Stop Action Panning
RiderXYG
24 Jan 2010
ไหนๆก็มีห้องเป็นของตัวเองผมอธิบายเทคนิค 2 อย่างนี้ล่ะกันนะครับ อ้างอิงจากเว็ปเทพ 
Stop Action กับ Panning คืออะไร ก็ตอบได้เลยว่าคือลักษณะการถ่ายาพที่มีการเคลื่อนไหวครับ
stop action ก็คือการถ่ายาพที่ต้องการหยุดความเคลื่อนไหวของวัตถุ ณ เวลาที่เราต้องการนั่นแหละครับ
panning ก็คือการถ่ายที่ต้องใช้เทคนิคในการเคลื่อนกล้องตามวัตถุ เพื่อให้ฉากหลังเบลอออกไป แต่วัตถุจะต้องมีความคมชัดในระดับหนึ่งนะครับ (บางทีไม่ต้องชัดมากก็ได้)
เมื่อไหร่ควรใช้เทคนิค stop action และ panning.........
ไม่มีหลักตายตัวหรอกครับว่ารูปไหนควรถ่ายแบบ stop & panning อยู่ที่จินตนาการของช่างาพเองว่าอยากให้าพออกมาแบบไหน แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความสามารถของกล้องและช่างาพเองด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าอยากแพนโดยใช้สปีดชัตเตอร์ 1 วินาที แบบนี้ โอกาสได้รูปคงน้อยมากๆ (ขนาดช่างาพ formula 1 ยังใช้แค่ประมาณ 1/60 เท่านั้นเอง)
อุปกรณ์ที่ควรมีล่ะ............
ฮืม.......กล้อง เลนส์อะไรก็ถ่ายได้ทั้งนั้นแหละครับ แต่โอกาสได้าพมันต่างกัน
เช่น ใช้ 350D จะไปสู้ 1D mark3 ก็คงไม่ไหว แต่ถามว่า 350D ถ่ายได้ไม๊ ถ่ายได้เหมือนกันครับ แต่ จังหวะที่เราต้องการ บางทีมันแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น โอกาสที่จะได้าพย่อมน้อยกว่าคนที่ใช้ 1D mark3 แน่นอน ส่วนเรื่อง เลนส์ ก็ เหมือนกันแหละครับ เลนส์อะไรก็ถ่ายได้เหมือนกันครับ อยู่ที่เราต้องการให้าพออกมาแบบไหน แต่ถ้าใช้เลนส์ wide ก็เสี่ยงหน่อย เพราะต้องเข้าไปใกล้วัตถุมาก (อันตราย หรือเข้าใกล้ไม่ได้ครับ) ทางที่ดีควรใช้ tele จะดีกว่าครับ ยิ่ง tele zoom ยิ่งสะดวกครับ
แล้วควรตั้งค่ากล้องยังไง.........
ส่วนใหญ่เลย ผมจะตั้งค่ากล้องแบบนี้
Focus mode เป็น continue (หรือ AI servo นั่นแหละ) เพราะกล้องจะคอยจับโฟกัสให้ตลอด เราควรจะเอาสมาธิไปอยู่ที่จังหวะที่เราจะถ่ายดีกว่า
shooting mode จะเลือกใช้ โหมด A (หรือ Av นั่นแหละ อันเดียวกัน) แล้วปรับแบบเร็วที่สุดครับ เร็วได้กี่เฟรมต่อวินาที ใส่ให้หมดเลยครับ 55555 จะได้ไม่พลาดโอกาสทอง ส่วนใหญ่โหมดนี้ผมจะเน้นถ่ายแบบ stop action มากกว่า แต่ถ้าจะถ่ายแบบ panning ผมจะปรับอีกแบบนึงครับ คือ จะใช้โหมด s (หรือ Tv) แล้วเลือกสปีดชัตเตอร์ตามที่เราต้องการ กล้องก็จะคำนวนค่ารูรับแสงให้เอง เท่านั้นเอง
ส่วนเรื่อง ISO ผมจะพยายามตั้งให้ต่ำๆไว้จะได้ไม่ต้องมี noise มารบกวนครับ
ทำไมไม่ใช้โหมด M ล่ะ.......
ตอนนี้กำลังหัดอยู่ครับ แต่ข้อเสียของโหมด M คือ ส่วนมากจะเป็นงานที่ต้องถ่าย outdoor สาพแสงจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เคยเจอแบบแบบว่าตอนตั้งค่าไว้แดดเปรี้ยงเลย แต่พอจังหว่ะที่จะถ่ายจริงๆ มีเมฆมาบังซะงั้นอ่ะ ปรับแก้ไม่ทันด้วย เลยต้องถ่ายแบบ under ไปก่อน แล้วค่อยไปแก้อีกที แต่ข้อดีของโหมด M ก็มีนะ (ไม่งั้นไม่หัดหรอก) คือถ้าปรับได้คล่องหน่อย โอกาสที่จะได้รูปดีๆ ง่ายกว่า ไม่ต้องมานั่งแก้ทีหลังด้วย
แล้วเรื่องการใช้ค่าสปีดชัตเตอร์ล่ะ...........
อันนี้ตอบยากครับ ไม่มีกฏตายตัว อยู่ที่ความสามารถและจินตนาการของช่างาพเองครับ
ใช่ว่าใช้สปีดชัตเตอร์ต่ำแล้วรูปจะสวยเสมอไปครับ แล้วก็อยู่ที่การฝึกฝนด้วย เพราะบางทีเมื่อคุณต้องการใช้สปีดชัตเตอร์ที่ต่ำมากจริงๆ แต่มือคุณนิ่งไม่พอ โอกาสได้รูปก็น้อยตามไปด้วยครับ เอาเป็นว่าอยู่ที่ประสบการณ์ดีกว่าครับ ถ่ายไปเยอะๆ แล้วก็จะรู้เองว่าควรใช้สปีดชัตเตอร์เท่าไหร่ ที่จะทำให้คุณได้รูปสวยๆ
ป.ล. จำไว้ให้แม่นครับ สปีดยิ่งต่ำ รูปยิ่งมีโอกาสเสียมาก
ควรถ่ายเป็น raw หรือ jpg ......
ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยครับ Raw เป็นคำตอบสุดท้ายเลยครับ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า สาพแสงเปลี่ยนตลอด โอกาสพลาดมีสูง ถ่ายเป็น Raw ไว้เอามาแก้ทีหลังได้ง่ายกว่า เพราะไฟล์ยืดหยุ่นกว่า jpg
แล้วเรื่องของการจัดองค์ประกอบาพล่ะ......
เมื่อก่อนเคยคิดว่าการถ่ายาพประเทนี้ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่ององค์ ประกอบาพมากนักหรอก เน้นจังหวะอย่างเดียวก็พอ แต่พอนานๆเข้า เริ่มโง่น้อยลงถึงได้รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นการถ่ายาพแบบไหนก็ควรจะเริ่มจากการ จัดองค์ประกอบาพ และแสงเป็นอันดับแรกก่อน เพราะถ้าเราได้าพจังหวะดีๆ แล้วองค์ประกอบาพดีด้วย มันก็ทำให้าพดูดีขึ้นผิดหูผิดตาไปเลย ส่วนเรื่องหลักการจัดองค์ประกอบาพนั้น ก็เหมือนๆกับการถ่ายาพทั่วไปนั่นแหละ ไม่ว่าจะเรื่อง เส้น สี รูปทรง จุดตัดเก้าช่อง ฯลฯ ใช้ได้หมด เพียงแต่ว่าคุณจะเลือกใช้แบบไหนในสถาณการณ์นั้นๆมากกว่า
เครดิต playpig pixpros.net ขอนำความรู้มาเผยแพร่ให้เพื่อนนะค้าบ
Stop Action กับ Panning คืออะไร ก็ตอบได้เลยว่าคือลักษณะการถ่ายาพที่มีการเคลื่อนไหวครับ
stop action ก็คือการถ่ายาพที่ต้องการหยุดความเคลื่อนไหวของวัตถุ ณ เวลาที่เราต้องการนั่นแหละครับ
panning ก็คือการถ่ายที่ต้องใช้เทคนิคในการเคลื่อนกล้องตามวัตถุ เพื่อให้ฉากหลังเบลอออกไป แต่วัตถุจะต้องมีความคมชัดในระดับหนึ่งนะครับ (บางทีไม่ต้องชัดมากก็ได้)
เมื่อไหร่ควรใช้เทคนิค stop action และ panning.........
ไม่มีหลักตายตัวหรอกครับว่ารูปไหนควรถ่ายแบบ stop & panning อยู่ที่จินตนาการของช่างาพเองว่าอยากให้าพออกมาแบบไหน แต่ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของความสามารถของกล้องและช่างาพเองด้วยนะครับ ไม่ใช่ว่าอยากแพนโดยใช้สปีดชัตเตอร์ 1 วินาที แบบนี้ โอกาสได้รูปคงน้อยมากๆ (ขนาดช่างาพ formula 1 ยังใช้แค่ประมาณ 1/60 เท่านั้นเอง)
อุปกรณ์ที่ควรมีล่ะ............
ฮืม.......กล้อง เลนส์อะไรก็ถ่ายได้ทั้งนั้นแหละครับ แต่โอกาสได้าพมันต่างกัน
เช่น ใช้ 350D จะไปสู้ 1D mark3 ก็คงไม่ไหว แต่ถามว่า 350D ถ่ายได้ไม๊ ถ่ายได้เหมือนกันครับ แต่ จังหวะที่เราต้องการ บางทีมันแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น โอกาสที่จะได้าพย่อมน้อยกว่าคนที่ใช้ 1D mark3 แน่นอน ส่วนเรื่อง เลนส์ ก็ เหมือนกันแหละครับ เลนส์อะไรก็ถ่ายได้เหมือนกันครับ อยู่ที่เราต้องการให้าพออกมาแบบไหน แต่ถ้าใช้เลนส์ wide ก็เสี่ยงหน่อย เพราะต้องเข้าไปใกล้วัตถุมาก (อันตราย หรือเข้าใกล้ไม่ได้ครับ) ทางที่ดีควรใช้ tele จะดีกว่าครับ ยิ่ง tele zoom ยิ่งสะดวกครับ
แล้วควรตั้งค่ากล้องยังไง.........
ส่วนใหญ่เลย ผมจะตั้งค่ากล้องแบบนี้
Focus mode เป็น continue (หรือ AI servo นั่นแหละ) เพราะกล้องจะคอยจับโฟกัสให้ตลอด เราควรจะเอาสมาธิไปอยู่ที่จังหวะที่เราจะถ่ายดีกว่า
shooting mode จะเลือกใช้ โหมด A (หรือ Av นั่นแหละ อันเดียวกัน) แล้วปรับแบบเร็วที่สุดครับ เร็วได้กี่เฟรมต่อวินาที ใส่ให้หมดเลยครับ 55555 จะได้ไม่พลาดโอกาสทอง ส่วนใหญ่โหมดนี้ผมจะเน้นถ่ายแบบ stop action มากกว่า แต่ถ้าจะถ่ายแบบ panning ผมจะปรับอีกแบบนึงครับ คือ จะใช้โหมด s (หรือ Tv) แล้วเลือกสปีดชัตเตอร์ตามที่เราต้องการ กล้องก็จะคำนวนค่ารูรับแสงให้เอง เท่านั้นเอง
ส่วนเรื่อง ISO ผมจะพยายามตั้งให้ต่ำๆไว้จะได้ไม่ต้องมี noise มารบกวนครับ
ทำไมไม่ใช้โหมด M ล่ะ.......
ตอนนี้กำลังหัดอยู่ครับ แต่ข้อเสียของโหมด M คือ ส่วนมากจะเป็นงานที่ต้องถ่าย outdoor สาพแสงจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เคยเจอแบบแบบว่าตอนตั้งค่าไว้แดดเปรี้ยงเลย แต่พอจังหว่ะที่จะถ่ายจริงๆ มีเมฆมาบังซะงั้นอ่ะ ปรับแก้ไม่ทันด้วย เลยต้องถ่ายแบบ under ไปก่อน แล้วค่อยไปแก้อีกที แต่ข้อดีของโหมด M ก็มีนะ (ไม่งั้นไม่หัดหรอก) คือถ้าปรับได้คล่องหน่อย โอกาสที่จะได้รูปดีๆ ง่ายกว่า ไม่ต้องมานั่งแก้ทีหลังด้วย
แล้วเรื่องการใช้ค่าสปีดชัตเตอร์ล่ะ...........
อันนี้ตอบยากครับ ไม่มีกฏตายตัว อยู่ที่ความสามารถและจินตนาการของช่างาพเองครับ
ใช่ว่าใช้สปีดชัตเตอร์ต่ำแล้วรูปจะสวยเสมอไปครับ แล้วก็อยู่ที่การฝึกฝนด้วย เพราะบางทีเมื่อคุณต้องการใช้สปีดชัตเตอร์ที่ต่ำมากจริงๆ แต่มือคุณนิ่งไม่พอ โอกาสได้รูปก็น้อยตามไปด้วยครับ เอาเป็นว่าอยู่ที่ประสบการณ์ดีกว่าครับ ถ่ายไปเยอะๆ แล้วก็จะรู้เองว่าควรใช้สปีดชัตเตอร์เท่าไหร่ ที่จะทำให้คุณได้รูปสวยๆ
ป.ล. จำไว้ให้แม่นครับ สปีดยิ่งต่ำ รูปยิ่งมีโอกาสเสียมาก
ควรถ่ายเป็น raw หรือ jpg ......
ตอบแบบไม่ต้องคิดเลยครับ Raw เป็นคำตอบสุดท้ายเลยครับ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่า สาพแสงเปลี่ยนตลอด โอกาสพลาดมีสูง ถ่ายเป็น Raw ไว้เอามาแก้ทีหลังได้ง่ายกว่า เพราะไฟล์ยืดหยุ่นกว่า jpg
แล้วเรื่องของการจัดองค์ประกอบาพล่ะ......
เมื่อก่อนเคยคิดว่าการถ่ายาพประเทนี้ไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่ององค์ ประกอบาพมากนักหรอก เน้นจังหวะอย่างเดียวก็พอ แต่พอนานๆเข้า เริ่มโง่น้อยลงถึงได้รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นการถ่ายาพแบบไหนก็ควรจะเริ่มจากการ จัดองค์ประกอบาพ และแสงเป็นอันดับแรกก่อน เพราะถ้าเราได้าพจังหวะดีๆ แล้วองค์ประกอบาพดีด้วย มันก็ทำให้าพดูดีขึ้นผิดหูผิดตาไปเลย ส่วนเรื่องหลักการจัดองค์ประกอบาพนั้น ก็เหมือนๆกับการถ่ายาพทั่วไปนั่นแหละ ไม่ว่าจะเรื่อง เส้น สี รูปทรง จุดตัดเก้าช่อง ฯลฯ ใช้ได้หมด เพียงแต่ว่าคุณจะเลือกใช้แบบไหนในสถาณการณ์นั้นๆมากกว่า
เครดิต playpig pixpros.net ขอนำความรู้มาเผยแพร่ให้เพื่อนนะค้าบ
.exe
24 Jan 2010
ขอบคุณสำหรับเทคนิคดีๆคร้าบ ไว้ซื้อ D5000 มาเป็นของตัวเองเมื่อไหร่จะประเดิมทันที 
Indyhell
24 Jan 2010
ขอฝาก ลิ้งค์ นี้ไว้กระทุ้ด้วยนะครับ
มีประโยชน์ ดี
http://dslr.sony.co.th/tips/all/?p=3
เดี่ยวเจอเทคนิคอะไร
จะเามาแป่ะ ไว้กระทุ้นี้ละกัน นะครับ
มีประโยชน์ ดี
http://dslr.sony.co.th/tips/all/?p=3
เดี่ยวเจอเทคนิคอะไร
จะเามาแป่ะ ไว้กระทุ้นี้ละกัน นะครับ
arterart
24 Jan 2010
มีประโยชน์มากเลยครับ
เรื่องถ่ายรูป ลองศึกษาอ่านการตั้งค่า เรียนรู้ speed shuter เรียนรู้ค่า F เรียนรู้การวัดแสง
ขยันดูรูปแนวที่เราชอบ ขยันถ่ายไป เรื่องพวกนี้มันจะชินและรู้ไปเอง
แล้วค่อย advance ด้วยตัวเองไปเรื่อย ๆ เท่านี้เราก็จะสนุกสนานกับการถ่ายรูปแล้วครับ
เรื่องถ่ายรูป ลองศึกษาอ่านการตั้งค่า เรียนรู้ speed shuter เรียนรู้ค่า F เรียนรู้การวัดแสง
ขยันดูรูปแนวที่เราชอบ ขยันถ่ายไป เรื่องพวกนี้มันจะชินและรู้ไปเอง
แล้วค่อย advance ด้วยตัวเองไปเรื่อย ๆ เท่านี้เราก็จะสนุกสนานกับการถ่ายรูปแล้วครับ
.exe
05 Apr 2010
QUOTE
shooting mode จะเลือกใช้ โหมด A (หรือ Av นั่นแหละ อันเดียวกัน) แล้วปรับแบบเร็วที่สุดครับ เร็วได้กี่เฟรมต่อวินาที ใส่ให้หมดเลยครับ 55555 จะได้ไม่พลาดโอกาสทอง ส่วนใหญ่โหมดนี้ผมจะเน้นถ่ายแบบ stop action มากกว่า แต่ถ้าจะถ่ายแบบ panning ผมจะปรับอีกแบบนึงครับ คือ จะใช้โหมด s (หรือ Tv) แล้วเลือกสปีดชัตเตอร์ตามที่เราต้องการ กล้องก็จะคำนวนค่ารูรับแสงให้เอง เท่านั้นเอง
มือใหม่สงสัยนิดหน่อยครับ ตรงที่บอกว่าใช้โหมด A อะคับ จะใช้กับ Stop action แต่ในโหมดนี้ถ้าเราใช้ค่า f สูงๆมันจะทำให้ตัวชัตเตอร์สปีดต่ำลงด้วยรึเปล่าครับ เพราะรูรับแสงมันจะแคบลงกล้องมันเลยจะปรับชัตเตอร์สปีดให้ต่ำลงอัตโนมัติด้วย
ถ้าใช้โหมด S แต่เลือกปรับชัตเตอร์สปีดสูงๆนี่น่าจะให้ผลเหมือนกันรึเปล่าครับ ให้กล้องมันปรับรูรับแสงให้เอง
ปล. มือใหม่ ผิดพลาดยังไงขออัยด้วยครับ
tvmb
21 Apr 2010
แล้วเรื่องจัดองค์ประกอบละครับ ต้องทำยังไงครับ ผมลองถ่ายดู ถ่ายยังไง ก็ไม่สวยเลยครับ
