0
Shoot 'Em Up - ยิงแม่งเลย
"Just another family man making a living"
+มาพร้อมกับใบปิดสุดเก๋ กับขายความเท่ด้วยสโลแกน "ภาพยนตร์ยิงกราด สาดลีลามันไม่ซ้ำใคร" นี่เป็นอีกหนึ่งความพยายามที่จะว่าตัวเป็นหนังเสียดสี อารมณ์ยียวน ที่เอาเข้าจริงๆ หนังก็ไปได้ไม่ถึงไหน สาเหตุใหญ่ก็คือ "บท" ของหนังไปไม่ถึงขั้นที่ตัวเองอยากจะเป็น ทั้งๆที่ได้ทีมนักแสดงขายฝีมือชื่ออันดับต้นๆ ของวงการในยุคนี้มาเล่นถึง 3 คน . .
+และด้วยความที่หนังทำได้ "ไม่ถึง" อย่างที่ว่ามา Shoot 'Em Up เลยเป็นได้แค่หนังแอ็คชั่นขายความมันส์ ที่จะไปทางไหนก็ไม่ถึงสักทาง ด้วยความที่หนังสร้างความสมดุลย์ระหว่าง "ทีเล่น" กับ "ทีจริง" ไม่สำเร็จ ครั้นจะให้หนังได้อารมณ์ขันแบบเสียดสี หนังก็ดูแทงกั๊กๆ หากจะมองว่าเป็นหนังแอ็คชั่นเอามันส์เพียงอย่างเดียว แบบ Transporter ของเจสัน สเต็ทแฮม Shoot 'Em Up ก็ไม่ถึงขั้นนั้น . . ไม่แปลกที่หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นความบันเทิงในแบบที่ดูผ่านแล้วผ่านเลย จบแล้วก็จบๆกันไป และไม่ใช่ผลงานที่น่าจดจำนักสำหรับนักแสดงนำทั้ง 3 คน . .
+นั่งกินแคร็อทอยู่ดีดี จู่ๆก็มีคนมาไล่ล่าสาวท้องแก่ให้เห็นตรงหน้า "สมิธ" หนุ่มใหญ่ท่าทางปอนๆเลยต้องยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ด้วยฝีมือระดับพระกาฬ สมิธเล่นงานบรรดานักล่าทั้งหลายจนหมอบกระแต แต่สาวท้องแก่ก็เอาตัวไม่รอด เหลือลูกน้อยทิ้งเอาไว้ .. จากที่ไม่คิดจะเอาไปดูแล สมิธก็ต้องกระเตงๆเด็กน้อยคนนี้ไปทั่วเมือง เพื่อหนีการตามล่าของ "เฮิร์ทซ์" มือปืนจอมอำมหิต ที่ตามฆ่าตามล้างเด็กคนนี้แบบกัดไม่ปล่อย . .
+ระหว่างหลบหนี สมิธก็ค่อยๆแกะรอยความเป็นมาของทีมนักฆ่าทีมนี้ และในที่สุดเขาก็ได้รู้ความจริงว่า เด็กน้อยไร้เดียงสาคนนี้มีความสำคัญใหญ่หลวงกับบุคคลสำคัญระดับโลก ที่นำพานักฆ่ามากมายเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมไปถึง ดี-คิว โสเภณีสาวหุ่นสะท้านใจชาย ที่ลึกๆแล้วมีใจให้กับสมิธ เช่นเดียวกับที่ฝ่ายหลังเองก็มีความรู้สึกดีดีให้ฝ่ายแรกด้วยเช่นกัน . .
+จากที่ไม่เคยคิดจะยื่นมือเข้าช่วย สมิธและดี-คิว จำเป็นจะต้องหาทางช่วยชีวิตของเด็กน้อยคนนี้เอาไว้ให้ได้ ด้วยการไปในที่ๆปลอดภัยที่ไหนสักแห่ง .. แล้วในขณะเดียวกัน ก็ต้องเอาตัวเองให้รอดจากการตามล่าของเฮิร์ทซ์ และกลุ่มนักฆ่าที่มาพร้อมกับอาวุธครบมือ!!!
+ไมเคิล เดวิส เปิดเรื่องหนังของตัวเองได้อย่างน่าสนใจ ด้วยภาพโคลสอัพที่ใบหน้าของไคลฟ์ โอเว่น ในแบบเดียวกันกับที่เห็นจาก Inside Man ก่อนจะพาคนดูเดินหน้าไปหาฉากแอ็คชั่นที่ขายความมันส์เต็มที่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าได้รับอิทธิพลมาจากหนังฮ่องกงของจอห์น วู ไม่ว่าจะเป็นการที่ตัวเอกของเรื่องอย่างสมิธต้องกระเตงๆเด็กน้อยดวลปืน ฝ่าดงกระสุน ลุยกับเหล่าร้ายในแบบเดียวกับที่ โจวเหวินฟะเคยทำมาแล้วใน Hard Boil (ทะลักจุดแตก) ซึ่งก็ยังรวมไปถึงเครื่องแต่งกายที่ไคลฟ์ โอเว่นใส่ ก็มาในสไตล์เดียวกับโจวเหวินฟะอีกเหมือนกัน . .
+แล้วที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ บรรดาท่าบังคับ ในหนังจอห์น วุ ไม่ว่าจะเป็น ท่ากระโดดยิงปืน 2 มือ หรือการไถลตัวไปกับปืน พื่อเก็บฝ่ายตรงข้ามที่ดาหน้า มายืนเรียงเป็นหน้ากระดานตามลำดับทีละคนๆ และที่ยิ่งต้องมี ไม่งั้นไม่ใช่หนังสไตล์จอห์น วู นั่นก็คือ ฉากเอาปืนจ่อหน้ากัน!!! Shoot 'Em Up เก็บมาได้หมด . .
แต่หนังก็ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่หยิบ "เปลือก" ของหนังฮ่องกง สไตล์จอห์น วู มาหยอกล้อได้เพียงแค่เท่านั้น เพราะที่เหลือนอกเหนือจากนี้ บทของไมเคิล เดวิส (ควบเก้าอี้ผู้กำกับด้วย) ไม่สามารถหยิบเอาด้านลึก หรือจิตวิญญาณของหนังฮ่องกงในสไตล์จอห์น วู มาเสียดสีได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว . . Shoot 'Em Up เลยกลายเป็นหนังฝรั่งพยายามทำเท่แนวฮ่องกง ที่ทำไม่ถึงอีกเรื่องหนึ่ง เหมือนกับหนังอีกเป็นสิบๆเรื่อง ที่เกิดขึ้นในสมัยยุคจอห์น วูดังๆ
+และหากนำไปเทียบกับหนังแอ็คชั่นตลกร้าย ในอารมณ์ของหนังเสียดสีแบบนี้ Shoot 'Em Up ก็ยังทำงานในส่วนของอารมณ์ขันได้ไม่ดีเท่า The Big Hit หนังเสียดสีหนังแอ็คชั่นที่ว่าด้วยบรรดามือสังหารที่ มาร์ค วอห์ลเบิร์กเล่นกับ ลู ไดมอนด์ ฟิลลิป เมื่อหลายปีก่อนด้วยซ้ำ . . ในขณะเดียวกันมุขตลกอารมณ์ในแบบตลกร้าย หรืออารมณ์ยียวน กวนประสาทที่หนังใส่เข้ามา ประมาณได้เลยว่ากว่าครึ่ง ออกอาการ "ด้าน" ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นด้วยเหตุผลดังที่ว่ามาข้างต้น ..
+และถ้ามองว่านี่คือหนังแอ็คชั่นในอารมณ์ตลกร้าย แบบที่ Snatch , Lock, Stock & Two Smoking Barrels , Smokin' Ace หรือว่า The Big Hit เป็น .. ไม่ได้มองว่านี่คือหนังเสียดสี หรือกะจะหยอกล้ออะไรใคร .. Shoot 'Em Up ก็ไปได้ไม่ถึงจุดนั้น ทั้งที่ได้ยอดฝีมือมาทำงานร่วมกันทั้ง 3 คน ก็เพราะบทหนังไม่สามารถสร้างความสมดุลย์ ให้กับอารมณ์ขัน และความจริงจังของเรื่องได้ ..
+ถ้าได้มือเขียนบทที่คล่องกับแนวหนังแบบนี้ มีอารมณ์ขันแบบกวนๆที่ไหลลื่น กลืนไปกับเรื่องได้ในแบบที่ไม่รู้สึกจงใจ หรือมีลูกเล่นที่มากสีสันและลีลามากกว่านี้ Shoot 'Em Up น่าจะออกมาเจ๋งกว่าที่เป็นอยู่ . .
+เพราะว่ามีอยู่แค่นี้ Shoot 'Em Up จึงเป็นได้แค่หนังแอ็คชั่นเอามันส์ที่ยังพอมีอะไรกวนๆ สะกิดให้ได้ยิ้มเล็กๆหรือหัวเราะได้บ้างเป็นพักๆ ส่วนจะเก็บไว้เป็นที่จดจำหรือไม่นั้น . . นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง .. แต่ถ้าจะถามถึงความมันส์ที่หนังมีให้นั้น บอกได้เลยว่าคุ้มค่าตั๋วทีเดียวค่ะ . .
+ให้ 2 ดาวครึ่งค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว)
+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1362.html ค่ะ
QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ 
เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+ +
เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+ ++อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ+
QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ
+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ
+ดูหนังให้สนุกนะคะ+
Edited by rbgel, 11 January 2010 - 05:31 PM.
