`
←  NiCK's Blog
Logo
»

NiCK's Blog

ชีวิตในอเมริกา ตอนที่ 1 01 February 2011

เมื่อตอนเด็กๆผมฝันอยากมาเที่ยวอเมริกา แต่ด้วยความที่ที่บ้านไม่ค่อยจะมีกะตัง ผมก็เลยอาศัยดูหนัง อ่านหนังสือเที่ยวอะไรไปเรื่อยเปื่อย ประกอบกับเป็นเด็กต่างจังหวัดอย่าว่าแต่เมืองนอกเลย เอาแค่กรุงเทพยังไม่คิดว่าจะได้ย้ายมาอยู่ ผมย้ายจากใต้มากรุงเทพตอนประมาณ ป.5 ลำบากเหมือนกันต้องมาเจอเพื่อนใหม่ๆ พอปรับตัวได้ก็เริ่มซึมซับความเป็นเด็กกรุงเข้าไปเรื่อยๆ เริ่มเรียนภาษาอังกฤษจากโรงเรียนสอนภาษาแห่งนึงตอน ป.5 แล้วก็ชอบเพราะหนังสือน่าเรียนกับไก่ทอดอร่อย 555

ตอนนั้นมีโปรแกรมแลกเปลี่ยนจากโรงเรียนภาษาไปออสเตรเลีย เพื่อนๆก็ไปกัน แต่ไอผมมันไม่ค่อยมีกะตังก็เลยต้องผ่านไป พอโตมาหน่อยก็เริ่มอยากมีอะไรเหมือนเด็กฝรั่ง หมายถึงว่าพวกกิจกรรมการแต่งตัวอะไรแบบนี้ ตอนนั้นก็เลยบ้ากีฬา X Games เอาเรื่อง เริ่มด้วยการเล่น Skateboard แล้วก็แต่งตัวฮิปฮอปให้เข้า concept พอเริ่มเล่น Skate ก็อยากลองเล่น Wakeboard สมัยนั้น Johny Anwar ดัง เห็นเค้าเล่นกัน แต่ค่าอุปกรณ์ก็โคตรจะแพง เลยต้องพับโครงการ หลังๆเริ่มดูเค้าเล่น surf เอาอีก อยากเล่น แต่เมืองไทยมันมีที่ surf แบบนั้นก็แค่ที่ภูเก็ตหย่อมนึง อด และความบ้าผมก็มาจบลงที่ Snowboard อันนี้หนักสุด เพราะเป็นไปไม่ได้เลย ไม่รู้จะไปเล่นที่ไหน วันนึงเลยตั้งมันว่าถ้ากุได้ไปเมืองนอก จะไปเล่น snowboard ผมเคยไปยืนจ้อง snowboard ที่เค้าวางขายในร้าน Quiksilver สาขา Siam Discovery แพงดีแท้ แต่พอมานั่งคิดๆตอนนี้ยังไงสงสัยว่ามันจะเอามาขายทำไมวะ ที่ไทยจะไปเล่นตรงไหน แต่ผมก็เกือบโง่หยอดกระปุกซื้อ 555

และแล้วเหมือนโชคชะตาเล่นตลก อันนี้ผมยังมานั่งขำทุกวันนี้ ผมมีเรื่องต้องย้ายจากเมืองไทยมาอยู่อเมริกานอกจากนั้นยังไม่พอ ต้องย้ายมาเมืองที่หนาวสุดของอเมริกาอีก เมืองที่ผมอยู่มีหน้าหนาวยาวถึง 8 เดือนกันเลยทีเดียว :'( ประมาณว่าให้มึงเล่น snowboard ให้สะใจไปเลย :o_worry:

แต่จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ผมบินไปๆมาๆบ่อย เนื่องจากแฟนเรียนโทอยู่ที่นี่ แล้วการคบกันระยะไกลมันทรมารมาก อันนี้เราไม่ได้พูดถึงกรุงเทพเชียงใหม่ แต่นี่กรุงเทพ ชิคาโก้ โคตรไกล

ก่อนมาก็ทุลักทุเลพอดูเพราะช่วงนั้นขอ VISA มาอเมริกายาก เรื่องมาก กว่าจะผ่านเล่นเอาเหนื่อย มาถึงนี่ครั้งแรกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองก็ถามซะเยอะเหลือเกิน ไอเราก็กลัวโดนส่งกลับไทยอย่างที่คนไทยหลายๆคนโดนกัน แต่แล้วก็ผ่านมาได้ โดยทำหน้าให้น่าเห็นใจไว้ บอกผมมาหาแฟนนะ คิดถึง :D

ผมไปๆกลับๆแบบนี้อยู่ 4 ปี จนสุดท้ายแฟนได้งานที่อเมริกา เอาล่ะสิกุทำไงดีวะ แต่จริงๆแล้วผมก็เตรียมตัวไว้แล้วแหละ ตัดสินใจไม่ทำงานประจำ เปิดธุรกิจส่วนตัวกับเพื่อน สุดท้ายก็แต่งงานย้ายประเทศตามแฟนไป ดีนะงานผมทำจากที่ไหนก็ได้ ไม่งั้นล่ะวุ่นตายชัก

พอย้ายมาจริงๆสบายหน่อยตรงไม่ต้องปรับตัวมาก เพราะเคยมาอยู่บ้างแล้ว เริ่มชิน แต่ที่วุ่นวายคือพอเรามาอยู่ยาวๆมันต้องทำเอกสารอะไรบ้าบอมากมาย เริ่มเข้าใจคนต่างชาติที่ต้องมาอยู่ในไทยบ้างแล้ว

การทำบัตรประจำตัวหรือพวกใบขับขี่ที่นี่เอกสารต้องให้คนในอเมริกาแปลให้อีก ก็ต้องมาจ้างคนไทยที่เป็นนักแปลที่นี่ ใครมีเอกสารแปลมาจากไทยก็ลืมๆไปได้เลยครับ ไม่ได้ใช้ เผื่อใครจะมาเรียนหรือมาทำงานหรืออะไรก็แล้วแต่หลายๆที่เค้าไม่ยอมรับการแปลจากไทยหรือแปลเอง

คนที่จะมาอเมริกาไม่ว่าจะมาทำอะไรก็ตามอย่าลืมเช็คพาสปอร์ตก่อนว่าใกล้หมดยัง ถ้าใกล้แล้วทำมาก่อนมาให้เรียบร้อย เพราะไม่งั้นต้องไปทำที่กงศุลไทยลำบากหน่อยถ้าอยู่เมืองไกลกงศุล ต้องบินไปทำ

ผมไปมาหลายรัฐก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ Minnesota ถาวร แล้วผมค่อนข้างจะมีความสุขกับที่นี่เพราะว่าคนขาวเยอะ คนนิสัยดีเยอะ รู้สึกว่าฝรั่งเค้ายิ้มแย้มแจ่มใส เจอหน้ากันก็ทักทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ไม่ใช่ฝรั่งทุกที่เป็นแบบนี้นะ ผมเองมีประสบการณ์กับเมืองใหญ่มาหลายที่ San Francisco เอย Chicago เอย หรือ New York (The Empire State) คนตามเมืองใหญ่จะไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่ แต่อย่างว่าการแข่งขันมันสูง แต่ถ้าเทียบระหว่างเมืองใหญ่ๆดังๆในอเมริกาที่เคยไปมา ต้องบอกว่าผมชอบ Chicago สุด เมืองสะอาด สวย เสียแค่คนดำเยอะไปหน่อย จริงๆแล้วผมไม่ได้เป็นคนเหยียดผิวนะ แต่ผมไม่ค่อยอยากไปยุ่งกับคนดำ เพราะ 95% ที่ผมเจอมามันต้องเอาเรื่องมาให้ผมทุกที ไถตังเอย ด่าเอย สารพัด

ส่วน New York ผมต้องยกให้เป็นเมืองที่ไม่น่าอยู่อันดับ 1 หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไม ผมบอกได้เลยว่ากรุงเทพดีกว่าเยอะ ไม่เชื่อลองอ่านที่ผมจะพูดข้อเสียให้ฟังอาจจะเปลี่ยนใจ

คนนิวยอร์คจะไม่ค่อยยิ้มแย้ม เร่งรีบ เดินชนก็ไม่ค่อยขอโทษ ข้ามถนนไม่เป็นระเบียบ ถ้าไม่บีบแตรไล่มันก็ไม่หยุดข้าม รถไฟใต้ดินเน่ามาก ผมได้ใช้แล้วคิดถึงรถใต้ดินบ้านเราเลย ดูดีกว่า 30 เท่า subway NY มีทั้งกลิ่นฉี่ คนจรจัดนอน บางทีมีกองอึเกลื่อน โอ้ว นี่มันเมืองห่าอะไรเนี่ย ผมบอกได้เลยว่าเมืองนี้เหมาะสำหรับคนรวยมากๆ ที่มีคนขับรถให้ เพราะถ้าพูดถึงความศิวิลัยมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เมืองที่ไม่เคยหลับไหล มันพาลทำผมหลับไหลไม่ลงด้วย เพราะเสียงรถเสียงแตรมันล่อดังทั้งคืน เดี๋ยวมีรถขยะมาเก็บ นี่ผมพูดถึง Manhattan นะ ตอนผมไปเที่ยวนอนกลางเมืองเพราะขี้เกียจเดินทาง คิดผิดมหรร ถ้าไม่จำเป็นผมแนะนำให้ไปเมืองอื่นดีกว่า หมายถึงถ้าจะมาเรียนน่ะนะ เพราะที่นี่มันทรมาณมาก แต่ถ้าจำเป็นต้องมาอยู่จริงๆแล้วพอมีกะตังก็ลองไปอยู่แถว Upper East Side ใน New York ดู หลีกหนีความวุ่นวายได้พอดู สรุปแล้วผมกลายเป็นโรคเกลียจเมืองใหญ่ไปเลย :D

พอแค่นี้ก่อน พล่ามมากเกิน นั่นแหละครับ ดวงผมเหมือนจะได้มาอยู่ที่นี่จริงๆ ไว้รอบหน้าผมจะเขียนแนะนำคนที่อยากมาเรียนหรือทำงานที่นี่ว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง แล้วจะต้องมาเจออะไรบ้าง อะไรหลายๆอย่างมันไม่สวยหรูอย่างที่คิด

Comments

Tails, Feb 01 2011 12:31 PM

อ่านแล้วสนุกดีครับ :o_lol: เป็นประสบการณ์ชีวิตที่เหมือนจะฝันไปเลยรึเปล่าครับเนี่ย ติอย่างเดียว ตัวอักษรมันตัวเล็กไปรึเปล่าครับ หรือเป็นที่คอมผมก็ไม่รู้ ทำให้อ่านยากนิดนึงอยากรู้ครับว่อลาสก้านี่ไม่ได้หนาวสุดของอเมริกาหรอครับ(จริงๆถ้าแฟนจะเรียนโทน่าจะไปเรียนที่แคนาดาดีกว่ารึเปล่าครับ เหมือนเคยได้ยินมา)

paween_a, Feb 01 2011 01:27 PM

สนุกดีครับ เขียนเยอะ ๆ นะครับ ผมจะติดตามตลอด

voyevoda, Feb 02 2011 12:13 AM

เจ๋งดีครับ ประสบการณ์ดีนะนั่น อยากไปอยู่ยาวๆ บ้าง เคยแค่ไปเที่ยวกับทัวร์แปปๆ ในบางประเทศ

ถ้ามีโอกาสเลือกได้ก็อยากได้ลองอยู่ us เมืองสงบๆ แต่อีกใจถ้าได้คงเลือก newzealand ชอบมว้าาก

หวังว่าถึงตอนนั้นผมคงยังเป็นเกมเมอร์อยู่นะ 55+

ปล.ทักษะภาษาได้จากการเล่นเกม ดูหนังซะส่วนใหญ่, พูด ฟัง อ่านได้ เขียนนี่อย่างกาก
คงต้องปรับปรุงอีกนาน :(

NiCK, Feb 03 2011 03:06 AM

จริงๆ Alaska ก็หนาวนะ แต่ว่าด้วยความที่มันเป็นรัฐที่อยู่หลุดออกไปจากแผ่นดินอเมริกาเลยไม่ค่อยมีคนพูดถึงมันเท่าไหร่ครับ ที่นั่นทุกอย่างแพงกว่าทุกรัฐ บ้าน ค่าครองชีพ อะไรต่อมิอะไรเพราะรัฐนั้นมันต้องบินไปอย่างเดียว ขนาดร้านขายของออนไลน์หลายๆที่ก็ไม่รับส่งไป Alaska กับ Hawaii

แต่ถ้าพูดถึงในอเมริกาทั้งหมดแล้ว MN น่าจะหนาวสุดแล้วครับ อยู่บนสุดติดแคนาดาเลย หน้าหนาวที่นี่หนาวได้ถึง -45 C กันเลยทีเดียว ผมเจอหนักสุดๆตั้งแต่อยู่นี่ก็ -38 C นะ แต่แค่นี้ก็หืดจับแล้ว :D

Consoleman360, Feb 04 2011 08:08 PM

เอาาาาาาาาาาาาาาอีกครับ :dance_right: :act_right:

ขอบคุณครับ

Maburu, Feb 05 2011 02:00 PM

สุดยอดคับ อยากไปเมืองนอกบ้าง
สาเหตุหลักๆเลยคือ หิมะฮะ :o_love:

Dogfight, Feb 08 2011 03:46 PM

ว่างๆ มาเที่ยว Vegas บ้างนะครับ เผื่อได้ออกไปกินข้าวกัน ผมอยู่นี่ไม่ค่อยจะมีเพื่อนเลย :o_smoke:

NiCK, Feb 09 2011 02:47 AM

Maburu, on 05 February 2011 - 02:00 PM, said:

สุดยอดคับ อยากไปเมืองนอกบ้าง
สาเหตุหลักๆเลยคือ หิมะฮะ :o_love:

หิมะนี่หนุกแค่สองวันแรกๆนะจริงๆแล้ว แล้วหลังจากมันตกไปซักอาทิตย์จะเริ่มเน่า :D

Dogfight, on 08 February 2011 - 03:46 PM, said:

ว่างๆ มาเที่ยว Vegas บ้างนะครับ เผื่อได้ออกไปกินข้าวกัน ผมอยู่นี่ไม่ค่อยจะมีเพื่อนเลย :o_smoke:

อยากไปอยู่เหมือนกันครับ แฟนผมเคยไปแล้วแต่ตัวผมเองยังไม่ได้ไป

Ka-ToA, Feb 12 2011 10:33 PM

อ่านแล้วได้เปิดวิสัยทัศน์เยอะเลย

คุณ Nick มาเล่าต่อนะครับ :cat_yes:

Loading, Feb 14 2011 12:08 AM

เพิ่งได้ไปเยี่ยมแฟน(มาเรียนโท)ที่โน้นตอนปีที่แล้ว แถวๆฝั่งมิชิแกน

ชอบมากฝรั่งแถบนอกเมืองมากๆ มีน้ำใจดีกว่าที่คิด ยิ้มแย้ม คนดำก็ดูอารมณ์ดีตลอดเวลา

แต่พอเข้าเมืองใหญ่ก็อย่างว่าการแข่งขันสูง พอเข้าใจ

พออยู่ได้สักเดือนเริ่มไม่อยากกลับ 555 :o_shame:

ยังไงเขียนอีกนะคุณนิค ผมรออ่านครับ

SinJusTiCE, Feb 20 2011 11:01 PM

เคยอยู่แถวๆ Buffalo ครับ คนนิสัยดีมาก ถึง มากสุดๆ จริงๆ ให้ตายเหอะ

ไป NYC ทีเดียว อยากกลับบ้านนอกกกกกก

ice-joker, Feb 23 2011 05:49 PM

มารออ่านตอนต่อนะครับสนุกดี ชอบๆ