`
←  DGO Living Room : ห้องนั่งเล่น
Logo
»

มนุษย์ตกงานหมด.. แล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้ครับ

kirari's Photo kirari 15 Oct 2017

ทุกวันนี้ก็เกิดขึ้นแล้ว
หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเข้ามาแทนตำแหน่งงานมากมาย
ทางที่เห็นในชีวิตประจำวันและในระบบอุตสาหกรรม

คนรุ่นก็มีแนวโน้มจะครอบครองสิ่งของน้อยลง
มิวสิคก้อสตรีมมิ่ง รถก็แกรบ ที่พักก้อแชร์ริ่งกัน
วงการก่อสร้างที่ผมทำ
คนก็ปลูกใหม่/ซื้อใหม่น้อยลงไป

ันนี้ชวนคุยในสเกลแบบอีกหลายๆๆสิบปีข้างหน้านะครับ

Quote

onetwoshow's Photo onetwoshow 15 Oct 2017

ก็ ทำตัวเองให้มีความสามารถกว่าหุ่นยนตร์ครับ
Quote

licker's Photo licker 15 Oct 2017

ปลูกข้าวปลูกผักกินเอง ไม่อดตาย
Quote

rufast's Photo rufast 15 Oct 2017

หาที่ให้ได้สัก 10 ไร่ แล้วก็ปลูกพืช ทำเกษตรกรรมผสมผสาน
Quote

umbababa's Photo umbababa 15 Oct 2017

หุ่นยนต์มาชดเชยแรงงานขั้นต่ำนิครับ ชนชั้นล่างก็ต้องพัฒนาตัวเองให้มาทำงานระดับเดียวกับชนชั้นกลาง ชนชั้นกลางก็ต้องดิ้นรนไปทำงานระดับเดียวกับชนชั้นบน
Quote

kitti's Photo kitti 15 Oct 2017

ผมว่าเราเองนั้นละที่เรียกร้องแรงงานขั้นต่ำให้สูงจนเจ้าของธุรกิจแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ได้ ก็ต้องพึ่งเครื่องจักรมากขึ้น ปีหน้าหนักกว่านี้เเน่
Quote

godkap's Photo godkap 15 Oct 2017

View Postkitti, on 15 October 2017 - 08:43 PM, said:

ผมว่าเราเองนั้นละที่เรียกร้องแรงงานขั้นต่ำให้สูงจนเจ้าของธุรกิจแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ได้ ก็ต้องพึ่งเครื่องจักรมากขึ้น ปีหน้าหนักกว่านี้เเน่

เห็นด้วยอย่างแรงครับ จากใจผู้ประกอบการ ขายได้บางทีเงินจ่ายค่าลูกน้องต่อวันยังไม่พอเลย
Quote

nongomyim's Photo nongomyim 15 Oct 2017

ก็ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอครับ

เรามีปัญหาเรื่องบุคลากรที่ขาดวิสัยทัศน์ คิดแค่ต้องการเงินให้มากพอตามค่าครองชีพที่สูงขึ้น
แต่ไม่คิดจะเพิ่มศักยภาพตัวเองให้มีความสามารถเพื่อเพิ่มรายได้ จึงมีแต่เรียกให้เพิ่มเงินเดือนกับความสามารถเดิมๆ

ฉะนั้นต้องยกระดับตัวเองอยู่เรื่อยครับ
Quote

ping99's Photo ping99 16 Oct 2017

ระบบจะพัฒนาเข้าไปใกล้ระบอบคอมมิวนิสต์ แต่มี สวัสดิการสังคมครับ

เดิมที่ระบอบคอมมิวนิสต์จะให้รัฐเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต คนมีหน้าที่เป็นแรงงาน ทำงาน แล้วผลผลิตกลายเป็นของส่วนรวม แล้วปันส่วนออกมา ใช่ไหมครับ

แต่ระบบที่ใช้คนทำงาน เมื่อคนทำแล้ว ของที่ได้เข้าส่วนรวมหมด ทำให้คนไม่ขยัน เพราะทำมาก ขยัน ก็ได้เท่าเดิม ทำให้ระบอบเศรษฐกิจคอมมิวนิสต์แบบเดิมไร้ประสิทธิภาพ และล่มสลายไป

แต่มายุคหุ่นยนต์ ที่ทำงานได้มาก ไม่มีเฉื่อยงาน ทำมากน้อย แล้วแต่คนสั่ง

ต่อไป คนจะตกงานมากๆ เพราะหุ่นยนต์เข้ามาทำงานแทนหมด

คนเป็นทั้งแรงงาน และเป็นทั้งตลาด คือเป็นทั้งคนทำงาน และเป็นคนที่ใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อของ

ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ ของก็จะขายได้น้อยลง เพราะคนก็ไม่มีรายได้ไปซื้อ

สุดท้าย ภาครัฐ ต้องขึ้นภาษีบริษัทที่เอาหุ่นยนต์มาใช้สูงๆ เพื่อเอาเงินเหล่านี้ มาจ่ายเป็นเงินเดือนขั้นต่ำให้กับทุกๆคนที่ไม่มีรายได้ เพื่อให้มีรายได้ขั้นต่ำมาใช้จ่าย

หรือถ้าพัฒนาไประดับสูงสุดคือ ภาครัฐลงทุนในหุ่นยนต์เหล่านี้เองทั้งหมด แล้วจัดระบบจัดการบริหาร เพื่อผลิตสินค้าและบริการออกมาเอง

ปัญหาด้อยประสิทธิภาพจากการเฉื่อยงานของแรงงานในระบอบคอมมิวนิสต์เดิม จะหายไปเมื่อเข้าระบบหุ่นยนต์

สรุปคือ อนาคต รัฐต้องมีเงินเดือนขั้นต่ำจ่ายให้ฟรีๆ แต่ระบบเศรษฐกิจก็ยังคงมีสินค้าให้บริโภค เพราะผลิตด้วยหุ่นยนต์ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ถ้าไม่ทำอย่างนี้ คนที่ตกงานจะก่อหวอดประท้วง ก่ออาชญากรรม ทำให้เกิดปัญหาสังคม และการเมืองในที่สุด

ผมอยากชวนคุยเรื่องวงการก่อสร้างที่คุณบอกด้วย

มีคนบอกว่า trend ของคนรุ่นใหม่คือไม่ซื้อบ้าน (เพราะมันแพงมาก เมื่อเทียบกับรายได้ของเขา)

ทำให้คนอาศัยกับพ่อแม่แบบเดิมๆ หรือใช้การเช่าเอาแทน ตามข้อมูลนี้

http://www.papaidoo.com/news/561
Edited by ping99, 16 October 2017 - 12:43 AM.
Quote

denorest's Photo denorest 16 Oct 2017

งานหลายๆอย่างไม่มีทางทำได้ดีกว่าเครื่องจักรครับ โดยเฉพาะระบบประมวลผลหรือระบบปัญญาประดิษฐ์ปัจจุบันมันก้าวหน้าไปเร็วมาก
ไม่ต้องไปดูไกลๆดูโทรศัพท์ตัวเองได้เลยครับ เดี๋ยวนี้มี AI assistance กันหมดแล้ว และแนวโน้มการพัฒนาแบบก้าวกระโดดยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

อย่างที่ US ในอนาคตอันใกล้พวกคนขับรถบรรทุกขนของและรถโดยสารบางชนิดน่าจะเริ่มโดนเครื่องจักรแย่งงานแล้ว บริษัทใหญ่ๆลงทุนเรื่องนี้กันเยอะเพื่อลดต้นทุน ลดปัญหา และทำให้จัดการง่ายขึ้น
พวกงานระดับสูงก็ไม่รอด ขนาดพวกคนดูแลกองทุนทั้งหลายก็เริ่มหนาวๆร้อนๆกันแล้ว เพราะปัญญาประดิษฐ์เริ่มที่จะเก่งเท่าหรือเก่งกว่าในบางเรื่องแล้ว เพราะคิดและตัดสินใจเร็วกว่า ตัดcostลดrisk ได้รวดเร็ว แถมประหยัดไม่ต้องแจกโบนัส6-9หลักให้คนดูแลกองทุนแล้ว
หรือขนาดโสเภณีก็ยังมี SEX bot ที่แว่บๆออกมาเรื่อยๆ Call centerเอง ก็โดน Chat bot เบียดบังงานบ้างแล้ว
หรือจะให้เห็นง่ายๆก็ McDonald ที่ลดจำนวนลูกจ้างแล้วใช้ระบบอัตโนมัติเองอย่างเช่นป้ายสังอาหารเอง หุ่นยนต์ย่างเนื้อ etc.
แม้แต่เพลงก็โดนปัญญาประดิษฐ์ไปวุ่นวานอยู่นานแล้วด้วย แต่ก่อนก็ให้ร้องเพลงแทน[พวก Vocaloid ] แต่เดี๋ยวนี้เขาใช้ปัญญาประดิษฐ์แต่งทำนองเองแล้ว โดยให้มันเรียนจากทำนองต่างๆบนอินเตอร์เนท

ยังดีที่น่าจะยังมีเวลาเหลือพอก่อนที่มันจะมารุกรานงานในธุรกิจขนาดเล็ก-ย่อย และในประเทศแบบเราๆก็คงจะต้องนานออกไปอีก แถมคนส่วนใหญ่น่าจะยังไม่อยากฝากชีวิตไว้กับเครื่องจักร จึงยังน่าจะไม่ต้องกังวลใน 5 - 10 ปีนี้นะครับ
ส่วนตัวผมคงไม่หวังไปสู้เครื่องจักรครับ เพราะหวังชนะคนด้วยกันที่เขาจะจ้างคอยไปดูหรือตรวจสอบว่าเครื่องจักรทำงานพลาดหรือเพื่อเครื่องจักรเสียจะง่ายกว่านะครับในความเห็นผม

ส่วนที่ว่าต่อไปจะอยู่ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ถ้าไปถึงขนาดที่หุ่นยนต์แย่งงานคนไปมากๆแล้ว ผมก็เดาว่าคงจะต้องเป็นแบบ universal basic income กระมั้ง

แต่ยังดีที่ครอบครัวผมมีพื่นที่ทำสวน อย่างน้อยก็ไม่อดตายตอนแก่ ฮ่าๆ
Quote

chock's Photo chock 16 Oct 2017

ญี่ปุ่นเจริญขนาดไหนก็ต้องใช้คนทำงานบางอย่างอยู่ดี กว่าจะถึงตอนนั้นจริงๆก็อีกหลายร้อยปีมั้งครับ
Quote

godkap's Photo godkap 16 Oct 2017

View Postchock, on 16 October 2017 - 03:05 AM, said:

ญี่ปุ่นเจริญขนาดไหนก็ต้องใช้คนทำงานบางอย่างอยู่ดี กว่าจะถึงตอนนั้นจริงๆก็อีกหลายร้อยปีมั้งครับ

ผมว่าเทรน หุ่นยนต์ แบบในหนัง i robot คงอีกไม่เกิน10ปีครับ
Quote

eicqx's Photo eicqx 16 Oct 2017

อีกนานคับ สำหรับบ้านเรา ตอนนี้ขอแค่ 2.0 ขึ้นไปให้ได้ก่อนก็ดีแล้วครับ พึ่งพาตนเอง กับเศรษฐกิจพอเพียงดีที่สุดครับ
Quote

tewbc's Photo tewbc 16 Oct 2017

บ้านเราอีกซัก 2-3 รุ่นคน..ครับ
Quote

BobbY_MugeN's Photo BobbY_MugeN 16 Oct 2017

คิดไม่ออกจริงๆ ถึงตอนนั้นคงต้องทำ youtube channel ซักช่อง ทำ content ดีๆ หาเงินใช้ไปพลางๆ หุหุ
Quote

9th TEARDROP's Photo 9th TEARDROP 16 Oct 2017

ปัญหาทั้งหมดมีรากเหง้ามาจาก ปัญหาที่คนทั่วโลกไม่อยากพูดถึง เพราะไม่รู้จะแก้ยังไง
นั่นคือ 'ปัญหาประชากรล้นโลก'

เมื่อ 2-3ปีก่อน ผมไปเจอความจริงอันน่าตกใจอันนึงขณะหาข้อมูลด้านประวัติศาสตร์
'การก้าวกระโดดของจำนวนประชากรโลก' ที่เพิ่มขึ้นเร็วเว่อจนถึงขั้นฉิบหายกันในเร็วๆนี้
เร็วยิ่งกว่าโลกร้อน ยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ดับ อุกาบาตชนโลก

ทุกคนคงทราบว่าขณะนี้โลกเรามีประชากร 7,000ล้านเนอะ
ครึ่งนึงของ 7,000ล ก้คือ 3,500ล

ตั้งแต่กำเนิดมนุษย์ขึ้นมาบนโลก มนุษย์ใช้เวลาในการปั๊มประชากรมนุษย์คนที่ 1 - 3,500,000,000
มนุษย์ใช้เวลาทั้งสิ้น 200,000ปี (หรือถ้าจะนับตั้งแต่มีอารยธรรมก็ 6,000ปี)
กล่าวคือตั้งแต่เกิดโฮโมเซเปี้ยน มนุษย์ถ้ำคนแรก - ปีคศ.1960

แล้ว 3,500ล หลังล่ะ???
ใช่แล้วครับ!! เราใช้เวลาแค่ 60ปี ในการปั๊มประชากรตั้งแต่คนที่ 3,500,000,0001 จนถึงคนที 7,000,000,000
ก็ตั้งแต่ปี 1961 - ปัจจุบัน

บ้ามั้ยครับ.. 200,000ปี กับ 60ปี
คำถามคือ แล้วอีก 60ปี เราจะทบไปอีกเท่าหรือไม่

ถ้ามะเร็งคือ เซลล์ที่เจริญเติบโตผิดปกติ..
คำกล่าวที่ว่ามนุษย์เราคือมะเร็งของโลกใบนี้เห็นทีจะปฎิเสธไม่ได้ซะแล้ว

พอดีผมจำไม่ได้แล้วว่าหาข้อมูลมาจากไหน ขี้เกียจไปเซิจ แต่ตามนี้ล่ะไม่มั่ว แชร์ได้ 555

edit
อ่ะ อ้างอิงหน่อยก็ได้ มันดูเว่อๆไงไม่รู้ เพื่อความมั่นใจ
ข้อมูลอัตราประชากรโลกในแต่ละปี
http://www.ecology.c...ates-year-2050/
Edited by 9th TEARDROP, 16 October 2017 - 05:12 PM.
Quote

umbababa's Photo umbababa 16 Oct 2017

เรื่องมนุษย์ล้นโลกจนทรัพยากรไม่พอ เดี๋ยวก็เกิดสงครามลดจำนวนประชากรไปเองล่ะครับ
พอคนตายไปครึ่งค่อนโลกแล้วมนุษย์ค่อยกลับมารักกันใหม่
ที่ว่ามนุษย์ไม่เคยเรียนรู้อะไรจากสงครามเลยน่ะ ไม่ใช่หรอก แต่เพราะมันถึงเวลาจำเป็นก็ต้องทำมากกว่า
หวังว่าคงโชคดีให้ผมแก่ตายก่อนนะ
Quote

godkap's Photo godkap 16 Oct 2017

View Postumbababa, on 16 October 2017 - 06:33 PM, said:

เรื่องมนุษย์ล้นโลกจนทรัพยากรไม่พอ เดี๋ยวก็เกิดสงครามลดจำนวนประชากรไปเองล่ะครับ
พอคนตายไปครึ่งค่อนโลกแล้วมนุษย์ค่อยกลับมารักกันใหม่
ที่ว่ามนุษย์ไม่เคยเรียนรู้อะไรจากสงครามเลยน่ะ ไม่ใช่หรอก แต่เพราะมันถึงเวลาจำเป็นก็ต้องทำมากกว่า
หวังว่าคงโชคดีให้ผมแก่ตายก่อนนะ

ฟังแล้วหดหู่จัง ต้องแต่เกิดมาผมยังไม่เคยปั้มลูกเลยผมผิดอะไร
Quote

nongomyim's Photo nongomyim 17 Oct 2017

ผมว่าเรื่องประชากรล้นโลกอาจไม่ใช่ปัญหาก็ได้นะ
เพราะปัจจุบันคนเริ่มตระหนักเรื่องการแต่งงานและการมีลูก
คนเป็นโสดก็มากขึ้น เพราะสภาพเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดความไม่พร้อมในการสร้างครอบครัว
จึงเป็นอย่างที่เห็นๆกันตอนนี้ ที่หลายประเทศกำลังพูดถึงสังคมผู้สูงอายุ
Quote