`

Jump to content





Overwatch : How to เล่นตีเนียนแบบบ้านๆ (อัพเดทรายวัน)


5 replies to this topic

#1 H2O

    空のティーア

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 9940 posts

Posted 30 May 2016 - 08:29 PM

เปิดตัว

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนเลยนะครับว่าผมไม่ใช่คนที่เล่น Overwatch (หรือเกม shooter แนวๆนี้) ในระดับที่เก่งกาจอะไรนัก
คือย่างมากก็พอจะลงสนามแล้วไม่โดนด่าบุพการี ตีเนียนๆกับเขาไปได้จนจบเกม ก็เลยกะจะเขียนบทสรุปแนวที่ตัวเองถนัด
กล่าวคือ "How to Overwatch ฉบับเล่นตีเนียนแบบไม่ให้โดนด่าบุพการี" (555+)

How to นี้จะไม่ได้เจาะลึกด้านสถิติหรือเทคนิคที่ล้ำลึกมากนัก แต่จะเขียนด้วยวิธีที่ต่างออกไป ซึ่งจะกล่าวถึงสิ่งที่ต้องเล่น
ให้เป็นเพื่อให้ทำหน้าที่ได้ครบถ้วนก่อน แล้วค่อยกล่าวถึงการเล่นขั้นสูงที่ผมเคยใช้ หรือเคยเห็นผู้เล่นคนอื่นใช้ในรูปแบบ
ที่แตกต่างออกไปได้อย่างน่าสนใจ

ป.ล ผมจะไล่เขียนทีละตัวนะครับ ใครมีความเห็นในการใช้ตัวไหนที่แตกต่างออกไป หรือมีข้อมูลเพิ่มเติม ออกความคิดเห็นกัน
ได้อย่างเต็มที่เลยครับ

Tracer

คำนิยาม

Offensive Assassin / Scout / Flanker

ระดับความยาก : ปานกลาง - ยาก

#scout #duelist #sniper_hunter #rusher #distraction #stealth #opportunist


wiki : http://overwatch.gam...eed4ea61eb46e4c

หรืออีกชื่อคือยัยบั้นท้ายดราม่า บอกได้เลยว่าเป็นฮีโร่ที่ต้องใช้หัวเล่นมากกว่าที่คิดครับ เพราะถึงจะมาพร้อมกับปืนคู่ที่ดูน่ากลัว
แต่ถ้าไม่ยิงในระยะประชิดก็คือปืนฉีดน้ำดีๆนี่เอง และถึงจะว่องไวและมีสกิลที่ช่วยให้หลบหลีกได้ดี แต่ด้วยความบอบบางชนิด
เดินเตะขาโต๊ะยังตาย การเล่นตัวนี้ให้เก่งจริงๆจึงท้าทายทีเดียว

ต้องยอมรับว่า Tracer ไม่ใช่ตัวละครที่เล่นง่ายครับ อุปสรรคใหญ่ของนางคือ ถ้าเล่นแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ นางจะตายง่ายมาก
ตัวนี้ดูเผินๆจะให้ความรู้สึกว่าเป็นตัวที่เหมาะสำหรับคนใจร้อน อยากไปเจอศัตรูเร็วๆ แต่จริงๆแล้วตัวนี้คนที่จะเล่นได้ต้องใจเย็นมากๆ
และถ้ารู้เส้นทางของแผนที่ทั้งหมดได้ก็ยิ่งดี เพราะหน้าที่หลักของ Tracer คือการเป็นตัวเล่นทีเผลอ เนื่องจากระยะหวังผลของปืนที่สั้นมาก
ทำให้การยิงนอกระยะนอกจากจะไม่ทำให้ใครตายแล้วยังจะทำตัวเราซวยด้วย (เพราะเลือดน้อยน่าเจี๊ยะมาก) และด้วยการที่เป็นตัวที่ไม่ค่อยจะ
Sync กับใครได้เป็นเรื่องเป็นราวมากนัก เพราะมักจะไปทำงานอยู่แนวหลังเสียมากกว่า การรู้ทางหนีทีไล่และรู้จุดเกิดของกล่องพยาบาล
จึงจำเป็นมากสำหรับนาง

บทบาทพื้นฐาน

- ตัวป่วนแนวหลัง อันนี้พูดถึงในระดับที่เล่นไม่เป็นเลย (คือแบบอยู่ดีๆก็อยากลองเล่นดู) หน้าที่หลักของ Tracer คือหาเส้นทางที่การจราจรต่ำๆ
แล้วมองหาตัวละครที่เป็นตัวสำคัญและอ่อนแอของทีม (พวกตัว Support หรือ Sniper) แล้ว Blink เข้าไปตุ๋ยเลย แต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามมีป้อมก็อย่าได้รีบร้อนครับ
โดยเฉพาะระยะไกลเราไม่มีทางสู้ได้แน่ๆก็ให้เน้นเก็บฝ่ายตรงข้ามที่หลงออกมานอกลู่นอกทางเดี่ยวๆแทน

- มวยวงนอก กฏเหล็กของการเป็น Tracer (แบบที่ไม่เก่งนะ 555) คือการไม่เอาบั้นท้ายไปวิ่งโชว์คนอื่นมากนัก (พูดง่ายๆคืออย่าโดดไปกลางวงนั่นแหละ)
พยายามอย่าไปกับแนวหน้าเพราะคุณจะกลายเป็นขนมของ sniper ฝ่ายตรงข้าม และอย่าคลุกอยู่ในวงตะลุมบอนนานเกินไป เน้นเข้าแล้วถอย โยกเข้าโยกออก
ใครทะลึ่งบ้องวิ่งตามเรามาค่อยเก็บ (ยกเว้นบางตัวที่เราสู้ไม่ได้จริงๆเช่น McCree , Reaper หรือ Soldier)

- ป่วนจนทำงานไม่ได้ (Flanker) ถ้าคุณไม่เก่งพอที่จะฆ่าได้เยอะ อย่างน้อยให้ตัวเองรอดจนฝ่ายตรงข้ามรำคาญมากๆก็จะช่วยได้ะยอะ เช่นคอยผลุบโผล่ๆออกมาดึงความสนใจ
แนวรับฝ่ายครงข้ามตลอดเพื่อให้แนวหน้ารุมกระทืบได้อย่างสะดวกเท้า คอยเก็บตัวที่เลือดเหลือน้อยแล้วพยายามวิ่งกลับมาเอากล่องยา แนะนำให้เคลื่อนไหวอยู่ตลอดแม้จะไม่มี
อะไรให้ทำก็ตาม

- แปะโป้ง ท่า ultimate ของ Tracer นั้นค่อนข้างยากพอสมควรที่จะใช้แล้ววงแตกได้ (ต้องจังหวะดีจริงๆ) pulse bomb ถ้าไม่รู้จะใช้อะไรนั้นสามารถใช้กับป้อมของ Torbjorn
ในการปลดประจำการป้อมแบบเซฟๆได้ โอกาสที่ดีจริงๆสำหรับท่านี้คือตอนแนวหน้าของทั้งสองฝ่ายกำลังชนตะลุมบอนกัน ช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดีที่จะตีเนียนแบบแอบหวังว่าจะ
ได้ PoTG แบบฟลุคๆกะเขาบ้างครับ 555+ และท่า ultimate ของ tracer ถือว่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่ชาร์จค่อนข้างเร็วถ้าทำความเสียหายได้เรื่อยๆและไม่ตายบ่อยจนเกินไป

การเล่นระดับสูง

- ยืดเยื้อยืดยาว บทบาทของคนที่เล่น Tracer เก่งๆนอกจากไล่เก็บแนวหลังแล้ว นางยังสามารถเล่นไปในแนวถ่วงเวลาได้ค่อนข้างดีด้วย (โดยเฉพาะช่วงคับขันที่เพื่อนร่วมทีมตายหมด
และกำลังจะเสีย objective ไป) เรียกได้ว่าวาร์ปไปวาร์ปมาน่ารำคาญมาก ถ้าอยากเล่นแนวนี้แนะนำให้ฝึกนับ cooldown ของ blink และ Recall ดูครับ

- Sneak Rush อันนี้เป็นเทคนิคที่ใช้กับฉากแนวยึดจุดเช่น Hanamura , Temple of Anubis , Volskaya Industries ที่มีลักษณะเป็นคอขวดเยอะๆและแนวหน้ามีปัญหามากกับการเจาะ
แนวป้องกัน Tracer เป็นตัวหนึ่งที่สามารถแอบเข้าแนวหลังได้หากใช้ Blink ดีๆ ผลที่ได้คือการบีบศัตรูให้ถอยกลับมาป้องกันจุดยึด หรือถ้าอีกฝ่ายไม่มีใครสังเกตุเลยเผลอๆก็ยึดจุดได้ฟรีเลยก็มีเหมือนกัน
แต่นี่ถือเป็นเทคนิคที่ดีมากหากสามารถรอดได้นานๆด้วยก็ยิ่งซื้อเวลาให้เพื่อนร่วมทีมได้มากเท่านั้น

- นักฆ่าไร้เงา Tracer เป็นตัวที่แพ้ทางฮีโร่อื่นอยู่หลายตัว (เอาจริงๆคลาส Offense ด้วยกันนี่แพ้เกือบทุกตัว) แต่วิธีแก้ทางของเซียน Tracer ก็คือไม่ต้องไปชนกะเขาซึ่งๆหน้านั่นเอง
(กล่าวคือไม่เห็นก็ฆ่าไม่ได้นั่นเอง หรือถ้าเห็นก็โดนตัดกำลังไปเยอะแล้ว) และ tracer เองก็เป็นตัวละครที่อยู่ดีๆก็หายไปในอากาศได้ด้วยการใช้ Blink และ Recall ให้ถูกจังหวะ






LUCIO

คำนิยาม

Offensive AoE Combat Healer

ระดับความยาก : ง่าย

#AoE #Healer #Positioning #Assault_Support #Zoning #Pusher



wiki : http://overwatch.gam....com/L%C3%BAcio

สุภาพบุรุษดีเจหมอลำซิ่งคนนี้มีดีกว่าที่หลายๆคนคิด และถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่มีประสบการณ์มากพอจะเห็นตัวนี้เป็นตัวที่ไม่อันตราย (ซึ่งก็จะยิ่งทำให้ยิ่งอันตรายเข้าไปใหญ่)
เพราะจากมุมมองฝั่งตรงข้ามแล้ว Lucio เป็นตัวที่ดูเผินๆมันก็วิ่งแว้นไปแว้นมาของมันไม่ได้ทำอะไร ปืนก็ใช่ว่าจะแรง แต่ถ้าเล่น mode control เกมนี้เกิน 10 ชั่วโมงจะรู้เลยว่า
ถ้าเจองูเหลือมกับ Lucio ให้ตีไอ้เบื๊อกนี่ให้ตายก่อนเป็นอันดับแรกเพราะเป็นตัวที่สร้างปัญหาได้เยอะมากจริงๆ

สำหรับสมาคมคนรัก Lucio อย่างผม ก็บอกได้ว่าตัวละครตัวนี้ถ้าเป็นมือใหม่ overwatch แล้วอยากลองเล่นตัว Support ดู Lucio เป็นตัวที่เล่นไม่ยากเท่าตัวอื่นๆครับ
ขอแค่ให้รู้หน้าที่แค่ว่าตอนไหนควรเปิดไฟเขียว (บัฟความเร็วให้เพื่อนรอบๆ) ตอนไหนควรจะเปิดไฟเหลือง (รักษาเพื่อนร่วมทีมรอบๆ) และตอนไหนควรจะใช้ท่า Amp It Up
เพื่อรักษาชีวิตเพื่อนไว้ยามคับขัน เป็นตัวที่ส่วนใหญ่แล้วจะไปพลุบๆโผล่ๆอยู่ข้างๆพุง Roadhog หรือใต้โล่ห์ของ Rienhardt เป็นหลัก เป็นตัวที่ความเสี่ยงต่ำเพราะไม่ต้องเกาะติด
ตัวอื่นใกล้ๆแบบ mercy และการเคลื่อนไหวที่ค่อนข่างรวดเร็ว ทำให้ไม่เสี่ยงต่อการโดนสไนเปอร์ส่องเป็นคนแรกๆ

บทบาทพื้นฐาน

- มือกลองออกศึก ถ้าท่านเคยศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์แล้วผ่านหูผ่านตาเรื่องนักดนตรีที่เล่นดนตรีปลุกใจตอนเหล่าทหารกำลังออกศึกกันอยู่ หลักการของ Lucio เองก็เป็นแนวๆเดียวกันครับ
หน้าที่แบบพื้นฐานที่สุดของ Lucio คือพาเพื่อนเดินทางตอนต้นเกมใน mode control และคอยฮีลเพื่อนหลังจากนั้น ซึ่ง Lucio ขั้นเทพจะมีการสลับไปสลับมาระหว่างสองโหมดนี้อยู่บ้าง
ตามสถานการณ์ แต่ถ้าเป็นมือใหม่จริงๆพอถึงที่หมายแล้วจะเปิดโหมด healing ไว้ตลอดเลยก็ได้ครับ อีกส่วนหนึ่งที่ควรรู้แล้วเล่น Lucio คือตรงตำแหน่งที่ใกล้ๆกับเป้าเล็งของเราจะมีตัวเลขขึ้นอยู่
นั่นหมายถึงจำนวนผู้ที่อยู่ในระยะบัฟเราในขณะนั้น ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามรักษาระยะห่างให้ครอบคลุมตัวละครอื่นๆในทีมให้มากที่สุดด้วยจะดีมากครับ

- หน่วยระวังภัย อาวุธของ Lucio (Sonic Amplifier) ไม่ใช่อาวุธที่เข้าขั้นดีเด่เก๋กิ้วอะไรก็จริง แต่ก็เป็นอาวุธที่น่ารำคาญพอสมควร ข้อดีของปืนปีโป้สีเขียวนี้คือเป็นปืนที่ความแรงไม่ตกตามระยะทางครับ
ข้อดีตรงนี้หมายถึง Lucio สามารถไปกับ Rienhardt หรือตัว Tank อื่นๆแล้วสามารถยิงกำจัดตัวประเภทป้อมอย่าง Bastion , Torbjรถrn หรือยิงก่อกวนตัว sniper ได้อย่างมีประสิทธิภาพพอตัว
ซึ่งสำหรับศัตรูที่เคลื่อนไหวได้นั้นอาจจะยากหน่อยที่จะยิงให้เข้าเป้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าเล่นไม่เก่งแนะนำให้หาเป้าตัวใหญ่ๆช้าๆเช่นตัว tank ไว้ก่อนครับ

- เปิดฟลอร์ ultimate ของ Lucio (sound barrier) เรียกได้ว่าเป็นท่าหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนเกมได้เลย ผลของท่านั้นจะทำให้สมาชิกทุกคนในรัศมีออร่าได้รับเกราะจำนวน 500 ทุกคน (ซึ่งถือว่าเยอะมาก)
เป็นเวลา 6 วินาที ซึ่งจังหวะและโอกาสที่ใช้นั้นจะไม่ยากเท่าตัวละคร support ตัวอื่นๆขอแค่แนวหน้ารู้หน้าที่และรู้ว่าเรามี ultimate พร้อมใช้แล้ว (กดบอกเพื่อนได้โดยใช้ปุ่ม Z)

- ห้ามแตะเนื้อต้องตัว หน้าที่แปลกๆอีกอย่างของ Lucio เป็นหน้าที่ที่เกี่ยวกับการคอยผลักตัวละครที่เข้ามาคอยยุ่มย่ามระยะใกล้ให้ออกห่างจากภารกิจ (เช่น Reaper , Genji , Tracer) โดยการใช้คลิกขวา
ซึ่งท่านี้นอกจากจะผลักตัวละครที่อยู่ใกล้ออกห่างจากตัวแล้ว ยังกระจายเป็นวงกว้างและทำ damage ได้ 25 (ซึ่งมีประโยชน์เวลาล่าศัตรูที่ใกล้ตายแต่ไม่แน่ใจว่าจะยิงโดนด้วย)

การเล่นระดับสูง

- หน้าผาแห่งความตาย สถานที่หนึ่งที่สามารถเปลี่ยน Lucio เป็นฆาตกรต่อเนื่องได้คือโซนที่มีหน้าผาเยอะๆ เช่น Ilios และ nepal ท่า soundwave จะกลายเป็นท่าสังหารของนักเล่น Lucio มือฉมัง
หลักการง่ายๆคือการดักรอศัตรูตามเส้นทางที่ใกล้กับหน้าผา แล้วหาโอกาสเหมาะๆส่งเหล่าผู้เคราะห์ร้ายเหล่านั้นโบยบินไป อย่างไรก็ตาม หากไปเจอฝ่ายตรงข้ามที่ฝีมือเทพพอๆกันก็อาจจะมีการใช้สกิล
แก้ทางให้กลับมาสู่โซนปลอดภัยได้เหมือนกัน

- Parkour Assault เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่า Lucio นั้นคล่องแคล่วว่องไว และก็มีท่าวิ่งบนกำแพง (Wall-ride) แบบน่ารักน่าชังด้วย ซึ่งปกติเวลาเล่นกันทั่วๆไปก็ไม่ค่อยจะมีใครใช้เป็นเรื่องเป็นราวเท่าไหร่
แต่ในระดับสูงๆการฝึกใช้ท่า Crossfade: Speed คู่กับการไต่กำแพง ถ้าฝึกใช้ดีๆก็จะทำให้ Lucio ปีนป่ายได้อย่างคาดไม่ถึงเลยเหมือนกัน ซึ่งจะทำให้ไปถึงจุดที่ได้เปรียบและไล่ล่าตัวที่เปราะบางของฝั่งตรงข้ามได้
แต่ก็ต้องระวังอย่างมากเพราะการขึ้นที่สูงในเกมนี้มีโอกาสจะไปเข้าตาของพวก sniper หรือป้อมปืน ได้ง่ายๆเหมือนกัน

- ทนมือทนเท้า สิ่งหนึ่งที่ Lucio สามารถเล่นบทอื่นแทนตัวหลักๆของสายนั้นอยู่ได้บ้างคือการเป็น Tank เพราะถึงเจ้าตัวเองจะไม่ได้เลือดเยอะเหลือเฟืออะไรแต่ก็สามารถรักษาตัวเองได้ทันทีและตลอดเวลา
ดังนั้น Lucio เองถ้าไม่ได้ไปเจอตัวที่มีความสามารถในการ one hit ก็จะมีศักยภาพพอสมควรใจการเบี่ยงเบนกระสุนของศัตรูครับ




Bastion

คำนิยาม

Heavy Sentry

ระดับความยาก : ปานกลาง

#Suppression #positioning #map_knowledge #Survivalist #High_Profile


wiki : http://overwatch.gamepedia.com/Bastion

เจ้าหุ่นกระป๋องปืนโตเลี้ยงนกเขาเป็นงานอดิเรกนี้มีเสียงของผู้ที่ได้รับประทานกระสุนบ่นกันระงมว่า เชี่ยเอ้ย โหดสัด (คือบางทียังไม่ทันรู้ตัวเลยก็ไปเกิดใหม่ซะแล้ว) แต่ด้วยความที่หน้าที่ของตัวละครตัวนี้ค่อนข้างเด่นชัดและดุดัน
Bastion เลยถูกแก้ทางอย่างรวดเร็วและมักจะตกเป็นเป้าหมายแรกๆอยู่เสมอครับ (มีแต่คนหมั่นไส้ว่างั้น)และในระดับสูงๆกลายเป็นว่าตัวละครนี้เล่นยากมิใช่น้อย

ตัวละครนี้ในโหมดธรรมดา (Recon) นั้นไม่ค่อยมีอะไรหล่อเหลาเท่าไหร่นัก มีปืนที่แรงกลางๆ เดินก็ช้า แถมกระสุนน้อย เรียกได้ว่าเดินไปปากซอยขนาดเด็กยังเดินมาฉี่ใส่แบบไม่กลัวเลย แต่เมื่อไดก็ตามที่ Bastion
นั่งลงและงัดปืนยาวใหญ่ของเขาออกมา พลังการทำลายล้างก็เรียกได้ว่าเป็นตัวที่ DPS สูงที่สุดในเกมเลยทีเดียว Bastion นอกจากจะยิงแรง ยิงเร็ว ยิงเละเทะเลอะเทอะไปหมดแล้ว ก็ยังเป็นหุ่นที่ดูแลสุขภาพตัวเองได้
อีกด้วย (สามารถซ่อมตัวเองได้อย่างรวดเร็ว) แต่ข้อเสียร้ายกาจของฮีโร่ตัวนี้ก็คือ ตราบไดที่ได้รับความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ก็จะถูกแคนเซิลการรักษาตนเองในทันทีและด้วยการปรับเปลี่ยนโหมดที่ช้ามาก Bastion จึง
ไม่มีความสามารถในการหลบหลีกเลยเวลาอยู่ในโหมด Sentry

บทบาทพื้นฐาน

- จองแผงทำเลดี ชีวิตของ Bastion ว่ากันตามตรงก็ออกจะคล้ายๆแม่ค้าตามย่านตลาดนัดนั่นก็คือหาจุดที่มองเห็นจุดปะทะได้เยอะที่สุด(ในขณะที่ตัวเองก็ควรจะตกเป็นเป้าได้ยากที่สุดด้วย)
ซึ่งเทคนิคของการตั้งป้อมของ Bastion นั้นมีเยอะเยอะมากมายหลายกรณีจริงๆ ซึ่งในสถานการณ์ทั่วไปจุดตั้งป้อมก็คือมุมที่เห็นภารกิจได้ค่อนข้างชัดเจน (เพราะคนจะไปออกันอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว)
แต่ในบางสถานการณ์เช่นการเล่นแบบ Control จุดยึด การใช้ Bastion แบบใช้แล้วทิ้งอีกรูปแบบที่น่ารักน่าชังก็คือการไปแอบซุ่มตรงข้างๆทางเข้าของฝ่ายศัตรู (ซึ่งแน่นอนว่าเราโดนกระทืบตายห่าแน่นอน
แต่อย่างน้อยก็ได้กินไปหลายตัวหากฝ่ายตรงข้ามไม่ระวัง)

- อย่าจับปลาสองมือ Bastion ที่ยิงสะเปะสะปะไปเรื่อยนอกจากจะไม่สามารถฆ่าใครได้แล้วจะทำให้ตัวเองตกเป็นเป้าได้ง่ายๆด้วย มาตรฐานหนึ่งที่ผู้เล่น Bastion ต้องมีคือการลากเป้าตามศัตรูได้
อย่างน้อยก็ 2-3วินาที และไม่ควรจะฝืนยิงจนลูกหมดหากเป้าหมายได้หนีไปแล้ว

- บริหารสุขภาพและทรัพยากร Bastion ในยามว่างๆ (ซึ่งก็หาไม่ค่อยจะได้เพราะส่วนใหญ่จะมีคนพยายามมากระทืบอยู่ตลอด)การใช้ Self-Repair และรีโหลดถือว่าสำคัญไม่น้อย เพราะช่วงเวลาแค่ไม่นาน
หากศัตรูพร้อมใจกันสหบาทาขึ้นมาก็รอดได้ยากเหมือนกัน

-อย่าทำผิดพลาดซ้ำสอง ถ้าถูกฆ่าในฐานะ Bastion แนะนำให้เปลี่ยนแปลงเส้นทางและตำแหน่งอยู่ตลอด เพราะศัตรูจะคอยระวังจุดเดิมที่คุณเคยไปตั้งป้อมและตรงนั้นก็จะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

- หยุดยิงบางเวลา บางครั้งปืน minigun ของ Bastion ก็ยิงสนุกจนอยากจะยิงทิ้งยิงขว้างตามความคึกคะนอง แต่ก็มีบางจังหวะที่ควรจะอ่านสถานการณ์และหยุดยิงบ้างเหมือนกันเพื่อไม่ให้ศัตรูกลายเป็น
ฝ่ายได้เปรียบ เช่นตอนเผชิญหน้ากับ Genji (ท่าปัดกระสุน) Zarya (ตอนกางโล่) Reaper (ตอนใช้ร่างเงา) และอื่นๆที่การป้อนกระสุนเป็นทางเลือกที่แย่กว่าการไม่ยิง

- metal slug สิ่งหนึงที่เข้าขั้นมหาโหดของ Bastion คือการกลายร่างเป็นรถถังที่สามารถยิงปืนใหญ่ที่เรียกได้ว่า "โคตรแรง" (205 หน่วย ซึ่งหมายถึงฮีโร่ทั่วๆไปจะตายภายใน 2 นัด)ในหลายๆ
กรณีท่านี้สามารถกู้สถานการณ์ได้ดี แถมยังได้เกราะเพิ่มอีกด้วย แต่ด้วยความที่มันดีมากนี่เองทำให้มีความรู้สึกเหมือนหนังม้วนเดิมที่ Bastion มักจะถูกรุมกินโต๊ะได้ง่ายๆหากไม่ระวัง


การเล่นระดับสูง

-power overwhelming Bastion นั้นเป็นตัวที่โดดเด่นมากในฐานะของแนวการเล่นแบบ full defensive ซึ่งจะยิ่งสุดยอดยิ่งขึ้นหากคุณมีเพื่อนรวมทีมเป็น Rienhardt , Torbjorn , Symmetra
(ถ้าอยู่ทีมเดียวกันด้วยจะยิ่งดี) เพราะถ้ารวมการบัฟเกราะจากฮีโร่อีกสองตัว เสริมแนวรับโดย turret และการปกป้องอย่างสมบูรณ์แบบจาก Rienhardt แล้วในหลายๆแผนที่แบบ Assault จะช่วยซื้อเวลาได้เยอะกว่า
ฝั่งศัตรูจะไประดมสมองกันมาแก้ทางได้

- moving turret ในฉาก Volskaya Industries และ Route 66 จะมี platform ที่เคลื่อนไหวอยู่ด้านบนของฉาก (ในแนวรับสุดท้ายของทั้งสองฉาก) การไปตั้งป้อมอยู่บนนั้นนอกจากจะทำให้
Bastion มีความสามารถในการหลบหลีกเพิ่มขึนนิดหน่อยแล้ว ยังสามารถซุ่มโจมตีศัตรูที่ไม่ทันระวังตัวได้อีกด้วย และในฉาก Delivery Bastion สามารถขึ้นไปอยู่บนรถเพื่อช่วยทั้งเข็นและคุ้มกันตัว tank ได้อีกด้วย





Hanzo

คำนิยาม

Mid Range Sniper / Scout / Anti-Turret

ระดับความยาก : ยาก

#Sniper #Archer #Projectile #Midrange #Choke_point #Detection #Ryu_ga_waga_teki_wo_kurau!


wiki : http://overwatch.gam...408c0b45fec8360


เจ้าของประโยคติดหูทั่วบ้านทั่วเมือง "เดี๋ยวเก๊าปล่อยมังกรมากัดนิ!" มาพร้อมกับธนูคู่ใจและปรัชญาอะไรแปลกๆของเฮียแกตามประสาตัวละครที่อิงจากนักรบญี่ปุ่นทั่วไป
(จริงๆแล้ว Hanzo กับ Genji ตอนออกแบบครั้งแรกเป็นตัวละครคนเดียวกัน แต่ถูกแยกออกมาเป็นพี่น้องภายหลังครับ ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมมีตัวละครที่พูดญี่ปุ่น
ได้สองคนน่ะนะครับ)

สำหรับการเล่นน้าหาญ (Hanzo)นั้น สิ่งที่ต้องพูดก่อนคือโดยส่วนตัวผมไม่รู้สึกว่า Hanzo เป็นฮีโร่ที่ใช้ยากมากเท่าตัวที่ใช้ธนูของเกมอื่น ด้วยความที่เป็นคนบ้าอาวุธประเภท
ธนู ผมก็เลยใช้ธนูของทุกเกมที่จะมีให้ เช่น Skyrim , Farcry 3 - 4 , Crysis , tomb raider , Team Fortress 2 ฯลฯ เรียกว่าได้ใช้มาจนพรุนแล้ว
แต่ด้วยความที่ถึงแม้จะใช้ค่อนข้างง่ายในระดับของธนู (ความรู้สึกที่กระชับและคาดเดาได้ง่าย มีวิถีที่ไม่ซับซ้อนเท่าเกมอื่นแต่เรียนรู้ได้เร็ว และ hit box ที่ค่อนข้างกว้างเหลือเฟือ)
แต่สำหรับคนที่ไม่เคยใช้ธนูนั้นก็เป็นอาวุธที่ต้องใช้ไปสักพักถึงจะชินมือครับ ที่แตกต่างจาก widowmaker ที่ใช้ปืนแบบ Hitscan (ถ้ายิงแล้วตรงศูนย์ก็คือโดน) หลายๆครั้ง
การใช้น้าหาญนั้นจะเน้นสัญชาติญาณและการวางแผนเป็นหลัก (จับทางเคลื่อนไหวของศัตรู)

บทบาทพื้นฐาน

- ไม่ใกล้ไม่ไกล สิ่งหนึ่งที่คนเล่น Hanzo ทุกคนต้องรู้คือ ถึงแม้ฉลากบนป้ายเฮียแกจะแปะไว้ว่าเป็น "sniper" นะ แต่ในความเป็นจริงแล้วเฮียแกจะเก่งที่สุดตอนอยู่ในระยะกลางและยิง
จากด้านข้างเข้าเลนกลางของแผนที่เสียมากกว่า พยายามอย่าไปอยู่เลนกลางหากไม่ใช่ฝ่ายรุกที่มีโล่ป้องกันให้ และพยามขึ้นที่สูงแต่ก็ให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่เปิดระยะยาวเกินไปซึ่งเป็นจุด
ที่เสี่ยงต่อการโดน widowmaker สอยเอาได้ อย่างไรก็ตาม Hanzo ที่ช่ำชองสามารถยิงสู้ระยะไกลได้หากคำนวนวิถีได้ดีพอ

- ขานชื่อ ให้ใช้ Sonic Arrow ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อเป็นการบอกตำแหน่งศัตรูให้กับเพื่อนร่วมทีม ข้อดีของท่านี้คือเป็นสกิลที่ใช้ได้บ่อยกว่า ultimate ของ Widowmaker
แต่สิ่งที่ด้อยกว่าก็คือไม่ได้ครอบคลุมทั้งแผนที่เหมือนของ Widowmaker นั่้นเอง ซึ่ง Sonic Arrow นั้นนอกจากจะใช้ยิงลงบนแผนที่ได้แล้ว ก็ยังเอาไปยิงคนได้ด้วย (แรงเท่าธนูธรรมดานั่นแหละ)

- ล้มแล้วกระทืบซ้ำ ท่า Scatter Arrow เป็นท่าหนึ่งที่สำคัญมาก ซึ่งมือใหม่มักจะไม่ค่อยเข้าใจความสำคัญของมันนัก (คือยิงแล้วมันกระจายไปไหนไม่รู้ไม่ค่อยโดน)วิธีใช้ที่ค่อนข้างได้ผล
คือการยิงเข้าไปในตัวอาคารหากศัตรูหลบเข้าไปพักหายใจ และอีกวิธีที่ได้ผลค่อนข้างดีสำหรับพื้นที่เปิดคือให้เล็งไปที่พื้นด้านหน้าของศัตรู ถ้าเป็นตัว Tank หรือกลุ่มศัตรูก็มีโอกาสที่จะโดนเข้าไปเต็ม

- Ryu ga waga teki wo kurau!หรือเรียกอีกอย่างว่าท่าปล่อยมังกร ซึ่งใครก็ตามที่เล่นน้าหาญแนวซื้อหวยเผื่อถูก POTG ก็หวังจะใช้ท่านี้โชว์หล่อกันทั้งนั้น (หล่อแบบกลบเกลื่อนความจริงที่
ว่าทั้งเกมยิงใครไม่เคยโดนได้เลยว่างั้น 555) แต่ว่ากันตามตรงแล้วท่านี้ก็ใช้ยากไม่เบาเพราะจุดอ่อนใหญ่ๆสองข้อเลยคือการเดินทางของท่าที่ถึงแม้จะทะลุกำแพงได้แต่ก็ไม่เร็วนัก แถมเฮียแกก็ดันไป
ตะโกนบอกท่าแบไต๋ให้เขารู้ซะงั้น คำแนะนำอย่างแรกเลยคือไม่ควรจะยิงโดยให้คนอื่นเห็นตัวเรา เพราะจะถูกคาดเดาเส้นทางได้ง่ายมาก (ส่วนใหญ่จะเน้นยิงใส่กำแพงกันอยู่แล้ว) เทคนิคอีกอย่างคือ
ให้ยิง Sonic Arrow ไปก่อนเพื่อหามุมเหมาะๆครับ

การเล่นระดับสูง

- Assault Hanzo วิธีการเล่นแบบนี้ส่วนใหญ่ Hanzo จะกลายเป็นตัวเคลียร์ป้อมปืนสำหรับฝ่ายรุก (เล่นเป็นฝ่ายรุกแล้วศัตรูมีทั้ง Bastion + Torbjorn มาตั้งป้อมครื้นเครงกันอยู่)
ตัวรุกบางคนจะเปลี่ยนเป็น Hanzo หรือ Widowmaker ในทันที ซึ่งโดยปกติทางฝ่ายรุกเองก็จะมี Mercy ประจำการอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นหากมี Mercy คอยบัฟให้ด้วย

- Let's Duel! Hanzo ที่มีประสบการณ์จะไม่พั่นพรึงมากนักเวลาต้องดวลกับฮีโร่ Offense ฝ่ายตรงข้ามแแบบ 1 ต่อ 1 เพราะ ธนูของน้าหาญเองก็สามารถ one hit ศัตรูได้
หลายตัวถ้ายิงเข้าหัวได้ และถึงจะเข้าที่ตัว Scatter Arrow ก็หวังผลในการปิดเกมได้มากอยู่ ดังนั้นไปเจอน้าแกปักหลักสู้ขึ้นมาก็อย่าได้ย่ามใจไปนะครับ ดับเอาได้ไม่รู้ตัว

- Trick shot จุดเด่นของ Hanzo อีกอย่างที่โดดเด่นกว่า Widowmaker ก็คือความคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหวและการชาร์จที่สั้นกว่า (ประมาณ 1 วินาทีกว่าๆเท่านั้น) แถมไม่
ต้องรีโหลดด้วย ในหลายๆกรณี Hanzo จึงกลายเป็นนักสู้ระยะกลาง - ใกล้ที่มีประสิทธิภาพตัวหนึ่ง และในยามคับขันจริงๆ Hanzo ยังสามารถยิงได้โดยไม่ต้องชาร์จได้อีกด้วย ถึงความแรง
จะลดลงค่อนข้างเยอะแต่ความถี่ในการยิงที่เยอะขึ้นมากก็สามารถเล่นทีเผลอกับศัตรูที่ไม่ทันระวังตัวได้เหมือนกัน






Rienhardt

คำนิยาม

Melee Fighter / Objective tank / Distraction

ระดับความยาก : ปานกลาง

#Tank #Mid_lane_push #Charger #Melee #Room_Clearing


wiki : http://overwatch.gam...a.com/Reinhardt


เรียกได้ว่าเป็นบุคคลสาธารณะจริงๆสำหรับขุนค้อน โล่ป้ายไฟท่านนี้ ประมาณว่าจะเปิดหนีไปช่องไหน ย้ายห้องกี่ห้องก็จะต้องมีคนเล่นอย่างน้อย 1 คน เสมอ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจครับเพราะ
Rienhardt เป็นฮีโร่ที่เรียกได้ว่าตรงไปตรงมา เข้าใจง่ายในคอนเซปท์อันทื่อๆของพี่แก เนื่องด้วยสกิลกางโล่นั้นเป็นตัวดึงดูดความเป็น Synergy (การใช้ทักษะร่วมมือกัน)
ของทีมได้เป็นอย่างดี Rienhardt เป็นเหมือนข้าวผัดกระเทียมที่จับคู่กับอะไรก็อร่อย ที่เหลือก็มีแค่เพื่อนๆ Rienhardt ว่าจะร่วมมือกับชายกาง(โล่)คนนี้ได้ดีขนาดไหน

แต่สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนจะซ่อนเร้นอยู่ในใจชายกาง Rienhardt คนนี้มาตลอด (คนที่ชอบเล่น Rienhardt น่าจะรู้สึกเหมือนกัน) คือฮีโร่ตัวนี้ให้ความรู้สึกว่ากำลังรอคอยโอกาสเปิดตัวเฉิดฉาย
ในวงการมากกว่าจะเป็นเด็กส่งรถเข้าอู่ตามหน้าที่หลักของตน ด้วยสกิลอื่นๆนอกจากการกางโล่แล้วเป็นเรื่องของทักษะเชิงบู้เสียหมด ทำให้หลายๆครั้งการลืมตัวกลายเป็นปัญหาใหญ่ของ Rienhardt
มากกว่าศัตรูเสียอีก

บทบาทพื้นฐาน

- ส่งรถ เฝ้าบ้าน จองที่ หน้าที่หลักของ Rienhardt โดยจรรยาบรรณแล้วคือการไปอยู่ตรง Objective ของแผนที่แล้วช่วยให้เพื่อนรอดได้นานที่สุดครับ ซึ่งระหว่างทางไป Rienhardt
ก็มักจะเป็นรถถังนำขบวนเวลาเข้าปะทะกับฝ่ายศัตรูแบบซึ่งๆหน้า ด้วยโล่ที่กว้างและทนทานก็ทำให้เหมาะที่สุดสำหรับเส้นทางหลัก แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถแอบเข้าตรอกซอกซอยไปได้ด้วย ซึ่งตรงนี้ค้อนของ
Rienhardt จะกลายเป็นอาวุธที่มีพิษสงมากกว่าเดิมหลายเท่า

- คิด วิเคราะห์ แยกแยะ สิ่งหนึ่งที่นักเล่น Rienhardt พึงกระทำคือการสอดส่องและวิเคราะห์ศัตรูทุกตัวที่เข้ามาปะทะแนวหน้า และตัดสินใจว่าสถานการณ์นี้ควรจะกางโล่อย่างเดียวเพื่อรักษาชีวิตเพื่อน
หรือคอยซัพพอร์ตทางด้านอื่นแทน เช่น ถ้าหากอีกฝ่ายมีทั้งป้อม ทั้ง sniper การลดโล่ลงนานๆนั้นไม่เป็นผลดีแน่ (คือตัว Rienhardt ไม่ใช่เป้าหมายแรกหรอกครับ แต่ mercy ข้างหลังจะซวยเอา)
แต่ถ้าเล็งๆดูแล้วฝ่ายตรงข้าม DPS ไม่เยอะมากหรือไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้า ก็ให้พยายามใช้ Fire Strike ให้เยอะที่สุด

- ลดโล่แล้วจับค้อน เมื่อโอกาสเฉิดฉายมาถึง Rienhardt ต้องไม่กลัวการเข้าตะลุมบอน เนื่องจากโล่ที่ทั้งกว้าง หนา เร้าใจนั้นหลายๆครั้งก็เป็นแม่เหล็กดึงดูดศัตรูที่ใจร้อนได้อย่างดี
สำหรับตัวที่มีความเร็วสูงหน่อยเช่น Tracer , Genji มักจะพยายามอ้อมไปกำจัดคุณจากด้านหลัง ตรงนี้ต้องใช้การตัดสินใจที่รวดเร็วในการใช้ค้อนสวนกลับไป สำหรับผู้เล่นที่มีประสบการณ์ก็มัก
จะไม่เข้าใกล้คุณจนเกินไปนัก ความชำนาญในการกะระยะและยกโล่ขึ้นป้องกันตัวสลับกับใช้ค้อนได้อย่างคล่องแคล่วจะช่วยชีวิตได้บ่อยครั้ง

-โล่ไม่ครอบจักรวาล สิ่งหนึ่งที่มือใหม่ Rienhardt มักจะไม่รู้คือโล่ของพี่แกนั้น "กันไม่ได้หมดทุกอย่าง" นะครับ ซึ่งสิ่งที่โล่กันไม่ได้นั้นมีดังนี้
Symmetra Charge shot (ลูกกลมๆลอยช้าๆของเจ้แกนั่นแหละ)
Rienhardt Fire strike (เป็นท่าทีไว้ใช้แก้ทางกันเอง)
Winston Tesla
และ การโจมตีระยะประชิดทุกชนิดครับ


- Charge!!! การใช้ท่า Charge ในการพุ่งเข้าชนนั้นเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่ยากต่อการเรียนรู้พอสมควร เหตุผลหลักๆคือเวลาใช้ท่านี้ Rienhardt จะไร้การป้องกันอย่างสิ้นเชิง
ถ้าศัตรู DPS สูงๆและเป็น Hitscan เยอะๆก็ทำให้มีโอกาสจะไปตายเอากลางทางมากกว่าจะทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน แต่ถึงกระนั้นการเข้าชาร์จก็เป็นทางเลือกที่ดีในการเซอร์ไพรส์ศัตรูแบบฉับพลัน
เพราะถ้าชาร์จสำเร็จ ส่วนใหญ่จะหมายถึงการฆ่าได้ทันที 1 ตัว (ยกเว้น tank ด้วยกันที่ต้องเอาไปตำเพิ่มอีกสองสามโป้ก)เทคนิตที่ดีอีกอย่างคือการพยายามเล็งให้ปลายทางเป็นพื้นที่ปิดเช่นห้องเล็กๆ
เพื่อลดความเสียหายที่จะตามมา

การเล่นระดับสูง

- เหินฟ้าาาาา~~!! อันนี้เห็นหลายคนชอบทำกัน ซึ่งส่วนใหญ่มันจะกลายเป็นกิจกรรมเอาฮาเสียอย่างนั้น กล่าวคือการใช้ Rienhardt พุ่งเข้าใส่กลุ่มศัตรูให้ตกหน้าผาไปด้วยกันในบางแผนที่
ซึ่งนอกจากกความสะใจแล้วหลายๆครั้งมันกลับทำให้สถานการณ์แย่ลงซะงั้น (เพราะอย่าลืมว่าคุณเป็น Tank ของทีม การตายของคุณมีผลมากกว่าการตายของฮีโร่แบบอื่นพอสมควร)ดังนั้นถ้าจะพุ่งเข้าชนหรือ
ตั้งใจจะใช้การกระแทกเพื่อจัดการกับศัตรู ก็ขอให้คิดให้ดีเสียก่อน (หรือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Lucio หรือ Pharah ดีกว่า )

- Rejected! and Hold up! ท่า Earthshatter ของ Rienhardt นอกจากจะเป็นท่าที่ดีสำหรับแนวหน้าแล้ว ก็ยังสามารถใช้เป็นท่าในการขัดขวาง ultimate ของฮีโร่อื่นๆอย่าง Reaper
, Winston , Bastion หรือ McCree ได้ และในทางกลับกันก็ยังสามารถใช้เตรียมเปิดทางให้กับฮีโร่ฝั่งเราได้ด้วย และจะยิ่งเหมาะหากเป็นตัวละครที่ต้องใช้เวลานานในการเตรียมตัวเช่น D.VA , McCree , Mei และ Pharah.



Soldier : 76

คำนิยาม

Mid Range Gunner / AoE Healer / Fast Deployment

ระดับความยาก : ง่าย - ปานกลาง

#Hitscan #Runner #Flanking #Mid_Range #Medic #All-Around


wiki : http://overwatch.gam...com/Soldier:_76

สำหรับคุณ ท.ทหารอดทนท่านนี้ผมบอกได้เลยว่าตอน Close Beta (ช่วงต้นๆปี 2016) นี่โกงมาก เรียกได้ว่ามันจะ Dall of Cuty จนเกินไปก็เลยโดนปรับเนิฟลงมาเยอะพอสมควร
(เมื่อก่อนนี่ยิงระยะไกลความแรงไม่ตก กระสุนกระจายน้อย เรียกได้ว่ายิงสวนกับ widow ได้เลยทีเดียว) ตอนนี้ก็เลยเป็นตัวที่เรียกได้ว่าบทบาทในการเล่นเปลี่ยนไปมากพอสมควร
จากเมื่อก่อนเป็นคนบ้าฆ่าซดเลือด ตอนนี้ก็จะดูเหมือนตัวจับฉ่ายไปเสียมากกว่า

แต่ถึงกระนั้นตัวนี้ก็เริ่มจะลบความรู้สึกที่ว่า "เป็นยาหวานดึงผู้เล่นสาย CoD" ให้มาเล่นเกมนี้ดูได้ค่อนข้างเยอะครับ เพราะหลังจากที่โดน nerf ไปพอสมควร นักเล่น soldier ก็เลยได้ใช้
ตัวนี้ไปในทางอื่นมากขึ้น เช่น เป็นคู่ชู้ชื่นค่อยส่งรถกับ Rienhardt (แบบยิงก็ได้ ฮีลก็พอไหว)เป็นตัว Flank ฉุกเฉิน (เพราะพี่แกวิ่งเร็วใช้ได้เหมือนกัน)เป็นตัวเก็บ turret ก็ไม่น่าเกลียด
ปัญหาคือกิจกรรมทั้งหมด Soldier ทำได้แค่ค่อนข้างโอเค แต่ก็ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าโดดเด่นจนขนหัวลุกเลยสักทาง ถึงกระนั้นด้วยปืนที่ใช้ง่าย (mid range + hitscan อัตรายิงค่อนข้างดี
และไม่ทำให้เคลื่อนที่ช้าลง) ผสานกับความคล่องตัวและความสามารถในการเอาชีวิตรอด Soldier จึงกลายเป็นตัวที่พร้อมจะไปช่วยเหลือเพื่อนทุกคนในทุกเวลา

บทบาทพื้นฐาน

- By the book Soldier นั้นไม่ใช่ฮีโร่ Offense แนวลอบสังหารหรือแอบเข้าแนวหลังอย่าง Tracer หรือ Reaper ครับ เนื่องจากถึงพี่แกจะไปไหนมาไหนได้รวดเร็วทันใจ
และฮีลตัวเองได้ก็จริง แต่ความยืดหยุ่นของการใช้เรียกได้ว่าไม่สูงนัก เรียกได้ว่าไม่สามารถแอบปีนรั้วไปตีหัวใครได้ (หากไม่เจอแนว 1 ต่อ 1 น่ะนะ) ที่สุดแล้วสถานการณ์ที่ดีที่สุดของ Soldier
คือสถานการณ์ยืดเยื้อและตรงไปตรงมาครับ (ตรงข้ามกับ Tracer เลย) จะเห็นได้ว่า Soldier เป็นตัวละครตัวหนึ่งที่แรงไม่เคยตกและไม่จำเป็นต้องวิ่งหากล่องยามากนักในกรณีที่ต้องยิงสู้กันเป็นเวลานานๆ

- Steady income อาวุธของ soldier นั้นมีหลักการใช้คล้ายๆกับเกมแนวยิงแนว military shooter ทั่วๆไปคือกระสุนจะเริ่มกระจายหากยิงเป็นเวลานานๆ ดังนั้นเวลาเล่นขอแนะนำให้
ลองเล่นในโหมด Practice ดูก่อนเพื่อหาระยะของปืนที่เหมาะสม ในสถานการณ์ทั่วไปนั้น soldier เป็นตัวที่สามารถวิ่งไปยิงไปได้ (ซึ่งตรงนี้ไม่เหมือนกับเกมอื่นเพราะการเคลื่อนไหวในเกมนี้ไม่มีผลกับ
ความแม่นยำของปืนครับ) แต่ถ้าศัตรูเริ่มอยู่นอกระยะก็ให้ลองปรับวิธีการยิงมาเป็นการยืนยิงแบบ burst fire ดูก็จะช่วยได้เยอะเวลาเจอศัตรูแนว sniper / turret ครับ

- Surprise! ถึงตัวปืนปกติของ Soldier จะเดาทางง่ายและสามารถหาทางหลบออกมาได้ไม่ยากในการต่อสู้ระยะกลาง แต่ทีเด็ดที่จะเป็นลูกทีเผลอของ soldier คือ Helix Rocket
ซึ่งในระยะใกล้ - กลางเป็นได้ทั้งท่าตัดกำลังและสังหารศัตรูที่กำลังจะหนี (ซึ่งวิธีใช้ก็จะคล้ายๆกับ RPG ของ Pharah คือเน้นยิงลงพื้นหรือกำแพงจะหวังผลได้มากกว่ายิงหวังโดนตัว) และท่านี้ยังเป็นท่าหากิน
สำหรับการทำลายป้อมฝ่ายตรงข้ามด้วย (ดีไม่ดีได้เจ้าของป้อมพร้อมกันด้วยเลย)

- Sprinter สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมคือ Soldier สามารถวิ่งสับขาหลอกได้ตลอดเวลา (ไม่มี Cooldown ซะด้วย) ท่านี้จึงเป็นท่าที่ควรจะกดใช้ให้ติดเป็นนิสัยครับ เพราะมันจะช่วยทำให้คุณสลับ
หน้าที่ไปมาได้ระหว่างตัวยิงเสริมให้ Tank กับตัว Flank ที่หามุมยิงจากจุดที่แนวป้องกันอ่อนกว่าได้ และยังใช้วิ่งหนีออกจากจุดเสี่ยงภัยเช่นวงสวิงของ Rienhardt หรือมังกรของ Hanzo ได้ด้วย

- หมอจำเป็น Biotic Field ของ Soldier สามารถฮีลตัวละครแบบ AoE ในจุดที่ยืนอยู่ได้ ถึงแม้จะไม่ได้มีกำลังการรักษาเท่ากับตัว Support โดยตรง (รักษา 40 หน่วยต่อวินาที
เป็นเวลา 5 วินาที ซึ่งรวมๆแล้วก็เท่ากับจำนวนเลือดของ Soldier นั่นเอง) ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ soldier ยิ่งเหมาะสำหรับการอยู่แนวหน้าที่ตัวละครมักจะไปกระจุกตัวกันอยู่ครับ ดังนั้นถึงแม้
Mercy ฝั่งเราจะโดนสอยไปแล้วก็ตาม Soldier ที่ดีจะยังสามารถยื้อชีวิตให้แนวหน้าได้ดีในระดับหนี่งครับ

การเล่นระดับสูง

- Aimbot เทคนิคในการใช้ Tactical Visor ของ Soldier จังหวะที่ดีที่สุดคือช่วงที่เข้าปะทะกันแล้ว Tank ฝ่ายตรงข้ามตายพอดี (ถ้า Tank ยังลอยหน้าลอยตาชนอยู่ยืนยันได้เลยว่า
กำลังยิงเราทำอะไรไม่ได้มาก)ปัญหาหนึ่งของ ultimate ท่านี้คือถึงมันจะล็อคเป้าให้ แต่ก็จะล็อคตัวที่ใกล้ที่สุดให้ (คือถ้าชนกันซึ่งๆหน้า Tank มักจะอยู่แนวหน้าตลอด)ดังนั้นจังหวะที่ Tank ตายจึงจะเป็นจังหวะที่ดี
ที่สุดที่จะไล่เกก็บตัวอื่นด้วยครับ


- Surprise again! เทคนิคนี้จริงๆแล้วไม่ใช่เฉพาะ Soldier ที่ทำได้ (จริงๆทำได้เกือบทุกตัวนั่นแหละ)แต่เทคนิคนี้ Soldier มักจะได้ใช้บ่อยๆเพราะส่วนใหญ่ดวงสมพงค์มักจะได้ไปกับ Rienhardt เสมอ
หลักการคือการยิง Helix Rocket จากด้านหลังของตัว tank ครับ ด้วยธรรมชาติที่เกมนี้คุณสามารถยิงทะลุตัวเพื่อนได้ ทำให้เราสามารถยิงใส่ศัตรูที่ไม่ระวังตัวได้ (เป็นหลักการเดียวกับ Counter-strike เวอร์ชั่นเก่ามากๆ
ที่คุณสามารถยิงทะลุตัวเพื่อนได้ หลายๆครั้งจึงมีพวกวิ่งตามเพื่อนแล้วเอาเพื่อนเป็นโล่มนุษย์ครับ 555)



Mei

คำนิยาม

Crowd Control / Close range fighter / Zoning / Indirect Tank

ระดับความยาก : ปานกลาง

#Freezing #Close_Range #mid_range_sniper #Anti_Tank #Zoning #Tank #Self_Healing #Utility #Distraction


wiki : http://overwatch.gamepedia.com/Mei

เรียกได้ว่าโดนล่าแม่มดกันไปแล้วเรียบร้อยกับน้องเหม่ยคนนี้ (ตอนที่กำลังเขียนอยู่นี่ก็ถึงขั้นมีล่ารายชื่อถอดหรือ Nerf Mei อยู่ใน Chang.org นะครับ) ซึ่งในความคิดของหลายๆคน Mei อาจจะเป็นตัวที่
ถูกมองว่า "เก่งเกินไป" สำหรับผมแล้วส่วนตัวมองว่า Mei อยู่ใน Tier ที่สูงก็จริง แต่ด้วยความที่เป็นตัวที่สร้างปัญหาได้เยอะ ก็เลยถูกฝ่ายตรงข้ามที่มีประสบการณ์แก้ทางได้อย่างรวดเร็ว และถึงจะมีความสามารถ
รอบด้าน (เรียกได้ว่าเล่นได้หลายแบบตั้งแต่ Defense / Tank / snipe ระยะกลาง แถมฮีลตัวเองได้อีก)แต่ก็ถือว่าเป็นตัวที่ต้องเข้าไปเสี่ยงอยู่แนวหน้าอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีความเสี่ยงหากเจอกับแนวหน้า
ของศัตรูที่มี DPS สูงๆครับ

บทบาทหลักของ Mei คือการก่อกวนแนวหน้าและขัดขวามหรือแยกศัตรูออกจากกันตามพื้นที่ที่เป็นคอขวดทั้งหลาย รวมไปถึงการสังหารตัวละครแบบเดี่ยวๆที่มีค่า DPS ไม่พอจะโต้กลับด้วยตัวคนเดียว และการยืดเยื้อ
อยู่ในโซนภารกิจ (ใช้ได้ทั้งแนวยึดจุดและเข็นรถ)ด้วยสกิลที่จะช่วยให้รอดได้นานพอที่กำลังเสริมจะมาถึง สิ่งหนึ่งที่อาจจะสร้างภาพจำให้คนที่ไปโดน Mei เลี้ยงน้ำแขงไสมาว่าเป็นตัวที่โกงเกินไป ก็อาจจะมาจากวิธีฆ่า
ที่แสนจะเลือดเย็นของเจ้าหล่อน (เป็นเสี้ยววินาทีที่สิ้นหวังและน่าหงุดหงิดสุดๆไปเลย) แต่สำหรับคนที่เล่น Mei แล้วก็จะต้องเตรียมตัวเอาตัวรอดจากสหบาทาที่รุมกระหน่ำเข้ามาทางคุณก่อนเป็นคนแรก

บทบาทพื้นฐาน

- กำแพงแห่งรัก ของเล่นหลักของ Mei ที่ควรใช้ให้เป็นคือ Ice wall ซึ่งใช้ในการปิดเส้นทาง(ซึ่งนี่ก็เป็นจุดอ่อนอีกอย่างของ Mei คือสามารถคาดเดาได้ง่ายว่าจะอยู่ตามพื้นที่คอขวดเสียเป็นส่วนใหญ่)
และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นคือการใช้ที่แม่นยำจะสามารถแบ่งแนวหน้าของศัตรูออกจากทีมได้ด้วย (แบบหลุดมาฝั่งเรา 1 - 2 ตัวนี่ก็ขนมทางแนวรับฝั่งเราเลย)นอกจากนั้น Ice wall ยังใช้เพื่อปีนขึ้นไปในพื้นที่ท่ายากจะเข้าถึง
ได้ด้วย แต่ก็ไม่สามารถใช้ใน Casual แมทช์ได้เท่าไหร่นอกจากจะฟอร์มทีมกับเพื่อนมาครับ

- Freeze! การใช้ปืนแช่แข็งของ Mei นั้นมีหลักการไม่กี่อย่างคือคอมโบแช่แข็งแล้วคลิกขวายิง Headshot (ถ้ายิงพลาดก็ไม่ไหวแล้วนะครับ 555) และเลือกศัตรูที่ควรแช่ เพราะในเหล่าฮีโร่ด้วยกันก็มีตัว
ที่แช่ไม่ได้หรือไม่ควรไปยุ่งอยู่ (เช่น McCree , Zarya , Pharah , Junkrat)อีกทั้งการเข้าไปวิ่งในโซนเปิดมากเกินไปก็ทำให้เสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของ sniper ได้ ดังนั้นควรระวังหรือใช้ ice wall สร้างโซนปลอดภัย
ก่อนที่จะเข้าตะลุมบอนในพื้นที่เปิด

- Ice shard ท่า Icicle นั้นนอกจากจะใช้จิ้มหัวเหยื่อผู้โชคร้ายแล้ว ท่ายิงคลิกขวานี้ยังให้ผลดีในระยะกลางอีกด้วย และปกติการเล่นเป็น Mei ก็มักจะไปรำๆฟ้อนอยู่แนวหน้าอยู่แล้ว ทำให้โอกาสเจอป้อมหรือสไนเปอร์ใน
ระยะกลางมีโอกาสค่อนข้างสูง การใช้โหมดยิงนี้อาจจะต้องฝึกสักหน่อย (มีจังหวะหน่วงก่อนจะยิง)แต่ถ้าฝึกใช้จนชินก็จะสามารถช่วยสนับสนุนการทำลายป้อมและล่า Sniper ฝ่ายศัตรูได้

- anti-tank Mei มีศักยภาพสูงสำหรับรบกวน Tank หลายๆตัว (มี Zarya ตัวเดียวที่น่าจะเสี่ยงหน่อย)สิ่งหนึ่งที่การแช่แข็งช่วยทีมได้เยอะคือจะทำให้ตัว Tank ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้อย่างสิ้นเชิง และ Mei เองก็
ค่อนข้างจะรวดเร็วพอที่จะแอบเข้าไปแช่จากด้านข้างหรือด้านหลังครับ

การเล่นระดับสูง

- Ice Block Cryo-Freeze ของ Mei เป็นอีกสกิลที่น่าอึดอัดสำหรับหลายๆคนด้วยความสุดยอดที่สามารถเป็นอมตะได้ถึง 4 วินาที และระหว่างอยู่ในน้ำแข็งยังสามารถฮีลตัวเองได้ด้วย ทำให้หลายๆครั้งถึงจะเป็นท่า
Ultimate เองก็ไม่มีผลอะไรเลยกับ Mei และยังนำไปใช้คู่กับ Ice wall เพื่อยืดเวลาแห่งการปกป้องให้นานยิ่งขึ้นไปอีก (ยื้อได้นานที่สุดได้เกือบ 10 วิเลยทีเดียว) แต่การใช้ไม่ดูตาม้าตาเรือก็จะทำให้ตกอยู่ในวงล้อมของศัตรูและ
ไม่สามารถหนีออกมาได้ ดังนั้นในบางสถานการณ์ การกดแคนเซิลท่าแล้วรีบเผ่นออกมาดูจะเป็นหนทางที่ดีกว่า

- Blizzard Entertainment ท่า Blizzard นั้นไม่ใช่ท่าสังหารโดยตรงครับ และเป็นท่าที่ cast ค่อนข้างนานจึงทำให้ศัตรูสามารถหนีออกไปจากวงรัศมีได้หากรู้ตัวก่อน และท่านี้จำเป็นต้องมีเพื่อนๆมาช่วยยิงซ้ำให้
ถึงจะเกิดผลมากที่สุด (เพราะถ้าแช่ได้ 4 คน คุณก็จะมีเวลาฆ่าอย่างมากก็ได้แค่ราวๆ 2 คน) เทคนิคที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับการใช้ท่านี้คือให้ใช้ Ice wall ปิดทางหนีของศัตรูก่อน

- Ice Blockade อันนี้เป็นเทคนิคส่วนตัวเวลาฉุกเฉินนะครับ ท่า Cyro-Freeze นี้ประโยชน์นอกจากจะใช้ป้องกัน และรักษาตัวได้แล้ว ถ้าใช้ดีๆก็สามารถกลายเป็นกำแพงด้านเดียวแบบแฮนด์เมดได้อีก กล่าวคือการ
ใช้สกิลนี้ตอนที่เรายืนขวางประตูเล็กแบบผ่านได้คนเดียวครับ (เช่นประตูข้างของฉากทั่วไป)ซึ่งศัตรูจะไม่สามารถยิงหรือวิ่งผ่านตัวเราไปได้ แต่เพื่อนเราสามารถทำได้ครับซึ่งถือเป็นทริคสร้างกำแพงที่ดีโดยไม่ต้องใช้ Ice Wall



D.Va

คำนิยาม

Rapid Deployment Tank/ Close range fighter / Pusher / Ambush

ระดับความยาก : ยาก

#airborne #rusher #hard_to_Sync #Indirect_Route #short_Range #hybrid_playstyle


wiki : http://overwatch.gamepedia.com/D.Va

D.Va หรือเรียกอีกอย่างว่ายัยหุ่นปืนเก๊ (ยิงอะไรไม่เคยตาย) ซึ่งเป็นฮีโร่ตัวหนึ่งที่ยากต่อการเข้าใจโดยสัญชาติญาณ ต่างจากฮีโร่ตัวอื่นที่ความสามารถค่อนข้างเด่นชัด (เช่น Soldier ก็เน้นยิง Rienhardt เน้นกางโล่)
แต่สำหรับ D.Va นี่เป็นฮีโร่ที่มีความเสี่ยงมากในฐานะตัว Tank แบบซึ่งๆหน้า ในหลายๆกรณี D.Va นั้นก็ไม่สามารถใช้เป็น Tank หลักได้ (ออกจะเป็น Tank เสริมสำหรับเล่นแนวรุก 2 Tanks มากกว่า)เพราะสิ่งที่
D.Va มีคล้ายคลึงกับ Winston คือความสามารถในการทะลวงแนวหน้าไปป่วนแนวหลังของศัตรูได้อย่างง่ายดาย ซึ่งปัญหาที่ตามมาคือ ตัวฮีลสากลแบบ Mercy นั้นไม่สามารถตามไปได้ (หรือถ้าคิดจะตามไปก็มีโอกาสมาก
ที่จะโดนกระทืบระหว่างทางก่อน)แถมอาวุธที่ใช้ก็ดูจะเหมือนปืนลูกซองเสียมากกว่าพวก minigun (ยิงเป็นลูกปรายและระยะหวังผลไม่เกิน 10 เมตร) ทำให้ภาพรวม D.Va นั้นมีความสามารถในการทำ DPS มากกว่า
Winston แต่ก็หลบหลีกยากกว่าเช่นเดียวกัน

*** ความรู้พิเศษ Armor Point ***

หลายๆท่านคงจะสงสัยนะครับว่าไอ้แถบเลือดทั้งสีขาว สีเหลือง กับสีน้ำเงินมันต่างกันยังไง ? ในที่นี้สีขาวไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรมากครับ เป็น Health Point ปกติ ถ้าหมดคือตาย (ง่ายๆแค่นี้แหละ 555)
สำน้ำเงินคือ Shield ซึ่งสิ่งที่แตกต่างออกไปคือ ถ้า Shield ได้รับความเสียหาย มันจะ Regen เองอัตโนมัติ ( 20 หน่วยต่อวินาที) แต่สำหรับ Armor (สีเหลือง) ที่ D.Va ดูเหมือนจะมีมากที่สุดในเกมนั้น
ค่านี้มีความสามารถพิเศษคือ "สามารถลด damage ที่ได้รับลง 50% แต่ไม่เกิน 5 หน่วยต่อครั้ง" ซึ่งหลายๆครั้งเวลาเล่น D.Va อาจจะมีความรู้สึกที่ว่าทำไมเลือดลดช้าบ้างไวบ้างก็ด้วยค่า Armor ที่ว่าครับ

บทบาทพื้นฐาน

Tank but no Tank สิ่งหนึ่งที่ D.Va ในสภาพ mech ทำได้ไม่ดีคือรับความเสียหายแบบตรงๆเหมือน tank ตัวอื่น ยกเว้นเสียแต่ว่าจะเป็นช่วงมุมตึกหรือระยะที่ใกล้และชุลมุนมากๆ การ Tank ของ D.Va
ก็ดูจะไปในแง่ของการทำตัวเฉิดฉายให้ศัตรูรู้สึกเป็นภัยเสียมากกว่า ซึ่งทางที่ดีที่สุดนั้นคือหาเส้นทางเข้าไปชนตัวที่มี DPS ต่ำๆหรือพวก Healer แบบทีเผลอ และพุ่งออกมาเมื่อมีศัตรูสนใจเรามากเกินไป
หลายๆครั้ง D.Va จึงถูกเปรียบเทียบว่าเหมือน Tracer เวอร์ชั่น Tank ด้วยสาเหตุนี้ คำแนะนำในการเอาชีวิตรอดอื่นๆก็ดูจะเหมือนกับ Tracer อย่างกับแกะมาเลยก็ได้ครับ (เน้นเข้าแล้วออก จำจุดเกิด Health pack
ให้ดี และเน้นเซอร์ไพรส์ระยะใกล้เป็นหลัก)

การหนีที่ดีที่สุดคือการโจมตี เมื่อ D.Va รับการโจมตีในระดับหนึ่ง การที่หุ่นถูกทำลายลงก็กลายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก (อาจจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำหากต้องการจะทำ Damage ตลอดเวลา) ซึ่งหลังจากดีด
ตัวออกจากหุ่น ในสถานการณ์แบบนี้เป็นช่วงที่เรียกได้ว่า High-risk-High-reward ของ D.Va ครับ ในความหมายคือหลังจากดีดตัว อาวุธของ D.Va จะได้ระยะเพิ่มมาทันที (เอาจริงๆผมว่าปืนพกนี่มันมีประโยชน์
กว่าปืนหุ่นกิ๊กก๊อกอีกนะ 555)แต่ส่วนที่แย่คือหลัง D.Va ดีดคัวออกมาก็จะเหลือแค่ชุด Pilot รัดรูปเร้าใจที่มีเลือดคือ 150 เท่านั้น (เรียกได้ว่า Widow ยิงไม่ต้องโดนหัวยังตาย) แต่ภายใต้ความเสี่ยงเหล่านี้
ก็ยังมีปัจจัยที่ทำให้คุ้มที่จะเสี่ยงอยู่ดีครับ เพราะจังหวะนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะรักษาระยะห่างพร้อมกับยิงสนับสนุน (ดีไม่ดีจะสามารถฆ่าศัตรูที่ไม่ทันระวังตัวได้) และถ้าสามารถรักษาตัวได้รอดนานพอ และทำความเสียหายได้ตลอด
คุณก็จะสามารถดาว์นหุ่นตัวใหม่มาขับได้ในเวลาอันรวดเร็ว (ดีไม่ดีไม่ถึง 10 วินาทีด้วยซ้ำ) เพราะความสามารถหนึ่งคือปืนสั้นของ D.Va สามารถลด Cooldown ของสกิลเรียกหุ่นได้ () ดังนั้นการรักษาระยะที่ดีหลังจาก
หุ่นพังนั้นให้ผลดีกว่าหนีไปเลย

มาเร็ว Tank เร็ว จุดเด่นอีกอย่างของ D.Va คือการใช้ Booster พุ่งเข้าหาจุดภารกิจอย่างรวดเร็ว (ทั้งการเล่นแบบยึดจุดและเข็นรถ) ในฉากแนว Capture นั้น D.Va สามารถเข้าสู่จุดยึดได้ในเวลา ไม่ถึง 20 วินาที
ด้วยซ้ำ (ไม่นับรวม Lucio)เพราะ Booster นอกจากจะใช้พุ่งตัวได้ระยะหนึ่งแล้ว ยังสามารถใช้บินข้ามสิ่งกีดขวางได้ด้วย สิ่งที่ต้องระวังสำหรับการใช้งานแบบนี้คือบางทีเรามักจะไปถึงจุดหมายเร็วเกินไป ทำให้ถูกรุมกินโต๊ะได้ง่าย
ดังนั้นรอดูจังหวะให้ดีก่อนพุ่งตัวเข้าไปโชว์เทพด้วยนะครับ

สีทนได้ ท่า Defense Matrix ของ D.Va นั้นจริงๆแล้วเรื่องความสามารถในการป้องกันนั้นเหนือกว่าโล่ของ Rienhardt อยู่เยอะ (แต่ก็แย่กว่าในทางปฏิบัติเยอะอยู่เหมือนกันเพราะมันกางไม่ได้ตลอดน่ะนะ)
แต่จุดที่ดีกว่าก็ทำให้ในบางสถาณการณ์ D.Va ก็โดดเด่นมากในเรื่องของ Anti-Ultimate เพราะสามารถยิงทำลายอาวุธระยะไกลในเกมได้แทบจะทุกประเภทครับ แถมใช้คู่กับ Booster ในการกระแทกศัตรูให้เสียจังหวะด้วยก็ยิ่ง
ดีสำหรับขัดจังหวะ Ultimate ของ Roadhog , Pharah , Reaper , McCree (ที่เจ๋งที่สุดคือสามารถทำลายธนูมังกรของ Hanzo ได้หากใช้ในระยะประชิดขณะที่ลูกธนูยังไม่กลายเป็นมังกรครับ)


การเล่นระดับสูง

Rocketto panchhhh! สิ่งที่ D.Va มักจะได้ทำบ่อยๆคือการพุ่งตัวใส่ศัตรู นอกจากในบางเวลาการกางโล่พร้อมกับพุ่งตัวจะสร้างพลังการ rush ที่น่าเกรงขามแล้ว การใช้ท่า Booster อีกอย่างคือการพุ่งชนแล้ว melee
ทันที 1 ครั้งครับ ซึ่งจะทำให้ได้ Damage ทันที 75 หน่วย เหมาะมากสำหรับลดเลือดของศัตรูก่อนเปิดฉากยิง สิ่งที่ต้องระวังอย่างหนึ่งคือท่านี้ไม่สามารถใช้กับ Defense Matrix ได้ซึ่งจะทำให้เรามีช่องโหว่เยอะพอตัว
ดังนั้นท่านี้เหมาะจะใช้ทีเผลอจากด้านข้างหรือด้านหลังมากกว่าครับ

มวยติดเชือก D.Va นั้นสามารถพุ่งชนศัตรูได้ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกนัก และถึงความแรงของการกระแทกจะเป็นอะไรที่ใช้งานได้ยากกว่า Lucio มากโขอยู่ แต่ถึงกระนั้นด้วยขนาดของหุ่นที่ใหญ่ทำให้ถ้าเล็งมุมกระแทกดีๆศัตรูจะไป
ติดอยู่ที่มุมหรือกำแพงทำให้หนีได้ยาก ซึ่งเป็นโอกาสรัวปืนของ D.Va

D.Vastation ท่า Self-Destruct ของ D.Va นั้น เรียกได้ว่าใช้ยากใช้เย็นถ้าจะใช้ในแง่ของการหวังผลได้ 100% ด้วยความที่ถึงแม้ท่าจะแรงมาก และรัศมีกว้างมาก แต่ก็ใช้เวลาร่ายนานมากเหมือนกัน ( 4 วินาทีเลยทีเดียว)
ผลก็คือศัตรูก็พากันหนีไปกันหมดแล้วก่อนที่จะได้ระเบิดอะไรแบบเป็นชิ้นเป็นอัน ดังนั้นท่านี้จะดีก็ต่อเมื่อใช้เป็นท่าตาม ultimate อื่นๆเช่น Earthshatter (Rienhardt) , Blizzard (Mei) หรือ Gravition Surge (Zarya)
เสียส่วนใหญ่ แต่ในกรณีฉุกเฉินเช่นถ้าต้องการไล่ศัตรูออกไปจากจุดภารกิจให้นานที่สุด ท่านี้ก็ค่อนข้างจะมีประโยชน์เช่นเดียวกันเพราะนอกจากศัตรูแล้ว ฮีโร่ฝั่งเราจะไม่ได้รับผลกระทบไดๆเลยจากท่านี้ทั้งในแง่ของความเสียหายและแรงผลักครับ






Zarya

คำนิยาม

Support Tank/ Mid-range Support / Anti-Turret

ระดับความยาก : ยาก

#Timing_Skill #2Tanks_Expert #support #AoE #opportunist #Anti-Turret


wiki : http://overwatch.gamepedia.com/Zarya



สะเทือนเลื่อนลั่นวงการกันอีกครั้งกับสาว Strong! คนนี้ (จะไปเรียกป้าก็ไม่ได้ เห็นล่ำๆดุๆแบบนี้เด็กกว่าป้าเหม่ยอีกนะจ๊ะ 555) ซึ่งมาพร้อมกับเล็บชมพูคู่ใจและ Particle Cannon
ที่ตอนแรกๆก็เหมือนจะแรงเท่าเครื่องดูดฝุ่น แต่ถ้าเกมยิ่งยืดเยื้อ และคนเล่นยิ่งพริ้วไหวและฉลาดเท่าไหร่ Zarya จะเป็น Support Tank ที่อันตรายมากๆหากปล่อยไว้นานๆ แต่ด้วยปัจจัยหลักที่
สกิลแต่ละอย่างของเจ้แกเน้น Timing หมดเลย ทำให้ถ้าเจอฝั่งตรงข้ามที่ชาญศึก หรือฝั่งเราสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายได้ไม่พอ Zarya จะถูกจับทางได้ง่าย และตัวเจ้เองก็ไม่ได้ทนมือทนเท้า
เท่า Tank ตัวอื่น ดังนั้น Zarya จึงเหมาะสำหรับทีมแบบ 2 Tank มากกว่า

บทบาทหน้าที่ของ Zarya นั้นออกแนวตรงข้ามกับ D.Va ในแง่ที่ว่าไปช้าๆยิ่งยืดเยื้อก็จะยิ่งดีครับ เพราะปืนของ Zarya จะแรงขึ้นตามความเสียหายที่ได้รับระหว่างกางโล่ครับ และถ้าชาร์จได้เยอะๆ
(มากกว่า 50% ขึ้นไป) Zarya จะเปลี่ยนบทบาทจากตัวซัพพอร์ทไปเป็นตัวรุกที่โหดจริงอะไรจริง ด้วยระยะยิงซัพพอร์ตที่ช่วยได้ทั้งใกล้และไกลทำให้ถึงจะไม่คลุกวงในกับใคร Zarya ก็เป็น
ตัว Tank ที่โหดถ้าใช้จนชำนาญครับ

บทบาทพื้นฐาน

Tank แถวสอง ถึงอีเจ๊จะเบ่งกล้ามโชว์ประหนึ่งสาว strong ที่ไม่มีใครทำลายได้ แต่อย่างที่บอกไปคือ Zarya ไม่ใช่ฮีโร่ที่จะเข้าคลุกวงในได้อย่างสนิทใจเท่าไดนัก (มีเลือด รวม 400
เป็น Shield ซะ 200) ซึ่งเจ้จะเหมาะมากกว่าสำหรับมาเล่นซัพพอร์ตให้ Tank แนวหน้าอีกตัว ซึ่งข้อดีคือ Tank อีกตัวมักจะเป็นอะไรก็ได้ที่สามารถดึงดูดความสนใจไปจาก Zarya ได้
ระยะที่เหมาะสมสำหรับ Zarya นั้นออกไปทางระยะเดียวกับ Healer เสียมากกว่า (มองเห็นเพื่อนทุกคนเพื่อกะจังหวะในการกางโล่ ระยะไกลกว่าหน่อยไม่เป็นปัญหาเพราะสามารถใช้ particle ยิงแบบ alt fire
ซัพพอร์ตได้)

เปลี่ยนตำแหน่งตามจังหวะ โล่ที่ Zarya ใช้นั้นมีสองประเภท (คือกางให้ตัวเอง กับกางให้เพื่อน) และทั้งสองสกิลนี้ถึงจะมีประโยชน์มาก (เป็นโล่ที่กันได้ทุกอย่างจริงๆ ต่างจากของ Rienhardt)
แต่เวลาทำการก็สั้นมากเช่นเดียวกัน (กางได้ 2 วินาที หลังจากนั้นก็ชาร์จไป 8 - 10 วิโน่นโลย)ดังนั้นคุณเองก็ต้องล่อกระสุนเองบ้างเป็นบางจังหวะเหมือนกัน แต่ตรงนี้ต้องดูด้วยเหมือนกันว่า
Tank อีกตัวเป็นใครครับ เช่นถ้าเป็น Rienhardt ก็ไม่ต้องนอยกางให้ตัวเองมากนัก (เพราะ Rienhardt นี่กันได้ยืดยาวอยู่แล้ว)เก็บโล่ของตัวเองไว้กางจังหวะฉุกเฉินดีกว่า) สิ่งหนึ่งที่ควรรู้คือ
โล่ Particle Barrier ของ Zarya นั้นสามารถกันความเสียหายได้ 200 หน่วยนะครับ (มันแค่ไม่ขึ้นโชว์แค่นั้น) ดังนั้นมั่นใจได้แต่ก็อย่าเปรี้ยวโดดไปกลางฟลอร์จนหนีออกมาไม่ทันก็แล้วกัน

Cover Based Tank วันดีคืนดีหากไม่มีคนรู้ใจ Zarya ก็จำเป็นต้องลุยเดี่ยวบ้างในบางครั้ง (หรือถึงแม้จะมีก็ควรใช้เทคนิคนี้บ้างเหมือนกัน)สิ่งหนึ่งที่ Zarya ดูเหมือนจะย้อนแย้งอยู่ในตัวพอสมควรคือ
ถึงแม้จะถนัดด้านการซัพพอร์ตจากระยะกลาง แต่พอเวลาต้องลุยใกล้แล้วก็ถือว่าเป็นตัวที่ดุเดือดพอสมควร ยิ่งเป็นโซนที่คับแคบและมีทางเลี้ยวเยอะด้วยก็ยิ่งดีครับ เพราะการที่ Zarya มีเลือดน้อยกว่า Tank ตัวอื่นๆ
(โดน nerf ลงหลังช่วงเบต้า 100 หน่วย) แต่เนื่องจากเลือด 200 หน่วยเป็น Shield ก็เลยทำให้ใช้ประโยชน์จากกำแพงและที่กำบังเพื่อชาร์จใหม่ได้ และถ้าไม่มีพวกหรือ DPS สูงๆ ศัตรูเองก็ไม่กล้าที่จะ
ยืนซัดกับ Zarya ซึ่งๆหน้าเท่าไหร่นัก เพราะปืนระยะไกลนั้นถึงจะมีระยะจำกัดแต่ก็ถือเป็นปืนที่แรงที่สุดของคลาส Tank เลยทีเดียว

การเล่นระดับสูง

Anti-Turret ถึงบางครั้งศัตรูจะฉลาดพอที่จะไม่ยิงตอนเรากางโล่ก็ตาม แต่ Turret ฝ่ายศัตรูไม่ได้ฉลาดเช่นนั้น Zarya จึงหาประโยชน์จากทีมศัตรูที่เน้นเล่น Turret เยอะๆได้ เพราะระหว่างที่
คุณยิงทำลาย turret นั้นก็ยังสามารถชาร์จปืนได้ไปในตัวด้วย เพียงแต่ต้องแยกให้ดีระหว่างป้อมกับ Bastion นะครับ (อันหลังที่ชนไม่ได้นะ 555+)

Together , We are STRONK! สกิล Gravition surge ของ Zarya นั้นการใช้ก็จะคล้ายๆกับ Blizzard ของ Mei คือเป็นการเปิดฉากให้เพื่อนรุมโจมตีเป็นระรอกที่สอง ซึ่งสิ่งที่ต่างกันคือ
ในขณะที่ Blizzard สามารถหนีได้ง่ายกว่าแต่ถ้าโดนแล้วจะไม่สามารถป้องกันตัวได้เลย ในทางกลับกัน Gravition Surge ของ Zaya นั้นหนีได้ยากมาก แต่ก็สามารถถูก counter ได้จากหลายๆคลาสเหมือนกัน
(กล่าวคือท่านี้มันทำได้แค่ตรึงศัตรูให้อยู่จุดเดียวกันแต่ ศัตรูยังสามารถโจมตีหรือใช้สกิลป้องกันตัวได้อยู่) ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้จัดการกับ Tank ของฝ่ายศัตรูก่อน (Winston , Rienhardt หรือ D.Va)
เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมสามารถรุมทึ้งได้ดีขึ้น ข้อดีอีกอย่างของท่านี้คือ ถึงแม้จะไม่มีคนอื่นคอยช่วยยิงซ้ำให้ ตัว Zarya เองก็ยังสามารถโยนระเบิดเข้าไปสัก 3 - 4 ลูกเพื่อจัดการศัตรูทุกตัวได้โดยเร็ว

Friendly with Assault สิ่งหนึ่งที่ผู้เล่น Zarya ควรจัดลำดับความสำคัญคือควรรู้ว่าฮีโร่คนไหนบ้างที่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณอยู่บ่อยๆ ซึ่งคุณอาจจะพบว่า Tracer , Reaper , McCree หรือ Mei
จะเล่นแบบเน้นรุกมากขึ้นหากมา Zarya อยู่ด้วย เพราะตราบไดที่ตัวละครเหล่านี้เข้าใกล้ฝ่ายตรงข้าม ศัตรูมักจะตอบโต้กลับไปโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว




Reaper

คำนิยาม

Flanker / Close-range / Assassin

ระดับความยาก : ปานกลาง

#Map_Knowledge #Flanker #Close_range #High_Rink_High_Reward


http://overwatch.gamepedia.com/Reaper

สำหรับนายยมทูตแจกลูกซองที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหนเยอะแยะคนนี้ ค่อนข้างจะตรงไปตรงมาในคอนเซปท์ครับ คือเป็นพวกเน้นสอยอย่างเดียว ใครเจอใกล้ๆเป็นต้องกรี๊ดสลบกันเลย
และทุกๆสกิลที่นางมีก็บ่งบอกแนวทางการเล่นได้ชัดเจน นอกจากนั้นยังเป็นตัวที่เรียกได้ว่า High-Risk-High-Reward กันสุดๆไปเลย (เพราะการเคลื่อนไหวที่ช้ากว่า Tracer
ทำให้ Reaper ตกเป็นเป้าได้ง่ายกว่า) คำนิยามที่เหมาะกับสถานการณ์ของ Reaper ก็คงจะเป็น "ฆ่าหรือไม่ก็ถูกฆ่า" เพราะสกิล passive ของ reaper ก็คือความสามารถใน
กลืนกินวิญญาณของศัตรูที่ถูกฆ่า (ไม่ว่าจะเป็นจากน้ำมือของ Reaper หรือเพื่อนร่วมทีมก็ตาม) และนำมารักษาตัวเองได้ ดังนั้น Reaper จึงเป็นตัวบู๊ที่ถ้าใช้ดีๆก็สามารถกวาดศัตรู
ได้หมดทีมในช่วงชุลมุนได้เลย

แต่เนื่องจากพื้นเพที่ Reaper เองก็ไม่ใช่ฮีโร่ที่กระดูกหนาอะไรนัก แถมสกิลในการป้องกันตัวเองก็ดูจะเป็นท่าที่เอาไว้ใช้ยืดเวลาตายหรือดึงดูดความสนใจของศัตรูเสียมากกว่าท่าใน
การหลบหลีกจริงๆอย่าง Tracer หรือ Genji แถมระยะปืนก็ไม่สามารถ sync กับตัวแทงก์ระยะกลางแบบ Rienhardt ได้ Reaper จึงจะดูเป็นตัวเจาะแนวหลังที่เน้นสอย
พวก builder กับ Healer เสียมากกว่า แต่ข้อดีก็คือถ้าสอยได้สำเร็จ Reaper มักจะไม่ต้องถอยมาตั้งหลัก และสามารถเข้าคลุกกับ Tank ได้เลยในหลายๆกรณี

บทบาทพื้นฐาน

4x2 = DEATH อาวุธของ Reaper น่าเกรงขามและมีประสิทธิภาพสูงมากในระยะใกล้ ซึ่งทั้งความแรงและจำนวนกระสูงนั้นทำให้แม้แต่ตัว Tank อย่าง Rienhardt
และ Roadhog ก็ยังให้การเป็นเสียงเดียวกันว่า "มันเอาตายจริงๆพี่" สำหรับตัวที่เลือดน้อยๆอย่าง Tracer , Zenyatta นี่บอกได้แค่ว่าขอเข้าหัวนัดเดียวก็เกินพอ
แต่ความแรงที่โดดเด่นนี่แหละทำให้ชีวิต Reaper มักจะมีปัญหาด้านอื่นแทน เช่น ตกเป็นเป้าหมายหลักของศัตรูทำให้ถึงแม้ปืนจะแรงก็จริง แต่ก็เข้าไปสู่ระยะหวังผลได้ยากหาก
ไม่ศึกษาเส้นทางดีๆ

High Octane ไม่รู้ทำไมเหมือนกันครับแต่ Reaper เป็นตัวละครที่ผมใช้แล้วรู้สึกนึกถึง Diablo 3 ขึ้นมาตะหงิดๆ (น่าจะเป็นเรื่องของการเก็บ Health Orb
ระหว่างบู้ตะลุมบอนด้วยกระมัง) แต่นั่นก็ทำให้พอสรุปได้ว่า Reaper เป็นพวกบ้าพลังครับ ซึ่งก็เกือบๆที่จะทำให้เป็นคลาส Melee เลยเหมือนกัน และข้อดีอย่างที่บอกไปคือ
Reaper ไม่จำเป็นต้องพักบ่อยเท่ากับฮีโร่สายบู๊ตัวอื่นๆ แต่หลายๆครั้งจุดเปลี่ยนระหว่างความเป็นกับความตายของ Reaper ก็ขึ้นอยู่กับว่าสามารถฆ่าศัตรูได้ด้วยหรือเปล่า?
เช่นถ้าไปเจอทีมที่มีตัวฮีลเก่งๆ (หรือทีมแบ 2 Healers) Reaper ก็อาจจะต้องเลือกที่จะกำจัด Healer ให้พ้นทางก่อน

pick your target สิ่งหนึ่งที่ Reaper ควรจะเรียนรู้คือทักษะในการหาเหยื่อครับ (ซึ่งถ้าอยู่ทีมเดียวกับ Hanzo หรือ Widowmaker ก็จะสามารถช่วยเรื่องนี้ได้)
หน้าที่ของคุณมักจะเป็นการมองหาศัตรูที่แยกออกมาเดี่ยวๆ (เช่น sniper หรือ builder ฝ่ายศัตรู) แล้วตามไปจัดการหรือขัดขวาง ซึ่งสำหรับการดวลแบบ 1 ต่อ 1 นั้น
Reaper มีโอกาสชนะได้ทุกตัวหากปฏิบัติได้ถูกต้อง (ขนาด McCree ก็ยังสามารถเคาเตอร์ได้หากกด Wraith Form ได้ถูกจังหวะ) และถึงแม้จะเป็น Tank ที่มากับ Healer
แบบ mercy ก็ตาม Reaper ก็เป็นตัวหนึ่งที่สามารถทำ DPS ได้สูงเกินกว่า อัตรา Heal ของศัตรู(ยิ่งถ้าเข้าหัว Tank ซึ่งทำได้ง่ายกว่าคลาสอื่นอยู่แล้ว ก็ยิ่งแทบจะไม่ต้องฮีลเลยครับ)

การเล่นระดับสูง

Death Comes with GPS เทคนิคที่สามารถช่วย Reaper ได้มากคือการรู้เส้นทางที่ไม่ค่อยมีใครใช้กันและประยุกต์ใช้เป็นเส้นทางที่ศัตรูคาดไม่ถึงครับ ด้วยสกิล Shadow Step
ที่พา Reaper ไปได้ทุกที่จริงๆ แต่ความเสี่ยงคือการวาร์ปที่ค่อนข้างช้าและมีเอฟเฟคฟองโซดาสีแดงสดใสขึ้นมาให้ศัตรูทุกคนได้ทราบว่า Reaper มาแร้วจร้า ก็ทำให้มีความเสี่ยงสูงในการใช้
บนเส้นทางที่การจราจรแออัด ดังนั้นหลีกเลี่ยงสายหลักๆและศึกษาแมพดีๆครับ จำไว้แค่ว่าเราไม่ได้ใช้ Shadow Step สำหรับการเข้าชาร์จศัตรู แต่เป็นการหามุมเข้าไปบู้กับศัตรูมากกว่า

Die! Die! Die! ท่านี้เป็นท่าที่ทุกคนที่เป็น Reaper อยากใช้จนไข่สั่น ว่ากันตามตรงก็แทบจะไม่มีใครเรียกชื่อจริงๆของท่านี้เลยครับ (Death Blossom) เรียกเป็น Die Die Die
กันหมด ซึ่งท่านี้ต่างจากวิถีปฎิบัติอื่นๆของ Reaper อย่างแท้จริง เพราะเป็นท่าที่ต้องเน้นจังหวะและการวางแผนอย่างมากถึงจะได้ผลดี เพราะถึงจะเข้าไปในมุมที่ค่อนข้างสวย (ส่วนใหญ่มุมสวยทึ่ว่าก็
คือการกระโดดลงมาจากด้านบน) ก็ยังสามารถตกเป็นเป้าหมายของทีมที่ทำงานร่วมกันเป็นอย่างดีได้ง่ายครับ ดังนั้นการรอจังหวะให้แนวหน้าศัตรูกำลังยุ่งอยู่กับการชนของ Tank ฝ่ายเรา
การรอให้ถึงจุดชุลมุนที่ฝ่ายศัตรูถูกกดดันให้พุ่งเข้ามาที่ภารกิจ และการไม่เปิดเผยตัวเองก่อนใช้ ultimate ถือเป็นหัวใจหลักของท่านี้ครับ

ไอ้หนุ่มปืนด่วน Reaper มีเทคนิคหนึ่งที่ควรฝึกใช้ให้เชี่ยวชาญคือการทำ Melee หลังจากกดรีโหลดปืน (กะจังหวะตอนที่ตัวเลขกระสุนกลับมาเป็น 8 พอดี)จะทำให้เราสามารถรีโหลดได้เร็วขึ้น
ซึ่งสามารถช่วยชีวิตได้เลยในบางครั้ง (บางคนก็สามารถใช้ตอน Melee เอาปืนฟาดเข้าปลายคางศัตรูได้ด้วยเพราะระยะค่อนข้างเป็นใจอยู่แล้ว) ซึ่งเทคนิคนี้ตัวอื่นๆเช่น Roadhog ก็สามารถทำได้ครับ


Widowmaker

คำนิยาม

Sniper / Recon / Trapper

ระดับความยาก : ปานกลาง

#Skill_based #Long_Range #Hit_scan #Trap #Recon #Anti-Turrets


wiki : http://overwatch.gam...9428bfb7d4a0152

ก็เรียกได้ว่าโดนเนิฟไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับสำหรับแม่สาวโหดบั้นงอนคนนี้ (คือเขียนช้าจัด ณ เวลาที่อัพเดทตัวนี้ก็เลยโดนปรับความสามารถไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 555)
แต่ถึงจะโดนเป่าใบเหลืองไป อาเจ้แกก็ยังดุร้ายไม่ปราณีใครหากไม่ระวังหัวให้ดี หลักการของ Widow นั้นถ้าเคยเล่นเกมอื่นมาน่าจะเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นคลาสแนวนู๋อยู่ไกลแต่ฝากใจไปถึง
(คือซุ่มไกลๆนั่นแหละ)เพราะระยะหวังผลของอาวุธเจ้แกนั้นเรียกได้ว่าปลายนาก็ยิงถึง และด้วยความเปราะบางในเชิงของการเคลื่อนที่ (พูดง่ายๆคือเวลาใช้กล้องซูมจะไม่สามารถวิ่งหลบกระสุนได้)
ดังนั้น Widow มักจะเลือกอยู่ให้ห่างระยะหวังผลของศัตรูมากที่สุดเพื่อที่จะได้ไม่มีใครมารบกวนตอนเก็บแต้ม

Widow เป็นฮีโร่ตัวหนึ่งที่ผมไม่รู้จะเขียนเทคนิคอะไรดี ปัญหาไม่ใช่เพราะไม่เก่ง แต่เป็นเพราะวิธีใช้ให้เก่งนั้นแทบจะอยู่ในสายเลือดของคนเล่น FPS ทุกคนอยู่แล้ว (คือเข้าใจง่ายเกินว่างั้น)
เอาแค่คุณยิงเข้าหัวได้แม่นๆ และนับเวลาซูมได้คล่องๆ การสร้างความลำบากให้แก่การเคลื่อนทัพของศัตรูก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย

บทบาทพื้นฐาน

One shot one kill ทักษะเบื้องต้นที่สุดของ Widow ที่ทุกท่านควรรู้ไว้เลยก็คือการนับเวลาซูมครับ เพราะหลักการโดยพื้นฐานแล้วไรเฟิลของ Widow จะมีเวลาชาร์จอยู่
(ซึ่งตรงนี้เป็นหลักการเดียวกับ sniper ของ TF2 เพื่อป้องกันการ quick scope ที่จะทำให้ตัวละครโคตรโกงไปเลย)ซึ่งสาเหตุที่คุณควรจะฝึกนับเวลาเอาแทนดูแถบชาร์จที่ถึงแม้
จะสีสดและเห็นได้ง่ายก็จริงแต่ตามหลักปฏิบัตินั้นใช้วิธีการนับเอาจะทำให้ประหยัดเวลาและทำให้มีสามารถหลบหลีกได้ง่ายขึ้นด้วย ซึ่งวิธีคือหลังจากซูมให้กะเวลาแค่ตัวชาร์จให้แต่ 100% พอ
ไม่จำเป็นต้องรอให้มีไอคอนสีขาวๆขึ้นมาล็อค (อันนั้นเป็นแค่สัญญาณบอกว่าชาร์จเต็มแล้วครับ) ซึ่งจะสามารถทำ damage ได้เท่ากันแต่ประหยัดเวลากว่าเยอะ ซึ่งตรงนี้บางท่านก็แนะมาว่า
ไม่ต้องนับก็ได้ แค่จำเสียงตอนชาร์จให้ขึ้นใจก็พอ ซึ่งก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยได้ครับ


จดหมายรักจากทางไกล widow นั้นอ่อนแอเวลาปะทะระยะใกล้ (ปืนแบบไม่ซูมนั้นหวังผลได้ยากเพราะแม่นยำน้อยกว่าปืนแนว Hit-scan ระยะใกล้ของฮีโร่คนอื่น) ดังนั้นการอยู่ให้
ห่างไกลจุดปะทะตามวิสัยของ Sniper เป็นสิ่งที่พึงกระทำครับ ซึ่งปกติสกิล grappling hook ก็ทำให้ widow ปีนป่ายไปได้ทุกที่อยู่แล้ว (ใช้หนีก็ได้นะ) ดังนั้นการมีความรู้เรื่องแผนที่
นั้นก็ค่อนข้างสำคัญในการใช้ Widow (แต่ตามปกติแล้วเราก็สามารถเรียนรู้จุดซุ่มดีๆจากศัตรูได้อยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน)


กับดักแมงมุม Venom Mine ของ Widow นั้นมีวิธีใช้หลากหลายพอสมควร สกิลนี้ถึงจะมีค่าความเสียหายรวมแล้ว 75 หน่วย (15 ต่อ 1 วินาที) ซึ่งถือว่าไม่ได้มากพอจะทำให้ใครตายได้
แต่ก็ถือว่าสามารถช่วยเพื่อนร่วมทีมในการทำ damage แบบ guaranteed hit (ยังไงก็โดนชัวร์ๆ)ได้แล้ว สกิลนี้ยังสามารถช่วยให้เรารอดตายเวลาเจอใครแอบมาบุกรังได้ (ปกติจะเป็น Tracer หรือ Genji)
ซึ่งตามปกติแล้วเราสามารถใช้วางตามทางเข้าด้านข้างหรือด้านหลังของเราเพื่อป้องกันตัว แต่ถ้าเราศึกษามุมตกของมันดีๆนั้นจะพบว่าสกิลนี้สามารถยิงได้ไกลพอสมควร ดังนั้นหลายๆคนจึงใช้ท่านี้ยิงเข้าไปในในกลุ่ม
แนวหน้าที่กำลังวุ่นกับการเข็น payload หรือแม้กระทั้งยิงไปติดทางออกของจุดเกิดศัตรูได้ด้วย

การเล่นระดับสูง

Scanned เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่าสำหรับ Widowmaker แล้ว ultimate infra-sight เป็นอะไรที่กดใช้ตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น (ปกติก็จะเป็นแนวได้แล้วก็กดเลยเสียมากกว่า) ซึ่งประโยชน์ทางตรงของมันคือ
เป็นการบอกตำแหน่งศัตรูทุกตัวให้เพื่อนร่วมทีมรู้ (และทำให้เรากะ headshot ได้ง่ายขึ้นด้วย) แต่ในบางกรณีการเก็บไว้ใช้ counter ultimate ตัวละครอื่นๆอย่าง Bastion , Junkrat , Pharah
ก็มีประโยชน์มากหากใช้ได้ถูกเวลา

assault maker widow นั้นถึงจะเป็นคลาสแนว defend แบบสุดลิ่มทิ่มประตูมาตั้งแต่ปางก่อน แต่ถึงกระนั้น การเล่น Widowmaker ในฐานะตัวกำจัด turret ก็เก่งกาจไม่น้อย ถึงแม้บางกรณีจะดีไม่เท่า
Pharah แต่ก็มีบางตัวที่ widow สามารถกำจัดได้เด็ดขาดกว่า ซึ่ง widow เองก็สามารถจับคู่กับ Rienhardt ได้ดีอีกด้วย


fine tune มีหลายคนที่ยังไม่รู้ว่า Widowmaker นั้นสามารถตั้งค่าของ mouse sensitivity เฉพาะตอนซูมได้ด้วย (จริงๆแล้วตัวละครหลายๆตัวจะมี Option ส่วนตัวแยกจากคนอื่นครับ) วิธีปรับคือ
เข้าไปที่ option > Controls > ด้านขวาบนให้เลือกจาก all heroes เป็น Widowmaker > แล้วปรับตรง option ชื่อ Relative aim sensitivity while zoomed ผมเลือกที่จะปรับตรงนี้ให้เป็น 0 เลย
ท่านที่อยากได้ค่านี้มากน้อยก็สามารถปรับได้ตามใจชอบครับ


Pharah

คำนิยาม

AoE / Far support / Turret hunter

ระดับความยาก : ปานกลาง

#air_support #Explosive #pusher #long_range #flanker #vertical


wiki : http://overwatch.gam...887b778925c2b5c

Pharah นั้นน่าจะเป็นฮีโร่แนว Offensive ที่ผมใช้มากที่สุดแล้วหากต้องเลือกฮีโร่ที่ใช้แก้ทางอะไรก็ได้ เพราะสาวบั้งไฟคนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นตัวรุกจากแนวแหลังของฝ่ายตัวเองมากกว่าตัวชนหรือตัวอ้อมไปแนวหลังของศัตรู
จึงทำให้ปลอดภัยจากแนวหน้าที่หนักหน่วง แต่อีกนัยหนึ่งก็ทำให้เสี่ยงต่อการโดน Sniper สอยจากระยะไกลได้เหมือนกันครับ สิ่งหนึ่งที่ Pharah เก่งคือการยิงสนับสนุนจากองศาที่ศัตรูคาดไม่ถึง ทลายแนวหน้า ชนเลนกลาง
และยิงจากวงนอกเข้าสู่จุดยุทธ์ศาสตร์ วิธีการใช้ Pharah นั้นก็เลยคล้ายๆกับ Junkrat เพียงแต่ Pharah จะเน้น direct damage มากกว่าความยืดหยุ่นในการใช้ (แบบว่าคลิกตรงไหนก็ได้บึ้มตรงนั้น)
ดังนั้นบทบาทของ Pharah มักจะไม่ใช่การนำทัพแต่เป็นตัวแนว Counter-Defensive Heroes อีกที

บทบาทพื้นฐาน

Top Gal ก่อนใช้ Pharah แนะนำให้ลองบินไปบินมาเล่นๆในโหมดฝึกหรือสู้กับบอทก่อนครับ เพราะถึงแม้จะบินได้แต่เธอก็ถูกออกแบบมาให้ลงพื้นเพื่อชาร์จอยู่ตลอดเวลา (ชาร์จเร็ว แต่ก็หมดเร็วเหมือนกัน)
ปัญหาที่ตามมาคือการลงพื้นแบบไม่ดูตาม้าตาเรือจะทำให้ตกเป็นเป้าของฮีโร่ระยะใกล้ตัวอื่นๆได้ง่ายมาก ปกติแล้วการใช้ jump jet ส่งตัวเองขึ้นไปแล้วค่อยกดกระโดดเพื่อลอยตัวทีละนิดทีละหน่อยจะช่วยให้อยู่บนอากาศได้นานกว่า
ซึ่งการหาพื้นที่สูงเพื่อลงจอดชั่วคราวก็ช่วยได้เหมือนกัน

Air-support การยิงจรวด RPG ของ Pharah นั้นเรียกได้ว่าคล้ายๆกับเกมสมัยก่อนเช่น Team Fortress 2 หรือ Unreal Tournament ซึ่งหลักการโดยพื้นฐานคือการยิงสนับสนุนแนวหน้าครับ
ให้หลีกเลี่ยงการดวลแบบ 1 ต่อ 1 ให้มากที่สุด (เพราะถ้าคำนวนจากความเร็วของจรวด และความกว้างของแรงระเบิดแล้วถือว่าเป็นอาวุธที่หลบง่ายมากๆเลยทีเดียว)ให้เน้นยิงจากมุมสูงและยิงใส่แนวหน้าศัตรูที่กำลังบู๊นัวเนีย
กันอยู่ครับ (เพราะศัตรูไม่มีเวลามาหลบกระสุน 2 - 3 อย่างพร้อมๆกันแน่) และเทคนิคที่ควรรู้ของการใช้อาวุธประเภทนี้คือ ระยะหวังผลของปืนนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่ที่สำคัญคือการคำนวนระยะทางระหว่างตัวเองกับศัตรูครับ
ถ้าเป็นไปได้ให้เล็งเผื่อไว้ตามทิศทางการวิ่งของศัตรู และเล็งไปที่พื้นหรือกำแพงแทน (ยิงให้โดนตัวเลยแทบจะหวังผลไม่ได้เลยในระยะไกล) นอกจากจะเป็นตัว tank หรือฮีโร่ที่ต้องอยู่กับที่เช่น Turret หรือ Sniper ครับ

Anti-Defense บทบาทที่ทั้งทีมมักจะพึ่งพา Pharah อยูตลอดคือเรื่องของการเคลียร์แนวป้องกันแทบทุกอย่างเรียกได้ว่าตัวเดียวเคลียร์ได้หมดครับ ไม่ว่าจะเป็นป้อมของ Torbjorn , Bastion หรือของ Symmetra
ก็เคลียร์ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ (Bastion สามารถยิงแล้วฉากเข้าฉากออกในที่กำบังได้) ซึ่งสำหรับตัว sniper นั้นคุณอาจจะสู้ Widowmaker แบบตรงๆไม่ได้ แต่ก็สามารถยิงป่วนจังหวะได้ดีเหมือนกัน
ซึ่งความสามารถที่โดดเด่นในการสอดแนมศัตรจากที่สูง ก็ทำให้ตรวจจับป้อมปืนได้ง่ายกว่าเช่นเดียวกัน

vertical fighter หากยามไดที่ Pharah จำเป็นต้องเข้าไปคลุกวงในจริงๆ (เช่น เป็นฉากยึดจุดซึ่งปกติจะเป็นห้องเล็กๆที่ไม่มีที่ให้หลบมากนัก) ก็ขอให้ใช้ความสามารถในการบินแนวตั้งของเราแอบเนียน
อยู่นอกจอของศัตรูให้ได้มากที่สุด (สังเกตุว่าบางฉากถึงจะเป็นฉากยึดจุดแต่ก็มีเพดานสูงพอสมควร)และบางฉากเช่น Lijang Tower หรือ Nepal นั้นจะมีบางจุดที่สามารถแอบบินเข้าไปในจุดยึดได้ด้วยซึ่งสร้างช่อง
ทางในการซุ่มโจมตีศัตรูได้ดีทีเดียว

การเล่นระดับสูง

From jet to tank ในบางจังหวะนั้นการบินไปบินมามุ๊งมิ๊งเฉิดฉายในระยะยิงของป้อมปืนศัตรูก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก และยิ่งศัตรูมีป้อมซ้อนป้อมเยอะๆด้วยแล้วก็ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะตามธรรมชาติแล้วการลอยตัวอยู่กลางอากาศนั้น
สิ่งที่หาแทบจะไม่ได้เลยคือที่กำบัง (หรือถึงแม้จะหาได้ก็เคลื่อนที่เข้าออกที่กำบังได้ยากกว่ามาก)ดังนั้นหากเจอกับสถานการณ์แบบนี้การลงพื้นแล้วไปกับ Rienhartd หรือ Tank ตัวอื่นจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในการเคลียร์แนวป้องกันครับ

Justice!!!! ท่า Barrage ของ Pharah นั้นดูเหมือนจะใช้ง่ายแต่ก็มีหลักการใช้อยู่มากพอสมควร เพราะท่านี้จริงๆแล้วมีระยะที่เหมาะสมของมันอยู่ เพราะถ้าใช้ระยะไกลเกินไปถึงแม้ความแรงจะไม่ตกลงมากก็จริงแต่ก็จะยิง
โดนได้ยากขึ้น แต่ถ้าใช้ใกล้ๆก็จะโดนสวนกลับได้ง่ายมาก (ยิ่งถ้าเจอพวกรู้งานด้วยก็แนวจะไม่มีเวลายิงด้วยซ้ำครับ)ดังนั้นการใช้ท่านี้ตามหลัง ultimate ของ Rienhardt หรือ Mei จะได้ผลที่ดีกว่า หรืออีกทางที่ดีสำหรับผู้เล่นที่รู้ทางหนี
ทีไล่ดีๆแล้วคือการแอบแข้าไปในมุมสูงด้านหลังศัตรู (โดยใช้เส้นทางที่ Pharah สามารถไปได้เท่านั้น) ก็จะช่วยได้เยอะทีเดียว


Rocket Jump เทคนิคนี้บางคนอาจจะไม่รู้ครับ (เพราะมันมีท่า jump jet อยู่แล้วน่ะนะ) แต่สำหรับ Pharah ที่ต้องการจะบินให้นานขึ้น หรือบินให้สูงขึ้นก็แล้วแต่ ท่านสามรถทำ rocket jump (ยิงพื้นพร้อมกับกระโดด)
เพื่อส่งตัวเองขึ้นไปกลางอากาศแทนได้ ซึ่งการทำแบบนี้จะเป็นการสละเลือดไป 40 หน่วยทันที แต่ก็ไม่มี cooldown และยังสามารถเก็บ jump jet ไว้ใช้ก๊อกสองได้ด้วย เหมาะสำหรับ Pharah ที่มี Mercy คอยบินตามฮีลให้อยู่ครับ

สร้างความโกลาหล Concussive Blast นั้นหลายๆคนมักจะไม่เห็นประโยชน์ของมันเท่าไหร่นัก (เพราะมันไม่มี damage น่ะนะครับ) แต่สำหรับ Pharah ผู้เชี่ยวชาญแล้ว สกิลนี้สามารถใช้ได้ทั้งเชิงรุกและรับ
ซึ่งนอกจากใช้ยิงใส่ศัตรูที่เข้ามาใกล้มากเกินไป (พวก Reaper , Tracer , Mei) ได้แล้ว ยังสามารถรบกวนขบวนทัพของศัตรูได้ด้วย และในสถานการณ์ริมผาเช่นเดียวกับ Lucio ถึงแม้จะไม่ดีเท่า แต่ก็สามารถใช้ยิงศัตรู
ให้ตกหน้าผาได้เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าไม่รู้จะใช้ทำอะไรจริงๆแล้วก็ยังสามารถยิงพื้นเพื่อส่งตัวเองไปข้างหน้าได้อีกด้วย (แต่ทำ Rocket jump ไม่ได้นะ 555)




Zenyatta

คำนิยาม

Healer / Sniper / Debuff

ระดับความยาก : ยาก

#open_area #heavy_hitter #Line_of_Sight #Debuff #sniper #turret_hunter


wiki : http://overwatch.gam...1704956cc8b7007

----------------------------------------------------------

coming soon

----------------------------------------------------------

Edited by H2O, 19 June 2016 - 10:10 PM.


#2 ACE of The ACE

    นักเล่นเกมชั้นครู

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2037 posts
  • Gender:Male

Posted 31 May 2016 - 08:47 AM

ยอดเยี่ยมเลยครับ คุณ H2O ตามอ่านนะครับผม

#3 aLcHieZ

    ขี้เมาระดับ 8

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2916 posts
  • Gender:Male

Posted 31 May 2016 - 12:25 PM

Lúcio นี่ใช่เลยฮะ เคยได้ PotG ทีนึงก็เพราะผลักทีมบุก 4 ตัว ลงหน้าผาฉาก Ilios นี่แหละ


ปล. เอาเวปดู stat มาฝากครับ https://masteroverwatch.com/ ไม่ต้อง login แค่ search ID ก็ดูได้เลย

#4 aLcHieZ

    ขี้เมาระดับ 8

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2916 posts
  • Gender:Male

Posted 08 June 2016 - 10:53 AM

อ่านเพลินมากเลยคุณน้ำ อยากจะกด like อีกซักหลายสิบที

#5 H2O

    空のティーア

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 9940 posts

Posted 08 June 2016 - 10:28 PM

View PostaLcHieZ, on 08 June 2016 - 10:53 AM, said:

อ่านเพลินมากเลยคุณน้ำ อยากจะกด like อีกซักหลายสิบที

ช่วงนี้อาจจะอัพเดทช้าลงนะครับ พอดีติดงานหลายๆอย่าง (คือเอาจริงๆก็ติดเกมนี่แหละ 555)

แต่พอเล่นๆไปก็เริ่มจะรู้สึกได้ว่ามีข้อมูลที่อยากกลับไปแก้ไข หรือเพิ่มเติมให้กับตัวที่ได้เขียนไว้แล้วบ้าง

#6 StarLord

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 3

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1437 posts
  • Gender:Male

Posted 16 June 2016 - 01:50 PM

รออ่าน ตอนต่อครับนะครับ ผมเล่นแล้วนู้บสุด ๆ
เป็นไกด์ที่ดีมาก ๆ ครับ