นอกเรื่องเกมส์ มาแชร์ประสบการ Mechanical...
BookZ 11 Dec 2013
ใครใช้ สวิชไหนตัวไหนกันบ้าง
แชร์ความรู้สึกแรกที่ ได้สัมผัสมันกันครับ
ส่วนตัวผม หลงคีย์บอร์ดมีไฟมา ปีสองปี เป็นปุ่มโดมธรรมดา
ปีนี้ได้ไปซื้อเมาส์ ตัวนึงที่ร้าน Zest สาขาเกทเวย์ิ
เค้าบอกให้สมัครสมาชิก โดยคีย์บอร์ดหน้าเป็นเจ้า Black Widow ที่เป็นบลูสวิช
เราก็พิมๆๆๆๆๆ เห้ย ชอบๆๆๆๆ แต่มันแปลกๆนิดหน่อย แต่พิมๆๆๆๆไป นี่แม่งสวรรค์ของคนอยู่หน้าคอมแบบผมชัดๆ
เลยถามพี่ นี่มันคีย์บอร์ดอะไร
พี่เค้าก็อธิบาย
พอกลับมาบ้านผมก็เข้า FPS Thailand ดูรีวิวคีย์บอร์ดแต่ละตัว ดูชนิดของแต่ละสวิช
จนทนกิเลศตัณหาไม่ไหว
จึงไปที่ Zest เกทเวย์ร้านเดิมที่ทำให้ผมรู้จัก mechanical keyboard ไปถามพี่ ขอลองกด ทุกปุ่มเลยได้มั๊ย
พี่เค้าก็หยิบมาให้กดหมดเลย ตั้งแต่ Ducky Zero Black // Black Widow Tour Blue Switch // Filco Brown Switch // G6V2 Red
กดไปกดมา เห้ย Black ดีแฮะ แข็งๆ เด้งๆกดมันส์มือมากกกกกและเสียงไม่ดัง (ผมใช้ Teamspeak / Talk Talk บ่อยเดี๋ยวในห้องรำคาญ)
จึงกัดฟันจัด Tt Esport Mega G1 Illuminate มา เนื่องจากชอบมีไฟ ><" และงบไม่ถึง Shine 3 และมันเป็น Black Switch แถมมีไฟ และ มีที่รองข้อมือ
กลับมาบ้านด้วยความฟิน แกะๆๆๆๆ เอามาเสียบ เล่น !!!
ทำให้จากปกติเล่นเกมส์หรือพิมพ์งานแปปเดี๋ยวก็เบื่อ
ตอนนี้ไม่อยากลุกออกจากหน้าคอมเลย ไม่อยากเลิกเล่น หรือเลิกพิมงานเลย ฟินนนมากกกก
อยากแชร์ประสบการณ์ครับ ทุกวันนี้ ผ่านมาเป็นเดือนแล้วก็ยังคงไม่เบื่อ
กดๆๆๆๆๆ อยากพิมรัวๆๆๆๆๆๆ ตลอดเวลาเหมือนคนบ้า บางทีนั่งเฉยๆกดคีย์บอร์ดเล่นก็มีครับ
แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ เป็นแบบไหนกันบ้าง
แชร์ความรู้สึกแรกที่ ได้สัมผัสมันกันครับ
ส่วนตัวผม หลงคีย์บอร์ดมีไฟมา ปีสองปี เป็นปุ่มโดมธรรมดา
ปีนี้ได้ไปซื้อเมาส์ ตัวนึงที่ร้าน Zest สาขาเกทเวย์ิ
เค้าบอกให้สมัครสมาชิก โดยคีย์บอร์ดหน้าเป็นเจ้า Black Widow ที่เป็นบลูสวิช
เราก็พิมๆๆๆๆๆ เห้ย ชอบๆๆๆๆ แต่มันแปลกๆนิดหน่อย แต่พิมๆๆๆๆไป นี่แม่งสวรรค์ของคนอยู่หน้าคอมแบบผมชัดๆ
เลยถามพี่ นี่มันคีย์บอร์ดอะไร
พี่เค้าก็อธิบาย
พอกลับมาบ้านผมก็เข้า FPS Thailand ดูรีวิวคีย์บอร์ดแต่ละตัว ดูชนิดของแต่ละสวิช
จนทนกิเลศตัณหาไม่ไหว
จึงไปที่ Zest เกทเวย์ร้านเดิมที่ทำให้ผมรู้จัก mechanical keyboard ไปถามพี่ ขอลองกด ทุกปุ่มเลยได้มั๊ย
พี่เค้าก็หยิบมาให้กดหมดเลย ตั้งแต่ Ducky Zero Black // Black Widow Tour Blue Switch // Filco Brown Switch // G6V2 Red
กดไปกดมา เห้ย Black ดีแฮะ แข็งๆ เด้งๆกดมันส์มือมากกกกกและเสียงไม่ดัง (ผมใช้ Teamspeak / Talk Talk บ่อยเดี๋ยวในห้องรำคาญ)
จึงกัดฟันจัด Tt Esport Mega G1 Illuminate มา เนื่องจากชอบมีไฟ ><" และงบไม่ถึง Shine 3 และมันเป็น Black Switch แถมมีไฟ และ มีที่รองข้อมือ
กลับมาบ้านด้วยความฟิน แกะๆๆๆๆ เอามาเสียบ เล่น !!!
ทำให้จากปกติเล่นเกมส์หรือพิมพ์งานแปปเดี๋ยวก็เบื่อ
ตอนนี้ไม่อยากลุกออกจากหน้าคอมเลย ไม่อยากเลิกเล่น หรือเลิกพิมงานเลย ฟินนนมากกกก
อยากแชร์ประสบการณ์ครับ ทุกวันนี้ ผ่านมาเป็นเดือนแล้วก็ยังคงไม่เบื่อ
กดๆๆๆๆๆ อยากพิมรัวๆๆๆๆๆๆ ตลอดเวลาเหมือนคนบ้า บางทีนั่งเฉยๆกดคีย์บอร์ดเล่นก็มีครับ
แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ เป็นแบบไหนกันบ้าง
KunJOBz 11 Dec 2013
เพิ่งไปถอย Ducky Shine 3 Blue LED Blue Switches มาเลย 4890฿
บอกง่ายๆว่า "ไอ้คีบอร์ด Mechanical เนีย ทีแรกก็ไม่สนหรอก แต่ได้ไปลองจิ้มมาเท่านั้นแหล่ะ ซื้อเลย"
Blue นิพิมพ์อย่างฟินอะ
บอกง่ายๆว่า "ไอ้คีบอร์ด Mechanical เนีย ทีแรกก็ไม่สนหรอก แต่ได้ไปลองจิ้มมาเท่านั้นแหล่ะ ซื้อเลย"
Blue นิพิมพ์อย่างฟินอะ
BookZ 11 Dec 2013
KappaMan, on 11 December 2013 - 10:27 PM, said:
มันคืออะไรครับ. งง
รายละเอียดตามลิ้งนี้เลยครับผม
http://www.fpsthaila...php?f=33&t=6763
KunJOBz, on 11 December 2013 - 07:51 PM, said:
เพิ่งไปถอย Ducky Shine 3 Blue LED Blue Switches มาเลย 4890฿
บอกง่ายๆว่า "ไอ้คีบอร์ด Mechanical เนีย ทีแรกก็ไม่สนหรอก แต่ได้ไปลองจิ้มมาเท่านั้นแหล่ะ ซื้อเลย"
Blue นิพิมพ์อย่างฟินอะ
บอกง่ายๆว่า "ไอ้คีบอร์ด Mechanical เนีย ทีแรกก็ไม่สนหรอก แต่ได้ไปลองจิ้มมาเท่านั้นแหล่ะ ซื้อเลย"
Blue นิพิมพ์อย่างฟินอะ
บลูนี่ฟินจริงไรจริง
แกร๊กๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าแฟนหลับข้างๆมีตื่นมาตบ 555+
KunJOBz 11 Dec 2013
KappaMan, on 11 December 2013 - 10:27 PM, said:
มันคืออะไรครับ. งง
ให้ feel การกดที่ต่างและให้เสียงการกดที่ต่างจากคีบอร์ดทั่วไป
มีสวิตหลักๆด้วยกัน 4 สี ดำ น้ำตาล แดง ฟ้า แต่จิงๆมี สีขาวอีก แต่ละสีก็คนละ feel คนละเสียง ต้องไปลองกดเองครับว่าชอบแบบไหนสุด
ซึ่งคีบอร์ดที่ใช้สวิต Mechanical (แมคคานิคอล) ก็ราคาส่วนใหญ่ 2500-6000 ทั้งนั้น
ไปลองกดดูได้ครับ ถ้าร้านเค้ามีขาย ส่วนใหญ่จะขายตามร้าน Gaming Gears ใหญ่ๆ
ไปลองฟังเสียงตาม youtube ก็ได้ครับ แต่มันจะไม่ค่อยชัด
ลองดูอันนี้ตอนนาทีที่ 6 ก็ได้ครับ เสียงคลิปนี้ค่อนข้างชัดอยู่ (แต่ก็ยังไม่เหมือนเสียงตัวจริงเวลาไปกดเองอยู่ดี)
KappaMan 12 Dec 2013
ขอบคุณครับ น่าลองเอามาใช้บ้างจัง แต่ราคาขนาดนี้ขอใช้ logitech ก่อนละกันครับ แหะๆ
silapakorn 12 Dec 2013
ขอแชร์บ้างครับ ผมใช้มาสองตัวแล้วครับ คือ TT meka G1 black switch กับตัวปัจจุบัน corsair k70 red switch ถูกใจตัวนี้มากสุด
ตอนแรกที่ตัดสินใจซื้อคือ ได้เงินโบนัสมาแต่ไม่รู้จะซื้ออะไร มองดูคีย์บอร์ด logitech อันละ 299 ที่ใช้ รู้สึกว่ามันทนมาก ไม่เสียซะที
แต่สิ่งที่สังเกตได้คือมันฝืดครับ ไม่เสีย แต่ฝืด ผมพิมพ์สัมผัสเยอะ พิมพ์งานเป็นหน้าๆ ต้องพักเลย เพราะทนเจ็บนิ้วไม่ไหว ผมเลยมานั่งคิดว่า
- คีย์บอร์ดเป็นของที่เราใช้ทุกวัน และใช้แทบจะตลอดเวลาที่เล่นเกมหรือทำงาน
- คีย์บอร์ดเป็นของที่เสียยาก
- ดังนั้นทำไมเราไม่ใช้ของดีๆ ไปเลย จะได้ใช้แบบดีๆ สบายๆ ไปนานๆ
ก็เลยไปหาข้อมูล mechanical keyboard ติดใจตรงที่สวิทช์กดได้ 50 ล้านครั้ง โดยไม่มีการฝืด ในขณะที่คีย์แป้นยางกดได้ 2 หมื่นครั้ง โดยจะเริ่มฝืดไปเรื่อยๆ ทนกว่ากัน 2500 เท่า แต่ราคาต่างกันไม่ถึง 20 เท่า แค่นี้ก็ได้ใจผมไปแระ ตัวแรกที่ซื้อก็คือเจ้า meka G1 ไม่มีไฟ แต่เป็น black switch ที่ทนทานที่สุด และต้องใช้แรงกดเยอะด้วย (แต่ก็ยังน้อยกว่าแป้นยางกากๆ ที่ใช้มานาน) ใช้มาเกือบปีก็ถูกใจครับ กดเด้งดี พิมพ์งาย แต่ข้อเสียที่ติดคือสายสั้นไปหน่อย พอดีผมจะย้ายโต๊ะคอม และไม่อยากต่อสายพ่วง เลยตัดสินใจยกตัวนี้ให้แม่ไปใช้ แม่ผมไม่มีความรู้เรื่องคอมเลย แต่ได้จับครั้งแรกบอกว่าถูกใจมาก พิมพ์ได้ทั้งวันไม่เจ็บนิ้ว
สุดท้ายตัวใหม่ผมก็มาจบที่ corsair k70 ตอนแรกเล็งตั้งแต่รุ่น 60 แล้ว แต่รุ่นนั้นยังมีแป้นยางปะปนในปุ่ม F ต่างๆ พอมารุ่น k70 เขาจัดเต็ม เป็น red switch ทุกคีย์ มีไฟสวยงาม ผิวหน้าเป็นอลูมิเนียมทั้งแผ่นดูดีมากๆ ที่ปรับเสียงเป็นปุ่มเหล็ก ซึ่งมันให้ความรู้สึกดีครับเพราะคีย์บอร์ดที่เราจับทุกวันมันเป็นพลาสติก ทำให้รู้สึกเหมือนของถูกๆ แต่ตัวนี้ไม่ใช่ อีกอย่างคือปุ่ม gaming จะเป็นแบบ contoured key ตรงนี้อธิบายอาจไม่เห็นภาพ แต่ได้วางนิ้วแล้วจะถูกใจทุกคนครับ เพราะมันเป็นผิวหน้ายางที่ลาดโค้งรับกับการวางนิ้วในการเล่นเกม fps ทำให้นิ้วไม่ลื่น และวางปุ๊บรู้ปั๊บว่านี่เราวางนิ้วถูกแล้ว ไม่ต้องก้มไปดู (ใครพิมพ์สัมผัสคงรู้ใช่ปะครับ ว่าคีย์บอร์ดจะมีปุ่มนูนๆ ขึ้นมาตรง F กับ J เพื่อให้เรารู้ว่าวางนิ้วถูกแล้ว แต่นี่เป็นการทำให้ WSAD ลาดเอียงเพื่อให้เรารู้ตำแหน่งการวางนิ้วเหมือนกัน) ซึ่งตรงนี้ผมไม่เห็นยี่ห้อไหนทำครับ ไม่รู้ว่า corsair ถือลิขสิทธิ์ไว้หรือเปล่า แต่คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ สำหรับเกมเมอร์ ผมเชื่อว่าทุกคนที่ได้ลองต้องรักแน่นอน (คีย์สีแดงสามารถเปลี่ยนได้ครับ มีปุ่มดำธรรมดาให้เปลี่ยน ตรงนี้เยี่ยมเลย)
ส่วนความรู้สึกจากการพิมพ์ตัวนี้ถือว่าสุดยอดสำหรับการพิมพ์สัมผัสครับ red switch จะกดง่าย เด้งเร็วกว่า black ดังนั้นถ้าคุณพิมพ์แบบจิ้มคุณจะพิมพ์ผิดเยอะครับเพราะกดนิดเดียวก็ลงเลย แต่สำหรับคนพิมพ์สัมผัสมันคือสวรรค์ครับ เพราะมันตอบสนองเร็วมาก ทำให้พิมพ์เร็วขึ้น อีกอย่างมันไม่มีคีย์ไทย จึงเหมาะกับคนพิมพ์แบบไม่มองแป้น หลายคนอาจมองเป็นข้อเสีย แต่ผมชอบครับ (ก็ซื้อมาแล้วนิ) เพราะแป้นมันสะอาดตาดี เวลาเปิดไฟแสงจะขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ ไม่เหมือนคีย์บอร์ดสกรีนไทยที่แสงมันจะโดนสกรีนบังไปส่วนนึง อีกอย่างนึงคือคีย์บอร์ดนี้ที่รองข้อมือมันเป็นยางผิวนิ่มๆ ครับ และตัวคีย์มันจะลอยจากแป้นนิดนึง (คือไม่เซาะแป้นลงไปเป็นร่อง เพื่อจะอวดเนื้ออลูมิเนียม) ข้อดีคือสวยไม่เหมือนใคร และทำความสะอาดง่ายครับ พวกขี้ผงไม่ลงไปอยู่ในแอ่งของปุ่มเหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป เอาแปรงทาสีปัดๆ ก็สะอาดเหมือนใหม่
ลองดูรูปกันครับ เอามาจากเว็บรีวิวนะ ถ่ายสวยดี ของผมถ่ายด้วยกล้องกากๆ ดูไม่สวยเลย
รูปจริงที่ใช้ ของผมตัวสีดำ ไฟสีแดงนะครับ
ลืมบอกไปว่าตัวนี้ผมซื้อมา 37xx ครับ ซึ่งเป็นราคาหิ้ว ประกันร้าน ปัจจุบัน corsair k70 มีบริษัทนำเข้าแล้ว รวมภาษีเลยแพงขึ้นไปอีก ประมาณ 41xx ใครซื้อทีหลังก็ทำใจหน่อยครับ แต่ผมถือว่าราคานี้คุ้มกับประสิทธิภาพจัดเต็ม คุณภาพเหนือกว่า mechanical ด้วยกันด้วยซ้ำ ขนาดคีย์บอร์ดพลาสติก แป้นยางยังอยู่ได้ตั้งหลายปี ถ้าเป็นอลูมิเนียม แป้น mechanical จะอยู่ได้นานขนาดไหน
Edited by silapakorn, 12 December 2013 - 09:34 AM.
ตอนแรกที่ตัดสินใจซื้อคือ ได้เงินโบนัสมาแต่ไม่รู้จะซื้ออะไร มองดูคีย์บอร์ด logitech อันละ 299 ที่ใช้ รู้สึกว่ามันทนมาก ไม่เสียซะที
แต่สิ่งที่สังเกตได้คือมันฝืดครับ ไม่เสีย แต่ฝืด ผมพิมพ์สัมผัสเยอะ พิมพ์งานเป็นหน้าๆ ต้องพักเลย เพราะทนเจ็บนิ้วไม่ไหว ผมเลยมานั่งคิดว่า
- คีย์บอร์ดเป็นของที่เราใช้ทุกวัน และใช้แทบจะตลอดเวลาที่เล่นเกมหรือทำงาน
- คีย์บอร์ดเป็นของที่เสียยาก
- ดังนั้นทำไมเราไม่ใช้ของดีๆ ไปเลย จะได้ใช้แบบดีๆ สบายๆ ไปนานๆ
ก็เลยไปหาข้อมูล mechanical keyboard ติดใจตรงที่สวิทช์กดได้ 50 ล้านครั้ง โดยไม่มีการฝืด ในขณะที่คีย์แป้นยางกดได้ 2 หมื่นครั้ง โดยจะเริ่มฝืดไปเรื่อยๆ ทนกว่ากัน 2500 เท่า แต่ราคาต่างกันไม่ถึง 20 เท่า แค่นี้ก็ได้ใจผมไปแระ ตัวแรกที่ซื้อก็คือเจ้า meka G1 ไม่มีไฟ แต่เป็น black switch ที่ทนทานที่สุด และต้องใช้แรงกดเยอะด้วย (แต่ก็ยังน้อยกว่าแป้นยางกากๆ ที่ใช้มานาน) ใช้มาเกือบปีก็ถูกใจครับ กดเด้งดี พิมพ์งาย แต่ข้อเสียที่ติดคือสายสั้นไปหน่อย พอดีผมจะย้ายโต๊ะคอม และไม่อยากต่อสายพ่วง เลยตัดสินใจยกตัวนี้ให้แม่ไปใช้ แม่ผมไม่มีความรู้เรื่องคอมเลย แต่ได้จับครั้งแรกบอกว่าถูกใจมาก พิมพ์ได้ทั้งวันไม่เจ็บนิ้ว
สุดท้ายตัวใหม่ผมก็มาจบที่ corsair k70 ตอนแรกเล็งตั้งแต่รุ่น 60 แล้ว แต่รุ่นนั้นยังมีแป้นยางปะปนในปุ่ม F ต่างๆ พอมารุ่น k70 เขาจัดเต็ม เป็น red switch ทุกคีย์ มีไฟสวยงาม ผิวหน้าเป็นอลูมิเนียมทั้งแผ่นดูดีมากๆ ที่ปรับเสียงเป็นปุ่มเหล็ก ซึ่งมันให้ความรู้สึกดีครับเพราะคีย์บอร์ดที่เราจับทุกวันมันเป็นพลาสติก ทำให้รู้สึกเหมือนของถูกๆ แต่ตัวนี้ไม่ใช่ อีกอย่างคือปุ่ม gaming จะเป็นแบบ contoured key ตรงนี้อธิบายอาจไม่เห็นภาพ แต่ได้วางนิ้วแล้วจะถูกใจทุกคนครับ เพราะมันเป็นผิวหน้ายางที่ลาดโค้งรับกับการวางนิ้วในการเล่นเกม fps ทำให้นิ้วไม่ลื่น และวางปุ๊บรู้ปั๊บว่านี่เราวางนิ้วถูกแล้ว ไม่ต้องก้มไปดู (ใครพิมพ์สัมผัสคงรู้ใช่ปะครับ ว่าคีย์บอร์ดจะมีปุ่มนูนๆ ขึ้นมาตรง F กับ J เพื่อให้เรารู้ว่าวางนิ้วถูกแล้ว แต่นี่เป็นการทำให้ WSAD ลาดเอียงเพื่อให้เรารู้ตำแหน่งการวางนิ้วเหมือนกัน) ซึ่งตรงนี้ผมไม่เห็นยี่ห้อไหนทำครับ ไม่รู้ว่า corsair ถือลิขสิทธิ์ไว้หรือเปล่า แต่คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ สำหรับเกมเมอร์ ผมเชื่อว่าทุกคนที่ได้ลองต้องรักแน่นอน (คีย์สีแดงสามารถเปลี่ยนได้ครับ มีปุ่มดำธรรมดาให้เปลี่ยน ตรงนี้เยี่ยมเลย)
ส่วนความรู้สึกจากการพิมพ์ตัวนี้ถือว่าสุดยอดสำหรับการพิมพ์สัมผัสครับ red switch จะกดง่าย เด้งเร็วกว่า black ดังนั้นถ้าคุณพิมพ์แบบจิ้มคุณจะพิมพ์ผิดเยอะครับเพราะกดนิดเดียวก็ลงเลย แต่สำหรับคนพิมพ์สัมผัสมันคือสวรรค์ครับ เพราะมันตอบสนองเร็วมาก ทำให้พิมพ์เร็วขึ้น อีกอย่างมันไม่มีคีย์ไทย จึงเหมาะกับคนพิมพ์แบบไม่มองแป้น หลายคนอาจมองเป็นข้อเสีย แต่ผมชอบครับ (ก็ซื้อมาแล้วนิ) เพราะแป้นมันสะอาดตาดี เวลาเปิดไฟแสงจะขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ ไม่เหมือนคีย์บอร์ดสกรีนไทยที่แสงมันจะโดนสกรีนบังไปส่วนนึง อีกอย่างนึงคือคีย์บอร์ดนี้ที่รองข้อมือมันเป็นยางผิวนิ่มๆ ครับ และตัวคีย์มันจะลอยจากแป้นนิดนึง (คือไม่เซาะแป้นลงไปเป็นร่อง เพื่อจะอวดเนื้ออลูมิเนียม) ข้อดีคือสวยไม่เหมือนใคร และทำความสะอาดง่ายครับ พวกขี้ผงไม่ลงไปอยู่ในแอ่งของปุ่มเหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป เอาแปรงทาสีปัดๆ ก็สะอาดเหมือนใหม่
ลองดูรูปกันครับ เอามาจากเว็บรีวิวนะ ถ่ายสวยดี ของผมถ่ายด้วยกล้องกากๆ ดูไม่สวยเลย
รูปจริงที่ใช้ ของผมตัวสีดำ ไฟสีแดงนะครับ
ลืมบอกไปว่าตัวนี้ผมซื้อมา 37xx ครับ ซึ่งเป็นราคาหิ้ว ประกันร้าน ปัจจุบัน corsair k70 มีบริษัทนำเข้าแล้ว รวมภาษีเลยแพงขึ้นไปอีก ประมาณ 41xx ใครซื้อทีหลังก็ทำใจหน่อยครับ แต่ผมถือว่าราคานี้คุ้มกับประสิทธิภาพจัดเต็ม คุณภาพเหนือกว่า mechanical ด้วยกันด้วยซ้ำ ขนาดคีย์บอร์ดพลาสติก แป้นยางยังอยู่ได้ตั้งหลายปี ถ้าเป็นอลูมิเนียม แป้น mechanical จะอยู่ได้นานขนาดไหน
Edited by silapakorn, 12 December 2013 - 09:34 AM.
BookZ 12 Dec 2013
silapakorn, on 12 December 2013 - 09:18 AM, said:
ขอแชร์บ้างครับ ผมใช้มาสองตัวแล้วครับ คือ TT meka G1 black switch กับตัวปัจจุบัน corsair k70 red switch ถูกใจตัวนี้มากสุด
ตอนแรกที่ตัดสินใจซื้อคือ ได้เงินโบนัสมาแต่ไม่รู้จะซื้ออะไร มองดูคีย์บอร์ด logitech อันละ 299 ที่ใช้ รู้สึกว่ามันทนมาก ไม่เสียซะที
แต่สิ่งที่สังเกตได้คือมันฝืดครับ ไม่เสีย แต่ฝืด ผมพิมพ์สัมผัสเยอะ พิมพ์งานเป็นหน้าๆ ต้องพักเลย เพราะทนเจ็บนิ้วไม่ไหว ผมเลยมานั่งคิดว่า
- คีย์บอร์ดเป็นของที่เราใช้ทุกวัน และใช้แทบจะตลอดเวลาที่เล่นเกมหรือทำงาน
- คีย์บอร์ดเป็นของที่เสียยาก
- ดังนั้นทำไมเราไม่ใช้ของดีๆ ไปเลย จะได้ใช้แบบดีๆ สบายๆ ไปนานๆ
ก็เลยไปหาข้อมูล mechanical keyboard ติดใจตรงที่สวิทช์กดได้ 50 ล้านครั้ง โดยไม่มีการฝืด ในขณะที่คีย์แป้นยางกดได้ 2 หมื่นครั้ง โดยจะเริ่มฝืดไปเรื่อยๆ ทนกว่ากัน 2500 เท่า แต่ราคาต่างกันไม่ถึง 20 เท่า แค่นี้ก็ได้ใจผมไปแระ ตัวแรกที่ซื้อก็คือเจ้า meka G1 ไม่มีไฟ แต่เป็น black switch ที่ทนทานที่สุด และต้องใช้แรงกดเยอะด้วย (แต่ก็ยังน้อยกว่าแป้นยางกากๆ ที่ใช้มานาน) ใช้มาเกือบปีก็ถูกใจครับ กดเด้งดี พิมพ์งาย แต่ข้อเสียที่ติดคือสายสั้นไปหน่อย พอดีผมจะย้ายโต๊ะคอม และไม่อยากต่อสายพ่วง เลยตัดสินใจยกตัวนี้ให้แม่ไปใช้ แม่ผมไม่มีความรู้เรื่องคอมเลย แต่ได้จับครั้งแรกบอกว่าถูกใจมาก พิมพ์ได้ทั้งวันไม่เจ็บนิ้ว
สุดท้ายตัวใหม่ผมก็มาจบที่ corsair k70 ตอนแรกเล็งตั้งแต่รุ่น 60 แล้ว แต่รุ่นนั้นยังมีแป้นยางปะปนในปุ่ม F ต่างๆ พอมารุ่น k70 เขาจัดเต็ม เป็น red switch ทุกคีย์ มีไฟสวยงาม ผิวหน้าเป็นอลูมิเนียมทั้งแผ่นดูดีมากๆ ที่ปรับเสียงเป็นปุ่มเหล็ก ซึ่งมันให้ความรู้สึกดีครับเพราะคีย์บอร์ดที่เราจับทุกวันมันเป็นพลาสติก ทำให้รู้สึกเหมือนของถูกๆ แต่ตัวนี้ไม่ใช่ อีกอย่างคือปุ่ม gaming จะเป็นแบบ contoured key ตรงนี้อธิบายอาจไม่เห็นภาพ แต่ได้วางนิ้วแล้วจะถูกใจทุกคนครับ เพราะมันเป็นผิวหน้ายางที่ลาดโค้งรับกับการวางนิ้วในการเล่นเกม fps ทำให้นิ้วไม่ลื่น และวางปุ๊บรู้ปั๊บว่านี่เราวางนิ้วถูกแล้ว ไม่ต้องก้มไปดู (ใครพิมพ์สัมผัสคงรู้ใช่ปะครับ ว่าคีย์บอร์ดจะมีปุ่มนูนๆ ขึ้นมาตรง F กับ J เพื่อให้เรารู้ว่าวางนิ้วถูกแล้ว แต่นี่เป็นการทำให้ WSAD ลาดเอียงเพื่อให้เรารู้ตำแหน่งการวางนิ้วเหมือนกัน) ซึ่งตรงนี้ผมไม่เห็นยี่ห้อไหนทำครับ ไม่รู้ว่า corsair ถือลิขสิทธิ์ไว้หรือเปล่า แต่คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ สำหรับเกมเมอร์ ผมเชื่อว่าทุกคนที่ได้ลองต้องรักแน่นอน (คีย์สีแดงสามารถเปลี่ยนได้ครับ มีปุ่มดำธรรมดาให้เปลี่ยน ตรงนี้เยี่ยมเลย)
ส่วนความรู้สึกจากการพิมพ์ตัวนี้ถือว่าสุดยอดสำหรับการพิมพ์สัมผัสครับ red switch จะกดง่าย เด้งเร็วกว่า black ดังนั้นถ้าคุณพิมพ์แบบจิ้มคุณจะพิมพ์ผิดเยอะครับเพราะกดนิดเดียวก็ลงเลย แต่สำหรับคนพิมพ์สัมผัสมันคือสวรรค์ครับ เพราะมันตอบสนองเร็วมาก ทำให้พิมพ์เร็วขึ้น อีกอย่างมันไม่มีคีย์ไทย จึงเหมาะกับคนพิมพ์แบบไม่มองแป้น หลายคนอาจมองเป็นข้อเสีย แต่ผมชอบครับ (ก็ซื้อมาแล้วนิ) เพราะแป้นมันสะอาดตาดี เวลาเปิดไฟแสงจะขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ ไม่เหมือนคีย์บอร์ดสกรีนไทยที่แสงมันจะโดนสกรีนบังไปส่วนนึง อีกอย่างนึงคือคีย์บอร์ดนี้ที่รองข้อมือมันเป็นยางผิวนิ่มๆ ครับ และตัวคีย์มันจะลอยจากแป้นนิดนึง (คือไม่เซาะแป้นลงไปเป็นร่อง เพื่อจะอวดเนื้ออลูมิเนียม) ข้อดีคือสวยไม่เหมือนใคร และทำความสะอาดง่ายครับ พวกขี้ผงไม่ลงไปอยู่ในแอ่งของปุ่มเหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป เอาแปรงทาสีปัดๆ ก็สะอาดเหมือนใหม่
ลองดูรูปกันครับ เอามาจากเว็บรีวิวนะ ถ่ายสวยดี ของผมถ่ายด้วยกล้องกากๆ ดูไม่สวยเลย
รูปจริงที่ใช้ ของผมตัวสีดำ ไฟสีแดงนะครับ
ลืมบอกไปว่าตัวนี้ผมซื้อมา 37xx ครับ ซึ่งเป็นราคาหิ้ว ประกันร้าน ปัจจุบัน corsair k70 มีบริษัทนำเข้าแล้ว รวมภาษีเลยแพงขึ้นไปอีก ประมาณ 41xx ใครซื้อทีหลังก็ทำใจหน่อยครับ แต่ผมถือว่าราคานี้คุ้มกับประสิทธิภาพจัดเต็ม คุณภาพเหนือกว่า mechanical ด้วยกันด้วยซ้ำ ขนาดคีย์บอร์ดพลาสติก แป้นยางยังอยู่ได้ตั้งหลายปี ถ้าเป็นอลูมิเนียม แป้น mechanical จะอยู่ได้นานขนาดไหน
ตอนแรกที่ตัดสินใจซื้อคือ ได้เงินโบนัสมาแต่ไม่รู้จะซื้ออะไร มองดูคีย์บอร์ด logitech อันละ 299 ที่ใช้ รู้สึกว่ามันทนมาก ไม่เสียซะที
แต่สิ่งที่สังเกตได้คือมันฝืดครับ ไม่เสีย แต่ฝืด ผมพิมพ์สัมผัสเยอะ พิมพ์งานเป็นหน้าๆ ต้องพักเลย เพราะทนเจ็บนิ้วไม่ไหว ผมเลยมานั่งคิดว่า
- คีย์บอร์ดเป็นของที่เราใช้ทุกวัน และใช้แทบจะตลอดเวลาที่เล่นเกมหรือทำงาน
- คีย์บอร์ดเป็นของที่เสียยาก
- ดังนั้นทำไมเราไม่ใช้ของดีๆ ไปเลย จะได้ใช้แบบดีๆ สบายๆ ไปนานๆ
ก็เลยไปหาข้อมูล mechanical keyboard ติดใจตรงที่สวิทช์กดได้ 50 ล้านครั้ง โดยไม่มีการฝืด ในขณะที่คีย์แป้นยางกดได้ 2 หมื่นครั้ง โดยจะเริ่มฝืดไปเรื่อยๆ ทนกว่ากัน 2500 เท่า แต่ราคาต่างกันไม่ถึง 20 เท่า แค่นี้ก็ได้ใจผมไปแระ ตัวแรกที่ซื้อก็คือเจ้า meka G1 ไม่มีไฟ แต่เป็น black switch ที่ทนทานที่สุด และต้องใช้แรงกดเยอะด้วย (แต่ก็ยังน้อยกว่าแป้นยางกากๆ ที่ใช้มานาน) ใช้มาเกือบปีก็ถูกใจครับ กดเด้งดี พิมพ์งาย แต่ข้อเสียที่ติดคือสายสั้นไปหน่อย พอดีผมจะย้ายโต๊ะคอม และไม่อยากต่อสายพ่วง เลยตัดสินใจยกตัวนี้ให้แม่ไปใช้ แม่ผมไม่มีความรู้เรื่องคอมเลย แต่ได้จับครั้งแรกบอกว่าถูกใจมาก พิมพ์ได้ทั้งวันไม่เจ็บนิ้ว
สุดท้ายตัวใหม่ผมก็มาจบที่ corsair k70 ตอนแรกเล็งตั้งแต่รุ่น 60 แล้ว แต่รุ่นนั้นยังมีแป้นยางปะปนในปุ่ม F ต่างๆ พอมารุ่น k70 เขาจัดเต็ม เป็น red switch ทุกคีย์ มีไฟสวยงาม ผิวหน้าเป็นอลูมิเนียมทั้งแผ่นดูดีมากๆ ที่ปรับเสียงเป็นปุ่มเหล็ก ซึ่งมันให้ความรู้สึกดีครับเพราะคีย์บอร์ดที่เราจับทุกวันมันเป็นพลาสติก ทำให้รู้สึกเหมือนของถูกๆ แต่ตัวนี้ไม่ใช่ อีกอย่างคือปุ่ม gaming จะเป็นแบบ contoured key ตรงนี้อธิบายอาจไม่เห็นภาพ แต่ได้วางนิ้วแล้วจะถูกใจทุกคนครับ เพราะมันเป็นผิวหน้ายางที่ลาดโค้งรับกับการวางนิ้วในการเล่นเกม fps ทำให้นิ้วไม่ลื่น และวางปุ๊บรู้ปั๊บว่านี่เราวางนิ้วถูกแล้ว ไม่ต้องก้มไปดู (ใครพิมพ์สัมผัสคงรู้ใช่ปะครับ ว่าคีย์บอร์ดจะมีปุ่มนูนๆ ขึ้นมาตรง F กับ J เพื่อให้เรารู้ว่าวางนิ้วถูกแล้ว แต่นี่เป็นการทำให้ WSAD ลาดเอียงเพื่อให้เรารู้ตำแหน่งการวางนิ้วเหมือนกัน) ซึ่งตรงนี้ผมไม่เห็นยี่ห้อไหนทำครับ ไม่รู้ว่า corsair ถือลิขสิทธิ์ไว้หรือเปล่า แต่คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีมากๆ สำหรับเกมเมอร์ ผมเชื่อว่าทุกคนที่ได้ลองต้องรักแน่นอน (คีย์สีแดงสามารถเปลี่ยนได้ครับ มีปุ่มดำธรรมดาให้เปลี่ยน ตรงนี้เยี่ยมเลย)
ส่วนความรู้สึกจากการพิมพ์ตัวนี้ถือว่าสุดยอดสำหรับการพิมพ์สัมผัสครับ red switch จะกดง่าย เด้งเร็วกว่า black ดังนั้นถ้าคุณพิมพ์แบบจิ้มคุณจะพิมพ์ผิดเยอะครับเพราะกดนิดเดียวก็ลงเลย แต่สำหรับคนพิมพ์สัมผัสมันคือสวรรค์ครับ เพราะมันตอบสนองเร็วมาก ทำให้พิมพ์เร็วขึ้น อีกอย่างมันไม่มีคีย์ไทย จึงเหมาะกับคนพิมพ์แบบไม่มองแป้น หลายคนอาจมองเป็นข้อเสีย แต่ผมชอบครับ (ก็ซื้อมาแล้วนิ) เพราะแป้นมันสะอาดตาดี เวลาเปิดไฟแสงจะขึ้นมาอย่างสม่ำเสมอ ไม่เหมือนคีย์บอร์ดสกรีนไทยที่แสงมันจะโดนสกรีนบังไปส่วนนึง อีกอย่างนึงคือคีย์บอร์ดนี้ที่รองข้อมือมันเป็นยางผิวนิ่มๆ ครับ และตัวคีย์มันจะลอยจากแป้นนิดนึง (คือไม่เซาะแป้นลงไปเป็นร่อง เพื่อจะอวดเนื้ออลูมิเนียม) ข้อดีคือสวยไม่เหมือนใคร และทำความสะอาดง่ายครับ พวกขี้ผงไม่ลงไปอยู่ในแอ่งของปุ่มเหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป เอาแปรงทาสีปัดๆ ก็สะอาดเหมือนใหม่
ลองดูรูปกันครับ เอามาจากเว็บรีวิวนะ ถ่ายสวยดี ของผมถ่ายด้วยกล้องกากๆ ดูไม่สวยเลย
รูปจริงที่ใช้ ของผมตัวสีดำ ไฟสีแดงนะครับ
ลืมบอกไปว่าตัวนี้ผมซื้อมา 37xx ครับ ซึ่งเป็นราคาหิ้ว ประกันร้าน ปัจจุบัน corsair k70 มีบริษัทนำเข้าแล้ว รวมภาษีเลยแพงขึ้นไปอีก ประมาณ 41xx ใครซื้อทีหลังก็ทำใจหน่อยครับ แต่ผมถือว่าราคานี้คุ้มกับประสิทธิภาพจัดเต็ม คุณภาพเหนือกว่า mechanical ด้วยกันด้วยซ้ำ ขนาดคีย์บอร์ดพลาสติก แป้นยางยังอยู่ได้ตั้งหลายปี ถ้าเป็นอลูมิเนียม แป้น mechanical จะอยู่ได้นานขนาดไหน
K70 นี่น่าสนใจครับ
ไม่ติดว่าพื้นผิวบ้านผมมันไม่เหมาะกับการใช้แป้นอลูมีเนียม (ไฟมานดูด) ผมจัดไปแว้วว ^_^ สวยจริงไรจรงิ งานประกอบก็โอเคกว่ายี่ห้ออื่นหลายๆยี่ห้อครับ
DeepBlue 12 Dec 2013
Ducky Shine 2 White LED Blue Switches อยู่ใช้มาได้ปีกว่าๆแล้ว ฟินมากบอกเลย ตอนซื้อมามีแต่คนพูดซื้อมาได้ไงโคตรแพง คีย์บอร์ดอันละสองสามร้อยก็พอแล้ว พอให้ลองใช้ดูไปซื้อตามกันเป็นแถว ใครยังไม่เคยลองแนะนำให้ไปลองเล่นดูที่ร้าน ยิ่ง blue switch นะเสียงโคตรเพราะ กดโคตรมัน สวรรค์ชัดๆ ไม่เชื่อไปลองดูเลย แต่พกตังไปเยอะหน่อยนะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปกดที่ตู้ 555
Burm 12 Dec 2013
สงสัยอย่าง พวกนี้มันคือเวอร์ชั่นพัฒนา ของ keyboard สมัยก่อน ที่พิมพ์แล้วดังป้อกแป๊ก หรือเปล่า
BookZ 13 Dec 2013
DeepBlue, on 12 December 2013 - 10:55 AM, said:
Ducky Shine 2 White LED Blue Switches อยู่ใช้มาได้ปีกว่าๆแล้ว ฟินมากบอกเลย ตอนซื้อมามีแต่คนพูดซื้อมาได้ไงโคตรแพง คีย์บอร์ดอันละสองสามร้อยก็พอแล้ว พอให้ลองใช้ดูไปซื้อตามกันเป็นแถว ใครยังไม่เคยลองแนะนำให้ไปลองเล่นดูที่ร้าน ยิ่ง blue switch นะเสียงโคตรเพราะ กดโคตรมัน สวรรค์ชัดๆ ไม่เชื่อไปลองดูเลย แต่พกตังไปเยอะหน่อยนะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปกดที่ตู้ 555
พูดเห็นภาพเป็นชอตๆเลยครับตอนท้าย 555+
ไม่ต้องเสียเวลาไปกดที่ตู้ ><"
silapakorn 13 Dec 2013
Burm, on 12 December 2013 - 08:55 PM, said:
สงสัยอย่าง พวกนี้มันคือเวอร์ชั่นพัฒนา ของ keyboard สมัยก่อน ที่พิมพ์แล้วดังป้อกแป๊ก หรือเปล่า
ประมาณนั้นครับ คีย์บอร์ดรุ่นเก่าข้างในมันจะมีสปริงตัวเล็กๆ 1 ตัวแต่อ 1 คีย์ ซึ่งทำให้มีเสียง แต่ก็ทนทาน
ต่อมาพัฒนาเป็นแบบแป้นยางแบบแผง 1 แผงครอบคลุมทุกคีย์ ทำให้ไม่มีเสียง (และราคาถูกลง) แต่ยางจะเสื่อมคุณภาพเมื่อใช้ไปนานๆ เมื่อยางยืดหยุ่นน้อยลง แป้นก็ฝืดขึ้น
ส่วนคีย์ mechanical จะเป็นกลไกสปริงที่พัฒนาให้ดีขึ้น กดได้นับสิบล้านครั้งต่อ 1 คีย์
ลองดูรูปนี้ครับ มีอธิบาย mechanical ทุกชนิดเลยว่าใช้แรงกดเท่าไหร่ มีเสียงแค่ไหน กลไกการกดเป็นยังไง (รูปใหญ่ขออภัยด้วย)
BookZ 13 Dec 2013
ใครมีประสบการ White - Clear Switch บอกหน่อยน้าคร้าบ หาลองไม่ได้เลย T_T
Pikiol 16 Dec 2013
ผมเล็งมาเป็นปีละยังไม่ได้ซื้อซักที
อยากได้ filco แต่ก็ไม่มีปุ่ม mute
ducky ปุ่ม pbt ก็ไม่เคยมีของเลย
อยากได้ filco แต่ก็ไม่มีปุ่ม mute
ducky ปุ่ม pbt ก็ไม่เคยมีของเลย
voyevoda 16 Dec 2013
เคยลองจิ้มๆดูละก็ถูกใจแต่ของ steelseries มั้ง แก๊บๆ respond ดูไวมากเหมือนกด key ทั่วๆไปแค่1/3-1/2ของปุ่มมันก็ลงไปแล้วเด้งกลับละ แต่ราคา..
Sleeper-02 17 Dec 2013
Ducky Zero Black Switch ครับราคาไม่แพงมากครับ ของผมรุ่นมีไฟ 3490 บ. ครับ
silapakorn 18 Dec 2013
คีย์บอร์ดราคา 2-3 พันนี่บางคนอาจทำใจซื้อไม่ลง เพราะมีแบบแป้นยางเป็นตัวเทียบ 199-299 บาท
ลองนึกถึงสมัยคอมจอเขียว-จอขาวดำ คีย์บอร์ดแบบสปริงแยกแต่ละคีย์ เสียงต็อกๆ แต๊กๆ มันตัวละ 2 พันกว่าบาทเหมือนกัน คนยังซื้อกันได้ สมัยนั้นน้ำมันดีเซลลิตรละ 10 บาทด้วยซ้ำ
เรื่องของเรื่องคือคีย์บอร์ดแบบแป้นยางมันลดต้นทุนการผลิตลงได้มาก เพราะยางแผ่นเดียวใช้ได้ทั้งตัว ทำให้ขายถูกๆ ได้ เมื่อเทียบกับแบบสปริงแยกแต่ละคีย์ ร้อยคีย์ก็สปริงร้อยตัว ต้นทุนเลยสูง
มาทุกวันนี้คีย์บอร์ดสปริงพัฒนาเป็น mechanical key ราคามันก็ยืนตามบรรพบุรุษของมัน แต่คนส่วนใหญ่โดนคีย์บอร์ดแป้นยางล้างสมองไปแล้วว่าคีย์บอร์ดมันต้องราคาไม่เกิน 300 ก็เลยทำใจซื้อ mechanical keyboard กันไม่ลง จริงๆ มันเป็นแค่การเทียบราคาผิดรุ่นเท่านั้นเอง
ลองนึกถึงสมัยคอมจอเขียว-จอขาวดำ คีย์บอร์ดแบบสปริงแยกแต่ละคีย์ เสียงต็อกๆ แต๊กๆ มันตัวละ 2 พันกว่าบาทเหมือนกัน คนยังซื้อกันได้ สมัยนั้นน้ำมันดีเซลลิตรละ 10 บาทด้วยซ้ำ
เรื่องของเรื่องคือคีย์บอร์ดแบบแป้นยางมันลดต้นทุนการผลิตลงได้มาก เพราะยางแผ่นเดียวใช้ได้ทั้งตัว ทำให้ขายถูกๆ ได้ เมื่อเทียบกับแบบสปริงแยกแต่ละคีย์ ร้อยคีย์ก็สปริงร้อยตัว ต้นทุนเลยสูง
มาทุกวันนี้คีย์บอร์ดสปริงพัฒนาเป็น mechanical key ราคามันก็ยืนตามบรรพบุรุษของมัน แต่คนส่วนใหญ่โดนคีย์บอร์ดแป้นยางล้างสมองไปแล้วว่าคีย์บอร์ดมันต้องราคาไม่เกิน 300 ก็เลยทำใจซื้อ mechanical keyboard กันไม่ลง จริงๆ มันเป็นแค่การเทียบราคาผิดรุ่นเท่านั้นเอง