`

Jump to content





รีวิวหนัง Hot Fuzz - ฮอท ฟัซ โปลิศโคตรแมน


1 reply to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 10 May 2008 - 02:44 AM

Hot Fuzz - ฮอท ฟัซ โปลิศโคตรแมน


"Big Cops. Small Town. Moderate Violence"

+หนังอังกฤษเล็กๆที่ตั้งใจหยิบหนังแอ็คชั่นอเมริกันมาล้อเลียน คราวนี้หยิบหนังดังเกี่ยวกับตำรวจอย่าง Point Break และ Bad Boys รวมไปจนถึงหนังวัยรุ่นหวีดสยองเช่น I Know What You Did Last Summer และ Scream มาผูกเรื่องและหยอดมุขได้อย่างชวนสนุกน่าติดตาม . . และที่สำคัญ Hot Fuzz ยังคงเอกลักษณ์ของหนังทั้ง 2 แนวเอาไว้ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องราวของมิตรภาพท่ามกลางความแตกต่างระหว่างตำรวจคู่หู และการเผยโฉมฆาตกรตัวจริง ซึ่งมักจะอยู่เหนือความคาดหมายของผู้ชม . .


+ชื่อของผู้กำกับ/เขียนบทอย่าง "เอ็ดการ์ ไร้ท์" และ "ไซม่อน เพ็กก์" (นำแสดง/ร่วมเขียนบท) ไม่น่าที่จะเป็นที่รู้จักในวงกว้างสักเท่าไหร่นัก สำหรับคอหนังบ้านเรา ยกเว้นว่าเป็นคอหนังระดับ "คอจริงๆ" โดยเฉพาะกับคอหนังอังกฤษ เพราะนี่คือผู้กำกับหนังตลกเสียดสีล้อเลียนหนังซอมบี้ชื่อดังอย่าง Shaun Of The Dead ซึ่งออกฉายเมื่อปี 2004 และได้รับคำชมอย่างมากมาย โดยหนึ่งในนั้นก็คือบิดาแห่งหนังซอมบี้อย่าง "จอร์จ เอ โรเมโร่" ด้วย


+หายหน้าไป 3 ปี ไร้ท์และเพ็กก์ 2 คู่หูที่เคยเอาหนังซอมบี้มาล้อได้อย่างสุดมันส์ ก็กลับมาพร้อมกับ Hot Fuzz งานใหม่ที่ล้อบรรดาหนังแอ็คชั่นตำรวจคู่หูได้อย่างสุดแสบไม่แพ้ Shaun Of The Dead เลยทีเดียว . . โดยไร้ท์ทำหน้าที่กำกับ-เขียนบท ส่วนเพ็กก์ทำหน้าที่ร่วมเขียนบทและแสดงนำเหมือนครั้งก่อนหน้า ที่ต่างก็คือเรื่องราวและเป้าหมาย .

+ใน Hot Fuzz เพ็กก์รับบทเป็น "นิโคลัส แองเจิล" เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จัดได้ว่าเป็น "ซูเปอร์ค็อป" ได้อย่างไม่น่าเกลียด เพราะนอกจากจะเป็นนักเรียนตัวอย่างของสก็อทแลนด์ยาร์ดแล้ว แองเจิลก็คือตำรวจที่จัดการกับเรื่องทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว และเป็นเจ้าของสถิติการจับกุมสูงที่สุดของหน่วยงาน และนั่นทำให้เพื่อนๆร่วมงานพากันอิจฉาตาร้อน . .

+แองเจิลได้เลื่อนชั้นเป็นจ่า แต่ก็ถูกย้ายมาประจำยังเมืองเล็กๆไกลปืนเที่ยงอย่างแซนด์ฟอร์ด เจ้าของทำเนียบเมืองในอุดมคติและน่าอยู่ที่สุดของอังกฤษ ที่ไม่มีอาชญากรรมเกิดขึ้นเลยในเมืองนี้ . . เมืองที่มีเจ้าหน้าที่ระวังอาชญากรรมคอยจับตาดูประชาชนในเมืองผ่านทางกล้องวงจรปิด ซึ่งมีอยู่แทบทุกมุมเมือง . .


+แองเจิลได้คู่หูเป็น "แดนนี่" (นิค ฟรอสต์) ลูกชายของสารวัตรบัทเทอร์แมน ผู้ไม่เอาอ่าว เอาทะเลอะไร นอกจากความใฝ่ฝันที่จะได้ลุยกับเหล่าร้ายแบบเดียวกับที่ตัวละครในหนังโปรดของเขา
อย่าง Bad Boys และ Point Break ทำ และการได้มาเข้าคู่กับแองเจิล ก็ทำให้แดนนี่รู้สึกเหมือนได้อยู่ร่วมกับยอดตำรวจในฝัน . .

+แค่อยู่มาได้วันเดียว แองเจิลก็แผลงฤทธิ์ ออกกวาดจับผู้ต้องหาได้เพียบ แต่ก็เป็นเพียงแค่เรื่องคดีเล็กๆอย่าง เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีเข้าผับ หรือคนเมาแล้วขับ รวมไปถึงตามห่านของชาวบ้านที่หายไป . . ขณะที่ชีวิตล้วนเต็มไปด้วยความน่าเบื่อ แองเจิลกลับได้พบความสุขเล็กๆจากหนังแอ็คชั่นของตำรวจคู่หูที่แดนนี่แนะนำให้ดู ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุที่คร่าชีวิตของผู้คนในเมือง ที่เมื่อดูจากหลักฐานและสภาพแวดล้อมต่างๆแล้ว ล้วนบ่งบอกได้ว่านี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ ใครๆก็มองออก เว้นแต่เจ้าหน้าตำรวจ และประชาชนในเมืองแซนด์ฟอร์ดคนอื่นๆ . .


+แน่นอนว่าแองเจิลต้องถูกกันออกจากคดี ส่วนตำรวจเจ้าของคดี ก็รีบสรุปปิดคดีว่านี่ก็แค่อุบัติเหตุธรรมดา แต่
แองเจิลก็พบเงื่อนงำบางอย่าง โดยโยงเหตุการณ์ของผู้เสียชีวิตเข้าหากัน แองเจิลสามารถสาวเข้าไปถึงจอมบงการ แต่ทว่าเรื่องราวซับซ้อนทั้งหมดที่เขาคลี่คลายได้ กลับไม่จบลงง่ายๆ หากเป็นเรื่องง่ายๆที่เขาทำให้กลายเป็นเรื่องซับซ้อนไปต่างหาก . .


+นอกจากจะทำออกมาเป็นหนังล้อเลียน เหมือนอย่างที่เคยทำกับหนังซอมบี้ใน Shaun Of The Dead แล้ว สำหรับ Hot Fuzz ไร้ท์และเพ็กก์ก้าวไปไกลกว่านั้นในส่วนของโครงเรื่องและพล็อต เพราะใช่แค่ว่าจะมานั่งล้อเลียนเสียดสีหนังตำรวจคู่หุทั้งหลายให้แสบๆคันๆเท่านั้น Hot Fuzz ยังมีเนื้อหาของตัวเอง เป็นหนังแอ็คชั่น สืบสวน-สอบสวนที่อยู่ภายในเนื้อหาที่เป็นหนังแอ็คชั่น-เสียดสีอีกทีหนึ่ง ซึ่งในความที่เป็นหนังแอ็คชั่น-สืบสวนของ Hot Fuzz ก็ยังย้อนกลับไปหยอกล้อกับเนื้อหาในหนังแนวสืบสวนทั้งหลาย ที่มักจะมาพร้อมกับปมเงื่อน และแรงจูงใจที่ซับซ้อนของตัวละครที่ก่ออาชญากรรม . .


+มองในส่วนของตัวละคร แคแรคเตอร์ใน Hot Fuzz ก็คือภาพสะท้อนของบรรดาตำรวจฮีโร่ทั้งหลายจากหนังสารพัดเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น จอห์น แม็คเคลน (Die Hard) , มาร์ติน ริกสส์ (Leathal Weapon) ที่มักจะเป็นพวกลุยเดี่ยว ไม่กลัวตาย ไม่สนใจคำว่า "ทีม" หรือกระทั่ง "คู่หู" โดยเฉพาะในฉากสุดท้าย ที่แองเจิ้ลขนอาวุธหนักเกินพิกัดไปลุยกับเหล่าร้าย ก้ทำให้ได้เห็นภาพฮีโร่ตำรวจทั้งหลายในอีกมุมหนึ่ง . .


+ส่วนตัวละครแดนนี่ ก็คือภาพแทนตำรวจมือใหม่ทั้งหลาย ที่ต้องมาจับคู่กับบรรดาพวกเขี้ยวลากดิน ที่เห็นกันจนเจนตาในหนังหลายๆเรื่อง อย่างที่เห็นกันชัดๆก็คือบทของ "อีธาน ฮอว์ค" ใน Training Day" ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว ก็เปลี่ยนตัวเองจากพวกขี้กลัวกลายเป็นผู้กล้ากับเค้าได้เหมือนกัน . .

+และแม้จะเป็นหนังล้อเลียน-เสียดสี แต่สิ่งที่ Hot Fuzz มี ทว่าบรรดาหนังล้อเลียนของฮอลลีวู้ดในช่วงหลังไม่มี นั่นก็คือการให้ความสำคัญกับพล็อตเรื่อง ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ามุขตลกหรือมุขล้อเลียนหนังเรื่องอื่น ไม่ใช่แต่จะเน้นความโปกฮาเป็นหลัก . . ถึงที่สุดแล้ว ท่ามกลางมุขล้อเลียนเรียกเสียงฮา มุขยั่วล้อให้คิดถึงหนังหลายๆ เรื่อง รวมทั้งมุขตลกร้ายและตลกหน้าตาย Hot Fuzz มีความชวนน่าติดตามในแง่ของการคลี่คลายปริศนาของการฆาตกรรมที่จริงจัง ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าหนังต้นแบบแนวหวีดสยองที่มันตั้งใจจะนำมาล้อ แต่ก็ไม่วายจะเติมความโอเวอร์เกินจริงเข้าไป เพื่อไม่ให้หลุดคอนเซ็ปต์ของหนังล้อหนังที่ตั้งใจนำเสนอ . . และอย่าแปลกใจ ที่เมื่อหนังเฉลยทุกอย่างออกมา จะมีคำอุทานประมาณว่า "ขนาดนั้นเชียว" ออกมาจากปาก!!


+ในส่วนของความเป็นหนังแอ็คชั่นหนังตำรวจคู่หู ก็เติมความโอเวอร์เข้าไปเหมือนกัน ทั้งด้านอาวุธ ยุทโธปกรณ์ และคิวบู๊ โดยเฉพาะในฉากไคลแม็กซ์ตอนท้ายเรื่อง ใส่กันเต็มๆ ยิงกันสนั่นหวั่นไหว วินาศสันตะโร ชวนตื่นตาตื่นใจไม่แพ้หนังต้นแบบแม้แต่น้อย . .

+หนังยังแซมมุขเสียดสีล้อเลียนฉากการฆ่า มาให้ได้ยิ้มกันประปราย ไม่ว่าจะเป็นฉากการสังหารจาก The Omen ที่มาทั้งสไตล์การฆ่า และดนตรีประกอบที่ยกมาแบบเป๊ะๆ หรือว่าจากหนังหวีดสยองชุด I Know What You Did . . ขณะที่ตัวละครสมทบอีกหลายๆตัว ก็รู้สึกได้ว่าจงใจสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในมุมเสียดสี ไม่ว่าจะเป็นคู่รักนักแสดงละคร , นักข่าวจอมจุ้น รวมไปถึงประธานกรรมการระวังอาชญากรรมของเมือง และแคแรคเตอร์เจ้าของห้างสรรพสินค้าที่รับบทโดยอดีตบอนด์ "ธิโมธี่ ดัลตัน" . .


+รวมทั้งยังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆให้ได้เก็บมากมายตามสไตล์หนังล้อเลียน ที่มักจะมีแก๊กย่อยๆแทรกไว้ทั่วทั้งเรื่องเต็มไปหมด เก็บได้เยอะ ก็ยิ่งยิ้มได้เยอะ แต่ถ้าไม่เก็ท หรือเข้าไม่ถึง ก็ไม่แปลกที่จะดูเหมือนว่า Hot Fuzz ก็เป็นแค่หนังดูเพลินๆเรื่องหนึ่ง ที่อะไรๆในเรื่องมันดูประหลาดๆ ล้นๆยังไงพิกล เพราะกับมุขต่างๆใน Hot Fuzz ก็ไม่ได้ดูง่ายๆ เห็นกันชัดๆเหมือนหนังตลกล้อเลียนอเมริกันอย่างพวก Scary Movie ที่มีแต่มุขต่อมุข . . ซึ่งคงต้องบอกว่าผู้ชมน่าจะมีแบ็คกราวนด์ หรือคิดตามในสิ่งที่หนังเอามานำเสนอให้ทัน ให้เข้าใจ ถึงจะดูหนังเรื่องนี้ให้สนุกได้ อย่างที่ตัวคนทำก็บรรจงใส่สิ่งละอันพันละน้อยมาให้ . .


+จากความสำเร็จที่ได้รับอย่างต่อเนื่องจาก Shaun Of The Dead มาจนถึง Hot Fuzz ก็คงจะยิ่งตอกย้ำความมั่นใจ จนทำให้เอ็ดการ์ ไร้ท์ และไซม่อน เพ็กก์ สร้างหนังล้อเลียนตามออกมาอีกในอนาคต ส่วนจะหยิบแนวไหนมาสร้างนั้น คงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ . .

+ให้ 3 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) 4412144b.gif 967339c1.gif

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://movies.about.com/library/weekly/blhotfuzzpicsa.htm ค่ะ


QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ yoyo_55.gifเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ+

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 07 January 2010 - 10:45 AM.


#2 loof

    เซียนเกม

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 6142 posts
  • Gender:Male

Posted 12 May 2008 - 11:16 PM

เป็นหนังที่ชอบเรื่องนึงเลยครับ ตอหลังนี่หักมุมมากใครจะจับได้ว่าฆาตกร เเหวกเเนวขนาดนี้

เเต่ต้นๆไม่ค่อยเกตมุขเท่าไหร่