`

Jump to content





รีวิวหนัง The Bourne Ultimatum - ปิดเกมล่า จารชนคนอันตราย


1 reply to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 25 April 2008 - 07:36 PM

The Bourne Ultimatum

-ปิดเกมล่า จารชนคนอันตราย-


"คืนความทรงจำ ชำระแค้นให้สิ้น"

+หนังภาคสรุปปิดท้ายของสุดยอดสายลับที่มีฝีไม้ลายมือร้ายกาจไม่เป็นรองใครในโลก
ภาพยนตร์ เรื่องราวของ Jason Bourne ที่กำเนิดมาจากปลายปากกาของ โรเบิร์ท ลัดลั่ม (ที่แม้ตัวหนังกับหนังสือแทบจะออกมาเป็นคนละเรื่องเดียวกันก็ตามที) . .


+หลังจากหนังภาคแรกที่เปิดตัวไปได้อย่างสวยงามโดย ดั๊ก ไลแมน กับ The Bourne Identity และสานต่อด้วยความยอดเยี่ยมโดย พอล กรีนกราสส์ใน The Bourne Supremacy . . การกลับมาทำงานร่วมกันกับแม็ทท์ เดม่อน และเรื่องราวของเจสัน บอร์นเป็นครั้งที่ 2 ในหนังตอนที่ 3 ที่เป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน และอาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำในแง่ของหนังภาคต่อทรงคุณค่า ย่อมทำให้เชื่อได้ว่าพฤติการณ์ตอนสุดท้ายของสายลับความจำเสื่อมอย่าง เจสัน บอร์น น่าจะปิดฉากลงได้อย่างสวยงาม . .


+แต่เมื่อได้ดูเข้าจริงๆแล้ว The Bourne Ultimatum ก็ยังมีจุดที่ดูแล้วไม่ได้สวยงามอย่างที่ใครๆคิด สาเหตุประการหนึ่งก็คือความที่ "เรื่อง" ของหนังไม่ได้ยืดยาวอะไรสำหรับการทำเป็น 2 ชั่วโมง กับเนื้อหาที่ว่าด้วยการตามหาจุดกำเนิดของตัวเองของเจสัน บอร์น ที่ถูกกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังของปฏิบัติการณ์เทรดสโตน ซึ่งในตอนนี้ได้ถูกปรับกระบวนการเป็นปฏิบัติการณ์แบล็คไบรอาไปแล้วนั้นหาทางเก็บ เพื่อปกปิดความผิดพลาดและรักษาความลับของตนเอง

+โดยการลากบอร์นให้ออกมาอยู่ในจุดที่ตัวเองสามารถคุมเกมได้ งานนี้ตกอยู่ภายใต้การดูแลของรองผอ. CIA อย่างโนอาห์ โวเซ่นขณะที่แพม ซึ่งดูจะเป็นคนเดียวที่บอร์นพยายามหาทางติดต่อด้วยก็ถูกส่งตัวเข้ามาช่วยภาระกิจนี้
ด้วยจุดประสงค์บางอย่าง . .


+ใช่แค่ว่าเนื้อเรื่องภาคนี้มีไม่มาก แต่ความซับซ้อนของพล็อตก็ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรมากมาย และพล็อตรองที่ถูกใส่เข้ามา ก็เป็นเรื่องที่คาดเดาถึงจุดมุ่งหมายได้ไม่ยากเมื่อหนังเดินเรื่องไปได้สักระยะหนึ่ง .. อย่างเช่นสาเหตุที่แพม (โจน อัลเลน) ถูกส่งเข้ามาร่วมปฏิบัติการณ์ตามล่าเจสัน บอร์นในครั้งนี้ด้วย .. ส่วนบทสรุปของเรื่องราวก็ออกจะดูง่าย ไม่ได้เป็นเงื่อนปมอะไรเลยด้วยซ้ำ


+ด้วยความที่ทุกอย่างมีน้อยขนาดนี้ จึงไม่แปลกที่จะรู้สึกว่า The Bourne Ultimatum มีบางช่วงบางจังหวะดูเนิ่นนานเกินความจำเป็นให้เห็น โดยเฉพาะกับฉากไล่ล่าที่หลายๆฉาก รู้สึกได้เลยว่าลากยาวกันเกินเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ในช่วงต้นเรื่องอย่างสถานีรถไฟ วอเตอร์ลู หรือว่าที่แทนเจียร์ .. ซึ่งความยาวที่มากเกินไปก็ทำให้รู้สึกว่าหนังอืดๆ หรือยืดจนเกินเหตุ


+เลยอดคิดไม่ได้ว่าถ้าตัดหลายๆ ฉากออกไปบ้าง บางทีเรื่องราวของ The Bourne Ultimatum อาจจะรวมเข้าไปกับหนังภาค 2 อย่าง The Bourne Supremacy ได้ โดยอาจจะเพิ่มความยาวของหนังเป็นสัก 3 ชั่วโมง ไม่ใช่แยกเป็นหนังสองเรื่องอย่างที่เห็น . . แล้วหากจะว่ากันจริงๆ หนังเองก็หย่อนความน่าเชื่อถือของเหตุการณ์ หรือของตัวละครในเรื่องในชนิดที่ว่าเป็นจุดโหว่ของบทได้สบายๆเลย และมีไม่ใช่น้อยอีกต่างหาก . .


+แต่นับว่ายังดีที่หนังเรื่องนี้อยู่ในการดูแลของยอดผู้กำกับอย่าง พอล กรีนกราสส์ และทีมเขียนบทที่มีความเก๋าในระดับหนึ่ง The Bourne Ultimatum เลยไม่ถึงกับจืดชืดไม่มีรสชาติ อย่างน้อยที่สุด หนังยังมีความน่าตื่นเต้น น่าติดตาม ไม่ว่าจะเป็นความตื่นเต้นจากฉากแอ็คชั่นไล่ล่าต่างๆ ที่หนังทำออกมาได้อย่างหนักแน่น จริงจัง มุมกล้องและดนตรีประกอบที่บีบหัวใจ ตลอดตนการตัดต่อที่รวดเร็ว ฉับไว ล้วนส่งอารมณ์คนดูให้เกิดความรู้สึกร่วมลุ้นระทึกไปด้วยได้


+โดยเฉพาะกับลูกเล่นการใช้กล้องพกพาซึ่งตามเกาะติดไปกับตัวละครด้วยในฉากแอ็คชั่น ยิ่งทำให้อารมณ์ในฉากแอ็คชั่นดูราวกับเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าจริงๆ หรือเหมือนกับเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ เพราะกับภาพที่ออกมาทำให้คนดูรู้สึกเหมือนกับกำลังดูภาพข่าวสดที่เจาะเข้าไปในสถาน
ที่เกิดเหตุจริงๆ . .

+ขณะที่คิวบู๊ที่ใช้ในเรื่องก็ดูสมจริง หนักแน่นแบบดิบๆ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดขายและจุดเด่นของหนังมาตั้งแต่ภาคแรกอยู่แล้ว เมื่อรวมเข้ากับการวางสถานการณ์ที่เน้นให้เห็นถึงลูกล่อ ลูกชน เหลี่ยมมุม ไหวพริบ ปฏิภาณความสามารถของเจสัน บอร์น ก็ยิ่งทำให้หนังดูสนุกมากขึ้น


+อย่างฉากที่เล่นแง่เอาล่อเอาเถิดกับโวเซ่น ที่บอร์นเองใช้แพมมาเป็นนางนกต่อ โดยที่เธอเอง (อาจจะ) ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่จะตลบหลังโวเซ่นได้อย่างเจ็บแสบ ซึ่งจะว่าไปแล้วนี่คือเสน่ห์เฉพาะตัวของเจสัน บอร์น ที่ทำให้เขาต่างไปจากสายลับคนอื่นในโลกภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ "สมอง"


+ตัวหนังในภาพรวม แม้จะมีรายละเอียดให้ได้ไม่เยอะ แต่ก็มีความน่าติดตามอยู่ในตัว อย่างน้อยที่สุดแม้จะพอเดาได้ถึงบทสรุป แต่ก็ยังทำให้คนดูรู้สึกอยากเห็นฉากนั้นๆกับตา ด้วยการค่อยๆเผยความเป็นจริงที่เกิดขึ้นมาให้เห็นเป็นระยะๆ ที่ทุกครั้งสิ่งที่เห็นก็มากขึ้นๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้กระจ่างชัด บางครั้งกลับทำให้ดูคลุมเครือมากขึ้นไปกว่าเดิมด้วยซ้ำ . .


+หนังไม่มีอารมณ์ขันอยู่ในตัวเลยแม้แต่นิดค่ะ และก็ไม่มีบทสนทนาพยายามคม หรือเก๋มาทำให้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด .. พอล กรีนกราสส์ยังคงนำ "สไตล์" เฉพาะตัวมาใช้กับหนังได้อย่างดีเหมือนเช่นเคยค่ะ และยังคงรักษาธีมขึงขัง จริงจังของเรื่องเอาไว้ตลอด นับตั้งแต่หนังภาคแรกที่เป็นฝีมือกำกับของดั๊ก ไลแมนค่ะ


+ถึงจะไม่ได้เดินตามรอยนวนิยาย ชนิดมาแบบคนละเรื่องเดียวกัน แต่กับ The Bourne Ultimatum ก็นับได้ว่าเป็นบทสรุปปิดท้ายที่สมบูรณ์ สำหรับพฤติการณ์ของเจสัน บอร์น สายลับความจำเสื่อม ที่แปรสภาพจากสุดยอดเดี่ยวมือ 1 กลายมาเป็นเป้าสังหารอันดับ 1 ขององค์กร และต้องพยายามค้นหาที่มา ตลอดจนตัวตนของตัวเองให้เจอ


+เพียงแค่นี้ ก็ทำให้หนังมีความน่าติดตาม และมีคุณค่าในตัวเอง มากพอจะเสียเวลา และเงินในกระเป๋าเข้าไปดู โดยเฉพาะกับคนที่รับรู้เรื่องราวของเจสัน บอร์นมาครบทั้ง 2 ภาคก่อนหน้าค่ะ . . จัดว่าพลาดไม่ได้ เพราะนี่คือหนังของสายลับที่ว่ากันว่าดีที่สุดในโลกภาพยนตร์ค่ะ .. คิดอย่างนั้นไหมคะ? .. Bond . .


+ให้ 3 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) 4412144b.gif 967339c1.gif

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1319.html และ http://movies.about.com/od/thebourneultima...timatum-Photos/ ค่ะ

+The Bourne Ultimatum Trailer+
http://www.youtube.com/watch?v=reotzNITIeQ

QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ yoyo_55.gifเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ+

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 11 January 2010 - 07:11 PM.


#2 t.EXIT

    นักเกมมือเซียนชั้นที่ 2

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3948 posts
  • Gender:Male

Posted 08 May 2008 - 11:30 AM

สำหรับผมผมให้9/10
เพราะว่าฉากที่แทนเจียร มันยืดเยื้อจริงๆครับ