`

Jump to content





รีวิวหนัง Grindhouse : Death Proof & Planet Terror


1 reply to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 08 May 2008 - 12:01 AM

Grindhouse : Death Proof & Planet Terror

ไกรนด์เฮ้าส์ โชเฟอร์บากพญายม

ควบ

โคโยตี้ แข้งปืนกล


"Fully Loaded"

+Grindhouse (ไกรนด์เฮ้าส์) เป็นหนังอังกฤษสัญชาติอเมริกันที่หมายถึง โรงภาพยนตร์ที่ทำมาหากินด้วยการฉายภาพยนตร์ในรูปแบบที่เรียกว่า หนักโม้แหลก หรือหนังเกินจริง หรือหนังสุดขั้ว แล้วแต่จะเรียกกัน โดยในภาษาอังกฤษจะเรียกหนังประเภทนี้ว่า Exploitation Films ซึ่งจากเอ็นไซโคลพีเดียภาพยนตร์ได้อธิบายไว้อย่างกระชับและชัดเจนว่า เป็นหนังที่ทำขึ้นมาโดยแทบไม่ใส่ใจ (หรือไม่ใส่ใจเลย) ในแง่ของคุณภาพ หรือคุณค่าทางศิลปะ


+หากแต่มุ่งไปที่การสร้างผลกำไรที่รวดเร็ว โดยใช้กลยุทธ์การขายและการโฆษณา ซึ่งเน้นลักษณะบางอย่างของตัวหนังไปกระตุ้นอารมณ์ของผู้ชม . . สิ่งที่จะได้เห็นกันในหนังสุดขั้วพวกนี้ก็มักจะหนีไม่พ้น ฉากเซ็กซ์แบบวิตถาร , ความรุนแรงที่มากและเกินความพอดี , ฉากโป๊ที่จงใจ , สัตว์ประหลาดต่างๆ , คนพฤติกรรมเพี้ยนๆ หรือการทำลายล้างในแบบวินาศสันตะโรที่ไม่มีเหตุผล . .


+หนังสุดขั้วพวกนี้เฟื่องฟูสุดๆ ในยุคเมื่อสัก 20-30 ปีก่อนเห็นจะได้ ฮิตกันถึงขั้นมีหนังสุดขั้วพวกนี้แบบเป็นซีรีย์ที่ลงฉายในโรงไกรนด์เฮ้าส์อย่าง
ต่อเนื่อง แต่เมื่อมาถึงยุคของเครื่องเล่นวิดีโอเทป หนังประเภทนี้ก็ค่อยๆเสื่อมความนิยม และส่งผลให้โรงหนังแบบไกรนด์เฮ้าส์เริ่มทะยอยปิดตัวลงไปด้วย และเมื่อโรงหนังแบบมัลติเพล็กซ์เปิดตัว ที่ว่างของโรงหนังแบบไกรนด์เฮ้าส์ก็ไม่มีให้เห็นอีกเลย . .


+แม้จะไม่ได้ถูกยอมรับนับถือ ว่าเป็นหนังที่มาพร้อมกับคุณภาพสักเท่าไหร่ แต่หนังสุดขั้วหลายๆเรื่องเหล่านี้ ก็กลายพันธุ์เป็นหนัง "คัลท์" ที่มีแฟนพันธุ์แท้ หรือนักวิจารณ์ยกย่อง . . ไม่ว่าจะเป็นเพราะความคิดสร้างสรรค์ หรือเสน่ห์เฉพาะตัวบางอย่างที่ไม่สามารถหาได้จากหนังสตูดิโอ

+ซึ่งบางทีบุคลิกลักษณะเฉพาะตัวของหนังสุดขั้วพวกนี้ ก็ไป "โดน" หรือสร้างความประทับใจบางอย่างให้กับ "เควนติน ทาแรนติโน่" และ "โรเบิร์ท รอดริ
เกวซ" 2 ผู้กำกับคู่ซี้ชื่อดัง ที่คนหนึ่งเรียนการทำหนังด้วยการเป็นพนักงานในร้านวิดีโอ ที่นำความประทับใจในหนังสุดขั้ว และโรงหนังแบบไกรนด์เฮ้าส์ มาสร้างเป็นภาพยนตร์ในแบบเดียวกับที่พวกเขาชื่นชม

+และนำออกฉายในแบบหนังควบที่มาพร้อมกับภาพยนตร์ตัวอย่างของหนังสุดขั้วอีกหลายเรื่อง
ที่ทำกันขึ้นมาเอง เหมือนกับเป็นการจำลองการฉายหนังสุดขั้วในโรงหนังไกรนด์เฮ้าส์จากช่วงเวลารุ่งโรจน์
ในอดีต มาให้คนในยุคปัจจุบันที่ไม่เคยได้ทันเห็นได้ดูกัน . .


+ขณะที่ทาแรนติโน่เลือกทำหนังเกี่ยวกับสตันท์แมนโรคจิต ที่พิสมัยการขับรถไล่บี้สาวๆชะตาขาด จนวันหนึ่งก็ได้มาเจอของจริงที่เป็นยิ่งกว่ากรรมตามทันใน Death Proof . . รอดริเกวซกลับเลือกที่จะปลุกชีวิตหนังซอมบี้ขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้เติมลงไปด้วยความเป็นหนังแอ็คชั่นล้างผลาญ แถมเหยาะด้วยความโรแมนติกผสมลงไปอีกหน่อย จนกลายออกมาเป็น Planet Terror .. .


+ในอเมริกาหนังทั้ง 2 เรื่องนี้ออกฉายควบกัน โดยมีหนังตัวอย่างคั่น แต่กับตลาดนอกอเมริกา โดยเฉพาะกับประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ Death Proof และ Planet Terror กลับถูกฉายแยกจากกัน โดยจะมีการเติมฉากที่ถูกตัดออกเพิ่มลงไป เพื่อให้หนังมีความยาว และสมบูรณ์เหมาะกับการฉายแยกมากขึ้น ..

+ซึ่งก็แน่นอนว่าในแต่ละเรื่องย่อมมีความสมบูรณ์มากกว่าเวอร์ชั่นอเมริกัน แต่สิ่งที่หายไปก็คืออารมณ์ในการดูหนังแบบสุดขั้วที่ "ฉายควบกัน" ในโรงหนัง
ไกรนด์เฮ้าส์ รวมไปจนถึงภาพยนตร์ตัวอย่างที่ทำกันขึ้นมาเล่นๆ ให้กับ Grindhouse ที่กำกับโดยผู้กำกับอย่าง "ร็อบ ซอมบี้" (อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ) หรือ "เอไล ร็อธ" ก็พลอยถูกตัดไปด้วย จะมีก็แค่ตัวอย่างเรื่อง Machete ที่ฉายปะหัว Planet Terror จากฝีมือของรอดริเกวซเรื่องเดียวเท่านั้น . .


+แต่จะว่าไป ต่อให้มีหนังตัวอย่างครบ และฉายควบกันแบบเวอร์ชั่นอเมริกัน ก็ใช่ว่าจะให้ความรู้สึกกันได้ เพราะในความที่เป็นคนไทย กับโรงหนังไกรนด์เฮ้าส์แบบอเมริกันแท้ๆนั้น ถือว่าไกลห่างกันพอสมควร แต่ถ้าพอจะอนุมานพวกโรงหนังที่ฉายแต่ จีนควบฝรั่ง ควบญี่ปุ่น และฉายวนทั้งวัน ว่าเป็นโรงหนังไกรนด์เฮ้าส์แบบไทยๆ ความรู้สึกที่ได้ ก็จัดว่าไม่ไกลกันเท่าไหร่ . . เพียงแต่ของบ้านเรา ไอ้หนังสุดขั้วที่เข้ามาฉาย มันก็ได้แค่ประเภทเนื้อนมไข่ประเภทเดียวเท่านั้นแหล่ะ . .


+และด้วยความที่เป็นหนังสุดขั้ว ถึงจะกำกับโดยผู้กำกับชื่อดังขนาดไหน ยังไงมันก็ยังเป็นหนังที่เอาอะไรไม่ได้ในเรื่องของคุณภาพของบท และเนื้อหาอยู่ดี เพราะอย่างที่บอก นี่คือหนังดูเอามันส์ ที่เน้นขายความสะใจกันแบบเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น Death Proof หรือว่า Planet Terror ก็ตาม

+ดังนั้นความน่าเชื่อถือ ความสมเหตุสมผล ถูกโยนทิ้งจนเกลี้ยง แล้วก็เน้นขายแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการขายจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรง หรือว่าเซ็กซ์ . . ก้น . . นม . . หรือเหตุการณ์เพี้ยนๆที่ชวนสะอิดสะเอียนปนหัวเราะ ชนิดที่ว่าหากผู้ชมทำใจ ยอมเอาสมองวางทิ้งไว้ที่หน้าโรงไม่ไหว ดูยังไงก็ไม่มีทางที่จะเพลิดเพลินได้เลย . .


+ขณะที่ Death Proof มีจุดเด่นอยู่ที่ฉากสตันท์ กับความสะใจ Planet Terror ก็มีเสห่ห์ในส่วนของอารมณ์ขันแบบตลกร้าย ความแหวะ และความมันส์ ซึ่งหากเทียบกัน การพยายาม "เล่น" กับบทสนทนาที่เป็นจุดเด่นของทาแรนติโน่มาตลอด ดูออกจะน่าเบื่อ และไม่มันส์เท่ากับที่เจ้าตัวเคยทำได้ใน Reservoir Dog หรือ Kill Bill ภาค 2 . .

+รวมทั้งยังกลายเป็นการขัดจังหวะของฉากแอ็คชั่น 2 ฉากใหญ่บนท้องถนนซะอีกด้วย ซึ่งผิดกับตลกร้ายในบทพูดแบบเว่อร์ๆ ผิดที่ผิดทาง , การกระทำที่ผิดจังหวะ ผิดเวลา อย่างการขับรถเด็กเล่นไล่ยิงซอมบี้ , ใช้เท้าเปิดประตูรถจนข้อมือหัก , เล่นสนุกกับเลือดและซ้อสบาร์บีคิว อย่างที่ผู้กำกับรอดริเกวซใช้ใน Planet Terror ดูจะมีอะไรให้ผู้ชมอมยิ้มหรือสนุกไปด้วยแบบเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า . .

+แถมแคแรคเตอร์ของตัวละครหลักๆแต่ละตัว ก็ล้วนมีเสน่ห์แบบสุดๆแทบทุกตัว ซึ่งตรงนี้เห็นได้ชัดว่าจังหวะหนังของ Planet Terror ดูสนุกและเนียนกว่า Death Proof อยู่ไม่น้อย . .


+กับส่วนที่หนังทั้ง 2 เรื่องมีเหมือนกัน และถือว่าเป็นเส่ห์สำคัญของ Grindhouse แบบทาแรนติโน่+รอดริเกวซ ก็คืออารมณ์ขันในแบบเสียดสี และมุขที่มาพร้อมกับการพยายามทำให้หนังออกมาเป็นหนังสุดขั้วให้ได้ . . ทั้งในส่วนของเรื่องราว รูปแบบการนำเสนอ โดยเฉพาะงานด้านภาพและเทคนิคที่ใช้ต่างๆ ทั้งคู่ทำให้หนังของตัวเองดู "โลว์" ในแบบหนังสุดขั้วมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้


+ไม่ว่าจะเป็นเส้นที่ปรากฎบนจอ ที่มักจะเกิดกับฟิล์มหนังที่ผ่านการฉายมาอย่างยาวนาน กระทั่งจงใจทำเทคนิคฟิล์มขาด หรือทำให้รู้สึกเหมือนฟิล์มไหม้เพราะโดนความร้อนจากเครื่องฉาย , การต่อฟิล์มที่ไม่เนียน โดดๆจนภาพกระตุก ไล่ไปจนถึงการย้อมสีภาพให้ดูซีดๆ ที่ทำให้รู้สึกว่าฟิล์มมีการเก็บรักษาที่ไม่ดีเข้ามา ตลอดจนการถ่ายทำ ที่มีการจัดแสงแบบโดดๆ การตัดต่อที่สะดุดไปสะดุดมา (สังเกตุได้จากบทสนทนาที่ย้ำกลับไปกลับมา) และมุมกล้องก็โดดไปโดดมา ทั้งๆที่เป็นฉากต่อเนื่องกัน ซึ่งงานในส่วนนี้ หนังของรอดริเกวซก็ยังดูดีกว่า . .


+เสน่ห์ และความน่าสนใจของ Grindhouse อยู่ตรงที่การดึงเอาอดีตกลับเข้ามาสู่ปัจจุบัน และในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ดึงมาแค่อารมณ์ หากนำของตัวอย่างมาให้สัมผัสกันเลยมากกว่า แม้ว่าจะไม่ใช่ของที่มาจากยุคนั้น ในช่วงเวลานั้นจริงๆก็ตามที . . และที่น่าสนใจก็คือ หากมองไปถึงงานเก่าๆในอดีตทั้งของทา
แรนติโน่ และรอดริเกวซ นี่ไม่ใช่การทำงานในอารมณ์แบบหนังสุดขั้วของทั้งคู่เป็นครั้งแรก


+หากหลายๆ ท่านจำหนังของรอดริเกวซอย่าง From Dusk Till Dawn ได้ หลายๆ อย่างของหนังเรื่องนี้นั้นก็เห็นได้ชัดว่ามีลักษณะของหนังสุดขั้วอยู่ และหากมองย้อนไปไกลกว่านั้น El Mariachi (เลือดล้างเลือด) หนังแจ้งเกิดของรอดริเกวซ ที่ดูยังไงๆมันก็เป็นหนังสุดขั้วดีๆนี่เอง แม้จะมาพร้อมทุนสร้างอันต่ำต้อย (7,000 เหรียญ) โปรดัคชั่นสุดกระจอก แต่จังหวะในการเล่าเรื่อง และไอเดียคือสิ่งที่เป็นจุดขายของหนังเรื่องนั้น และส่งผลให้เขาได้ทำหนังที่ทุนใหญ่กว่าอย่าง Desperado นั่นเอง . .

+จะว่าไป Grindhouse ก็คือหนังส่วนตัว ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากรสนิยมความชอบส่วนตัว และความประทับใจส่วนตัว ซึ่งจะต้องเป็นคนซึ่งมีรสนิยมแบบเดียวกันเท่านั้นถึงจะดูสนุกได้ และถ้ามันดีจริง หรือมีเสน่ห์จริง โรงหนังไกรนด์เฮ้าส์ที่ฉายหนังสุดขั้วพวกนี้ ก็ไม่น่าจะต้องถึงกาลอวสาน เพียงแค่คนหันไปดูหนังคุณภาพประมาณนี้จากม้วนวิดีโอแทน . .


+ขณะที่คนที่ไม่ได้ชอบอะไรในแบบเดียวกับคนทำหนัง หรือไม่รู้จักว่าหนังสุดขั้วนั้นเป็นแบบไหน หรืออาจจะคุ้นเคยกับโปรดัคชั่นและเทคนิคงานสร้างของหนังในยุคปัจจุบัน โดยที่ไม่พยายามมองเข้าไปในไอเดีย หรือความพยายามของคนทำหนัง ก็ย่อมอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า "นี่มันหนังบ้าอะไรกันฟะ!? . .

+แต่ถ้ารู้จัก หรือว่าจับอะไรบางอย่างในตัวหนังได้ Grindhouse ก็จะกลายเป็นหนังเสียดสีขำๆที่ทำให้อมยิ้มได้ทั้งเรื่อง โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นความตั้งใจ หรือเป็นเหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นได้ เพราะความผิดยุค ผิดเวลาของหนัง . .


+ก่อนจะไปหาหนังเรื่องนี้มาดู หากปรับอารมณ์ ทำความเข้าใจกับตัวหนัง และแนวของมันได้ คุณจะสนุกกับ Grindhouse : Death Proof & Planet Terror ได้มากกว่าที่ไม่รู้อะไรเลยค่ะ . . บอกแล้วไง นี่มันหนังเฉพาะแนวนะ . .

+ให้ 2 ดาวครึ่งค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) 4412144b.gif 967339c1.gif

+คำเตือน - ภาพยนตร์ทั้ง 2 เรื่องนี้ สร้างขึ้นสำหรับผู้ใหญ่ มีภาพความน่ากลัว และความรุนแรงมากมาย ไม่ใช่หนังสำหรับเด็กด้วยประการทั้งปวง

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1343.html และ http://www.nangdee.com/title/html/m1345.html และ http://movies.about.com/od/grindhouse/ig/G...os/index.02.htm ค่ะ

+Grindhouse's Death Proof & Planet Terror Trailer+
http://www.youtube.com/watch?v=ArbU_bUDHV4

QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ yoyo_55.gifเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ+

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 07 January 2010 - 11:44 AM.


#2 Brutal-Method

    เซียนเกม

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 6439 posts
  • Gender:Male

Posted 18 August 2008 - 02:24 AM

ส่วนตัวชอบ deathproof มากกว่า
เพราะด้วยบทสนทนาล้วนๆเลย

Planet Terror ดูธรรมดาไปนิด

ปล. ยังไม่ได้อ่านที่ตูนเขียนนะ ว่างๆจะมาอ่านอีกที yoyo_29.gif