`

Jump to content





รีวิวหนัง Moulin Rouge - มูแลง รูจ


1 reply to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 30 April 2008 - 08:51 PM

Moulin Rouge - มูแลง รูจ

TRUTH BEAUTY FREEDOM LOVE


"The greatest thing you ever learned"

"It's just to love and be loved in return"

+สำหรับคนที่ติดตามงานของ บาซ ลูห์รแมนน์ กำกับชาวออสเตรเลียที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากหนังเต้นรำสุดโต่งอย่าง Stricitly Ballroom . . นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่บอกให้รู้ว่า ลูห์รแมนน์มีมุมมองในการทำหนังกึ่งเพ้อฝันให้ออกมาได้อย่างน่าถึงใจ และจุดตอกย้ำที่แสดงให้เห็นว่าเขาคือคนทำหนังของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

+เมื่อบาซ ลูห์รแมนน์อาจหาญเอา Romeo + Juliet มาทำใหม่ในรูปแบบอัลเทอร์เนทีฟอย่างที่ไม่มีใครคาดฝันได้ ว่าเขาจะทำมันออกมาให้คงรูปแบบเดิมและใส่จินตนาการของตัวเองเข้าไปในแบบเหลือรับได้ข
นาดนั้น . .


+และไม่น่าแปลกใจ ถ้าลูห์รแมนน์จะถูกจับตามองและคาดหวังจากกลุ่มคนดูที่ชื่นชมผลงานของเขา ว่าผลงานชิ้นต่อมาอย่าง Moulin Rouge จะออกมาได้สะใจขนาดไหน . . ที่แน่ๆ ลูห์รแมนน์ที่เขียนบทหนังเรื่องนี้เองร่วมกับ เคร็ก
เฟียร์ซ ที่แสดงให้เห็นถึงความรักและฝังใจที่มีกับละครเพลงอย่างเห็นได้ชัด . .


+และจากที่ได้ชม ลูห์รแมนน์ทำงานของเขาออกมาได้อย่างสร้างสรรค์ และสามารถหยิบยืมเพลงรักเก่าๆมาใช้ในเรื่องได้อย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะบทหนังที่ลอกมาจากเพลงดังแต่ละเพลง แบบคาดคิดไม่ถึง นอกจากจะทำให้ผู้ชมอมยิ้มได้แล้ว ยังกลายเป็นส่วนที่ลงตัวกับเนื้อเรื่องได้แบบไม่น่าเชื่อ .. โดบเฉพาะกับเพลงรักหวานๆ ความหมายดีดีอย่าง Your Song ของ เอลตัน จอห์น ที่ข้ามยุคสมัยกลายมาเป็นเพลงรักอมตะที่คงถูกพูดถึงไปอีกนาน . .


+หนังเปิดเรื่องด้วยการเล่าเรื่องผ่านเครื่องพิมพ์ดีดเก่าๆของคริสเตียน (ยูเว็น แม็คเกรเกอร์) นักเขียนหนุ่มไส้แห้งที่ระหกระเหินจากอังกฤษเพื่อมาแสวงโชค และจบลงด้วยการพบกับบรรดาศิลปินอนาถา ผู้เรียกตัวเองว่า "The Bohemians" ที่ต้องการจะให้ละครเพลงของตน ได้แสดงในคลับดังอย่าง Moulin Rouge .. คลับต้องห้ามอันเป็นที่รวมของเหล่าบรรดาผู้หญิงขายตัว ที่เรียกตัวเองว่า "Diamond Dogs" เพียงแต่ทำอย่างไรถึงจะทำให้ดาวเด่นของคลับอย่าง ซาติน (นิโคล คิดแมน) สนใจในบทละครของพวกเขาได้เท่านั้น . .


+พล็อตเรื่องที่เหมือนละครหลังข่าวในประเทศๆหนึ่งแถวนี้ เริ่มโชยกลิ่นมาแต่ไกล กลับถูกปรับปรุงด้วยการเลือกใช้เพลงป๊อปร็อกชื่อดัง ย้อนยุคมาใช้ในหนังได้อย่างเหมาะเจาะ และเรียบเรียงเสียใหม่ จนทำให้เพลงกลายเป็นส่วนสำคัญของหนังมากกว่าเป็นส่วนที่ยัดเยียดเข้าไป เพื่อเป็นไปตามสูตรเหมือนเช่นในหนังเรื่องอื่นๆที่ผ่านมา .. โดยเฉพาะเนื้อเพลงที่กลายมาเป็นคำพูดของตัวละคร ที่ทั้งกินใจและพรรณาความรู้สึกของตัวละครได้อย่างถึงแก่น . .


+โดยเฉพาะกับฉากชวนสับสนอลหม่าน เมื่อบรรดาสาวๆพากันส่ายกระโปรงออกมาภายใต้การนำของเจ้าของมูแรงจ์ รูจ (หรืออีกนัยหนึ่งก็คือพ่อเล้า) อย่าง "แฮร์โรล ซิดเลอร์" (จิม บรอดเบรนต์) ที่นำมาพร้อมกับเพลง Lady Marmalade ในขณะที่พวกลูกค้าชายในชุดสูททักซิโด้ ต่างเรียงแถวกันเข้ามาพร้อมกับเพลง Smell Like Teen Spirit ของ Nirvana จนกลายเป็นเมดเลย์เพลงเต้นรำที่เหลือเชื่อตั้งแต่เปิดเรื่อง . .


+ก่อนที่ดาราประจำบาร์อย่างซาตินจะโหนตัว โล้ชิงช้าลงมาพร้อมกับรีวิวเพลง Daimonds Are A Girl's Best Friend ในเวอร์ชั่นที่เรียบเรียงได้อย่างมีสไตล์ (และยังแทรกท่อนฮุคเพลง Material Girl ของ Madonna เข้ามาด้วย)
น่าตื่นตาตื่นใจ และแฝงด้วยอารมณ์ขันไปด้วยอย่างเหลือรับ . .


+แต่กว่าคริสเตียนจะได้พบซาตินตามลำพัง และเธอได้เข้าใจในจุดหมายของเขาผิดไปพักใหญ่ (พร้อมกับตลกแบบ 2 แง่ 2 ง่าม ที่ทำให้ผู้ชมหลายคนอดยิ้มตามไปด้วยไม่ได้) เพลง Your Song ของเอลตัน จอห์น ที่คริสเตียนร้องได้อย่างกินใจ ก็เอาชนะใจซาติน ผู้ฝันเพียงอยากจะได้เป็นดารา และไปให้พ้นจากหอคอยช้าง ที่ที่เธอต้องอยู่ๆไปอย่างไม่มีความฝันอะไรนัก ก็ได้เป็นฉากรักที่สุดแสนจะโรแมนติก พร้อมกับรีวิวย้อนยุคที่น่าตื่นตาตื่นใจ


+แต่รีวิวที่เหมือนเป็นส่วนต่อของเพลงรัก ที่คริสเตียนกับซาตินต่างร้องรับกันได้อย่างน่ารัก น่าเอ็นดู จนทำให้คนดูสนุกไปกับการทายเพลงรักดังๆ ที่ถูกนำมายำใหญ่รวมกันได้อย่างออกรสในเพลง Elephant Love Medley ซึ่งคงจะเป็นฉากที่ถูกกล่าวขวัญถึงไปอีกนาน ในความใจกล้า บ้าบิ่นของบาซ ลูห์รแมนน์ ที่จัดการเอาเพลงรักดังๆทั้งหลายมาตัดรวมกันเข้าไปในเพลงดังกล่าว จนกลายเป็นรวมมิตรที่ทั้งชวนหัวเราะและกินใจ จนทำให้ "เพลง" กลายเป็นส่วนที่มีความหมายต่อหนังเป็นอย่างมาก . .


+แม้กระทั่งการให้แฮร์โรล ซิดเลอร์ร้องเพลง Like A Vergin (ของ Madonna) กล่อมให้ท่านดุ๊กผู้มั่งคั่ง (ริชาร์ด ร็อกเบิร์กที่มาในมาดที่ดูน่ารังเกียจและชวนขันในเวลาเดียวกัน) เชื่อว่าซาตินกำลังมีใจให้กับเขาขนาดไหน กลายเป็นรีวิวที่ตลกปนสัปดน แต่เข้าท่ามากที่สุดฉากหนึ่งของเรื่อง รวมไปจนถึงเพลงรักของคริสเตียนและซาตินอย่าง Come What May หรือเพลง Roxanne ของ The Police ที่ถูกนำมาเรียบเรียงใหม่ในลีลาแทงโก้ที่ดุดันและเร้าอารมณ์เหลือรับ . .

+หรือแม้กระทั่งท่อนหนึ่งในเพลง Nature Boy (ของแน็ต คิง โคล) ที่ถูกมำมาใช้เป็นสโลแกนของเรื่อง The Greatest Thing You'll Ever Learn Is Just To Love .. And Be Loved In Return . . สิ่งที่ประเสริฐเหนือสิ่งอื่นใด คือการได้รัก และได้รับรักนั้นตอบแทนคืน ..


+สิ่งที่คาดไม่ถึงนอกเหนือไปจากความสามารถของนักแสดงในเรื่อง ก็คือ การที่ดารานำอย่างนิโคล คิดแมน และยูเว็น แม็คเกรเกอร์ สามารถร้องเพลงได้ดีอย่างเหลือเชื่อ ในทีนี้รวมไปถึงจิม บรอดเบรนต์ และจอห์น ลีไกวเซโม ที่ได้ร่วมร้องเพลงในส่วนหนึ่งของเรื่อง .. นั่นก็เป็นเครดิตดีดีที่ทำให้คนทำหนังและดูหนังทั้งหลาย ชื่นชมคิดแมนและแม็คเกรเกอร์อย่างนับถือมากกว่าที่ผ่านมา ..

+และคงปฏิเสธไม่ได้อยู่ดีว่า การนำเสนอเรื่องราวความรักของคริสเตียนและซาติน กลายมาเป็นส่วนที่กินใจที่สุดของหนัง .. หากตัดเพลงที่ถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่องในเรื่องออกไป ส่วนที่มีความโรแมนติกของเรื่อง คือส่วนที่ บาซ ลูห์รแมนน์สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างถึงใจ แบบเดียวกับที่เคยทำให้บรรดาสาวๆหวั่นไหวกันมาแล้วใน Romeo + Juliet . .


+เยี่ยมยิ่งกว่านั้นก็คือการที่ลูห์รแมนน์สามารถทำให้หนังออกมาอย่างมีสไตล์ แม้จะดูหลุดโลกไปในสายตาของบางคนก็ตาม แต่ดูเหมือนสไตล์ที่ไม่เหมือนใครของเขานี่เองที่สามารถเอาชนะใจคนดูได้ และที่โดดเด่นยิ่งกว่านั้น ต้องยกให้กับการกำกับศิลป์ ,การออกแบบเครื่องแต่งกาย รวมไปจนถึงการออกแบบฉาก และการกำกับภาพที่ดูคลาสสิค เหนือจริง และใส่เทคนิค ลูกเล่นต่างๆอย่างมีสไตล์ .. เหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ช่วยเสริมให้หนังออกมาดีได้อย่างเหลือเชื่อ ..

+ถ้าคุณเป็นคนชอบดูหนังโรแมนติก+คอมิดี้ ผสมดราม่า ที่มีเพลงเพราะๆคลอไปกับฉากซึ้งๆกินใจ . . Moulin Rouge จะไม่ทำให้คุณผิดหวังค่ะ .. ไม่เชื่อ ลองไปหาหนังเรื่องนี้มาชมพร้อมๆกับคนที่คุณรักดูสิคะ . .

+ให้ 4 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) 4412144b.gif 967339c1.gif

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1685.html และ http://www.allmoviephoto.com/photo/2001_Mo...ouge_photo.html ค่ะ


QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ yoyo_55.gifเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ+

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 11 January 2010 - 05:14 PM.


#2 the red

    face of troll

  • Moderator?
  • 11125 posts
  • Gender:Male

Posted 01 May 2008 - 03:19 PM

หนังโปรดของผมเลยนะเนี่ย ชอบฉากเพลงYour Songมาก เพราะมากมาย