0
พอเจอตัวจริงของทั้งคู่ก็ถูกใจทั้งคู่เลย แต่เจ้า X นี่ค่าตัวปาไปเกือบสองแสนเลยบ้ายบาย มาสอยน้อง Z ซะเลยครับเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง แล้วก็จัดมาให้เข้ากับ PS3 สุดเลิฟ ให้มันแสดงความสามาถเต็มที่ได้ซะที
ลองมาดูรีวิวกันดูนะครับว่าลองใช้แล้วเป็นยังไง โดยเฉพาะ Motion Flow 200Hz ที่ผมว่าหลายๆคนคงสงสัยว่ามันดี หรือไม่ดียังไงกันน้อ
(ออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ได้เป็น Fan club หรือจะมาเชียร์ SONY แต่อย่างใด ผมบรรยายในสิ่งที่ผมสัมผัสได้ครับ แถมผมว่าสินค้าของ Sony ก็ไม่ได้ work ไปซะทุกชิ้นนะ อิอิ)
เอาหละเริ่มกันเลยครับ
Spec คร่าวๆ
Full HD LCD 2 ล้านพิกเซล (1920 x 1080)
BRAVIA Engine 2 เน้นสีสันและความคมชัด
Contrast 80000:1 (ดำเข้มกันไปเลย)
Intelligent Picture / MPEG Noise Reduction ระบบลดสัญญาณรบกวนของรายการทีวี (ส่วนตัวของผมคือไม่ work อาจเพราะ Source TV ของผมไม่ชัดอยู่แล้วด้วย)
แผงหน้าจอ 10-bit Panel เพื่อการไล่เฉดสีที่สมจริง
Live Colour Creation สร้างสีสันสดใสเป็นธรรมชาติ
WCG-CCFL Gen2 ให้สีสันเข้มข้น
PhotoTV HD ปรับภาพให้เหมาะกับการชมภาพนิ่ง
ระบบเสียง S-Force กำลังขับเสียง 9W x 2, Simulated Stereo
HDMI x 3 (เอามาทำไมเยอะแยะนี่ จะให้เสียบอะไรนักหนา)
และสุดท้ายเจ้าจุดขาย Motion Flow 200Hz
(รีวิวนี้ผมใช้ PS3 + HDMI เป็น Source เล่น Media ต่างๆนะครับ)
Material & Design
ผมยกนิ้วให้เลยครับว่าวัสดุดีเยี่ยมทั้งชิ้นงานตัว frame วัสดุดีมาก ดีกว่าตัว V และ W
Port ต่างๆ มีเหลือเฟือ และจัดอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมดีครับ
การออกแบบเรียบหรูทำให้ LCD ตัวนี้มีคุณค่าและใช้เป็น TV และ ของแต่งบ้านคู่บ้านได้อีกนานโขเลยครับ
ที่ชอบมากคือ SONY Luminate Logo ที่สามารถค่อยๆเรืองแสงตอนเปิดและปิด และ Panel เรือง แสงแบบระบบ Touch นี่ทำให้เครื่องดูไฮโซมากมายครับ แม้ว่าผมคงไม่ค่อยได้ไปแตะเพราะกลัวมันเลอะ 55+
รีโมตนี่หรูเท่มากๆครับ ตอนนี้ห่อพลาสติกซะอย่างดีเลยผม - -
ข้อเสียคือ ฐานตั้งสีดำ Metalic เงาที่เป็นรอยง่ายมากๆเลยครับ คงต้องดูแลกันดีๆไม่งั้นเป็นรอยขนแมวกันได้ง่ายๆ
อีกอย่างที่เพิ่งสังเกตหลังของมาส่งที่บ้านแล้วก็คือความหนาของ น้อง Z 46 นี่หนากว่า V series 42 ที่ผมเคยใช้พอสมควรเลยครับ
Picture Quality
เรื่องสีสัน และ ความคมชัดของภาพ จะไม่ขอบรรยายมากนะครับ เพราะยอดเยี่ยมจริงๆ จัดว่าสัสันจัด และ สมจริงมากเลย เมื่อเทียบกับ LG และ SONY V Series ที่เคยใช้ก็แตกต่างกันแบบเห็นได้ชัดเลยครับ ตอนผมไปยืนเทียบกับหลายแบรนด์ผมให้ SONY กับ SAMSUNG อยู่ในระดับแรกๆครับ แต่ผมว่า SONY เวลาจ้องนานแล้วไม่ปวดตา (อันนี้แล้วแต่คนชอบนะ 55+)
BLU RAY, Hi Def (AVCHD), Game Trailer 720p/1080p
ภาพที่ออกมาอยู่ในระดับชัด และ คมมาก สีสันประทับจัย ผมนั่งดู Tinker Bell, Kung Fu Panda กับ แฟนนี่นั่งอ้าปากค้างว่าทามไมมันชัดขนาดนี้เห็นขนตัวละครชัดเจนจริงๆสมเป็น Full HD แถมตอนลอง Step Up 2 (BD) นี่ผมรู้สึกเหมือนว่าไปยืนคุยกับตัวละครจริงๆเลย ไม่ได้เว่อนะรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ ถามแฟนเค้าก็บอกรู้สึกเหมือนกับผมแสดงว่าไม่ได้บ้าคนเดียว 55+
DVD/ TV
ไม่ชัดอยู่ดี แต่ไม่เป็นไรเพราะ Full HD LCD ไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว (ว่าแต่ว่า HDTV บ้านเราเมื่อไหร่จะได้ดูกันหละนี่)
ภาพนิ่ง
ภาพละเอียดและแสดงสัสันได้เหมือนต้นฉบับดีครับ
Motion Flow wwwwww (200Hz)
MF เป็น feature ที่สามารถเปิด ปิด และ ปรับระดับได้นะครับ มีตั้งแต่ High (200Hz) Standard (150Hz) Low (100Hz) Off (50Hz)
ใช้ MF ดูหนังเป็นยังไง?
เมื่อเปิด Motion Flow ทดลองดูหนังก็จะพบว่าองค์ภาพโดยรวมจะคล้ายๆเดิม แต่ภาพจะดูนิ่งกว่าเดิมนิดหน่อย จะเห็นชัดเมื่อถึงตอนมีการแพนฉากไปซ้าย ขวา หรือ ขึนลง ภาพจะดูต่อเนื่องมากกว่าเดิมครับ แต่อย่างเพิ่งดีใจไปครับว่ามันจะดีไปซะหมด ข้อเสียที่มากับ feature นี้ก็คือการที่ MF มันสร้างเฟรมภาพเสมือนขึ้นมาแทรกเฟรมภาพเดิมในบางจุด ที่จะเห็นหนักๆและบ่อยๆคือตรงตัวละครในหนัง และ เกมครับ เช่น เวลาดู 007 วิ่งเร็ว หรือ จะกระโดด จะกลิ้งจะเต้น ทำอะไรก็แล้วที่ขยับไวๆ ภาพจะแสดงผลออกมาเป็นแบบเงาเบลอๆ ทำให้พี่บอนด์เราเหมือนพวกนินจายังไงยังงั้น ซึ่งผมว่าเป็นข้อด้อยของ MF เลยหละที่ทำให้หนังมันดูไม่ค่อย original แต่ในขณะเดียวกันกันนะครับลองไปดูหนังพวกแนวอนิเมชั่นกลับโอเคภาพพอรับได้ครับ อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะครับ แต่ยังไงก็แล้วแต่ผมว่าจะเปิด หรือ ปิด feature นี้ภาพที่จอตัวนี้แสดงออกมาได้มันก็งดงามมากมายอยู่แล้วครับ
ใช้ MF เล่นเกม PS3 เป็นยังไง?
ลองทดสอบด้วยเกมหลายๆแนวเท่าที่มีแถวๆนี้ก่อนนะครับ อิอิ
Naruto PS3 720p/ Valkyria Chronicle 720p
เริ่มด้วยเกมนี้เพราะเพิ่งไปสอยมาล่าสุด ผลที่ได้คือฉากเดินในเมือง (Third person view) ที่ต้องมีการหมุนมุมกล้องอยู่ตลอดดูนิ่มนวลขึ้นมากๆ และ มึนหัวน้อยลงเยอะเลยครับ ตัวนารุโตะตอนเดิและ ฉากต่อสู้ มีเงาหลอนเล็กน้อยจาก MF แต่เนื่องจากมันเป็น Anime ผมจึงรู้สึกเฉย ๆ กับมัน และ บางทีรู้สึกสวยขึ้นด้วย สรุปคือเกมแนว Anime นี่ work ขึ้นมาก
รูปนี้จะเห็นเงาและ frame แปลกๆที่ MF สร้างขึ้นที่ตัวละครGT5:Prologe PS3 1080p / Midnight Club PS3 1080p / Motor Storm Pacific Rift PS3 1080p
ไม่รู้จะบรรยายยังไงมันสุดยอดเหลือเกิน จะไปเหมือนดูถ่ายทอดสดรถแข่งยังไงยังงั้นเลย ภาพตอนแข่ง และ Replay ดูนิ่งและเนียนขึ้น เงาหลอนไม่ค่อยมีแฮะ คงเป็นเพราะตัวรถไม่มีการเคลื่นไหวแบบรวดเร็วนัก และส่วนมากเราจะเห็นแต่ท้ายรถอยู่แต่ตรงกลางจอ อิอิ สรุปเกมแนว Racing work ขึ้นมาก
FIFA 2009 PS3 1080p/ Top Spin PS3 1080p
เงาหลอนมาเกาะตามตัวนักกีฬาทั้งสองประเภทเป็นบ่อยครั้งมากสำหรับเกมแนวนี้ ส่วนการเคลื่อนที่ของลูกบอลผมไม่เห็นความแตกต่างแฮะขนาดนั่งตั้งใจจ้องแล้วนะ ส่วนตัวผมว่าเกมแนวนี้ปิด MF ไปซะเลยดีกว่า
Metal Gear 4 PS3 1080p
ภาพ gameplay ดูชัดและคมขึ้นอย่างมาก การหมุนเปลี่ยนมุมมองของฉากดูเนียนขึ้น แต่ไม่เท่ากับ Naruto แต่ Cutscreen นี่เงาหลอนมาพอควรเลยครับ
เอารูปฉากแบ่งครึ่งมาให้ดูครับฉากนี้ น้อง Ryden ปล้ำกะ พี่ Vamp 55+ gameplay ผสมกับ Cutscreen พอดี
Mirror Edge PS3 720p
เผอิญผมไม่ชอบเกมแนว FPS แต่พอมี Demo เกมนี้ติดเครื่องอยู่เลยลองดู ผลคือการหมุนไปหมุนมาของกล้องไม่ค่อยแตกต่างจากปิด MF และยังมึนส์เหมือนเดิมสำหรับผม หรือว่าผมไม่ถนัดเกมแนวนี้ก็ไม่รู้นะครับ เอาไว้ใครถนัดเกมแนวนี้แล้วได้มีโอกาสใช้ MF มาลอง review เสริมดูนะครับ
สรุปคือผมว่า Motion Flow มีทั้งข้อดีและเสียที่เหมาะ ไม่เหมาะกับ media แต่ละประเภทและแนว
ประโยชน์ที่ได้รับไปเต็มนี่คือเรื่องการแพนฉากที่ดูเนียนขึ้นนิดหน่อย (หมุนฉากเร็วมากๆก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่)
แต่ข้อเสียที่ตามาก็คือการที่มันไปสร้าง frame หลอนๆจากกรณีต่างๆ ที่ทำให้หนังหรือ media ต่างๆดูผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับ
แต่ท้ายสุดก็แล้วแต่คนจะชอบครับเพราะยังไงซะมันก็เปิดปิดได้
ส่วนตัว LCD Z Series ตัวนี้ผมถือว่าคุ้มมากๆ และภาพที่มันแสดงได้ถือว่าประทับใจมาก
หวังว่า review ยาวๆของคงได้รับประโยชน์ไปบ้างนะครับสำหรับผู้ที่สนใจ
ส่วนเรื่อง technic ระดับลึกๆผมไม่ค่อยทราบหรอกนะครับเอาไว้ให้ท่านอื่นๆมาเสริมทัพก็ละกันครับ
ยังไงก็ Happy new year ทุกท่านนะคร้าบบบบ
อลังการงานสร้างเลยครับ (ห้องของคุณ อ่ะ) จอใหญ่จัง ตั้ง 46 นิ้ว มาแลกกันไหม ของผม 40 นิ้วเอง
