`
←  ห้องรีวิวหนัง
Logo
»

[Spoiler] Kamen Rider Decade ตอนที่ 19

rbgel's Photo rbgel 15 Jun 2009

+Kamen Rider Decade ตอนที่ 19+

-เมื่อการเดินทางจบลง!!-


Thanks: รับสอนพิเศษภาษาอังกฤษ ทีเด็ด


Note - เพื่อความลื่นไหลในการรับชม ควรจะใช้โปรแกรมช่วยโหลด เซฟเก็บไว้ดูในเครื่องจะดีกว่าชมแบบออนไลน์ค่ะ

+Kamen Rider Decade Episode 19 1/3+
http://www.youtube.com/watch?v=XLcWG86Fa_U



+Kamen Rider Decade Episode 19 2/3+
http://www.youtube.com/watch?v=hUNfvgt5UzM



+Kamen Rider Decade Episode 19 3/3+
http://www.youtube.com/watch?v=_shgITodgLo


+ท่านที่ยังไม่เคยดูตอนแรก คลิกไปอ่านกระทู้เก่าในห้องหนังนะคะ (ขุด ขุด ขุด)+



--------------------------------------------------------------


+ซูเปอร์ สปอยล์ - ประกอบภาพ+

-ไม่ดูคลิปก่อน ข้ามมาอ่านเลยไม่รู้ด้วยนะคะ-


+ความใหม่ตอนนี้+


+ไม่ได้ผล พลังของอสูรในตำนานกล้าแกร่งเกินไป จนพลังของริวคิก็มิอาจต้านอยู่ ถูกอัดพ่ายไปจนได้ แต่กระนั้นสึคาสะก็ยังสู้ไม่ถอย เขาเรียกการ์ดใบใหม่ขึ้นมา แล้วเสียบลงไปทันที

ATTACK RIDE “STRIKE VENT”

+สึคาสะโจมตีอสูรร้ายด้วยพลังไฟที่ร้อนแรงของแดร็ก เรดเดอร์ (*มอนสเตอร์มังกรสีแดงที่ทำสัญญากับริวคิ) แต่ก็มิอาจหยุดความบ้าคลั่งของมันได้ ขณะที่สองสำนัก ซันกิ ริว และอิบูกิ ริวก็ยังทะเลาะกันไม่เลิก

+“ทุกคน รีบหนีเร็วๆ ครับ มันมาแล้ว!!” เสียงเจื้อยแจ้วของอาสึมุเบนความสนใจของมันได้ในที่สุด ในเวลาอย่างนี้ เด็กชายก็ยังเป็นห่วงเป็นใยผู้อื่น แล้วตัวเขาในตอนนี้ล่ะ จะมีใครห่วงบ้างไหม!? ในเมื่ออสูรร้ายย่างกรายเข้ามากระชั้นชิดทุกทีแล้วแบบนี้!!



“หนอย . . ผมจะปกป้องอาสึมุเอง!!”

“ชั้นก็ด้วยค่ะ!!”

+โทโรโดกิ และอากิระ สองศิษย์คนโตจากต่างสำนักที่ทนระอากับพฤติกรรมหน่ายใจของบรรดาอาจารย์ไม่ไหว ตัดสินใจแปลงร่างเป็นคาเมน ไรเดอร์อสูร โทโดโรกิ และอามากิ เข้าช่วยอาสึมุเองทันที

“บัดนั้น โทโรโดกิยักษา ประจัญกรราญรอนอสุรา โจนเข้าโรมราด้วยฤทธี”

+ถึงจะเป็นนักรบอสูรแต่ก็ยังไร้ประสบการณ์ มิช้าทั้งคู่ก็ถูกซัดปลิวกลับมา สึคาสะจึงเข้ามารุกต่อเนื่องทันใด

“ขนาดนี้ยังสู้วัวอย่างแกไม่ไหวงั้นเรอะ . . งั้นเจอกับคินทารอสหน่อยเป็นไง!?” ว่าแล้วก็เสียบการ์ดเปลี่ยนฟอร์มรับมือโดยพลัน

FORM RIDE “DEN-O AX”

+สึคาสะโดดเข้าใส่กิวกิอย่างมั่นใจ แต่ก็ยังถูกดีดกลับมาจนได้ เขาจึงโต้กลับด้วยพลังมหาศาลหนึ่งเดียวของแอ็กซ์ ฟอร์มทันที

ATTACK RIDE “TSUPPAAI”


+ว่าแล้วก็ปักหลักฟาดร้อยฝ่ามือกระหน่ำใส่อสูรคลั่งอย่างไร้ความปราณี . . แต่กระนั้น . . ก็ยังหยุดยั้งมันมิได้ และถูกสวนกลับจนพ่ายไปอีกรอบ . . สองไรเดอร์อสูร โทโรโดกิ และอามากิ จึงเข้ามารับช่วงต่อด้วยการบรรเลงประสาน “ลมกรรโชก สายฟ้าคลั่ง” จนทำให้มันถอยหนีไปจนได้ . . ทำเอาสองอาจารย์เจ้าสำนักที่เฝ้าดูเหตุการณ์มาโดยตลอด ถึงกับละอายใจเป็นอย่างมาก

+“คงได้เวลาของยุคใหม่แล้วสินะ” สึคาสะเปรยออกมาเบา ๆ

+ฝั่งยูสึเกะ และนัตสึมิที่เป็นห่วงอาการของฮิบิกิ จึงเฝ้าออกตามหา และเจอหนุ่มใหญ่นั่งหายใจรวยรินอยู่ “ออกไปให้พ้น . . พวกเธอรู้ตัวจริงของฉันแล้วนี่” แต่ก็ฝืนความตั้งใจของยูสึเกะไม่ได้ “ผมจะจัดการเอง . . ถ้า ‘มัน’ มา!? อดทนหน่อยนะครับ ผมจะพยุงคุณเอง!!”


+ที่ริมน้ำ อาสึมุมารอฟังข่าวความคืบหน้าของสองสำนักอย่างร้อนรน แต่ก็ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะทั้งโทโรโดกิ และอากิระ ต่างแจ้งว่าเหล่าอาจารย์ของตนต่างโยนความผิดให้อีกสำนักกันทั้งคู่ ดูท่าอนาคตขององเงคิโดคงจะมืดมนเสียแล้ว . . อากิระถามไถ่เรื่องของฮิบิกิ ซึ่งเด็กชายก็บอกทุกอย่างตามจริงโดยไม่มีปิดบัง พร้อมกับย้ำให้ตระหนักถึงหน้าที่สำคัญของทุกคน ในการร่วมจัดการกับอสูรร้ายกิวกิ

+“หากตั้งใจจะทำอะไรขึ้นมาจริงๆแล้วล่ะก็ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้หรอกครับ!! ฉะนั้นพวกเราจึงต้องเริ่มลงมือทำ แล้วมันจะต้องเป็นจริงได้แน่นอน” เด็กชายกล่าวอย่างเชื่อมั่น ทำให้โทโรโดกิ กับอากิระถึงกับซาบซึ้งใจ และยอมร่วมมือด้วยในที่สุด “มาเริ่มยุคของพวกเรา โดยที่ไม่มีเรื่องขัดแย้งระหว่างสำนักกันเถอะนะ . . ด้วยกำลังของทุกคนยังไงล่ะ!!” เด็กสาวเสริม พลางจับมือกันแทนคำสัญญา

+”แต่ถึงอย่างนั้น . . ผมก็อยากให้คุณฮิบิกิยอมรับเรื่องการจัดการอสูรครั้งนี้ก่อน” อาสึมุแย้มขึ้น แต่จู่ๆ ไคโตะก็ปรากฎตัวขึ้นมา พร้อมกับอาสาจะไปถามไถ่ให้แทน (!?)


+ค่ำคืนนั้นเอง . . ฮิบิกิเปลือยใจ ระบายความทุกอย่างให้นัตสึมิ และยูสึเกะรับฟังจนหมดสิ้น . . ฮิบิกินั้นเข้าฝึกตนเป็นนักรบอสูร เพื่อหวังจะจัดการกับพวกมากาโม่ แต่การจะต่อสู้ในร่างนั้นได้ จะต้องมีจิตใจแห่งคุณธรรม จึงจะควบคุมพลังอสูรได้ นี่คือสิ่งสำคัญ . . แต่ระหว่างการฝึกจิตใจ ฮิบิกิพบว่าเป้าหมายที่แท้จริงในการจัดการศัตรูของตนก็คือ เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวเองต่างหาก!? เหตุนี้ เขาจึงถูกอสูรครอบงำจิตใจ เลยไม่อยากแปลงร่างเข้าต่อสู้อีก . . .

+แต่แล้ว ไคโตะก็แทรกเข้ามา พร้อมกับแจ้งความประสงค์ในการกำจัดอสูรของอาสึมุให้ ทำเอาฮิบิกิถึงกับกลุ้มใจ ด้วยเพราะไม่อยากให้เด็กชายเดินทางสายเดียวกับตน แต่ไคโตะแย้งให้ถึงความต้องการในการรวมองเงคิโดให้เป็นหนึ่งของอาสึมุ พร้อมกับเดินรี่เข้าหากระเป๋าเป้ตรงหน้าทันที . . ทว่า ฮิบิกิก็ดูออก ด้วยเพราะรู้ว่าเจตนาที่แท้จริงของไคโตะ ก็คือคัมภีร์ล้ำค่าของ
ฮิบิกิ ริวนั่นเอง ซึ่งไคโตะก็ยอมรับแต่โดยดี แม้จะสร้างความเดือดดาลให้ยูสึเกะเป็นอย่างมากก็ตาม

+จู่ๆ ฮิบิกิก็เอาส้อมเสียงแปลงร่างออกมา พร้อมกับฝากฝังให้ไคโตะเอาไปส่งมอบให้เด็กชายต่อแทนตน ด้วยเพราะเชื่อว่า หากอาสึมุเป็นผู้ใช้มัน คงจะไม่ถูกอสูรครอบงำแบบตนเป็นแน่ . . ทำเอายูสึเกะถึงกับค้านหัวชนฝา แต่ฮิบิกิให้เหตุผลว่า นี่เป็นการตัดสินใจของอาสึมุ ตนคงเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ พร้อมกับฝากคำสั่งเสียไปถึงเด็กชายด้วยว่า หากเป็นอสูรได้สำเร็จแล้ว ช่วยจัดการตัวเขาด้วย!? เพื่อเป็นการสืบทอดจิตวิญญาณของฮิบิกิต่อไป ซึ่งไคโตะก็รับคำ . . .

+ขณะเดียวนั้นเอง . . ค้างคาวสาวคิบาร่าก็กำลังทำพิธีกรรมประหลาดลับหลังทุกคนอยู่ ด้วยการเรียก “ไรเดอร์ โอจา*” ผู้เกรี้ยวกราด มาทำการปลดผนึกมากาโม่ลึกลับที่ถูกจองจำไว้ในศิลาศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน . . เธอวางแผนอะไรไว้กันแน่นะ!?

Note – *คือไรเดอร์ ผู้ทำสัญญากับมอนสเตอร์ งูเห่าม่วง จากซีรีย์สของริวคิ


+ฝั่งโทโรโดกิ และอากิระ ซึ่งมาขอพบทั้ง 2 อาจารย์ตามลำพัง พร้อมกับอธิบายถึงเหตุผลในการร่วมใจกันจัดการอสูรร้าย กิวกิ โดยยุติปัญหาความขัดแย้งระหว่างสำนักเสีย และเพื่อรวม “องเงคิโด” ให้เป็นหนึ่งเดียว แต่อาจารย์ทั้งสองไม่รับฟัง พร้อมกับเดือดดาลเป็นอย่างมาก แต่แล้ว . . สึคาสะก็แทรกเข้ามา พร้อมกับพูดความในใจแทนทั้งคู่ว่า

+“เฮ้อ . . ยังจะมีใครจริงจังกับเรื่ององเงคิโดอยู่อีกไหมนะ . . พวกคุณเป็นอาจารย์มิใช่รึไง!? อนาคตของลูกศิษย์ ตลอดจนอนาคตขององเงคิโด พวกคุณเป็นคนตัดสินใจเองทั้งหมดอย่างนั้นเลยหรือ!?” ทำให้ทั้งสองอาจารย์ถึงกับคิดได้ในที่สุด . . และแล้วพิธีแต่งตั้งเจ้าสำนักคนใหม่ก็เริ่มขึ้น . . ในค่ำคืนนั้นเอง


“ครูเอย . . ยึดมั่นคุณธรรมประจำจิต . . สร้างลูกศิษย์ ด้วยความรักด้วยศักดิ์ศรี
เมตตาธรรมนำหน้าด้วยปราณี . . ด้วยความดี ด้วยความรู้อย่ารู้คลาย”

“สำนึกต่อหน้าที่ที่ดียิ่ง . . ไม่ละทิ้งภาระตนเร่งขวนขวาย
มารยาทอ่อนโยนยิ่งทั้งหญิงชาย . . ไม่เกรี้ยวกราดดุร้ายคล้ายคนพาล”

“ศึกษาอุปนิสัยใจคอศิษย์ . . แล้วชี้ทิศนำทางอย่างสงสาร
คิดว่าเขาคือลูกผูกดวงมาน . . สืบวิญญาณครูไว้ใจที่ดี”

“ครูใจดีย่อมมีความดีตอบ . . สังคมชอบชื่นชมสมศักดิ์ศรี
โลกยิ่งซึ้งอึ้งค่าความอารี . . น้อมบูชาด้วยชีวีไม่มีลืม”


+อิบุกิ และซันกิ ตกลงปลงใจยอมมอบตำแหน่งเจ้าสำนัก รวมถึงเครื่องมือแปลงร่างให้แก่โทโรโดกิ และอากิระ พร้อมกับฝากฝังให้ทั้งคู่ดำรงไว้ซึ่งจิตวิญญาณขององเงคิโดสืบต่อไป ท่ามกลางความปลาบปลื้มใจของอาจารย์ใหญ่อย่างสึคาสะอย่างมาก (^ ^)

+เช้าวันต่อมา นัตสึมิที่ตื่นขึ้นมาก่อน จู่ ๆ ก็หลุดเข้าไปอยู่ในมิติลวงตาของนารุทากิอย่างไม่ทันตั้งตัว . . ภาพปรักหักพังของซากเมืองสร้างความตระหนกให้กับเธอเป็นอย่างมาก ซึ่งนารุทากิก็ยังคงย้ำเหมือนเช่นเคยว่า ถ้าดีเคดยังคงเดินทางต่อไป โลกจะไม่มีวันกลับเป็นเหมือนเดิมอีก ซึ่งคนที่จะหยุดเรื่องทุกอย่างได้ ก็มีแต่นัตสึมิเท่านั้น

+ทันใดนั้นเอง . . ไคโตะก็พาอาสึมุมาพบฮิบิกิตามที่รับปาก แต่พอหนุ่มใหญ่เผลอ ไคโตะก็ฉวยโอกาสคว้าเป้เก็บคัมภีร์ฮิบิกิ ริวมาไว้ในมือทันที . . แต่แล้วสึคาสะก็มาร่วมวงอีกคน “เป้าหมายของนายก็คือองเงคิโดแต่แรกแล้วสินะ . . โดยใช้เจ้าหนูเป็นตัวล่อ” ได้ยินอย่างนี้อาสึมุก็รีบค้านแทนทันที ด้วยเพราะเชื่อใจในตัวไคโตะนั่นเอง

+แต่ไคโตะกลับยอมรับอย่างไม่ทัดทาน พร้อมกับย้ำให้เด็กชายเข้าใจว่าตอนนี้ฮิบิกินั้นไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว ด้วยการลงมือโจมตีหนุ่มใหญ่ทันที

เปรี้ยงงงงงงงงงง

+แม้จะไม่โดนจังๆ แต่ก็เพียงพอที่จะปลุกสัญชาติญาณดิบในตัวฮิบิกิขึ้นมาแล้ว “รีบหนีไป . . จิตของฉันกำลังจะถูกครอบงำแล้ว . . อ๊ากกกกก . . ชะ . . ชั้นควบคุมมันไม่อยู่แล้ว . . อ๊ากกกกกกกกกกกกก”

+หลังปรากฏเปลวเพลิงสีม่วงทาบทับร่าง ฮิบิกิก็กลายร่างเป็นอสูรวัวคลั่ง ‘กิวกิ’ อีกครั้งทันที ทำเอาอาสึมุตกใจแทบสิ้นสติ “เป็นไปไม่ได้ . . คุณฮิบิกิคือกิวกิเหรอเนี่ย!? เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!!”

“กำลังข้ากล้าแกร่งเกินหยั่งไซร้ . . จักต้องเกรงผู้ใดอย่าพึงคิด
แม้นักรบอสุราผู้ทรงฤทธิ์ . . ก็ต้องมาสยบชิดแทบเท้าข้า”

+”ฟังนะเจ้าหนู . . นี่ล่ะบทเรียนสุดท้ายที่ฉันจะสอนให้” ไคโตะพูดอย่างตั้งใจ ก่อนจะแยกตัวไปพร้อมคัมภีร์ล้ำค่าทันที . . สึคาสะที่เห็นท่าไม่ดี จึงรีบแปลงร่างเป็นดีเคดมารับมือไว้ก่อน . . แต่ลำพังคนเดียว จะยื้อได้สักเท่าไหร่กัน!?

+หลังจากครุ่นคิด ตีความกับสารในคัมภีร์ทั้ง 3 เล่ม ในที่สุด ไคโตะก็เข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงของสมบัติลับ “องเงคิโด” จนได้


+ขณะเดียวกัน ทางฝั่งของสึคาสะที่กำลังรับศึกหนักแต่เพียงผู้เดียว ก็กำลังตกที่นั่งลำบาก . . ด้วยเพราะพลังของกิวกินั้นมหาศาลเกินกว่าเขาจะต้านไหว ที่สุดแล้วก็ถูกอัดลงไปกองจนได้ . . ก่อนอสูรคลั่งจะเบนเป้าหมายมาหาเด็กชายที่ไร้ทางสู้เป็นรายต่อไปทันที

ปัง ปัง ปังงงงงงงงงงง

+แต่ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป . . ไคโตะก็กลับลำมาขวางไว้ได้ทันท่วงที พร้อมกับเดินไปหาอาสึมุผู้กำลังสับสนจนทำอะไรไม่ถูกว่า ฮิบิกินั้น ไม่สามารถควบคุมพลังของอสูรได้อีกต่อไปแล้ว พร้อมกับกล่าวคำสั่งเสียของฮิบิกิให้เด็กชายฟัง แต่อาสึมุปฏิเสธทันที ด้วยมิอาจตัดใจลงมือได้ . .


+ไคโตะจึงแนะนำว่าหากเด็กชายไม่สูญเสียความอ่อนโยนในจิตใจไป อสูรก็มิอาจครอบงำได้ “เธอไม่จำเป็นต้องสืบทอดพลังของอสูรหรอกนะ . . แต่จิตวิญญาณของฮิบิกิต่างหาก ที่เธอต้องดำรงไว้ต่อไป” ไคโตะกล่าวย้ำหนักแน่น พลางจ้องมองอาสึมุที่ใจจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ของสึคาสะตลอดมา . . เพราะก่อนหน้าที่สึคาสะจะเข้ามา เป็นเขานั่นเอง ที่รับหน้าที่สำคัญในการส่งจิตวิญญาณของไรเดอร์!! สิ้นคำ ไคโตะก็แปลงร่างเป็นคาเมน ไรเดอร์ ดิ เอ็นด์ทันที

KAMEN RIDE “DI END”

+“ถึงเวลาที่นายต้องเลือกแล้วนะ เจ้าหนู . . ว่าจะเป็นอสูรหรือไม่เป็น!?” ไคโตะถามย้ำอีกครั้ง พลางยื่นส้อมเสียงของฮิบิกิส่งให้เด็กชาย


+“ผม . . จะเป็นอสูรครับ!!” ในที่สุด อาสึมุก็ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว พลางรับส้อมเสียงมา แล้วแปลงร่างเป็นคาเมน ไรเดอร์อสูร “ฮิบิกิ” เข้าช่วยสึคาสะทันที


“ข้าแต่พระเมตตาการุญ . . พระคุณนั้นหาที่สุดไม่
ตัวข้าไม่มีสิ่งใด . . สนองใต้สำนึกพระคุณการ
ส้อมนี้ฮิบิกิผู้อาจารย์ . . ประทานมอบสู่ข้ายักษี
จะได้ล้างอสุราทั่วปฐพี . . ให้หมดลี้โลกาสาธารณ์”


+อาสึมุในร่างนักรบอสูร แม้จะเล่นงานอสูรคลั่งแบบไม่ยั้งมือเต็มที่ แต่เหมือนกิวกิจะดูออกถึงความลังเลที่ยังค้างคาในใจเด็กชาย จึงสัพยอกขึ้นมาว่า “ไอ้หนู . . แกจัดการข้าไม่ได้หรอก เพราะยังไงเสียร่างกายนี้ก็เป็นของฮิบิกิอยู่ดี” สิ้นคำก็พุ่งโจมตีอาสึมุเข้าเต็มรัก “อั๊กกกกกกก”

+สึคาสะเห็นท่าไม่ดีเลยปรี่เข้ามาช่วยอีกแรง พร้อมการสนับสนุนจากไคโตะอีกคน . . ทั้งคู่หยิบการ์ดใบใหม่ขึ้นมา แล้วโจมตีพร้อมกันทันที

ATTACK RIDE “BLAST”

ATTACK RIDE “BLAST”

ปัง ปัง ปังงงงงงงงงงง

+ได้ผล . . อสูรวัวคลั่งถูกห่ากระสุนชุดใหญ่ซัดใส่จนล้มลงไป แต่จะได้หยุดมันได้จริงๆ ล่ะหรือ!? “จัดการเลย . . เจ้าหนู!! ยังไงตอนนี้จิตของฮิบิกิก็หายไปแล้ว!!” สึคาสะร้องเตือนสติเด็กชาย ทำให้เด็กชายคิดได้


+เขาคว้าอาวุธคู่ใจ “องเงคิโบ เร็กกะ” ขึ้นมา แล้วจัดการอสูรร้ายกิวกิ ด้วยเพลงกลองอสูรอย่างไม่มีลังเลอีกต่อไปทันที “ย้ากกกกกกกกกกกก”

ตุ้ม ตุ้ม ตุ้ม . . ตุ้ม ตุ้ม ตุ้ม


+หลังจากกระหน่ำเสียงกลองชุดสุดท้ายลงไป อาสึมุก็เข้าใจถึงภาระสำคัญของตนในภาคหน้าทันที . . ฮิบิกิเอย หลับอย่างสงบเถิด จิตวิญญาณของท่าน อยู่ในมือของเด็กน้อยผู้อารีคนนี้แล้ว . . .

+แต่ทันใดนั้นเอง . . นารุทากิก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง พร้อมมากาโม่ปูยักษ์ หมายขยี้เหล่าไรเดอร์ให้ตายคามือทันที . . แน่นอนว่า 3 ไรเดอร์หมดทางสู้ และถูกโจมตีจนกระเด็นไปคนละทิศละทางไปตามๆ กัน . . จังหวะนี้เอง โทโรโดกิ และอากิระที่ตามมาสมทบ ก็แปลงร่างเป็นคาเมน ไรเดอร์อสูร โทโดโรกิ และอามากิ เข้ามาช่วยสู้อีกแรง


+ไคโตะนั้น พลันนึกขึ้นได้ ถึงแก่นสำคัญของคัมภีร์องเงคิโดที่เขาค้นพบ จึงยิงตำราทั้งสามเล่มทิ้ง ให้อักษรลับปรากฏบอก ‘ความ’ ทันที ซึ่งทุกคนก็เข้าใจได้ตรงกันว่า เส้นทางแห่งเสียงเพลงนั้น ทุกคน (สามสำนัก) ต้องพร้อมบรรเลงร่วมกัน (กลายเป็นหนึ่งเดียว) จึงจะก่อให้เกิดพลังที่ยิ่งใหญ่ได้ ซึ่งนี่แหล่ะคือจิตวิญญาณที่แท้จริงขององเงคิโดนั่นเอง . . .

+มาถึงตรงนี้ สึคาสะมั่นใจได้ทันที ว่าสามารถเหนี่ยวนำจิตวิญญาณที่หายไปในโลกนี้คืนมาได้แล้ว . . เมื่อนั้นเขาก็ได้รับชุดการ์ด ใหม่ อีก 3 ใบ เป็นสิ่งตอบแทนทันที . . สึคาสะไม่รอช้า รีบใช้พลังใหม่กู้สถานการณ์โดยพลัน

FINAL FORM RIDE “HIBIKI”

+ทันใดนั้น อาสึมุก็กลายร่างเป็น “ดิสค์ แอนิมอล นก” บินเข้าโจมตีมากาโม่ปูยักษ์ทันที ก่อนจะแปรสภาพเป็นกลองอสูรผนึกอยู่บนตัวของมัน สึคาสะไม่รอช้า กระโดดตามเข้าไปบรรเลงด้วยเพลงอสูร “เพลิงพระกาฬ” ทันที


+ได้ผล . . มากาโม่ปูยักษ์ออกอาการล้าพลังอย่างเห็นได้ชัด . . โทโรโดกิ และอากิระจึงฉวยจังหวะนี้ร่วมบรรเพลง “สายฟ้าฟาด ปฐพีหวั่นไหว!!” พร้อม “ลมกระหน่ำ กรรโชกคล้อย” ด้วยอีกแรง ไม่เว้นแม้แต่ไคโตะก็ยังส่งพลังร่วมบรรเลงด้วย


+”พวกเราก็ขอร่วมด้วยสิ” พลันนั้นซันกิ และอิบูกิที่ยุติความแค้นซึ่งกันและกันแล้ว ก็มาร่วมสังคีตศิลป์ครั้งนี้ด้วยคน . . ดีเคด , ดิ เอ็นด์ , ฮิบิกิ , โทโรโดกิ , อามากิ , ซันกิ และอิบูกิ . . 7 ไรเดอร์ร่วมประสานใจเป็นหนึ่งเดียวแล้ว


“เจ็ดนักรบผู้แคล่วคล่องว่องไว . . กระหน่ำซัดกวัดไกวสำแดงฤทธิ์
หน่วงน้าวดีดสายทิ้งลายศิลป์ . . ฟ้าดินหวั่นไหวถึงดุสิต
เบื้องหน้าตลอดทั้งอโณทิศ . . เสียงสนั่นครรชิตอึงอล
ดั่งพสุธากึกก้องกัมปนาท . . อากาศมืดฟ้ามัวฝน
โพยมพยับอับแสงสุริยน . . สว่างวาบทั่วสากลโลกา”


ตูมมมมมมมมมมม

+พลันนั้น ร่างของอสูรกายยักษ์ระเบิดเป็นผุยผงไม่มีชิ้นดี ด้วยเส้นทางแห่งเสียงเพลงของทุกคน . . หลังจากจบเรื่องร้ายๆ แล้ว อาสึมุกล่าวแสดงความขอบคุณไคโตะ พร้อมก้มหัวให้แสดงความเคารพจากใจ ทำเอาไคโตะถึงกับอึ้ง (แต่ก็แอบดีใจ) พลางแก้เกี้ยวด้วยการบอกว่าตนแค่อยากทำในสิ่งที่ใจต้องการ พลางให้อาสึมุคอยดูแลสมบัติไว้ให้ดีๆ เพราะสักวันเขาอาจจะมาแย่งคืน (^ ^)


+ที่สตูดิโอ ทุกคนนั่งชมรูปถ่ายที่สึคาสะเก็บภาพมาได้อย่างตั้งอกตั้งใจ ขณะที่เจ้าตัวยังคงครุ่นคิดถึงความทรงจำที่หายไป และโลกที่ตนจากมา โดยที่นัตสึมิก็ยังคงเชื่อใจว่าสึคาสะที่เธอรู้จัก ไม่มีทางเป็นผู้ทำลายโลกอย่างที่นารุทากิกล่าวหาอย่างแน่นอน

+แต่แล้วทุกคนก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อคิบาร่าแจ้งว่าถึงเวลาเดินทางสู่โลกต่อไปกันแล้ว แม้สึคาสะจะแย้งว่าได้ผ่านมาการผจญภัยมาครบทั้ง 9 โลก และสะสมการ์ดจนครบชุดแล้วก็ตาม . . ลุงฮิคาริจึงถือโอกาสนี้ ฉลองความดีใจด้วยการถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน แต่แล้ว . . รูปฉากพื้นหลังใบใหม่ ก็เลื่อนตกลงมาอีกจนได้


+แน่นอนว่าภาพที่เห็น สร้างความตกใจให้กับนัตสึมิเป็นอย่างมาก ด้วยเพราะมันเป็นรูปเหตุการณ์ในโลกที่เธอจากมานั่นเอง!? . . โลกต่อไปที่สึคาสะ และเพื่อนๆ จะไปเยือนก็คือโลกของนัตสึมิ ก่อนจะล่มสลายจริงๆ อย่างนั้นล่ะหรือ!?


+ติดตามต่อตอนหน้านะคะ+


+ yoyo_55.gif ข้อมูลหนัง และภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.j-hero.com/board/index.php?showtopic=11922 ค่ะ yoyo_55.gif +


QUOTE
+บทความอาจจะลงช้าไปสักนิดนิด สำหรับท่านที่ติดตามโดยไม่ได้เล่นบอร์ดอื่น เพราะผู้เขียนทำสลับกับบทความรีวิวหนังนะคะ และเจียดเวลาจากงานประจำ และสันทนาการทั่วไปในชีวิตประจำวันมาทำค่ะจ้า (สำหรับไรเดอร์ซีรีย์ส จะพยายามไม่ให้ห่างต้นฉบับเกิน 2 ตอนค่ะ)

+สำหรับงานเขียนทุกอย่าง ผู้เขียนไม่ได้พิมพ์เป็นไฟล์เท็กซ์ในโปรแกรมจัดการเอกสารทั่วไปนะคะ หากแต่เขียนลงสมุดโน้ตคู่ใจเป็นประจำค่ะ (นิสัยส่วนตัว) และจะเรียบเรียง-พิมพ์ใหม่เป็นไฟล์เอกสารทุกครั้ง ก่อนจะอัพลงเว็ปค่ะจ้า

+ขอบคุณคนอ่านค่ะ+

Edited by rbgel, 10 July 2009 - 12:19 PM.
Quote

seacret's Photo seacret 15 Jun 2009

+1 ขอบคุณครับ อ่านเพลินไปเล้ย
Quote

Roid's Photo Roid 15 Jun 2009

สึกคาสะโดนเจ้าไคโตะมาแย่งซีนไปตอนท้ายซะงั้น yoyo_77.gif แต่ชอบตอนที่เหล่า Rider มาเล่นดนตรีรวมกันผมว่าอลังการดีนะ yoyo_76.gif

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ นะครับ yoyo_53.gif yoyo_53.gif
Quote

loof's Photo loof 15 Jun 2009

คุณ rbgel กลอนนั่นใครเเต่งเหรอ หรือเเต่งเอง พรสวรรคืโดยเเท้ จะรีวิว ยังมีอารมณ์ศิลป์อีก
Quote

Kanon๐ForeLize's Photo Kanon๐ForeLize 15 Jun 2009

เจ๊ ลงช้าเลย ข้ามไปไกลแล้วอ่ะ อาทิตย์หน้า งด ฉายอ่ะเซงมากมาย
Quote

rbgel's Photo rbgel 15 Jun 2009

QUOTE (Kanon๐ForeLize @ Jun 15 2009, 05:59 PM) <{POST_SNAPBACK}>
เจ๊ ลงช้าเลย ข้ามไปไกลแล้วอ่ะ อาทิตย์หน้า งด ฉายอ่ะเซงมากมาย


+มันช้าเพราะกลอน ในโลกฮิบิกิ 2 ตอนเนี้ย นู๋เอ๊ยยยย . . แง่ง แง่ง . . โฮกกกกกกก yoyo_67.gif

+อิ อิ . . แฟนๆ ไรเดอร์ชุดเดิม ๆ ยังตามกันมา . . น่ารักมาก yoyo_55.gif
Quote

Acatan's Photo Acatan 15 Jun 2009

“จัดการเลย . . เจ้าหนู!! ยังไงตอนนี้จิตของฮิบิกิก็หายไปแล้ว!!” ----- เอ ผมว่า ซึคาสะบอกว่า ให้อาสุมุจัดการก่อนวิญญาณของฮิบิกิจะหายไป มากกว่านะครับ


ท่าหมู่ภาคนี้เพลงถูกใจมากครับ~
ภาคฮิบิกิ มีท่าหมู่ก็จริง แต่ดันเล่นใครเล่นมัน - -...


...........................

ปล. ไคโตะ....ยังถือปืนได้เสียชาติเกิดเช่นเดิม... วิ่งเข้ามา เอาปืนตบหัวกิวกิกันเห็นๆ - -..( เองไม่ยิงล่ะลูก กระสุนมันแพงเรอะ )
Quote

kikuntin's Photo kikuntin 15 Jun 2009

นึกว่าจะจบแค่นี้ซะแล้วยังมีต่ออีกแบบนี้ก็มันนะซิ
Quote

Kikaider42's Photo Kikaider42 16 Jun 2009

ขอบคุณที่เอามาให้ชมจ้า

ปล.อากาศที่ตากดีไหม อิอิ
Quote