ลองเอามาดูหลายๆเรื่องแล้ว ภาพก็ยังมีขอบบนขอบล่าง ไม่ทราบว่าเป็นที่ตัวไฟล์หนังเองหรือเปล่าครับ เพราะบางเรื่องของผมเป็น 720p ภาพยังเต็มจอเลย

ปล. ขอถามอีกข้อว่า หนังที่มี 24hz นี่หนังสกุลพวกไหนหรือเครื่องเล่นแบบไหนหรอครับ ทีวีผมลองเล่นมา มันก็ไม่มี 24hz ให้ปรับ แต่มี motion มาแทน (ET5T ในคู่มือบอกว่าถ้าหนังมี 24hz จะขึ้นมาให้ปรับ)
Edited by hanabishi, 20 August 2012 - 06:48 AM.

ถ้าสเกลที่ถูกต้องของหนังมันก็21:9ครับ ยังไงก็เหลือขอบบนล่าง ถ้าทีวีท่านไม่ใช่ 21:9

แล้วที่ท่านบอกว่าบางเรื่องเต็มจอ ก็เพราะว่ามันไม่ใช่ต้นฉบับที่แท้จริงหนะสิครับ

aspect ratio หนังมันทำมา 21:9 หรือ 2.35:1 ครับ.. คนส่วนใหญ่จะไม่เคยสังเกต ว่าหนังมันถ่ายมามีอัตราส่วนหลายแบบ คิดว่า Widescreen เหมือนกันหมด มีภาพขนาดเดียว แต่จอทีวี มันเป็น 16:9 ก็เลยไม่เต็มจอ

ถ้าเคยเข้าโรงหนัง แล้วสังเกตดู จะเห็นว่าหลายๆเรื่อง ตอนเปลี่ยนจากโฆษณามาฉายหนัง มันจะเลื่อนม่านออกอีกหน่อย เพื่อเพิ่มความกว้างจอ พวกนี้แหล่ะ คือหนัง 21:9 และผู้กำกับก็มีแนวโน้มที่จะทำหนังอัตราส่วนนี้ มากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วน 24Hz นี่ ไฟล์ mkv แทบทุกไฟล์ มาที่ 24Hz หมดครับ เพราะต้นฉบับหนัง Blu-ray มันทำมาที่ 24Hz

การปรับ 24hz ทำที่เครื่องเล่นนะครับ ไม่ใช่ที่ทีวี

ก่อนจะโหลดให้ดูที่รายละเอียดของหนัง (ความกว้าง ความสูง) ถ้าเป็น 1920*1080 ก็จะเต็มจอ
แต่ถ้าเป็น 1920*800 หรือ 1920*816 ก็จะมีขอบบนล่างครับ (เพราะความสูงของหนังไม่ถึง 1080)

หรือกรณี Hd ก็จะเป็น 1280*720 พวกนี้ก็จะเต็มจอครับ แต่ถ้าความสูงไม่ถึง 720 ภาพก็จะมีขอบบนล่างครับ ประมาณนี้อ่ะครับ

ปล.ผิดถูกยังก็ขออภัยด้วย

 maeke, on 23 August 2012 - 08:54 AM, said:

ผิดเต็มๆ อย่าบอกนะว่าเข้าใจแบบนี้มาตลอด?

1920 x 1080 เป็นความละเอียดของเม็ด Pixel ครับ ไม่ใช่สัดส่วนจอภาพแต่อย่างใดทั้งสิ้น

+ปัญหา หรือว่าคำถามหนึ่งที่บรรดานักเล่นดีวีดีมือใหม่ มักจะสงสัยกัน ก็คือเรื่องของขนาดภาพ ที่มักจะมีระบุไว้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น Full Screen , Widescreen , Letterbox , Anamorphic Widescreen หรือบางทีก็บอกออกมาเป็นสัดส่วนอย่าง 16:9 , 4:3 , 1.85:1 หรือว่า 2.35:1 ก็ยังมี . . บทความนี้จะมาอธิบายถึงที่มาของคำต่างๆ ที่ว่ามาแบบย่นย่อ และเข้าใจง่ายที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยภาษาแบบบ้านๆ . .

-อะไรคือ ไวด์สกรีน!?-

+ไว ด์สกรีน หรือ เลตเตอร์บ็อกซ์ ก็คือภาพของภาพยนตร์ ที่ปรากฎบนจอโทรทัศน์โดยทั่วไป ที่มีสัดส่วนของภาพเป็นแบบเดียวกันกับที่เห็นบนจอภาพยนตร์ โดยไม่ถูกบีบ หรือตัดสัดส่วนของภาพออกไป . .

+เพราะภาพยนตร์ที่ฉายๆกันตามโรง ภาพยนตร์ทั่วๆไปนั้น จะมีสัดส่วนระหว่างความกว้างกับความสูงตั้งแต่ 1.85 -2.4:1 แต่กับโทรทัศน์โดยทั่วๆไปนั้น จะมีอัตราส่วนเพียงแค่ 1.33:1 หรือ 4:3 . . ทำให้เมื่อนำไปออกอากาศทางโทรทัศน์เพื่อให้ได้ภาพเต็มจอ จึงต้องมีการกวาดภาพ หรือที่เรียกกันว่า "แพนแอนด์สแกน" (Pan & Scan) โดยจะเน้นโฟกัสไปที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของภาพที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในขณะนั้น ทำให้ความสำคัญ หรืออารมณ์ของภาพที่คนดู เคยได้รับจากจอภาพยนตร์จริงๆสูญหายไป หรือลดค่าลงไป . .

+"ไวด์สกรีน หรือ เลตเตอร์บ็อกซ์" จึงเกิดขึ้นมา เพื่อทำให้ภาพที่ปรากฎบนจอมีขนาดเดียวกับที่เห็นบนจอภาพยนตร์
ซึ่ง ทำให้ผู้ชมได้รับอรรถรสจากอัตราส่วนของภาพในแบบเดียวกับตอนที่ชมจากจอ ภาพยนตร์ และผู้ชมเองก็ไม่เสียการรับรู้สารที่ต้องการบอกจากภาพไป . .

+และ เพื่อคงอัตราส่วนของภาพเอาไว้บนจอโทรทัศน์ จึงต้องมีแถบสีดำคาดที่ด้านบน และด้านล่างขอจอ . . แม้ขนาดของภาพจะดูเล็กลงเมื่อเป็นภาพแบบไวด์สกรีน หรือ เลตเตอร์บ็อกซ์ แต่ข้อดีที่มาทดแทนก็คือ ภาพที่ได้ชม จะเป็นภาพเดียวกับที่เห็นๆกันบนจอภาพยนตร์นั่นเอง!!

-แล้วอานามอร์ฟิค ไวด์สกรีนล่ะ!? (Anamorphic Widescreen)-

+อา นามอร์ฟิค ไวด์สกรีน ก็คือเทคนิคในการถ่ายภาพไวด์สกรีน สำหรับถ่ายภาพไวด์สกรีนลงไปบนฟิล์มแบบ 35 ม.ม. หรือสื่อบันทึกอื่น ที่ปกติแล้วไม่ได้มีสัดส่วนของภาพเป็นไวด์สกรีน ซึ่งต่อมาคำๆนี้ก็ถูกนำมาใช้กับเทคนิคการเพิ่มคุณภาพของดีวีดี

+ดี วีดีที่ใช้อานามอร์ฟิค ไวด์สกรีน จะช่วยให้คุณภาพของภาพดีขึ้น รวมไปถึงตัวภาพยนตร์จะสามารถขยายสัดส่วนได้อย่างเหมาะเจาะกับสัดส่วนของจอ โทรทัศน์
แบบไวด์สกรีน ซึ่งมีอัตราส่วนอยู่ที่ 16:9 และกับโทรทัศน์ธรรมดาที่ใช้งานร่วมกับเครื่องเล่นดีวีดีที่สามารถปรับขนาดภาพให้เป็น
ไปตามมาตรฐานสเกลปกติได้ . .

+ซึ่งผู้ชมจะต้องปรับเครื่องเล่นดีวีดีให้เหมาะสมกับเครื่องรับโทรทัศน์ด้วย จึงจะได้ภาพที่ปรากฎบนจอในคุณภาพที่ดีที่สุด

ถ้าจะให้เต็มจอแท้จริง ปัจจุบันมี LED ยี่ห้อเดียวคือ Philips ที่เป็นจอ 21:9 แท้ๆ

และถ้าเอาหนังที่บันทึก 1:87:1 หรือ 2:35:1 มาเปิด จะเต็มจอ แบบ Full HD ไร้แถบดำบนล่าง 100%