`

Jump to content









Photo

"Star Blood - สายเลือดแห่งดวงดาว" บทอวสาน



+ทริส+

Posted Image


+ในเกรตเตอร์ นิวยอร์ค ภายใต้แสงอาทิตย์อันอบอุ่นของฤดูร้อน เสียงดนตรีจากทางเดินดังขับกล่อมโสตประสาท คลื่นความร้อนจากแสงอาทิตย์ทำให้แถบรังสีตามพื้นข้างทางเดินพลิ้วไหว ราวกับม้วนตัวขึ้นสูง ทำให้ผู้คนบนทางเดินรู้สึกสบายใจขึ้น จิตใจผ่องใสขึ้น จากความกดดันของชีวิตในมหานครใหญ่ . . .

+ทริสอายุ 16 ปี และเคยเป็นนักบุญมาก่อน จิตใจของเธอกำลังถูกบีบคั้นอย่างหนัก เสียงดนตรีตามทางเดินไม่ได้ช่วยให้เธอสบายใจขึ้นเลย จริงๆแล้วสภาพจิตของเธอใกล้ถึงจุดแตกสลายเต็มทีแล้ว เมื่อนักบุญถูกขับออกจากความเป็นนักบุญ โอกาสเดียวที่มีให้เลือกคือ การกลับคืนสู่สภาพความเป็นนักบุญใหม่ แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ ทางออกเดียวที่เหลืออยู่ก็คือความตาย . . .

+ทริสเป็นคนสวย เป็นคนมีจิตวิญญาณแห่งความเป็นอิสระ ร่างกายของเธอสมบูรณ์พร้อมอย่างที่สุดสำหรับการเป็นนักบุญ ทริสบอกกับตัวเองว่าเธอจะต้องได้กลับไปสู่ความเป็นนักบุญอีกครั้ง

"ผู้อ่านจิตพร้อมจะพบกับคุณแล้ว"

+มีเสียงดังขึ้นจากผนัง "เชิญข้างในในห้องแรกทางซ้ายมือ" ทริสเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ผ่านผนังห้องเลื่อนไป แล้วก็เลี้ยวซ้าย

+ผู้อ่านจิต "สเติร์นนิ่ง" กำลังรอเธออยู่ ชายร่างสูงในชุดผ้าไหมยาว ยิ้มต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งสองสัมผัสมือกัน แล้วทริสก็นั่งลง

+"อืมม! อืมม!" สเติร์นนิ่งพึมพำเสียงดังในลำคออย่างเข้าใจ "ฉันรู้ว่าเธอมาที่นี่ทำไม! และฉันบอกเธอได้เลยว่าฉันเห็นใจ"

+"ขอบคุณค่ะ ท่านผู้อ่าน" ทริสกล่าวเบาๆ

"เธอเป็นนักบุญมานานแค่ไหน"

+ทริสหักนิ้วมือที่วางอยู่บนตักอย่างอึดอัด เธอไม่เคยถูกอ่านจิตมาก่อน และเธอรู้สึกกลัวมากทีเดียว "คุณ . . . พอจะปิดผนังห้องหน่อยได้ไหม?" ทริสเอ่ยถามเชิงร้องขอ

+"ได้สิ" สเติร์นนิ่งยิ้ม จากนั้นรังสีแสงบนผนังห้องที่ม้วนตัวอยู่ไปมาก็หายไป เหลือไว้แต่ผนังห้องสีดำสนิท "ฉันไม่จำเป็นต้องใช้มันกับเธอหรอก ฉันต้องการให้เธอปล่อยตัวตามสบายที่สุด . . เอาล่ะ เธอเป็นนักบุญมานานแค่ไหน?"

+ตาของทริสกระพริบ "เกือบ 1 ปีค่ะ พระเจ้าองค์หนึ่งทรงเลือกฉันในโอฮาม่า พระองค์เสด็จไปที่นั่น และฉันก็เสนอ..."

"เธอเสนอตัวของเธอเองเพื่อพระเจ้าตลอดไปใช่ไหม?"

"ถูกแล้วค่ะ และพระองค์ก็ทรงรับฉัน พระเจ้าองค์นั้น"

"ชื่อเดนโบ ใช่ไหม?"

+ทริสผงกหน้า และหน้าของเธอก็แดงขึ้นมา "พระองค์รับฉัน และมอบความเป็นนักบุญให้ฉัน"

+สเติร์นนิ่งผงกหน้า "มันเป็นเกียรติที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก เป็นการตัดสินใจที่ดี และเธอเองก็เหมาะสมทีเดียวล่ะ"

+ทริสกระพริบตาอีกครั้งหนึ่ง "เหมาะสมทีเดียวหรือคะ?"

+"ใช่ . . เธอสวย ขา . . สะโพก . . หน้าอก . . เธอเหมาะสมจริงๆที่จะเป็นนักบุญ" เขาถอนหายใจ "น่าเสียดายนะที่เธอถูกขับออกจากความเป็นนักบุญ แต่เรามาเริ่มกันเถอะ"

+สเติร์นนิ่งเดินอ้อมโต๊ะ มานั่งลงใกล้ๆกับทริสบนเก้าอี้ยาว ตาสีดำจับจ้องมองเธอ "เอนหลังลงแล้วนอนให้สบาย ฉันจะเริ่มอ่านเธอล่ะ หลับตาลงได้แล้ว"

+ทริสรู้สึกตัวสั่นขึ้นมา เธอทราบดีว่าจะไม่มีความเจ็บปวดหรอก จะมีก็แค่การเปลือยอย่างสิ้นเชิง . . การเปิดจิตใจส่วนลึกของเธอให้กับคนอื่น!!

+"เธอไม่ต้องห่วงเรื่องเปิดใจ ให้กับฉันหรอก" สเติร์นนิ่งกล่าว "มันเป็นเรื่องง่ายๆ ธรรมดาๆ สำหรับเรา . . สำหรับคนที่เกิดมาเพื่อเป็นผู้อ่านดังเช่นเรา ฉะนั้นเธอไม่ต้องกลัวอะไรหรอก"

+"ฉันรู้ค่ะ" ทริสกล่าว "แต่ . . . มันก็ไม่ง่ายนักสำหรับฉัน"

"ทำตัวทำใจให้สบาย . . . ก็แค่นั้นแหล่ะ"

+ทริสปฏิบัติตาม จิตใจของเธอเปิดออกสำหรับผู้อ่าน

+สเติร์นนิ่งขยับจิตของเขา ลงลึกไปถึงระดับใต้ผืนผิว แล้วพลางถอนหายใจ "อาาา . . ความเศร้า . . และความรู้สึกผิด" เขาเริ่มอ่านต่อ "เธอเป็นนักบุญที่มีความรู้สึกลุ่มลึก และพระเจ้าก็ทรงพอใจเธอมาก เธอเข้ากับนักบุญคนอื่นๆได้ดี . . เธอร่วมชีวิตกับนักบุญอื่นๆจนกระทั่ง . . ."

+สเติร์นนิ่งชะงักไปชั่วขณะ แล้วก็ขยับจิตของเขาให้ลึกลงไปอีก "จนกระทั่งเธอทำความผิดอย่างหนึ่ง ซึ่งทำให้เธอถูกถอดออกจากความเป็นนักบุญ"

+"ถูกแล้ว" ทริสพึมพำขณะหลับตา ขนตายาวของเธอขยับไปมา "ฉันผิดเอง . . ฉันไม่ควร-"

+"-อารมณ์ เสีย" สเติร์นนิ่งกล่าวต่อแทนความคิดของเธอ "เธอตำหนิพระเจ้า และอารมณ์เสียใส่พระองค์ พระองค์จึงลงโทษเธอ คำตำหนิของเธอมันโหดร้าย ถากถางและรุนแรงมาก"

"ตอนนั้นฉันกำลังโกรธ" ทริสกล่าว ". . . โกรธเดนโบ"

"เพราะว่าพระองค์หันไปสนใจ . . . ไปชอบ . . . นักบุญคนอื่นมากกว่าเธอใช่ไหม?"

"ใช่แล้ว"

"แต่เธอไม่มีสิทธิที่จะโกรธ . . พระเจ้าอาจจะรักใคร ชอบใครก็ได้ นั่นเป็นสิทธิของพระองค์ไม่ใช่หรือ?"

+"ฉันรู้ดี ฉันรู้" ทริสกล่าว "แต่ฉันคิดว่าเดนโบ . . ."

". . . จะเข้าใจความรู้สึกของเธอ ทว่าพระเจ้าไม่จำเป็นจะต้องสนใจความรู้สึกของนักบุญหรอก เธอไม่สามารถปฏิบัติตามกฎของสวรรค์ได้"

+"ฉันพยายามแล้ว" ทริสเริ่มต้นร้องไห้แม้ว่าตาจะปิดอยู่ น้ำตาใสๆเริ่มไหลลงมาอาบแก้ม . . .

+สเติร์นนิ่งเริ่มอ่านจิตของเธอต่อ ความรู้สึกของทริสไม่ได้ทำให้เขาสะดุ้งสะเทือน "เธอถูกขับออกจากความเป็นนักบุญ ก็เพราะด้วยความหัวแข็งของเธอเอง ความรู้สึกในส่วนลึกของเธอเอง เธอรู้สึก . . ." เขาขยับจิตให้ลงลึกเข้าไปอีก "เธอรู้สึกว่าตัวเธอเองก็ทัดเทียมกับเดนโบ ทัดเทียมกับพระเจ้า เธอปรารถนาสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าความเป็นนักบุญเสียอีก"

+"ถูกแล้ว" ทริสพึมพำเบาๆ

+"แล้วเธอต้องการอะไรจากฉัน" สเติร์นนิ่งถาม

+"คำตอบค่ะ . . . คำตอบที่ซ่อนอยู่ในสมองของฉัน ที่ไหนสักแห่งที่คุณสามารถอ่านเข้าไปลึกๆ ได้" เธอกล่าว

+พลันนั้น ผู้อ่านจิต "สเติร์นนิ่ง" ยืนขึ้น ตัดจิตของเขาออกจากจิตของทริส เลิกอ่าน . . . หันเดินกลับไปที่โต๊ะของเขาแล้วนั่งลงอย่างหนักใจ

+"ความปรารถนาของเธอมันรุนแรงเกินไป สูงเกินไป . . เห็นจะไม่มีทางกลับเสียแล้วสำหรับเธอ . . ความเป็นนักบุญไม่มีทางกลับมาเป็นของเธอได้อีกแล้ว"

+"ถ้าอย่างนั้น . . ฉันก็ขอตาย" ทริสลืมตาขึ้น แล้วกล่าวออกมาตรงๆ "คุณจะช่วยฉันได้ไหม?"

"ฉันไม่อยากทำเลย ฉันมักจะไม่ . . ."

"ได้โปรดเถอะ"

+สเติร์นนิ่งถอนหายใจยาว "ก็ได้"

"ขอบคุณค่ะ ท่านผู้อ่านจิต สเติร์นนิ่ง"

+และแล้วเขาก็ดับชีวิตของเธอ!!!


----------------------------------------------


+มอร์แกน+

Posted Image


+แสงเลเซอร์พุ่งสาดมายังล้อหน้าข้างซ้ายของรถยนต์ และมอร์แกนก็ควบคุมรถต่อไปไม่ได้แล้ว แสงเลเซอร์อีกลำหนึ่งพุ่งจับประตูรถยนต์ในขณะเดียวกับที่เขาพุ่งทะยานออกจาก ตัวรถ

+รถยนต์พลิกคว่ำลงจากไหล่ถนนสูงชัน ไฟลุกพรึ่บท่วมรถ ระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ควันไฟลุกโพลงหนาเป็นม่านกำบังให้มอร์แกนหลบลี้จากผู้ตามล่าเขาไปจามขอบถนน สูงชัน มือของเขากำปืนช็อตไฟฟ้าไว้แน่น อาวุธในมือของเขามีอานุภาพการทำลายเทียบกันไม่ได้เลยกับปืนเลเซอร์ นั่นก็เพราะอาวุธอื่นๆของเขาถูกทำลายไปหมดแล้วพร้อมกับรถยนต์คันนั้น

+ม่านควันมิเพียงจะเป็นประโยชน์ต่อมอร์แกนฝ่ายเดียว หากแต่เขาเองก็ไม่สามารถมองเห็นผู้ไล่ล่าได้เช่นกัน ไม่ทราบว่าฝ่ายนั้นมีกี่คน แต่บางทีเขาอาจจะหนีรอดไปจากผู้ตามล่าเขาได้ เพราะพวกนั้นอาจนึกว่าเขาตายไปกับแรงระเบิดของรถเรียบร้อยแล้ว

เขาคิดผิด

+ทันที ทันใดนั้น ไหล่ของเขาก็ถูกอัดเปรี้ยงด้วยฝ่ามือหรืออะไรสักอย่าง มอร์แกนล้มลงกับพื้น แต่ทว่ายังมีสติอยู่ เขากลิ้งตัวแล้วยกปืนไฟฟ้าในมือขึ้นยิงทันที ศัตรูคนหนึ่งผงะหงายไปข้างหลัง ส่งเสียงร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด มอร์แกนกวาดมือเล็งปืนไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว จ่อตรงหน้าของศัตรูอีกคนหนึ่ง แล้วลั่นไก . . .

+มอร์แกนใช้มือข้างหนึ่งบีบนวดไหล่ เพื่อให้เลือดไหลเวียนสะดวกอีกครั้งหนึ่ง แล้วยันร่างของเขาให้ลุกขึ้นจากเศษดินกรวด . . อากาศยามค่ำคืนกำลังหนาวเย็น ณ เบื้องหลังของเขา รถยนต์คันหนึ่งลุกโชนด้วยเปลวเพลิงลุกท่วมโพลง เขาเงี่ยหูตั้งใจฟังความเคลื่อนไหวรอบตัว พวกที่ตามไล่ล่าเขายังมีอยู่แถวๆนี้อีกไหม? พวกมันกำลังจะกระโจนเข้าใส่เขาใช่ไหม?

+ไม่มีเสียงอื่นใดอีก ไม่มีเลยสักนิด คงไม่มีพวกที่ตามล่าเขาอยู่แถวๆนี้อีกแล้ว เจ้าพวกนี้คงมากันแค่ 2 คนจริงๆ แล้วก็ตายไปเรียบร้อยแล้วทั้ง 2 คนเลยด้วย . .

+มอร์แกนหยิบอาวุธปืนเลเซอร์จากคนตายขึ้นมา ค้นตัวศพ พบว่าทั้งคู่นั้นยังมีอายุน้อยอยู่ อาจจะแค่ 15 หรือ 17 เท่านั้นเอง และบางที 2 คนนี้อาจจะเป็นพี่น้องกันด้วย แต่มอร์แกนก็ไม่แน่ใจ เพราะหน้าของคนอายุน้อยกว่าเกือบจะไม่เหลือให้เห็นมากนัก ปืนไฟฟ้าถ้าใช้ในระยะใกล้ อานุภาพของมันก็ร้ายแรงเอาการเลยทีเดียว . .

+มอร์แกนชาร์จปืนไฟฟ้าของเขา และตรวจสอบสภาพปืนเลเซอร์ทั้ง 2 กระบอก พบว่ายังใช้งานได้ดีอยู่ . .

+มันสายไปเสียแล้วที่จะหารถอีกคันหนึ่ง มอร์แกนตัดสินใจจะไปนอนค้างคืนใกล้ทะเลสาบ พอเช้าวันรุ่งขึ้นจึงจะเดินทางต่อ . .

+ทะเลสาบ เป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว ความเย็นชุ่มฉ่ำของน้ำจะทำให้เขาดีขึ้น ความเครียดสะสมในกล้ามเนื้อทุกส่วนจะได้คลายลง มอร์แกนเติบโตขึ้นมากับทะเลสาบแบบเดียวกันนี้ ว่ายน้ำและจับปลากับจิม เด็กเคอร์ จิมโบ้ เพื่อนเก่าผู้น่าสงสาร . .

+ตำรวจตามจิมโบ้ได้ทันในดีทรอยต์ และยิงเขาด้วยปืนเลเซอร์ในคลังสินค้าแห่งหนึ่ง จิมโบ้ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะต้องตาย . . "เราก็ต้องตายกันทั้งนั้นล่ะ" มอร์แกนคิด "ไม่เร็วก็ช้า"

+ทะเลสาบโลทาวาน่าอยู่ข้างหน้านี้เอง อยู่อีกด้านหนึ่งของป่าห่างไกลจากเขาไปอีกแค่ไม่ถึง 1 ไมล์ มอร์แกนเดินทะลุป่าไม้ดกหนาไป . .

+ที่ริมฝั่งทะเลสาบเต็มไปด้วยใบร่วงหล่นจากต้น เขาไถลตัวลงจากฝั่งทะเลสาบจนมาถึงขอบน้ำ ผิวทะเลสาบอาบแสงจันทร์วาววับเป็นประกายเหมือนเปลวไฟสีเงินอ่อน . . มอร์แกนใช้มือวักน้ำล้างหน้า ทำความสะอาดเนื้อตัว น้ำเย็นชื่นฉ่ำทำให้เขารู้สึกสดชื่นขึ้น . .

+มอร์แกนสูดลมหายใจเอา อากาศบริสุทธิ์ของเดือนกันยายนเข้าสู่ปอดอย่างแรง อากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นต้นเมเปิ้ลและต้นโอ๊ก . . เสียงนกกลางคืนตัวหนึ่งดังมาเหนือน้ำทะเลสาบดำมืด . .

+มอร์แกนหวังว่า เขาจะยังคงมีชีวิตอยู่นานพอที่ไปจะถึงแคนซัส ซิตี้ . . ไปทำงานที่เขาได้รับมอบหมายมา

+มอร์แกนเกือบ ตายมาแล้วหลายครั้งทั้งในรถยนต์ที่ระเบิด หรือในอิลลินอยส์ โอไฮโอ เพนน์ซิลวาเนีย หรือไม่กี่คืนก่อนในแคนซัส . . พวกนั้นไล่ตามเขากระชั้นเข้ามาทุกที . .

+มอร์แกนทำที่นอนคลุมด้วย ใบไม้ หักกิ่งไม้แห้งเล็กๆวางต่อกันเป็นวงกลมรอบตัว รัศมีห่างจากตัวเขาหลายฟุต ถ้ามีใครลอบเข้ามาใกล้ตัวเขา เจ้าบรรดากิ่งไม้แห้งพวกนี้ก็จะคอยเตือนให้เขารู้ตัว . .

+มอร์แกนเอนตัวลงนอน วางปืนเลเซอร์อยู่แนบชิดกับตัวเขา พรุ่งนี้เขาจะหารถอีกคันหนึ่ง แล้วไปให้ถึงแคนซัส ซิตี้ . . แม่สาวน้อยและเงินจะรอเขาอยู่ที่นั่น มอร์แกนยิ้มแล้วก็หลับตา

+ขณะที่มอร์แกนกำลังหลับสนิท เหล่าศัตรูของเขาก็แกะรอยตามมาถึงริมฝั่งน้ำอย่างเงียบเชียบ เป็นเงาดำในความมืดมิดที่เคลื่อนไหวอย่างมืออาชีพ . . พวกเขามองเห็นแนววงกลมกิ่งไม้รอบๆตัวของมอร์แกน พลันคุกเข่าลงค่อยๆ จับกิ่งไม้เปิดเป็นทางเดินเข้าถึงตัวมอร์แกนอย่างเงียบๆ พวกเขาตั้งใจจะใช้ดาบ จึงต้องพยายามเข้าให้ถึงตัวมอร์แกน . .

+มอร์แกนรู้สึกตัวในวินาทีสุดท้าย เขากลิ้งตัว คว้าปืนเลเซอร์ แต่สายเกินไป ศัตรูของเขาxxxกันเข้ามาถึงตัวเขาเรียบร้อยแล้ว พวกมันล้อมรอบรุมรวบตัวเขา พร้อมด้วยดาบเหล็กเงาวาววับในมือ . .

ควับ

+มอร์แกนต่อสู้ ดิ้นรนสุดแรง จนกระทั่งหลุดจากวงล้อม เท้าทั้ง 2 พาร่างของเขาซวนเซถอยหลังเข้าสู่ทะเลสาบ . . ปืนเลเซอร์หลุดจากมือ เลือดกลบปาก มือทั้ง 2 กุมหน้าท้อง ตาจับจ้องไปยังกลุ่มศัตรูเบื้องหน้า . .

วืดดดดดดดดดด

+และแล้ว ร่างของเขาก็หงายหลังตกลงไปในน้ำที่ดำมืดของทะเลสาบ เสียงน้ำกระเซ็นแตกซ่า แหวกเป็นคลื่นใหญ่วิ่งไล่เป็นวงกลมออกไป กลืนร่างที่ปราศจากชีวิตของมอร์แกน!!!


----------------------------------------------



Quote

-บทส่งท้าย-


ทุกแบบแผนเหมือนกันหมด ไม่มีหวังเลย . . .

อยากจะลองอะไรอีกไหม?

เพื่ออะไรล่ะ? ทุกครั้งที่เราเข้าร่วมกับพวกเขา เราก็ถูกกำจัดออกมา ดาวเคราะห์ดวงนี้ไม่ต้องการเรา เราจะต้องเดินทางออกไปจากระบบสุริยะของพวกเขา . . .

เจ้าของร่างที่เราอาศัยชั่วคราวนั้น จะคงอยู่ได้ต่อไปไหม ถ้าเราไม่ได้เข้าไปยุ่งด้วย?

มนุษย์ ทุกคนบนโลกนี้ต้องตายเมื่อถึงเวลา แต่เรากลับไปกระตุ้นให้ความตายของพวกเขาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และรุนแรง นั่นเป็นวิธีที่พวกเขากำจัดเรา กีดกันเรา เราต้องยอมรับแบบแผนของพวกเขา . . .

ฉันชอบเด็กสาวในนิวยอร์ค . . . ที่ชื่อทริส แล้วก็เด็กผู้ชายที่ชื่อเดวิด เราพอจะอยู่ในร่างของเธอและเขาได้
จักรวาลช่างกว้างใหญ่เหลือเกิน ต้องมีที่ไหนซักแห่งที่เราจะต้องได้พบกับดาวเคราะห์ที่อ่อนโยน และต้อนรับเรา!!!

เรากำลังจะออกจากวงโคจรรอบโลกแล้ว . . .

ดวงดาวกำลังรอเราอยู่ ดวงดาวจำนวนนับพันพันล้าน

โชคดี และ . . ลาก่อน!!!



-จากหนังสือรวมเรื่องสั้นชุด Star Blood ของ William F. Nolan ค่ะ-




May 2024

S M T W T F S
   1 2 34
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 

Search My Blog

0 user(s) viewing

0 members, 0 guests, 0 anonymous users