รีวิว - Drag me to hell กระชากลงหลุม
the red 05 Jun 2009
แซม ไรมี่ คนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้ หรือบางคนอาจจะลืมๆไปแล้วว่า เค้าเป็นคนที่โด่งดังมาจากการทำหนังสยองขวัญ
ซีรีส์Evil Deadของเค้ากลายเป็นตำนานขึ้นหิ้งของนักดูหนังสยองขวัญอีกหนึ่งเรื่อง หลังจากพักงานหนังแมงมุม
ก็กลับมาทำหนังแนวสยองขวัญอีกครั้ง ตัวหนังเองก็ยังเต็มไปด้วยลายเซ็นของแซมไรมี่ในหมวดของงานสยองขวัญอยู่เต็มไปหมด
ถ้าไม่เคยผ่า่นงานเก่าๆของแซมไรมี่มาก่อน ก็คงเป็นหนังที่หลายคนอาจจะไม่คาดหวังว่าจะได้เข้ามาชมหนังอะไรแบบนี้
เพราะหน้าหนังมันดูเหมือนว่าจะเป็นหนังน่ากลัวตลอดทั้งเรื่อง มุกหลอน มุกตกใจต่างๆ แม้จะพึ่งการใช้เสียงดังเยอะหน่อย
แต่ทั้งหมดก็ออกมาได้จังหวะที่ดีอยู่เยอะ แล้วก็การใช้มุกฮาๆแอบเชย แบบในEvil Dead มาคั่นอารมณ์ของหนังอยู่เป็นระยะๆ
ตรงนี้ถ้าไม่ใช่ว่าผกก.คือแซมไรมี่ ผมว่ามันอาจจะรู้สึกแปลกๆได้อยู่เหมือนกันนะ ซึ่งไปๆมาๆ ส่วนตัวผมดันรู้สึกว่ามันเยอะไปหน่อย
สิ่งที่ผมชอบคือการที่ไม่ได้เล่าเรื่องแค่ผีตามล่าคนธรรมดาๆ แต่มีส่วนของดราม่าที่ตีแผ่ความเป็นคนมาให้ดูกันด้วย
นางเอกของเราเนี่ยจริงๆก็ผ่านอะไรมาเยอะ พยายามกระเสือกกระสนมากๆเพื่อที่จะให้ได้รับการยอมรับของสังคม
ซึ่งมันก็จะเห็นได้ว่า สังคมเราทุกวันนี้มันเต็มไปได้ความพยายามจะแก่งแย่งกันมาก ป้ากานาชเนี่ย จริงๆก็ไม่ถึงกับสิ้นหวัง
ถ้าเป็นเคสปกติแล้ว อาจจะได้รับการผ่อนชำระอีกสักงวดก็ยังได้ ซึ่งไม่แน่ว่าถ้ารอเวลาอีกนิด ป้าแกก็อาจจะตายจากไปเอง
แล้วทางแบงค์ก็ไปยึดที่คืนได้ไม่ยาก ครีสทีนเองก็จะได้ไม่ต้องแบกรับความเป็นคนใจดำเอาไว้เองอีกด้วย
แต่สิ่งที่กดดันเธออยู่ คือความพยายามอยากจะได้ดี เธอเติบโตมาจากความเป็นเด็กบ้านไร่ หรือถ้าจะเรียกแบบคนไทยก็คือบ้านนอก
เธออยากจะเป็นคนที่เหมาะสมกับแฟนของเธอ เลยทำให้เธอต้องใจดำตามระบบไปแล้วมันก็ซวยตรงที่ป้าคนนี้ดันมา"ของ"ซะงั้น
ในส่วนของการแสดงของแต่ละคนผมคิดว่าไม่มีมากหรือล้นจนเกินไป ดาราประกอบให้บทบาทที่เหมาะสมดี
ที่จะเด่นเกินก็ต้องยอมรับว่าเป็นป้ากานาชน่ะแหละ เพราะตามบทป้าแกต้องออกมาหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา
จัสติน ลอง นานๆทีจะเห็นออกมาเล่นหนังที่ดูเป็นคนจริงจังๆ ปกติแล้วเรามักจะได้เห็นเค้าเป็นเด็กวัยรุ่นเนิดร์ๆ
เปิ่นๆ หรือดูเป็นพวกอันเดอร์ด๊อกจนติดภาพลักษณ์ไปมาก ก็ทำได้น่าประทับใจ และดูน่าเชื่อถือดีด้วย
(จริงๆถ้าอยากล้างภาพเก่าๆของเค้า ลองหาZack and Miriมาดูสิ 555) และแน่นอนว่าที่เด่นที่สุดของหนัง
นางเอกของเรื่องอลิสัน โลมาน สามารถแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ มีหลายหลายอารมณ์ให้เธอได้แสดงออกมา
แล้วก็ทำออกมาได้ประทับใจ ทำให้คนดูอิน มีอารมณ์ร่วมอย่างเห็นอกเห็นใจ สงสาร และยินดีไปกับเธอได้ตลอด
สรุป
Drag me to Hell เป็นหนังสยองขวัญที่มีหลายรสชาติ ทั้งน่ากลัว ดราม่า ตลก และโรแมนติค
ตัวหนังไม่เน้นขายฉากโหดๆ แหวะๆ(มีแต่แหยะๆ) เน้นฆ่าแกงกันเลือดสาดเกินความเป็นอย่างที่หนังสมัยนี้ชอบทำ
(ตัวหนังได้เรทPG13เองนะ) เป็นหนังสยองขวัญที่ถือว่ามีคุณภาพจริงๆในรอบหลายปีที่ผ่านมา ไม่น่าพลาดครับ
--------
จุดด้อยที่ส่วนตัวจะไม่ค่อยชอบ หลักๆก็จะอยู่ในพล๊อตเรื่องแหละครับ ไม่ได้ว่ามันแย่นะ ผมคิดว่านี่เป็นหนังดี
แม้จะจบในแนวทางของผกก.ที่เราได้ดูกัน แต่ผมจะชอบมากขึ้นไปอีก ถ้ามันมาได้อย่างที่ผมอธิบายไว้ด้านล่างนี้
ตรงนี้ผมเดาได้แต่ก่อนดูอยู่เหมือนกัน ว่าป้าคนนี้จะต้องมาตายจากแน่ๆ เพราะป้าทิ้งท้ายไว้หลังจากสาปว่าแกจะต้องมาขอร้องชั้น
แต่ด้วยการวางพลอตไม่ให้มันจบง่ายๆ ก็เลยต้องหาวิธีอื่น ตรงนี้ผมเดาไว้ว่า หนังน่าจะพูดถึงประเด็นของการขอโทษและให้อภัยกัน
เพราะช่วงต้นๆ จะเห็นว่าจริงๆนางเอกไม่ได้สำนึกอะไรเท่าไหร่ แต่อยากจะมาขอโทษเพื่อให้เรื่องมันจบๆ(คนสมัยนี้ก็เป็นกันเยอะ)
แล้วลากยาวไปยังฉากที่คริสตี้พยายามจะเอากระดุมกลับไปคืนป้า ตอนนี้แหละที่ผมเห็นว่าเธอปลดปล่อยทุกอย่างออกมาหมดเลย
ว่าเธอคิดยังไงกับป้า โมโหและรังเกียจเธอแค่ไหน ซึ่งพอหลังจากนี้ไป แล้วพอฉากจบ(ที่น่าจะเดากันได้แหละ ว่าต้องหักมุมแน่นอน)
จะมี2ฉากที่ผมดันรู้สึกว่ามันขัดกัน ก็คือที่ผจก.โทรมาบอกเธอตอนเช้าว่าไล่สตูออกแล้วเพราะจับได้ว่ามันโกง ตรงนี้แหละมั้งที่เธอเริ่มคิดได้
ว่าถ้าฉันสู้เป็นคนดีจริงๆ (ก็คือที่เธอไม่ส่งต่อกระดุมให้สตู) ยังไงมันก็ต้องส่งผลดีกับชั้นแน่นอน และเธอก็พูดให้แฟนของเธอฟังว่าจริงๆแล้ว
เธอสามารถช่วยป้าคนนั้นได้ ถ้าเธอไม่เห็นแก่ตัว ตรงนี้จะแสดงให้เห็นว่าเธอก็ยอมรับผิดแล้วนะ แล้วพอสักแป๊บ เราก็จะได้เห็นกันเลย
ว่าจริงๆแล้วคำสาปมันยังไม่ไปไหน เพราะจดหมายผิดซองแท้ๆ ตรงนี้ผมอยากใ้ห้มันจบแบบว่า คริสตี้ที่เหมือนจะสำนึกแล้ว อยู่ๆก็กลัวตาย
ด้วยความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ที่ทำทุกอย่างได้ เพราะจะได้รับกับคำพูดนึงของรามจาส ว่า"คุณจะทำได้ทุกอย่าง ถ้าลาเมียตาล่าคุณ"
แล้วรีบขอให้แฟนหนุ่มของเธอรับๆมันไป แ้ล้วกระชากแฟนเธอลงหลุมแทนไปเลย ซึ่งไหนๆก็จะจบแบบนี้อยู่แล้ว ก็น่าจะเล่นให้มันดาร์คไซด์กว่า
ซีรีส์Evil Deadของเค้ากลายเป็นตำนานขึ้นหิ้งของนักดูหนังสยองขวัญอีกหนึ่งเรื่อง หลังจากพักงานหนังแมงมุม
ก็กลับมาทำหนังแนวสยองขวัญอีกครั้ง ตัวหนังเองก็ยังเต็มไปด้วยลายเซ็นของแซมไรมี่ในหมวดของงานสยองขวัญอยู่เต็มไปหมด
ถ้าไม่เคยผ่า่นงานเก่าๆของแซมไรมี่มาก่อน ก็คงเป็นหนังที่หลายคนอาจจะไม่คาดหวังว่าจะได้เข้ามาชมหนังอะไรแบบนี้
เพราะหน้าหนังมันดูเหมือนว่าจะเป็นหนังน่ากลัวตลอดทั้งเรื่อง มุกหลอน มุกตกใจต่างๆ แม้จะพึ่งการใช้เสียงดังเยอะหน่อย
แต่ทั้งหมดก็ออกมาได้จังหวะที่ดีอยู่เยอะ แล้วก็การใช้มุกฮาๆแอบเชย แบบในEvil Dead มาคั่นอารมณ์ของหนังอยู่เป็นระยะๆ
ตรงนี้ถ้าไม่ใช่ว่าผกก.คือแซมไรมี่ ผมว่ามันอาจจะรู้สึกแปลกๆได้อยู่เหมือนกันนะ ซึ่งไปๆมาๆ ส่วนตัวผมดันรู้สึกว่ามันเยอะไปหน่อย
สิ่งที่ผมชอบคือการที่ไม่ได้เล่าเรื่องแค่ผีตามล่าคนธรรมดาๆ แต่มีส่วนของดราม่าที่ตีแผ่ความเป็นคนมาให้ดูกันด้วย
นางเอกของเราเนี่ยจริงๆก็ผ่านอะไรมาเยอะ พยายามกระเสือกกระสนมากๆเพื่อที่จะให้ได้รับการยอมรับของสังคม
ซึ่งมันก็จะเห็นได้ว่า สังคมเราทุกวันนี้มันเต็มไปได้ความพยายามจะแก่งแย่งกันมาก ป้ากานาชเนี่ย จริงๆก็ไม่ถึงกับสิ้นหวัง
ถ้าเป็นเคสปกติแล้ว อาจจะได้รับการผ่อนชำระอีกสักงวดก็ยังได้ ซึ่งไม่แน่ว่าถ้ารอเวลาอีกนิด ป้าแกก็อาจจะตายจากไปเอง
แล้วทางแบงค์ก็ไปยึดที่คืนได้ไม่ยาก ครีสทีนเองก็จะได้ไม่ต้องแบกรับความเป็นคนใจดำเอาไว้เองอีกด้วย
แต่สิ่งที่กดดันเธออยู่ คือความพยายามอยากจะได้ดี เธอเติบโตมาจากความเป็นเด็กบ้านไร่ หรือถ้าจะเรียกแบบคนไทยก็คือบ้านนอก
เธออยากจะเป็นคนที่เหมาะสมกับแฟนของเธอ เลยทำให้เธอต้องใจดำตามระบบไปแล้วมันก็ซวยตรงที่ป้าคนนี้ดันมา"ของ"ซะงั้น
ในส่วนของการแสดงของแต่ละคนผมคิดว่าไม่มีมากหรือล้นจนเกินไป ดาราประกอบให้บทบาทที่เหมาะสมดี
ที่จะเด่นเกินก็ต้องยอมรับว่าเป็นป้ากานาชน่ะแหละ เพราะตามบทป้าแกต้องออกมาหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา
จัสติน ลอง นานๆทีจะเห็นออกมาเล่นหนังที่ดูเป็นคนจริงจังๆ ปกติแล้วเรามักจะได้เห็นเค้าเป็นเด็กวัยรุ่นเนิดร์ๆ
เปิ่นๆ หรือดูเป็นพวกอันเดอร์ด๊อกจนติดภาพลักษณ์ไปมาก ก็ทำได้น่าประทับใจ และดูน่าเชื่อถือดีด้วย
(จริงๆถ้าอยากล้างภาพเก่าๆของเค้า ลองหาZack and Miriมาดูสิ 555) และแน่นอนว่าที่เด่นที่สุดของหนัง
นางเอกของเรื่องอลิสัน โลมาน สามารถแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ มีหลายหลายอารมณ์ให้เธอได้แสดงออกมา
แล้วก็ทำออกมาได้ประทับใจ ทำให้คนดูอิน มีอารมณ์ร่วมอย่างเห็นอกเห็นใจ สงสาร และยินดีไปกับเธอได้ตลอด
สรุป
Drag me to Hell เป็นหนังสยองขวัญที่มีหลายรสชาติ ทั้งน่ากลัว ดราม่า ตลก และโรแมนติค
ตัวหนังไม่เน้นขายฉากโหดๆ แหวะๆ(มีแต่แหยะๆ) เน้นฆ่าแกงกันเลือดสาดเกินความเป็นอย่างที่หนังสมัยนี้ชอบทำ
(ตัวหนังได้เรทPG13เองนะ) เป็นหนังสยองขวัญที่ถือว่ามีคุณภาพจริงๆในรอบหลายปีที่ผ่านมา ไม่น่าพลาดครับ
--------
จุดด้อยที่ส่วนตัวจะไม่ค่อยชอบ หลักๆก็จะอยู่ในพล๊อตเรื่องแหละครับ ไม่ได้ว่ามันแย่นะ ผมคิดว่านี่เป็นหนังดี
แม้จะจบในแนวทางของผกก.ที่เราได้ดูกัน แต่ผมจะชอบมากขึ้นไปอีก ถ้ามันมาได้อย่างที่ผมอธิบายไว้ด้านล่างนี้
ตรงนี้ผมเดาได้แต่ก่อนดูอยู่เหมือนกัน ว่าป้าคนนี้จะต้องมาตายจากแน่ๆ เพราะป้าทิ้งท้ายไว้หลังจากสาปว่าแกจะต้องมาขอร้องชั้น
แต่ด้วยการวางพลอตไม่ให้มันจบง่ายๆ ก็เลยต้องหาวิธีอื่น ตรงนี้ผมเดาไว้ว่า หนังน่าจะพูดถึงประเด็นของการขอโทษและให้อภัยกัน
เพราะช่วงต้นๆ จะเห็นว่าจริงๆนางเอกไม่ได้สำนึกอะไรเท่าไหร่ แต่อยากจะมาขอโทษเพื่อให้เรื่องมันจบๆ(คนสมัยนี้ก็เป็นกันเยอะ)
แล้วลากยาวไปยังฉากที่คริสตี้พยายามจะเอากระดุมกลับไปคืนป้า ตอนนี้แหละที่ผมเห็นว่าเธอปลดปล่อยทุกอย่างออกมาหมดเลย
ว่าเธอคิดยังไงกับป้า โมโหและรังเกียจเธอแค่ไหน ซึ่งพอหลังจากนี้ไป แล้วพอฉากจบ(ที่น่าจะเดากันได้แหละ ว่าต้องหักมุมแน่นอน)
จะมี2ฉากที่ผมดันรู้สึกว่ามันขัดกัน ก็คือที่ผจก.โทรมาบอกเธอตอนเช้าว่าไล่สตูออกแล้วเพราะจับได้ว่ามันโกง ตรงนี้แหละมั้งที่เธอเริ่มคิดได้
ว่าถ้าฉันสู้เป็นคนดีจริงๆ (ก็คือที่เธอไม่ส่งต่อกระดุมให้สตู) ยังไงมันก็ต้องส่งผลดีกับชั้นแน่นอน และเธอก็พูดให้แฟนของเธอฟังว่าจริงๆแล้ว
เธอสามารถช่วยป้าคนนั้นได้ ถ้าเธอไม่เห็นแก่ตัว ตรงนี้จะแสดงให้เห็นว่าเธอก็ยอมรับผิดแล้วนะ แล้วพอสักแป๊บ เราก็จะได้เห็นกันเลย
ว่าจริงๆแล้วคำสาปมันยังไม่ไปไหน เพราะจดหมายผิดซองแท้ๆ ตรงนี้ผมอยากใ้ห้มันจบแบบว่า คริสตี้ที่เหมือนจะสำนึกแล้ว อยู่ๆก็กลัวตาย
ด้วยความเห็นแก่ตัวของมนุษย์ที่ทำทุกอย่างได้ เพราะจะได้รับกับคำพูดนึงของรามจาส ว่า"คุณจะทำได้ทุกอย่าง ถ้าลาเมียตาล่าคุณ"
แล้วรีบขอให้แฟนหนุ่มของเธอรับๆมันไป แ้ล้วกระชากแฟนเธอลงหลุมแทนไปเลย ซึ่งไหนๆก็จะจบแบบนี้อยู่แล้ว ก็น่าจะเล่นให้มันดาร์คไซด์กว่า
onetwoshow 05 Jun 2009
ผมว่าสนุกนะครับ เรื่องนี้สยองดีครับ (ดีกว่าดูเรื่อง blood ครับ)
อิอิอิ ชอบนางเอกตอนแรกๆมากเลยครับ
Edited by onetwoshow, 05 June 2009 - 03:39 AM.
อิอิอิ ชอบนางเอกตอนแรกๆมากเลยครับ
Edited by onetwoshow, 05 June 2009 - 03:39 AM.
jobzio 05 Jun 2009
Evil Dead นี้ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่ามันจะมี 3 ภาคด้วยกันนะคับ
ผมเคยดูแต่ภาค1กับ2เท่านี้นเอง ดูแล้วก็คิดว่าเป็นหนังสยองขวัญ
ที่ดีเลย แต่ภาค3เห็นมีคนบอกวามันออกจะติดตลกไปหน่อย
ส่วนเรื่องDrag me to hell ยังไม่ได้ดูเลยล่ะ
แต่ถ้าคุณทำงานเกี่ยวกับการอนุมัติเงินแล้วล่ะก็
ต้องไปดูเรื่องนี้เลยคับ เพราะว่าถ้าคุณไม่อนุมัติ
เงินกู้ให้กับลูกค้าแล้วล่ะก็อาจจะเป็นแบบในหนังก็ได้ 555+
ผมเคยดูแต่ภาค1กับ2เท่านี้นเอง ดูแล้วก็คิดว่าเป็นหนังสยองขวัญ
ที่ดีเลย แต่ภาค3เห็นมีคนบอกวามันออกจะติดตลกไปหน่อย
ส่วนเรื่องDrag me to hell ยังไม่ได้ดูเลยล่ะ
แต่ถ้าคุณทำงานเกี่ยวกับการอนุมัติเงินแล้วล่ะก็
ต้องไปดูเรื่องนี้เลยคับ เพราะว่าถ้าคุณไม่อนุมัติ
เงินกู้ให้กับลูกค้าแล้วล่ะก็อาจจะเป็นแบบในหนังก็ได้ 555+
natta 05 Jun 2009
Evil Dead ภาค 1-2 เหมือนกันแหละครับ เป็นเรื่องเดียวกันก็ได้ แค่มีคนเยอะขึ้นถ่ายทำดีขึ้น เท่านั้นเอง
ถาค3 ใช้ชื่อว่า Darkness Army อภินิหารกองพันซี่โครง ตัวหนังติดตลกอย่างว่าน่ะแหละครับ ..................แต่ก็โอ ดูสนุกดี(ในสมัยนั้น)
ถาค3 ใช้ชื่อว่า Darkness Army อภินิหารกองพันซี่โครง ตัวหนังติดตลกอย่างว่าน่ะแหละครับ ..................แต่ก็โอ ดูสนุกดี(ในสมัยนั้น)
zodiac 05 Jun 2009
อยากบอกว่าหนังดีนะ แต่ กรู โคตร รำคาญ ไอ้คนที่นั่งข้าง ๆ เลย หว่ะ
มันมากัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก มันก็นั่งคุยกันเบา ๆ แต่เสียงก็ยังเข้าหูคนอื่นอยู่ ทำอย่างกับอยู่บ้านมัน (ไอ้ลากไส้)
ส่วนลูกมันก็น่าจะ อายุประมาณ 10 ขวบ แม่ม ก็บ่น เกือบตลอด ว่า "โอ่ย ไม่ชอบตอนตกใจเร่ย อ่ะ" แล้วมาดูทำ ส้นตี.. เหรอฟะ
แล้วมันทั้งครอบครัวก็เคี้ยว ขนบ ดัง กอก แก่ะ กอก แก่ะ ทั้งเรื่อง
ฝากเลยนะครับ เพื่อน พี่น้อง ในเวปนี้
หากใครมีลูก อย่าพาบุตรหลานท่าน ที่มีอายุน้อย ไม่รู้จักมารยาท ในการชมภาพยนต์ในโรงหนัง ไปด้วยเด็ดขาด ไปได้แต่เลือกหนังหน่อย
เพราะถ้ามีคน ฟิวขาด ท่านอาจ อับอายได้ (ครั้งนี้ แฟนผม บอกว่า ให้แลกที่นั่งกับแฟนมั้ย นั่นแสดงว่า แฟนผมไม่อยากให้มีปัญหากัน ผมเลยต้องทนต่อไปครับ)
แต่ครั้งนี้ไม่ได้โทษแต่เด็กนะ มันเป็นกันทั้งครอบครัว ไม่อบรมกันเองมั่งเลย เค้าก็มีโฆษณา ในโรงว่า ให้ปิดมือถือ แต่แม่ม เสือกคุยกันซะงั้น
ตอนนั่งดูในโรง ผมก็ ชโงกหน้ามองมันทั้งครอบครัว ตั้งหลายครั้ง (ประมาณ ว่า เกรงใจ กรู บ้าง) มันยังดีนิ่งไปแป๊บนึง
ออกมาจากโรง ผมเดินตามมามองหน้ามัน มันก็ยังไม่รู้สึกอะไร ก็ถือว่า เออ ซวยเองวะ
ดูหนังผี ต้องบรรยากาศดี ๆ ห้า เอ๊ย แม่ม มาเจอคนแบบนี้
กรูไม่ได้ดูฟรีนะโว้ย . . .
Edited by zodiac, 05 June 2009 - 09:00 AM.
มันมากัน 3 คน พ่อ แม่ ลูก มันก็นั่งคุยกันเบา ๆ แต่เสียงก็ยังเข้าหูคนอื่นอยู่ ทำอย่างกับอยู่บ้านมัน (ไอ้ลากไส้)
ส่วนลูกมันก็น่าจะ อายุประมาณ 10 ขวบ แม่ม ก็บ่น เกือบตลอด ว่า "โอ่ย ไม่ชอบตอนตกใจเร่ย อ่ะ" แล้วมาดูทำ ส้นตี.. เหรอฟะ
แล้วมันทั้งครอบครัวก็เคี้ยว ขนบ ดัง กอก แก่ะ กอก แก่ะ ทั้งเรื่อง
ฝากเลยนะครับ เพื่อน พี่น้อง ในเวปนี้
หากใครมีลูก อย่าพาบุตรหลานท่าน ที่มีอายุน้อย ไม่รู้จักมารยาท ในการชมภาพยนต์ในโรงหนัง ไปด้วยเด็ดขาด ไปได้แต่เลือกหนังหน่อย
เพราะถ้ามีคน ฟิวขาด ท่านอาจ อับอายได้ (ครั้งนี้ แฟนผม บอกว่า ให้แลกที่นั่งกับแฟนมั้ย นั่นแสดงว่า แฟนผมไม่อยากให้มีปัญหากัน ผมเลยต้องทนต่อไปครับ)
แต่ครั้งนี้ไม่ได้โทษแต่เด็กนะ มันเป็นกันทั้งครอบครัว ไม่อบรมกันเองมั่งเลย เค้าก็มีโฆษณา ในโรงว่า ให้ปิดมือถือ แต่แม่ม เสือกคุยกันซะงั้น
ตอนนั่งดูในโรง ผมก็ ชโงกหน้ามองมันทั้งครอบครัว ตั้งหลายครั้ง (ประมาณ ว่า เกรงใจ กรู บ้าง) มันยังดีนิ่งไปแป๊บนึง
ออกมาจากโรง ผมเดินตามมามองหน้ามัน มันก็ยังไม่รู้สึกอะไร ก็ถือว่า เออ ซวยเองวะ
ดูหนังผี ต้องบรรยากาศดี ๆ ห้า เอ๊ย แม่ม มาเจอคนแบบนี้
กรูไม่ได้ดูฟรีนะโว้ย . . .
Edited by zodiac, 05 June 2009 - 09:00 AM.
Fat Evil 05 Jun 2009
น่ากลัวไหมไม่น่ากลัว แต่ตกใจทุกทีที่มันมา
อีแก่ลาเมียขอเจอตัวเป็นๆหน่อยเหอะ อีแก่ vs fat evil
อีแก่ลาเมียขอเจอตัวเป็นๆหน่อยเหอะ อีแก่ vs fat evil
tomtang 05 Jun 2009
QUOTE (natta @ Jun 5 2009, 06:32 AM) <{POST_SNAPBACK}>
Evil Dead ภาค 1-2 เหมือนกันแหละครับ เป็นเรื่องเดียวกันก็ได้ แค่มีคนเยอะขึ้นถ่ายทำดีขึ้น เท่านั้นเอง
ถาค3 ใช้ชื่อว่า Darkness Army อภินิหารกองพันซี่โครง ตัวหนังติดตลกอย่างว่าน่ะแหละครับ ..................แต่ก็โอ ดูสนุกดี(ในสมัยนั้น)
ถาค3 ใช้ชื่อว่า Darkness Army อภินิหารกองพันซี่โครง ตัวหนังติดตลกอย่างว่าน่ะแหละครับ ..................แต่ก็โอ ดูสนุกดี(ในสมัยนั้น)
ภาค3 ชื่อ Army of Darkness ครับ
loof 05 Jun 2009
เรื่องมารยาทในโรงควรมีจริงๆเเหละ เเต่บางคนก็เกินไป โดยเฉพาะพวกคู่เกย์มันเปราะบางกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ หันไปคุยกับเพื่อน เเท้เเต่หนังยังไม่เริ่มมันหันมามองหน้า ต่อให้พูดกับเพื่อนสองสามคำ มันก็มองหน้า เลยทำเป็นไม่เห็นซะเลย
Pongko 05 Jun 2009
เรื่องมารยาทในโรงหนังเนี้ยผมเจอหลายครั้งแล้ว ก็ไม่เข้าใจหนังสยองขวัญหรือหนังผีเนี้ยจะเอาเด็กเล็ก ๆ มานั่งดูทำไม่เข้าใจฟังหรืออ่านรู้เรื่องหรือเปล่าก็ไม่รู้
Big Boss 02 Jul 2009
ขอบคุณที่แนะนำมาครับ จะหา(โหลดบิท) มาดูครับ ติดใจเรื่องผีอมตะภาค1 ตั้งแต่เด็กแล้ว
mitsurugi 28 Oct 2009
ผมไม่ทราบว่า ผกก.จะ ใส่มุข ผี ลอย ซ้ำไปซ้ำมา กับ งานที่มี ผีมาเกี่ยว ข้อง ทุกเรื่องไป เซ็ง(จริงๆ ผมเป็นคนชอบงานแกน่ะ แต่ประเด็นนี้ แก้ไม่ได้ซักที)