Open World หรือเกมเปิดโลกกว้างเป็นเกมที่ผู้เล่นหลายคนต่างชื่นชอบและหลงรักเป็นอย่างมากจนกลายเป็นเทรนด์เกมยอดนิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็แน่นอนว่าผู้เล่นทุกคนจะต้องพบเจอกับประสบปัญหากับการเล่นเกมประเภทนี้ เพราะแม้ว่าเกมในปัจจุบันจะเริ่มมีธีมการนำเสนอที่หลากหลายและสามารถเพลินเพลินกับโลกในวีดีโอเกมมากขึ้น แต่ระบบของเกมเปิดโลกกว้างก็ยังคงสร้างความปวดหัวให้แก่เกมเมอร์อยู่ตลอดไม่ว่าจะเป็นเกมไหนก็ตาม
แล้วนี่คือ ปัญหาโลกแตกเมื่อเกมเมอร์ได้เล่นเกม Open World ที่จะยกรวมปัญหาต่าง ๆ ที่เกมเมอร์ทุกคนจะต้องปวดหัวกับเล่นเกมประเภทนี้แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้

เร่งทำภารกิจย่อยทั้งหมดก่อนเข้าสู่ตอนจบ

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ผู้เล่นจะสามารถแบ่งความสมดุลระหว่างการเล่นเกมในส่วนของภารกิจย่อยกับภารกิจหลัก เพราะว่าไม่ใช่ว่าภารกิจย่อยในเกมทั้งหมดจะมีเนื้อหาที่น่าดึดดูดและน่าสนใจเท่ากับเนื้อหาหลัก ทำให้ผู้เล่นที่เริ่มช่วงสุดท้ายของเนื้อเรื่องภายในเกม ผู้เล่นจะต้องมาวิ่งมาราธอนไล่เก็บเคลียร์กับปลดมิชชั่นเสริมทั่วแมป เพราะว่าเกมเปิดโลกกว้างบางเกม ถ้าหากผู้เล่นได้เล่นจบในส่วนเนื้อเรื่องหลักจนขึ้น Credits แล้ว เกมเมอร์จะไม่มีสิทธิที่จะกลับมาเล่นมิชชั่นเสริมได้อีกครั้ง
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลากับการเล่นใหม่รอบที่สอง หรือจะต้องย้อนกลับไปยังจุด Save ในช่วงก่อนที่จะถึงภารกิจสุดท้าย เกมเมอร์จึงจำเป็นต้องเคลียร์มิชชั่นเสริมทั้งหมดถึงแม้ว่าภารกิจเสริมจะไม่น่าสนใจก็ตาม

แต่งกายอย่างไรให้เก๋ ให้สมกับเป็น ‘ตัวละคร’

ถ้าหากเกมที่คุณเล่นไม่ใช่เป็นเกม RPG หรือเกมให้สวมบทบาทเป็นตัวละครคนใดคนหนึ่ง ผู้เล่นบางส่วนอาจจะประสบปัญหาเรื่องการแต่งตัวอย่างไรให้ดูเท่และเหมาะสมกับตัวละคร
แน่นอนว่าผู้เล่นบางคนไม่ได้รู้สึกซีเรียสขนาดนั้น เพราะว่ายังมีผู้เล่นอีกมากมายที่ยังคงเลือกแต่งกายอิสระราวกับเป็นตัวตนของตนเอง แต่พอการได้สวมบทบาทเป็นตัวละครที่มีบุคลิกและมีลักษณะนิสัยโดยเฉพาะและมีเนื้อหาที่ค่อนข้างดีในระดับหนึ่ง การแต่งตัวที่ฉีกแหวกแนวเกินไปอาจจะทำให้เกมสูญเสียอรรถรสในการเล่าเนื้อเรื่องได้เช่นกัน
อย่างเช่น เนื้อเรื่องในวีดีโอเกมได้เข้าถึงฉากที่มีความดราม่าเข้มข้นชนิดที่ทำให้ผู้เล่นน้ำตาแตกได้ แต่ตัวละครในเกมกลับแต่งตัวผิดเพี้ยนราวกับตัวตลก ใช่ ! ผู้เล่นรู้สึกน้ำตาตกจริง ๆ แต่ไม่ใช่เพราะเนื้อเรื่องดราม่ากินใจ แต่เป็นเพราะตลกกับการแต่งตัวของเรามันช่างขัดตากับคัตซีนซะเหลือเกินมากกว่า

ยาพาหนะหายไปไหน!?

หนึ่งในปัญหาโลกแตกของเกม Open World ก็คือคุณไม่สามารถหายานพาหนะหรือโดนทำลายทิ้งระหว่างทาง ทำให้คุณผู้เล่นจะต้องเสียเวลาเป็นอย่างมากกับการวิ่งไล่ตามหายานพาหนะที่สามารถใช้งานได้
โดยเฉพาะผู้เล่นที่ติดแหงกอยู่กลางป่าไม้ กลางทะเล หรือสถานที่ที่กว้างใหญ่ไพศาลไม่ค่อยมีการสัญจรไปมา ก็จงเตรียมใจไว้เลยว่าเกมเมอร์จะต้องทรมานกับการใช้เวลาถึง 5-20 นาที ในการกดปุ่มวิ่งรัวและไม่ยั้ง เพื่อไปให้ถึงจุดหมายปลายทาง หรือวิ่งตามหาถนนเส้นทางหลักที่มียานพาหนะสัญจรไปมาจนค่า Stamina ของตัวละครภายในเกมเกือบจะเต็มหลอดเลยทีเดียว

ฝันร้ายของผู้เก็บ 100% ด้วยการออกแบบภารกิจซ้ำซากและน่าเบื่อ

เกมรายละเอียดเยอะ ย่อมต้องใช้เวลากับเกมเยอะตาม ส่วนที่ยากกว่าการออกแบบสถานที่ในเกมให้มีสีสัน ก็คือการออกแบบภารกิจอย่างไรไม่ให้ซ้ำซาก ซึ่งเกมเปิดโลกกว้างหลายเกมจะสอบตกในส่วนนี้
จากการวิเคราะห์ของเพียงผู้เขียนแล้ว สาเหตุที่ภารกิจมีความซ้ำซากและน่าเบื่ออาจจะเป็นเพราะว่าตัวเกมมีความ กว้าง มากเกินไป ทำให้ทีมงานต้องเค้นไอเดียเยอะมากจนรู้สึกเปลืองงบและพลังงานโดยใช่เหตุ แล้วทีมงานจะออกแบบภารกิจอย่างไรให้ผู้เล่นได้ใช้เวลานอกจากมิชชั่นหลัก ? นั้นก็คือการยัดมิชชั่นเสริมหรือไอเท็มคอลเลคชั่นเพื่อดึงให้ผู้เล่นวิ่งได้สืบหาเปิด Wikia และผจญภัยให้ได้นานที่สุด
ซึ่งก็แน่นอนว่า การยัดมิชชั่นให้มีอารมณ์ที่หลากหลายจะต้องมีการนำเสนอที่น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งทีมงานบางกลุ่มอาจจะมองว่าภารกิจเหล่านี้เป็นเพียงแค่ Optional (ไม่บังคับเล่น) เท่านั้น ฉะนั้นทีมงานจึงไม่ให้ความสำคัญในส่วนนี้เท่าที่ควรแล้วมุ่งเน้นกับการนำเสนอในส่วนของเนื้อเรื่องหลักแทน
แต่เพราะแบบนี้ จึงทำให้เกมเปิดโลกกว้างที่มีงบจำกัดส่วนใหญ่มักจะลงเอยด้วยกระแสรีวิวเป็นเกมดีที่มีข้อเสียคือมิชชั่นเสริมขาดความสร้างสรรค์อยู่เสมอ ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าในเนื้อหาของส่วนนี้จะเป็นการทดสอบผู้เล่นที่ต้องการเก็บถ้วย 100% ว่าจะสามารถทนกับโลกในวีดีโอเกมที่ ‘ไร้ขอบเขต’ ได้มากแค่ไหน

บัค “เพียบ”

เพราะเป็นเกมที่มีสเกลใหญ่มากกว่าเกมทั่วไป จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เกมจะเสร็จสมบูรณ์ได้มีคุณภาพแท้ 100% โดยเกมไม่มีจุดบกพร่องและปลอดบัค ซึ่งแม้แต่ค่ายทีมพัฒนาผู้เป็นเจ้าพ่อเกมเปิดโลกกว้างอย่าง Rockstar Games ยังต้องประสบกับปัญหาเหล่านี้และยากที่จะแก้ไขได้ (เพราะมันเยอะเกินไปที่จะตรวจสอบได้)
แต่ก็อาจจะเป็นข้อดีสำหรับผู้เล่น เพราะว่าบัคของเกมเปิดโลกกว้างส่วนใหญ่จะเป็นการสร้างความบันเทิงขำ ๆ ให้แก่ผู้เล่นมากกว่าทำลายเกม (ต่อให้ทำลายก็ตลกอยู่ดี) ไม่ว่าจะเป็นโดนดูดหลุมอากาศ, ฟิสิกส์เพี้ยน หรือแม้แต่ AI ที่ดูง้องแง้ง ซึ่งโอกาสพบบัคก็หาได้ยากยิ่ง เนื่องจากบัคเหล่านี้ถ้านึกจะเกิดมันก็เกิดขึ้นตลอดได้เวลา และพอเกิดขึ้นแล้วมันจะตลกคอเมดี้ไม่เบาเลยด้วย

ข้อสุดท้าย
พอเชี่ยวชาญเกินไปแล้วเกมจะหมดความท้าทายโดยสมบูรณ์
แม้เริ่มต้นเราจะเหมือนถั่วงอกเปลือยๆ โลกทั้งใบช่างเต็มไปด้วยอันตราย ความลี้ลับ ปริศนา ความน่าสะพรึง
เพราะเกมส ยาวววววเกินไป จนผู้เล่นซึมซับ เกมสเพลย เทคนิค บั้ค จากความโหดหิน จนถึงจุดที่ไม่มีอะไรให้กลัวแล้ว
ถึงเลเวลศัตรูเพิ่ม แต่ฝีมือเราไม่ลด เกมมันก็จืดสนิดไปเลย
ผมเคยเล่นskyrimแล้วเหนือสุดหลุดไปบทดรากอนบอรน เล่นfalloutแล้วเดินซ้ายหลุดไปนูคาโคล่าเวลิด....แรกๆมันโหดนรกเลยเพราะไปด้วยlvขี้กระปิด
แต่พอจบแล้วกลับมาแมปแหลัก กลายเป็นเกมสโคตรง่ายทั้งเกม..
เคยคิดว่าzelda botwแก้จุดนี้ได้แล้ว แต่พอล้มดีไวดบีทได้3ตัวเกมก็น่าเบื่อละ พระเอกเก่งจนไร้เทียมทาน..

พึ่งเจอบั๊ก mad Max ตัวกระเด็นเข้าไปอยู่ในหิน ออกไม่ได้ คีย์ลัดเข้าเมืองก็ใช้ไม่ได้ ต้องรีเซ็ทอย่างเดียว

ช่วง 2ปีมานี่ผมพบวิธีที่ทำให้ผมเล่น Openworld สนุกขึ้นเยอะเลย

No HUD ครับ
หน้าจอว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย มินิแมป เป้าเล็ง จำนวนกระสุน หลอดเลือด ไอค่อนภารกิจ
ฟังดูเหมือนโคตรเทพใช่มั้ยครับ แต่ไม่เลยครับ ผมเล่นกากๆยังจบได้เลย
แค่ต้องคุ้นและเข้าใจระบบเกมก่อนแค่นั้นเอง

แรกๆอย่าเพิ่งฮาร์คคอร์มากครับ เล่นแบบเปิดทุกอย่างสัก 3-4ชม.รู้ระบบแล้วค่อยแอดอะไรเพิ่มเอาครับ
ระดับความยากตามนี้

- ปิดมินิแมป และปิดไอค่อนภารกิจพอก่อน ถ้าเกมไม่มีให้ปิดก็เอากระดาษอะไรมาบังครับ
จากเดิมที่ตาคุณเคยจ้องแต่มินิแมปคราวนี้คุณจะต้องสังเกตสภาพแวดล้อมเอาเองหมด
- งด load save เมื่อไม่ได้ดั่งใจ ถ้าศัตรูalert ก็ห้ามโหลดครับ รับผลกรรมไป
- งดใช้มาร์คหัวศัตรู และมองทะลุกำแพง พวกอีเกิ้ลอาย Ass Creed, ปักลูกศรบนหัวศัตรูงดครับ
มองเอาเอง จำเองเอง
- ปิดหลอดเลือด คุณจะรู้สึกว่าตายบ่อย แต่สักระยะคุณจะประมาณได้เองว่าเราทนมือทนตีนได้แค่ไหน
- ปิดแสดงจำนวนกระสุน กดเข้าเมนูเช็คเอาครับ เหมือนความจริงเราก็ต้องเช็คในกระเป๋าเหมือนกัน
- ปิดเป้าเล็ง แรกๆจะยิงฮิปไฟร์ไม่ได้เลยครับ หลังๆคุณจะกะได้เอง

เกมที่ผมเล่นแบบนี้มาแล้วก็พวก Ass Origins, Ghost Recon: Wildlands, Middle Earth Shadow of War, Metro 2033
ทั้งหมดในระดับความยากสูงสุดครับ

อยากให้ลองกันครับ แล้วจะพบกับมิติใหม่ เนื่องจากเกมสมัยนี้สปอยเราทุกอย่างจนเคยตัว
ย้ำกันอีกทีว่าไม่ต้องเล่นเกมเก่งนะครับ สิ่งที่ต้องการมีแค่อย่างเดียว "คุณสนุกกับการที่เกมยากขึ้นหรือเปล่า"
ถ้ารู้สึกไม่สนุกก็อย่าไปทำครับ ทรมานเปล่าๆ

9th TEARDROP, on 17 November 2018 - 10:57 PM, said:

ของผม จะสนุกได้ ต้องรู้ภาษา บางทีต้องกัดฟันเปิด กลูเกิ้ลแปลเอา

ของผมจะเล่นเกมสนุกได้คือแนว action 2D เน้น game play สนุกๆ ภาพไม่ต้องสวยมากก็ได้
ให้เล่นจริงจังแบบสมัยก่อน คงไม่ได้แล้ว คงเบื่อเกมก่อนแน่ๆ

9th TEARDROP, on 17 November 2018 - 10:57 PM, said:

ผมเล่นแบบนี้กับ horizon zero dawn เสพบรรยากาศกราฟฟิกเต็มอิ่มเลย เล่นสนุกขึ้นด้วย