`

Jump to content





รีวิวหนัง Iron Man - มหาประลัยคนเกราะเหล็ก


9 replies to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 24 October 2008 - 08:07 PM

Iron Man - มหาประลัยคนเกราะเหล็ก


+แม้จะไม่มีอะไรแปลกใหม่ที่เหนือความคาดหมาย เป็นได้ก็แค่หนังแอ็คชั่น-ซูเปอร์ฮีโร่ ที่สร้างออกมาได้ดีตามมาตรฐานของหนังซูเปอร์ฮีโร่ในยุคนี้ ที่ถึงจะมาพร้อมกับความเป็นหนังแฟนตาซี หากแต่ก็มีด้านที่ซีเรียส จริงจังให้ได้สัมผัส . . แต่ถึงอย่างนั้น Iron Man เองก็มีทางเฉพาะของตัวเองให้ได้เห็น เพราะจากตัวเรื่องที่มีกรอบจำกัดของหนังซูเปอร์ฮีโร่ยุคใหม่มาบังคับ

+ไม่ว่าจะเป็นการที่ตัวละครนำจะต้องมาพร้อมกับบุคลิกด้านมืดอยู่ในตัว หรือว่ามีฉากจำพวก "ท่าบังคับ" ทั้งหลาย อย่างการฝึกใช้ความสามารถเหนือมนุษย์ของตนเอง แต่กับ Iron Man กลับมี "เสน่ห์" บางอย่างที่แตกต่างออกไป แม้จะไม่ถึงกับเด่นชัดสุดขั้วจนหลุดพ้นจากกรอบเดิมๆออกมา หากอย่างน้อยที่สุดก็ยังมี . . ซึ่งก็เป็นลักษณะเฉพาะ เป็นความต่างที่ซ่อนอยู่ในความเหมือน ในชนิดที่ว่าต้องยกความดีความชอบให้กับผู้กำกับ "จอห์น แฟฟโรว์" ที่เพิ่งมีงานหนังแฟนตาซีจ๋าอย่าง Zathura และหนังครอบครัวอย่าง Elf ให้ได้ดูกัน


+จากนักผลิตและค้าอาวุธ "โทนี่ สตาร์ค" ถูกจับระหว่างไปทำการทดลองอาวุธชนิดใหม่ให้กับกองทัพสหรัฐ ที่อัฟกานิสถาน . . แม้จะถูกทำร้ายจนเกือบปางตาย แต่ด้วยอานุภาพของเตาปฏิกรณ์พลังงานที่สร้างขึ้นมาเอง ก็ช่วยให้เขาต่ออายุของตัวเองออกไปได้ ขณะที่ฝ่ายผู้ก่อการร้ายก็บังคับให้เขาผลิตอาวุธร้ายแรงให้ แต่แล้วสตาร์คกลับสร้างชุดเกราะติดอาวุธ ติดจรวดไอพ่นขึ้นมา เพื่อหวังพาตัวเองหนีพ้นไปจากการถูกคุมขัง . . และนั่นก็คือจุดกำเนิดของ Iron Man หนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของจักรวาลมาร์เวล ที่คอการ์ตูนอเมริกัน-ฮีโร่ทั้งหลายรู้จักกันดี . . .


+เมื่อหนีกลับมายังอเมริกาได้สำเร็จ สตาร์คที่ได้เห็นอาวุธที่ตัวเองคิด และประดิษฐ์ขึ้นมา กลายเป็นอาวุธประหัตประหารคนชาติเดียวกัน ก็ตัดสินใจที่ยุติการผลิตอาวุธทั้งหมด และแน่นอนว่างานนี้ต้องมีคนที่เสียผลประโยชน์ และพยายามจะขจัดสตาร์คไปให้พ้นทางตามคาด และเมื่อชุดเกราะต้นแบบที่เขาสร้างขึ้นมาในอัฟริกาสถานถูกค้นพบ งานนี้คนที่สวมชุดเกราะของ Iron Man (ไออ้อน แมน) ก็ย่อมไม่ได้มีแค่สตาร์คเพียงคนเดียวแน่นอน!!!


+แม้จะไม่ได้ลงลึกมากนักในส่วนของด้านมืด และความลุ่มหลง หรือว่าความซับซ้อนในจิตใจของตัวละคร โดยเฉพาะกับการที่ให้โทนี่ สตาร์ค ก็คือคนที่กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่เพราะความสำนึกผิด เป็นคนที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองจากดำเป็นขาว เพราะเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่บทหนังที่เขียนร่วมกันถึง 4 คน ก็วางน้ำหนักของความจริงจังในส่วนนี้ไว้ได้พออย่างพอเหมาะ พอควรกับเวลา และโทนหนังที่เลือกจะนำเสนอตัวเองก็ไม่อึมครืมมากจนทำให้หนังหม่น หรือหนักเกินไปสำหรับการเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ขายความบันเทิง ต้อนรับซัมเมอร์ และไม่น้อยเกินไปจนทำให้หนังกลายเป็นโทนการ์ตูนจ๋าไปซะ . . .


+ซึ่งต้องถือเป็นข้อดีของ Iron Man สำหรับการรู้จักสถานะ และรู้เป้าหมายของตัวเอง ในขณะเดียวกัน กับการที่ได้ทีมนักแสดงชั้นยอด ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดทีมหนึ่งก็ว่าได้ มารับบทสำคัญๆในเรื่อง ต่างก็ทำให้ตัวละครหลายๆตัว มีมิติ มีความลึกในตัวมากขึ้นผ่านการแสดง ไม่ว่าจะเป็นเทอเรนซ์ โฮเวิร์ด ที่แม้บทจะดูแบนมากที่สุด แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างทีมีอยู่ในตัว หรือกับกวินเนธ พัลโทรว์ในบทเลขาสาวท่าทางซื่อๆ ช่างต่อปากต่อคำ แต่เอาเข้าจริงๆ หากจับจากการพูดการจา หรือว่าการแสดงออกทางสายตา และสีหน้าท่าทาง พัลโทรว์สามารถ "เติม" ส่วนที่เป็นจิตใจให้กับตัวละครที่เธอเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชนิดที่ว่าผู้ชมนึกไม่ออกว่าบทนี้จะเป็นยังไง ถ้าได้นักแสดงสาวคนอื่นมาเล่นแทน . . .


+และก็ต้องยกความดีความชอบให้กับบทภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน ที่แม้จะไม่ได้ออกมาถึงขนาดจริงจัง ซีเรียส ชนิดเก็บกันทุกเม็ด แต่ด้วยท่าทางที่แบบทีเล่นทีจริงอย่างที่เห็น บทก็ยังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่มาช่วยพยุงแบ็คกราวนด์ของตัวละครเอาไว้ได้ ให้แลดูมีน้ำหนักพอที่นักแสดงจะเอามาเป็นทุน สำหรับการถ่ายทอดบทบาทของตัวละครนั้นๆออกมาได้ . . .


+และที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด ก็คือโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ผู้เป็นศูนย์กลางของหนัง และยังเป็นพระเอกของเรื่อง โรเบิร์ตขึ้นจอในมาดของหนุ่มโสดเจ้าสำราญ ผู้มีความรู้สึกเจ็บปวดลึกๆข้างในจิตใจ และในบางทีก็ยังมีอารมณ์แบบคนรักสนุก ไม่ยึดติดกับอะไร ชอบความท้าทาย ไปจนถึงล้อเล่นกับสถานการณ์เสี่ยงตาย ซึ่งก็เป็นไปในแบบเดียวกับตัวละครอย่างโฮเวิร์ด ฮิวจ์ในหนัง The Aviator ที่ว่ากันว่าตัวโฮเวิร์ด
ฮิวจ์นี่แหล่ะ ที่เป็นต้นแบบในการคิดแคแรคเตอร์ตัวละครตัวนี้ของสแตน ลี . . .


+และที่น่าสนใจสำหรับ Iron Man ก็คือโทน และสไตล์ของหนัง ที่เห็นได้ชัดว่า ผู้กำกับแฟฟโรว์ให้ความสำคัญกับอารมณ์ขันของหนังไว้เยอะ โดยเฉพาะกับอารมณ์ขันที่มีที่มาจากบทสนทนา หรือว่าแคแรคเตอร์ของตัวละคร ที่กลายมาเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว และความต่างของ Iron Man กับหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ โดยไม่ใช้มุขพื้นๆ ดาดๆมาเล่น หากแต่หลายๆมุขเป็นมุขที่ลึก โดยเฉพาะระหว่างตัวละครโทนี่ สตาร์ค และมิสเพ็พเปอร์ที่ต่อล้อต่อเถียงกันได้อย่างออกรส รวมไปถึงยังแทรกแง่มุมเสียดสี แดกดัน วิธีคิดบางอย่างในสังคมอเมริกัน หรืออาจจะรวมทั้งสังคมโลกด้วยก็ว่าได้ สอดแทรกเข้ามาเป็นแก๊ก สะกิดให้ได้อมยิ้มกันอยู่เป็นระยะๆ . . .


+ไม่แปลกที่จะรู้สึกว่า Iron Man คือหนังที่มาพร้อมกับอารมณ์ และท่าทางแบบทีเล่น ทีจริง ซึ่งก็ถือว่าเป็นทางออกที่ฉลาดไม่ใช่น้อยสำหรับหนังเรื่องนี้ เพราะในช่วงเวลาที่ดูท่าว่าไม่มีอะไรใหม่ในเรื่องของเทคนิค และฉากแอ็คชั่น การพยายามหาทางออกให้กับตัวเองด้วย การเล่าเรื่อง หรือสร้างแคแรคเตอร์แบบเฉพาะเป็นของตัวเองให้กับหนัง ก็น่าจะเป็นเรื่องดี แม้ในบางมุม อาจจะทำให้หนังดูไม่เข้มข้น หรือลดความหนักแน่นลงไปบ้าง อย่างที่หนังในแนวทางเดียวกันหลายๆเรื่องก่อนหน้าทำเอาไว้ . . แต่อย่างน้อยที่สุด หากสามารถผสมผสานสิ่งที่ขาดหายไป กับสิ่งที่ที่เติมลงมาให้เข้ากันได้อย่างลงตัว งานที่ออกมาก็น่าจะมีรสชาติกลมกล่อม ดูดีได้ในระดับหนึ่ง ดังที่เห็นกันในหนังเรื่องนี้ . . .


+ถึงจะไม่ตื่นเต้น ดุเดือด เร้าใจ หรือเป็นหนังในระดับที่เรียกตัวเองได้ว่า "มันส์" แบบเต็มปาก หากเทียบกับเวลาที่เสียไปถึง 2 ชั่วโมงเต็มๆ . . แต่สำหรับ Iron Man นี่ก็คือหนังที่ดูได้แบบเพลินๆ ในแบบที่ว่าไม่รู้สึกเสียดายเวลา หรือว่าเงินทองที่เสียไป ถือเป็นหนังที่ให้ความบันเทิงได้ในระดับที่ดีเรื่องหนึ่ง แม้จะรู้สึกว่าไม่สะใจสุดๆ หรือเต็มอิ่มนักก็ตาม . .

+หากแต่ก็กินอร่อยพอใช้ได้ ในปริมาณที่ทำให้หายหิว และอิ่มท้องได้สบายๆ . . Iron Man ถือว่าไม่ใช่งานที่น่าผิดหวัง แต่ในเวลาเดียวกัน หนังก็ "ไม่มี" และยังขาดอะไรต่างๆอีกมากมาย ที่จะทำให้รู้สึก "ประทับใจ" และอยากจะดูซ้ำอยู่พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของความแปลกใหม่ และความตื่นตา ตื่นใจ . . ซึ่งจะว่าไปแล้ว นั่นก็เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการ เวลาเดินเข้าไปหาความบันเทิงจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มใหญ่สักเรื่องซะด้วยสิ . . .

+ให้ 2 ดาวครึ่งค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) yoyo_55.gif yoyo_55.gif

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1535.html ค่ะ


QUOTE
+ช่วยคอมเม้นต์ให้สักนิดนะคะ เพียงเพื่อ+
+ yoyo_55.gif เป็นกำลังใจให้กับผู้เขียน เพราะห้องมันเงียบเหลือเกินนะ . . กลัวผีหลอกจ้ะ yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 20 November 2009 - 06:34 PM.


#2 kikuntin

    บันทึกลับอสูรฟ้า เคล็ดวิชาอมตะ ตำนานกระบี่เมตไตร ม้วนภาพเทพยุทธ์

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 10921 posts
  • Gender:Male

Posted 24 October 2008 - 08:59 PM

หนังเรื่องนี้พรุ่งผมว่าจะไปหามาดูโดยส่วนตัวค่อนข้างจะชอบซุปเปอร์ฮีโร่เป็นทุนเดิม
อยู่แล้ว ยังไงไว้ไปดูมาแล้วจะมาบอกอีกทีว่าเป็นอย่างไรบ้าง

#3 Brutal-Method

    เซียนเกม

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 6439 posts
  • Gender:Male

Posted 25 October 2008 - 03:02 AM

คะแนนขัดใจชมัดยาด yoyo_73.gif

#4 nismo_silvia

    God bless me !

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1315 posts
  • Gender:Male

Posted 25 October 2008 - 12:56 PM

จะมารอดู review batman : the dark knight ถ้า3ดาวก้...

รายได้แพ้ ไททานิค เรื่ยงเดียวอีกตังหาก ^^

#5 shimafuguro

    นักเล่นเกมมือฉมัง

  • High Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 353 posts
  • Gender:Male
  • Location:Rayong, Thailand
  • Interests:Computer, Internet, Linux, Game Console

Posted 04 November 2008 - 09:52 PM

มาเยี่ยมคุณ rbgel ตามสัญญาครับ
เรื่องนี้ดูแล้วสนุกดีครับไม่คิดอะไรมาก เน้นเอามันครับ ชอบๆ เหมือนกันครับ yoyo_29.gif
มีลุ้นอย่างเดียวเมื่อไหร่พระเอกกะนางเอกจะชอบกันซักที แหะๆ

#6 xbox360RedLED

    What the F** say?

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3684 posts
  • Gender:Male

Posted 16 November 2008 - 08:11 AM

คุณตูนให้คะแนนเต็มยากครับ yoyo_79.gif

#7 kem

    BoA BoA BoA

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 8120 posts
  • Gender:Male
  • Location:BoA's Heart
  • Interests:BoA AKB48 MorningMusume

Posted 17 November 2008 - 02:31 PM

ผมว่าฉากแอคชั่นน้อยไปไม่ถึงใจ
แต่ทดแทนมาด้วยมุขตลก

ส่วนตัวแล้วชอบครับ

#8 nongomyim

    นักเกมมือเซียนชั้นที่ 1

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2551 posts

Posted 19 November 2008 - 08:20 AM

เห็นด้วยครับ 2ดาวครึ่ง

#9 the red

    face of troll

  • Moderator?
  • 11125 posts
  • Gender:Male

Posted 07 December 2008 - 06:00 PM

นับตามเกณฑ์ของตูนนะ เรื่องนี้ผมคงให้3ดาว หักไปครึ่งเพราะตัวละครอื่นๆนอกจากโทนี่สตาร์คบทดูไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่
อีกครึ่งนึงหักกับฉากแอคชั่นที่ถือว่าน้อยและไม่ค่อยสะใจ และไคลแมกซ์ท้ายๆ ที่เล่นง่ายๆเด็กๆยังไงไม่รู้นะ

#10 Sora-K

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 3

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1359 posts

Posted 01 January 2009 - 05:58 PM

2 ดาวครึ่งเหมือนกัน