1
ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายเองค่ะ credit google
สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ไม่รู้ตั้งผิดห้องรึเปล่า ถ้าผิดรบกวนท่าน Mod ช่วยย้ายให้ถูกห้องด้วยนะคะ
วันนี้ขออนุญาตตั้งกระทู้ 1 กระทู้ เพื่อชวนเพื่อนๆ (พี่ๆ น้องๆ) ไปเที่ยวฮ่องกงกัน!! และพาเที่ยวฉบับแบบไป(ลุย)ด้วยตนเองไม่ต้องง้อทัวร์ เทอที่ไหน! เพราะว่าฮ่องกงไปง่ายมากถึงมากที่สุดค่ะ ฟันธง! รายละเอียดมีอะไรบ้าง เชิญรับชม เอ้ย! อ่านกันได้ตามอรรธยาศัยเลยนะคะ
คำเตือน- ข้อมูลเยอะมาก ภาพเยอะมาก ระวังตาลาย!
คือเอาแบบละเอียดยิบกันเลยทีเดียว อยากให้คนอ่านรู้สึกว่าเหมือนกำลังเที่ยวอยู่จริงๆ โดยเมย์จะโพสต์ในสถานที่ที่เมย์ไปมาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน (สั้นไปนะ ไว้รอบหน้าขอ 5 วัน อิอิ) มาให้อ่านกัน แน่นอนว่าจะพาไปแหล่งช้อปเกมที่สำคัญๆ ด้วยค่ะ เชิญอ่านได้เลยจ๊า
ภาพนี้ไม่ได้ถ่ายเองค่ะ credit google
ก่อนเดินทาง ไปฮ่องกงต้องเตรียมอะไรบ้าง??
ก่อนออกเดินทางก็ต้องเตรียมตัวกันก่อนนะคะ โดยสิ่งที่สำคัญสุดๆ ที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ สิ่งนี้ค่ะ
- หนังสือเดินทางหรือ passport เรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักที่สำคัญที่สุดสำหรับการไปต่างประเทศเลยทีเดียว ใครยังไม่มีก็ไม่ยาก ไปทำได้ตามที่อยู่ตามนี้เลยค่ะ มีหลายที่ให้เลือกตามความสะดวก สถานที่ให้บริการหนังสือเดินทาง
โดยเอกสารที่ต้องเตรียมไปก็สุดจะง่าย ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้นจริงๆ + เงินอีก 1000 บาท ถ้าจะให้ทางเจ้าหน้าที่ส่งให้ทางไปรษณีย์ก็จ่ายเพิ่ม 40 บาทนะคะ โดยจะใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน ของเมย์ 3-4 วันก็ได้รับแล้วค่ะ
- เมื่อมีหนังสือเดินทางแล้ว สิ่งที่สำคัญตามมาก็คือ เงิน! ของเมย์ไปแลกที่ superrich มาค่ะ โดยหน่วยนับจะเป็น Hong Kong dollar หรือเรียกสั้นๆ ว่า HKD โดยเรตจะอยู่ที่ 3.8-4 บาท/ 1 HKD ค่ะ
แต่ว่าเอาจริงๆ เวลาเราไปซื้อของในฮ่องกงไม่มีใครพูดเต็มยศหรอกค่ะ เค้าก็จะบอก 10 ดอลล่าห์อะไรแบบนั้นไปเลย ไม่มีมาบอก 10 ฮ่องกงดอลล่าห์นะ เอาล่ะ มาดูกันดีกว่าว่าเงินฮ่องกงมีรูปร่างหน้าตาเป็นยังไง
ที่จริงมีแบงค์ 1000 HKD ด้วยนะคะ แต่ร้านไม่ได้ให้มา เพราะเคยอ่านรีวิวเค้าบอกว่าบางร้านไม่มีถอน และไม่รับแบงค์ใหญ่เลยแลกมาตามนี้ คือแบงค์ 500, 100, 50 และ 20 HKD ค่ะ แต่ว่าตอนไปถึงเมย์ได้รับแบงค์ 10 HKD มาหลายใบเหมือนกัน ส่วนเหรียญก็ตามด้านซ้ายเลยนะคะ อยากบอกว่าตอนเข้า 7-11 ที่นั่นเมย์ได้เหรียญ 1 ดอลล่าห์เยอะมว๊าก แบบหนักกระเป๋าเลยอ่ะค่ะ
ถามว่าต้องแลกไปเท่าไหร่ถึงพอใช้ ตอบตามประสบการณ์ ถ้ากินอยู่เฉยๆ ไม่ช้อปปิ้งอะไรเลย+กับจ่ายค่าโรงแรมที่พักไปแล้ว ประมาณ 6000 บาทไทยก็อยู่ได้ค่ะสำหรับ 3 วันนะ ก็แลกได้ 1500 HKD แต่มันไม่คล่องมือเท่าไหร่ ถ้าจะซื้อของฝากนั่นนู่นนี่เที่ยวอย่างสบายๆ ก็น่าจะประมาณ 10000 บาท up ขึ้นไปค่ะ คือเรื่องเงินนี่มันแล้วแต่จุดประสงค์ที่จะไปด้วยมากกว่าค่ะ หรือพูดง่ายๆ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณจะไปซื้อค่ะ ถ้าจะไปเน้นซื้อพวกเกมของ IT หรือเสื้อผ้าของแบรนด์ดังๆ ก็อาจต้องเตรียมไปมากหน่อย แต่ถ้าเน้นเที่ยวชิวๆ+เน้นกินไม่ต้องถึงหมื่นก็อยู่ได้แน่นอน เพราะอาหารมื้อนึงก็ตกประมาณ 20-50 HKD ค่ะ แล้วแต่ร้าน อันนี้คือร้านทั่วๆ ไปไม่ได้ขึ้นเหลานะคะ 5555+ ถ้าเกินหรูๆ มื้อนึงก็มีตั้งแต่หลัก 100 - 500 HKD ค่ะ! หรือจะฝากท้องกับ 7-11 ก็ได้นะ ข้าวปั้นก้อนนึงก็ตกแค่ 8-10 HKD อิ่มอยู่นะเออ
- อันดับต่อมามีเงินแล้ว แต่ถ้าไม่มีสองสิ่งนี้ก็คงลำบากแย่แน่ๆ ซึ่งสองสิ่งนั้นก็คือ ตั๋วเครื่องบินกับที่พัก
เมย์กล้าพูดได้เลยว่า ถึงจะเป็นการแบกเป้เที่ยวด้วยตนเอง แต่ไม่ใช่ว่าเราจะไปตายเอาดาบหน้า ไม่เตรียมตัวอะไรเลยนะคะ แบบนั้นประมาทเกินไป ไม่ดีค่ะ เพราะว่าถ้าไปช่วงเทศกาล โรงแรมอาจจะเต็มหรือหาได้ยาก เสียเวลา+เหนื่อย ไม่คุ้มกันหรอกค่ะ แถมถ้าเราจองล่วงหน้าเป็นเดือนเราจะได้ราคาประหยัดกว่าไปจ่ายสดที่นู่นด้วยค่ะ แต่ว่าราคาทั้งโรงแรมและตั๋วเครื่องบินจะแพงตามระดับความแรงของเทศกาล และแรงตามระดับความสะดวกของ location หรือถสานที่ ปลายปีก็จะแพงนิดนึง เมย์ไป พย ยังพอประมาณ ถ้าใครไปช่วง ธค จะยิ่งแพงกว่าค่ะ บางทีจองห่างกันแค่ 1 สัปดาห์ ราคายังทิ้งกันเห็นๆ เลย
เมย์นั่งสายการบิน Cathay Pacific ซึ่งเป็นสายการบินของฮ่องกงเอง ถ้าเทียบกับสายการบินอื่นๆ Cathay อาจจะแพงกว่าก็จริง แต่แม้อาจจะจ่ายแพงนิดหน่อยแต่ก็ได้รับการบริการที่ดี ประทับใจทั้งขาไปและกลับค่ะ เครื่องไม่มีการดีเลย์ให้ปวดหัว พนักงานต้อนรับยิ้มแย้มแจ่มใส่ อาหารพอใช้ได้ สรุปแล้วประทับใจค่ะ (ขอความกรุณางดดราม่าเรื่องอื่นๆ นะคะ)
ส่วนโรงแรมพักที่นี่ค่ะ B P International Hotel ไว้เดี๋ยวเม้าท์เพิ่มอีกที 555+
- อันดับต่อมาที่ควรเตรียมไปอย่างยิ่งคือสิ่งนี้ ปลั๊กแปลงไฟชนิด 3 ขา ฮ่องกงใช้ไฟเท่าบ้านเราคือ 220 v. นะคะ แต่ว่าหัวปลั๊กจะไม่เหมือนกัน ของฮ่องกงมี 3 ขา เราก็ซื้อปลั๊กแปลงของ universal ติดไปด้วย เพราะบางโรงแรมอาจไม่มีให้ ถ้าอยู่หลายวันต้องชาร์ตมือถือ โน๊ตบุ๊ค โทรศัพท์ มันจะลำบาก เตรียมไปดีกว่าไปหาที่นู่นค่ะ เมย์นอกจากเตรียมหัวปลั๊กไปแล้ว ยังเอารางปลั๊กไปด้วย แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้ใช้เพราะอยู่แค่ 3 วัน แบตยังไม่ทันหมด เพราะเตรียมตัวชาร์ตทุกอย่างเต็มก่อนเดินทาง แต่ถ้า 5 วันคงมีโอกาสได้ใช่แน่นอน
- เอาล่ะ แพ็คกระเป๋าใกล้เต็มแล้ว ยังมีอีกสิ่งนึงที่เมย์ว่าจำเป็นพอสมควรเลย ถ้าเดินทางไปเอง นั่นก็คือ ซิมส์โทรศัพท์ฮ่องกง
ใบนี้ราคา 400 บาท ซื้อที่ไทย ลองค้นบน google ดูได้นะคะ มีหลายร้าน แต่เอาจริงๆ ซื้อที่ฮ่องกงน่าจะถูกกว่านะ ทริปเมย์ไปกัน 4 คน ซื้อไป 3 ใบ เพราะต่างคนต่างเดิน ช้อปไม่เหมือนกัน เลยต้องพกติดตัวไว้ อยากบอกว่าคุ้มมากๆ ฮ่องกงเป็นประเทศที่มีระบบโทรคมนาคมที่เจริญมากๆ แม่ใช้โทรมาไทยคุยกับพ่อเรื่องของฝาก คุยก่อนอนทุกวัน ไป 3 วัน เงินแทบไม่ยุบเลยอ่ะค่ะ โทรคุยกันเองในฮ่องกงหลายครั้ง เงินตัดน้อยมาก เสียดายตอนกลับเงินยังเหลือบานเบอะ! ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ สะดวกตรงที่เล่นเน็ต 3G ได้ด้วยนะเออ ความเร็วไม่ใช่น้อยๆ 7 mb กว่าเชียวนะ ลื่นหัวแตกเลยอ่ะค่ะ เน็ตนี่สำคัญตรงที่ว่า ถ้าคุณหลง งงว่าสถานที่ที่จะไปไปทางไหน ก็เข้า google map สะดวกสุดๆ ค้นหาสถานที่ได้สบายๆ หรือถ้านั่ง taxi จะดูว่าไปถูกทางไหม ก็เช็ค gps ได้เลย สะดวกมาก! กล้าพูดได้เลยว่ามันทำให้ชีวิตง่ายขึ้นมากๆ ค่ะ การสมัครก็ไม่ยาก เปลี่ยนซิมส์ปั๊บ กดโทรออก โทรมาไทยก็ได้กด +66แล้วตามด้วยเบอร์ไทยไม่ต้องกด 0 แค่นี้ก็เปิดใช้งานได้แล้ว สมัครเล่นเน็ตมีให้เลือกแบบเป็นชั่วโมง เป็นวัน ได้ด้วยค่ะ ตามการใช้งานได้เลย ใบนี้ 60 เหรียญฮ่องกง เมย์สมัครเน็ตแบบ 24 ชม หรือ 1 วันตัดไปแค่ 25 เหรียญเองมั้งคะ โทรกลับไทยและในฮ่องกง+สมัครเน็ตทำหลายอย่างยังเหลือเงินเลยด้วยซ้ำ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม ฟันธง!
นอกจากรายการตามด้านบนแล้ว ก็ยังมีพวกยาสามัญแก้ปวดต่างๆ หรือใครมีโรคประจำตัวก็พกยาที่ต้องทานไป ก็ไม่มีอะไรแล้วค่ะ พวกกระเป๋าเดินทาง เสื้อผ้าไม่ต้องบอกมั้ง ต้องเตรียมไปกันอยู่แล้วเนอะ เหอๆ
อ้อ! พกพี่เสือไปด้วยก็ดีนะคะ เพราะจะปวดขามากถึงมากที่สุดประเภทคุณจะงงเลยว่าตัวเองเดินได้เยอะอะไรขนาดนี้เนี่ย เที่ยวเสร็จกลับโรงแรมตอนนอนก็แปะพี่เสือแล้วตอนเช้าจะดีขึ้นค่ะ เดินต่อ 55555555+
พกอีโนหรือยาลดกรดต่างๆ ไปก็ดี เพราะอาหารฮ่องกงส่วนใหญ่จะเยอะ+มัน+เลี่ยน หรือเราอาจตื่นเต้นกินเกิดพิกัดอย่างไม่รู้ตัว ก็อาจเกิดอาการท้องอืดจุกเสียดได้
อีกเรื่องที่สำคัญคือ "ร้องเท้า" ค่ะ พยายามใส่คู่ที่เบาๆ ใส่สบายไปนะคะ เพราะต้องเดินเยอะมันจะเมื่อย+ปวดขา เมย์ใส่ผ้าใบไป เดินปลิวเลย ถ้าใส่คัทชูจะเดินลำบาก น้องสาวเมย์วันแรกใส่ส้นสูง(แต่ไม่มาก) บ่นปวขาตลอดทาง โชคดีเมย์พกแตะไปอีกคู่ก็ให้น้องไป จึงไม่แนะนำอย่างยิ่งยวดเลยสำหรับส้นสูง เว้นแต่ทนได้และอยากเก๋ก็ตามสะดวกเลยค่ะ
โอเค พร้อมแล้วนะ งั้นออกเดินทางกันเลย!!
Cathay Gate G3 ค่ะ
อาหารขาไปหน้าตาประมาณนี้ รสชาติใช้ได้นะคะ (เครื่องออกเช้าเลยยังไม่ได้กินไรเลย หิวมาก!) omelet ผักโขม+ไส้กรอก
ใช้เวลาประมาณเกือบ 3 ชมก็ถึงค่ะ
เมื่อถึงปั๊บสิ่งที่ต้องดูเป็นดับแรกก็คือ "ป้าย immigration" หรือด่านตรวจคนเข้าเมืองนะคะ ป้ายบอกไปไหนก็เดินไปทางนั้นไม่มีหลงหรอกค่ะ อยากบอกว่าในฮ่องกงเมย์ชอบมากๆ ตรงเรื่องการบอกทิศทาง มันดูง่าย+สะดวกสุดๆ ไปไหนก็ตามมองตามป้ายจะไม่มีการหลงเลย เมย์ว่าประเทศไทยดูตามป้ายแล้วงงอ่ะ ในกรุงเทพนี่เมย์หลงหลายรอบแล้วนะ แต่ไปฮ่องกงครั้งแรกไม่มีหลงเลย ยังงงตัวเอง แต่ที่นั่นอาจเพราะประเทศเล็กเป็นเกาะมั้งคะ ทำอะไรก็ดูตามป้ายเอา มีระเบียบและเข้าใจง๊ายง่ายอ่ะ
ก่อนจะไปตรงจุดตรวจคนเข้าเมืองเราต้องนั่งรถไฟฟ้าไปนะคะ ซึ่งจะมาทุก 2 นาทีไม่ต้องรีบวิ่ง แป๊บเดียวก็มา คนเต็มก็รอได้ค่ะ
โอเค หลังจากผ่านด่านตรวจ+หยิบกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว(เร็วเว่อร์ 555 คือจุดนี้เมย์ลืมถ่ายภาพมาง่ะ แหะ แหะ) ก่อนจะออกไปด้านนอกให้แวะหยิบพวก map ต่างๆ จะเป็น MTR รถไฟใต้ดิน หรือ map เมืองเกาะต่างๆ ก็หยิบมาได้เลยนะคะ ฟรีค่ะ หรือจะสอบถามอะไรก็ถามได้ตรงจุดนี้เลยค่ะ
อ้อ! ก่อนจะออกจากตัว airport มาให้ซื้อบัตร Octopus Card ซึ่งจะทำให้ชีวิตคุณง่ายมากในฮ่องกงติดตัวมาด้วยเลยนะคะ หน้าตาเป็นแบบนี้(ตรงแถว Arrival hall A หรือ B ก็จำไม่ได้ แต่หาไม่ยากค่ะ ถามเจ้าหน้าที่เอา) โดยอันนี้เป็นบัตรแบบ adult ราคา 150 HKD ค่ะ แต่จะใช้ได้แค่ 100 HKD อีก 50 เป็นค่ามัดจำบัตร ในกรณีเราไปทำบัตรเค้าหายหรือเสียก็ไม่ได้จ่ายเงินคืนนะ แต่ถ้าเราใช้แล้วเงินเหลือตอนคืนบัตรที่สนามบินเค้าจะหักค่าธรรมเนียไปด้วย 9 เหรียญ โดยบัตรนี้สามารถเติมเงินเพิ่มได้ที่ตู้ตามสถานี MTR ต่างๆ ค่ะ
มันจะช่วยคุณได้มาก เพราะมันใช้แทนเงินสดได้ จะขึ้นรถไฟใต้ดิน รถเมลล์ จะกินข้าว จะช้อปปิ้ง เกือบทุกที่รับบัตรนี้กันหมด ไม่ต้องพกเงินพกเหรียญ เข้า 7-11 ก็แตะบัตรได้เลย บ้านเราเมย์เห็นเค้าพยายามจะทำ rabbit card ให้ใช้แทนเงินสดได้หลากหลายอยู่เหมือนกัน แต่ในฮ่องกงมีบัตรนี้บัตรเดียวเอาอยู่จริงๆ
ทีนี้การจะเข้าไปยังตัวเมืองฮ่องกงจะมีหลายช่องทางมาก ก่อนอื่นที่นี่จะแบ่งหลักๆ เป็น 3 เกาะนะคะ สนามบินอยู่เกาะลันเตา ส่วนย่านที่พัก+แหล่งช้อปต่างๆอยู่เกาะเกาลูนกับเกาะฮ่องกง จะไปโดย AE หรือ Airport Express รถไฟฟ้าด่วนเข้าตัวเมืองแล้วไปต่อ MTR รถไฟใต้ดินเอาก็ได้ หรือจะไป taxi (คุ้มในกรณีไปกันหลายคน แต่รู้สึกจะนั่งเกิน 5 คนไม่ได้นะคะ) หรือจะนั่งรถเมลล์ไปก็ได้เหมือนกัน จะประหยุดสุดค่ะ ทริปเมย์ไปกัน 4 คนสามารถนั่ง taxi ได้ สบายไม่ต้องเบียดใคร ไม่ต้องรีบ แต่ซ่าอยากนั่งรถเมล์ 55555+ อยากลองประสบการณ์แบกเป้ลุยเที่ยวเองจริงๆ ก็เลยตัดสินใจขึ้นรถเมลล์กันไป ขอชมแม่เมย์ที่เป็นคนออกความเห็น เรียกได้ว่าอายุไม่ใช่อุปสรรค! คือทุกคนบอกให้นั่ง taxi แม่เปรี้ยวมากบอกไปรถเมลล์สนุกกว่า
แต่พอเห็นข้อมูลเริ่มทอดใจแล้ว กร๊ากกกก ล้อเล่นค่ะ ไม่ยากหรอก เราก็ดูว่าจะไปไหน ของเมย์ไปเกาะเกาลูนไปโรงแรม B P International Hotel ก็ไปขึ้นสาย A21 เสียค่ารถไป 33 HKD ค่ะ แตะบัตรแล้วนั่งชิวได้เลย
รถไม่ได้ผ่านหน้าโรงแรมนะคะ ผ่านหน้า รร Prudential ค่ะ แล้วเราต้องเดินไปเองประมาณ 300 เมตรซึ่งก็ไม่ไกลมาก ที่นี่อากาศกำลังสบายๆ เดินนานไม่เหนื่อยเท่าไหร่ ลมชิวๆ มากมาย
ไปวันศุกร์รถติดพอประมาณ แต่ก็ไม่นานมากค่ะ จุดน่าสังเกตที่ชอบมากๆ เลยคือ แทบไม่มีรถมอเตอร์ไซต์ มีก็น้อยมากๆ คนส่วนใหญ่จะเดินถ้าไปไหนไม่ไกล(จริงๆ ขนาดไกลยังเห็นเดินเลยอ่ะ!) อาจเพราะอากาศอำนวย+การขนส่งเค้ามันสะดวกสบายมากอยู่แล้วด้วย
จริงๆ รถมันจะมีป้าย LED บอกว่าจะไปไหน ถึงสถานีไหน แต่คันนี้ไม่มีไม่รู้เสียรึเปล่า โชคดีที่เข้าเน็ตได้สบาย จึงเช็ค GPS ตลอด และเมื่อสามารถค้นได้ว่าเราอยู่ ณ ส่วนใดของเกาะเกาลูนทำให้พอคลำทางไปถูก กล้าพูดเลยว่าถ้าไม่มีก็งงแน่ๆ เพราะลงแบบไม่รู้ทิศทางใดๆ เลย ควรพก smartphone/tablet ไปด้วยนะคะ เข้า google map เดินไปตามทางที่ gps บอก เมย์เดินไปสักพักนึงก็เห็นตึกโรงแรมแต่ไกล เย้! ดีใจมากเพราะเริ่มเหนื่อยแล้ว+หิวอย่างมาก!
โรงแรมตั้งอยู่บนถนน austin
มีเรื่องไม่คาดฝันเล็กน้อย เพราะห้องที่จองไว้ 2 ห้องเป็นห้อง non-smoking แต่ปรากฏพอไปเช็คอินเค้าบอกว่าหมดซะงั้น แต่บอกว่าวันรุ่งขึ้นจะเปลี่ยนห้องให้ใหม่ แล้วจะชดเชยโดยการให้ห้อง Harbour view ให้เห็นวิวอ่าวมาแทน เราก็เลยไม่ว่าอะไร วันเดียวเอง คือแต่เดิมเมย์จองห้องแบบ city view ซึ่งจะไม่เห็นอะไรเลยยกเว้นตึก! แหะ แหะ แหม ก็มันถูกหนินะ
ในฮ่องกงอะะไรก็ดีหมด ยกเว้นโรงแรม ประเทศไทยกินขาดค่ะ ทีนี่แคบ+ธรรมดามาก-มากที่สุด ทีสำคัญเหม็นบุหรี่จนเกือบทนไม่ได้ ดีที่ออกไปเที่ยวทั้งวันนะคะ เหม็นขนาดที่ต้องไปบอกให้เจ้าหน้าที่จัดการฉีดสเปรย์ดิบกลิ่นหรือทำอะไรก็ได้ให้กลิ่
นหาย ซึ่งก็แทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย
อันนี้วิวกลางคืนขอบอกว่าสวยมากๆ ห้องแบบ harbour view จะได้เห็น symphony of light ด้วยนะคะ ซึ่งจะฉายทุกประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ ประมาณ 15 นาทีรึเปล่าไม่แน่ใจ แต่เห็นไกลๆ ไม่ได้เห็นชัดๆ สวยงามอย่างกับอยู่แถว Avenue of Stars
ร้านแรกที่ฝากท้องเมื่อมาเหยียบเกาะฮ่องกง ร้าน Cafe De Coral อยู่ตรงข้ามโรงแรมเลยค่ะ แต่กว่าจะเชคอินเก็บกระเป๋าทำธุระเสร็จก็บ่าย 3 จะ 4 โมงแล้วมั้งคะ ผิดแผนนิดหน่อยเพราะตอนเดินหาโรงแรม+หาข้อมูลรถบัสใช้เวลานิดนึง
อาหารหน้าตาแบบนี้ รสชาติก็อ่ะนะ จะว่าไม่ผ่านคงไม่ถูก เพราะทั้ง 3 วันที่อยู่ที่นี่รู้สึกทุกอย่างมันจืดหมดเลย คงเป็นสไตล์คนที่นี่มั้งคะ มีแค่ 2 อย่างที่เมย์ว่าอร่อยคือ โจ๊กฮ่องกง! กับบะหมี่เกี๊ยวกุ้งฮ่องกง นอกนั้นไม่ผ่าน จืด+มัน+เลี่ยน สำหรับร้าน Cafe De Coral นี่ข้อดีคือราคาถูกค่ะ 20 เหรียญกว่าๆ เองแต่ละเมนู จะเพิ่มเครื่องเดิมเป็นเย็นก็รู้สีกจะเพิ่ม 3 เหรียญมั้งคะ ก็ถือว่าถูกสุดที่กินใน 3 วัน นอกนั้น 30 เหรียญ up แม้จะเป็นร้านเก่าๆ ก็ตาม
อ้อ! มีเรื่องนึงที่คิดไม่ถึงคือ อยากบอกว่าคนที่นี่ส่วนใหญ่ไม่พูดภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งที่เมย์ตกใจอยู่เหมือนกัน เพราะด้วยความที่เมย์ติดต่อซื้อขายกับทางฮ่องกงอยู่ด้วย ตอนคุยเมลล์ก็คุยกันดี เลยนึกว่าคนส่วนใหญ่จะพูดได้ พอมาถึงจริงๆ แล้วคนส่วนใหญ่ อันนี้เอาตามที่เมย์เจอนะคะ จะไม่พูดอังกฤษกับเราเลย ขอออกตัวก่อนว่าเมย์เอง ENG ก็ไม่ได้ดีเลิศอะไร ก็เหมือนคนทั่วไป แค่ใช้สื่อสารประโยคสนทนาในชีวิตประจำวันอ่ะค่ะ คือเวลาเมย์พูดไปเค้าอาจจะฟังออกแต่สื่อสารกลับไม่ได้ หรือพูดได้แล้วไม่ยอมพูดก็ไม่รู้อ่ะ แล้วด้วยความที่เราไม่ใช่ฝรั่ง เป็นเอเชียเหมือนกัน เข้าร้านไหนก็โดนพ่นจีนใส่ตลอดเวลา พอพ่น ENG กลับไปก็โดนพ่นจีนกลับอยู่ดี 555555+ ไม่ว่าจะพูด ENG ช้าแค่ไหน อะไรยังไง เค้าก็พูดจีนใส่กลับตลอด เฮ้อ..เหนื่อย เรียกได้ว่ามาเที่ยวนี่ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรได้เลยค่ะ ภาษามือ+ท่าทางล้วนๆ คนที่พูด ENG ได้จะเป็นตามสถานที่สำคัญอย่างที่โรงแรมตรง counter หรือตาม MTR เจ้าหน้าที่จะพูดได้ ห้างใหญ่ๆ หรูๆ หน่อยพนักงานจะพูดได้ ร้านอาหารที่ดูทันสมัยหน่อยส่วนใหญ่จะพูดได้ แต่ตามร้านข้างท้าง หรือตามถนนเวลาคนเดินเราถามทางเค้า จะพูดไม่ได้เลย แต่ข้อดีคือคนที่นี่ถ้ารู้ว่าเราไม่ใช่คนท้องถิ่นแต่เป็นนักท่องเที่ยวจะกุรีกุจอช่ว
ยเหลือนะคะ น่าประทับใจมาก มีหลายครั้งเมย์ถามแล้วเค้าพูดไม่ได้ จะพาเราไปหาคนที่พูดได้ให้ ใจดีอ่ะ หรืออย่างไปร้านอาหาร คนที่มากินเห็นเรางงๆ เค้าเดินเข้ามาหาเราช่วยเราเลยนะ แบบว่า u ยื่นตรงนั้น คอยตรงนี้ น่ารักมาก หรืออย่างแม่เมย์ อันนี้ก็เปรี้ยวเหลือเกิน เพราะต่างคนต่างช้อปด้วยไง แม่พูดทั้ง ENG และ จีนไม่ได้เลย แต่แม่ฉายเดียวตลอด 555555+ ตอนเข้า bossini กำลังลดราคาพอดี แต่เค้ามีกติกาว่าต้องหยิบบัตรคิวอะไรไม่รู้ยื่นก่อนชำระเงินถึงจะได้ลด คนท้องถิ่นที่นั่น 2 คนยื่นให้แม่เมย์เฉยเลยก่อนจ่ายตังค์ เสียสละให้น่าดู เพราะเราอ่านจีนไม่ออกไง ใครจะไปรู้(ฟะ!) เรียกได้ว่าหากเค้ารู้ว่าคุณมาเที่ยวนะ เค้าจะเต็มที่ช่วยเหลือคุณมากๆ ไม่แปลกใจเลยที่ฮ่องกงติดอันดับเมืองช้อปปิ้งอันดับต้นๆ ของเอเชีย(หรือจะว่าของโลกเลยก็ได้) แน่นอนถามว่ามีไหม คนที่ไร้น้ำใจ มันมีอยู่แล้วแหละ เจอเหมือนกัน แต่มันน้อยมากจนเราไม่เก็บมาเป็นสาระอ่ะค่ะ เพราะเทียบกับคนดีๆ ที่น่ารักแล้ว เทียบกันไม่ได้เลย ฟันธง!
หลังจากเติมพลังแล้วก็ตกเย็นแล้วอ่ะ ตอนนั้นเริ่มเครียดว่าจะไปแหล่งช้อปเกมอันแรกไม่ทัน ก็ว่าจะไม่ไป แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ยังไงก็ต้องไป แล้วขอบอกว่าคนเยอะมากค่ะ เพราะเป็นเวลาเลิกงานด้วยมั้งคะ ทำให้เหนื่อยมาก
ย่านแรกที่เมย์จะพาไปคือสถานที่ที่ชื่อว่า 188 oriental shopping centre ซึ่งเป็นแหล่งช้อปเกม/หนัง/ของเล่นต่างๆ ตั้งอยู่บนเกาะฮ่องกง เมย์พักอยู่เกาะเกาลูน ทำให้ต้องข้ามเกาะไป แต่การไปก็ไม่ยาก(เพียงแต่ด้วยเวลาที่รีบเร่ง+ว่าไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน ทำให้เหนื่อย)
การเดินทางให้ตั้งต้นที่ MTR ไม่ว่าจะสถานีไหนก็ตามนะคะ ในที่นี้เมย์ขึ้นป้าย Jordan แล้วนั่งไปลงป้าย Admiralty (3 ป้าย) ลงตรงนี้เพื่อข้ามสายนั่งเส้นฝั่งฮ่องกง นั่งจาก Admiralty ไปลง Wan chai แค่ 1 สถานี อย่าเผลไปลง Chai wan นะคะ ชื่อสลับกัน แต่คนละโยชน์!!! จาก Jordan มาถึง Wan chai ใช้เงิน 8.6 เหรียญเองค่ะ ถ้าใช้บัตร Octopus นะ ถ้าเราซื้อบัตร single ticket จะแพงกว่า ไม่ค่อยคุ้ม และไม่จำเป็นต้องซื้อบัตร one day pass หรอกถ้าไปไม่กี่สถานี เปลืองเกิน
ทีนี่อยากบอกว่า MTR ที่นี่ขึ้นง่ายมากค่ะ ไม่งงแน่ ถ้าเริ่มจะงงให้ยึดหลักดูป้ายไว้ก่อน จะไปไหนดูป้าย ไม่รู้ก็ถามเอาเลย ปากเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการเดินทางไปไหนก็ตาม google map ก็ช่วยได้ไม่เท่าปากค่ะ
ใครอยากลองกดเล่นๆ ว่า MTR ป้ายไหนไปไหนเสียเงินเท่าไหร่ กดเล่นได้ที่นี่เลยค่ะ มี app ให้โหลดลง smartphone/tablet ด้วยนะคะ
http://www.mtr.com.h...h_eng/index.php
คนเยอะได้อีก แต่อยากบอกว่าที่นี่ถนนข้ามง่ายมาก เพราะจะมีป้ายสำหรับข้ามและหยุดโดยเฉพาะ เป็นไฟเขียวไฟแดงสำหรับคนข้ามถนนค่ะ หลังจากเมย์ลงที่สถานี Wan chai และได้ความช่วยเหลือจากคุณป้าประจำสถานีที่พูดอังกฤษได้ดีเยี่ยม อธิบายดีมาก+ให้แผ่นทีเรามาฟรีๆ ด้วย วงให้เสร็จสับทำให้เมย์เดินทางมายัง 188 oriental shopping centre ได้สำเร็จ! ใครงงอยากบอกว่าพอลงจากสถานี Wan chai ให้ออกประตู EXIT A3 เลี้ยวซ้าย (ประตูออกมีเยอะมาก ต้องถามก่อนไม่งั้นเดินไกลแน่ๆ) เดินข้าม McDonald ไปสักพักก็จะถึงค่ะ (จากสถานี Wan chai ก็ประมาณ 10 นาที) ตัวอาคารก็หาไม่ยากแต่เกือบไม่เห็น กร๊ากกก
หน้าตาตึกเป็นงี้ ดูภายนอกไม่รู้หรอกว่าขายเกมอ่ะ เพราะดูเก่ามาก แถมด้านหน้าไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับเกมเลย จำไม่ได้ว่ามี 3 ชั้น+ใต้ดินรึเปล่า แต่ค่อนข้างเตี้ย+แคบค่ะ เดินแป๊บเดียวก็ครบแล้วอ่ะ
มีต่อ(อีกยาว) REP ถัดไปค่ะ -->
ต่อค่ะ...
ถามเรื่องความประทับใจว่ามีมากน้อยแค่ไหน เมย์ว่าคนที่ชอบเกมโซน 3 ฝั่ง ASIA และโซน 2 ฝั่ง Japan จะ happy มากถึงมากที่สุด แต่ใครเน้นแผ่น Zone 1 คงจะไม่เท่าไหร่ เพราะแผ่นโซน 1 หาแทบไม่ได้เลยค่ะ ยกเว้นของเครื่อง 3DS เพราะแผ่นไม่มีโซน 3 อยู่แล้ว ไม่ JP ก็ ENG ไปเลย จึงหาได้ง่าย แต่ถ้าเกมของ PS3 และ PS Vita จะมีแต่โซน 3 และ 2 เท่านั้น ทีนี้ถามว่าราคาห่างจากบ้านเรามากไหม คำตอบคือถูกกว่าแน่นอน 100% แต่ขึ้นอยู่กับร้านนะคะ แนะนำให้เดินดูก่อน 1 รอบเพื่อเช็คราคาค่ะ ทุกร้านราคาจะไม่เท่ากัน ห่างกันตั้งแต่หลักเหรียญสองเหรียญไปจนหลายสิบเหรียญเลยก็มี บางร้านนี่คงกะฟันเต็มที่ขายแพงโคตรอ่ะ อ้อ! เห็นมีขายเกม PC ใหญ่ๆ อยู่ 2 ร้านนะคะ ตอนแรกเมย์จะซื้อ The Sims 3 Seasons มาแล้ว เช็คราคาไว้ว่าจะวนกลับมาซื้อ แต่ดันลืม+รีบเพราะดึกมากแล้ว
จุดสังเกตที่ง่ายและตลกมากก็คือ ร้านไหนคนขายมีอายุหน้าตาไม่หล่อไม่สวย ประเภทให้คุณลุงคุณป้ามานั่งขายจะราคาประหยัด ร้านไหนเป็นผู้หญิงสวยๆ สาวๆ หรือผู้ชายหน้าตาดีหนุ่มๆ หน่อย ขายราคาจะแพง อันนี้เมย์ไม่ได้พูดเล่นนะคะ เมย์ไป 2 ย่าน หลักนี้ใช้ได้ทั้ง 2 ย่านเลย เดี๋ยวจะอธิบายต่อไป แต่เล่นเอางงเหมือนกัน สรุปให้ดูร้านคนมีอายุไว้ก่อน
หลังจากใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เมย์ก็ตะบะแตกจัดเจ้าตัวนี้มาในที่สุด!
ราคาเบ็ดเสร็จก็ถูกกว่าไทยไม่มากค่ะ ถ้าเป็นเครื่องเกมนะ พวกแผ่นเกมจะถูกกว่าไทยประมาณ 100-400 บาท แล้วแต่เกม ส่วนพวกเครื่องเกมแล้วแต่เครื่อง อย่างตัวนี้เมย์ซื้อทุกอย่างเบ็ดเสร็จ+เม็ม+กันจอถูกกว่าไทยประมาณพันกว่าบาท อาจเพราะไปซื้อร้านที่เป็น official ของ Sony ด้วยมั้งคะเลยจะแพงนิดนึง เพราะดูน่าไว้ใจได้มากสุด ก่อนเจอร้านนี้เมย์ไปเจอร้านนึงขาย PS Vita มือ 2 ราคาแค่ 5000 กว่าบาทไทยเท่านั้น! เห็น PSP Model 3000 ราคา 3000-3500 บาท ส่วน 3DS ราคา 2xxx ปลายๆ - 3xxx ต้นๆ บาท ถ้าเป็น NDS รุ่นก่อนๆ ยิ่งถูกเข้าไปใหญ่ ถูกมากๆ อ่ะค่ะ แต่บอกตรงๆ พวกมือ 2 ไม่กล้าซื้อ เพราะดูไม่เป็นด้วย
วันแรกเหนื่อยมากเลย ทุกอย่างผิดแผนหมด ตอนแรกคิดว่าซื้อเกมเสร็จคงประมาณ 5-6 โมงเย็น เสร็จแล้วว่าจะเดินเที่ยว Avenue of Stars ชมอ่าวชิวๆ ซะหน่อย ที่ไหนได้ ก่อนจะข้ามมาเกาะฮ่องกงก็ 5 โมงเย็นกว่าแล้ว! อันนี้กว่าจะซื้อเสร็จ+เดินทางกลับโรงแรมก็ 3 ทุ่มอ่ะค่ะ มือเย็นวันแรกจบที่ McDonald เพราะง่ายที่สุดแล้ว ณ ตอนนั้นไม่มีแรงไปใช้ภาษามือกับใครแล้ว
วันที่ 2
วันนี้ไม่มีแผนไปช้อปไหนเลย แต่ทุกคนตัดสินใจไปเที่ยว Disneyland กันค่ะ!! เย้ๆ
แถมตื่นสายด้วยนะ กร๊ากก กว่าจะไปทานมื้อเช้าก็เกือบ 8 โมงครึ่งอ่ะ โหว ขาดทุน ตอนแรกนัดกันว่า 6 โมงเช้าจะไปเดินเล่น วางแผนดิบดี ทีไหนได้หลับกันเป็นตาย 55555+
หลังจากเข็ดกับความมันของอาหารกึ่ง modern ร้านเมื่อวาน พวกเราเลยตัดสินใจว่าวันนี้ขอกินอะไรก็ได้ที่มัน "ฮ่องกง" สุดๆ แล้วจะมีอะไรที่มันฮ่องกงเท่ากับสิ่งนี้ล่ะค่ะ!
มันคือโจ๊กฮ่องกง ด้วยความที่ส่วนตัวเป็นคนชอบกินโจ๊กมาก ในไทยหากินมาหลายร้านแล้วที่เค้าว่าอร่อย แต่มาถึงนี่ยอมรับเลยว่า อร่อยกว่า! มันนุ่มมาก รสกำลังดี ทั้งไก่ทั้งไข่เยี่ยวม้าที่ใส่มาเข้าหั่นชิ้นเล็กๆ เป็นเส้นๆ พอดีคำ บ้านเราใส่มาทั้งลูกเลย! แต่น้องเมย์บอกว่ามันเละเกินเหมือนอาหารเด็ก ก็คงแล้วแต่คนชอบมั้งคะ ส่วนตัวเมย์ว่าอร่อยมาก หรือเพราะอย่างอื่นไม่อร่อยเลยก็ไม่รู้ 5555+
อันนี้ของแม่ค่ะ บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง แอบชิมไปอร่อยสุดๆ ขอบอกว่าเกี๊่ยวกุ้งตัวเบ้อเริ่ม ใหญ่มาก! อร่อยด้วย!
ร้อนๆ เลยค่ะ ได้บรรยากาศสุดๆ เพราะอากาศช่วงเช้าวันที่ 2 หนาวกว่าวันแรก
แต่สิ่งที่ตลกมากคือเครื่องดื่ม คือในเมนูเค้าเขียนว่า Coca Cola w/ Lemon ไอ้เราก็คิดว่าเฮ้ยน่ากินดี โค๊กใส่เลม่อน พอสั่งมาได้สิ่งนี้
ขำกันแทบตาย คือไม่คิดว่าจะเล่นง่ายขนาดนี้ เอา coke กระป๋องมาให้และในแก้วมีวิญญาณ Lemon แนบมาด้วย แล้วพอเทไปมันไม่มีรสชาติใดๆ ของ Lemon เลยอ่ะ ขำมาก แต่เมย์ขอบอกให้ทุกคนที่จะมาเที่ยวเตรียมใจไว้ได้เลยนะคะ เพราะเครื่องดื่มที่นี่ทุกร้าน "จืด" และ "ไร้รสชาติ" ทุกอย่างค่ะ จะ ชา/กาแฟ ไม่มีรสใดๆ เลย ทำใจนะ อิอิ
ชื่อร้านที่ไปกินวันที่ 2 ช่วงเช้านะคะ ขอบอกว่าคนแน่นร้านมากๆ
http://imageshack.us...2/dscf6756f.jpg
จริงๆ ไม่ได้กะกินร้านนี้หรอกค่ะ แต่โดนต้อนเข้าไป 555555+ เค้าก็เรียกลูกค้าสุดฤทธิ์ เห็นเรายืนเด๋อด๋าหน้าร้านเลยโดนต้อนเข้าไปเลย
http://imageshack.us...7/dscf6758j.jpg
ร้านนี้ไม่ได้กินแต่คนเยอะมาก เลยถ่ายรูปมาด้วย เป็นพวกขนมค่ะ
http://imageshack.us...50/dscf6761.jpg
ช่วงเช้าถนนโล่ง ไม่ค่อยมีรถ แต่ร้านของกินคนเต็มเกือบทุกร้านเลยค่ะ
ก่อนไปดิสนีย์ก็ตัดสินใจเดินย่อยกันเล็กน้อย โชคดีมากที่โรงแรมที่พักอยู่ติดกับสวนสาธารณะ Kowloon park ซึ่งถูกขนามนามเรียกได้ว่าเป็น "ปอด" ของเกาะเกาลูนเลยทีเดียว แล้วก็ไม่ผิดหวัง เพราะบรรยากาศ+อากาศดีมากๆ สมชื่อเลยค่ะ
http://imageshack.us...4/dscf6763v.jpg
http://imageshack.us...93/dscf6764.jpg
จะอธิบายยังไงดี ตลอดทริปนี้เมย์จะได้กลิ่นควันบุหรี่เยอะมาก เพราะคนที่นี่สูบกันเยอะกว่าบ้านเรา เรียกได้ว่าเดินไปตรงไหนก็เจอ และจะไม่มีการจัดโซน(หรือมีก็ไม่แน่ใจ แต่ที่เจอคือสูบกันตรงไหนก็ได้) แต่ในสวนสาธารณะอากาศที่คุณสูดเข้าไปมันสะอาดมากจนน่าตกใจ คือตอนเดินถนนรถเยอะแยะไปหมด พอเข้าสวนสาธารณะเหมือนอยู่อีกโลกนึงเลย อากาศสะอาดมากๆ ค่ะ ไม่แน่ใจว่าทำได้ยังไงเหมือนกัน
http://imageshack.us...5/dscf6771g.jpg
http://imageshack.us...1/dscf6767c.jpg
ด้วยความที่กลัวกลับมาเที่ยวไม่ทัน เพราะวางแผนว่าดิสนีย์จะไปกันทั้งวัน เลยเดินไปเรื่อยๆ จนถึงนี่เลย
http://imageshack.us...9/dscf6773n.jpg
http://imageshack.us.../dscf6780rx.jpg
นั่นก็คือ Avenue of Stars ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอันดับต้นๆ ของฮ่องกง โดยจะตั้งอยู่ตลอดทั้งริมอ่าว Victoria เรียกได้ว่าพวกเมย์เดินมาไกลมากๆ เลยค่ะจากสวนสาธารณะ Kowloon Park เดินลัดตรงผ่านย่านจิมซาจุ่ย ตรงแทบอ่าวนี้ตอนกลางคืนจะเหมาะกับการชม Symphony of Light มากๆ ค่ะ แต่เสียดายที่ทริปเมย์สั้นเกินไปจึงไม่ได้มาชม เห็นไกลๆ จากห้องในโรงแรมตอนกลางคืนเท่านั้นเอง
http://imageshack.us...51/dscf6786.jpg
http://imageshack.us...0/dscf6794x.jpg
ขากลับไปโรงแรมคือตอนนั้นไม่ไหวแล้วค่ะ ลืมไปแล้วว่ามีขา 5555555+ เลยต้องหาตัวช่วย
http://imageshack.us...4/dscf6806d.jpg
http://imageshack.us.../dscf6808pi.jpg
ไม่แน่ใจว่าตอนกลางคืนจะน่ากลัวไหม แต่เดินเช้าๆ แทบไม่มีคนเลยอ่ะ แถมทางไกลมากกว่าจะถึงตัวสถานี
http://imageshack.us...21124105738.jpg
ว่าแล้วก็ขอถ่ายตู้แบบ single ticket ให้ดูด้วยเลยนะคะ อันนี้ใครไม่ได้ซื้อบัตร octopus card ที่สนามบินไว้ เวลาจะขึ้นก็ใช้บัตร single ticket ได้ ก็เหมือน BTS บ้านเราอ่ะค่ะ แต่อันนี้กดป้ายสถานีที่จะไปแล้วใส่เงิน ใส่แบงค์ได้ด้วยนะ รู้สึกว่าจะได้แค่ 2 แบงค์คือ 50 กับ 100 HKD แต่ BTS ของบ้านเรากดราคาแล้วใส่เหรียญใช่ม้า โดยบัตรนี้เหมาะกับแค่การไปไหนสั้นๆ ไม่กี่สาย ถ้าวันนึงต้องขึ้นหลายรอบ ไปหลายที่ ยังไงเมย์ก็ยืนยันนอนยันว่า octopus card เวิร์คที่สุด เพราะถูกกว่า และใช้งานได้ทุกที่จริงๆ
บัตรซื้อครั้งแรกใช้ได้ 100 HKD ใช่ไหมคะ ทีนี้ถ้าเกิดเงินเราใกล้หมดโดยไม่รู้ตัว เงินจะตัดให้เกิน 100 ได้ค่ะ แต่เวลาเราเติมใหม่ ก็จะต้องหักส่วนที่ติดค้างด้วย อย่างเมย์ตอนนั้นบัตรใกล้หมดแล้ว แต่ก็ดันไปซื้อน้ำเงินมีเศษเกินมาก็ตัดได้นะ ไม่มีปัญหา เพียงแต่ตอนเติมไปอีก 100 จะได้มาแค่ 90 เหรียญกว่าๆ เป็นต้นค่ะ อยากรู้ว่าเงินเหลือมากน้อยแค่ไหน แตะบัตรที่ตู้นี้ได้เลย จะมีตั้งอยู่ทุกสถานที MTR
http://imageshack.us...21124190350.jpg
แต่ถ้าเงินใกล้หมดมองหาตู้นี้เลยนะคะ อยู่ทุกสถานี MTR เช่นกัน
http://imageshack.us...1124190338r.jpg
http://imageshack.us...21124190342.jpg
การเติมก็ไม่ยากค่ะ ใส่บัตร octopus card เข้าไปแล้วใส่แบงค์ตามจำนวนเงินที่ต้องการ (50 หรือ 100) แล้วกดยืนยันแค่นี้เองค่ะ ง่ายมาก
หลังจากกลับไปโรงแรมทำธุระกันเสร็จ กว่าจะนวยนาดพากันไปถึงดิสนีย์ก็เที่ยงกว่า!! [aaa015] แต่เอาเถอะ ครั้งแรกย่อมมีผิดพลาดไปบ้าง ยังไงซะ ก็พากันมาจน(ใกล้)ถึงดิสนีย์จนได้ โดยการเดินทางไปดิสนย์นีย์นั้น ตั้งต้นที่ MTR สถานี Joradn เราจะต้องเปลี่ยนสถานี 2 ครั้งค่ะ นั่งจาก Jordan ไปลงที่ Lai King ก็ทั้งหมด 9 ป้าย แม้ตัวเลขจะดูเยอะ แต่ก็ไม่นานอย่างที่คิดนะคะ คนวันนี้ก็เยอะพอประมาณ อาจเพราะวันหยุดคนก็ออกเที่ยวกันปกติ เมื่อลง Lai King เราก็นั่งไปอีก 2 ป้ายไปลงที่ Sunny Bay ค่ะ แล้วจาก Sunny Bay เราก็จะตรงเข้าไปยังสถานทีของดิสนีย์โดยตรงเลย ซึ่งอยากบอกว่า MTR ณ จุดนี้เปรี้ยวมาก เพราะว่าแค่หน้าต่างตัวตู้รถก็เก๋แล้ว อิอิ
http://imageshack.us...2/dscf6815t.jpg
http://imageshack.us...1/dscf6826j.jpg
บรรยากาศให้เต็ม 10 ไม่บอกก็รู้ว่าจะไปไหน [aaa008]
http://imageshack.us...2/dscf6816e.jpg
http://imageshack.us...0/dscf6819s.jpg
http://imageshack.us...2/dscf6820b.jpg
ทั้งที่จับเอย หน้าต่างเอย แถมระหว่างที่นั่งมีรูปปั้นตัวละครของดิสนีย์ด้วยนะคะ เบาะนั่งก็หรูหราไฮโซเหลือเกิน ตามภาพล่างนี้เลย แต่อันนี้ไม่ได้ถ่ายเอง credit จาก google นะคะ
http://imageshack.us...4/mickeymtr.jpg
ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีพวกเราก็มาถึงจนได้
http://imageshack.us...9/dscf6824r.jpg
แค่เห็นต้นเสาก็ตื่นเต้นแล้ว 5555+ ทำได้เก๋ไก๋มากๆ
ขึ้นบันไดเลื่อนมานิดๆ เดินมาหน่อยๆ ก็ถึงลานทางเข้าอันกว้างขวางมากๆ ถึงจนได้ DISNEY LAND!! [aaa030] [aaa030]
http://imageshack.us...0/dscf6829q.jpg
เดินผ่านป้ายทางเข้ามาเห็นคนมุ่งอะไรกันเลยเดินมาดู ใครหว่ากำลังเล่นกระดานโต้คลื่นอยู่
http://imageshack.us...1/dscf6833e.jpg
http://imageshack.us...1/dscf6834h.jpg
ทีแท้ก็ลุงเอ้ย พี่มิกกี้นี่เอง อิอิ
http://imageshack.us...6/dscf6841f.jpg
พี่โดนัลรมบ่จอยเพราะเรือล่มค่ะ น่าจ๋งหจาน
http://imageshack.us...60/dscf6832.jpg
ระหว่างทางก็มีป้ายประดับประดาให้เข้าบรรยากาศ เป็นตัวละครจาก Disney ต่างๆ อ้อ! อยากบอกว่าเมย์ซื้อตั๋วแบบ 1 Day ticket มาจากไทยแล้ว 4 ใบค่ะ เพราะไม่อยากเข้าคิวรอคนเยอะ แต่เอาเข้าจริงๆ แถวคนก็ไม่เยอะนะ เพียงแต่เราเตรียมตัวกันมาเรียบร้อยแล้วน่ะค่ะ โดยบัตรราคา 1490 บาท/คนค่ะ สอดบัตรทางเข้าด้านหน้าแล้วเล่นได้ทุกอย่างเลยค่ะ ไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มอีก ยกเว้นของกินกับของฝากเท่านั้น อิอิ
น่าเสียดายที่เมย์ถ่ายภาพที่ดิสนีย์มาไม่เยอะเท่าไหร่นะคะ เล่าเลยอาจไม่ได้อรรถรสมากนัก มัวแต่เดินชิว+ชมกับบรรยากาศกันมากกว่า เลยไม่ค่อยได้หยิบกล้องขึ้นมาแชะ คือดิสนีย์มันกว้างมากจริงๆ อ่ะค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็นแดนต่างๆ เช่น TOMORROWLAND, FANTASYLAND, TOYSTORYLAND, MAIN STREET U.S.A., GrizzlyGulch และ ADVENTURELAND อะไรแบบนี้ แล้วแต่ละโซนจะมีเครื่องเล่น ธีมของตัวละคร โชว์ รวมถึงร้านอาหารไม่เหมือนกันเลย ก่อนมาเมย์มีวางแผนอยู่ว่าจะเที่ยวยังไงให้ครบทุกที่ใน 1 วัน แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ทำไม่ได้ เพราะมันกว้างมว๊ากกกกก เราเลยปล่อยตามสบายสรุปเที่ยวได้ประมาณ 2-3 ทีเองมั้งคะ แถมไม่ครบทุกเครื่องเล่นหรือโชว์ในแต่ละที่ด้วยอ่ะ
สิ่งแรกที่เรามองหากันเลยก็คือ
http://imageshack.us...3/dscf6842f.jpg
http://imageshack.us...79/dscf6843.jpg
เหตุผลก็ไม่มีอะไรมากค่ะ เมื่อยขา! 5555555+
นั่งรถไฟกินลมกันชิวๆ ขอชมบรรยากาศรอบๆ กันก่อนละกันนะ
http://imageshack.us...scf6844dcup.jpg
http://imageshack.us...6/dscf6845z.jpg
แต่นั่งไปได้แค่ครึ่ง map น้องสาวเมย์ก็ออกไอเดียว่าให้ลงเดินเหอะ มาทั้งทีต้องเที่ยวให้ครบ (ตูจะบ้าตาย) แต่ทุกคนก็ยินดีลงเดินนะคะ อ้อ! อยากบอกว่าห้องน้ำหาง่ายค่ะ ทริปเมย์มีคนแก่คือคุณแม่ไปด้วย หาห้องน้ำง่ายมากๆ ไม่มีปัญหาเลย ตั้งแต่ลงเครื่องจนกลับไม่ได้มีปัญหาในเรื่องนี้เลย คือคนสูงอายุจะมีปัญหาต้องเข้าห้องน้ำบ่อย ที่ฮ่องกงก็มีบริการจุดนี้ดีนะคะ ในดิสนีย์เองก็มีหลายจุด สะอาด คนเยอะแต่ห้องน้ำก็เยอะห้อง ไม่ต้องมาต่อแถวรอยาวเป็นหางว่าวแบบห้างในกรุงเทพฯเลย ทำไมห้องน้ำในไทยมันคนเยอะจังไม่แน่ใจ จะว่าห้องน้ำน้อยก็ไม่น่าใช่ เยอะออกนะ แต่ดูเหมือนคนจะเยอะกว่าห้องน้ำเสมอๆ เลยอ่ะ
ระหว่างอยู่บนรถไฟเราก็นั่งเปิดดูแผ่นพับต่างๆ ไม่พ้นเรื่องเอ่อ..
http://imageshack.us...21124135135.jpg
http://imageshack.us...21124135201.jpg
ใช่ค่ะ เรื่องกิน! 5555+ คือเดินเยอะแล้วเหนื่อยอ่ะ ใช้พลังงานมากก็เลยต้องเติมพลังกันไว มื้อเช้ากินแค่โจ๊กเอง ทุกคนเลยหิวกันหน้ามืดตาลายมาก มาถึงนี่ก็บ่ายแก่ๆ แล้วด้วยอ่ะ เลยหาที่กินกันก่อนเลย แวะลงจากรถไฟกันที่ FANTASYLAND เดินตรงเข้าร้านอาหารกันทันที แต่ต้องพบว่าเต็มที่ทุกโต๊ะ ไม่มีช่องว่างให้แมวเดินเลย คือคนหนาแน่นแน่นอนมาก แต่ด้วยความที่หิวจัดเลยเดินไปเม้าท์กับคุณเจ้าหน้าที่ (เจ้าหน้าที่ที่นี่พูด ENG กันได้หมดค่ะ) เลยได้เทคนิคเด็ดมาค่ะ ถามไปว่าทำไมโต๊ะเต็มหมดเลยล่ะค่ะ คุณพี่เค้าเลยบอกว่าจริงๆ หลังเคาน์เตอร์ด้านซ้าย ทางออกไปประตูหลังมีช่องทางลับซ่อนอยู่ เย้ย! ไม่ใช่ 555+ คือตรงนั้นมีพื้นที่ว่างอยู่ เราก็ขอบคุณใหญ่ แล้วเดินไปทางที่บอก เชื่อไหม เหมือนคนละโลก! โต๊ะวางเป็นสิบไม่มีคนเลย
และแล้วก็ให้น้องนั่งจองโต๊ะ(ที่ไม่รู้กลัวใครมาแย่ง) แล้วไปซื้ออาหารกัน หน้าตามื้อกลางวันประมาณนี้..
http://imageshack.us...21124140125.jpg
http://imageshack.us...21124140129.jpg
ขอบอกว่าอร่อยมากกกกกกกกก (ลากก็ไก่ไปยาวๆ เลย) แต่ก็แพงมากนะคะ 80 เหรียญ up! แต่จริงๆ ทุกอย่างในดิสนีย์แพงหมดค่ะ ไม่มีอะไรถูกเลย คงขายค่าความเป็นดิสนีย์ด้วย เราก็ยอมแหละ มาทั้งที หยิบเครื่องดื่มขวดเดียวเป็น Lipton Lemon Iced Tea ก็จืดเหมือนเดิม ราคาตั้ง 25 เหรียญ จะเป็นลม
http://imageshack.us...21124140137.jpg
http://imageshack.us...21124140147.jpg
ของแม่ ฉายเดียวตลอด งานนี้แม่เปรี้ยวเต็ม 100 มากค่ะ พูดได้ไม่ได้ไม่สน แม่สื่อสารด้วยท่าทางเอาค่ะ
หลังจากกินกันเสร็จ ก็เริ่มจุกเลยเดินย่อยกันค่ะ มีพื้นที่กว้างโล่งให้นั่งชิวมากมาย จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เล่นเครื่องเล่นใดๆ เลย และจะว่าไปหลังจากนี้ก็เล่นน้อยมาก ประมาณ 3-4 อย่างเท่านั้นเอง เพราะมันเหนื่อย+ปวดขา เลยเน้นเดินชมรอบๆ มากกว่าค่ะ
http://imageshack.us...21124142429.jpg
แต่เชื่อไหม เดินไปได้ไม่นาน แวะนี่อีกแล้ว!
http://imageshack.us...21124142617.jpg
55555+ จัดไป 1 ชุดสำหรับ popcorn รสคาราเมลราคาแพ๊งแพง (แต่อร่อยมากๆ) เมย์เลยจัดคาปูชิโน่ร้อนไป 1 แก้ว ด้วยความที่อยากหาเครื่องดื่มที่มันไม่จืดในฮ่องกงให้ได้ แต่ผลสุดท้ายมันก็จืดเหมือนเดิม เราต้องปรุงเอง แล้วขนาดใส่น้ำตาลไป 3 ซองก็ยังไม่มีความหวานเลย ขอยอมแพ้ค่ะ
หลังจากนี้พวกเราก็เตรียมพร้อมที่จะเล่นอะไรก็ได้ที่เดินไปถึง เพราะกินกันเยอะเกิน เริ่มจุกแล้ว ในฮ่องกงดีนะคะ บางเครื่องเล่นมันจะมีบัตร fast pass ให้เรา คือเราเอาบัตรตั๋วเรานี่แหละ สอดเข้าเครื่อง fast pass ไป แล้วทีนี่เราจะไปไหนก็ได้ เพียงแต่ต้องมาเล่นเจ้าเครื่องที่เราสเมือนจองเอาไว้ล่วงหน้าตามเวลา โดยไม่ต้องต่อคิว มีประโยชน์มาก เมย์ก็ใช้ไป 2 เครื่องสะดวกดีค่ะ ไม่ต้องยืนต่อแถวให้เสียเวลา ตอนแถวเยอะเราก็ไปที่อื่นก่อน กลับมาตามเวลาตั๋ว fast pass เอาก็ได้ค่ะ น่าเสียดายที่เมย์ไม่ได้ถ่ายภาพเครื่องเล่นใดๆ มาเลย เล่นไป 3-4 อย่าง ขอยืมภาพจาก google มาอธิบายนะคะ
http://imageshack.us.../dscf0491ig.jpg
ไม่รู้เหมือนกันว่าเรียกว่าอะไร เพียงแต่ดูน่ากลัวน้อยสุด และแถวยาวน้อยสุดเลยเล่นค่ะ แถวน้อยสุดก็รอตั้งเกือบ 20 นาที! (เห็นเค้าบอกว่าถ้าช่วงเทศกาลต่อกันเป็นชั่วโมง) เล่นก็มีคันโยกให้เราเอาเครื่องล่อนขึ้น-ลงได้ ก็สนุกพอประมาณ ให้ C ค่ะ
มาที่อันที่ 2
http://imageshack.us...6e4385735ea.jpg
อยากบอกว่าสนุกสุด! ตอนแรกไม่ได้คาดหวังเลยว่าจะสนุก แต่เห็นคนต่อไม่เยอะเลยเข้าไปต่อกัน คิดว่าแม่น่าจะเล่นได้ด้วยไง เลยไปกันหมดเลย 4 คน
http://imageshack.us...994/buzz1gl.jpg
เข้าไปแล้วจะมีรถหน้าตาประมาณนี้ให้เรานั่งได้คันละ 2 คนนะคะ
http://imageshack.us...4084/buzz3t.jpg
ภารกิจเราก็ยิงเป้าทั้งหลายโดยจะมีการนับคะแนน เมย์ว่าเกมนี้สนุกสุดเลยอ่ะ คือภาพถ่ายอาจบรรยายความสนุกออกมาไม่ได้ แต่นาทีที่เล่นจริงมันมีแสงสี มีเสียง รถที่เรานั่งก็หมุนได้ด้วย เราบังคับเอง มีคะแนนที่เรายิงขึ้นมาด้วย แม่เล่นชนะเมย์ขาดลอย!! อ้อ! ถ้าให้เกรดได้ก็ให้ B ค่ะ ชอบที่สุดเลย
http://imageshack.us...9126/buzz2q.jpg
สิ่งที่เมย์ว่าน่ากลัวและไม่ควรจะไปนั่งเลยก็เจ้านี้ค่ะ
http://imageshack.us...964/hkdl165.jpg
http://imageshack.us...actions001a.jpg
ไปอ่านรีวิวเค้าบอกสนุกมากควรเล่นสัก 2 รอบ พอเล่นไป 1 รอบ แถมให้แม่ขึ้นไปด้วย รู้สึกบาปเลย มันน่ากลัวอ่ะ ถึงงงว่าตอนจะขึ้นไป พนักงานรีบเดินมาถามเลยว่าแม่ไม่มีปัญหาสุขภาพ โรคหัวใจ ปวดหลัง ปวดคอ อะไรใช่ไหม ไอ้เราเริ่มกลัวแล้ว เจ้าหน้าที่ย้ำว่ามันค่อนข้าง scary เราเลยใจไม่ดี พอนั่งไปปรากฏทุกคนไม่มีใครกลัวเลยยกเว้นเมย์ 5555555+ สงสารตัวเองค่ะ ไม่สามารถให้เกรดได้ เพราะไม่ชอบเลย..
นอกจากนี้เมย์ก็ไปดูโชว์ Festival of the Lion King ในส่วนของ Adventureland ซึ่งเป็นการแสดงโชว์ละครเพลงที่มีธีมตัวละครจาก Lion King ค่ะ ถามว่าสนุกไหม แม่กับน้องชอบมากๆ แต่เมย์เหนื่อย+ง่วงเต็มทีเลยไม่ได้ตั้งใจดูมาก แต่นักแสดงเล่นกันได้ดี แสงสีตระการตามาก ดูได้เพลินๆ เลยค่ะ ของเมย์ดูรอบสุดท้ายของวันแล้วด้วย วิ่งกันเกือบไม่ทันแสดงแหนะ ภาพล่างนี้ credit google นะคะ อันไหนเมย์ไม่ได้ถ่ายเองจะบอกนะคะ
http://imageshack.us...727a2cf1782.jpg
http://imageshack.us...14c1361574z.jpg
http://imageshack.us...01110010010.jpg
http://imageshack.us...41a57812bc6.jpg
หลังจากชมโชว์จบพวกเมย์ก็ไปรอดูขบวนพาเหรด ซึ่งจัดเป็นอะไรที่หากคุณไปดิสนีย์ต้องรอชมอันดับต้นๆ วันนึงไม่แน่ใจโชว์กี่รอบนะคะ เมย์ชมไป 2 รอบ คือช่วงบ่ายๆ และมืดๆ ประมาณทุ่มหรือเปล่าไม่แน่ใจ เพราะอากาศหนาวมันมืดไวค่ะ ตอนกลางคืนจะสวยมาก เพราะทุกอย่างมืด และพวกปราสาทต่างๆ ไฟประดับจะเปิดกันเต็มพิกัด ดิสนีย์จะเหมือนเมืองในฝันไปเลยทีเดียวค่ะ สวยมาก อ้อ! แล้วเมย์ไปเดือน พย วันที่ 24 ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังจัดธีมคริสมาสต์พอดีเลยค่ะ โชคดีมากๆ บรรยากาศรอบๆ เลยประดับได้สมกับเทศกาลมาก ทั้งเพลงเปิดคลอ ตอนกลางคืนมีโปรยหิมะด้วยนะคะ คือเดินตามถนนตอนกลางคืนเหมือนมีหิมะตกจริงๆ เลยค่ะ เพราะหิมะละลายได้จริง ไม่ใช่เอาโฟมมาทำนะ
อันนี้ขบวนพาเหรดค่ะ ขอยืมภาพมาจาก google นะคะ เพราะเมย์ไม่ได้ถ่ายภาพไว้เลย น้องถ่ายแต่ video ไว้
http://imageshack.us...tasyparadeh.jpg
http://imageshack.us...eylandparad.jpg
http://imageshack.us...eylandparad.jpg
อันนี้ไปซื้อของฝากก่อนกลับค่ะ
http://imageshack.us...21124175116.jpg
http://imageshack.us...21124175139.jpg
ข้างในคนเยอะยังกะแจกฟรี ทั้งที่ของแพงทุกรายการ 55555+
http://imageshack.us...21124174911.jpg
http://imageshack.us...21124174803.jpg
http://imageshack.us...21124174900.jpg
แพ็คเกจแต่ละอย่างสวยมากๆ ค่ะ
http://imageshack.us...21124174639.jpg
http://imageshack.us...21124174555.jpg
เลือกของไปให้หลานค่ะ
แต่ละกล่องจะมีหน้าตาขนมจริงข้างในให้เราดูด้วยค่ะ
http://imageshack.us...21124174841.jpg
กว่าจะซื้อเสร็จข้างนอกก็มืดมากแล้วค่ะ บรรยากาศดีมากๆๆ
http://imageshack.us...21124175744.jpg
ไฟสวยจริงๆ ค่ะ อลังการมาก
http://imageshack.us...21124180014.jpg
http://imageshack.us...21124180355.jpg
http://imageshack.us...21124180208.jpg
ก่อนกลับแชะสักภาพเก็บไว้ในความทรงจำ มาดิสนีย์เมย์มีความสุขเพราะแม่มีความสุขค่ะ สำหรับคนเป็นลูกคงไม่มีอะไรสุขเท่ากับแม่เรามีความสุขหรอกเนอะ :)
http://imageshack.us...21124181328.jpg
พอกลับมาถึงโรงแรมพวกเมย์ก็แรงช้างมาก หลังจาไปดิสนีย์เดินทั้งวันรวมเมื่อวันแรกน่าจะเกิน 20 กิโล (เวอร์ไป) แต่ก็ไม่อาจขวางกั้นพวกเราจากความอยากเที่ยวได้ ผลสรุปคือพวกเราพักไปแป๊บเดียวก็ตัดสินใจนั่ง MTR ไป Tsim Sha Tsui เพื่อไปเที่ยวยังห้าง Harbour City ซึ่งเป็นห้างใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในแทบจิมซาจุ่ย แต่กว่าเมย์จะพาตัวเองไปถึงห้างก็ 3 ทุ่มจะครึ่งแล้วค่ะ ดังนั้นหลายๆ ร้านก็เริ่มปิดกันไปแล้ว แต่ในฮ่องกงเค้าเปิดกันสายปิดกันดึก เลยยังมีร้านเปิดอยู่พอสมควรค่ะ ทีนี่กว้างมากนะคะ ตอนแรกเมย์กะจะมาช้อป TOY R US ซะหน่อย เสียดายปิดไปแล้ว เลยไปซื้อพวกกาแฟสำเร็จรูป ขนม ของกินกันแทน
และวันที่ 2 มื้อเย็นเราก็ต้องฝากท้องกันที่ 7-11 ค่ะ กินอาหารสำเร็จรูปกัน มีให้เลือกเยอะเลย อยากบอกว่าที่นี่มีอาหารญี่ปุ่นเยอะมาก แทบจะเป็นอาหารหลักของคนที่นี่เลยมั้งคะ พวกเราก็เลยจัดมากันคนละกล่อง ราคาประหยัด และรสชาติอร่อยใช้ได้ด้วยนะคะ อ้อ! พอทานเสร็จเมย์ก็ไปช้อปห้างเล็กๆ ขายพวกของสดของสำเร็จรูปอยู่ชั้นใต้ดินของตึกใกล้ๆ 7-11 ได้ของกินพวกขนมและบะหมี่มาเยอะเหมือนกัน ฮ่องกงเป็นเมืองปลอดภาษี ดังนั้นใครชอบกินอาหารสำเร็จรูปจากต่างประเทศจะเจอของราคาถูกกว่าเมืองไทย เมย์ชอบกินข้าวราดแกงกะหรี่ เลยซื้อแกงกะหรี่สำเร็จรูปมา ถูกและรสใช้ได้เลย หรือสำหรับสาวๆ นะคะ ใครเข้าวัตสันที่นี่คงช้อปเพลินเพราะทุกอย่างถูกกว่าเมืองไทยทั้งนั้นเลย เยี่ยม!
มีต่อ(อีกยาว) REP ถัดไปค่ะ -->
ต่อค่ะ...
วันที่ 3
วันนี้วันสุดท้าย เมื่อวานอยากบอกว่าปวดขามว๊ากกกกกกกกกกค่ะ ไม่ว่าคุณจะหนุ่มสาว แข็งแรงแค่ไหน คุณจะต้องบ่นปวดขาแน่นอนเลยค่ะ ถ้ามาฮ่องกง
เช้าวันนี้แต่ละคนมีความเห็นไม่ลงลอยกันค่ะ น้องเมย์อยากกินอาหารไทยในฮ่องกง ไอ้เราก็คิดว่ามาทั้งที่จะกินอาหารไทยเนี่ยนะ เถียงกันน่าดู สรุปคือ เมย์ชนะ ด้วยคะแนนโหวต 3 รุม 1 5555+ โดยไปกินกันร้านนี้ค่ะ ร้านยืนกิน คนที่นี่ยืนกันเยอะจริงๆ ให้ตายเหอะ ทั้งเดินไวทั้งยืนนาน จะเป็นลม
http://imageshack.us...6/dscf6757w.jpg
http://imageshack.us...1/dscf6741l.jpg
สิ่งที่ดึงดูดเราให้เดินเข้าไปคือเมนูค่ะ มันมีเมนูภาษาไทยด้วย เราเลยพุ่งหลาวกันเข้าไปเลย อิอิ
http://imageshack.us...1/dscf6742o.jpg
http://imageshack.us...21125092618.jpg
เจ้าของร้านพูด ENG ไม่ได้ ไหนๆ ก็วันสุดท้ายแล้ว ที่เมนูมีชื่อภาษาอังกฤษเขียนคำอ่านภาษาจีนไว้ ก็เลยพูดจีนไป เจ้าของร้านยิ้มใหญ่เลยค่ะ สงสัยจะออกเสียงผิด กร๊ากกก แต่ก็ได้ของกินมาในที่สุด รสขาติเหมาะกับคนไทยดีจริงๆ เพราะมันเผ็ดด้วย ดีใจ! นึกว่าอาหารที่นี่จะไม่มีรสชาติซะแล้ว (แอบฮาเล็กน้อย คือพอกลับมาถึงไทยจึงนึกได้ว่า ทำไมเราไม่พูดภาษาไทยไปนะ ก็เมนูไทยก็มี เรื่องนี้คิดไม่ถึงจริงๆ งงตัวเอง 5555+)
http://imageshack.us...21125092606.jpg
เมนูแรกไม่อิ่มอ่ะ เพราะ 3 คนแย่งกันกินใหญ่เลย เลยต้องสั่งอีก 2 จานเพิ่ม ที่นี่ขนมจีบราคาถูกกว่าเมืองไทยมากค่ะ 8 ลูก 10 เหรียญ แต่รสชาติเมย์ว่าบ้านเราอร่อยกว่านะ ที่นี่มันจืดๆ หยุ่ยๆ หยึยๆ ยังไงไม่รู้ ไม่อร่อยอ่ะค่ะ ลอง 3 ร้านรสคล้ายกันทั้ง 3 ร้านเลย ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่
หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จเวลาก็เลทไปเยอะแล้ว เลยตกลงแยกย้ายกันช้อปปิ้ง เพราะเครื่องออกบ่าย 4 โมง ต้องไปให้ถึงสนามบินภายในบ่าย 1-2 โมง จริงๆ ตอนแรกว่าจะไปวัดกันซะหน่อย เพราะทริปนี้ยังไม่เจอพระเลย! ยังไม่ได้ทำบุญเลย แต่มันไม่ทันจริงๆ ค่ะ เพราะเวลาน้อยเกินไป เมย์ตัดสินใจไปย่านช้อปเกมแหล่งที่ 2 ปิดท้าย ซึ่งสถานที่นั้นก็คือ Golden Computer Arcade ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเกาลูน แถบย่าน Sham Shui Po ด้วยความที่ไม่อยากไปเสียเวลาไปงมหาเพราะคงไม่ทันแน่ เลยถาม doorman ที่หน้าโรงแรมว่าจะไปที่นี่ด้วยวิธีไหนเร็วสุด แน่นอนคำตอบคือ Taxi ถามไถ่งบประมาณคิดว่าไม่เกิน 50 เหรียญก็พอรับได้ เพราะรีบจริงๆ แต่เค้าแนะนำให้เราไปบอกเจ้าหน้าที่ lobby ให้เขียนชื่อสถานที่เป็นภาษาจีนให้ด้วย เราก็ทำตามค่ะ พอไปขึ้น taxi หน้าโรงแรมปั๊บก็เข้าใจเลย เพราะพูด ENG ไม่ได้ และไม่ค่อยจะพยายามฟังที่เราพูดเลย สื่อสารกันไม่เข้าใจเมย์เลยยื่นกระดาษที่มีภาษาจีนไป แล้วบอก just go เค้าก็ออกรถเลย
http://imageshack.us...21125110359.jpg
อ้อ! วันสุดท้ายฝนตกปรอยๆ ค่ะโชคดีตกวันนี้ ไม่งั้น 2 วันแรกหมดสนุก วันนี้อากาศหนาวกว่ามากด้วยเช่นกัน เช็ค GPS ในมือถือตลอดว่าคนขับอ้อมรึเปล่า ก็ไม่ได้อ้อมนะคะ แค่ขับช้า อิอิ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงค่ะ
http://imageshack.us...9/foto0525s.jpg
แต่ไม่อยากจะเม้าท์ว่าเมย์เข้าผิดตึก เดินตั้งนาน ร้านส่วนใหญ่ก็ยังไม่เห็นจะเปิด ร้านเกมก็ไม่มี เลยตรงไปถามคุณ รปภ แน่นอนว่าพูด ENG ไม่ได้ แต่ท่าทางอยากช่วยเรามากๆ เราเลยยื่นกระดาษภาษาจีนไปให้ เค้าเลย อ๋อ ใหญ่เลย ต้องพาเราออกจากตึกไปอีกตึกนึง ใจดีมากๆ ค่ะ ส่งถึงหน้าประตูทางเข้าเลย ตึกห่างกันนิดเดียวค่ะ หน้าตาที่ถูกต้องเป็นแบบนี้
http://imageshack.us...21125111311.jpg
อันนี้เมย์เดินวนไปเล็กน้อยก็เจอ MTR สถานี Sham Shui Po ทางออก D2 รู้งี้ขึ้นมาดีกว่า ประหยัดด้วย แต่เอาเถอะ ไอ้เราก็ไม่เป็น มันก็ต้องมีผจญนั่นนู่นนี่กันเองบ้าง
http://imageshack.us...6/foto0526a.jpg
หากใครขึ้น MTR มาออก D2 ตึกเกมนี้จะอยู่ตรงหน้าเลยค่ะ
http://imageshack.us...9/foto0527x.jpg
พอเข้ามาแล้ว จึงได้พบว่าร้านส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยจะเปิดกันเลย ก็ตรงไปถามคุณพี่ รปภ อีกเช่นเคย คราวนี้เป็นพี่ผู้หญิง พูด ENG ไม่ได้เช่นเดิม หลังจากยืนทำหน้าถอดสีอยู่นาน เค้าเลยยื่นกระดาษมาแผ่นนึง มีตัวเลขเขียนว่า "1" คือเมย์ถามไปว่าที่นี่ร้านเปิดกันกี่โมง คำตอบคือ บ่ายโมง!! แม่เจ้า จะเป็นลม ก็ขอบคุณเค้าแล้วเดินช้อปเท่าที่จะทำได้ค่ะ อ้อ! ร้านค้าในฮ่องกงจะเปิดกันสาย(มากๆๆๆ) แต่ก็จะปิดกันดึกกว่าในบ้านเราค่อนข้างมากเช่นกัน
ทางเข้ามาภาพเกมโปรโมทใหญ่โตชัดเจน
http://imageshack.us...21125111322.jpg
ร้านส่วนใหญ่ยังไม่เปิดเลย
http://imageshack.us...08/foto0520.jpg
http://imageshack.us...3/foto0522i.jpg
ที่นี่จะมีแค่ 2 ชั้นเองค่ะ แต่ค่อนข้างกว้างเหมือนกัน โดยชั้นล่างจะเป็นของเกี่ยวกับ IT ทั้งหลาย ส่วนชั้น 2 จะเป็นเกมทั้งหมด แม้ร้านจะเปิดค่อนข้างน้อยแต่ที่น่าแปลกใจคือ ราคาเท่าที่เช็คดู เมย์ว่ามันถูกกว่าย่านแรกที่ไปเมื่อวานหรือ 188 oriental shopping centre แถมรู้สึกว่าเกมมันหลากหลายกว่าด้วย ร้านน่าเข้ากว่า ที่น่าเดินกว่า ที่เมื่อวานมันเก่าๆ และไม่สะอาดเลย ออกแนวทึมๆ แต่ตึกนี้สว่างและดูน่าเดินกว่า อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ
http://imageshack.us...8/foto0523p.jpg
http://imageshack.us...7/foto0519k.jpg
หลังจากเดินดู 1 รอบ หลักที่เมย์บอกยังคงใช้ได้เหมือนเดิม ร้านแรกที่ให้สาว(สวยราว pretty) มานั่งขาย ราคาเกมแพงมากจริงๆ ค่ะ แพงจนงงเลยว่าไอ้ร้านติดกันเนียมันยังขายถูกกว่าตั้งเป็นสิบเหรียญแล้วใครจะซื้อกันหว่า
ไปเจอคุณป้าร้านหนึงภาษา ENG ขั้นเทพ และบริการขั้นเทพ เมย์เสียดายมากๆ เพราะร้านนี้มี Wii U ราคาดีด้วยค่ะ ก่อนมาฮ่องกงเมย์โทรถามร้านในไทย 3 ร้าน ทุกร้านบอกเหมือนกันหมดให้เตรียมเงินไว้ประมาณ 20,000 บาท ซึ่งทำให้เมย์ช็อคมาก เพราะตอนที่เมกาเปิดจอง เมย์จะจองแล้วแหละ หิ้วมายังไงก็ถูกกว่าล้าน % แต่ไอ้เราก็คิดว่าซื้อบ้านเราดีกว่า รอได้ไม่เป็นไร ที่ไหนได้ราคาพุ่งไปไกลลิบ เมย์เตรียมไว้แค่ 15,000 บาทสำหรับราคาสูงสุด ที่ฮ่องกงถามราคารุ่นเบสิคสีขาวราคา 13,xxx-14,xxx บาทค่ะ ซึ่งนับว่ามันถูกมาก แต่เมย์จัด PS Vita ไปแล้วเมื่อวาน ไหนจะซื้อของฝากตอนไปดิสนีย์อีก งบหมดแล้ว ทำให้เสียดายมาก รุ่นสีดำพรีเมียมราคา 16,xxx-18,xxx บาทค่ะ แล้วแต่ร้าน อันนี้ราคาวันแรกๆ เลยนะคะ ตอนที่ไทยยัง 20,000
http://imageshack.us...6/foto0518o.jpg
http://imageshack.us...3/foto0517h.jpg
http://imageshack.us...7/foto0516o.jpg
มีร้านนึงเมย์จัดมาตั้ง 4 เกม ขอลดนิดหน่อยก็ไม่ยอมลดให้ แต่ร้านนี้ถูกที่สุดแล้วเท่าที่เดินดูนะคะ เค้าบอกของเค้าถูกที่สุดแล้ว(ซึ่งก็จริง) ลดไม่ได้แล้ว จะจัดเพิ่มซะหน่อยเลยไม่เอาอ่ะ น้องสาวเมย์ซื้อยีนส์มือ 2 ลดได้ตั้งเกือบ 50 เหรียญ ไอ้เราก็งงว่าเพราะสินค้ามันคนละประเภทกันหรือเพราะเรามันต่อไม่เก่งกันแน่หว่า [aaa015] คราวหน้าไปถ้าไม่ลดจะไม่ซื้อ ต้องต่อให้สำเร็จให้ได้!
หลังจากช้อปจนเงินในกระเป๋าใกล้หมดเต็มทีน้องก็โทรตามยิกๆ เพราะกลัวตกเครื่อง เลยรีบกลับโรงแรม แต่ขากลับเมย์นั่ง MTR กลับเพราะเห็นแล้วแหละว่ามันมาง่ายกว่าที่คิด ไม่ยอมเสียอีก 50 เหรียญค่า Taxi หรอก (จริงๆ ขามามันประมาณ 47 เหรียญมั้งค่ะ จำเศษไม่ได้อ่ะ) และก็โชว์เปิ่นโดยการนั่งเลยป้ายไป 1 ป้ายซะงั้น แต่ที่นี่อะไรก็ง่ายไปหมด ไม่ต้องเดินไกล ไม่ต้องเดินข้ามฝั่งชานชลาใดๆ ทั้งสิ้น รู้ว่านั่งเลยก็แค่ออกจากตัวรถแล้วหันหลังกลับไปขึ้นอีกสายที่อยู่ตรงข้าม แค่นี้จริงๆ ค่ะ! พอถึงโรงแรมทุกคนก็เช็คเอาท์เตรียมไปสนามบินแล้ว แต่ก่อนจะกลับก็มิวาย(อีกแล้ว) หาของกินกันอีกรอบ 5555555+
ไม่ใช่อะไรหรอก มื้อเช้ามันน้อยมาก แถมเป็นอาหารประเภทของคบเคี้ยว อาหารว่างเท่านั้นเอง(เหรอ?) เลยไม่อิ่มขอจัดก่อนกลับไปสัก 1 เมนู
http://imageshack.us...7/foto0532f.jpg
เมย์ไม่เข็ดจริงๆ นะ สั่งเครื่องเดิมเป็นชา English Tea หรือชาใส่นมมาค่ะ แต่รสชาติก็แค่..ไม่กินอ่ะ จิบไป 1 อึกแล้วก็ไม่กินอีกเลย น้ำเปล่าบ้านเรายังอร่อยกว่า แต่ขนมปังทาเนยถั่วอย่างหนาก็พอใช้ได้อยู่
อันนี้ของน้องกับน้องเขยค่ะ
http://imageshack.us...21125123819.jpg
http://imageshack.us...21125123838.jpg
http://imageshack.us...21125123605.jpg
เครื่องดื่มปิดท้าย แหม..ไม่อยากจะเม้าท์ว่าจากที่ก็อวบอ้วนกันได้ที่อยู่แล้ว กลับมาน้ำหนักขึ้นกันท้วนหน้า! 555555555+
แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ เมย์โพสต์ภาพอาหารมาเยอะขนาดนี้ ก็ขอปิดท้ายจริงๆ ด้วยเมนูบนเครื่องดีไหมคะ อิอิ (ใครเข้าจะอยากดูกันฟะ)
http://imageshack.us...21125165328.jpg
รสชาติก็อร่อยพอประมาณ แต่ยังไงก็คงไม่มีอะไรสู้อาหารไทยได้หรอกค่ะ ตอนนั้นนั่งคิดถึงแต่ข้าวผัดกระเพรา+ต้มยำรสแซ่บๆ แจมด้วยลาบน้ำตกอะไรแบบนั้นตลอดทาง กร๊ากกก
โดยขอเล่าย้อนเล็กน้อย หลังจากเติมพลังกันเสร็จกว่าจะเดินทางไปสนามบินก็บ่ายโมงกว่าแล้ว ตอนนั้นเริ่มจะเครียดกันนิดๆ แต่มิวายนวยนาดคุยกันว่าจะไปช้อปที่ Duty Free หากไปถึง พวกเราตัดสินใจนั่ง Taxi ไปสนามบินกันค่ะ คนขับเป็นลุงแก่ๆ ท่าทางใจดี ลุงแกกินลูกอมตลอดทางเลยอ่ะ ไม่ยอมแบ่งมั่ง ขากลับฝนตกเยอะกว่าเดิมด้วย แต่ทุกคนโล่งใจมากเพราะว่าถ้าตกขามาคงเที่ยวไม่ออกแน่ ใช้เวลาชั่วโมงกว่าๆ ก็ไปถึงสนามบิน นานกว่าที่คิด แต่เมื่อคืนเมย์ check in ออนไลน์ในเว็บของ Cathay แล้วค่ะ ก็ได้รับ sms ยืนยันในมือถือ เราก็ตรงเข้าช่องโหลดกระเป๋าได้เลย ตอนแรกอะไรๆ ก็เหมือนจะดี เพราะดูไวกว่าที่คิด แต่ตอนจะเอาบัตร Octopus ไปแลกเอาเงินคืนมันยุ่งยากเพราะสนามบินกว้าง หาที่แลกไม่เจอ เสียเวลาตรงนี้ไปนานมาก กลายเป็นไม่ได้ช้อปอะไรเลย เซ็ง และจนแล้วจนรอดก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินกันไปถึง Gate โดนดุด้วยอ่ะเพราะมาสาย! แต่ก็ไม่มีอะไรค่ะ พอนั่งประจำที่ได้ปั๊บก็หลับทันที 555555+ P3t2 คือมันเหนื่อยมากๆ ง่ะ ถ้ามาทัวร์มันจะมีคนกำหนดเวลาต่างๆ ให้คุณ แต่ถ้ามาเองเราต้องมีวินัยที่จะไปไหนมาไหน กำหนดเวลาและวางแผนเอง ก็เลยเหนื่อยนิดนึง
แต่ขอสรุปตัวโตๆ ได้เลยว่า มาฮ่องกงเที่ยวนี้ สนุกมว๊ากกกกก และ เมย์ขอฟันธงและคอนเฟิร์มว่า เที่ยวฮ่องกงด้วยตัวเองนั้น "ง่ายนิดเดียว!!"
สุดท้ายไม่ท้ายสุด ไปทั้งทีก็มีของฝากมาจัดกิจกรรมด้วยจ๊า! เอาใจแฟนบอย(แฟนเกิร์ล)ทั้ง 3 เครื่องเลย! ส่วนกติกาจะประกาศในวันสองวันนี้ค่ะ ติดตามกันดีๆ น้อ แต่บอกล่วงหน้าว่ากด LIKE รอกันได้เลย)
http://imageshack.us/a/img543/9350/promo3games4.jpg
ป.ล. คือกระทู้มันจำกัดการโพสต์ภาพ ใครอยากอ่านแบบเห็นภาพตลอดไม่ต้องกดทีละภาพ คลิ๊กไปอ่านได้ที่
http://play3thai.com...p?topic=77436.0 หรือ http://forum.online-...pic/view/107289 เน้อ (หากผิดกฏก็ต้องขออภัยนะคะ คุณ MOD ไม่ได้มีเจตนาจะโยงไปบอร์ดอื่น เพียงแต่อยากให้อ่านสะดวกๆ ง่ะค่ะ เพราะอันนี้บางอันภาพไม่ขึ้นเลย)
อยากไปบ้างจังงงง
ส่วนตัวเป็นคนชอบเขียนชอบเล่าเยอะๆ อยู่แล้วน่ะค่ะ แต่โพสต์เยอะก็แอบกลัวคนอ่านจะเบื่อและตาลายไปซะก่อน แหะ แหะ 
