QUOTE
-บทความด้านล่างนี้ เผยรายละเอียดบางส่วนของเนื้อเรื่อง กรุณารับชมก่อนคลิกอ่าน-
+จากบทกลอนความยาว 3,000 ประโยค บอกเล่าถึงนักรบไวกิ้งหนุ่มผู้็แข็งแกร่ง นามว่า "เบวูล์ฟ" วีรบุรุษผู้ปราบสัตว์ประหลาดจากศตวรรษที่ 6 กลายมาเป็นหนังอะนิเมชั่น-แฟนตาซี ที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของเทคนิคด้านภาพ และสไตล์ในการเล่าเรื่อง . . .
+บทหนังของนีล ไกแมน และโรเจอร์ อะเวรี่ เปิดเรื่องด้วยงานเลี้ยงฉลองในยามค่ำยืนของกษัตริย์ชราแห่งอาณาจักณเดนมาร์คโบราณ "ฮร็อธการ์" (แอน
โธนี่ ฮ็อพกิ้นส์) ทุกผู้คนในงานต่างดื่มกินและเต้นรำกันอย่างสนุกสนานในโรงเหล้าที่เพิ่งสร้างขึ้นมา
ใหม่
+ทว่า . . เสียงดังจากงานเลี้ยงทำให้อสูรรูปร่างหน้าตาอัปลักษณ์ตนหนึ่ง (คริสพิน โกลเวอร์) โกรธ จนต้องบุกเข้ามาทำลายงานเลี้ยง และสังหารผู้คนอย่างเหี้ยมโหด "เกรนเดล" คือชื่อของมัน . .
+เกรนเดลเกลียดการส่งเสียงดัง มันเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้ยินเสียงแบบนี้ จึงต้องออกมาอาละวาดทำร้ายผู้คน มีเพียงฮร็อธการ์คนเดียวเท่านั้นที่
เกรนเดลไม่ได้แตะต้อง . . บัดนี้ ทั่วทั้งอาณาจักรเดนมาร์คตกอยู่ในความหวาดหวั่น . . .
+วันรุ่งขึ้น พระราชาเฒ่าสั่งปิดโรงเหล้าทันที พร้อมกับป่าวประกาศเชิญผู้กล้ามาปราบปรามปีศาจร้าย .. แต่แล้วผู้กล้าก็มาเยือน เมื่อนักรบหนุ่มผู้กล้าชาวไวกิ้ง "เบวูล์ฟ" (เรย์ วินสโตน) พร้อมนักรบคู่ใจจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาอาสาปราบอสูรร้ายให้ ..
+เบวูล์ฟเตรียมการล่อให้เกรนเดลปรากฎตัวด้วยการสั่งเปิดโรงเหล้าและจัดงานฉลองอีก
ครั้ง . . คืนนั้นเกรนเดลก็ออกมาอาละวาดตามที่คาด เบวูล์ฟทำการต่อสู้กับเกรนเดลอย่างกล้าหาญ และได้กระชากแขนของมันจนขาด เกรนเดลหนีซมซานกลับไปยังถ้ำ และตายในอ้อมอกของ"นางพญาปีศาจ" แม่ของมัน (แอนเจลิน่า โจลี่)
+เมื่อลูกชายสุดรักตายจากไป นางปีศาจคลั่งแค้นและต้องการจะเอาคืน เธอจึงบุกไปยังปราสาทโดยแฝงกายมากับความมืด แล้วมอบความตายให้กับเพื่อนไวกิ้งของเบวูล์ฟ . . เป็นไปตามแผน เบวูล์ฟบุกไปยังถ้ำของเธอ และอย่างที่เห็นกันมาจากหนังตัวอย่าง นางปีศาจยั่วยวนเขา!?
+เบวูล์ฟกลับมาปราสาทในฐานะวีรบุรุษผู้พิชิตปีศาจ โดยมีหัวของแกรนเดลเป็นตราประกัน . . ในค่ำคืนเลี้ยงฉลองชัยชนะ กษัตริย์ฮร็อธการ์ทรงแต่งตั้ง
เบวูล์ฟขึ้นเป็นรัชทายาท สืบอำนาจดูแลราชอาณาจักร พร้อมกับมเหสีคนงาม "เวลโธรว์" (รอบิน ไร้ต์ เพนน์) และในคืนนั้นเอง พระองค์ก็สิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน!?
+50 ปีต่อมา เบวูล์ฟกลายสภาพเป็นกษัตริย์ชราผู้เป็นตำนาน ผู้ต้องทำศึกใหญ่อีกครั้ง ศึกที่พระองค์จะต้องจดจำไปตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิต เพราะอาณาจักรของพระองค์ถูกรุกรานโดยมังกร!! บทสรุปของหนังไม่ยากเหนือความคาดเดา แต่เงื่อนงำบางอย่างที่หนังทิ้งไว้ให้ไปขบคิดต่อ ตรงนี้แหล่ะที่น่าสนใจ . . .
+เทคนิคพิเศษด้านภาพ "เพอร์ฟอร์แมนซ์ แค็ปเจอร์" ที่ผู้กำกับโรเบิร์ต เซเม็คคิส เคยใช้มาแล้วในงานอะนิเมชั่นเรื่องก่อนอย่าง The Polar Express ก้าวไกลระดับสุดยอด ภาพของนักแสดงที่ผ่านการปรับแต่งให้ดูเหมือนตัวละครในหนังอะนิเมชั่น หรือเกมคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ ให้อารมณ์สมจริง แนบเนียน เสมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกเดียวกับเบวูล์ฟอย่างไงอย่างงั้น . .
+และด้วยเทคนิคภาพเสมือนจริง แต่ไม่จริงนี้ ช่วยลดความรุนแรงทั้งหลายในฉากแอ็คชั่น จำพวกฉีกร่าง กระชากแขน ฯลฯ ให้อยู่ในระดับเดียวกับหนังการ์ตูนได้ดีทีเดียว . . นอกจากนี้ยังทำให้ภาพเรือนร่างสีทอง ผ่องอำไพ สุดเปลือยเปล่าของ
แอนเจลิน่า โจลี่ ในมาดนางพญปีศาจ (กิ้งก่า!?) ไม่เข้าข่ายล่อแหลม อนาจารแต่อย่างใด แต่กลับเข้าข่ายในระดับสร้างงานศิลปะด้วยซ้ำไป (^ ^)
+แอนเจลิน่า โจลี่ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี สมกับที่เซเม็คคิสรับประกันว่าไม่มีใครแสดงบทนางปีศาจร้าย แม่ของแกรนเดลได้ดีเท่ากับเธอ . . หุ่นแสนเซ็กซี่ของโจลี่ ฟิต เฟิร์ม มีเสน่ห์เกินห้ามใจแม้จะมีหางก็ตาม ทั้งยังดูลึกลับ เจ้าเล่ห์ ร้ายกาจ และมีรังสีอำมหิต สมราคาอย่างยิ่งกับการเป็นนางปีศาจ แต่ก็ยังไม่ทิ้งระดับคุณภาพของการแสดง อย่างการถ่ายทอดความเจ็บปวดรวดร้าวของแม่ที่สูญเสียลูกชาย ผ่านเสียงร้องโหยหวนออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม . . .
+คริสพิน โกลเวอร์ ผู้รับบทแกรนเดล สัตว์ประหลาด ลูกครึ่งมนุษย์กับปีศาจ ผลผลิตของสัมพันธ์รักต่างสายพันธุ์ ผู้มีชีวิตโดดเดี่ยว มีเพียงแม่เป็นเพื่อน และให้ความรัก การแสดงที่มีมิติของโกลเวอร์ ทำให้ภาพแกรนเดลที่แม้จะอัปลักษณ์ และน่าเกลียดน่ากลัว ดูเป็นเด็กน้อยที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว เพราะมีปมด้อย ชวนเวทนา หรือสงสารเสียมากกว่าด้วยซ้ำ . . .
+แอนโธนี่ ฮ็อฟกิ้นส์ ในบทของกษัตริย์ชราฮร็อธการ์ ขึ้นจอในมาดชวนสังเวชในสังขาร แต่ภายใต้สังขารที่ชวนให้สังเวช ก็ซ่อนปมวาระซ่อนเร้นบางอย่างให้เป็นปริศนาเช่นกัน ด้วยฝีมือระดับนี้ (ลุง) ฮ็อฟกิ้นส์ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างที่ควรจะเป็น . .
+ส่วนรอบิน ไร้ต์ เพนน์ ในบทราชินีผู้เลอโฉม "เวลโธรว์" ดูช่างคล้ายคลึงกับเจ้าหญิงฟิโอน่าจาก Shrek ก็ไม่ปาน และเป็นเหมือนตัวละครหญิงทั่วไปในแหนังแนวๆนี้ คือเป็นแค่บำเหน็จรางวัลสำหรับพระเอกผู้กล้าเพียงเท่านั้น . . ไม่ต่างไปจากจอห์น มัลโควิช ในบทอันเฟิร์ธ คนสนิทของราชาฮร็อธการ์ ซึ่งก็ทำหน้าที่ดาราสมทบได้ในระดับเดียวกับที่เคยเห็นกันมาในหนังก่อนๆหน้านี้ . . .
+เรย์ วินสโตน พระเอกของเรื่องผู้รับบท "เบวูล์ฟ" ขึ้นจอในมาดขุนศึกยอดนักรบ ผู้วางมาดเหี้ยมอยู่ตลอดเวลา แต่เบื้องลึกเบื้องหลังมาดเหี้ยมเกรียม ดุดันนั้น ซ่อนความรู้สึกผิดบาปที่ตนก่อเอาไว้ การแสดงของวินสโตน ทำให้เบวูล์ฟผู้เป็นวีรบุรุษ กลายเป็นปุถุชนที่มีกาีรหลงผิด เป็นผู้กล้าที่มีข้อบกพร่องได้เป็นอย่างดี . . .
+หนังแทรกมุขตลกร้าย และการใช้ภาษาสองแง่สองง่ามตลอดทั้งเรื่อง และในบรรดาฉากที่ว่า ที่มีความโดดเด่นระดับน่าจดจำก็คือ ฉากการต่อสู้ระหว่างเบวูล์ฟกับแกรนเดลที่โรงเหล้า ที่หนังใช้องค์ประกอบศิลป์ของภาพ วางลูกเล่นบดบังอวัยวะความเป็นชายของเบวูล์ฟผู้อยู่ในชุดอาบลมห่มฟ้า ด้วยบรรดาของประกอบฉากอย่าง แท่งเทียน เสาบ้าน และคมหอกได้อย่างมีชั้นเชิง และเป็นศิลปะยิ่งนัก ทั้งยังดูชวนหัวหัวชวนฮาได้ไม่แพ้กันทีเดียว . . .
+ว่ากันว่าบทกวี (วรรณคดี) Beowulf นั้นไม่สนุกเอาเสียเลย และอ่านยาก เพราะใช้ภาษาโบราณ ทว่าเมื่อกลายเป็นหนังแล้วกลับดูสนุก ตรงนี้เห็นได้ชัดว่าคนเขียนบท (นีลไกแมน และโรเจอร์ อะเวรี่) น่าจะต้องเก่ง เพราะสามารถทำเรื่องที่น่าเบื่อมาขยายความ จนกลายเป็นหนังที่ดูสนุกเรื่องหนึ่ง แล้วเซเม็กคิสก็นำบทหนังดีๆมาสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวจริงๆได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
+ประเด็นหลักที่คมคาย ว่าด้วยด้านมืดของวีรบุรุษ ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งผู้มีกิเลส และตัณหา หากดูจากพฤติกรรมของเบวูล์ฟที่ผ่านมา โดยการแอบปิ๊งเมียผู้ว่าจ้าง ขี้คุย และนิสัยอื่นๆที่ปรากฎในหนัง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่ฮีโร่ในอุดมคติแน่นอน และจากเหตุผลที่ว่ามา Beowulf จัดเป็นกลุ่มหนังขายความบันเทิง แฝงสาระ แง่คิด และไม่ใช่หนังสำหรับเด็กๆ ด้วยประการทั้งปวงค่ะ . . .
+ให้ 3 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว)
+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1388.html ค่ะ
QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+ +
+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ+
QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ
+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ
+ดูหนังให้สนุกนะคะ+
Edited by rbgel, 11 January 2010 - 08:48 PM.