!
ความสำเร็จของการปรับตัวเกิดเป็นสัตว์บก ทำให้ฉันพอใจมาก . .
+วันที่หก+
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันทำมาก่อนวันนี้ไม่มีความสำคัญอย่างจริงจังเลย วันนี้ฉันสร้างความเฉลียวฉลาด หรือสติปัญญาขึ้นมา . .ฉันเพิ่มเป้าประสงค์ที่สามแห่งชีวิตขึ้นมาด้วย นั่นคือการเรียนรู้!!
จากสัตว์บกชนิดหนึ่งที่พัฒนามาไกลกว่าสัตว์บกชนิดอื่นๆ เกิดมีพัฒนาการที่กระโดดก้าวหน้าอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน กำเนิดเป็นสัตว์บกชั้นสูงชนิดใหม่ที่น่าทึ่ง
สัตว์ชั้นสูงรูปแบบใหม่นี้มีสองเท้า เดินตัวตรง และชอบสำรวจสภาพรอบตัวด้วยสายตาแสดงความอยากรู้อยากเห็น . .
สัตว์สองเท้าชนิดใหม่นี้มีมือที่อ่อนแอและสมองไม่มากนัก แต่กำลังพิชิตทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งแวดล้อมรอบตัว!!
สัตว์ชนิดใหม่นี้ยังได้เริ่มต้นครุ่นคิดเกี่ยวกับตัวฉันอีกด้วย
+วันที่เจ็ด+
วันนี้โรงเรียนหยุด!!หลัง จากที่ได้ง่วนอยู่กับการสร้างสิ่งใหม่ๆอยู่ระยะหนึ่ง ฉันก็ดีใจที่ได้เริ่มเล่นสนุกอีกครั้งหนึ่ง มันเหมือนกับการหลีกหนีออกมาจากสนามโน้มถ่วงแรงดึงดูดของดาวแคระขาวนั่นแห ล่ะ . .
ครูบอกกับพ่อแม่ของฉันอีกในวันนี้ ครูชมว่าฉันก้าวหน้าขึ้นมามากอย่างน่าสนใจภายในช่วงระยะไม่กี่วันมานี้ แต่สิ่งที่ฉันสร้างขึ้นมามันสับสนวุ่นวายอย่างที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น มันยังอันตรายอีกด้วย . .
ครูบอกว่ามันจะต้องถูกทำลายเสีย!!
คุณพ่อคุณแม่ของฉันไม่เห็นด้วย ท่านกล่าวว่าปฏิกิริยาฟีนิกซ์สุริยะในดวงอาทิตย์จะชี้แนะนำทางให้สิ่งมีชีวิตอันตรายบนดาวเคราะห์ดวงที่สามนั้น สามารถพัฒนาปฏิกิริยาเทอร์โมนิวเคลียร์ขึ้นมาได้เอง และจากเป้าประสงค์แห่งชีวิตที่มี ปัญหาต่างๆก็จะคลี่คลายไปได้เอง . .
ครูบอกว่า มันไม่ใช่ความรับผิดชอบของพ่อแม่ของฉัน และครูจะยอมเสี่ยงไม่ได้ . .
ฉันไม่ได้ยินหรอกว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะการโต้เถียงในที่สุด ฉันหลบเลี่ยงไปไกลจากพวกเขา พลางรู้สึกแปลกลึกๆอยู่ในใจ
จริงๆแล้วฉันก็ไม่แคร์เท่าไหร่นักหรอก และความจริงฉันเองก็ชักเบื่อเจ้าสิ่งประดิษฐ์เก่าๆนี่ขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน . .
ฉันจะสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่า . .
แต่มันเป็นสิ่งแรกที่ฉันสร้าง . . ฉันจึงอดคิดถึงมัน . . และอดรู้สึกผูกพันกับมันอย่างแปลกๆไม่ได้ . .
ถ้าใครเห็นดาวหางดวงใหญ่พุ่งตรงเข้าไปทางดวงอาทิตย์ ก็จงทราบด้วยว่ามันไม่ใช่ฉันหรอก!!!
+วันที่แปด+
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
+จากเรื่องสั้น Science Fiction เรื่อง KINDER GARTEN ของ JAMES E. GUNN ค่ะ