- แกะกล่อง
- ระบบเมนู
- การชมภาพยนตร์ Blu-ray
- การเชื่อมต่อกับ PC และการเล่นเกมด้วย PC
- การเชื่อมต่อกับ Game Console (360 & PS3)
- การดูมีเดียผ่าน USB และการรับชมฟรีทีวี
- ทดสอบ light bleeding
- ระบบเสียง
==============================================
มาแล้ว! รีวิว LED TV ซีรี่ส์ใหม่ล่าสุด จาก Samsung
รีวิวโดย mrzane @ www.lcdspec.com
หากคุณได้ติดตามข่าวสารของวงการ HDTV ในช่วงที่ผ่านมา คงจะพอทราบว่าอีกหนึ่งแนวโน้มใหม่ของ LCD TV ในปีนี้คือการออกแบบ LCD ให้มีขนาดบางลงเรื่อยๆ เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตที่มีวุฒิภาวะสูงขึ้น ทำให้ผู้ผลิตสามารถนำเทคโนโลยีอื่นๆ มาบรรจุลงในผลิตภัณฑ์ เพื่อปรับปรุงการแสดงภาพของ LCD ให้ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดต้นทุนการผลิต และมีผลพลอยได้คือช่วยทำให้จอ LCD ใช้พลังงานน้อยลงอีกด้วย
จากที่เราได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ว่า Samsung ได้เริ่มวางจำหน่ายจอ LCD TV ที่ใช้เทคนิคการยิงแสงจากขอบของจอ (Edge-lit) แทนการยิงแสงจากด้านหลัง (back-lit) เหมือนกับจอ LCD ทั่วไป และทำตลาดโดยใช้ชื่อ LED TV ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสับสนในหมู่ผู้บริโภคพอสมควร ผมเองเมื่อเห็นหุ่นบางๆ และป้ายโฆษณาว่าเป็น LED TV ในครั้งแรกยังเกือบเชื่อว่าเป็น LED Panel จริงๆ เสียอีกครับ
การใช้หลอด LED แทนการใช้หลอด CCFL (Cold Cathode) ในการยิงแสงสว่างให้กับผลึก LCD นั้นมีผลดีดังนี้:-
- ช่วยเพิ่ม contrast ให้กับภาพที่แสดงบน panel ซึ่งทำให้มันแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในฉากที่มีภาพมืดๆ หรือฉากที่มีความสว่างของวัตถุที่อยู่ในภาพหลายๆ ระดับ (เช่นภาพหิมะในเวลากลางคืน) หรืออาจกล่าวโดยสรุปว่า แสงที่ยิงจากหลอด LED จะช่วยทำให้จอ LCD สามารถแสดงภาพที่ดูมีมิติมากขึ้นนั่นเอง
- ช่วยให้ LCD Panel สามารถแสดงสีสันที่มากขึ้น (wider color gamut) ซึ่งทำให้ภาพที่ได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- ทำให้ผู้ผลิตสามารถผลิตจอที่มีมีขนาดบางลง และปล่อยความร้อนน้อยลงในขณะที่จอทำงาน
- ช่วยลดต้นทุนในการผลิต และช่วยประหยัดพลังงาน สอดคล้องกับกระแสรักษ์โลกในปัจจุบัน
วันนี้ lcdspec.com ขอนำเสนอรีวิว LCD TV ซีรี่ส์ล่าสุดจาก Samsung รุ่น UA46B6000VR เรามาชมกันครับว่า LED LCDTV ตัวนี้แตกต่างจาก LCD TV ที่ขายอยู่ในตลาดทั่วไปอย่างไร รวมถึงความแตกต่างระหว่าง LED LCDTV ที่ใช้เทคนิคการยิงแสง LED จากด้านข้าง กับทีวีรุ่นที่ยิงแสง LED จากด้านหลังอีกด้วย
Samsung ทำตลาด "LED TV" โดยแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 ซีรี่ส์ด้วยกัน ได้แก่ ซีรี่ส์ 6000, 7000 และ 8000 และมีขนาดให้เลือกอยู่สามขนาดคือขนาด 40 นิ้ว, 46 นิ้ว และ 55 นิ้ว ตามลำดับ ทั้งสาม series ใช้จอเคลือบเงาที่เรียกว่า Ultra Clear Panel (หรือที่คนขายในบ้านเรามักเรียกว่า "จอกระจก") โดย series 8000 ใช้ Panel ที่มี response time ที่ 2 ms ในขณะที่รุ่น 6000 และ 7000 มี response time ที่ 4 ms ส่วนสเป็กด้านอื่นๆ ทั้งในแง่ความสว่าง, contrast และอื่นๆ ทั้งสาม series จะไม่มีความแตกต่างกัน ยกเว้นใน series 8000 ที่ใช้เทคโนโลยีการแทรกเฟรมแบบ 200 Hz (200 Hz Motion plus) แทนการใช้เทคโนโลยีแบบ 100 Hz ใน series 6000 และ 7000
นอกจากนั้นใน series 7000 และ 8000 ยังสนับสนุนการเชื่อมต่อกับ network/internet และยังสนับสนุนการเล่นไฟล์มีเดีย (ภาพนิ่ง, เสียง และวีดีโอ) ผ่านโปรโตคอล DLNA อีกด้วย พูดง่ายๆ คือ หากคุณไม่มีแผนที่จะเอาทีวีของคุณไปต่อกับ network และไม่สนใจเรื่อง 200 Hz motion plus กับ response time ที่ต่างกันเพียง 2 ms ล่ะก็ คุณสามารถซื้อ 6000 series และประหยัดงบประมาณไปได้โขทีเดียวครับ
แกะกล่อง:
ภายในกล่อง LED LCDTV รุ่น UA46B6000VR ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้
- LED LCDTV รุ่น UA46B6000VR
- รีโมทคอนโทรล พร้อมถ่านขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน
- ฐานรองจอสำหรับตั้งโต๊ะ
- อุปกรณ์สำหรับพันสายสัญญาณให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ดีไซน์
ความประทับใจแรกพบเมื่อแกะกล่องก็คือ ขนาดของ Panel ที่มีความบางกว่า LCD TV ทั่วไปในปัจจุบันมาก โดยมีความหนาประมาณ 3 เซนติเมตรเท่านั้น
แผงควบคุมด้านหน้าประกอบไปด้วยปุ่ม Power ที่ใช้เปิด/ปิดทีวี โดยปุ่มดังกล่าวจะอยู่ตรงกลางจอ ภายใต้โลโก้ Samsung พอดี เมื่อสัมผัสปุ่มเพื่อเปิดทีวีแล้ว ขณะที่ทีวีทำงานจะมีแสงสีขาวเรืองอยู่ภายใต้จอสวยงามทีเดียวครับ และหากใครที่ไม่ชอบก็สามารถสั่งปิดแสงดังกล่าวได้จากเมนู ส่วนด้านขวาของจอประกอบไปด้วยปุ่มควบคุมต่างๆ ได้แก่ ปุ่มเปิดเมนู ปุ่มเปลี่ยนช่อง และปุ่มปรับระดับเสียง
เมื่อมองที่ด้านหลังของจอ จะพบลำโพงสองข้างแบบสเตอริโอ และพอร์ทต่างๆ ดังนี้
- - Component 1 ช่อง
- VGA 1 ช่อง
- Composite (AV) 1 ช่อง
- HDMI 4 ช่อง
- Audio in เป็นพอร์ทแบบ 3.5 มม. จำนวน 1 ช่อง ใช้ต่อเสียงเข้าไปยังจอในกรณีต่อกับอุปกรณ์ภายนอกผ่านช่อง VGA
- RF In 1 ช่อง
- Audio out เป็นพอร์ทแบบ 3.5 มม. จำนวน 1 ช่อง
- USB Port สำหรับต่ออุปกรณ์ต่างๆ ที่เข้ากันได้กับมาตรฐาน USB mass storage class เช่น USB key หรือ Harddisk แบบ USB
- Ext. Link สำหรับต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่เข้ากันได้จาก Samsung
ในแง่วัสดุและงานประกอบถือว่า Samsung ออกแบบและประกอบทีวีรุ่นนี้ได้สวยงามมากจริงๆ นอกจากความบางที่สะดุดตาแล้ว ดีไซน์แบบ Crystal ของ Samsung ยังดูหรูหรา สามารถเอามาตกแต่งเสมือนเป็นเฟอร์นิเจอร์อีกชิ้นในบ้านของคุณได้เลยครับ แต่ด้วยความที่มันใสปิ๊งเป็นมันวาวนั่นเอง ทำให้มันต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพราะกรอบของ Panel นั้นมีคุณสมบัติเป็นเครื่องดูดฝุ่นชั้นดี และหน้าจอแบบเคลือบเงาอาจทำให้คุณต้องเลือกตำแหน่งการวางจออยู่พอสมควร เพราะเงาที่สะท้อนอยู่บนหน้าจออาจทำให้อรรถรสการรับชมภาพพยนตร์ของคุณเสียไป ได้ครับ
รีโมทคอนโทรลของรุ่นนี้เป็น Infrared remote แบบมาตรฐานของจอ Samsung ขนาดกำลังพอดีมือ ใช้พลังงานจากถ่านไฟฉายขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน สามารถกดปุ่มเพื่อเปิด/ปิด backlight ของตัวรีโมทได้ด้วย นับว่าสะดวกสำหรับคนที่ชอบดูหนังในห้องมืดครับ
มาเปิดเครื่องกันดีกว่าครับ อ่านต่อได้ที่นี่เลยครับ