-ฮิบิกิ . . อสูรที่หายไป!!-
Note - เพื่อความลื่นไหลในการรับชม ควรจะใช้โปรแกรมช่วยโหลด เซฟเก็บไว้ดูในเครื่องจะดีกว่าชมแบบออนไลน์ค่ะ
+Kamen Rider Decade Episode 18 1/3+
http://www.youtube.com/watch?v=wfcrtQjhts0
+Kamen Rider Decade Episode 18 2/3+
http://www.youtube.com/watch?v=qTbKqQO2MHM...feature=related
+Kamen Rider Decade Episode 17 3/3+
http://www.youtube.com/watch?v=ZveuOD-cqpE...feature=related
--------------------------------------------------------------
-ไม่ดูคลิปก่อน ข้ามมาอ่านเลยไม่รู้ด้วยนะคะ-
+ความใหม่ตอนนี้+
+”โลกของฮิบิกิงั้นเรอะ” สึคาสะบ่นพึมพำ ขณะเดินท่องอยู่ในป่ากับยูสึเกะ และนัตสึมิมาตลอดทาง . . ซึ่งดูไม่เข้ากับเครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่นโบราณ สีชมพูสด ที่ทาบทับตัวเขาอยู่เลยแม้แต่น้อย . . นัตสิมึตั้งข้อสังเกตว่าบางทีมิติแห่งนี้ อาจจะเป็นโลกที่สึคาสะจากมาก็เป็นได้ . . หากเป็นแบบนั้นจริง การเดินทางอันยาวนานของพวกเขา ก็อาจจะจบลงในเร็ววันนี้เป็นแน่
+แต่จู่ๆ นัตสึมิก็กลับนึกถึงคำพูดทิ้งท้ายของคุณลุงฮิคาริขึ้นมาได้ว่า หากการเดินทางครั้งนี้จบลงเมื่อไหร่ การเดินทางครั้งใหม่จะเริ่มต้นขึ้นแทนซะนี่
“ก๊า . . ก๊า . . อา อา อา . . ก๊า~ก๊า . . อ๊า อ๊า . . อา อา”
+จู่ๆ ก็มีเสียงประหลาดเสียงหนึ่งดังขึ้นในป่าที่เงียบสงัดแห่งนี้ ซึ่งสึคาสะรู้ได้ทันที ว่านั่นคือเสียงของศัตรูร้ายในโลกนี้ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ “มากาโม่” นั่นเอง
+ไม่ทันขาดคำ มากาโม่ตนหนึ่งก็แสดงตัวออกมา เบื้องหน้ามนุษย์ผู้ท้าทายทั้งสามทันที “เฮ้ย!! . . กะ กะ . . กับ~ กับปะ!?” ยูสึเกะเผลอว้ากออกมาเสียงหลง
+”อันตรายครับ กรุณาหลีกทางด้วย” พลันนั้น เด็กชายคนหนึ่งในเครื่องแต่งกายประหลาด ก็ปรากฏตัวขึ้นมา และตรงเข้าเล่นงานมากาโม่ร้ายทันที “ย้ากกกกกกกกก”
+หนึ่งมนุษย์ กับหนึ่งปีศาจเข้าปลุกปล้ำ ไล่รุกกันอย่างพัลวัน แม้เด็กชายลึกลับจะมีฝีมือ แต่ก็มิอาจทานพลังของมากาโม่กับปะได้ ที่สุดแล้วสึคาสะก็เลยต้องยื่นมือเข้าช่วยทันที
+“เจ้าหนูเอ๊ย . . จับตาดูการต่อสู้ของชั้นไว้ให้ดีๆ ล่ะ!?” สึคาสะเปรยพอเป็นกระสัย พลางสืบเท้าเข้าหาศัตรูอย่างมั่นใจเหมือนเช่นเคย
+ด้วยฝีมือระดับนี้ แม้แต่มากาโม่กับปะก็คงยากจะต่อกรด้วยแน่นอน . . พอถึงคราวคับขัน มันก็เลยอาศัยภูมิประเทศที่ได้เปรียบ และความไวของตัวเองเป็นประโยชน์ในการลอบโจมตีเอาซะแทน
+เจอเข้าแบบนี้ สึคาสะก็ไม่รอช้า หยิบการ์ด “คาบูโตะ” ขึ้นมา แล้วรีบเปลี่ยนฟอร์มเพื่อรับมือทันที
KAMEN RIDE “KABUTO”
+แม้จะเร็วขนาดไหน แต่จะหนีความไวของ “คล็อก อัพ” ได้เชียวหรือ!? ว่าแล้วเขาก็เสียบการ์ดใบที่สอง ต่อเนื่องทันที
ATTACK RIDE “CLOCK UP”
+ภายใต้ห้วงเวลาที่คืบคลานจนแทบจะหยุดนิ่งนั้น มีเพียงสึคาสะเท่านั้นที่เคลื่อนไหวได้ดังใจ . . เขาปรี่เข้าหามากาโม่ร้ายที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศ แล้วตวัดเท้าเตะออกไปด้วยไรเดอร์ คิ้กทันที!!
เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงง
+โดนเข้าเต็มๆ แบบนี้ มีรึจะเหลือ!? หลังจากคืนร่าง เด็กชายลึกลับถึงกับตะลึงในความเก่งกล้าของสึคาสะเป็นอย่างมาก . . ยูสึเกะจึงถือโอกาสนี้สอบถามเรื่องของฮิบิกิทันที แต่ก็ได้ความมาว่า เด็กชายนั้นแท้ที่จริงแล้วมีชื่อว่า “อาสึมุ” ส่วนฮิบิกิที่ว่านั้นคืออาจารย์ของเขาเอง . . สึคาสะ และเพื่อนๆ จึงขอตามไปพบอาจารย์ฮิบิกิด้วย
+อาสึมุพาทุกคนมาพบฮิบิกิที่เต้นท์ริมน้ำตามที่รับปาก แต่กลับเจอหนุ่มใหญ่ท่าทีหน่ายโลกคนหนึ่งรออยู่แทน
+“นายน่ะเหรอ ฮิบิกิน่ะ!?” สึคาสะเอ่ยถามแบบไม่มั่นใจ แต่กลับได้รับคำตอบที่น่าสับสนยิ่งกว่าจากปากชายแปลกหน้าคนนี้แทน “โฮ่ . . ชุดแจ่มมาเชียวนะ . . อาจารย์ขององเงคิโดน่ะ อยู่ที่นี่แล้วยังไงล่ะ!!”
+ก่อนที่พวกสึคาสะจะงงไปมากกว่านี้ อาสึมุจึงเสริมขึ้นมาว่า องเงคิโดก็คือเหล่าศิลปิน ผู้ใช้เสียงอันบริสุทธิ์จัดการกับศัตรูร้ายอย่างพวกมากาโม่นั่นเอง . . ทำเอาสึคาสะเริ่มฝันเฟื่องว่าตนคืออาจารย์ใหญ่ขององเงคิโดทันที (ฮา)
+อาสึมุแจ้งฮิบิกิว่า ตนพบเบาะแสการปรากฏตัวของพวกมากาโม่อีกครั้ง . . แต่ชายแปลกหน้ากลับมีท่าทีไม่สนใจ พร้อมโบ้ยให้สึคาสะช่วยรับช่วงดูแลเด็กคนนี้ต่อแทน ก่อนจะหลบฉากไปงีบต่อซะอย่างนั้น โดยไม่ฟังคำทัดทานของเด็กชายแม้แต่น้อย “ชายผู้นี้เป็นไรเดอร์แน่หรือ!?” ยูสึเกะครุ่นคิดอย่างเป็นกังวล
+ขณะเดียวกัน ก็ปรากฏมากาโม่ร้าย 3 ตนกำลังอาละวาด เข้าเข่นฆ่าทำร้ายผู้คนอยู่กลางเมืองพอดี . . แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป จู่ๆ เจ้าสำนักองเงคิโด “ซันกิ” แห่งซันกิ ริว ก็ปรากฏตัวมาขวางไว้ซะก่อน
+“เฮอะ!! ข้าคืออสูร” ว่าแล้วเขาก็แปลงร่างเป็นคาเมน ไรเดอร์อสูร ซันกิทันใด
+“พลังเสียงที่แท้จริงของกีต้าร์ คือพลังที่ใช้ฟาดฟัด!!” สิ้นคำเขาก็ดิ่งเข้าจัดการศัตรูร้ายด้วย “องเงคิเกนเร็ตสึซัน” กีต้าร์มหากาฬคู่ใจทันที “สายฟ้าฟาด ปฐพีหวั่นไหว!! . . ย้ากกกกกกกกกกกก”
+แต่จู่ๆ อนงค์น้อยโฉมสะคราญกลุ่มหนึ่งก็เยื้องกายเข้ามา พร้อมชายหนุ่มมาดสำอางบนเส้นทางดอกไม้โปรย ที่แท้ เขาคืออาจารย์อิบูกิ เจ้าสำนักองเงคิโด อิบูกิ ริวนั่นเอง!!
+มาถึงก็ไม่รอช้า สะบัดนิ้วกรีดกรายสะบัดส้อมเสียง แล้วแปลงร่างเป็นคาเมน ไรเดอร์อสูร อิบูกิทันที
+“พลังเสียงของทรัมเป็ต คือเสียงแห่งสายลม” ว่าแล้วก็รับอาวุธคู่ใจ “องเงคิเรปปู” จากศิษย์รัก และรี่เข้าจัดการศัตรูเบื้องหน้าโดยพลัน “ลมกระหน่ำ กรรโชกคล้อย!! . . ย้ากกกกกกกกกกกก”
+ในที่สุดสองอสูรผู้กล้าแกร่งก็สามารถบรรเลงเพลงแห่งความตาย สวดส่งมากาโม่ชะตาขาดกลับบ้านเก่าไปจนได้ ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่สามหนุ่ม-สาวจากต่างมิติ มาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี “นั่นน่ะเหรอ . . องเงคิน่ะ!?” สึคาสะเปรยด้วยความสนใจ
+ที่สุดแล้ว ก็ยังเหลือมากาโม่อีก 1 ตนที่สามารถรอดมาได้ แต่แทนที่จะร่วมมือกัน สองอสูรผู้ไม่ลงรอยกลับแย่งกันกำจัด จนหวุดหวิดจะมีเรื่องระหว่างสำนักแทนซะนี่ . . มากาโม่ก็เลยฉวยจังหวะนี้ เตลิดหนีไปจนได้
+แต่ก็เข้าทางสึคาสะที่รออยู่แล้วพอดี ว่าแล้วก็จัดการแปลงร่างเป็นดีเคด และสอนมวยมากาโม่ร้ายด้วยไรเดอร์ คิ้กที่แสนจะภูมิใจทันที . . ซึ่งก็สร้างความตกใจให้กับ 2 ไรเดอร์เจ้าถิ่นเป็นอย่างมาก
+“เฮ้ย . . แกน่ะ!! ชื่อดีเคดสินะ . . ได้ยินว่าแกจะเป็นผู้ทำลายโลกทั้งหมดอย่างนั้น จริงๆ น่ะรึ!?” ซันกิถามอย่างมีอารมณ์
+”งั้นมั้ง” สึคาสะตอบแบบยียวน พร้อมคืนร่างอย่างไม่สนใจสักนิด “ก็อย่างที่เห็นน่ะแหล่ะนะ ชั้นคืออาจารย์ใหญ่ยังไงล่ะ!?”
+อิบูกิที่อ่านคนออก จึงเชิญชวนให้สึคาสะเข้าร่วมสำนักของตนด้วยคำหวานเยินยอทันที ซึ่งก็ได้ผลจริงๆซะด้วย เพราะหมอดูจะเริงร่ากับบรรดาสาวงามในสำนักมิใช่น้อย และยอมตามไปแต่โดยดี (ฮา)
+ทำเอายูสึเกะที่สังเกตการณ์อยู่ ถึงกับออกอาการกระฟัดกระเฟียดด้วยความแค้นใจ “สึคาสะเอ๊ยยยยย!! . . แหม . . มันน่าอิจฉาจริงๆ เลยว้อยยยยยย . . อิจฉ๊า . . อิจฉา!!” (ฮา2)
+กลับมาทางฝั่งอาสึมุ ที่ยังคงเพียรขยันฝึกตนอย่างขมักเขม้นเช่นเคย “คอยดูนะ . . ผมจะต้องเป็นอสูรให้ได้!!” แต่ดูฮิบิกิจะไม่ใส่ใจศิษย์รักเอาซะเลย พลางลงมือทำลายอุปกรณ์ฝึกของเด็กชายอีกตะหาก “พอซะทีเถอะน่า . . ไอ้เรื่องน่าเบื่อแบบนี้น่ะ . . หือ!?” ทำเอาอาสึมุถึงกับอึ้งถึงพฤติกรรมของอาจารย์ตัวเอง ที่ดูแปลกไปในพักหลังๆ นี้
+“แววตาอันเข้มแข็งของคุณหายไปไหนแล้วล่ะครับ แล้วไม่คิดจะสอนผมแล้วอย่างนั้นเหรอ!?” เด็กชายถามอย่างร้อนรน แต่ท่าทีของฮิบิกิ ก็ยังคงเบื่อหน่ายอยู่เช่นเคย . . ทว่า . . การสนทนาครั้งนี้ หาได้รอดพ้นสายตาของไคโตะที่เฝ้าจับจ้องอยู่แต่อย่างใดไม่!?
+“เฮอะ . . สมบัติที่ว่า คงเป็นคัมภีร์ที่อยู่ในเป้ใบนั้นสินะ” ไคโตะยิ้มย่องด้วยความดีใจ กับเป้าหมายใหม่ในโลกนี้ แต่เมื่อลอบเข้ามาใกล้ กลับถูกฮิบิกิที่ไม่ได้มีตาหลัง โต้กลับจนชะงักไว้จนได้
+”วันนี้แขกเยอะจริงๆ น๊า . . ก็ดีเหมือนกัน . . นี่ เจ้าหนู ชั้นไม่มีอะไรจะสอนเธอแล้วล่ะ . . ชายคนที่เห็นนั้นคืออาจารย์ใหม่ของเธอยังไงล่ะ” ว่าแล้วก็ผายมือมาทางไคโตะ ที่เฝ้าดูท่าทีอยู่ทันที พร้อมกับเดินหนีไปอย่างสบายใจ
+”ตาลุงนั่น . . ไม่เปิดช่องว่างให้สักนิดเลยแฮะ!!” ไคโตะกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ด้วยเพราะทำอะไรไม่ได้เลย
+ฝั่งสึคาสะ ที่ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากอิบูกิ และศิษย์สาว ก็กำลังนั่งจิบน้ำชาอย่างมีความสุข . . อิบูกิจึงเล่าเท้าความเรื่องราวของสำนัก และแสดงคัมภีร์ที่ซ่อนขององเงคิโดล้ำค่าให้ดู ซึ่งแต่เดิมนั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 คัมภีร์ . . บางที นี่อาจจะเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้แต่ละสำนักไม่ถูกกันก็เป็นได้ . . ซึ่งความตั้งใจของอิบูกิ ก็คือการทำให้สำนักของตนก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง และครอบครองสมบัติทั้งหมด . . แน่นอนว่าอาจารย์ใหญ่อย่างสึคาสะนั้น ไม่พลาดที่จะช่วยบรรดาลูกศิษย์อยู่แล้ว
+ฝั่งอาสึมุที่นั่งปรึกษากับไคโตะอยู่ที่ศาลเจ้าเอง ก็กำลังว้าวุ่นใจมิแพ้กัน ด้วยเพราะเด็กชายทราบดีว่าองเงคิโดนั้น แต่เดิมจะรวมกันเป็นหนึ่ง แต่ต่อมาแยกออกเป็นสามสายคือ ฮิบิกิ ริว (สายตี) , ซันกิ ริว (สายดีด) และ อิบูกิ ริว (สายเป่า) โดยมีคัมภีร์ 3 เล่มเป็นตัวแทนจิตวิญญาณ . . แต่อาสึมุนั้นไม่ได้สนใจเรื่องคัมภีร์ล้ำค่าแม้แต่น้อย เขาแค่อยากเป็นลูกศิษย์ของอสูรฮิบิกิเพียงแค่เท่านั้น ด้วยเพราะฮิบิกิเคยแนะนำว่าเขามีพรสวรรค์ที่จะเป็นนักรบอสูรได้นั่นเอง . . แต่ตอนนี้ คงเป็นได้แค่ฝัน เพราะเขาถูกฮิบิกิทอดทิ้งเสียแล้ว . . .
+ไคโตะจึงปลอบใจว่าจะไปขโมยคัมภีร์ของสำนักซันกิ ริว กับอิบูกิ ริวมาให้ พร้อมกับให้กำลังใจว่า “หากตั้งมั่นจะทำอะไรขึ้นมาจริงๆแล้ว ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้อย่างแน่นอน!!“ ทำเอาอาสึมุถึงกับอึ้ง เพราะวลีที่ไคโตะพูดนั้น ช่างเหมือนกับคำสอนของฮิบิกิ อดีตอาจารย์ของเขาเหลือเกิน . . .
+ที่สำนักซันกิริว ขณะที่ทุกคนกำลังฝึกหนักอย่างคร่ำเคร่ง เพื่อก้าวขึ้นเป็นหนึ่งขององเงคิโด แต่จู่ๆ ศิษย์ลูกสำนักคนโปรดก็ดันทำของชิ้นหนึ่งตกลงมา . . เจ้ากรรม ที่แท้เป็นรูปของสาวต่างสำนักนี่เอง ที่ทำให้อาจารย์ซันกิถึงกับหัวเสียอย่างมาก (^ ^ )แต่แล้วไคโตะก็บุกมาซึ่งๆ หน้า และแสดงฝีมือที่เหนือชั้นสยบศิษย์เอกของสำนักลงได้อย่างง่ายดาย พร้อมกับขอเข้าร่วมสำนักซันกิ ริวด้วยความเต็มใจทันที
+อาสึมุเก็บข้าวของมาลาอาจารย์ของเขาที่ริมน้ำ พลางขอร้องให้ฮิบิกิเปลี่ยนใจ ยอมรับเขาเป็นศิษย์อีกครั้ง แต่หนุ่มใหญ่กลับให้คำตอบว่า “ฉันน่ะนะ เลิกเป็นอสูรแล้ว!! ยุคสมัยของฮิบิกิ ริว ก็คงจบลงที่ฉันนั่นล่ะ” แม้อาสึมุจะทักท้วงสักเท่าไร แต่ก็มิอาจทัดทานการตัดสินใจของชายผู้นี้ได้ “สนุกกับชีวิตให้มากๆ เถอนะ เจ้าหนู!!” ฮิบิกิยิ้มให้ พลางลุกขึ้นจากไป
+ทันใดนั้นเอง . . มากาโม่ตนหนึ่งก็แสดงตัวขึ้น พร้อมเดินรี่มาหาทั้งคู่ทันที “ถอยไปซะเจ้าหนู ออกไปให้ห่างจากชั้นเร็ว” ฮิบิกิเตือนอย่างเป็นห่วง แต่อาสึมุดึงดันจะขอร่วมสู้ด้วย “คุณฮิบิกิ . . ทำไมคุณไม่แปลงร่างเป็นอสูรแล้วสู้กับมันล่ะครับ!?” เด็กชายเอ่ยถามอย่างร้อนรน ขณะที่ฮิบิกิมีทีท่าลังเล . . จังหวะนั้นยูสึเกะ กับนัตสึมิก็ผ่านมาพบเข้าพอดี
+มากาโม่ตัวร้ายปราดเข้าโจมตีสองมนุษย์เบื้องหน้าทันที แต่ฮิบิกิก็ยังคงไม่แปลงร่าง ร้อนถึงยูสึเกะจำต้องแปลงร่างเป็นคูกะมาขวางไว้จนได้ แต่ขณะที่นัตสึมิกำลังจะตามไป จู่ๆ นารุทากิก็มาดักไว้ซะก่อน
+“ดีเคดเดินทางไปจนครบโลกทั้ง 9 ใบแล้ว . . หลังจากการเดินทางครั้งนี้จบลง โลกจะถูกทำลาย!?” ชายแปลกหน้าเอ่ยขึ้น แต่นัตสึมิคัดค้านว่าข้อเท็จจริงที่เธอรับรู้มาก็คือ “การที่ดีเคดเดินทางไปยังโลกทั้ง 9 แห่งนั้น ก็เพื่อปกป้องโลกต่างหาก” ทำให้นารุทากิถึงกับระอา ด้วยเพราะคิดว่านัตสึมินั้นไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยสักนิด!?
+ยูสึเกะในร่างคูกะก็เก่งกาจมิใช่ย่อย หลังจากซัดมากาโม่ลึกลับจนกระเด็นไปแล้ว ก็รี่เข้ามาดูอาการของหนุ่มใหญ่ทันที “เป็นอะไรมากไหมครับ คุณฮิบิกิ!?” แต่มากาโม่ร้ายฉวยโอกาสนี้ เล่นงานยูสุเกะผู้ไม่ทันระวังตัวทันใด
+ในที่สุด ฮิบิกิก็ได้สติ เขาฮึดแข็งใจลุกขึ้นมา แล้วเคาะส้อมเสียง แปลงร่างเป็นไรเดอร์ อสูร ฮิบิกิ เข้าช่วยผู้มีพระคุณทันที
+อสูรผู้หลับใหล ตรงเข้าโจมตีมากาโม่อย่างเกรี้ยวกราด แล้วพิชิตศึกด้วยท่าไม้ตาย “เพลิงพระกาฬผลาญปีศาจ” ทันที
ตุ้ม ตุ้ม ตุ้ม . . ตุ้ม ตุ้ม ตุ้ม
+เป็นไปตามคาด . . หลังจากหยุดมือบรรเลงเพลงอสูรชุดสุดท้าย มากาโม่ตัวร้ายก็วายปราณ . . แต่จู่ๆ ฮิบิกิก็เกิดอาการประหลาด เขาคลุ้มคลั่ง ควบคุมจิตใต้สำนึกไม่ได้ และกลายร่างเป็น “มากาโม่วัวร้าย” ในที่สุด ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน . . หรือนี่จะเป็นผลแทรกซ้อนของการฝึกวิชาอสูรกันแน่นะ!?
+ว่าแล้วฮิบิกิในร่างอสูรร้าย ก็ตรงเข้าเล่นงานยูสึเกะอย่างไม่ยั้งมือทันที “คุณฮิบิกิ เป็นอะไรไปครับ!!” ยูสึเกะที่ไม่กล้าตอบโต้ หลบหลีกเป็นพัลวัลทันที แต่จะหนีได้สักเท่าไหร่กัน!?
+ขณะเดียวกัน ทางฝั่งของสำนักอิบูกิ ริว . . เมื่อได้สาส์นท้าประลองจากซันกิ สึคาสะ และอิบูกิก็ตัดสินใจรับคำท้าทันที แม้จะรู้สึกคาใจที่เห็นลายเซ็นของไคโตะลงท้ายจดหมายอยู่ก็ตาม
+ณ ลานประลอง กลางทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา ที่ซึ่งเหล่าศิษย์ทั้งสองสำนักยืนประจันหน้ากัน แม้จะไม่ได้เห็นชอบจากคู่รักต่างสำนัก ที่ต้องมาห้ำหั่นกันเองก็ตาม “หากพวกเรายังคงขัดแย้งกันเองแบบนี้ เห็นที 'องเงคิโด' คงจะหมดสิ้นอนาคตเป็นแน่” ศิษย์สาวคนโตของสำนักอิบูกิรำพัน
+กระทั่ง เหล่าอาจารย์ เจ้าสำนักเองก็ยังยืนเผชิญหน้ากัน “เวลาสำคัญมาถึงแล้ว ผู้ชนะในศึกนี้ จะได้ครอบครององเงคิโด” ทั้งคู่กล่าวข่มขวัญกันและกัน พลางส่งตัวแทนสุดแกร่งจากสำนักของตนเข้าสู้ศึกแห่งศักดิ์ศรีนี้ทันที . . โดยตัวแทนของสำนักอิบูกิ ริวก็คืออาจารย์ใหญ่อย่างสึคาสะนั่นเอง ส่วนทางฝั่งซันกิ ริวเองก็ไม่น้อยหน้า ส่งไคโตะลงรับศึกทันทีเหมือนกัน
+”สึคาสะ . . นายน่ะ เลิกขวางมือขวางเท้าชั้นซะทีเถอะน่า!!” ไคโตะเย้ยอย่างมีอารมณ์ แต่ก็ถูกสวนกลับด้วยวลียียวนไม่แพ้กัน “ไคโตะ ที่นายโผล่มานี่ คงวางแผนอะไรไว้อีก อย่างนั้นสินะ” ว่าแล้วสองไรเดอร์ ก็หยิบการ์ดคู่ใจขึ้นมาแล้วแปลงร่างดวลกันทันที “แปลงร่าง”
KAMEN RIDE “DECADE”
KAMEN RIDE “DI END”
+สองไรเดอร์จากต่างมิติเข้าปะทะแลกหมัดกันอย่างดุเดือด และเป็นดิ เอ็นด์ที่สามารถชิงความได้เปรียบมาได้ก่อน หลังจากส่งดีเคดลงไปนอนอย่างไม่ทันรู้ตัว . . แต่แล้ว สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ ดิ เอ็นด์ก็ใช้การ์ด INVISIBLE ชิงหายตัวไปซะดื้อๆ แบบนั้น
+”อาจารย์ครับ . . เกิดเรื่องใหญ่แล้ว คัมภีร์สำนักเราหายไป!?” ลูกศิษย์ของสำนักซันกิ ริววิ่งมาแจ้งข่าวซันกิอย่างกระหืดกระหอบ สร้างความเดือดดาลให้กับซันกิเป็นอย่างมาก ในขณะที่ลูกศิษย์สาวของสำนักอิบูกิ ก็โร่มาแจ้งข่าวว่าคัมภีร์ของสำนักตนก็หายไปอย่างลึกลับเช่นกัน ทำเอาอิบูกิถึงกับหัวเสียไม่เบาเลยทีเดียว
+ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย “เป็นฝีมือของนายสินะ” สึคาสะพูดอย่างรู้ทัน พลางหันไปหาไคโตะที่ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง “หึ หึ . . นี่น่ะเหรอ ศิลปิน . . ช่องโหว่เต็มไปหมดเลยนะ เฮอะ!!” ไคโตะยิ้มเยาะ พลางโชว์คัมภีร์ทั้งสองเล่มที่ฉกไปให้ดู
+”เอาคัมภีร์คืนมานะ!!” สองเจ้าสำนักคำรามลั่น พลางคืนร่างเป็นไรเดอร์ อสูร เตรียมตอบโต้ทันที แต่ไคโตะไม่ได้หวาดหวั่นเลยสักนิด เขาหยิบการ์ดใบหนึ่งขึ้นมา แล้วเรียกไรเดอร์ในสังกัดมาช่วยรับมือทันใด
KAMEN RIDE “DEN-O”
+ไม่น่าเชื่อ เป็นเดน-โอนั่นเองที่ปรากฏกายตรงหน้า “ฮะ ฮะ !! พระเอกมา~แล้ . . .” ไม่ทันขาดคำ ไคโตะก็เสียบการ์ดใบใหม่ตามลงไปทันที
FINAL FORM RIDE “DEN-O”
+แล้วเดน-โอที่ว่า ก็กลายสภาพเป็นโมโมทารอส จอมเด๋อโดยพลัน “เวรเอ๊ยยยยยยย ทีหลังให้ชั้นพูดจบก่อนเด้ ไอ้กร๊วกนี้” ว่าแล้วโมโมจอมบ๊องก็เดินรี่หมายจะเอาเรื่องไคโตะทันที แต่ก็ขัดคำสั่งของไคโตะไม่ได้ (ฮา)
+”ว่าไง๊ . . ว่าไง . . พวกแกเนี่ยเป็นอสูรกันหมดเลยใช่มะ!! เอาล่ะเฟ้ย เอาล่ะเฟ้ย . . ทีนี้ได้มันส์แน่” โมโม่ดีใจจนเนื้อเต้น “งั้นฝากด้วยแล้วกันนะ . . ไปล่ะ!!” แล้วไคโตะก็จากไปอย่างสบายใจทันที
+“เฮอะ!! ก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าเกิดอะไรขึ้น . . แต่อย่างว่านะ . . ขอจัดการให้หมดเลยละกัน” โมโมเย้ยอย่างสะใจ พลางปราดเข้าโจมตีทุกคนในลานประลองทันที “ลุยละเฟ้ย . . ลุยละเฟ้น . . ลุยละเฟ้ย!!”
+ฝั่งอาสึมุก็ออกตามหาฮิบิกิอย่างเป็นห่วง แต่แล้วก็มาเจอกับดิสค์ แอนิมอล* 2 แผ่นตกอยู่ “ของคุณฮิบิกินี่” อา
สึมุพึมพำพลางเก็บขึ้นมา แต่ก็ได้ยินเสียงต่อสู้ของคนกลุ่มหนึ่งเข้า แน่นอนว่าเป็นการตะลุมบอนของโมโม่ กับไรเดอร์อสูรเจ้าถิ่นนั่นเอง . . แต่ขณะนั้นเอง ฮิบิกิในร่างอสูรร้ายก็พุ่งเข้ามา และโจมตีทุกคนอย่างไม่เลือกหน้าทันที ซึ่งโมโม่ก็ไม่พลาด ถูกอัดเข้าเต็มๆ แบบไม่ทันตั้งตัวจนหายวับไปกับตา (^ ^)
+ฝั่งบรรดาลูกศิษย์ของทั้งสองสำนัก ที่มารอรับมือ ต่างก็รู้สึกเกรงกลัวอสูรร้ายตนนี้กันถ้วนหน้า . . อาสึมุที่เข้ามาสมทบด้วยจึงบอกว่า ฮิบิกิในร่างอสูรร้ายคือมากาโม่ในตำนาน “กิวกิ” ที่ไร้ผู้ต่อกรนั่นเอง
+ไม่ทันขาดคำ มากาโม่วัวเหล็ก “กิวกิ” ก็พุ่งเข้าโจมตี 2 อสูรเบื้องหน้าทันที . . ความแข็งแกร่งของกิวกินั้น ไม่ต้องพูดถึง เพราะแม้ครั้งนี้ 2 ไรเดอร์ผู้ไม่ลงรอย ร่วมมือกันก็มิอาจต้านทานกำลังของมันได้ และถูกเล่นงานจนหมดสภาพไปตามๆ กัน . . ที่สุดแล้ว ก็เหลือเพียงสึคาสะคนเดียวที่ยังปักหลักต่อสู้อยู่ . .
+แม้จะเก่งกาจเพียงใด แต่สึคาสะผู้เดียวก็ยากจะต้านอยู่ สุดท้ายก็ถูกอัดลงไปกองจนได้ แต่เขาไม่ยอมแพ้ “เก่งนักเรอะ . . วัวอย่างแกมันต้องเจอนี่!!” ว่าแล้วก็หยิบการ์ดอีกใบ เสียบลงไปทันที
KAMEN RIDE “RYUKI”
+สึคาสะในร่างไอ้มังกรแดง “ริวคิ” ยืนตระหง่าน พร้อมโบกธงแดงพลิ้วไสว ท้าทายอสูรกิวกิอย่างมิกลัวเกรง ท่ามกลางสายตาจับจ้องของทุกผู้ อสูรสุดแกร่งตนนี้เดินหน้าเต็มตัวแล้ว
+”เข้ามาเล๊ยยยยยยย” สึคาสะตั้งรับอย่างมั่นใจ!!
+ข้อมูลหนัง และภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.j-hero.com/board/index.php?showtopic=11699 ค่ะ
+สำหรับงานเขียนทุกอย่าง ผู้เขียนไม่ได้พิมพ์เป็นไฟล์เท็กซ์ในโปรแกรมจัดการเอกสารทั่วไปนะคะ หากแต่เขียนลงสมุดโน้ตคู่ใจเป็นประจำค่ะ (นิสัยส่วนตัว) และจะเรียบเรียง-พิมพ์ใหม่เป็นไฟล์เอกสารทุกครั้ง ก่อนจะอัพลงเว็ปค่ะจ้า
Edited by rbgel, 15 November 2009 - 06:09 PM.