[Q] ชาจีน ชาจีน ชาจีน แนะนำ/สอน กินชาจีนหน่อย
9th TEARDROP 22 Feb 2021
มีใครกินอยู่บ้างครับ อายเหมือนกันนะ เชื้อสายจีนแต่กินไม่เป็น
คนที่บ้านที่กินเป็นก็ไปเฝ้าเง็กเซียนกันหมดแล้ว
- แนะนำยี่ห้อทีครับ
เน้นแก่ หาซื้อไม่ยาก ไม่แพงเว่อ ไม่ต้องชั้นดี ชาดำ ชาแดง ชาเขียว
ไรก็ได้ ขอให้มัน "ดีด" ผมกินอะไรก็ได้
- อุปกรณ์
กาเล็ก กับถ้วยชา แค่นี้โอมั้ยครับ มีอะไรมากกว่านี้มั้ย แบบเก็บความร้อนไรงี้
-วิธีกิน
ก็คือโยนใบชาขยุ้มปลายนิ้วลงไป
ในกาน้ำ เทน้ำร้อน รอ แล้วใบชาใช้ซ้ำข้ามวันเป้นไรมั้ย
เลิกกินกาแฟมาปีนึงละ บางทีปวดหัวช่วงหัวค่ำ
พอเลิกกินถึงรู้ว่า เป็นเพราะกาแฟนี่เอง
อยากดีดตอนทำงาน แต่ไม่อยากกลับไปปวดหัวแบบนั้นอีก
เลยกินชากำแทน
ข้าน้อยขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ชี้แนะ
Edited by 9th TEARDROP, 22 February 2021 - 09:14 PM.
คนที่บ้านที่กินเป็นก็ไปเฝ้าเง็กเซียนกันหมดแล้ว
- แนะนำยี่ห้อทีครับ
เน้นแก่ หาซื้อไม่ยาก ไม่แพงเว่อ ไม่ต้องชั้นดี ชาดำ ชาแดง ชาเขียว
ไรก็ได้ ขอให้มัน "ดีด" ผมกินอะไรก็ได้
- อุปกรณ์
กาเล็ก กับถ้วยชา แค่นี้โอมั้ยครับ มีอะไรมากกว่านี้มั้ย แบบเก็บความร้อนไรงี้
-วิธีกิน
ก็คือโยนใบชาขยุ้มปลายนิ้วลงไป
ในกาน้ำ เทน้ำร้อน รอ แล้วใบชาใช้ซ้ำข้ามวันเป้นไรมั้ย
เลิกกินกาแฟมาปีนึงละ บางทีปวดหัวช่วงหัวค่ำ
พอเลิกกินถึงรู้ว่า เป็นเพราะกาแฟนี่เอง
อยากดีดตอนทำงาน แต่ไม่อยากกลับไปปวดหัวแบบนั้นอีก
เลยกินชากำแทน
ข้าน้อยขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ชี้แนะ
Edited by 9th TEARDROP, 22 February 2021 - 09:14 PM.
kirari 22 Feb 2021
เม้นแรกก็นอกเรื่อง ขอไปชาญี่ปุ่นแทน
ผมชอบพวกชาเกนไม ไม่ก็โฮจิฉะ
เกรดต่ำกว่าชาเขียว แต่ช้อบชอบ
ล่าสุด pokka ออกขวดสีน้ำตาล สุดยอดมาก
ผมชอบพวกชาเกนไม ไม่ก็โฮจิฉะ
เกรดต่ำกว่าชาเขียว แต่ช้อบชอบ
ล่าสุด pokka ออกขวดสีน้ำตาล สุดยอดมาก
auhibs 23 Feb 2021
9th TEARDROP, on 22 February 2021 - 09:12 PM, said:
มีใครกินอยู่บ้างครับ อายเหมือนกันนะ เชื้อสายจีนแต่กินไม่เป็น
คนที่บ้านที่กินเป็นก็ไปเฝ้าเง็กเซียนกันหมดแล้ว
- แนะนำยี่ห้อทีครับ
เน้นแก่ หาซื้อไม่ยาก ไม่แพงเว่อ ไม่ต้องชั้นดี ชาดำ ชาแดง ชาเขียว
ไรก็ได้ ขอให้มัน "ดีด" ผมกินอะไรก็ได้
- อุปกรณ์
กาเล็ก กับถ้วยชา แค่นี้โอมั้ยครับ มีอะไรมากกว่านี้มั้ย แบบเก็บความร้อนไรงี้
-วิธีกิน
ก็คือโยนใบชาขยุ้มปลายนิ้วลงไป
ในกาน้ำ เทน้ำร้อน รอ แล้วใบชาใช้ซ้ำข้ามวันเป้นไรมั้ย
เลิกกินกาแฟมาปีนึงละ บางทีปวดหัวช่วงหัวค่ำ
พอเลิกกินถึงรู้ว่า เป็นเพราะกาแฟนี่เอง
อยากดีดตอนทำงาน แต่ไม่อยากกลับไปปวดหัวแบบนั้นอีก
เลยกินชากำแทน
ข้าน้อยขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ชี้แนะ
คนที่บ้านที่กินเป็นก็ไปเฝ้าเง็กเซียนกันหมดแล้ว
- แนะนำยี่ห้อทีครับ
เน้นแก่ หาซื้อไม่ยาก ไม่แพงเว่อ ไม่ต้องชั้นดี ชาดำ ชาแดง ชาเขียว
ไรก็ได้ ขอให้มัน "ดีด" ผมกินอะไรก็ได้
- อุปกรณ์
กาเล็ก กับถ้วยชา แค่นี้โอมั้ยครับ มีอะไรมากกว่านี้มั้ย แบบเก็บความร้อนไรงี้
-วิธีกิน
ก็คือโยนใบชาขยุ้มปลายนิ้วลงไป
ในกาน้ำ เทน้ำร้อน รอ แล้วใบชาใช้ซ้ำข้ามวันเป้นไรมั้ย
เลิกกินกาแฟมาปีนึงละ บางทีปวดหัวช่วงหัวค่ำ
พอเลิกกินถึงรู้ว่า เป็นเพราะกาแฟนี่เอง
อยากดีดตอนทำงาน แต่ไม่อยากกลับไปปวดหัวแบบนั้นอีก
เลยกินชากำแทน
ข้าน้อยขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่ชี้แนะ
ส่วนเรื่องตื่นและเรื่องสุขภาพ เคยได้ยินว่าเครื่องดื่มชูกำลังดีกว่าในแง่ของการทำลายร่างกาย (ทำลายน้อยกว่า)
อิอิ
BayZ 23 Feb 2021
ปกติชาน้ำแรกให้เทน้ำทิ้งหรือเอาน้ำมาล้างถ้วยชา... ให้พวกเศษฝุ่นผงจากใบออกมา...
umbababa 23 Feb 2021
ผมเคยชงแต่3ม้ากินเองกะไหว้เจ้า ไม่รู้ละเอียด
น้ำแรกล้างใบชา รอให้ใบพองนิดนึงแล้วเททิ้ง
น้ำสองเทแล้วรอ2-3นาที
น้ำ3-5ไม่ควรกินนัก เพราะมีฤทธ์ในการไปฆ่าจุลินทรีย์ในลำไส้ อย่างแลกโตบาซิลัสได้(คนจีนใช้เป็นยาแก้ม้องเสีย) พวกร้านข้างทางนี่รีดถึงน้ำ6
ว่าไปผมก็ไม่รู้หลัก บางวันก็อร่อย บางวันก็ไม่อร่อย ชงมั่วๆซั่วๆ
Edited by umbababa, 23 February 2021 - 08:51 AM.
น้ำแรกล้างใบชา รอให้ใบพองนิดนึงแล้วเททิ้ง
น้ำสองเทแล้วรอ2-3นาที
น้ำ3-5ไม่ควรกินนัก เพราะมีฤทธ์ในการไปฆ่าจุลินทรีย์ในลำไส้ อย่างแลกโตบาซิลัสได้(คนจีนใช้เป็นยาแก้ม้องเสีย) พวกร้านข้างทางนี่รีดถึงน้ำ6
ว่าไปผมก็ไม่รู้หลัก บางวันก็อร่อย บางวันก็ไม่อร่อย ชงมั่วๆซั่วๆ
Edited by umbababa, 23 February 2021 - 08:51 AM.
manu16 23 Feb 2021
เอ ผมว่ามันไม่ต่างกับที่กินกาแฟเลยนะ คาเฟอีนพอๆกัน
ผมไม่รู้ว่ากาแฟที่เคยกินเป็นแบบไหน ถ้ากาแฟซื้อกินตามร้าน มันจะมีพวกครีมเทียมกะน้ำตาล อันนี้ไม่ดี
ถ้ากินกาแฟ ใช้พวกเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Nespresso เพราะสะดวกรวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก Xiaomi มีทำ ราคาไม่ถึง2พันในshopee ตกแคปซูลละ20-30฿
กินแบบ Espressoช็อตเล็กๆ30cc. หรือLungo แก้วใหญ่100cc.ก็ได้
กาแฟเพียวๆไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่นม วันละแก้ว ดีที่สุดละ
ผมไม่รู้ว่ากาแฟที่เคยกินเป็นแบบไหน ถ้ากาแฟซื้อกินตามร้าน มันจะมีพวกครีมเทียมกะน้ำตาล อันนี้ไม่ดี
ถ้ากินกาแฟ ใช้พวกเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Nespresso เพราะสะดวกรวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก Xiaomi มีทำ ราคาไม่ถึง2พันในshopee ตกแคปซูลละ20-30฿
กินแบบ Espressoช็อตเล็กๆ30cc. หรือLungo แก้วใหญ่100cc.ก็ได้
กาแฟเพียวๆไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่นม วันละแก้ว ดีที่สุดละ
auhibs 23 Feb 2021
เอาแบบเบื้องต้น
ชาขาว ชาเขียว และชาเหลือง ซึ่งทำมาจากยอดใบชาที่อ่อนมาก มีรูปร่างบอบบาง แตกหักง่าย ควรใช้น้ำท่ีอุณภูมิประมาณ 71-80 องศาเซสเซียส
ชาอุ่หลง เป็นชาลักษณะกลางๆ ควรใช้น้ำที่อุณภูมิ ประมาณ 85-95 องศาเซสเซียส
ส่วนชาผู่เอ่อร์ หรือชาที่มีลักษณะกลมแน่น นั้น ต้องใช้น้ำเดือดที่ประมาณ 97-98 องศาเซสเซียส
วิธีชงชาให้อร่อยอย่างถูกต้อง
ชาเป็นเครื่องดื่มสากลของโลก คนเกือบทุกประเทศล้วนรู้จักการดื่มชา และมีวิธีการชงและดื่มชาเป็นของตัวเอง โดยอาจผสมวัตถุดิบปรุงแต่งต่างๆแตกต่างกันไป เช่น ชงชากับนมตัวจามรี (ธิเบต), การเพิ่มใบ spearmint ลงไปในน้ำชา (โมร็อกโก), ชงชาใส่เครื่องเทศต่างๆ (อินเดีย), หรือ การเติมเม็ดสาคูต้มน้ำตาลลงในชา (ไต้หวัน) เป็นต้น
อย่างไรก็ตามรสชาติของชา หลักๆอยู่ที่น้ำชา การเสริมเติมสิ่งต่างๆลงไปนั้น จัดเป็นเครื่องตกแต่งเพื่อเสริมรสชาติของชาและเพิ่มความหลากหลายเป็นเอกเทศของชนชาตินั้นๆ น้ำชารสชาติดี บวกกับการปรุงแต่งที่ถูกใจ ย่อมพาคนดื่มรื่นรมณ์ไปกับรสชาติได้ไม่ยาก แต่หากถ้าตัวน้ำชาเองรสชาติไม่ดีเสียแล้วละก็ จะเสริมเติมแต่งอย่างไร คงยากนักที่จะแก้ให้รสชาติดีกลับมาดังเดิมได้
เคล็ดลับวิชา ในการชงชาให้อร่อย นั่นก็คือการทำใจให้สงบ! เอ๊ย! ไม่ใช่ครับ เคล็ดลับในการชงชาอยู่ที่ 3 ปัจจัยหลักนั่นก็คือ วัตถุดิบ, วิธีการ, และ อุปกรณ์ ครับ
ขั้นตอนการชงชาที่ถูกต้อง
1. เลือกใบชาที่ดี
คุณภาพของใบชา ชาที่ดีต้องแห้งสนิท และสีเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่กระดำกระด่างมากนัก กลิ่นต้องดี ไม่เหม็นหืนหรืออับชื้น ไม่สิ่งสกปรกเจือปน ใบชาหลังชงดื่มต้องมีสภาพสมบูรณ์ไม่เล็กๆใหญ่ ขาดๆเกิน
ปริมาณของใบชา เป็นที่รุ้กันว่า หากปริมาณใบชามากชาก็ยิ่งแก่ ปริมาณน้อยใบชาน้อย ชาก็ยิ่งอ่อน แต่นอกเหนือไปจากความชอบในการดื่มชาอ่อนหรือชาแก่แล้ว ลักษณะของใบชาก็มีผลต่อการชงด้วย การชงชาที่ดี และได้รสชาติที่ครบถ้วนนั้น หลังจากเทน้ำลงในกาแล้ว ต้องมีที่เหลือให้ใบชาคลายตัวได้อย่างเต็มที่ ปริมาณใบชาหลังคลายตัวเต็มที่นั้น ก็ไม่ควรเกิน 90% ของกานะครับ ดังนั้น ก่อนที่เราจะชงชา เราควรพิจารณารูปร่างของใบชากันก่อนว่า เป็นลักษณะกลมแน่น กลมหลวม หรือเป็นใบ หาก เป็นใบชามีการม้วนตัวแน่นมากๆจนกลมดิ๊ก เราควรใช้ชาแค่ประมาณ 1/6 หรือ 1/4 (17%-25%) ของกาน้ำชาก็เพียงพอ หากเป็นชาใบที่ไม่มีการม้วนตัวนั้น ให้เราใช้ใบชาได้ไม่เกิน 2/3 (67%) ของกาน้ำชา เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของใบชาด้วยครับ
2. ใช้น้ำที่ถูกต้อง
ถ้าน้ำชาขาดน้ำ มันก็จะไม่เป็นน้ำชาใช่มั้ยครับ (ฮา) ลักษณะและคุณภาพของน้ำ เป็นสิ่งสำคัญทีเดียวต่อรสชาติของน้ำชาครับ น้ำแต่ล่ะแก้วที่เราดื่มกันทุกวันนั้น แม้ดูเผินๆจะเหมือนกัน แต่พวกเธอผ่านอะไรๆมาต่างกันครับ น้ำที่เหมาะกับการชงชานั้นต้องเป็นน้ำที่ สด ใหม่ สะอาด และบริสุทธิ์นั่นเอง
แล้วน้ำอย่างไรล่ะ ที่จะเรียกได้ว่า สด ใหม่ สะอาด บริสุทธิ์ ในที่นี่ผมหมายถึงว่า เป็นน้ำที่ไม่มีกลิ่นอื่นเจือปน ไม่ใช้สารเคมีในการปรับคุณภาพ อีกทั้งไม่ใช่น้ำที่ผ่านการต้มมาแล้วหลายครั้ง เพราะน้ำพวกนี้จะมีอ๊อกซิเจนน้อย หากนำมาชงชาจะทำให้รสชาติชาชืดไป ขาดความนุ่ม และความลึก (อันนี้สามารถสังเกตุได้จากการชงชาโดยใช้น้ำจาก กาน้ำร้อนไฟฟ้าที่ต้มทิ้งไว้หลายรอบ รสชาติของน้ำชาจะต่างจากการใช้น้ำที่ต้มสดใหม่ๆเพียงครั้งเดียว) และ หากเป็นไปได้ ควรใช้น้ำที่มีค่าน้ำเป็นกลาง (PH7) ดังนั้นจะเหมาะที่สุด
ดังนั้น เราจึงไม่ควรนำน้ำแร่ (ค่า PH เป็นกรด) หรือ น้ำประปาดื่มได้ (ผ่านการใช้สารเคมีในการปรับแต่งคุณภาพ) มาชงชา ใช้น้ำดื่มบรรจุขวดธรรมดาก็เพียงพอแล้ว
เรื่องของน้ำอีกเรื่องหนึ่งก็คือ อุณภูมิ ซึ่งอุณภูมิของน้ำที่ต่างกัน ก็จะมีผลให้รสชาตินำ้ชาต่างกันอย่างชัดเจน (อันนี้แนะนำให้ลองปรับอุณภุมิตอนชงเล่นกันดูสนุกๆได้นะครับ) โดยส่วนใหญ่แล้ว อุณภูมิของน้ำที่เหมาะกับการชงชา จะอยู่ระหว่าง 70-100 องศา และจะแตกต่างกันไปตามชนิดและรูปร่างของชา ดังต่อไปนี้
ชาขาว ชาเขียว และชาเหลือง ซึ่งทำมาจากยอดใบชาที่อ่อนมาก มีรูปร่างบอบบาง แตกหักง่าย ควรใช้น้ำท่ีอุณภูมิประมาณ 71-80 องศาเซสเซียส
ชาอุ่หลง เป็นชาลักษณะกลางๆ ควรใช้น้ำที่อุณภูมิ ประมาณ 85-95 องศาเซสเซียส
ส่วนชาผู่เอ่อร์ หรือชาที่มีลักษณะกลมแน่น นั้น ต้องใช้น้ำเดือดที่ประมาณ 97-98 องศาเซสเซียส
3.ชงและดื่มชาให้ถูกหลัก
วิธีการชงและการดื่มชานั้น ผูกพันกับประเพณีและวัฒธรรมมากมาย แตกต่างกันไปตามประเภทและยุคสมัย ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมของแต่ละสังคมและความสุนทรีย์ในการดื่มชาเท่านั้น หากแต่ยังเกี่ยวพันถึงรสชาติของน้ำชาอีกด้วย โดยเฉพาะ ในเรื่องของเวลา และอุณภูมิ ที่แทรกอยู่ในแต่ล่ะขั้นตอนนั่นเอง
เวลาที่ใช้ในการชงชานั้น จะสัมพันธ์กับความอ่อนแก่ของชา ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องของความชอบของแต่ล่ะบุคคล แต่นอกเหนือจากความชอบแล้ว การชงชาก็มีเวลาที่เหมาะสมที่อาจเรียกได้ว่า เป็นเวลามาตราฐานในการชงชา ซึ่งเป็นเวลาที่ทำให้รสชาติชาออกได้ครบ ไม่เข้มเกินไป และไม่จางเกินเหตุ กล่าวคือหากเป็นการชงชาน้ำแรก จะใช้เวลาประมาณ 40-60 วินาที และครั้งต่อๆไป ต้องเพิ่มอีกครั้งล่ะ ประมาณ 10-15 วินาที แต่ท่านไหนจะชงอ่อน หรือ แก่กว่านี้ ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องของอุณภูมิที่จะกล่าวถึงนี้ ไม่ใช่อุณภูมิของอากาศ หรือ มือแต่อย่างใด หากแต่เป็นอุณภูมิของ ถ้วยชาและกาน้ำชานั้นเอง หลายท่านคงเคยได้ยินเรื่องใช้น้ำร้อนลวกกาและถ้วยน้ำชาก่อนการดื่มและการชงใช่มั้ยครับ และคงคิดว่า เป็นการทำไปเพื่อการฆ่าเชื้อโรค อะไรทำนองนั้น ซึ่งอาจจะถูกแค่ครึ่งเดียว วัตถุประสงค์หลักจริงๆในการใช้น้ำเดือดลวกอุปกรณ์ ก็เพื่อเป็นการควบคุมให้มีความแตกต่างของอุณภูมิระหว่าง น้ำชา กับ กาและถ้วยชา น้อยลง โดยเราควรลวกกาและถ้วยก่อนชงและดื่มหมดเป็นรอบๆไป ทำให้เรารักษาอุณภูมิของน้ำที่ชงชาได้ดีขึ้น ซึ่งก็จะทำให้น้ำชาอร่อยยิ่งขึ้นนั่นเอง อีกทั้งการลวกอุปกรณ์ก่อนการชงนั้น ก็จะทำให้ ชาที่ชงสามารถรักษาความร้อนไว้ได้นานขึ้น
Source:http://www.ohlor.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2/
Edited by auhibs, 23 February 2021 - 10:56 AM.
ชาขาว ชาเขียว และชาเหลือง ซึ่งทำมาจากยอดใบชาที่อ่อนมาก มีรูปร่างบอบบาง แตกหักง่าย ควรใช้น้ำท่ีอุณภูมิประมาณ 71-80 องศาเซสเซียส
ชาอุ่หลง เป็นชาลักษณะกลางๆ ควรใช้น้ำที่อุณภูมิ ประมาณ 85-95 องศาเซสเซียส
ส่วนชาผู่เอ่อร์ หรือชาที่มีลักษณะกลมแน่น นั้น ต้องใช้น้ำเดือดที่ประมาณ 97-98 องศาเซสเซียส
วิธีชงชาให้อร่อยอย่างถูกต้อง
ชาเป็นเครื่องดื่มสากลของโลก คนเกือบทุกประเทศล้วนรู้จักการดื่มชา และมีวิธีการชงและดื่มชาเป็นของตัวเอง โดยอาจผสมวัตถุดิบปรุงแต่งต่างๆแตกต่างกันไป เช่น ชงชากับนมตัวจามรี (ธิเบต), การเพิ่มใบ spearmint ลงไปในน้ำชา (โมร็อกโก), ชงชาใส่เครื่องเทศต่างๆ (อินเดีย), หรือ การเติมเม็ดสาคูต้มน้ำตาลลงในชา (ไต้หวัน) เป็นต้น
อย่างไรก็ตามรสชาติของชา หลักๆอยู่ที่น้ำชา การเสริมเติมสิ่งต่างๆลงไปนั้น จัดเป็นเครื่องตกแต่งเพื่อเสริมรสชาติของชาและเพิ่มความหลากหลายเป็นเอกเทศของชนชาตินั้นๆ น้ำชารสชาติดี บวกกับการปรุงแต่งที่ถูกใจ ย่อมพาคนดื่มรื่นรมณ์ไปกับรสชาติได้ไม่ยาก แต่หากถ้าตัวน้ำชาเองรสชาติไม่ดีเสียแล้วละก็ จะเสริมเติมแต่งอย่างไร คงยากนักที่จะแก้ให้รสชาติดีกลับมาดังเดิมได้
เคล็ดลับวิชา ในการชงชาให้อร่อย นั่นก็คือการทำใจให้สงบ! เอ๊ย! ไม่ใช่ครับ เคล็ดลับในการชงชาอยู่ที่ 3 ปัจจัยหลักนั่นก็คือ วัตถุดิบ, วิธีการ, และ อุปกรณ์ ครับ
ขั้นตอนการชงชาที่ถูกต้อง
1. เลือกใบชาที่ดี
คุณภาพของใบชา ชาที่ดีต้องแห้งสนิท และสีเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่กระดำกระด่างมากนัก กลิ่นต้องดี ไม่เหม็นหืนหรืออับชื้น ไม่สิ่งสกปรกเจือปน ใบชาหลังชงดื่มต้องมีสภาพสมบูรณ์ไม่เล็กๆใหญ่ ขาดๆเกิน
ปริมาณของใบชา เป็นที่รุ้กันว่า หากปริมาณใบชามากชาก็ยิ่งแก่ ปริมาณน้อยใบชาน้อย ชาก็ยิ่งอ่อน แต่นอกเหนือไปจากความชอบในการดื่มชาอ่อนหรือชาแก่แล้ว ลักษณะของใบชาก็มีผลต่อการชงด้วย การชงชาที่ดี และได้รสชาติที่ครบถ้วนนั้น หลังจากเทน้ำลงในกาแล้ว ต้องมีที่เหลือให้ใบชาคลายตัวได้อย่างเต็มที่ ปริมาณใบชาหลังคลายตัวเต็มที่นั้น ก็ไม่ควรเกิน 90% ของกานะครับ ดังนั้น ก่อนที่เราจะชงชา เราควรพิจารณารูปร่างของใบชากันก่อนว่า เป็นลักษณะกลมแน่น กลมหลวม หรือเป็นใบ หาก เป็นใบชามีการม้วนตัวแน่นมากๆจนกลมดิ๊ก เราควรใช้ชาแค่ประมาณ 1/6 หรือ 1/4 (17%-25%) ของกาน้ำชาก็เพียงพอ หากเป็นชาใบที่ไม่มีการม้วนตัวนั้น ให้เราใช้ใบชาได้ไม่เกิน 2/3 (67%) ของกาน้ำชา เป็นต้น ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของใบชาด้วยครับ
2. ใช้น้ำที่ถูกต้อง
ถ้าน้ำชาขาดน้ำ มันก็จะไม่เป็นน้ำชาใช่มั้ยครับ (ฮา) ลักษณะและคุณภาพของน้ำ เป็นสิ่งสำคัญทีเดียวต่อรสชาติของน้ำชาครับ น้ำแต่ล่ะแก้วที่เราดื่มกันทุกวันนั้น แม้ดูเผินๆจะเหมือนกัน แต่พวกเธอผ่านอะไรๆมาต่างกันครับ น้ำที่เหมาะกับการชงชานั้นต้องเป็นน้ำที่ สด ใหม่ สะอาด และบริสุทธิ์นั่นเอง
แล้วน้ำอย่างไรล่ะ ที่จะเรียกได้ว่า สด ใหม่ สะอาด บริสุทธิ์ ในที่นี่ผมหมายถึงว่า เป็นน้ำที่ไม่มีกลิ่นอื่นเจือปน ไม่ใช้สารเคมีในการปรับคุณภาพ อีกทั้งไม่ใช่น้ำที่ผ่านการต้มมาแล้วหลายครั้ง เพราะน้ำพวกนี้จะมีอ๊อกซิเจนน้อย หากนำมาชงชาจะทำให้รสชาติชาชืดไป ขาดความนุ่ม และความลึก (อันนี้สามารถสังเกตุได้จากการชงชาโดยใช้น้ำจาก กาน้ำร้อนไฟฟ้าที่ต้มทิ้งไว้หลายรอบ รสชาติของน้ำชาจะต่างจากการใช้น้ำที่ต้มสดใหม่ๆเพียงครั้งเดียว) และ หากเป็นไปได้ ควรใช้น้ำที่มีค่าน้ำเป็นกลาง (PH7) ดังนั้นจะเหมาะที่สุด
ดังนั้น เราจึงไม่ควรนำน้ำแร่ (ค่า PH เป็นกรด) หรือ น้ำประปาดื่มได้ (ผ่านการใช้สารเคมีในการปรับแต่งคุณภาพ) มาชงชา ใช้น้ำดื่มบรรจุขวดธรรมดาก็เพียงพอแล้ว
เรื่องของน้ำอีกเรื่องหนึ่งก็คือ อุณภูมิ ซึ่งอุณภูมิของน้ำที่ต่างกัน ก็จะมีผลให้รสชาตินำ้ชาต่างกันอย่างชัดเจน (อันนี้แนะนำให้ลองปรับอุณภุมิตอนชงเล่นกันดูสนุกๆได้นะครับ) โดยส่วนใหญ่แล้ว อุณภูมิของน้ำที่เหมาะกับการชงชา จะอยู่ระหว่าง 70-100 องศา และจะแตกต่างกันไปตามชนิดและรูปร่างของชา ดังต่อไปนี้
ชาขาว ชาเขียว และชาเหลือง ซึ่งทำมาจากยอดใบชาที่อ่อนมาก มีรูปร่างบอบบาง แตกหักง่าย ควรใช้น้ำท่ีอุณภูมิประมาณ 71-80 องศาเซสเซียส
ชาอุ่หลง เป็นชาลักษณะกลางๆ ควรใช้น้ำที่อุณภูมิ ประมาณ 85-95 องศาเซสเซียส
ส่วนชาผู่เอ่อร์ หรือชาที่มีลักษณะกลมแน่น นั้น ต้องใช้น้ำเดือดที่ประมาณ 97-98 องศาเซสเซียส
3.ชงและดื่มชาให้ถูกหลัก
วิธีการชงและการดื่มชานั้น ผูกพันกับประเพณีและวัฒธรรมมากมาย แตกต่างกันไปตามประเภทและยุคสมัย ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมของแต่ละสังคมและความสุนทรีย์ในการดื่มชาเท่านั้น หากแต่ยังเกี่ยวพันถึงรสชาติของน้ำชาอีกด้วย โดยเฉพาะ ในเรื่องของเวลา และอุณภูมิ ที่แทรกอยู่ในแต่ล่ะขั้นตอนนั่นเอง
เวลาที่ใช้ในการชงชานั้น จะสัมพันธ์กับความอ่อนแก่ของชา ซึ่งอันนี้ก็เป็นเรื่องของความชอบของแต่ล่ะบุคคล แต่นอกเหนือจากความชอบแล้ว การชงชาก็มีเวลาที่เหมาะสมที่อาจเรียกได้ว่า เป็นเวลามาตราฐานในการชงชา ซึ่งเป็นเวลาที่ทำให้รสชาติชาออกได้ครบ ไม่เข้มเกินไป และไม่จางเกินเหตุ กล่าวคือหากเป็นการชงชาน้ำแรก จะใช้เวลาประมาณ 40-60 วินาที และครั้งต่อๆไป ต้องเพิ่มอีกครั้งล่ะ ประมาณ 10-15 วินาที แต่ท่านไหนจะชงอ่อน หรือ แก่กว่านี้ ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องของอุณภูมิที่จะกล่าวถึงนี้ ไม่ใช่อุณภูมิของอากาศ หรือ มือแต่อย่างใด หากแต่เป็นอุณภูมิของ ถ้วยชาและกาน้ำชานั้นเอง หลายท่านคงเคยได้ยินเรื่องใช้น้ำร้อนลวกกาและถ้วยน้ำชาก่อนการดื่มและการชงใช่มั้ยครับ และคงคิดว่า เป็นการทำไปเพื่อการฆ่าเชื้อโรค อะไรทำนองนั้น ซึ่งอาจจะถูกแค่ครึ่งเดียว วัตถุประสงค์หลักจริงๆในการใช้น้ำเดือดลวกอุปกรณ์ ก็เพื่อเป็นการควบคุมให้มีความแตกต่างของอุณภูมิระหว่าง น้ำชา กับ กาและถ้วยชา น้อยลง โดยเราควรลวกกาและถ้วยก่อนชงและดื่มหมดเป็นรอบๆไป ทำให้เรารักษาอุณภูมิของน้ำที่ชงชาได้ดีขึ้น ซึ่งก็จะทำให้น้ำชาอร่อยยิ่งขึ้นนั่นเอง อีกทั้งการลวกอุปกรณ์ก่อนการชงนั้น ก็จะทำให้ ชาที่ชงสามารถรักษาความร้อนไว้ได้นานขึ้น
Source:http://www.ohlor.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%8A%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2/
Edited by auhibs, 23 February 2021 - 10:56 AM.
9th TEARDROP 23 Feb 2021
aspirin, on 23 February 2021 - 12:20 AM, said:
แนะนำตัวนี้ครับ ดื่มชุ่มคอดี
manu16, on 23 February 2021 - 10:37 AM, said:
เอ ผมว่ามันไม่ต่างกับที่กินกาแฟเลยนะ คาเฟอีนพอๆกัน
ผมไม่รู้ว่ากาแฟที่เคยกินเป็นแบบไหน ถ้ากาแฟซื้อกินตามร้าน มันจะมีพวกครีมเทียมกะน้ำตาล อันนี้ไม่ดี
ถ้ากินกาแฟ ใช้พวกเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Nespresso เพราะสะดวกรวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก Xiaomi มีทำ ราคาไม่ถึง2พันในshopee ตกแคปซูลละ20-30฿
กินแบบ Espressoช็อตเล็กๆ30cc. หรือLungo แก้วใหญ่100cc.ก็ได้
กาแฟเพียวๆไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่นม วันละแก้ว ดีที่สุดละ
ผมไม่รู้ว่ากาแฟที่เคยกินเป็นแบบไหน ถ้ากาแฟซื้อกินตามร้าน มันจะมีพวกครีมเทียมกะน้ำตาล อันนี้ไม่ดี
ถ้ากินกาแฟ ใช้พวกเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบ Nespresso เพราะสะดวกรวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก Xiaomi มีทำ ราคาไม่ถึง2พันในshopee ตกแคปซูลละ20-30฿
กินแบบ Espressoช็อตเล็กๆ30cc. หรือLungo แก้วใหญ่100cc.ก็ได้
กาแฟเพียวๆไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่นม วันละแก้ว ดีที่สุดละ
แต่อุตส่าเลิกได้ ทนเป็นหมาหงอยไปสัปดาห์เต็มๆ ทรมานกว่าที่คิดเยอะเลย ไม่อยากกลับไปติดอีก
เท่าที่กินมา 10วันนี่ มันก็ไม่ปวดหัวนะ
auhibs, on 23 February 2021 - 10:53 AM, said:
เอาแบบเบื้องต้น
gvirus 23 Feb 2021
ไหนๆครีเอเตอร์ตัวยงมาดื่มละ ขอคลิปเฮียหยาดใส่กิโมโนสาธิตการดื่มชา พร้อมประวัติชาแบบละเอียดทีครับ 55
Edited by gvirus, 23 February 2021 - 01:03 PM.
Edited by gvirus, 23 February 2021 - 01:03 PM.
9th TEARDROP 23 Feb 2021
gvirus, on 23 February 2021 - 01:03 PM, said:
ไหนๆครีเอเตอร์ตัวยงมาดื่มละ ขอคลิปเฮียหยาดใส่กิโมโนสาธิตการดื่มชา พร้อมประวัติชาแบบละเอียดทีครับ 55
ท่าจะไม่รอด ชงยังไม่เป้นเลยคุณ 555
ตอนนี้โควิด ว่างจัดทั้งน้าทั้งหลาน ทำโปรเจค ชาแนลสยองขวัญ กับหลานอยู่
คนดูล้นหลามมาก เกือบสิบวิวละ 555 อยากฟังก็ไปกดดูได้นะ
ใครผ่านไปผ่านมา กดซับให้ด้วยก็ดีนะ คิดว่าเอาบุญละกัน
สยองนานาชาติ
https://www.youtube....ZMntXwNf64Vy1LQ
Edited by 9th TEARDROP, 23 February 2021 - 10:02 PM.
umbababa 23 Feb 2021
ผมเคยอ่านในการตูนเรื่อง ป๋าอัจริยะ เรื่องการเทนมร้อนนำเพื่ออุ่นแก้วน้ำชา หรือการคุมอุณหภูมิน้ำแรกน้ำสอง
ตอนนั้นผมนึกว่าเป็นความซีเรียสของประเทศเมืองหนาว ที่ไม่สามารถรักษาความร้อนใดๆได้นานเสียอีก
บางเรื่องบอกว่า ต้มน้ำด้วยเตาถ่านชาจะอร่อยกว่ากาไฟฟ้า ผมก็คิด ต้องลำบากปานนี้เชียว
Edited by umbababa, 23 February 2021 - 11:17 PM.
ตอนนั้นผมนึกว่าเป็นความซีเรียสของประเทศเมืองหนาว ที่ไม่สามารถรักษาความร้อนใดๆได้นานเสียอีก
บางเรื่องบอกว่า ต้มน้ำด้วยเตาถ่านชาจะอร่อยกว่ากาไฟฟ้า ผมก็คิด ต้องลำบากปานนี้เชียว
Edited by umbababa, 23 February 2021 - 11:17 PM.
aspirin 24 Feb 2021
umbababa, on 23 February 2021 - 11:16 PM, said:
ผมเคยอ่านในการตูนเรื่อง ป๋าอัจริยะ เรื่องการเทนมร้อนนำเพื่ออุ่นแก้วน้ำชา หรือการคุมอุณหภูมิน้ำแรกน้ำสอง
ตอนนั้นผมนึกว่าเป็นความซีเรียสของประเทศเมืองหนาว ที่ไม่สามารถรักษาความร้อนใดๆได้นานเสียอีก
บางเรื่องบอกว่า ต้มน้ำด้วยเตาถ่านชาจะอร่อยกว่ากาไฟฟ้า ผมก็คิด ต้องลำบากปานนี้เชียว
ตอนนั้นผมนึกว่าเป็นความซีเรียสของประเทศเมืองหนาว ที่ไม่สามารถรักษาความร้อนใดๆได้นานเสียอีก
บางเรื่องบอกว่า ต้มน้ำด้วยเตาถ่านชาจะอร่อยกว่ากาไฟฟ้า ผมก็คิด ต้องลำบากปานนี้เชียว
Piggyealker 24 Feb 2021
สมัยก่อนอาม่าผม ไม่มีไรมาก เอาใบชาใส่กาน้ำชาเล็กๆ ใส่น้ำร้อนเททิ้งรอบนึง
แล้วเติมน้ำร้อนเต็มๆ นั่งชิวจิบชาฟังเจ้าแม่กวนอิมทั้งวัน
วันไหนอยากกินร้อนๆนานๆ ใส่กาน้ำร้อนเก็บความร้อน แค่นั้นเลย
ส่วนชาอะไรไม่รู้เหมือนกัน
แล้วเติมน้ำร้อนเต็มๆ นั่งชิวจิบชาฟังเจ้าแม่กวนอิมทั้งวัน
วันไหนอยากกินร้อนๆนานๆ ใส่กาน้ำร้อนเก็บความร้อน แค่นั้นเลย
ส่วนชาอะไรไม่รู้เหมือนกัน
9th TEARDROP 24 Feb 2021
umbababa 25 Feb 2021
ที่ต้องอุ่นกา อุ่นฝากา อุ่นแก้ว เพื่อไม่ให้ ภาชนะมันแย่งอุณหภูมิน้ำร้อนไปสินะครับ
แต่ เอาน้ำล้างใบชา ไปราด กบไม้ ทำไมหว่า
ตอนผมดูคลิปผมนึกว่านางจะเล่นท่าตอนเทซะแล้ว
แต่ เอาน้ำล้างใบชา ไปราด กบไม้ ทำไมหว่า
ตอนผมดูคลิปผมนึกว่านางจะเล่นท่าตอนเทซะแล้ว