คนที่ยังไม่เคยเล่น (ยังจะมีอีกไหม )แนะนำให้เล่นไปจนถึงฉากที่ฆ่า Andrew Ryan ก่อนนะครับ เพราะเนื้อเรื่องที่แปลมามัน Spoil เดี๋ยวจะเสียอรรถรถในการเล่นไป ต้นฉบับเขียนใช้ภาษาได้สละสลวยมาก พยายามแปลแล้ว ถ้าอ่านแล้วงงต้องขออภัย ใครสนใจก็ไปตามลิ้งค์เลย
Credit : XG3 BioShock Plot Summary (http://www.gamefaqs....le/931329/50049)
===============================================================================
Andrew Ryan
===============================================================================
Andri Ryan เกิดเมื่อต้นศตวรรษที่ 1900 ในรัสเซียเป็นสมัยที่มีการปฏิวัติเป็นสหภาพโซเวียต ซึ่งการปฏิวัติทำให้ครอบครัวของเขาต้องแตกสลาย ขณะที่เขายังเป็นเด็ก ด้วยความไม่ชอบในระบบ Communist ทำให้เขาต้องหนีมาอเมริกาและเปลี่ยนชื่อให้เข้ากับชาวอเมริกันเป็น Andrew เขากลายเป็นนักอุตสาหกรรม นักวิทยาศาสตร์ และนักประดิษฐ์ที่ประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ ทำให้เขารักในความเป็นอเมริกัน ที่ซึ่งความสามารถ ความรอบรู้ นำมายังชื่อเสียง และเงินทองให้แก่เขา จนกระทั่งถึงยุคเศรษฐกิจตกต่ำปี 1930 รัฐมีนโยบายกระจายความมั่งคั่งของคนรวยไปให้กับคนยากจน ทำให้เขาเกิดความสิ้นหวัง เมื่อเหตุการณ์เป็นเสมือนเช่นเดียวกับที่ที่เขาหลบหนีมา จนกระทั่งความ ศรัทธาในอเมริกาสิ้นสุดลงเมื่อเกิดการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ Hiroshima และ Nagasaki
ทันทีที่สงครามโลกครั้งที่สองยุติ เขาได้วางแผนสร้างเมืองที่เป็นที่หลบภัยแห่งใหม่ ที่ซึ่งตัดขาดจากโลกภายนอก และเป็นที่สำหรับคนซึ่งมีความเชื่อเดียวกับเขา ในความเป็นทุนนิยม และอิสระจากการควบคุมของรัฐบาล ปราศจากพระเจ้า และพวกปรสิตที่ไม่ทำงาน เอาแต่คอยเกาะกิน และเมืองนั้นควรจะมีชื่อว่า Rapture (เมืองแห่งความปิติยินดี) เขาได้ทำการรวบรวมผู้คน และหาสถานที่สร้างเมือง ซึ่งในความคิดเขาเป็นที่อื่นไปไม่ได้นอกจากใต้ท้องมหาสมุทรอันลึกล้ำ
===============================================================================
The Construction of Rapture - กำเนิด Rapture
===============================================================================
ขณะที่ไรอันอยู่ในอเมริกา เขามีกำไรสะสมนับพันล้านจากธุรกิจของเขาทั้งจากธุรกิจในอเมริกา และจากการค้าขายกับต่างชาติทั่วโลก และนี่เองเป็นทุนในการก่อสร้าง Raptureในปี1942 ด้วยความอัจฉริยะของเขา ไรอันได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ที่สามารถอัดโมเลกุลของน้ำ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แต่รัฐบาลอเมริกากลับนำไปใช้ในการทำอาวุธทางการทหาร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในการเพิ่มความสิ้นหวังกับควบคุมของรัฐ และเพิ่มความคิดในการเป็นอิสระจากการควบคุม
ไรอันเริ่มสร้าง Rapture ในปี 1946 แท่นขุดเจาะน้ำมันได้ถูกนำมาใช้ในการก่อสร้างเมือง สถานที่ก่อสร้างถูกเลือก ณ กลางมหาสมุทรแอตแลนติก ระหว่างเกาะ Greenland กับ Iceland (63* 2' N 29* 55' W) การสร้างชิ้นส่วนของเมืองทำบนแท่นขุดเจาะน้ำมันขนาดยักษ์ สองแห่ง เริ่มจากประกอบฐานรากของเมืองและหย่อนลงไปวาง ณ ท้องมหาสมุทรด้วยทุ่นลอย หลังจากนั้นค่อยหย่อนชั้นต่างๆของเมืองลงไปวางต่อๆกันเหมือนบล็อก โดยทำการอุดรอยต่อแต่ละชั้นด้วยหินและซีเมนต์ ที่ได้มาจากการขุดท้องทะเลลึกด้วยแท่นขุดเจาะน้ำมันจากบริเวณนั้นๆ และปิดช่องต่างๆอีกทีด้วยกระจกอย่างแน่นหนา เมื่ออาคารแล้วเสร็จไรอันได้ทำการระบายน้ำออก ด้วยอุปกรณ์อัดโมเลกุลของน้ำที่เขาประดิษฐ์มันขึ้นมาเอง ซึ่งแน่นอนเครื่องสูบน้ำไม่สามารถใช้ในการนี้ได้ และเมืองก็จะไม่สำเร็จถ้าปราศจากอุปกรณ์ของเขา และเมื่อระบายน้ำออกจนหมดแล้วรูระบายน้ำก็จะถูกผนึกตาย ด้วยกำแพงยักษ์ใต้ท้องทะเลที่เรียงรายต่อกันเพื่อใช้ป้องกันเมือง และประกอบไปด้วยกลุ่มอาคารสูงระฟ้าข้างใน เมือง Rapture ถูกออกแบบมาให้อยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง สามารถปั่นกระแสไฟฟ้า ผลิตอาหาร ทำน้ำทะเลให้บริสุทธิ์ และมีระบบป้องกันภัย ซึ่งพลังงานต่างๆได้มาจากลาวาจากใต้ท้องทะเลโดยผ่านทางช่องเปิด และเพื่อที่จะควบคุมพลังงานความร้อนดังกล่าว เพื่อนำมาผลิตเป็นพลังงานอื่นๆ ไรอันได้คิดค้นเครื่องที่เรียกว่า Hephaestus และติดตั้งอยู่ในออฟฟิศของไรอันเอง
ไรอันได้ว่าจ้างนักวิทยาศาสตร์จากBerkeley ที่ชื่อJulie Langford ให้สร้างฟาร์มต้นไม้ใต้ท้องมหาสมุทร Arcadiaคือสถานที่ที่ซึ่งถือเป็นปอดของRaptureในการผลิตออกซิเจน การขนส่ง/เดินทางระหว่างส่วนต่างๆในRaptureใช้สถานที่ที่เรียกว่า Rapture Metro ซึ่งมีเรือดำน้ำลักษณะทรงกลมเป็นพาหนะ ของขนาดที่เล็กลงมาใช้อุโมงค์แก้วในการขนส่ง ส่วนจดหมายต่างๆจะถูกส่งโดยท่อลม สถาปัตยกรรมของเมืองเป็นแบบผสมผสานระหว่างอนาคตกับอดีตที่เรียกว่า Deco Style
เมื่อเมืองสร้างเสร็จ แท่นขุดเจาะน้ำมันที่อยู่บนผิวน้ำก็ได้ถูกแยกส่วนทิ้ง ยกเว้นฐานของมันซึ่งเหลือทิ้งไว้เป็นโครงสร้างของทางเข้าเมือง และทำเป็นประภาคารเพื่อใช้นำทางเข้าสู่เมืองใต้บาดาล
Rapture เปิดตัวสู่โลกภายนอกเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 1946 ประชากรได้ทวีจำนวนมากขึ้นจนเป็นหมื่นเมื่อต้นปี1950 ซึ่งเป็นล้วนเป็นบุคคลที่ไรอันได้คัดสรรแล้ว เศรษฐกิจได้ขยายตัวเพิ่มตามจำนวนประชากร มีการผลิตและบริการต่างๆมากมาย เพื่อป้อนให้กับสังคมที่ได้แบ่งแยกเป็นชนชั้นต่างๆ
===============================================================================
The Discovery of Adam - การค้นพบ Adam
===============================================================================
Bridgette Tenebaum เมื่ออายุ16 ขณะที่เป็นเชลยอยู่ในค่ายนักโทษในเยอรมัน เป็นผู้ซึ่งชมชอบในวิทยาศาสตร์ ได้พบว่ามีการทำการทดลองทางวิทยาศาสตร์ของแพทย์กับเหล่านักโทษ และเธอสามารถชี้ข้อผิดพลาดในระหว่างการทดลองของแพทย์ได้ พวกเยอรมันสังเกตพบความสามารถของเด็กหญิง จึงได้นำตัวมาใช้และเรียกเธอว่าเด็กมหัศจรรย์ Tenebaumสนใจที่จะศึกษาว่าทำไมมนุษย์ถึงเกิดมาแตกต่างกัน และได้เริมทำการทดลองเกี่ยวกับพันธุกรรมกับเหล่านักโทษ ซึ่งเธอไม่ได้ใช้การทรมาณในการทดลองกับเขาเหล่านั้น แต่ปฏิบัติกับพวกนักโทษราวกับว่าเป็นเสมือนญาติพี่น้อง และด้วยความอัจฉริยะของเธอทำให้สามารถอยู่รอดจากสงครามโลกครั้งที่สองมาได้ จนนำเธอมาสู่ Rapture
วันหนึ่ง Tenenbaum เธอเห็นชายที่มือพิการมาจากสงคราม สามารถกลับมาเล่นเบสบอลได้อย่างปกติ บนท่าเรือของ Neptune's Bounty เมืองของชาวประมงใน Rapture เธอสงสัยในความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น ชายคนดังกล่าวบอกว่าวันหนึ่งในขณะที่ขนของลงจากเรือ ได้ถูกปลิงทะเลกัด เมื่อตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมา เขาสามารถขยับนิ้วได้ในรอบปี ด้วยลางสังหรณ์เขาจึงได้เก็บปลิงทะเลตัวนั้นไว้ และได้มอบให้ Tenenbaum เอาไปศึกษา
Tenenbaum ได้ค้นพบความลับสเต็มเซลล์ของปลิงทะเล ต่อมาภายหลังเรียกว่า Adam ซึ่งไม่เพียงสามารถรักษาเซลล์ที่เสียหายได้ แต่ยังฟื้นฟูเซลล์ให้กลับมีสภาพดีดังเดิม ด้วยความต้องการในการหาทุนเพื่อทำการศึกษาค้นคว้า ซึ่งเธอถูกปฎิเสธเมื่อไปยื่นข้อเสนอกับlabต่างๆ ทำให้เธอต้องไปหา Frank Fontaine นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จจนร่ำรวย ซึ่งต่อมาภายหลังคือผู้บงการอาชญากรรมต่างๆ ในRapture
===============================================================================
Frank Fontaine
===============================================================================
Frank Fontaine เป็นนักลงทุนที่มีความรอบรู้ในการทำธุรกิจใหม่ๆ มีมูลนิธิ และกิจการต่างๆมากมาย เขาก่อตั้งมูลนิธิชาวประมง Fontaine Fisheries เพื่อบังหน้าการลักลอบขนของในPort Neptune Fontaineใช้เสน่ห์ของเขาในการชักชวนผู้คนในRapture ที่หมดความลุ่มหลงในสังคมในอุดมคติของRyan Fontaineบุคคลผู้ซึ่งมองการณ์ไกล เป็นผู้ที่เข้าใจในสภาพสังคมในโลกที่แม้จะเลิศหรู “ใครบางคน ก็ยังต้องมีหน้าที่ในการขัดส้วม” ดังนั้นเขาจึงเริ่มแผนการยึดครอง Rapture ด้วยการเข้าหาชนชั้นล่าง เขาได้ก่อตั้ง Fontaine’s Home ขึ้นมาเพื่อคนจน และซ่องสุมกำลังคนใน Neptune Bounty นำโดย Peach Wilkins ในการลักลอบขนของจากภายนอกเข้ามาใน Rapture กางเขนและคัมภีร์Bible ที่ลักลอบนำเข้ามาเป็นสิ่งที่ทำกำไรมหาศาลให้เขา ซึ่งของเหล่านี้เป็นที่ต้องการของคนจำนวนมากที่รู้สึกว่าตัวเองว่างเปล่าไร้ที่พึ่ง Fontaine อาศัยของเหล่านี้เพื่อทำกำไร ขณะเดียวกัน ก็เร่งกระจายเพื่อเพิ่มความรู้สึกต่อต้านRyan
Fontaine รู้ได้ทันทีเมื่อเขาพบ Adam ว่าเป็นสิ่งที่จะมีศักยภาพในทางเศรษฐกิจ เขาจึงตัดสินใจลงทุนให้ Tenenbaum ทำการศึกษา Adam แลกกับกำไรที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยขบวนการลักลอบขนของในNeptune Bounty Tenebaumจึงมีเงินและเครื่องมือในการวิจัย Adam ตามที่เธอต้องการ Fontaine’s Futuristicจึงได้อุบัติขึ้น Tenebaumค้นพบว่าAdam มีผลต่อสิ่งมีชีวิต โดยสามารถเพิ่มความสามารถให้กับทั้งทางร่างกาย และจิตใจ รวมถึงช่วยรักษาโรค และบำบัดอาการบาดเจ็บ Dr. Suchong ผู้ร่วมวิจัยได้พัฒนาการดัดแปลงพันธุกรรมของAdamจนได้สายพันธุ์ใหม่ๆ เรียกว่า Plasmids ซึ่งPlasmidsเหล่านี้ มีโค้ดเรียกว่า “Lots”สามารถเพิ่มความสามารถพิเศษต่างๆให้กับมนุษย์ได้ ด้วยการฉีดเซรุ่มที่เรียกว่า Eve เข้าไปเพื่อใช้มัน ขณะที่ Dr. Suchong ได้ทุ่มเทค้นคว้าในการพัฒนาการคิดค้นPlasmidsใหม่ๆ TenenbaumยังคงศึกษาหาคุณสมบัติของAdamต่อไป
เมื่อAdamได้เปิดตัวสู่สาธารณชน มันได้ทำกำไรพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วให้กับ Fontaine’s Futuristic ซึ่งช่วงเวลานี้เอง Fontanieได้กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลในRapture ด้วยกิจการมากมายของเขา ไม่ว่าจะเป็นตลาดค้าOxygen Accu-Vox, กิจการ Personal Voice Recorders เครื่องบักทึกเสียงส่วนบุคคลที่ทุกคนต้องมี, กิจการเครื่อง Power to the People machines เขาได้ทุ่มกำไรทั้งหมดลงไปในการค้นคว้าพัฒนาPlasmidsใหม่ๆ Fontanieกลายเป็นผู้นำในเทคโนโลยี ควบคุมและผูกขาดในตลาดพันธุกรรม ขณะที่Ryanมุ่งสนใจในอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ในช่วงแรกๆ Ryan เคยร้องขอให้Fontanieให้ทำกิจการPlasmids อย่างเสรีไม่ผูกขาด ให้เป็นตัวอย่างในตลาดอุดมคติ โดยปฏิเสธที่จะควบคุมมันถึงแม้จะถูกกดดันจากที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดรอบตัว
===============================================================================
Little Sisters
===============================================================================
Adam ได้ทำการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในRapture โลกสำหรับมนุษย์ที่ดีและปราดเปรื่องที่สุด โลกที่ผู้คนสามารถใช้ Plasmids และGene Tonics ในการทำให้ตัวเองดีขึ้นได้ โดยการประกอบมันเข้าไปกับยีนส์ของตัวเอง ซึ่งเรียกวิธีการนี้ว่าว่า Splicing ผลระยะยาวของAdamเริ่มปรากฏเมื่อมีผู้คนใช้มันมากขึ้น คล้ายกับเนื้องอกมะเร็งร้ายที่แฝงตัวอยู่ มันจะทำลายเซลล์ดั้งเดิมเหล่านั้นและแทนที่ด้วย สเต็มเซลล์ใหม่ที่ไม่เสถียร ซึ่งเซลล์เหล่านี้เองจะทำให้เกิดคุณสมบัติประหลาดๆ เป็นผลให้เกิดการเสียโฉมและอาการทางจิต จนกลายเป็นวงจรของปัญหาที่ไม่สิ้นสุด โดยการใช้ Adamมากขึ้นๆ เพื่อรักษาผลร้ายของมันเอง แน่นอนมันคือความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงของการใช้ยาทางการแพทย์ แต่มันคือผลดีสำหรับทางธุรกิจ
ผลข้างเคียงอีกอย่างของSplicingก็คือความสามารถในการเห็นวิญญาณ ซึ่งเกิดมาจากความทรงจำของเซลล์ที่ส่งผ่านผู้ใช้Adamที่มีการใช้ยีนส์พันธุกรรมร่วมก
ัน ผู้ที่ใช้ Plasmidsและ gene tonics จนเกินขนาดจะมีอาการจิตหลอนและก้าวร้าวอย่างรุนแรง ซึ่งรู้จักกันว่าคือพวก Splicer Fontanieเองก็ได้สร้างอาคารลับเพื่อสร้างกองกำลังsplicersจากพวกชนชั้นล่าง
เมื่อความต้องการAdamเพิ่มสูงขึ้น Fontaine’s Futuristic จำเป็นต้องหาวิธีการใหม่ๆในการผลิตมัน Tenebaum ศึกษาจนพบว่าสามารถเพิ่มผลผลิตของAdamได้โดยการเพาะเลี้ยงปลิงทะเลในกระเพาะของสิ่งม
ีชีวิตที่เป็นHost ซึ่งการทดลองขั้นต้นได้ใช้เด็กหญิงเป็นตัวทดลองซึ่งประสบความสำเร็จ เมื่อ Host กับปลิงทะเลที่เพาะเลี้ยงสามารถอยู่ร่วมกันได้แล้ว เมื่อต้องการสกัด (Harvest) เอาปลิงออกมาก็จะทำให้Host ตาย Tenebaum พบว่าความสัมพันธ์ในการอยู่ร่วมกันนี้นี้จะเกิดขึ้นกับเด็กๆที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถหาคำอธิบายได้ เมื่อเธอบอกเรื่องนี้กับ Fontanie เขาก็ได้พูดเล่นลิ้นว่าจะได้ใช้ห้องน้ำที่ไม่ใช้เป็นสถานที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้า เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนhost ซึ่งภายหลังต่อมาFontaineได้เปิด Little Sister’s Orphanage ขึ้น เพื่อรองรับเปิดโรงงานผลิต Adam ในอนาคต
Edited by SoVeReign, 17 November 2009 - 10:31 AM.