`

Jump to content









Photo

บันทึกการเดินทาง.....ปากพนัง - กระบี่ - สุราษ



.........22 กรกฏาคม 2553 ออกจากบ้าน เวลา 17.00น. นั่งรถเมล์ไปขึ้นรถไฟฟ้า อ่อนนุช นัดเพื่อนไว้ที่ สถาณนีวงเวียนใหญ่

ฝนตกหนักมา ถึงวงเวียนใหญ่ นั่งรอเพื่อนสักพัก ก็เตรียมหารถ แท็กซี่เพื่อจะไป สายใต้ แต่หาแท็กซี่ยากมาก เพราะฝนตกและรถติด

เดินไปเรื่อยๆ จนได้แท็กซี่ ถามว่าพี่ไป สายใต้ไหม คนขับใช้เวลาคิด ประมาณ 10วิ ก็ตอบตกลง

พอนั่งไป ไม่ถึง 1นาที คนขับบอก พี่ผมไปส่ไม่ได้แล้วละ รถติดขนาดนี้ ผมกับเพื่อนเลยจำเป็นต้องลง

แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ เพราะแถวนั้นไม่มีแท็กซี่สัก คัน ขณะนั้นเป็นเวลา 18.30น ก็ยังใจเย้นอยู่ เดินไปเรื่อยๆ เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ

จนเกือบมาถึง เดอะมอล์ท่าพระ ขะนั้นเวลา 1ทุ่มแล้ว รถทัวร์ออก เวลา 20.10น. ผมกับเพื่อนเริ่มใจไม่ดี ว่าจะไปทันไหม

พอดีมีแท็กซีขับมา 1คัน เลยโบก ยังไม่ทันจะบอกไปไหน พี่แกบอก ขึ้นมาก่อนๆ พี่ เดี๋ยวโดนตำรวจจับ

ขึ้นไปก็บอกจุดหมายปลายทาง ก็บ่นให้คนขับฟังเกี่ยวกับ แท็กซี่คันแรก แกก็บอกว่า โทรไปฟ้องเลย มันโดนแน่ๆๆ

เพราะเดี๋ยวนี้กฎหมายใหม่ออกมาแล้ว เข้มงวดกว่าเก่า ไม่เหมอนก่อนๆ ที่ไม่สนใจคนนั่งรถ แต่เดี๋ยวนี้ แรงมากไงก็โดนพักไม่ให้ขับ

ไปถึง สายใต้ เวลา 19.30น. นี่คือครั้งแรกที่ผมมาสายใต้ ผมบอกกับเพื่อนว่า นี่ไมมันไม่เหมือนขนส่งเลยวะ เหมือนห้างมากกว่า

จัดการหาข้าวกินรองท้องก่อน เดินเล่นสักพัก เห็นแต่ฝรั่งเยอะแยะ เพื่อนบอก คงไปฟลูมูนกัน

20.10น ขึ้นรถทัวร์ รถผมเป็น ป.2 ไม่มีห้องน้ำ นี่คือการเดินทางลงใต้ครั้งแรกของผมและเป้นการนั่งรถที่ ยาวนานที่สุดของผมด้วย

จากกรุงเทพ ถึงปากพนัง ใช้เวลา ประมาณ 13ชั่วโมงได้ เมื่อยตูดมากๆ จอดจุดพัก แค่ 2ที่ ตอน 5ทุ่มจอดกินข้าวที่ไหนลืมไปแล้ว

จุดที่ 2ตอน 7โมงที่ ขนส่งสุราษ

ปากพนัง

ลงจากรถ ที่หน้าประปา ปากพนัง เพราะเพื่อนทำงานที่นี่ และพักที่นี่

แล้วก็ออกไปหา ของกันและเที่ยว ที่ปากพนังกัน


Posted Image Posted Image Posted Image Posted Image Posted Image


กระบี่

เป้าหมายทีแรก ไม่ใช่กระบี่หรอกครับ เป้าหมายจริงๆคือ พังงา อยากไปถ่ายรูปบ้านเก่าๆแสงแดดยามเช้า ที่นั่น

แต่อยู่ดีๆเพื่อนผมที่ขับรถ บอกว่าแวะกระบี่ก่อนไหมไงก็ต้องผ่านกระบี่อยู่ดี เราเลยตกลงแวะที่นั่น นอนนั่นสักคืนกะว่า เที่ยงๆค่อยไปพังงา

พอถึงกระบี่เขาเรียกไรไม่รุ้ ที่เป้นท่าเทียบเรือ นะ จัดการกับปากท้องตัวเอง ให้อิ่มเสร็จก็หาโรงแรมนอนกัน กระบี่เป็นจังหวัดที่เงียบสงบดี

ผมชอบมาก ผู้คนไม่พลุกพล่าน ฟลังจากได้ ที่พักแล้ว แต่ผมกับเพื่อนอีกคนนึง เกิดเซี่ยนอยากเมา ขึ้นมา เพื่อนที่ขับรถขอตัวไม่ไปด้วย

นอนเฝ้าห้องไป แต่ก็ดีขืนไปกับผม เดี๋ยวเช้าจะขับรถไม่ไหว ผมกับเพื่อนก็จัดการเดิน หาร้าน กัน อยากได้ร้านสงบๆนั่งคุยสบายๆๆ

เดิน หาได้ 3-4ร้าน ก็เจอแต่กึ่งผับ เสียงดังไม่ไหว จนมาได้ ร้านนี้ Sweet n' Sour

ใครไปอย่าลืมแวะนะครับ ‎246 ถนน อุตรกิจ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่

ร้านเล็กตึกคูหาเดียว เบียร์ไม่แพง ครับ กินสบายๆ

Posted Image


หลังจากเมาที่ร้าน Sweet n' Sour ได้ที่แล้วเวลาก้ประมาณตี 2กว่าๆ ได้ กลับ ระหว่างกลับ ดันเปรี้ยวปากอีก เดินไปเจอ บาร์เบียร์ข้างทาง สั่ง

มากินอีกคนละขวดใหญ่ ระหว่างกินก็คุยกับเจ้าของร้านไป และ หนุ่มสาวข้างๆไป สนุกสนานเฮฮามากมาย

เจ้าของร้านก็ กรึ่มๆอยู่แล้ว เลยยิ่งคุยยิ่งมันเสียดายไม่ได้เอากล้องไปด้วย ไม่งั้นจะเห็นรูปฮาๆ แน่ๆ เมามายกันเต็มที่

กลับไปโรงแรม ไม่วาย อาการของขึ้นก็บังเกิด กระซิบ พนักงานที่นั่งตรง ร๊อบบี้ น้องๆมีไหม พี่ต้องการ

น้องมันก็ตอบกลับมา ว่า โหพี่ดึกขนาดนี้มันหายาก นะ 1500 อ่าว แสรดดดดดดดดดดด

ไหนบอกหายาก แล้วดันบอก ราคา 1500 เล่าแค่นี้พอละกัน :sorry:

แล้วก็ขึ้นไป นอน ใจตั้งโปรแกรมไว้ จะออกจาก โรงแรม สัก 7โมง เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆ แต่ดันตื่น 9โมงหน่อยๆ

ลุกลี้ลุกลน รีบอาบน้ำ แล้วเช็คเอ้าท์ ไปหาข้าวกินเตืมพลัง ที่แรก ที่ไปคือ วัดถ้ำเสือ

วัดถ้ำเสือ อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 9 กิโลเมตร จากตัวเมืองกระบี่ เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกตลาดเก่า ใช้เส้นทางถนนเพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4)

เส้นทางอำเภอเหนือคลอง เลี้ยวซ้ายที่สามแยกถ้ำเสือไปตามถนนราษฎรพัฒนา (ทางหลวงหมายเลข 4037) ไปประมาณ 2 กิโลเมตร

จะมีป้ายบอกทางอย่างชัดเจนครับ

อ่านลายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ http://www.lamaithai...8817460&Ntype=5


ใครไปกระบี่ขอแนะนำให้ไปครับ แล้ว ที่ขาดไม่ได้คือ ขึ้นไปชมความงาม บนเขาครับ ขึ้นบรรไดอีก 1327 ขั้น แต่ขอบอกเลยว่าคุ้มครับ

ขนาดผมเมาค้าง เดินแทบไม่ไหว ยัง อุส่าขึ้นไปเลย ขึ้นไปแล้ว คุ้มครับ ขอบอกเลย


Posted Image Posted Image

Posted Image Posted Image


ต่อจากวัดถ้ำเสือ แล้ว มุ่งหน้าต่อไป ที่ สระมรกต อ่านข้อมุลได้ที่นี่ http://www.annaontou.../green-lake.php

ไปแล้วทึ่งกับ ความสวยงาม บ่อน้ำเป้นสีเขียว เห้นแล้ว อยากกระโดดลงไปทันที แต่เพื่อนบอกไป ดู บ่อน้ำผุดก่อน เดินเข้าไปอีก

แต่ทางอุทยานจะทำสะพานไม้เดินให้เพราะถ้าเดินตามพื้นจะลื่นมาก ทีแรกผมก็ไม่เชื่อ ลองเดินดู เกือบลื่นกล้องเกือบพัง

การเดินางไปชมบ่อน้ำผุดนั้น ต้องผ่านชั้นตะกอ ที่ถมทับกันเป้นเวลานานๆ เป้นสีเหลือสวยมาก ครับ แล้วเดินเข้าไปในป่าชื้นอีก เดินทางไม่ลำบาก

เพลิดเพลินดีด้วยครับ แต่เสียดาย ตรงบ่อน้ำผุดเขาไม่ให้ลงไปเล่นแล้ว และ ยังกั้น ทางไว้อีก ทำให้มุมในการถ่ายรูปไม่ดีนัก แต่ถึงไงก็สวยงามมากครับ

ขนาดผมไปเนี่ยฝนจะตก แต่ก็ไม่ทำให้ ทัศณียภาพ หมดความงดงามไปเลย

หลังจากเยี่ยมชมบ่อน้ำผุดแล้ว พวกผม ก็รีบ แจ้นเดินกลับมาที่ สระมรกต อยากจะกระโดด น้ำใจจะขาด แล้ว


Posted Image Posted Image

Posted Image Posted Image


เป้าหมายต่อไป คือ น้ำตกร้อน ทางเดินเข้า ไม่ลำบากอะไรเลย ครับ แถมไม่ไกลด้วย ที่นี่ ผมแชะรูปไป ไม่ถึง 10 ภาพ แล้วจัดการตัวเองลงไปแช่เลย

สุดยอดมาก น้ำไม่ร้อนมาก ยิ่งนั่ง ตรงใต้น้ำตก ตกลงมาที่หัวไหล่หลัง เหมือนมีคนมานวดร้อนเลย ครับ เพลิดเพลินกับที่นี่มากมายเลยครับ


Posted Image Posted Image


แช่น้ำกันเป้นชั่วโมง เลยลืมเวลา ที่ต้องจัดสรร ไปพังงาต่อ รู้ตัวอีก ที ก็ 5โมงกว่าๆแล้ว

ทีแรก ว่าจะไป พังงาต่อ แต่ดูแล้ว ระยะในการเดินทางใช้เลาเยอะพอสมควร เลยคิดจะกลับไปพักที่เก่าอีกสักคืน แต่คิดไปคิดมา ให้เพื่อนกัดฟันขับรถเข้า สุราษ

ต่อเลยดีกว่า เพราะตอนเช้าต้องไป เขื่อรัชชปะภา หรือ เขาสก ต่อ ไปถึง สุราษ ก็ 3ทุ่มกว่าๆ หาโรงแรมยากมาก เพราะคืนนั้น มีงาน

เพื่อนที่ขับรถเลยโทรไปหาเพื่อนให้ช่วยหา เลยได้ โรงแรม ตาปลี ซึ่งอยุ่ติดกับแม่น้ำ ตาปลี มาพัก

เช้าวันรุ่งขึ้น พวกผม ออกเดินทาง ตั้งแต่ 7โมง แวะกินติ่มซำในเมือ ซึ่งถูกมาก เข่งละ 10บาท เล่นเอาผมกับเพื่อนที่มาด้วยกัน งงเลย

การเดินทางไปเขื่อน ไม่ไกลเท่าไหร่ จากตัวเมืองสุราษ 2ข้างทาง อากาศสดชื่นมากๆๆ แต่เสียดายฝนตกลงมา

แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร ประมาณ 10โมงเรือ ที่จองไว้ก็มารับ ไปที่แพภูตะวัน เหมาค่าเรือ 1800 บาท นั่งได้ 10คน

ถ้าเกินคิดเพิ่ม หัวละ 300 เราสามารถให้เขาพาไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ ส่วนแพนั้น ค่าที่พัก+อาหาร3มื้อ คนละ 600 บาท

แต่ผมได้ราคานี้เพราะเพื่อนติดต่อให้ แต่ ราคาจริงๆ ไม่แพงไปกว่าที่ผมได้เท่าไหร่

แต่ขอบอกว่าคุ้มครับ ยิ่งเรื่องของกิน กินได้เต้มที่ ไม่อั้น เรือแคนนู และเรือถีบ เล่นฟรี บ้านพักหลังเล็กๆ นอนได้ 4คน

พักสบายๆๆ พักอยุ่ที่นี่ 1คืน 2วัน วันแรกที่มาถึง ก็จัดการ กินข้าวเสร็จ ก็โดดลงน้ำเลย น้ำใสมากๆ เย็นสบาย

บรรยากาศดีด้วย ถึงจะครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่ก็ไม่ได้บดบังความงามเขาเขาที่ล้อมรอบ เลย

เช้าวันรุ่งขึ้น ก็จัดการเก้บข้าวของ แล้ว นั่งเรือ ออกเที่ยว 2 ที่ ไปชม กุ้ยหลินเมืองไทย กับ ถ้ำประกาลัง

ประทับใจ ถ้ำประกาลัง มากๆๆ การเดินทางไปถ้ำประการัง นั่งเรือ ไปถึงเขาอีกลูก แล้วเดินขามเขาไปอีก ประมาณ 1โล

ช่วงที่เดินข้ามเขาเนี่ย พวกผม 3คนฮามาก เพราะ ช่วงแรกๆ เดินสบาย แต่พอใกล้ๆถึง นี่สิ ลื่นกันมาก สนุกสนานดี เดินไปลื่นไป ฮาไป

สมบุกสมบันมากๆๆ เมือ่ลงจากเขาแล้ว นั่งแพเล็กต่อไป นิดเดียว ทิวทัศสวยมากครับ สวยจริงๆๆ

พอเข้าไปในถ้ำ มืดมาก ต้องใช้ไฟนีออนส่อง แต่ขอบอกเลย ความงามของ หินย้อย สยมากๆๆ

หลังจากเที่ยวชม เสร็จ ออกมา ก็เจอ ชุดอื่นๆที่มาเที่ยว ก็แซวเขาว่า ข้างหน้านี่ดูดีเนอะ ขอดูข้างหลังหน่อยสิ

เล่นเอาฮากันทั้งนั้น เพราะแต่ละคน ที่เดินมา เลอะทั้งนั้น โดยเฉพาะส่วนก้น เดินไม่ดี ได้ลื่นก้นจำเบ้าเป็นแถวๆ

มาถึงท่าเทียบเรือเตรียมกลับ รุ่งเช้า ต้องไป ทำบุญถวายเทียนพรรษา


Posted Image Posted Image

Posted Image Posted Image

Posted Image Posted Image


เช้าวันต่อมา ออกเดินทางไปวัดตั้งแต่ 8โมง ทำบุญ ไป 3วัด รู้สึกอิ่มเอมใจจริงๆ แล้วบ่าย 3ต้องไปรับตั๋ว ที่ ขนส่ง ได้ตั๋ว ตอน 20.10

เดินทางถึง กรุงเทพ 6โมงเช้ากว่าๆ กลับมาบ้าน อาการโรคจิตเริ่ม แทนที่จะนอน กลับมา นั่ง โพรเซสรุปแล้วเอามาโพสท์ กว่าจะได้นอน บ่ายกว่า

Posted Image Posted Image

Posted Image Posted Image

Posted Image Posted Image

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกัน นี่คือครั้งแรก ที่เขียนบรรยายอะไรยาวๆ ขนาดนี้ หวังว่าคงอ่านกันรุ้เรื่องนะ ^_^

แวะชมภาพเต็มๆได้กระทุ้นี้


http://www.dvdgameon...howtopic=229956

.....Indyhell




สุดยอดทริป จริงๆ
  • Report
ตกลง 1500 เนี่ยกี่คน สามคนเลยป่าว แล้วทิปไปเท่าไหร่ อิอิ :o_shame:
  • Report
ตะลอนทัวร์จริงๆ เลยท่าน แต่มาช่วงนี้ก็วัดดวงกับอากาศแบบเต็มๆ เพราะครึ้มตลอดต่างกับช่วงเดือน มีนา - มิถุนาฯ ช่วงนั้นฟ้าโปร่งตลอด (แถมร้อนโคตรๆ) ถ่ายรูปนี่ได้ฟ้าใสๆ ตลอดชัวร์

ผมเองก็ยังไม่เคยไปถ้ำปะการังเลย (บ้านอยู่ห่างแค่ 30 กิโลเห็นจะได้) ไว้ช่วงแล้งๆ จะหาโอกาสไปเดินสักทีเหมือนกันครับ
  • Report
โคตรสนุกเลยลุดดี
อยากไปมั่งเเบบน้
มันส์
  • Report
+ตูนชอบอ่านบันทึกการเดินทางแบบนี้มากเลยค่ะ

+อ่านแล้วรู้สึกเหมือนนั่งท้ายกระบะตามไปด้วยนะคะ

(อ้าว ไปรถทัวร์กันเร๊อะ)

+สุขใจแท้เราชาวโฟโต้นะคะน้า :hi:
  • Report
พี่เอ เห็นสภาพพี่ขึ้นบันไดแล้ว สงสารแทน แต่อ่านแล้วทำให้อยากไปเที่ยวบ้างจังเลย
  • Report
จริงๆๆ นะ

สภาพไม่ได้เป้นอย่างรูปหรอก แค่นั่งพักเฉยๆ

แต่ โพสท์ท่า เอามัน
  • Report
สุดยอด trip สุดยอดการบรรยาย และ สุดยอดภาพถ่ายด้วย :o_sorry:
  • Report