`

Jump to content





รีวิวหนัง 28 Weeks Later - มหาภัยเชื้อนรกถล่มเมือง


2 replies to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 26 April 2008 - 05:29 PM

28 Weeks Later - มหาภัยเชื้อนรกถล่มเมือง


"It All Begins Again"

+แม้จะขาดความสดใหม่ แต่ในแง่ของการรักษาเสน่ห์เฉพาะตัว ตลอดจนวิธีในการดำเนินเรื่องต่อจากสิ่งที่ถูกทิ้งค้างเอาไว้ในหนังภาคแรก รวมไปถึงการสร้างแนวทางให้กับตัวเอง ในแบบที่ว่าถ้าถูกนำไปเปรียบกับงานเรื่องก่อนหน้าแล้ว ก็ไม่ทำให้รู้สึกว่าแย่ลง หรือด้อยคุณภาพ จนไม่อยากจะหยิบไปเทียบกัน 28 Weeks Later ล้วนทำหน้าที่ของตัวเองได้เป็นอย่างดี . .

+เรื่องราวของ 28 Weeks Later สานต่อจากเหตุการณ์ในหนังภาคแรกแบบเนื้อต่อเนื้อ ในแง่ของสถานที่ รูปแบบเหตุการณ์ และช่วงเวลาเกิดเหตุ หากที่ต่างไปคือนี่คือเรื่องราว และประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวละครกลุ่มใหม่ ที่ช่วงเวลายืดยาวออกมาจากจุดสิ้นสุดของเหตุการณ์ในภาคแรกนานถึง 6 เดือน . .


+หนังเปิดเรื่องด้วยความสงบที่ชวนดูไม่น่าไว้วางใจ ของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เก็บตัวอยู่ในบ้านที่มืดมิด เหมือนในเวลาค่ำคืน ก่อนที่จะเผยให้เห็นว่าที่แท้แล้วเป็นเวลากลางวันแสกๆ แต่พวกเขากลับต้องใช้ชีวิตหลบซ่อนจาก "ซากชีวิต" ที่ในความคิดมีแต่เรื่อง ฆ่า และฆ่า . .

+หลังจากที่เปิดรับผู้รอดตายคนหนึ่ง บ้านที่ดูเป็นที่ปลอดภัยก็กลายเป็นที่ประหาร ขณะที่ดอนเองก็จำต้องทิ้งอลิชผู้เป็นภรรยาไว้ที่เบื้องหลัง เพื่อเอาชีวิตตัวเองให้รอด . .


+นั่นคือช่วงเวลาเดียวกันกับที่อยู่ใน 28 Days Later แต่เรื่องของ 28 Weeks Later ถูกเริ่มต้นขึ้นในอีก 6 เดือนต่อมา .. ดอนอยู่ในเขตปลอดภัยของลอนดอนที่บัดดนี้ถูกเรียกว่าโซน 1 . .

+ประเทศอังกฤษตกอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกองกำลังนาโต้ ที่มีสหรัฐอเมริกาเป็นแกนนำ แทมมี่กับแอนดี้ ลูกสาวคนโตและลูกชายของดอน ที่ไปทัศนศึกษาที่สเปนในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ไวรัสมรณะระบาด เพิ่งเดินทางกลับมาถึงบ้าน พร้อมกับได้รับทราบข่าวร้ายว่า แม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ด้วยเหตุผลบางอย่าง (ที่ดูอ่อนน้ำหนัก และหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อย) แทมมี่กับแอนดี้ตัดสินใจออกนอกเขตปลอดภัย กลับไปยังที่บ้าน และได้รู้ว่าแม่ยัง "ไม่" ตาย . .


+เรื่องราวต่างๆอีกมากมายเริ่มต้นจากจุดนั้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นพบว่า แอนดี้ และแม่มีเลือดที่มีภูมิคุ้มกันต่อต้านไวรัสได้ จนไม่สามารถแสดงอาการออกมาได้ แต่ . . เมื่อใครบางคนกลายมาเป็นซากชีวิต เขตปลอดภัยก็กลายมาเป็นเขตกักกัน แล้วก็แปรสภาพเป็นแดนสังหาร . . แอนดี้ที่กลายมาเป็นความหวังเดียวในการกำจัดเชื้อไวรัสร้าย จะมีชีวิตอยู่รอดได้จนถึงวันนั้นหรือไม่ . .


+เรื่องราวของ 28 Weeks Later ไม่ใช่เรื่องราวที่ซับซ้อนอะไรมากมาย มองโดยแนวของเรื่อง นี่ก็คือหนังไล่ล่า ที่ตัวละครต้องพา "คนสำคัญ" เดินทางไปสู่จุดปลอดภัยให้ได้ ในช่วงเวลาที่พวกเขากลายเป็นเป้าสังหาร ไม่ว่าจะเป็นทหารที่ดูแลเมือง หรือจากบรรดาซากชีวิตก็ตาม ซึ่งเป็นแนวเรื่องเดิมๆที่มักจะเห็นกันบ่อยๆ ในหนังแอ็คชั่นอย่างพวก Tear Of The Sun หรือ The Fifth Element


+แต่ภายใต้ความธรรมดาของเรื่อง สิ่งที่ 28 Weeks Later ไม่ได้ทำหล่นหาย หรือละเลยไปเหมือนที่หนังภาคต่อบางเรื่องมักจะทำหล่น ก็คือเสน่ห์ และความน่าตื่นตาที่เคยเป็นส่วนที่สร้างความโดดเด่นให้กับหนังภาคแรก จนสามารถแตกออกมาเป็นภาคต่อๆมาได้อย่างที่เห็น ผู้กำกับคนใหม่อย่าง ฮวน คาร์ลอส เฟรสดิลโล่ รู้ดีว่า "อะไร" คือสิ่งที่ทำให้ 28 Days Later กลายเป็นที่น่าจดจำ หรือกล่าวขวัญถึง นอกเหนือไปจากตัวเรื่อง และรายละเอียดบางอย่าง ที่ทำให้กลายเป็นหนังรีไซเคิลหนังซอมบี้ที่ถูกหยิบยกไปเทียบชั้นกับหนัง
ซอมบี้คลาสสิคได้


+ไม่ว่าจะเป็นตัวเรื่องที่มีการเสียดสีการเมือง การปกครอง หรือสภาพสังคมให้ได้เก็บตกไปขบคิด . . นอกจากนี้ 28 Weeks Later ยังสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความน่าหวาดหวั่น มีกลิ่นอายของความไม่น่าไว้วางใจโชยกรุ่นไปทั่ว เป็นหนังที่ว่าในทุกช่วงนาทีของหนังนั้น ไม่มีช่วงไหนเลยที่ผู้ชมจะสามารถหายใจ หรือผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ . .


+ซึ่งสิ่งต่างๆที่ว่ามา ล้วนเป็นสิ่งที่ 28 Weeks Later สามารถเก็บเอาไว้ได้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเสียดสีการพยายามจะเข้าไปปกครองประเทศต่างๆของประเทศมหาอำนาจ ที่ต้องต่อสู้กับฝ่ายต่อต้านในประเทศนั้นๆ ซึ่งที่สุดแล้วก็แทบจะแยกแยะไม่ออกเลยว่าใครคือศัตรู และใครคือผู้บริสุทธิ์ . . กระทั่งท้ายที่สุด แม้แต่คนพวกเดียวกันแท้ๆ ก็ยังต้องกลายเป็นเหยื่อสังหาร รวมไปถึงการแปรสภาพจากเขตปลอดภัย ให้กลายเป็นลานประหาร ก่อนจะปิดท้ายด้วยการสังหารหมู่ หนังก็เสียดสีออกมาได้อย่างน่าหวาดหวั่นไม่ใช่น้อย . .


+และหนังยังสามารถเก็บเอาอารมณ์ และบรรยากาศในหนัง 28 Days Later มาใช้ได้ในแบบที่ไม่แพ้กัน ทำให้หนังดูอึดอัด และน่ากลัวในทุกๆวินาที และเมื่อบวกกับดนตรีประกอบที่ฟังดูหลอนๆ ล่องลอยด้วยแล้ว ถือว่าผู้กำกับอย่าง เฟรสดิลโล่ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว ..

+หนังไม่ลืมที่จะหยิบเอาภาพของ "ลอนดอน" ที่กลายมาเป็นภาพชวนช็อคของ 28 Days Later มาเล่นต่ออย่างได้ผล
ด้วยการให้เรื่องราวทั้งหมด เกิดขึ้นในกรุงลอนดอน "ทั้ง" เรื่อง ทำให้ภาพลอนดอนร้างกลายเป็นภาพที่เต็มไปด้วยความน่าหวาดกลัว ไม่ว่าจะเป็น "จุดสำคัญ" ต่างๆที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยี่ยมเยียน ไม่ว่าจะเป็นหอนาฬิกา บิ๊กเบน สถานีรถไฟใต้ดินใหญ่ๆ หรือแม้กะทั่งสนามเวมบลีย์ใหม่ ที่เต็มไปด้วยป่าหญ้ายาวรกเรื้อ . . สถานที่ที่เคยคารคร่ำไปด้วยผู้คน มีแสงสีเจิดจ้า กลับกลายเป็นสถานที่รกร้าง ไม่น่าไว้ใจ และไม่น่าไปที่สุด . .


+ฮวน คาร์ลอส เฟรสดิลโล่รับไม้ต่อจากแดนนี่ บอยล์ได้อย่างสมบูรณ์ ในแง่ของการสานต่อองค์ประกอบ และเสน่ห์ของหนัง แบบคนที่ "รู้จัก" 28 Days Later มากพอที่จะกล้าสานต่อเรื่องราว และน่าจะทำให้คนที่ชื่นชมกับความยอดเยี่ยมของ 28 Days Later รู้สึกดีไปกับ 28 Weeks Later ได้ แม้จะไม่เท่าเทียมกันก็ตาม แต่อย่างน้อย ก็ไม่ใช่ในแง่ของการที่ทำให้รู้สึกผิดหวัง . .


+ปัญหาที่ทำให้เป็นเช่นนั้น น่าจะหนีไม่พ้นกับพฤติกรรมการกระทำของตัวละครที่ชวนหงุดหงิดใจยิ่งนัก ทำให้หนังดูไม่น่าเชื่อถือไปบ้าง แต่หากดูหนังซอมบี้ หรือหนังแนวๆ มามากพอ ก็ยังจะพอรับได้กับการกระเช่นที่ว่าได้ (บ้าง) ซึ่งก็นั่นก็ปัญหาที่แค่ทำให้รำคาญ หรือว่าหงุดหงิดได้แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น เพราะในภาพรวมของหนัง 28 Weeks Later ก็ยังถือว่าทำออกมาได้ดี เอาคนดูได้อยู่หมัด และไม่ทำให้เครดิตดีดีที่มีมาจากหนังภาคแรกต้องสูญหายไป ..

+นี่คือหนังที่คอหนังซอมบี้ทุกคนต้องดูค่ะ และกับคนที่เคยผ่าน 28 Days Later มาแล้ว จะไม่อยากรู้เรื่องราวต่อจากนั้นเลยได้อย่างไร ให้ตายสิ!?

+ให้ 3 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว)

+ภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่เหมาะกับเด็ก และคนขวัญอ่อน เพราะหนังเต็มไปด้วยฉากการสังหารที่สยดสยอง น่าหวาดกลัว และเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ชวนอึดอัด ตึงเครียด ตลอดทั้งเรื่องค่ะ

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1287.html ค่ะ


QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ yoyo_55.gifเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ+

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 11 January 2010 - 06:16 PM.


#2 thiti2526

    นักเกมมือเซียนชั้นที่ 1

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3188 posts
  • Gender:Male

Posted 26 April 2008 - 11:01 PM

ผมว่าเรื่องนี้หนุกใช้ได้เลยครับ

ดูตอนที่เข้าโรงน่ะหล่ะครับ

#3 ~BusteR~

    You are not alone.

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3721 posts
  • Gender:Male
  • Interests:DGO BATTLE SYSTEM

Posted 25 May 2008 - 04:40 PM

b6b25dc6.gif พึ่งดูเมื่อวานนี้ครับ ตัวหนังก็ค่อนข้างสนุกครับ ไม่ค่อยจะมีตัวละครโง่ๆ มากนัก
แต่มุมกล้องบางทีดูแล้วเวียนๆ หัวไปหน่อยนะครับ แต่ก็โอเคดีครับ สะใจเล็กน้อยที่ตอน
สุดท้าย..อุ้ย.....เกือบไป 55318906.gif