`
←  ห้องรีวิวหนัง
Logo
»

รีวิวหนัง Iron Man - มหาประลัยคนเกราะเหล็ก

rbgel's Photo rbgel 24 Oct 2008

Iron Man - มหาประลัยคนเกราะเหล็ก


+แม้จะไม่มีอะไรแปลกใหม่ที่เหนือความคาดหมาย เป็นได้ก็แค่หนังแอ็คชั่น-ซูเปอร์ฮีโร่ ที่สร้างออกมาได้ดีตามมาตรฐานของหนังซูเปอร์ฮีโร่ในยุคนี้ ที่ถึงจะมาพร้อมกับความเป็นหนังแฟนตาซี หากแต่ก็มีด้านที่ซีเรียส จริงจังให้ได้สัมผัส . . แต่ถึงอย่างนั้น Iron Man เองก็มีทางเฉพาะของตัวเองให้ได้เห็น เพราะจากตัวเรื่องที่มีกรอบจำกัดของหนังซูเปอร์ฮีโร่ยุคใหม่มาบังคับ

+ไม่ว่าจะเป็นการที่ตัวละครนำจะต้องมาพร้อมกับบุคลิกด้านมืดอยู่ในตัว หรือว่ามีฉากจำพวก "ท่าบังคับ" ทั้งหลาย อย่างการฝึกใช้ความสามารถเหนือมนุษย์ของตนเอง แต่กับ Iron Man กลับมี "เสน่ห์" บางอย่างที่แตกต่างออกไป แม้จะไม่ถึงกับเด่นชัดสุดขั้วจนหลุดพ้นจากกรอบเดิมๆออกมา หากอย่างน้อยที่สุดก็ยังมี . . ซึ่งก็เป็นลักษณะเฉพาะ เป็นความต่างที่ซ่อนอยู่ในความเหมือน ในชนิดที่ว่าต้องยกความดีความชอบให้กับผู้กำกับ "จอห์น แฟฟโรว์" ที่เพิ่งมีงานหนังแฟนตาซีจ๋าอย่าง Zathura และหนังครอบครัวอย่าง Elf ให้ได้ดูกัน


+จากนักผลิตและค้าอาวุธ "โทนี่ สตาร์ค" ถูกจับระหว่างไปทำการทดลองอาวุธชนิดใหม่ให้กับกองทัพสหรัฐ ที่อัฟกานิสถาน . . แม้จะถูกทำร้ายจนเกือบปางตาย แต่ด้วยอานุภาพของเตาปฏิกรณ์พลังงานที่สร้างขึ้นมาเอง ก็ช่วยให้เขาต่ออายุของตัวเองออกไปได้ ขณะที่ฝ่ายผู้ก่อการร้ายก็บังคับให้เขาผลิตอาวุธร้ายแรงให้ แต่แล้วสตาร์คกลับสร้างชุดเกราะติดอาวุธ ติดจรวดไอพ่นขึ้นมา เพื่อหวังพาตัวเองหนีพ้นไปจากการถูกคุมขัง . . และนั่นก็คือจุดกำเนิดของ Iron Man หนึ่งในซูเปอร์ฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลของจักรวาลมาร์เวล ที่คอการ์ตูนอเมริกัน-ฮีโร่ทั้งหลายรู้จักกันดี . . .


+เมื่อหนีกลับมายังอเมริกาได้สำเร็จ สตาร์คที่ได้เห็นอาวุธที่ตัวเองคิด และประดิษฐ์ขึ้นมา กลายเป็นอาวุธประหัตประหารคนชาติเดียวกัน ก็ตัดสินใจที่ยุติการผลิตอาวุธทั้งหมด และแน่นอนว่างานนี้ต้องมีคนที่เสียผลประโยชน์ และพยายามจะขจัดสตาร์คไปให้พ้นทางตามคาด และเมื่อชุดเกราะต้นแบบที่เขาสร้างขึ้นมาในอัฟริกาสถานถูกค้นพบ งานนี้คนที่สวมชุดเกราะของ Iron Man (ไออ้อน แมน) ก็ย่อมไม่ได้มีแค่สตาร์คเพียงคนเดียวแน่นอน!!!


+แม้จะไม่ได้ลงลึกมากนักในส่วนของด้านมืด และความลุ่มหลง หรือว่าความซับซ้อนในจิตใจของตัวละคร โดยเฉพาะกับการที่ให้โทนี่ สตาร์ค ก็คือคนที่กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่เพราะความสำนึกผิด เป็นคนที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเองจากดำเป็นขาว เพราะเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่บทหนังที่เขียนร่วมกันถึง 4 คน ก็วางน้ำหนักของความจริงจังในส่วนนี้ไว้ได้พออย่างพอเหมาะ พอควรกับเวลา และโทนหนังที่เลือกจะนำเสนอตัวเองก็ไม่อึมครืมมากจนทำให้หนังหม่น หรือหนักเกินไปสำหรับการเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ขายความบันเทิง ต้อนรับซัมเมอร์ และไม่น้อยเกินไปจนทำให้หนังกลายเป็นโทนการ์ตูนจ๋าไปซะ . . .


+ซึ่งต้องถือเป็นข้อดีของ Iron Man สำหรับการรู้จักสถานะ และรู้เป้าหมายของตัวเอง ในขณะเดียวกัน กับการที่ได้ทีมนักแสดงชั้นยอด ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดทีมหนึ่งก็ว่าได้ มารับบทสำคัญๆในเรื่อง ต่างก็ทำให้ตัวละครหลายๆตัว มีมิติ มีความลึกในตัวมากขึ้นผ่านการแสดง ไม่ว่าจะเป็นเทอเรนซ์ โฮเวิร์ด ที่แม้บทจะดูแบนมากที่สุด แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงบางสิ่งบางอย่างทีมีอยู่ในตัว หรือกับกวินเนธ พัลโทรว์ในบทเลขาสาวท่าทางซื่อๆ ช่างต่อปากต่อคำ แต่เอาเข้าจริงๆ หากจับจากการพูดการจา หรือว่าการแสดงออกทางสายตา และสีหน้าท่าทาง พัลโทรว์สามารถ "เติม" ส่วนที่เป็นจิตใจให้กับตัวละครที่เธอเล่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชนิดที่ว่าผู้ชมนึกไม่ออกว่าบทนี้จะเป็นยังไง ถ้าได้นักแสดงสาวคนอื่นมาเล่นแทน . . .


+และก็ต้องยกความดีความชอบให้กับบทภาพยนตร์ด้วยเช่นกัน ที่แม้จะไม่ได้ออกมาถึงขนาดจริงจัง ซีเรียส ชนิดเก็บกันทุกเม็ด แต่ด้วยท่าทางที่แบบทีเล่นทีจริงอย่างที่เห็น บทก็ยังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่มาช่วยพยุงแบ็คกราวนด์ของตัวละครเอาไว้ได้ ให้แลดูมีน้ำหนักพอที่นักแสดงจะเอามาเป็นทุน สำหรับการถ่ายทอดบทบาทของตัวละครนั้นๆออกมาได้ . . .


+และที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด ก็คือโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ผู้เป็นศูนย์กลางของหนัง และยังเป็นพระเอกของเรื่อง โรเบิร์ตขึ้นจอในมาดของหนุ่มโสดเจ้าสำราญ ผู้มีความรู้สึกเจ็บปวดลึกๆข้างในจิตใจ และในบางทีก็ยังมีอารมณ์แบบคนรักสนุก ไม่ยึดติดกับอะไร ชอบความท้าทาย ไปจนถึงล้อเล่นกับสถานการณ์เสี่ยงตาย ซึ่งก็เป็นไปในแบบเดียวกับตัวละครอย่างโฮเวิร์ด ฮิวจ์ในหนัง The Aviator ที่ว่ากันว่าตัวโฮเวิร์ด
ฮิวจ์นี่แหล่ะ ที่เป็นต้นแบบในการคิดแคแรคเตอร์ตัวละครตัวนี้ของสแตน ลี . . .


+และที่น่าสนใจสำหรับ Iron Man ก็คือโทน และสไตล์ของหนัง ที่เห็นได้ชัดว่า ผู้กำกับแฟฟโรว์ให้ความสำคัญกับอารมณ์ขันของหนังไว้เยอะ โดยเฉพาะกับอารมณ์ขันที่มีที่มาจากบทสนทนา หรือว่าแคแรคเตอร์ของตัวละคร ที่กลายมาเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว และความต่างของ Iron Man กับหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่นๆ โดยไม่ใช้มุขพื้นๆ ดาดๆมาเล่น หากแต่หลายๆมุขเป็นมุขที่ลึก โดยเฉพาะระหว่างตัวละครโทนี่ สตาร์ค และมิสเพ็พเปอร์ที่ต่อล้อต่อเถียงกันได้อย่างออกรส รวมไปถึงยังแทรกแง่มุมเสียดสี แดกดัน วิธีคิดบางอย่างในสังคมอเมริกัน หรืออาจจะรวมทั้งสังคมโลกด้วยก็ว่าได้ สอดแทรกเข้ามาเป็นแก๊ก สะกิดให้ได้อมยิ้มกันอยู่เป็นระยะๆ . . .


+ไม่แปลกที่จะรู้สึกว่า Iron Man คือหนังที่มาพร้อมกับอารมณ์ และท่าทางแบบทีเล่น ทีจริง ซึ่งก็ถือว่าเป็นทางออกที่ฉลาดไม่ใช่น้อยสำหรับหนังเรื่องนี้ เพราะในช่วงเวลาที่ดูท่าว่าไม่มีอะไรใหม่ในเรื่องของเทคนิค และฉากแอ็คชั่น การพยายามหาทางออกให้กับตัวเองด้วย การเล่าเรื่อง หรือสร้างแคแรคเตอร์แบบเฉพาะเป็นของตัวเองให้กับหนัง ก็น่าจะเป็นเรื่องดี แม้ในบางมุม อาจจะทำให้หนังดูไม่เข้มข้น หรือลดความหนักแน่นลงไปบ้าง อย่างที่หนังในแนวทางเดียวกันหลายๆเรื่องก่อนหน้าทำเอาไว้ . . แต่อย่างน้อยที่สุด หากสามารถผสมผสานสิ่งที่ขาดหายไป กับสิ่งที่ที่เติมลงมาให้เข้ากันได้อย่างลงตัว งานที่ออกมาก็น่าจะมีรสชาติกลมกล่อม ดูดีได้ในระดับหนึ่ง ดังที่เห็นกันในหนังเรื่องนี้ . . .


+ถึงจะไม่ตื่นเต้น ดุเดือด เร้าใจ หรือเป็นหนังในระดับที่เรียกตัวเองได้ว่า "มันส์" แบบเต็มปาก หากเทียบกับเวลาที่เสียไปถึง 2 ชั่วโมงเต็มๆ . . แต่สำหรับ Iron Man นี่ก็คือหนังที่ดูได้แบบเพลินๆ ในแบบที่ว่าไม่รู้สึกเสียดายเวลา หรือว่าเงินทองที่เสียไป ถือเป็นหนังที่ให้ความบันเทิงได้ในระดับที่ดีเรื่องหนึ่ง แม้จะรู้สึกว่าไม่สะใจสุดๆ หรือเต็มอิ่มนักก็ตาม . .

+หากแต่ก็กินอร่อยพอใช้ได้ ในปริมาณที่ทำให้หายหิว และอิ่มท้องได้สบายๆ . . Iron Man ถือว่าไม่ใช่งานที่น่าผิดหวัง แต่ในเวลาเดียวกัน หนังก็ "ไม่มี" และยังขาดอะไรต่างๆอีกมากมาย ที่จะทำให้รู้สึก "ประทับใจ" และอยากจะดูซ้ำอยู่พอสมควร โดยเฉพาะในส่วนของความแปลกใหม่ และความตื่นตา ตื่นใจ . . ซึ่งจะว่าไปแล้ว นั่นก็เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องการ เวลาเดินเข้าไปหาความบันเทิงจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มใหญ่สักเรื่องซะด้วยสิ . . .

+ให้ 2 ดาวครึ่งค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) yoyo_55.gif yoyo_55.gif

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1535.html ค่ะ


QUOTE
+ช่วยคอมเม้นต์ให้สักนิดนะคะ เพียงเพื่อ+
+ yoyo_55.gif เป็นกำลังใจให้กับผู้เขียน เพราะห้องมันเงียบเหลือเกินนะ . . กลัวผีหลอกจ้ะ yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 20 November 2009 - 06:34 PM.
Quote

kikuntin's Photo kikuntin 24 Oct 2008

หนังเรื่องนี้พรุ่งผมว่าจะไปหามาดูโดยส่วนตัวค่อนข้างจะชอบซุปเปอร์ฮีโร่เป็นทุนเดิม
อยู่แล้ว ยังไงไว้ไปดูมาแล้วจะมาบอกอีกทีว่าเป็นอย่างไรบ้าง
Quote

Brutal-Method's Photo Brutal-Method 25 Oct 2008

คะแนนขัดใจชมัดยาด yoyo_73.gif
Quote

nismo_silvia's Photo nismo_silvia 25 Oct 2008

จะมารอดู review batman : the dark knight ถ้า3ดาวก้...

รายได้แพ้ ไททานิค เรื่ยงเดียวอีกตังหาก ^^
Quote

shimafuguro's Photo shimafuguro 04 Nov 2008

มาเยี่ยมคุณ rbgel ตามสัญญาครับ
เรื่องนี้ดูแล้วสนุกดีครับไม่คิดอะไรมาก เน้นเอามันครับ ชอบๆ เหมือนกันครับ yoyo_29.gif
มีลุ้นอย่างเดียวเมื่อไหร่พระเอกกะนางเอกจะชอบกันซักที แหะๆ
Quote

xbox360RedLED's Photo xbox360RedLED 16 Nov 2008

คุณตูนให้คะแนนเต็มยากครับ yoyo_79.gif
Quote

kem's Photo kem 17 Nov 2008

ผมว่าฉากแอคชั่นน้อยไปไม่ถึงใจ
แต่ทดแทนมาด้วยมุขตลก

ส่วนตัวแล้วชอบครับ
Quote

nongomyim's Photo nongomyim 19 Nov 2008

เห็นด้วยครับ 2ดาวครึ่ง
Quote

the red's Photo the red 07 Dec 2008

นับตามเกณฑ์ของตูนนะ เรื่องนี้ผมคงให้3ดาว หักไปครึ่งเพราะตัวละครอื่นๆนอกจากโทนี่สตาร์คบทดูไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่
อีกครึ่งนึงหักกับฉากแอคชั่นที่ถือว่าน้อยและไม่ค่อยสะใจ และไคลแมกซ์ท้ายๆ ที่เล่นง่ายๆเด็กๆยังไงไม่รู้นะ
Quote

Sora-K's Photo Sora-K 01 Jan 2009

2 ดาวครึ่งเหมือนกัน
Quote