`

Jump to content





รีวิวหนัง Cloverfield - วันวิบัติอสูรกายถล่มโลก


6 replies to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 20 May 2008 - 05:07 PM

Cloverfield - วันวิบัติอสูรกายถล่มโลก


"Some Thing Has Found Us"

+กับ Cloverfield แม้ว่าดูแล้วจะทำให้นึกถึง Blair Witch Project อยู่บ้าง ในแง่ของคอนเซ็ปท์ต่างๆและการโปรโมทตัวเองของหนัง แต่เมื่อพูดถึงในแง่ของเนื้อหนังแล้ว ผลงานของผู้กำกับ "แม็ทท์ รีฟส์" ที่ทำงานร่วมกับ "เจเจ
อบรามส์" และได้ "ดรูว์ ก็อดดาร์ด" มาเขียนบทให้ ถือว่าทำออกมาได้ดีกว่ามากในแง่ของการเล่าเรื่อง รวมไปจนถึงรูปแบบในการนำเสนอก็ยังดูลงตัว และเนียนกว่าอย่างเห็นได้ชัด . . อย่างน้อยที่สุด Cloverfield ก็ดูสนุกและมีความน่าติดตามในแบบของหนังแอ็คชั่นสัตว์ประหลาดถล่มเมืองทั่วๆ ไป แต่ดูแปลกตากว่าด้วยการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จริงๆ . .


+นี่คือเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนชาวนิวยอร์ค 5 คน ที่ประกอบไปด้วย เจสัน , ลิลี่ , มาเลนาร์ , ฮัด , เบ็ธ และบ็อบ ที่กำลังสนุกอยู่ในงานฉลองเลี้ยงส่งบ็อบไปทำงานที่ญี่ปุ่น โดยมีฮัดทำหน้าที่บันทึกภาพงานเลี้ยง และคำสัมภาษณ์ของบรรดาแขกๆทั้งหลายในงานนี้ . .

+ด้วยความไม่เข้าใจกัน ทำให้บ็อบทะเลาะกับเบ็ธ จนรุนแรงจนกระทั่งฝ่ายหลังขอตัวกลับออกจากงาน . . แต่พอเบ็ธกับหนุ่มที่ควงมาด้วย คล้อยหลังกลับไปได้ไม่นาน ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น . . ทีแรกทุกคนคิดว่าเป็นแผ่นดินไหว แต่ไม่นานทั้งหมดก็รู้ว่านี่คือฝีมือของสัตว์ประหลาด ที่มาถล่มกรุงนิวยอร์ค . . ทุกคนพยายามหาทางหนี แต่แล้วเบ็ธกลับโทรมาหาบ็อบ พร้อมน้ำเสียงที่แสดงถึงอาการเจ็บปวด . .

+แทนที่จะหาทางหนี บ็อบกลับหาทางกลับเข้าเมืองเพื่อไปช่วยเบ็ธ ในช่วงเวลาที่ทางกองทัพส่งทหารมาช่วยควบคุมเหตุการณ์ และนิวยอร์คเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง . . โดยที่มีฮัดตามมาด้วย และไม่พลาดที่จะบันทึกภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ด้วยกล้องที่อยู่ในมือ . .


+ด้วยเรื่องราวและวิธีการนำเสนอ Cloverfield ก็คืองานที่เล่าเรื่องผ่านสายตาของผู้ประสบเหตุแบบเพียวๆ และยังนำเสนอผ่านทางกล้องของหนึ่งในผู้ประสบเหตุครั้งนี้ หนังอาจจะไม่มีเบื้องลึกอะไรมากมายนักในส่วนของความเป็นมา จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ หรือแม้กระทั่งตัวสัตว์ประหลาดเอง ที่บางคนอาจจะมองว่าหนังขาดแบ็คกราวนด์ รายละเอียด หรือการปูพื้นอะไรต่างๆนานา ทั้งทีมองกันจริงๆแล้ว Cloverfield ไม่ใช่หนังในแบบทั่วๆไป แต่นี่คือหนังที่เลียนแบบเหตุการณ์จริง และนำเสนอผ่านมุมมอง และสายตาของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้น . .


+ก็เหมือนกับเวลาที่เรากำลังนั่งดูคลิปอะไรสักอย่าง เราคงไม่ต้องมานั่งถามกันว่า คู่รักคู่นั้นรักกันมากไหม? ทั้งคู่ทำงานทำการอะไร? แน่นอนว่าภาพที่ปรา
กฎบนจอนั้น อาจจะไม่ชัดเจนนัก อาจจะดูวูบๆวาบๆไปตามการเหวี่ยงมือของผู้ถ่าย สั่นไปตามจังหวะการเดินของผู้ที่ถือ แสงอาจจะมืดไปบ้าง หรือไม่ก็จ้าเกินไป . . และไม่ผิด หากจะมองว่า Cloverfield ก็คือคลิปวิดีโอขนาดยักษ์ที่เอามาฉายขึ้นจอใหญ่ . .

+เทคนิคการนำเสนอแบบนี้ บางคนอาจจะมองว่าเป็นวิธีการใหม่ แต่ครั้งหนึ่ง หนังเล็กๆอย่าง Blair Witch Project ก็เคยนำมาใช้ และได้ผลจนประสบความสำเร็จทางด้านรายรับมาแล้ว แต่คงไม่ใช่เพียงเพราะตัวหนังเพียงอย่างเดียวที่ทำงาน หากต้องอาศัยการโปรโมทที่พิเศษและแปลกไปกว่าการทำโปร
โมทหนังแอ็คชั่น หรือหนังที่นำเสนอออกมาแบบทั่วๆไป . .

+และ Blair Witch Project ก็นำสื่อใหม่ (ในตอนนั้น) อย่างอินเตอร์เน็ทมาใช้อย่างได้ผล ด้วยการสร้างเรื่องราวของกลุ่มหนุ่มสาวที่หายเข้าไปในป่า ที่เชื่อกันว่ามีแม่มดอาศัยอยู่มาเป็นประเด็น แล้วค่อยๆหย่อนเรื่องลงไปทีละนิดๆ เช่น พบรถของพวกเขา ตามมาด้วยพบกระเป๋า และในท้ายที่สุด พบวิดีโอที่พวกเขาถ่ายเอาไว้ ซึ่งก็จะได้ชมกันเป็นหนัง Blair Witch Project ในเวลาต่อมา . .


+ขณะที่ Blair Witch Project คือผลตอบรับของการใช้อินเตอร์ที่คุ้มค่าและใช้เป็น . . สำหรับ Cloverfield เองก็น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายด้วยเหมือนกัน ด้วยการอัพโหลดคลิปต่างๆไปบนอินเตอร์เน็ท เช่นในเว็ปไซต์ยูทู้บ รวมไปจนถึงบันทึกส่วนตัวของตัวละครในเรื่องตามบล็อกสเปซต่างๆ แล้วนำมาใช้ในการ
โปรโมทภาพยนตร์ . .

+และมองกันดีดีกับเนื้อหาของ Cloverfield ย่อมยากและหินกว่า Blair Witch Project ไปอีกขั้น เพราะหนังเล่นกับเรื่องราวที่ใหญ่กว่า และมีความไม่น่าเชื่อถือของคนส่วนใหญ่มากกว่า เพราะฉะนั้นหากจะหันมาเล่นมุขเดิมๆ ว่านี่คือเรื่องจริงหรือเปล่า? ก็คงจะไม่ได้ เพราะใครๆก็ย่อมรู้กันดีอยู่ว่านี่คือเรื่องแต่ง . .


+แต่เจเจ อบรามส์ และ แม็ทท์ รีฟส์ ก็หาทางออกให้ตัวเองได้สำเร็จด้วยการตั้งปริศนากับคนดูว่า ใคร? อะไร? ตัวอะไร? และหน้าตายังไง? ที่มาบุกนิวยอร์คจนราบเป็นหน้ากลองอย่างที่เห็น โดยค่อยๆหยอดคลิปต่างๆ ทั้งในรูปแบบของหนังตัวอย่าง และคลิปวิดีโอร่วมต่างๆนานาออกมา เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย และกระตุ้นความอยากรู้ให้กับคนดูมากที่สุด ซึ่งจะได้ผลหรือไม่นั้น รายได้ของหนังก็เป็นตัวบอกได้เป็นอย่างดีแล้ว . .

+และกับตัวเรื่องราวทั้งหมด ถือว่า Cloverfield ทำได้ดีในระดับหนึ่ง หนังมีเรื่องมีราว มีความน่าติดตาม มีจุดไคลแม็กซ์ และความน่าตื่นเต้นชวนลุ้นอยู่ในตัว และยังสามารถเล่าเรื่องด้วยภาพและเหตุการณ์ได้ดีมากกว่าจะใช้แค่คำพูด หรือการแสดงออกของนักแสดงเพียงอย่างเดียว . .


+Cloverfield ทำได้สำเร็จ และทำได้ดี หากสามารถละความคุ้นเคย และชินตากับหนังในรูปแบบเดิมๆที่เคยดูๆกันมา และสอบผ่านกับการทำให้ผู้ชมทนดูภาพที่วูบๆ ไหวๆ ไปทั้งเรื่องได้ . . หากไม่ปิดใจกันจนเกินไป จะพบว่านี่คือหนังที่เล่าเรื่องในอีกรูปแบบสไตล์หนึ่ง ซึ่งทำได้ไม่ง่าย สำหรับการที่จะทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วมไปได้ หากแต่ Cloverfield ทำได้ ถึงแม้จะไม่มาก แต่อย่างน้อยก็ในระดับหนึ่ง . . ซึ่งตรงนี้คงต้องยกความชอบให้กับบทหนังของ
ก็อด ดาร์ด ที่สามารถสานต่อเหตุการณ์ทุกอย่างให้ร้อยติดออกมาเป็นเรื่องเป็นราวได้ . .


+แต่ Cloverfield เองก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดพลาด อย่างน้อยหนังก็ขาดความน่าเชื่อถือในแง่ของการพยายามเอาตัวรอดของตัวละคร รวมไปจนถึงความ "อึด" ของพวกเขา ที่ออกจะดูเกินจริงไปสักหน่อย เพราะกับความพยายามที่จะทำให้หนังเรื่องนี้ดูเหมือนเป็นเรื่อง "จริง" เพราะฉะนั้นความน่าเชื่อถือ ความสมจริงสมจังในแบบของคนจริงๆ มันก็น่าจะต้องมี . .


+ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเบ็ธ กับบ็อบ ที่มีให้กันอย่างมากมาย และมีน้ำหนักมากพอจนทำให้อีกฝ่ายต้องตามฝ่าดงสัตว์ประหลาดเข้าไปช่วยให้ได้นั้น หนังเหมือนจะไม่ได้ปูปูมหลังอะไรไว้ แต่หากดูดีดี จะเห็นว่า "มี" และค่อนข้าง "ชัดเจน" รวมถึงมีน้ำหนักมากพอ แล้วกับการที่หนังสามารถขมวดจุดจบของสถานการณ์ 2 อย่าง มาไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัวพอดิบพอดี ก็ยิ่งทำให้หนังชัดเจนมากขึ้นไปอีกในระดับของส่วนความโรแมนติค ซึ่งก็ยิ่งช่วยให้หนังมีมิติที่ลึกขึ้นในอีกขั้นหนึ่ง . .


+หากถามถึงสัตว์ประหลาด เรื่องราวที่มาที่ไป และปูมหลังของมัน . . ก็อย่างที่บอกไว้ข้างต้น ว่าหนังเป็นมุมมองของผู้ประสบเหตุ . . เพราะฉะนั้นหากอยากรู้เรื่องราวในส่วนนั้น ก็คงต้องรอหนังที่สร้างจากมุมมองของสัตว์ประหลาดดู . .

+หลายๆ คนอาจจะบอกว่าหนังไม่เท่าไหร่ แต่หากว่ากันจริงๆแล้ว Cloverfield อาจไม่ได้เป็นแค่หนัง หากยังเป็นมากกว่านั้น นี่คือการใช้ "สื่อและการตลาด" ที่ชาญฉลาดมานำ เพื่อช่วยในการขายภาพยนตร์ที่มีสไตล์การเล่าเรื่องที่ต่างออกไปจากภาพยนตร์ใน
ท้องตลาดทั่วไป แล้วก็ไม่ผิด ถ้าจะมองว่า Cloverfield ก็คือการขาย "ไอเดีย" ที่สร้างสรรค์นั่นเอง . .


+ถือเป็นหนังสัตว์แนวสัตว์ประหลาดถล่มเมือง ที่ดูเก๋ , แปลกและแหวกแนวที่สุด ตั้งแต่เคยมีมา . . ถึงจะดูเวียนหัวไปบ้างกับวิธีนำเสนอ แต่ด้วยความที่หนังมีดีอยู่ในตัว มันก็น่าคุ้มค่าที่จะลองหยิบมาดูใช่มั๊ยคะ . . โดยเฉพาะกับบรรดาแฟนหนังสัตว์ประหลาดด้วยแล้ว Cloverfield คือหนังที่ต้องดู และพลาดไม่ได้ทุกประการเลยค่ะ . .

+ให้ 3 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) 4412144b.gif 967339c1.gif

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1464.html ค่ะ


QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ yoyo_55.gifเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ+

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

- -> ไปเจาะลึกความลับ CLOVERFIELD กันต่อที่โพสต์ 6 จ้า

Edited by rbgel, 07 January 2010 - 08:53 AM.


#2 Brutal-Method

    เซียนเกม

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 6439 posts
  • Gender:Male

Posted 20 May 2008 - 06:29 PM

รีวิวได้ดียั่งกะมืออาชืพ 04a97f13.gif

#3 ETF

    นักเล่นเกมชั้นครู

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2459 posts
  • Gender:Male

Posted 21 May 2008 - 02:06 AM

ขอบคุณ สำหรับ รีวิวนะครับ
พอดีผมเพิ่งเห็น ว่า dgo มีห้องนี้อยู่ด้วย :ah
แล้วเห็น คุณ rbgel รีวิว ไว้หลายๆ เรื่อง
ขอขอบคุณแทน ทุกคน ด้วยนะคับจากใจจริง baa60776.gif:
สำหรับความมีน้ำใจ
อย่าเพิ่งเหนื่อยก่อนนะครับ
ผมจะติดตามอ่าน
เป็นกำลังใจให้นะครับ


967339c1.gif

Edited by basturk, 21 May 2008 - 01:44 PM.


#4 ~BusteR~

    You are not alone.

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3721 posts
  • Gender:Male
  • Interests:DGO BATTLE SYSTEM

Posted 31 May 2008 - 01:40 PM

สุดยอดจริงๆ ครับ สำหรับหนังเรื่องนี้ พึ่งได้ดูเมื่อวานนี้(30/05-08)
+เป็นหนังเรื่องที่ผมนั่งดูตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง คือมันมีคำถามในใจอยู่ตลอด แล้วก็ลุ้นไปกับเนื้อเรื่องด้วย
+ตัวหนังเหมือนทำให้ผมกำลังอยู่ในเหตุการณ์นั้นๆ ด้วยเลย คือ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แผ่นดินไหว หรือก่อการร้าย ฯลฯ
+พอเห็นเค้าหนี กันวุ่นวาย ตึกอาคารต่างๆ ระเบิดกันตูมตาม แล้วเราจะทำยังไง จะหนี ไปไหนดี มันเกิดบ้าอะไรกันฟะ...!!


=พอดูจบแล้ว ก็ต้องมานั่งคิดอีกหลายเรื่อง เช่น
1. สองคนนั่นมันจะรอดหรือเปล่าหว่า หลังจากนั้นจะเป็นยังไงกันบ้าง จะทำอะไร แล้วจะไปไหน(ถ้ารอด..)
2. บทสรุปของสัตว์ประหลาด ตัวนั้นจะเป็นยังไง มันอมตะหรือเปล่า หรือจะต้องใช้อะไรฆ่ามัน......
3. ตอนนี้ หนังสร้างออกมาให้เราดูแค่มุมมองเดียว คือ คนกลุ่มๆ หนึ่งเท่านั้น ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย คือได้แต่หนี หนี แล้วก็
หนี ทีนี้ ลองคิดอีกมุมหนึ่ง ถ้าตัวดำเนินเรื่อง เป็นฝ่ายทหารบ้างล่ะ (ซึ่งดูๆ แล้ว ตัวหนังก็จะเหมือนจะเฉลยมานิดๆ เป็นนัยๆ)
ซึ่งการดำเนินเรื่องของทางฝ่ายทหารนี้ น่าจะทำให้เรารู้เรื่องเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดตัวนี้ มากกว่าที่เป็นอยู่นะครับ

*ที่จริงมีอีกเยอะแยะ มากมายจริงๆ ครับ ผมไม่เคยได้สัมผัส หนังแบบนี้มานานมากจริงๆ ครับ หนังที่ดูแล้วเก็บเอาไปคิด
แบบเตลิดเปิดเปิงได้ถึงเพียงนี้ สุดยอดครับ

ปล. ผมให้ 10 ดาวครึ่งเลยครับ จัดไป... b6b25dc6.gif

#5 The Fool

    LaW GaRDeN

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 5362 posts
  • Gender:Male

Posted 08 July 2008 - 09:31 PM

ผมว่าสองคนนั้นตายแบบไม่คิดต่อเลยอะว่ารอด แต่เรื่องนี้ผมชอบในการนำเสนอมากและตื่นเต้นไปได้ตลอด

#6 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 25 September 2008 - 11:06 PM

เจาะลึกความลับ CLOVERFIELD!!

-ที่คุณไม่รู้มาก่อนในชีวิต-




+ภาพยนตร์ CLOVERFIELD ของค่าย พาราเมาต์ ได้ทำลายสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศหนังเปิดตัวเดือนมกราคมสูงสุดเท่าที่เคยมีมา หลังจากกวาดรายได้ไปถึง 46 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงสุดสัปดาห์ยาวของอเมริกาเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว และปัจจุบันก็กวาดเงินทั่วโลกไปถึง 151 ล้านเหรียญ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะหนังสัตว์ประหลาดที่อำนวยการสร้างโดย เจ.เจ. อับรัมส์ อาจเป็นหนังที่แฟนๆ จดจ่อรอดูมากที่สุดที่ออกฉายในเดือนที่รู้กันว่าให้ผลตอบแทนในบ็อกซ์ออฟฟิศ ไม่ดีก็ว่าได้ แต่ที่น่าประหลาดใจ คือหนังเรื่องนี้ใช้งบประมาณสร้างเพียง 25 ล้านเหรียญเท่านั้น ซึ่งยังไม่นับเงินทั้งหมดที่หมดไปกับแคมเปญการตลาดแบบไวรัสที่เป็นที่รู้จัก กันไปทั่วบนอินเทอร์เน็ต


+โดยแคมเปญดังกล่าวนับว่าเป็นอีกด้านหนึ่งของหนังที่ประสบความสำเร็จ แฟนๆ ในอเมริกาพูดได้ว่าทั้งหมดนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ของวันที่ 4 กรกฎาคม ปี 2007 ซึ่งตัวอย่างหนังไม่ระบุชื่อได้ฉายเป็นครั้งแรก ก่อนหน้าการชม TRANSFORMER ตัวอย่างหนังเรียกน้ำย่อยตัวนี้แสดงภาพของกลุ่มเพื่อนในงานปาร์ตี้อำลาร็อบ เพื่อนของพวกเขาที่จัดขึ้นอย่างลับๆ ก่อนที่วันรุ่งขึ้นร็อบจะเดินทางไปทำงานใหม่ที่ญี่ปุ่น แต่แล้วอยู่ดีๆ ท่ามกลางความสนุกสนานเฮฮา ตึกก็เกิดสั่นไหวด้วยความรู้สึกราวกับแผ่นดินไหว พอบรรดาคนที่ร่วมงานลงไปถึงถนนพวกเขาก็ต้องเจอกับศีรษะของเทพีเสรีภาพกำลังลอยมา


+ตรงนี้เองที่ทำให้ทุกคนเกิดความสนใจ ในเมื่อตัวทีเซอร์ไม่ได้ระบุชื่อ หนังเรื่องนี้กลายเป็นที่รู้จักของบรรดานักท่องเน็ตที่อยากรู้ว่า ''หนังเรื่องนี้คืออะไร'' ในชื่อง่ายๆ ว่า CLOVERFIELD ไม่นานหลังจากนั้นเว็บไซต์ไวรัสก็เริ่มเปิดตัวขึ้น รวมถึง http://www.1-18-08.com/ ที่กลายมาเป็นเว็บไซต์หนังอย่างเป็นทางการในภายหลัง


+ส่วนเว็บอื่นก็ยังมีความลับอื่นอีก ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นที่ทราบกันว่าอาจถือกุญแจสำคัญเกี่ยวกับต้นกำเนิดของสัตว์ประหลาด CLOVERFIELD ได้แก่ http://www.slusho.jp/ บริษัทญี่ปุ่นที่แต่งขึ้นซึ่งผลิต Slusho เครื่องดื่มแช่แข็ง (เคยปรากฏในโปรเจกต์อื่นของอับรัมส์มาแล้ว), http://www.tagruato.jp/, เว็บของ Tagruato บริษัทขุดเจาะใต้ทะเลลึกปลอม และ http://www.tidowave.com/ ของ T.I.D.O. WAVE องค์กรรักษาสิ่งแวดล้อม ที่คอยต่อต้าน Tagruato เว็บ CLOVERFIELD Clues ระบุว่า ไซต์ของ T.I.D.O. เคยโดนฝ่ายกิจการภายในของอเมริกาปิด เพราะพวกเขาถูกกล่าวหาว่าได้ทำลาย Chuai สถานีขุดเจาะน้ำมันของ Tagruato และ ทำร้าย กานู โยชิดะ ซีอีโอของบริษัท รวมทั้งล่าสุดยังมีเว็บ http://www.jamieandteddy.com/ ด้วย


+แล้วเว็บไวรัสพวกนี้เกี่ยวกับ CLOVERFIELD ซึ่งเกิดขึ้นที่ นิวยอร์ก ยังไง? ร็อบ ตัวละครหลัก บอกในบล็อก MySpace ของเขา (http://blog.myspace.com/robbyhawkins) เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อนว่า งานที่เขากำลังจะไปทำที่ญี่ปุ่น คือตำแหน่งรองประธานฝ่ายการตลาดและการส่งเสริมการขาย Slusho แล้วบังเอิญว่า Slusho ก็มี Tagruato เป็นเจ้าของ และ โยชิดะ ก็วางแผนเดินทางไปนิวยอร์ก พบกับ BevVo ผู้ผลิตน้ำเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเจรจาเรื่องการจัดจำหน่าย Slusho ผ่านทางน้ำสาธารณะที่มีอยู่แล้ว และไปเยี่ยมชมโรงงานผลิต Slusho ในอนาคตที่สหรัฐฯ

+T.I.D.O. ต่อต้าน Tagruato เพราะพวกเขาอ้างว่า การวิจัย และ ทดลองของ Tagruato ทำลายมหาสมุทรของเรา ซึ่งเป็นสาเหตุของแผนการแบบกองโจรของ T.I.D.O.


+งั้นทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับสัตว์ประหลาดยังไง? การ์ตูนญี่ปุ่นออนไลน์ที่เพิ่งออกมาเมื่อเดือนก่อน (ว่ากันว่าเป็นชุดแรกจากทั้งหมด 4 ชุด) ติดตามเรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่น กับแม่ของเขา ที่มีความเกี่ยวข้องกับสัตว์ประหลาด พร้อมกันนั้นเราก็ได้เห็นภาพเรือขนสินค้าในทะเลกำลังลากบางอย่างที่ล่ามโซ่ อยู่ด้านหลังเรือ เราไม่เห็นชัดๆ ว่าอะไรกำลังถูกดึงอยู่จนกระทั่งมาถึงภาพในช่องสุดท้าย ที่ตาคู่หนึ่งปรากฏขึ้นบนพื้นน้ำ และเรือก็มีโลโก้ Tagruato อยู่ด้วย


+ดังนั้นเรือลำดังกล่าวก็อาจดึงสัตว์ประหลาด CLOVERFIELD อยู่ หรืออาจเป็นแม่ของมัน ซึ่งตามบันทึกงานสร้างของหนัง อับรัมส์อ้างว่า Clover เป็นทารกอยู่ในทะเลมานานหลายพันปี ซึ่งตัวหนังบอกเป็นนัยว่าสัตว์ประหลาดที่สับสน และ ตระหนกนี้ ขึ้นมาจากท่าเรือนิวยอร์ก (เป้าหมายแรกของมันจึงเป็นเทพีเสรีภาพ) ซึ่งมันอาจทำให้เรือบรรทุกน้ำมันคว่ำ หรือ โดนถังน้ำที่คว่ำอยู่รบกวน โดย CLOVERFIELD News ระบุว่าเรือบรรทุกน้ำมันก็มีโลโก้ Tagruato อยู่ด้วย


+ตามคำบอกเล่าของเว็บ FSR แม็ตต์ รีฟส์ ผู้กำกับฯ เปิดเผยว่าฉากสุดท้ายที่ ร็อบ และ เบ็ธ อยู่บนชิงช้าสวรรค์ ที่ โคนี่ย์ ไอส์แลนด์ 1 เดือนก่อนจะโดนสัตว์ประหลาดบุกอาละวาด เราจะมองเห็นอะไรบางอย่างตกลงในทะเลที่อยู่ด้านหลังพวกเขา (เบาะแสคือคำพูดที่ร็อบบอกว่า ''ดูท้องฟ้าสิเพื่อน'') จนมีการคาดเดาว่า อาจเป็นสัตว์ประหลาดตกลงไปในน้ำ หรือ กำลังเล่นน้ำอยู่ใกล้ๆ (ดูภาพที่มุมล่างด้านขวาจะเห็นน้ำสาดกระเด็น ในหนังนะคะรอดูแผ่นกันเอา)

+แต่ถ้าสัตว์ประหลาดลงไปอยู่ในน้ำมาหลายพันปี แล้วมันจะตกลงมาจากท้องฟ้าได้ยังไงล่ะ? จึงมีอีกทฤษฎีที่บอกว่าสิ่งที่ตกลงไปในน้ำคือ ชิ้นส่วนที่เสียหายที่เพิ่งตกลงมาจากดาวเทียม ChimpanzIII ของรัฐบาลญี่ปุ่น ทำไมล่ะ? เพราะเว็บไซต์ Tagruato บังเอิญระบุว่า นักวิทยาศาสตร์ของพวกเขากำลังตามหาชิ้นส่วนที่หายไปในมหาสมุทรแอตแลนติก บางทีชิ้นส่วนดาวเทียมที่ตกลงไปอาจไปกวนเจ้าสัตว์ประหลาดที่กำลังหลับอยู่


+นอกจากนี้เครดิตหนังตอนจบยังระบุด้วยว่าส่วนผสมของ Slusho หาได้ในพื้นที่ลึกของมหาสมุทรที่ดาวเทียมตกลงไป และขณะที่กำลังค้นหาดาวเทียม และส่วนผสม Tagruato ก็ไปปลุกสัตว์ประหลาด CLOVERFIELD เข้า เห็นได้ชัดว่า ส่วนผสมหลักของ Slusho มีพลังที่สามารถเปลี่ยนปลาตัวเล็กๆ ให้เป็นปลาวาฬขนาดใหญ่ (ซึ่งอธิบายขนาดของเจ้าสัตว์ประหลาด) และในเมื่อสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกสามารถทนความร้อนได้สูง จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสัตว์ประหลาดถึงไม่ระแคะระคายกับการใช้ระเบิดโจมตีของ พวกทหาร

+ไม่ว่าสาเหตุคืออะไร ตอนนี้สัตว์ประหลาดขนาดเท่าตึกระฟ้า ถูกปลุกขึ้นมาแล้ว และดูเหมือนว่าการโจมตีของทหารก็ทำอะไรไม่ได้ พวกมือสร้างหนังรู้ดีว่าขนาดและความแข็งแรงของสัตว์ประหลาด ทำให้ตัวละครมนุษย์ไม่สามารถเข้าใกล้และต่อสู้กับมันได้ จึงเป็นที่มาของพวกปรสิตที่รูปร่างเหมือนปู ถ้าสัตว์ประหลาดเกิดมาเป็นทารกโดยอาจมีปรสิตขนาดเล็กมากเกาะอยู่ มันก็สมเหตุสมผล

+ถ้าสัตว์ประหลาดโตขึ้นมามีขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก พวกปรสิตก็จะตัวโตขึ้นเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าพอเจ้าสัตว์ประหลาดเข้ามาโจมตีเมือง มันสามารถสลัดพวกสัตว์รบกวนจากร่างกายของมันด้วยการถูหลังกับตึก จึงทำให้ปรสิตที่ชั่วร้ายและวิ่งเร็วเป็นอิสระที่จะทำลายล้างประชาชนของ เมืองนิวยอร์ก


+และตรงนี้เองที่เรามาถึงส่วนที่ไม่เข้าใจเลย เราอาจรู้ว่าสัตว์ประหลาดแค่กลัวและหิวโหย มันจึงกินมนุษย์ตัวเล็กๆ แต่ที่เราไม่รู้คือปรสิต ออกมาทำอะไร โดยปกติปรสิตจะเกาะติดและพึ่งพาสัตว์ที่ใหญ่กว่า ในหนังปรสิตนั้นเล็กกว่ามนุษย์ และโจมตีด้วยการกัด บางทีมันอาจเป็นปรสิตดูดเลือด? แต่ก็ไม่มีหลักฐานว่ามันเข้าไปในร่างกายมนุษย์ และยึดครองสัตว์ที่เป็นที่อาศัยใหม่ของมัน

+ไม่ว่าอย่างไร ไม่มีการอธิบายผลกระทบต่อมนุษย์จากการโจมตีของมัน หลังจากที่ มาร์เลน่า 1 ในตัวละครหลักโดนกัด เธอก็เริ่มมีเลือดออกมาจากตา และจากนั้นก็ดูเหมือนว่าท้องของเธอระเบิด (ผู้ชมไม่ได้เห็นฉากนี้ใกล้ๆ
เพราะมาร์เลน่าอยู่ข้างหลังผ้าใบตอนท้องระเบิด เห็นแต่เงาร่างกายเธอเท่านั้น)


+แล้วทำไมเราถึงไม่เห็นเลือด? เผื่อว่าคุณยังไม่รู้ CLOVERFIELD เป็นการถ่ายวีดิโอจากมุมมองของ ฮัด เพื่อนซี้ของ ร็อบ ที่ได้รับหน้าที่ให้บันทึกงานปาร์ตี้อำลาของ ร็อบ ฮัด เป็นคนถือกล้องวีดิโอถ่ายภาพศีรษะเทพีเสรีภาพตกลงบนถนนหน้าตึกที่พวกเขาจัด งาน ตั้งแต่ตรงนั้น ฮัด และ ร็อบ รวมทั้ง มาร์เลน่า, ลิลลี่ และ เจสัน เพื่อนพวกเขา พยายามข้ามสะพานบรู๊คลิน ระหว่างอพยพคนออกจากเมืองนิวยอร์ก หลังจากนั้น ร็อบ ก็ได้รับโทรศัพท์จาก เบ็ธ ผู้หญิงที่เขารัก ซึ่งได้รับบาดเจ็บ และติดอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ของเธอในย่านใจกลางเมือง ซึ่งตรงข้ามกับเส้นทางอพยพ

+ตอนนั้นเองที่ทั้งกลุ่มตัดสินใจกลับหลังหันเพื่อไปช่วย เบ็ธ การเดินทางของพวกเขา ซึ่งมีเหตุการณ์สัตว์ประหลาดอาละวาดกระจายอยู่เต็มไปหมด ถูกเก็บภาพด้วยฝีมือการถ่ายวีดิโอของ ฮัด จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมบางแง่มุมของหนัง ผู้ชมต้องใช้จินตนาการนึกเอาเอง

+แล้ว โคนี่ย์ ไอส์แลนด์ เข้ามาเกี่ยวอะไร? เจสัน น้องชายของ ร็อบ เอากล้องวีดิโอของเขา ไปใช้ที่งานปาร์ตี้ แต่กลับไม่เคยได้ใส่เทปม้วนใหม่ ฮัด ก็เลยอัดทับวีดิโอที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านี้ 1 เดือน ตอนที่ ร็อบ และ เบ็ธ ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน (ร็อบ รัก เบ็ธ มาตลอด แต่พวกเขาก็บอกแค่ว่าเป็นเพื่อนกันจนกระทั่งถึงวันนั้นที่พวกเขาหลับนอนด้วย กัน โดยที่เพื่อนๆ ไม่รู้ ก่อนที่วันต่อมาทั้งหมดนี้จะไปเที่ยวกันที่ โคนี่ย์ ไอส์แลนด์) ตรงนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฟุตเทจเก่าของ ร็อบ และ เบ็ธ ถึงโผล่ขึ้นมาเป็นครั้งคราวบนจอ และทำไมหนังถึงจบลงตอนที่ทั้งคู่อยู่บนชิงช้าสวรรค์


+แล้วเกิดอะไรขึ้นกับสัตว์ประหลาด ปรสิต และเมืองทั้งเมืองล่ะ? คนที่ได้ไปดูหนังบอกว่า ถ้าอยู่รอดูเครดิตตอนหนังจบ จะได้ยินเสียงใครสักคนพูดว่า ''ช่วยด้วย'' ซึ่งอาจเป็น ร็อบ และ เบ็ธ ที่ตอนจบติดอยู่ใต้สะพานในเซ็นทรัล พาร์ค หลังจากที่ทหารทิ้งระเบิด อาจยังมีชีวิตอยู่ แล้วยังมีการพูดกันอีกว่า ถ้าคุณเล่นเสียงย้อนหลัง คุณจะได้ยินใครบางคนพูดว่า ''มันยังมีชีวิตอยู่'' ซึ่งอาจหมายความว่า สัตว์ประหลาด CLOVERFIELD ยังไม่ตาย

+ในส่วนของมนุษย์นั้น ถึงร็อบ และเบ็ธ จะไม่รอด แต่ลิลลี่นั้นก็ได้อพยพไปด้วยเฮลิคอปเตอร์ของทหาร และครั้งสุดท้ายที่เราเห็น เธอยังมีชีวิตอยู่ . . เรารู้จากตอนต้นเรื่องว่าเหตุผลที่เรากำลังดูหนังเรื่องนี้อยู่ เพราะสักพักหลังการโจมตี เทปนี้ได้ถูกเก็บกู้ขึ้นมา แต่เราก็รู้ด้วยว่าเช้าหลังจากที่โดนสัตว์ประหลาดบุก ทหารกำลังจะทำลายนิวยอร์ก ในกรณีที่พวกเขาปราบมันไม่ได้ ในเมื่อสะพานใน เซ็นทรัล พาร์ค โดนทหารระเบิดเช้าวันนั้น ก็อาจเข้าใจได้ว่า แมนฮัตตัน ถูกทำลายไปแล้ว หรือบางทีในเมื่อสัตว์ประหลาดแสดงตัวให้เห็นอย่างโจ่งแจ้งในเซ็นทรัล ปาร์ค พวกทหารก็อาจจะฆ่ามันได้ และแม้แต่ช่วยชีวิตร็อบและเบ็ธ ได้ด้วย


+หากพิจารณาจากความอยู่รอดปลอดภัยของเทป และภาพใหม่ๆ ที่โพสต์อยู่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของหนัง เจ้าสัตว์ประหลาดก็อาจพ่ายแพ้หรือเลิกโจมตี และออกจากเมืองไป รูปหนึ่งจากเว็บดังกล่าวเป็นภาพผู้ชายอยู่ในเรือเล็กที่ลอยอยู่บนน้ำทะเลสี เลือด ส่วนอีกรูปเป็นซากปลาวาฬหรือสัตว์ทะเลอย่างอื่นที่โดนกัดจนเลือดอาบ

+แล้วการที่หนังประสบความสำเร็จขนาดนี้ จะทำให้มีภาคต่อตามมาหรือเปล่า? เว็บ B-D ได้คุยกับ แม็ตต์ รีฟส์ ผู้กำกับฯ ซึ่งกล่าวว่า ''มีแต่เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ ตอนเราอยู่กองถ่าย เราคุยกันถึงความเป็นไปได้ และทิศทางว่าภาคต่อจะดำเนินต่อไปอย่างไร ความสนุกของหนังเรื่องนี้คือ นี่อาจไม่ใช่หนังเรื่องเดียวที่ถ่ายทำในคืนนั้นเลย อาจมีหนังอีกเรื่อง! ในยุคนี้และผู้คนสมัยนี้ที่บันทึกวีดิโอชีวิตของพวกเขา ลงใน iPhone และแฮนดี้แคม แล้วอัพโหลดขึ้น YouTube พอคิดแบบนั้นแล้วมันก็น่าตื่นเต้นจริงๆ''

+ดังนั้น ถ้าจะมีภาคต่อ หนังก็อาจจะบันทึกเหตุการณ์เดียวกัน แต่ผ่านเลนส์จากมุมมองของอีกคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดอยู่แล้วว่านี่ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เราได้ดู CLOVERFIELD!!!



------------------------------------

SLUSHO คืออะไร? มีความเป็นมาอย่างไร? และเกี่ยวข้องยังไงกับหนัง CLOVERFIELD

-SLUSHO แค่หกขวดไม่เพียงพอสำหรับคุณหรอก!!-



Note - ประวัติจากเว็บ SLUSHO ผู้สนับสนุน CLOVERFIELD

+ในเว็บ http://www.slusho.jp/ เค้ากล่าวถึงประวัติของ SLUSHO ว่า ผู้ก่อตั้งคือ Noriko Yoshida เป็นคนที่ชอบดื่มเครื่องดื่มมาก จนเพื่อนร่วมชั้นให้ฉายาว่า "ปลาวาฬน้อย" (Smallest Whale) แล้วเธอก็ชอบที่จะทำการทดลองผสมผลไม้, ผัก, ส่วนประกอบอื่น ๆ เพื่อให้ได้รสชาติใหม่ๆ . . .

+จนวันนึง เธอขึ้นเรือออกทะเลไป เพื่อหาส่วนผสมใหม่ ๆ แล้วก็หายสาบสูญไป ลูกของเธอ ชื่อ Ganu Yoshida ก็ไม่อยากสืบทอดกิจการน้ำผลไม้ (!?) ของเธอ เนื่องจากชอบงานแนววิทยาศาสตร์ จึงให้ญาติดูแลกิจการแทน แล้วตัวเองก็ออกไปทำงานด้านวิทยาศาสตร์ จนเป็นผู้ค้นพบหลายอย่างในมหาสมุทรเป็นที่รู้จักไปทั่ว . . .


+วันนึง Ganu ได้ออกไปที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน แล้วพบกับสารประหลาดที่ไม่เคยพบมาก่อน นักวิทยาศาสตร์ต่างพากันคิดว่าจะทำยังไงกับมัน แล้วคืนนั้น Ganu ก็หลับฝันไปว่า ตนเองเป็นปลาตัวน้อย แล้วมีปลาวาฬมาบอกให้ลองกินสารนั้น เค้าก็ลองกิน (ในฝัน) แล้วพบว่าตัวเองกลายเป็นปลาวาฬยักษ์ไป
เค้าตื่นขึ้นมาทั้งน้ำตา แล้วรู้ได้ว่า ส่วนประกอบที่ Noriko แม่ของเขาตามหานั้น เค้าได้พบแล้ว . . .

"Slusho!! You can’t drink just six"

+ดังนั้นเค้าจึงตัดสินใจที่จะทำให้ฝันของแม่เป็นจริง ด้วยการเอาสารนั้นมาทำเครื่องดื่มที่มีรสชาติดีที่สุด ที่ไม่เหมือนรสชาติใดในโลก!! เนื่องจากสารนั้นพบในใต้ทะเลลึกที่มีแรงกดมหาศาล และอุณหภูมิที่ต่ำมาก . . Ganu รู้ว่าเค้าต้องทำเครื่องดื่มออกมาที่อุณหภูมิเกือบถึงจุดเยือกแข็งเพื่อรักษาความสด
ของสารนั้น . . จากนั้น เค้าจึงกลับไปร่วมมือกับญาติของเขา แล้วนำความรู้ในการผลิตเครื่องดื่มของบริษัทของแม่เขา เข้ากับส่วนประกอบใหม่ จนกลายเป็น SLUSHO!! ในที่สุด

+ทุกคนที่ดื่ม SLUSHO เหมือนได้ลิ้มรสความฝันของ Noriko และกลายเป็นปลาวาฬน้อยเหมือน Noriko เพราะว่าคุณจะต้องการดื่ม SLUSHO เป็นจำนวนมหาศาล . . .




------------------------------------


+ลิ้งค์ไปเว็บบล็อกของตัวละครแต่ละคน ในหนัง CLOVERFIELD ค่ะ+

Note - เป็นบล็อกของตัวละครในหนังนะคะ ไม่ใช่ของนักแสดงผู้รับบท ทีมงานเค้าทำเหมือนกับว่า มีคนเหล่านี้อยู่จริง เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริงค่ะ

+ร็อบ ฮอว์คกิ้น - พระเอกผู้จริงใจ+
http://www.myspace.com/robbyhawkins

+เบ็ธ - นางเอกหน้าคม+
http://www.myspace.com/beth_mcintyre

+ฮัด - ตากล้องใจเด็ด+
http://www.myspace.com/hudsonplatt

+ลิลลี่ - หลังจากนี้เค้าอัพเดทบล็อกของลิลลี่ ก็แสดงว่าลิลลี่รอด+
http://www.myspace.com/lily_ford

+มาเลน่า - สาวติสต์ ขวัญใจฮัดที่ตายอย่างน่าสงสาร+
http://www.myspace.com/marlenadiamond

+เจมี่ - เป็นคนที่นอนหลับบนโซฟา+
http://www.myspace.com/jamielascano


QUOTE
+ข้อมูลเจาะลึกความลับ CLOVERFIELD จากเว็ปไซต์ http://www.kratookfilm.com/wb/viewtopic.php?t=21508 + http://www.kratookfilm.com/wb/viewtopic.php?t=21510 และ http://www.kratookfilm.com/wb/viewtopic.php?t=21533 ค่ะ (อ้างอิงข้อมูลจาก SiamDara มาอีกทีหนึ่ง)

+ลิ้งก์เว็ปบล็อกของตัวละครในหนัง จากเว็ปไซต์ http://www.kratookfilm.com/wb/viewtopic.php?t=21533 ค่ะ

+ภาพประกอบ Slusho จากเว็ปไซต์ http://www.slusho.jp/media/desktops/d1_slusho_800x600.jpg และ http://blog.ugo.com/images/uploads/slusho_website.jpg ค่ะ

+ภาพสัตว์ประหลาด จากเว็ปไซต์ http://cloverfieldclues.blogspot.com/2008_03_01_archive.html และ http://www.jacklovesyou.com/misc/Cloverfield.jpgค่ะ

Edited by rbgel, 07 January 2010 - 09:26 AM.


#7 Kanyne360

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 1

  • Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPip
  • 855 posts
  • Gender:Male

Posted 28 September 2008 - 10:38 PM

เอิ๊กส์ ข้อมูลละเอียดดีครับ มาช่วยยืนยันว่า ถ้าโดนเจ้าตัวเล็กกัดนี่ ท้องระเบิดจริงๆครับ สังเกตได้จากตอนที่พวกตัวเอกเดินเข้ามาในห้องนั้นมีแล้วมีเตียงเข็นศพผ่านไป จะเห็นได้เลยครับว่าศพนั้น ท้องระเบิดออก ซี่โครงอ้าเห็นๆ คิดว่าจุดจบเพื่อนพระเอกที่โดนกัดก็คงไม่ต่างกันครับ....