`

Jump to content





ͧкػ alan wake ҽҡѺ


15 replies to this topic

#1 ʺ

    ѡ

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1872 posts
  • Gender:Male

Posted 10 May 2010 - 10:42 PM

http://www.gconfaqs.com/cgi-bin2/show.php?...ough&id=364

Alan Wake เขียนโดย Decibel per - oxide 2010-05-08, 11:45:05
เครื่อง : xbox360
ประเท : action
ค่าย : Microsoft


Special Feature Alan Wake

by EROTIC-PHANTOM www.online-station.net

บทนำ
ก่อนอื่น ต้องกล่าวสวัสดีกับทุกท่านที่ได้เก็บตก หรือเปิดอ่านปูมบันทึกเก่าคร่ำคร่าเล่มนี้ ผมชื่อ Alan Wake ผมเป็นใครกันน่ะหรือ? อันที่จริง ถ้าใครที่ติดตามในแวดวงวรรณกรรมหรือขีดๆ เขียนๆ เสพสมกับตัวอักษรอันละลานตา น่าจะพอคุ้นเคย และรู้ได้ทันทีว่า…ผมเป็นนักเขียน….เปล่าเลย ไม่ใช่นักเขียนระดับรางวัลพูลิตเซอร์หรือโนเบลอย่างกาเบรียล การ์เซีย มาเกวซ หรือระดับตำนานอย่างสตีเฟน คิงส์…ไม่เลย ไม่ใช่แม้แต่น้อย แต่กระนั้น นิยายสยองขวัญเรื่อง Departure ที่ผมทุ่มเททั้งชีวิตและจิตใจบรรจงคัดสรรค์มันขึ้นมาก็พอจะช่วยประทังยาไส้ของผมได้เ
กือบตลอดชาติ ผมดีใจนะ แต่กระนั้นแล้ว ต้องขอออกตัวและเตือนคุณๆ ไว้แต่เนิ่นๆ ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนหน้ากระดาษนับจากนี้ มันผิด และเหนือกว่าความคาดหมายใดๆ ที่คุณจะเคยได้พบมา อย่างมากเลยทีเดียว….

อารัมบทแห่งความมืด
อันที่จริงแล้ว ชีวิตของผมก็ไม่น่าจะมีปัญหา หรือความคับข้องหนักอกแต่อย่างใด ใช่ ในเมื่อหนังสือนิยายสยองขวัญเกรดเอของผมขายได้ และไม่ใช่ธรรมดา มันขายได้ดีติดอันดับท็อปเทนเสียด้วย แต่ก็อีกนั่นล่ะ มันมีเรื่องราวบางประการที่ทำให้ผมต้องมาระเห็จตัวเองอยู่ที่เมืองชนบทชายขอบอันแสนส
งบสุขอย่าง Bright Falls แห่งนี้ จะเริ่มต้นอย่างไรดี เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน…ผมเป็นโรคนอนไม่หลับ มันเป็นผลสืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันในช่วงที่ผ่านมา ผมไม่สามารถข่มตาตนเองลงได้ในตอนกลางคืน ผมกินไม่ได้ แน่นอน ผมเขียนนิยายต่อไปไม่ได้ แม้สิ่งที่ได้มาจะมากมายเพียงใด แต่ผมไม่สามารถนั่งอยู่บนกองเงินกองทองไปได้ตลอดกาล ผมเดินทางไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายต่อหลายคน แน่นอน ไม่มีคนไหนที่ให้คำแนะนำได้ดีเท่ากับครั้งล่าสุด ที่ให้ผมออกเดินทางไปหาสถานที่สงบๆ ตัดขาดจากโลกายนอก แล้วค่อยๆ ฟื้นฟูบำบัดอาการด้วยตัวของผมเอง นั่นก็ดี…ผมเหนื่อยหน่ายกับชื่อเสียงและความวุ่นวายของเหล่านักวิจารณ์ที่จ้องจะจิกจ
ะสับ และลากเอาผลงานของผมมากระซวกเพื่อสร้างที่ทางปลอมๆ ของพวกเขาแล้ว ตัดมันซะ แล้วต้นเริ่มใหม่เลยดีกว่า

นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมมาอยู่ ณ ที่นี้…

ผมเริ่มนอนหลับได้แล้วล่ะ นับว่าที่ Bright Falls เป็นสถานที่ที่ไม่เลวเลยทีเดียว ูเขากว้างใหญ่ อากาศสดชื่น ทะเลสาบสวยงาม ผู้คนที่สงบสุขและเป็นมิตร ผมใช้เวลาไม่นานในการผูกมิตรกับเพื่อนบ้านในตัวเมือง ขับรถออกมาซื้อหาของใช้ที่จำเป็น ทานข้าวนอกบ้าน ไปโบสถ์ในวันอาทิตย์ และกลับที่พักเพื่อ แน่นอน….เขียนนิยายเล่มที่สอง ายใต้ชื่อ A.Wake … นามปากกาของผม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถึงใครที่กำลังอ่านบันทึกเล่มนี้อยู่ ผมมีเรื่องแปลกๆ ที่อยากจะเล่าให้ฟัง มันอาจจะดูบ้าบอพิกล แต่นี่คือสิ่งที่ผมเผชิญ เอาล่ะ ในตอนกลางวัน ผมมีชีวิตอยู่อย่างเป็นปกติ ซื้อของ พูดคุย และนั่งเขียนนิยายของตนเองไปตามแต่สังขารร่างกายจะอำนวย แต่ในตอนกลางคืน ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด หลายต่อหลายสิ่ง ทั้งเสียงกรีดร้อง…ร่างเงาอันแสนประหลาดในป่าละแวกบ้าน หรือสาพอากาศที่ส่อเค้าผิดปกติอย่างที่ไม่เคยเป็นหลังพระอาทิตย์ลับขอบขุนเขา ผมกล้าพูดได้คำเดียว

มันราวกับจะหลุดมาจากนิยาย….เล่มล่าสุดของผม

จุดเริ่มต้นแห่งความหลอนระทึก
ผมมาอยู่ที่เมือง Bright Falls มาประมาณอาทิตย์หนึ่งเห็นจะได้ แม้หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นหลังพระอาทิตย์ตกจะน่าตื่นตระหนกเพียงใด แต่ผมยังคงเชื่อ บางทีนี่อาจจะเป็นสัญญาณที่ดี จินตาพของผมแรงเด่นชัดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผมเก็บเกี่ยวมันมาแปรเปลี่ยนเป็นตัวอักษรได้อย่างไม่ติดขัด บางทีผลงานเล่มใหม่อาจจะเสร็จทันกำหนด ให้แฟนๆ ได้อ่านกันอย่างถ้วนหน้าในเร็วๆนี้เป็นแน่

จนกระทั่งวันหนึ่ง….

"จะไปที่ไหนครับ?" ผมเอ่ยถาม เขาไม่ได้ตอบ แต่พิจารณาจากสาพการแต่งตัว และกระเป๋าเป้ใบใหญ่ หรือจะเป็นนักเดินทาง? ผมคุ้นเคยกับผู้คนในเมือง Bright Falls มากพอที่จะจดจำได้เป็นจำนวนมาก (แน่นอน เมืองเล็กๆเช่นนี้มีไม่กี่คนที่ให้จำ) แต่ผมไม่คุ้นเคยกับชายคนนี้เลย ถ้าเกิดเรื่องราวมันเหมือนกับนิยายฆาตกรรมสยองขวัญขึ้นมาล่ะ? ถ้าเขาเป็นไอ้บ้าโรคจิต ผมคงถึงคราวฆาตเป็นแน่แท้ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด ผมกลับรู้สึก…อยากชวนเขาสนทนาขึ้นมา "คุณรู้มั้ย มันเป็นเรื่องที่ตลกนะ" ผมเอ่ยปากชวนคุยทำลายความเงียบ "ผมเป็นนักเขียน แล้วตอนนี้ผมกำลังเขียนเรื่องที่เกี่ยวกับ…เอ่อ…นักเขียนคนหนึ่ง

เขายังคงความเงียบของตนเองต่อไป สายตากวาดไปนอกหน้าต่างรถ สัมผัสรับกับทัศนียาพที่อยู่รอบๆ ตัว "คุณเป็นคนแรกที่รับผมขึ้นรถในตลอดคืนที่ผ่านมา" เขาเริ่มพูดขึ้นมาแล้ว "สาพผมไม่เป็นผ้าชี้ริ้วเลย" แน่นอน เขากล่าวติดตลก และทำให้บรรยากาศโดยรวมดีขึ้นเป็นอย่างมาก ผมเริ่มชวนคุยสานต่อประเด็นที่คั่งค้างไว้ "ผมเล่าถึงไหนแล้วนะ เอ้อ ใช่ๆ…เรื่องที่ผมเขียน เกี่ยวกับนักเขียนที่ประสบโศกนาฏกรรมบางอย่าง จนต้องระเห็จมาพักฟื้นที่กระท่อมห่างไกลผู้คนในแถบตะวันตกเฉียงเหนือ และเขาเริ่มเขียนนิยายสยองขวัญขึ้น เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์ร้ายในเงามืดที่จำแลงมาเป็นร่างมนุษย์ เป็นอะไรที่เกินจะจินตนาการได้ถึงเลยทีเดียว" มาถึงตรงนี้ ผมเชื่อว่าคงเป็นเขานั่นล่ะ ที่คิดว่าผมเป็นไอ้ฆาตกรโรคจิตเสียเอง แหงล่ะ ใครมันจะบ้ามาเล่าเรื่องพรรค์นี้ให้คนที่พึ่งพบเจอกันฟัง แต่ผมก็ดึงดันเล่าต่อไป

"เขายังพบอีกว่า โลกแห่งนิยายของตัวเอง ได้แปรเปลี่ยนเป็นฝันร้ายที่เป็นจริงหลังพระอาทิตย์ตก แล้วที่น่าตลกที่สุดคืออะไรรู้มั้ย….มันเริ่มเรื่อง ด้วยการที่ตัวเอก รับนักเดินทางพเนจรขึ้นมาบนรถ"

"ให้ผมเดานะ" นักเดินทางยิ้มอย่างมีเลศนัย แววตาบ่งบอกถึงความรู้สึกบางอย่างที่ไม่น่าไว้วางใจ "ฆาตกรคือนักเดินทางคนนั้น"

"ผิดแล้วล่ะ" ผมตอบออกไปอย่างเลื่อนลอย ไม่ได้หันกลับไป "นักเดินทางคือคนแรกที่ตายต่างหาก…"
ฉับพลัน สิ่งที่ปรากฏให้เห็นผ่านกระจกหน้ารถนั้น คือซากของรถยนต์ที่ระเบิดกระจัดกระจายบนท้องถนน เลือดเกรอะกรังเต็มสองข้างทาง ผมรีบหยุดและทิ้งรถของตัวเอง รวมถึงเพื่อนร่วมทางเพื่อไปดูเหตุการณ์ มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ อุบัติเหตุในท้องที่ที่ห่างไกลผู้คน ผู้รอดชีวิตอาจจะต้องการความช่วยเหลือ ผมรุดเข้าไปดูอาการของคนเจ็บ แต่ป่วยการ….ร่างของเขาแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี ดูท่าว่าจะช้าเกินไปเสียแล้ว

ถ้าสิ่งหนึ่งในนิยายที่ดีพึงมีคือจุดหักมุม อย่างนั้นแล้ว นี่คงเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายเอามากๆ ประการแรก…ถ้าผมไม่คิดว่าตาฝาด รถยนต์ที่ประสบเหตุนั้น ดูไปก็คล้ายๆ กับของผม แต่เหนือสิ่งอื่นใด

ร่างของผู้ตาย…คือตัวของผมเอง!!

ส่วนประการที่สองนั้นน่ะหรือ….ก็เสียงคำรามของหวูดรถบรรทุกน้ำมันดังขึ้น พร้อมกับคันรถสิบหกล้อที่เคลื่อนตรงมาด้วยความเร็วสูงนั่นล่ะ และทุกอย่างในคลองสายตาก็เป็นดั่งาพสโลว์โมชัน เมื่อเจ้ารถบรรทุกเจ้ากรรมบดเข้ากับรถยนต์ของผมเสียจนราบ แน่นอน….รวมทั้งนักเดินทางพเนจรที่อยู่ในรถด้วย และด้วยความระทึกสุดขั้วหัวใจเช่นนี้ ทำเอาผมช็อคจนหมดสติลงกับพื้นไปเลย

เปิดฉากการสนทนากับ 'พระเจ้า'
นี่ผมสลบไปนานเท่าใดแล้ว? าพเหตุการณ์ระทึกขวัญระดับลงข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เกิดขึ้นสดๆ ต่อหน้า ผมแทบจะเป็นลมล้มพับลงไปกองกับพื้น และเมื่อตื่นขึ้นมา ทัศนียาพทั้งหลายก็ดูแปลกถิ่นแปลกทางออกไป ทางเลียบเขาอยู่ที่ไหน ทะเลสาบอยู่ที่ไหน นี่ไม่ใช่ Bright Falls…ที่นี่มันที่ไหนกัน?

"คุณยายครับ" ผมสะกิดเรียกหญิงชราที่ยืนดูผมนอนพับกับพื้น "เอ่อ…ที่นี่ที่ไหนกัน?"

"เธอเป็นอะไรมากมั้ยพ่อหนุ่ม?" เสียงเนิบๆ แต่เปี่ยมอารีย์ของเธอดังขึ้น "ชั้นเห็นเธอล้มลงกับพื้น…"

"ช่างเถอะครับ ว่าแต่ที่นี่ที่ไหนกัน?"

"ที่นี่เหรอ…" หญิงชรานิ่งไปกับความคิดของตน "เฮลซิงกิ ฟินแลนด์ไงจ๊ะ"

ผมมองพื้นที่โดยรอบข้างอย่างไม่เชื่อสายตา ฟินแลนด์….ห่างจาก Bright Falls นับพันๆ กิโลเมตร ทำไมผมมาอยู่ที่นี่ได้?? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ในขณะที่เรื่องราวในหัวทั้งหลายกำลังตีกันยุ่งไปหมดนั้น เสียงอันเคร่งขรึมก็ดังขึ้นอย่างเรียบๆ ข้างตัว

"Alan Wake ใช่มั้ย?"

ผมหันกลับไปตามเสียงนั้น และพบกับชายผู้หนึ่งยืนรออยู่ก่อนแล้ว

"คุณคือ?"

"Sam Lake หัวหน้านักเขียนแห่ง Remedy Entertainment ได้โปรด คุณ Wake เชิญตามผมมา…"

สิ้นประโยค ชายผู้นั้นก็เดินนำลิ่วเข้าไปในตัวตึกที่อยู่ไม่ห่างกัน ป้ายด้านหน้าเขียนเอาไว้ว่า Remedy Entertainment ผมเดินตามเข้าไปด้วยความมึนงงสุดกำลัง ผมเดินตามเขาเข้ามาด้านในตัวอาคาร แน่ล่ะ ผมไม่ยอมตามอย่างไร้ความหมายเช่นนี้เป็นแน่

"เอ่อ คุณ Lake?"

"ครับ?"

"ว่ากันง่ายๆ เลยนะ คุณเป็นใคร? ที่นี่คือที่ไหน? ผมมาอยู่ที่ฟินแลนด์นี่ได้ยังไง?" ผมเริ่มยิงคำถามใส่เป็นชุดๆ แน่นอน มันแทบไม่เพียงพอกับความคาใจที่มีอยู่เต็มหัวอกของผมในตอนนี้ แต่ Sam Lake กลับยิ้มผ่อนคลายอย่างสบายๆ ผายมือวาดออกไปรอบๆ

"ที่นี่….คือที่ที่เราสร้างเรื่องราวของคุณ เกมของคุณ : Alan Wake"

เป็นอีกครั้งที่ผมแทบจะลมจับกับจุดหักมุมเช่นนี้ มันอะไรกัน ชะตาชีวิตและความเป็นไปของตัวผมทั้งหมด แท้จริงเป็นเพียงข้อมูลที่ฉาบลงบนแผ่น DVD9 แค่แผ่นเดียวเท่านั้นเองหรือ? แรกเริ่มผมไม่รู้สึกสบายใจไปกับท่าทีของชายที่อยู่ต่อหน้า แต่แล้ว เมื่อมาคิดถึงความเป็นจริง และสิ่งที่ผมสำนึกในหัวใจของนักเขียน แล้วมันยังไงกัน? ในเมื่อตัวละครทั้งหลายก็ถูกผมเขียนได้ ทำไมชีวิตของผมจะถูกกำหนดโดย 'ใครบางคน' ไม่ได้บ้าง? มันเป็นตลกร้ายอันแสนจะขำขื่น แต่ก็อีกนั่นล่ะ มันจะดีแค่ไหน ถ้าเราได้พูดคุยสนทนาและสอบถามชีวิตทั้งหมดของตัวเรากับ 'พระเจ้า' ผู้รังสรรค์ทุกสิ่งทุกอย่าง คิดได้ดังนั้น ผมก็สาวเท้าก้าวเข้าไปในห้องที่อยู่ตรงหน้าในทันที…

บังลังก์แห่งพระเจ้า และความเป็นไปของเรื่องราวทั้งหมด
มันน่าขำ บัลลังก์ของพระเจ้าที่เราเคยจินตนาการเอาไว้เสียสูงส่ง กลับเป็นเพียงห้องประชุมและวิดีโอโปรเจกเตอร์ตัวเขื่องเพียงหนึ่งเครื่องเท่านั้น รอบๆ โต๊ะประชุมมีเก้าอี้โซฟาที่ดูน่าจะสบาย แต่เต็มไปด้วยเหล่าสาวกแห่งพระเจ้านั่งอยู่เต็มไปหมด บนฝาผนังมีโปสเตอร์ของชายที่ชื่อว่า Max Payne แปะอยู่โดยรอบๆ เขาเป็นใครกัน? หรือเป็นอีกคนที่ถูกกำหนดชะตากรรมโดย 'กลุ่มพระเจ้า' เหล่านี้?

"หลังจากที่ Alan พบกับ Alice แฟนสาวนั้น" Sam Lake เปิดฉากบรรยายชีวิตของผมโดยสรุปย่อด้วยอุปกรณ์ที่ผมเกลียดที่สุด….สไลด์ Powerpoint "เขาเริ่มฝันถึงสิ่งแปลกๆ และใช้ความฝันเหล่านี้เป็นวัตถุดิบสำหรับนิยายสยองขวัญเชิงจิตวิทยาเล่มแรกของเขา อันที่จริง แทบจะเรียกว่านิยายเขียนไปด้วยตัวของมันเอง โดยมี Alan เป็นเพียงร่างทรงเท่านั้น หนังสือกลายเป็นนิยายขายดี และ Alice ก็ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ทิ้งให้เขาต้องตกอยู่ในสาวะซึมเศร้าและกลายเป็นโรคนอนไม่หลับเรื้อรังสุดจะทานทน ขอออกตัวกันก่อนท่านผู้อ่านที่รัก นี่ไม่ใช่รูปแบบที่ผมจะแนะนำให้พวกคุณรู้จักกับ Alice เลยแม้แต่น้อย แต่ต้องยอมรับโดยดุษฏี ใช่…สาเหตุที่ผมต้องระเห็จมาที่ Bright Falls เพราะการหายตัวไปของเธอ ผมรับรู้ได้ว่าเธออยู่รอบๆ ตัว แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด ผมไม่สามารถตามตัวเธอได้เลย…

"หลังจากนั้น Alan เข้ารับการรักษาในคลินิกผู้ป่วยแห่งหนึ่ง" Sam Lake ยังคงอธิบายต่อ "และนั่นเอง ที่เขาได้พบกับนิมิตของ Alice และเริ่มดำดิ่งไปสู่ความมืดของจินตนาการ เมื่อฝันร้ายในนิยายของเขา กลายเป็นความจริง…"

เอาล่ะ ในตอนนี้ผมพอจะรู้ความเป็นไปของเรื่องราวโดยคร่าวๆ แล้ว แต่สังหรณ์ของผมก็กระซิบเตือนอยู่รางๆ ว่านั่นคงไม่ใช่ทั้งหมดจากการมาถึงในครั้งนี้เป็นแน่…


ดำดิ่งสู่ก้นบึ้งแห่งความมืด
คุณผู้อ่านที่รัก ถ้าคุณได้มีโอกาสพูดคุยกับคนที่รังสรรค์เรื่องราวชีวิตของคุณแล้วนั้น คุณอยากจะถามอะไร? นั่นคือประเด็นที่สุมอยู่เต็มหัวอกของผมในตอนนี้

"สรุปเลยนะคุณ Lake.." ผมเอ่ยถาม ด้วยรู้สึกหมดความอดทนกับสิ่งที่เขาบรรยายไปทุกขณะ "ผม เป็นใคร กันแน่?"

"Alan Wake เป็นเกม Action Adventure 'สยองขวัญเชิงจิตวิทยา'" Sam Lake เอ่ยสรุปอย่างสั้นๆ พร้อมกับเสียงเซ็งแซ่ของเหล่าสาวกในเงามืด (เพราะในห้องปิดไฟเพื่อฉายสไลด์ผ่านโปรเจกเตอร์)

"อย่างนั้นแล้ว ผมก็อยู่ในเกม….เรื่องราวสยองขวัญ แบบเดียวกับในหนังสือของผมน่ะสิ" ผมเอ่ยถาม Sam Lake ถูมือไปมาก่อนจะตอบกลับ

"สำหรับใครหลายคน ความสยดสยองจำเป็นต้องมีเลือด และสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว แน่นอนว่า…เราจะไม่ทำเช่นนั้น"

ประโยคดังกล่าวทำให้ผมสงสัยอย่างเต็มกำลัง สยองแล้วทำไมถึงไม่น่ากลัวล่ะ? เลือดกับสัตว์ประหลาดมันมีอะไรที่ผิดพลาดอย่างนั้นหรือ?

"แต่มันต้องน่ากลัวด้วยสิ…ถ้าจะสยองกันจริงแล้วล่ะก็นะ…." ผมเอ่ยประโยคได้เพียงเท่านี้ ก่อนที่เสียงเซ็งแซ่ของเหล่าสาวกบัลลังก์พระเจ้าจะดังกันขรม นี่ผมไปกระตุ้นต่อมอะไรพวกเขาหรืออย่างไรกัน? ความไม่สงบเริ่มย่างกรายเข้ามา จน Sam Lake ดีดนิ้วอย่างเรียบๆ ขึ้นหนึ่งที ทั้งหมดจึงหยุดการสนทนาแต่เพียงเท่านั้น

"คุณพูดถูกแล้ว คุณ Wake…เราพร้อมจะสยองผู้เล่นกันให้ถึงไขสันหลัง อย่างมากเลยทีเดียว แต่เราใช้บรรยากาศและเนื้อเรื่องเป็นจุดแข็ง นั่นเป็นแนวคิดหลักของพวกเรา…ความลับ กับการค้นหายังไงล่ะ" เสียงูมิฐานสำเนียงฟินดิชดังขึ้นฝั่งตรงข้ามเก้าอี้ของผม ชายลึกลับพับ Notebook (Notebook ของพระเจ้า?) และร่อนนามบัตรของเขาข้ามโต๊ะมา (Petri Javilehto หัวหน้าฝ่ายครีเอทีฟอย่างนั้นหรือ?)

"เราตั้งใจจะใช้จินตนาการของผู้เล่นเพื่อรับใช้ตัวเกม และพยายามเก็บซ่อนสิ่งที่ควรเอาไว้ แน่นอน สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวอย่างสุดๆ ถ้าคุณได้เจอกับมันเกือบสิบๆครั้ง มันก็จะไม่น่ากลัวอีกต่อไป" Sam Lake เอ่ยแทรกขึ้นมา พร้อมกับฉายาพสไลด์ Powerpoint แสดงให้เห็นถึงรายละเอียดของเมือง Bright Falls ที่กว้างใหญ่ไพศาล และ CG Movie ทิวทัศน์อันสวยงามของละแวกอื่นๆ ที่ผมไม่เคยเห็น ไม่น่าเชื่อ เมืองที่ผมอยู่กว้างขวางเกือบร้อยตารางกิโลเมตรเชียวหรือนี่!? แต่กระนั้นแล้ว

"เอาล่ะทุกท่าน…" ผมเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนือยนายระคนสงสัย "พวกคุณจะสร้างความน่าสะพรึงกลัวได้ยังไง ผมจะไปที่ไหนก็ได้ กับเมืองที่กว้างขนาดนี้ Bright Falls ไม่ใช่บ้านผีสิงนะ?" อีกครั้ง ที่คำพูดของผมกระตุ้นต่อมของเหล่าสาวก จน Sam Lake ต้องเริ่มกระบวนการอีกครั้ง แต่ต่างกันที่ Petri กลับหัวเราะในลำคอด้วยความพึงพอใจ

"เกมนี้อาจจะมีบรรยากาศที่เปิดกว้าง และถ้าไม่นับรวมารกิจหลักๆ ที่ขึ้นกับเวลาแล้ว คุณสามารถไปที่ใดก็ได้ คุณ Wake…" เขากล่าว ก่อนจะเอามือเท้าคางจ้องมาทางผม "แต่อย่าลืม เราสร้างคุณได้ เราก็ควบคุมทุกอย่างไว้ได้ อย่างอยู่หมัดเลยล่ะ"

อำนาจรังสรรค์ 'งานเขียน' ของ 'พระเจ้า'
ในตอนนี้ Sam Lake กดคลิกเพื่อเลื่อนสไลด์ฉายาพตัวอย่าง Real-Time จากในตัวเกม ร่างทรงของผมปรากฏขึ้นที่หน้าจอ รายละเอียดทุกอย่างตรงกับความเป็นจริงทุกประการ เสื้อโค้ทสีน้ำตาลที่ผมได้จากร้านค้ามือสองในเมือง กางเกงยีนส์สแล็กตัวเก่ง และ…ผ้าพันคอสีแดง ที่ Alice ซื้อให้ ในตอนนั้นเอง ที่สัมผัสจากฝ่ามือของ Petri หัวหน้าบัลลังก์พระเจ้าประทับกับหัวไหล่ของผม

"คุณจำฉากนี้ได้ใช่มั้ย คุณ Wake…" แน่นอน ผมจำได้ สถานีน้ำมัน กับสหายช่างเครื่องที่ผมรู้จัก แต่ในคราวนี้ เขาหายไปไหน? สาพอากาศรอบตัวก็ดูหม่นหมอง ครึ้มฝน ราวกับจะก่อเค้าเป็นพายุร้าย…

"ในโลกของคุณ สาพอากาศมีความเป็นพลวัตที่สูงมาก แต่แน่นอน เราก็กำหนดไว้ในการควบคุมเช่นกัน" Petri กล่าวอย่างสบายอารมณ์ ก่อนที่ร่างทรงในาพผมจะขยับตัว เมื่อสาพอากาศวิกฤติแปรปรวนถึงขีดสุด ลมโหมกระหน่ำจนกลายเป็นพายุทอร์นาโด ดูดกลืนพัดเอาทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ จนพังพาบราพนาสูร แถมยังซัดเอารถบรรทุกคันเก่าให้ลอยสูงขึ้นไป ร่างทรงของผมวิ่งตรงดิ่งมาทางหน้าจอ พร้อมกับรถบรรทุกที่กระแทกกับพื้นระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ กระจายไปคนละทิศละทาง เล่นเอาผมนั่งลุ้นจนตัวเกร็ง

"ก็อย่างที่เห็น" Petri กล่าวแทรก "เราใช้สาพแวดล้อม เพื่อสร้างความตื่นระทึก และอารมณ์ร่วมให้กับผู้เล่น"

"เดี๋ยวก่อน…" คราวนี้เป็นผมที่ขอแทรกขึ้นมาบ้าง เพราะมันช่างขัดกับสาพความเป็นไปของสิ่งที่ได้รับรู้มาเหลือเกิน "คุณบอกว่าเกมนี้มีความเปิดกว้าง แต่เท่าที่เห็น 'คุณ' กับพรรคพวกดูจะไม่ค่อยอยากให้ผมออกนอกลู่นอกรอยสักเท่าใดเลยนะ"

ในตอนนั้นเอง ที่เสียงเซ็งแซ่จากเหล่าสาวกนอกห้องดังขึ้น มันผิดปกติเสียผมอดสงสัยไม่ได้ ชั่วขณะหนึ่ง สาวกสองสามคนเดินเข้ามาในห้อง กระซิบกับ Petri สองสามคำ ก่อนจะเดินออกไป

"เอาล่ะ ไม่มีอะไรคุณ Wake…นั่นเป็นเรื่องที่ทางเราจะจัดการกันเอง"

"เรื่องอะไรกัน?"

เท่านั้นเองที่คำพูดของผมจะตามไปถึง เมื่อประตูห้องถูกถีบเข้ามาอย่างจัง พร้อมกับชายร่างท้วมในเสื้อโค้ทปิดฮู้ด แว่นกรอบหนาสีดำ วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาายในห้อง ดูต่างจากเหล่าสาวกทั้งหลายไปโดยสิ้นเชิง

"ดูเหมือนว่าคุณจะใช้สาพแวดล้อมเปิดของเกมเพื่อสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นใช่
มั้ยครับ คุณ Javilehto?" ชายลึกลับยิงคำถามออกมาเป็นชุด แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไรมากไปกว่านี้ สาวกร่างยักษ์สองคนก็หิ้วปีกเขาออกไปจากห้อง สายตาของผมปรับเข้ากับความมืดและเห็นป้ายบนหน้าอกของเขาเขียนว่า 'สื่อ'…

"แทนที่คุณจะใช้มันเหมือนกับเกมอย่าง GTA แต่คุณใช้เพื่อสร้างความรู้สึกปลอดัยและคุ้นเคยให้กับผู้เล่น ก่อนจะเปลี่ยนมันให้เป็นฝันร้ายของ Alan Wake ผมพูดถูกมั้ย " ชายลึกลับยังคงตะโกนส่งคำถามเข้ามา แน่นอน ผมนั่งนิ่งงันด้วยความงุนงง แต่เป็น Petri ที่ยิ้มในมุมปากออกมา

"คำถามของคุณได้รับการตอบแล้ว คุณ Wake…" Petri กล่าว "ด้วยรูปแบบนี้ ผู้เล่นจะรู้สึกได้ว่า ฉากเดียวกันที่เขาเล่นไปเมื่อสามชั่วโมงก่อน มันเคยสงบสุข และปลอดัย แต่กลับกลายเป็นฝันร้ายที่เป็นจริง ราวกับเป็นคนละเกมกันเลย"

"แต่ถึงอย่างนั้น" เริ่มเป็นผมที่ยิงคำถามออกไปบ้าง "คุณจะทำเช่นนั้นไปทำไม?"

"นั่นเพราะ ถ้าคุณเหวี่ยงเอาความหฤโหดใส่เป็นชุดๆ ผู้เล่นก็คงจะใบ้รับประทานไม่กล้าที่จะทำอะไร การกำหนดจังหวะของเกมการเล่นคือสิ่งที่จะช่วยให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลาย พร้อมที่จะไปเผชิญหน้ากับฝันร้ายในยามค่ำคืนอีกครั้ง"

ทุกอย่างเริ่มเคลียร์ในความคิดของผม นี่คือสิ่งที่ผมต้องเผชิญสินะ ฝันร้ายในยามค่ำคืน กับการแก้ปริศนาในตอนกลางวัน ดูท่าเรื่องราวมันคงจะซับซ้อนเกินกว่าที่คาดไว้แต่แรกเสียแล้ว ในจังหวะนั้นเอง ที่ Sam Lake เลื่อนแผ่นสไลด์ไปอีกชุด เป็นตัวของผมที่กำลังสาดไฟฉายเข้าหา 'บางสิ่ง' ที่ดูจะเป็นสัตว์ร้ายจากเงามืดในนิยายของผม ตรึงมันไว้กับที่ ก่อนจะสาดกระสุนจนหมดรังเพลิง

"ลูกเล่นแสงก็เป็นส่วนเสริมของ 'เกม' ของพวกคุณด้วยอย่างนั้นรึ?" ผมยิงคำถามออกไป ดูเหมือนว่า Petri จะหันหน้าไปทาง Sam และทำตาดุใส่เล็กน้อย ก่อนจะหันมายิ้มให้กับผม

"มันเป็นส่วนหลักของเกมนี้กันเลยทีเดียว ทั้งการต่อสู้ และการแก้ปริศนา คุณ Wake…" Petri กล่าว พร้อมกับเลื่อนมาบังคับสไลด์ด้วยตัวเอง "เป็นกุญแจสำคัญ แต่นั่นมันก็มาจากนิยายของคุณนะ คุณเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด"

อาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ แต่กระนั้นแล้ว แม้ว่าในตลอดเวลาที่นั่งอยู่ตรงนี้ ผมจะพอรับรู้ถึงความเป็นไปของตัวเองได้บ้าง แต่สิ่งที่ผมอยากรู้ที่สุดแต่ไม่ได้รับการเฉลยคือ…

"แล้ว Alice ล่ะ? Alice อยู่ที่ไหน?"

ดูเหมือนคำถามนี้จะแทงใจจน Sam Lake ผู้ยิ้มแย้มเริ่มหน้าเสีย แต่ Petri กลับตบบ่าเขาเบาๆ ราวกับจะคุมสถานการณ์เอาไว้ นี่พวกเขายังจะปิดบังอะไรจากผมอีกกันแน่นะ?

"เอาล่ะคุณ Wake…" เขากล่าว "ผมยืนยันได้ เรื่องราวของคุณจะไม่ได้จบแต่เพียงเท่านี้ แต่ขอให้รับรู้ไว้ ไม่ได้มีเพียงแค่คุณเท่านั้น แต่ยังมีคนอื่นๆ และเรื่องราวที่สนุกน่ะ…ต้องมาเป็นตอนๆ สิ"

"หมายความว่ายังไง?"

"คุณรู้มากเกินไปแล้ว คุณ Wake…" ชายหัวหน้าบัลลังก์พระเจ้ากล่าวปิดท้าย ก่อนที่ผมจะเริ่มรู้สึกหนักๆที่หนังตา และค่อยๆ ล้มพับลงไป "…..จงตื่นขึ้น และเผชิญหน้ากับมันด้วยตัวคุณเองเถอะ"

บทส่งท้าย….ทางสู่ฝันร้ายอันเป็นนิรันดร์
พื้นถนนยางมะตอยเย็นเฉียบในยามพลบค่ำปลุกสัมปชัญญะผมขึ้นมาอีกครั้ง ผมนอนอยู่บนถนนเลียบเขาเส้นเดิม น่าแปลก ไร้ซึ่งรอยขีดข่วน หากแต่รอบๆ มีเศษเหล็กและแก้วกระจายอยู่เต็มไปหมด กระเป๋าเสื้อข้างขวาและซ้ายมีปืนและไฟฉายอย่างละกระบอก ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมเปิดสวิทช์ไฟฉาย กระชับปืนไว้มั่น และเดินตรงดิ่งไปตามทาง ใช้เวลาเพียงไม่นาน กระท่อมที่พักผมก็ปรากฏอยู่ต่อหน้า ผมค่อยๆ สาวเท้าก้าวไปตามทางด้วยความระวัง ทันใดนั้น เสียงเอี๊ยดอ๊าดของสะพานไม้ที่เชื่อมทางระหว่างหุบผาและบ้านพักก็ดังขึ้น มีบางสิ่งกำลังเดินตรงมาทางผม พร้อมกันนั้น ก็ปรากฏร่างเงาสีดำทะมึน ที่ผมคุ้นเคยยิ่งนัก

นักเดินทางพเนจร?

ร่างนั้นค่อยๆ เดินตรงมาอย่างช้าๆ เสียงครางที่ร้องเรียกชื่อของผมดังแว่วผสมกับเสียงสายลมหวีดหวิวกรีดลึกเข้าไปในแก้ว
หู ในตอนนั้น ผมนึกอะไรไม่ออกนอกจากกระชับปืนไว้มั่น สาดแสงจากกระบอกไฟฉายตรงไปยังเจ้าสัตว์ร้ายเพื่อตรึงร่างมันไว้ ก่อนจะสาดกระสุนเข้าใส่จนหมดรังเพลิง เสียงกรีดร้องผสานเข้ากับเสียงคำรามของปากกระบอกปืนจนยากจะจำแนก ก่อนที่มันจะล้มลงแน่นิ่งไป….

และบันทึกฉบับนี้ก็มาถึงจุดสิ้นสุด ผมไม่อาจจะแน่ใจได้ ว่าทุกสิ่งที่ผมเห็นมันได้เกิดขึ้นจริงๆ และผมได้เดินทางไปยังฟินแลนด์ พบปะกับเหล่า 'พระเจ้า' ที่สร้างตัวของผมขึ้นมาจริง? แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม ผมค่อยๆ ก้าวเดิน เปิดประตูบ้านพัก สายตาจับจ้องไปที่เตียงนอน เธออยู่ที่ตรงนั้น… Alice ผู้น่ารัก Alice ผู้เป็นหนึ่งเดียวในดวงใจ ผมไม่สนอีกต่อไปแล้วว่าเรื่องราวทั้งหลายจะเป็นเช่นไร ในตอนนี้ ผมทิ้งตัวลงกับผ้าห่มสีขาว โอบรับอ้อมกอดของเธอไว้กับตัว และหวังเพียงแค่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ณ วินาทีนี้จะไม่ใช่เพียงความฝัน แต่นั่นคงเป็นเพียงแค่คำอธิษฐาน….ลมๆแล้งๆ

เพราะทุกอย่างในชีวิต ไม่ใช่ตัวผมที่เป็นคนกำหนดอีกต่อไป….คุณเองก็เช่นกัน

---------------------------------------------------------------------------------------




บทสรุป Alan Wake


BY – Decibel per – oxide

Episode 1: Nightmare
….อลัน ขับรถชนชายคนนึงในความมืดบนท้องถนน เขาลงไปดูชายคนนั้นแต่เมื่อไฟหน้ารถดับลงร่างของชายคนนั้นก็หายไป อลันตกใจมากและมองดูหาทางจะเห็นประาคารที่ส่องแสงอยู่ไกลๆอลันจะเดินทางไปที่นั่น เรียนรู้การเคลื่อนไหว และ กด LB ในการวิ่ง แต่สะพานด้านหน้าขาดเขาจึงต้องใช้เส้นทางทางขวา Rain Cove Point จู่ชายคนที่โดนรถชนก็ออกมาในร่างที่โดนเงาควบคุมร่างของเขาแล้ววิ่งเข้ามาหาอลันทันท
ี วิ่งหนีลงไปตามทางด้านล่างจนพบทางตันชายร่างเงาจะออกมาอีก เรียนรู้การกด LB ในการหลบแบบระยะประชิดซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่จะใช้มากในการเอาตัวรอดของเกมนี้เลยท
ีเดียว จากนั้นประตูไม้จะเปิดออกไปตามาฃทางอลัยจะเจอความมืดตามไล่ล่าจนต้องวิ่งหนีเข้าไปหา สจ๊วต ที่เรียกอลันให้เข้าไปในบ้านแต่สจ๊วตก็โดนฆ่าตายแทน เมื่อเข้ามาในบ้านแล้วสำรวจทั่วๆความมืดจะพยายามพังเข้ามาในขณะนั้นแสงสว่างปริศนาก็
ส่องออกมาช่วยอลันเอาไว้ ซึ่งแสงสว่างนี้จะทำให้ศัตรูที่เป็นเงาไม่เข้ามาใกล้และสามารถใช้เติมพลังชีวิตของอล
ันได้อีกด้วย เดินออกไปตามทางจนถึงจุดที่พวกเงาออกมาโจมตีอีก อลัน จะไดัรับไฟฉาย กด LT ในการเร่งไฟฉายใส่เงาทำให้พวกมันอ่อนแอลงแล้วเก็บปืนกด RT ยิงซ้ำเข้าไปอีกทีก็จะสามารถฆ่าพวกเงาได้ แล้วเดินเข้าไปตามทางเก็บปืนพลุและกระสุนตามทางให้หมดจนอลันถูกความมืดตามไล่หลังอีก
ครั้ง เขาต้องรีบวิ่งเข้าไปจนถึงประาคารแต่ความืดก้บุกเข้ามาถึงตัวอลันจนได้พร้อมกับ เสียงปลุกของ Alice รรยาของอลัน ซึ่งเขาได้หลับไปในรถบนเรือเฟอร์รี่ในขณะที่เดินทางเข้ามาถึงเมือง Bright Falls ……

ก่อนเรือจะเข้าจอดคุยกับ Maine ถึงเรื่องทั่วๆไปของเมืองจากนั้นขับรถออกจากเรือมุ่งไปที่ร้านอาหารเพื่อเอากุญแจบ้า
นพักจากชายที่ชื่อ Carl Stucky เข้ามาในร้านอาหารด้านในห้องน้ำแต่ อลัน กลับพบหญิงลึกลับคนนึงที่ให้กุญแจบ้านพักมาแทน Stucky อลันรับมาแบบงงแล้วก็ออกจากร้านขับรถมาที่บ้านพักริมทะเลสาปพร้อมกับรรยา เดินเข้ามาจนถึงด้านหน้าบ้าน Alice จะยังไม่เข้าบ้านเพราะในบ้านมืดมากและเธอเป็นโรคกลัวความมืดอยู่ เข้ามาในบ้านสำรวจชั้น 2 ให้ทั่วๆก่อนแล้วค่อยกลับออกมา เดินมาที่กระท่อมข้างๆบ้านจะพบเครื่องปั่นไฟจัดการเปิดการทำงานของไฟในบ้านแล้ว Alice จะเข้าไปจัดของในบ้าน อลัน จะขอเดินสำรวจรอบๆบ้านจะเริ่มมืด เมื่อเข้าบ้านขึ้นไปชั้น 2 ของบ้าน Alice จะให้อลันเข้าไปดูห้องทำงานที่เธอจัดไว้ให้ในขระที่กำลังคุยกันไฟทั้งบ้านก็ดับลง อลันรีบลงไปดูเครื่องปั่นไฟที่ด้านนอกแต่เขาก็จะได้ยิน Alice ร้องให้ช่วย อลัน รีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านซึ่งเขาไม่พบ Alice จนทำให้อลันต้องโดดลงไปในน้ำเพื่อตามหารรยา

อลัน มารู้สึกตัวอีกที่ในขณะที่เขากำลังประสบอุบัติเหตุรถคว่ำอยู่ในความมืดมิด อลันยังงงๆกับเหตุการ์ณที่เกิดขึ้นแต่สิ่งเดียวที่เขาจะมุ่งไปหาตอนนี้คือ แสงไฟที่ปั๊มน้ำมันด้านล่างของเชิงเขา เดินลงเขาเก็บเศษหน้ากระดาษนิยายเรื่อง Departure ที่ระบุชื่อคนเขียนไว้คือ Alan wake ซึ่งอลันก็ยังจำไม่ได้ว่าเขาไปเขียนเอาไว้ตอนไหน เดินลงเนินลงไปตามทางจนถึงที่พักของพวกพนักงานตัดไม้ จะพบกับ Carl Stucky ที่ตอนนี้เขาโดนเงาควบคุมจนทำให้เข้ามาทำร้ายอลัน วิ่งหนีเข้าไปในบ้านเก็บปืนกับไฟฉายแล้วสำรวจที่โทรศัพท์ แต่ที่ด้านนอก Stucky จะใช้รถแทรกเตอร์เตรียมจะพุ่งชนทำลายบ้าน ไปรอที่หน้าประตูทางขวารอให้มันชนบ้านครั้งแรกก่อนแล้วประตุจะเริ่มเปิดออกรีบออกจาก
บ้านในจังหวะนี้ไม่งั้นมันจะชนซ้ำอีกทีบ้านพัง Game Over ทันที หลังจากออกมาแล้ววิ่งหนีลงเนินไปต่อ จัดการพวกเงาจนถึงน้ำตกด้านล่างอ้อมขึ้นเนินจนถึงเขตบ้านพักของพวกตัดไม้อีกหลัง เดินไปทางซ้ายของกองท่อนซุงปีนขึ้นไปบนเนินเข้าไปในบ้านเก็บแบตไฟฉายมาก่อนแล้วลงมาไ
ปทางขวาต่อผ่านบันไดพังแล้วขึ้นไปทางซ้ายบนจัดการศัตรูแล้วเปิดเครื่องปั่นไฟให้ติด เข้าไปในบ้านเก็บปืน Shot Gun มาแล้วเดินมาสับสวิตซ์ที่เสาเพื่อบังคับเครนท่อนซุงให้มาเชื่อมต่อกับกองท่อนซุงจนเป
็นทางไปต่อได้ ปีนบันไดขึ้นท่อนซุงแล้วข้ามไปด้านบนขวาต่อตามทางจนป่าที่มืดๆ หาที่ปั่นไฟก่อนเพื่อเปิดไฟเอาไว้แล้วเข้าไปศัตรูจะเริ่มออกมาจัดการพวกเงาให้หมด แล้วลงเนินไปตามทางจนถึงป้อมยามเข้าไปเปิดสวิตซ์ประตูเปิดเข้าไปที่เขตที่พักของพนัก
งานตัดไม้ด้านในจะพบ Carl Stucky ที่นำคนงานตัดไม้ที่โดนเงาควบคุมเอาไว้ทั้งหมดเข้าจู่โจมใส่อลัน หาทางจัดการมันให้หมด แล้วมุ่งหน้าไปตามทางจนถึงปั๊มน้ำมัน เข้าไปด้านในสำรวจที่โทรศัพท์อลันจะโทรไปแจ้งตำรวจ ซักพักนายอำเอ Sarah Breaker ขับรถมาถึง อลันเล่าให้การที่รรยาของเขาหายไปที่บ้านพัก แต่เมื่อทั้งหมดเดินทางมาถึงจุดที่เป็นบ้านพักริมทะเลสาป อลันถึงกับตะลึงเมื่อที่นั่นไม่มีบ้านพักที่ว่านั้นอยู่เลย….

-----------ฟังเพลง In Dreams เพราะๆของ Roy Orbison หลังจบ Chapter ---------------------------



Episode 2 : Taken
… 2 ปีก่อนที่อาพาร์ทเมนต์ของ Alan กับ Alice เมื่อเข้ามาถึงบ้านแล้วเข้าไปทักทาย Alice แล้วไปที่ห้องครัวเปิดเครื่องชงกาแฟ เข้าห้องทำงานสำรวจเอกสาร ไฟจะดับลง Alice นั้นเธอกลัวความมืดมากๆจึงร้องให้ช่วยรีบไปหยิบไฟฉายที่ประตูแล้วกลับมาหา Alice ทั้งคู่จะคุยกันอย่างโรแมนติก ท่ามกลางแสงเทียน

ที่ Bright Falls ปัจจุบัน อลันได้รับการตรวจอย่างละเอียดโดยหมอ Nelson ที่สถานีตำรวจ ตรวจเส็จแล้วเข้าไปหา Sarah ที่ห้องทำงานคุยจบจะมีโทรศัพท์จากชายลึกลับที่มันอ้างว่าได้จับตัว Alice ไปและบอกให้อลันออกไปที่ด้านหลังที่ซากรถบรรทุกเพื่อเก็บแผนที่ที่ต้องไปต่อเพื่อนัด
เจอกับมัน ซักพัก Barry ผู้จัดการส่วนตัวของอลันจะโทรมาว่าเขาเดินทางมาถึงแล้ว กลับเข้าไปในสถานีตำรวจอลันจะมีปากเสียงกับ Emill หมอประจำตัว Alice ที่มาให้ปากคำจนชกต่อยกันจน Barry ที่พึ่งมาถึงต้องเข้าไปห้าม จากนั้น Alan กับ Barry จะเดินทางไปที่สำนักงานดูแลป่า Elder Wood เพื่อขอที่พักจากเจ้าหน้าที่ Rusty เข้าไปด้านในเข้าไปคุยกับ Rusty แล้วเดินมาหยิบเอกสารที่โต๊ะเซ็นชื่อเพื่อเข้าพักที่แค๊มป์แล้วเอากลับมาไปให้ Rusty ก็จะได้กุญแจบ้านพักมา เมื่อพา Barry มาถึงบ้านพักแล้วอลันจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ Barry ฟังแล้วอลันจะออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปที่ Lover's Peak ที่นัดพบกับคนที่จับตัว Alice ไป

เดินทางลงเขาไปจนถึงสำนักงานของ Rusty จะพบว่าความมืดได้เข้าเล่นงานที่นี่ซะพังยับเยิน เข้าไปหา Rusty ที่นอนบาดเจ็บอยู่ด้านในเข้าจะให้กุญแจมา ข้ามไปที่อาคารตรงข้ามไขเข้าไปด้านในเพื่อหาคัทเอ็าท์ไฟแต่มันก็โดนทำลายไปก่อนแล้วจ
ึงไม่สามรรถเปิดไฟได้เมื่อกลับออกมา Rusty จะโดนเงาครอบงำแล้ว จัดการพวกเงาให้หมดแล้วเข้าไปในสำนักงานออกไปทางรูที่พนังทางขวาไปต่อจัดการพวกเงาที
่ออกมาเรื่อยๆลงไปตามสะพานเก่าซึ่ง Barry จะโทรมาบอกว่าเขาก็โดนความมืดเล่นงานแล้ว เดินลงไปจนถึงทางแยกทางซ้ายเข้าไปในถ้ำ Moonshine Cave เข้าไปเก็บกระสุนและปืน Shot Gun แล้วกลับออกมาไปทางขวาต่อที่ทางไป Lover's Peak เดินไปจนถึงต้นไม้ใหญ่ศัตรูจะเริ่มบุกเข้ามาพยายามเอาตัวรอดมาจนถึงเสาไฟด้านหน้าให้
ได้เปิดเครื่องปั่นไฟแล้วเข้าไปต่อจนถึงทางขึ้นกระเช้าขึ้นบนเขา ระหว่างอยู่บนกระเช้าความมืดจะเข้าโจมตีจนอลันหล่นมาฝั่งตรงข้ามในขณะที่อลันจะโดนเง
าเข้ามารุม ชายแปลกหน้าก้เข้ามาช่วยเอาไว้แล้วให้พลุกับอลันเพื่อใช้แทนปืนไปก่อน ซึ่งชายคนนี้คือคนที่อ้างว่าจับตัว Alice ไปจากนั้นก็ร่วมมือกับมันลุยพงกเงาไปตามทางโดยที่อลันสามารถใช้พลุหรือไฟฉายส่องพวกเ
งาแล้วชายแปลกหน้าจะคอยยิงศัตรูให้เอง ลุยขึ้นไปจนถึงเสาไฟที่ทางตันพวกเงาจะออกมาจากทุกทางร่วมกันจัดการพวกเงาให้หมดแล้ว อลันจะต่อยกับชายแปลกหน้าจนตกลงไปด้านล่าง เมื่ออลันเก็บปืนกลับมาได้ชายคนนั้นก็หนีเข้าป่าไป

เดินลงเขาไปตามทางระวังกับดักหมีบนพื้นด้วย เดินเข้าไปตามทางจัดการเอาตัวรอดจากพวกเงาด้วยจุดเสาไฟฟ้าระหว่างทางเป็นจุดๆเรื่อยๆ
จนถึงบ้านไม้หลังใหญ่ริมน้ำเข้าไปด้านในระวังพวกเงาบนพื้นด้วยขึ้นไปบนบันไดจนถึงชั้น
บนจะมาถึงบนเนินเขาจะพบทางไปต่อจนถึงประตูเข้าแค๊มป์พวกเงาที่ใช้เลื่อยไฟฟ้าจะออกมาม
ากมายจัดการพวกมันให้หมดเอาตัวรอดแล้วเข้าไปในแค๊มป์ด้านในจนถึงสำนักงานเข้าห้องน้ำช
ายที่อาคารทางซ้ายเก็บกุญแจโรงรถด้านในแล้วกลับออกมาไขโรงรถเข้าไปขับรถชนรั้วออกไปตา
มถนนหลบรถชุงที่ขวางทางอยู่ไปตามทางจนถึงจุดที่มีรถขวางเอาไว้ไม่สามารถขับไปได้ต่อแล
้วลงจากรถแล้วเดินเท้าต่อ ชายที่จับตัว Alice ไปจะโทรมาเพื่อขอแลกตัว Alice กับ ต้นฉบับนิยาย ที่อลันกำลังจะเขียนซึ่งเขายังไม่ได้เริ่มเขียนเลยด้วยซ้ำ เดินเข้าไปตามทางจนถึงบ้านพักของ Barry จะพบฝูงนกเงากำลังโจมตีใส่บ้านพัก เข้าไปด้านหลังบ้านแล้วจัดการฝูงนกเงาให้หมดซึ่งแค่ฉายไฟใส่มันก็ร่วงลงมาตายกันแล้ว
จัดการมันให้หมดแล้วเข้าไปช่วย Barry ออกมาแล้ว Barry จะโทรไปหาข่าวสารจาก โรส สาวที่ทำงานอยู่ในร้านอาหารซึ่ง โรส ก็โดนความมืดครอบงำจนบอกข่าวลวงว่า เธอ มีต้นฉบับนิยายอยู่ทำให้อลันไปติดกับที่หญิงลักลับได้เตรียมเอาไว้


Episode 3: Ransom
Alan กับ Barry เดินทางมาที่ Sparking River Estates เข้ามายกับ Randolph ผู้จัดการของที่นี่ เขาจะพบเข้าไปที่บ้านของโรสเดินตามเขาไปจนถึงบ้านของโรสที่ด้านใน อลัน ถามหาต้นฉบับที่โรสมีอยู่แต่กาแฟที่ใส่ยาสลบไว้ทำให้ทั้ง 2 คนหลับไปเมื่อตื่นขึ้นมาก้จะเข้าช่วงมืดพอดี ตื่นแล้วรีบออกจากบ้านแล้วกลับมาที่รถด้านหน้าทางเข้าจะพบ FBI มาตามจับทำให้อลันต้องหนีเข้าไปในป่าที่มืดมิดโดยที่ไม่มีทั้งปืนและไฟฉาย ช่วงนี้เป็นครั้งแรกที่ต้องหลบแสงและต้องหาเส้นทางมืดเดินหลบไฟของตำรวจที่ออกตามจับ ในขณะที่ความมืดก็เริ่มเข้าโจมตีใส่พวกตำรวจแบบช่วยอลันไปโดยปริยาย เดินเข้าไปตามทางจนอลันเห็นเป้าหมายที่แสงไฟที่สถานีวิทยุบนสันเขา แต่ประตูเหล็กด้านหน้าโดนความมืดกั้นเอาไว้ ตอนนี้เขาไม่มีไฟฉาย เดินขึ้นเนินไปจะพบไฟสปอตไลน์แต่ไม่มีไฟ เดินเข้าไปในกระท่อมเปิดเครื่องปั่นไฟแล้วมาเปิดไฟสปอตไลท์ส่องไปที่ประตูเพื่อทำลาย
เงาออก แล้วเข้าไปตามทางจนถึงรั้วที่ 2 ที่มีเงากั้นอยู่เข้าไปสำรวจในกระท่อมใกล้เก็บไฟฉายมาตอนนี้ก็ใช้ส่องจัดการเงาที่ปร
ะตูแล้วเข้าไปตามทาง เก็บระเบิดแสงจากรถตำรวจซึ่งเป็นอาวุธที่ดีที่สุดตอนนี้เลย แล้วจัดการพวกเงาที่เข้ามาให้หมดแล้ววิ่งเข้าไปจนถึงสถานีวิทยุ KBF – FM 97.6 เข้าไปด้านในคุยกับ Dan Brown ผู้จัดรายการซึ่งยังไม่ทันได้คุยกันพวก FBI ก็ตามมาจับอีกจนได้ทำให้อลันต้องหนีต่อตามทางลงเขา

หนีตำรวจลงไปตามทางจนถึงที่ปั่นไฟแล้วเก็บปืนตรงเสาไฟฟ้ามาใช้ เข้าไปในกระท่อมเก็บไรเฟิล แล้วจัดการศัตรูที่ออกมาให้หมดโดยใช้เครื่องปั่นไฟตามทางในการกำจัดพวกมัน เดินไปตามเส้นทางรถไฟ Alice จะโทรมาขอให้อลันไปช่วยเดินไปจนถึงซากสะพานเหล็กปีนขึ้นไปข้ามไปอีกด้าน ความืดจะสามารถควบคุมสิ่งของแท่งเหล็กต่างๆเข้าโจมตีใส่อลันได้อีกด้วย จัดการทำลายมันให้หมดแล้วออกไปที่ทางลงอีกด้านเข้าไปที่เสาไฟฟ้าเก็บไฟฉายที่ใหญ่กว่
าเดิมมาใช้ โดดลงมาที่ลานหน้าโกดังเปิดสวิตซ์ประตูแล้วพวกมนุษย์เงาจะออกมาโจมตี จัดการพวกมันให้หมดแล้วเข้าประตูไปในโกดังเก็บของให้หมดแล้วออกมาทางอีกด้านของโกดัง
ที่ลานกว้างจะพบ กลุ่มศัตรูที่มีรถแทรกเตอร์ที่โดนความืดเข้าควบคุมเข้ามาโจมตีใส่อลัน จัดการทำลายรถแทรกเตอร์และศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปที่สุดทางอลันจะขับรถเดินทางไปต่อ

ตอนนี้จะอยู่ในช่วงกลางวัน ขับรถไปตามทางสามารถลงมาสำรวจอะไรต่างๆนานาได้อย่างสะดวกเพราตอนนี้ไม่มีพวกเงาออกมา
แน่นอน ขับไปจนถึงเหมือง Coal Mine ที่สุดทางเข้าไปในอาคาร Museum ชั้นบนที่เป็นจุดนัดพบกับโจรเรียกค่าไถ่ วึ่งอลันก็รออย่างกระวนกระวายจนเริ่มมืดลงแล้วมันก็จะโทรมาบอกให้เปลี่ยนที่นัดหมายท
ี่ Mirror Peak แทนทำให้อลันโมโหมาก โดดลงมาชั้นล่างของบ้านเปิดสวิตซ์ทางออกที่พื้นบ้านออกมาด้านนอกทางใต้ถุนบ้านที่สุส
านรถไฟ จัดการศัตรูให้หมดแล้วปีนโบกี๊ขึ้นไปแล้วเปิดฝาโดดเข้าไปด้านในทะลุเข้าไปออกอีกด้าน
ที่ลานกว้างอลันจะเห็นบันไดทางขึ้นที่โดนเสาไฟฟ้าล้มลงมาขวางทางขึ้นเอาไว้ ซึ่งต้องไปปิดพลังงานไฟฟ้าที่หม้อแปลงฝั่งตรงข้าม วิ่งข้ามไปศัตรูจะเริ่มออกมามากมายจัดการให้หมดแล้วเข้าไปปิดสิวตซ์หม้อแปลงไฟทำให้ไ
ฟทั้งหมดดับลงพร้อมไฟที่เสาไฟตรงทางขึ้นด้วย เมื่อไม่มีแสงแล้วพวกเงาก็จะออกมาเต็มลานกว้างเลย จัดการมันแล้วหลบไปที่บันไดทางขึ้นเข้าไปในบ้านเก็บของให้หมดแล้วทะลุออกมาด้านหลังบ
้าน เก็บระเบิดแสงที่รถเตรียมพร้อมเอาไว้แล้วจัดการพวกเงาที่เข้ามาให้หมด เข้าไปตามทางในป่าทึบที่ค่อนข้างจะมืดเอาตัวรอดจากพวกเงาที่ออกมาจนถึงเสาไฟฟ้าถัดไป
จนถึงด้านในจะพบ Ghost Town เมืองของชาวเหมืองร้างเดินไปตามทางรถไฟจะพบเจอเศาเหล็กและหัวรถจักร์ที่โดนเงาควบคุม
พุ่งเข้าโจมตีอลันจัดการทำลายมันซะ เก็บกุญแจที่บ้านทางซ้ายเอาไปไขที่บ้านตรงกลางผ่านทะลุมาอีกฝั่งของบ้าน ขึ้นไปตามเส้นทางสันเขาข้ามสะพานไม้จนถึงทางลงเหมืองใต้ดิน

เข้ามาในเหมือง Silver Mine จะพบหินมากั้นทางเอาไว้จัดการศัตรูที่ออกมาให้หมด เส้นทางเปิดเข้าไปจนถึงด้านในจะพบสิวตซ์ที่ใช้ควบคุมแท่งเหล้กให้ยกขึ้นไปเป็นทางเชื
่อมไปฝั่งตรงข้ามแล้วโดดไปกดสวิตซ์ใช้แท่งเหล็กทำทางขึ้นไปด้านบนสุดจะพบทางออก แล้วลงมาตามเส้นทางลงเขาเปิดสวิตซ์เครื่องปั่นไฟให้กระเช้าเคลื่อนเข้ามา นั่งกระเช้าไปจะมีพวกนกเข้ามาโจมตีจัดการต้านมันเอาไว้จนถึงฝั่งตรงข้ามแล้วขึ้นไปตา
มทางด้านบนเรียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ จนถึงสะพานเชือกยาวๆพวกศัตรูจะบุกเข้ามาทั้ง 2 ด้านจัดการหาทางมาที่อีกฝี่งนึงให้ได้ เดินเลาะสะพานขาดมาทางซ้ายจนเจอบ้านร้างหลังใหญ่ หาทางเข้าบ้านทางห้องใต้ดินแล้วขึ้นมาชั้นบนสุดพื้นจะถล่มลงมาชั้นล่างจัดการศัตรูที
่ออกมาให้หมดแล้วกลับขึ้นไปชั้นบนสุดอีกครั้ง แล้วโดดลงไปทางด้านหลังบ้าน เดินลงมาตามเส้นทางลงเขาอลันจะมองเห็นแม่น้ำ Cauldron Lake เขาคิดว่าจะหาเรือในการข้ามไปเมื่อลงไปจนถึงท่าน้ำจะพบโจรเรียกค่าไถ่โดนความมืดจากห
ญิงลึกลับดึงตัวเขาลอยไปบนท้องฟ้าแต่ อลันเองก็ลอยขึ้นไปด้วยแต่มือเขาก็ยังคว้าพลุแสงเอาไว้ได้ทำให้เงาความมืดปล่อยเขาตก
ลงไปในแม่น้ำ Cauldron Lake ในขณะที่อลันกำลังจะจมน้ำก็มีมือใครบางคนที่ยื่นเข้ามาฃ่วยอลันเอาไว้ได้ ..




Episode 4: The Truth
อลันจะมาฟื้นที่คลีนิคของ Dr. Emill Hartman ที่เป็นหมอเกี่ยวกับโรคประสาท เขาจะเปิดประตูเข้ามาคุยด้วยแล้วพาอลันเดินชมตามห้องต่างๆในคลีนิค เดินตามเขาไปเรื่อยๆจะพบกับพวกคนไข่ที่โดนจับมาขังและรักษาที่นี่รวมถึงสองพี่น้องร็
อคเกอร์รุ่นเก๋า พี่น้อง Anderson พวกเขาจะพูดแต่เรื่องความลับของแสงบางอย่าง จากนั้นเดินกลับมาที่ห้อง ซักพักยามจะเดินไปที่อื่นหาจังหวะเดินหนีออกมาจากห้องเดินลงมาชั้นล่างจะพบพยาบาลโดน
คนไข้ทำร้ายเดินเข้าไปเก็บกุญแจมาจากเธอแล้วไขออกทางประตูใหญ่มา เดินมาจนถึงห้องทำงานของ Dr. Hartman จะพบ barry อยู่ที่นี่ด้วยเข้าไปในห้องทำงานจะเจอหน้ากระดาษต้นฉบับนิยายส่วนนึงอยู่ Dr. Hartman จะเข้ามาด้านหลังและพยายามบอกให้อลันรวมมือกับเขาค้นคว้าเกี่ยวกับพลังที่ยิ่งใหญ่ จากนั้น Dr. Hartman จะโดนความมืดเข้ามาดึงตัวไป อลันจึงต้องหนีออกมาพร้อมปืนพกในมือ ออกมาที่ห้องโถงความมืดจะเริ่มโจมตีแล้ว สิ่งของต่างๆจะเริ่มพุ่งเข้าโจมตีใส่อลัน ขึ้นไปชั้นบนเปิดเครื่องปั่นไฟให้ไฟติดที่ตรงกลางห้องด้านล่างแล้วกลับลงมาหลบสิ่งขอ
งที่ลอยไปมาจนมาออกที่ประตูอีกด้านนึง เก็บพลุแสงในห้องแล้วใช้กับเงาที่กั้นประตูเอาไว้แล้วออกมาตามทางเดินยาวจะมีลุกเหล็
กกลิ้งทำลายประตูจากด้านนอกพังเข้ามาใส่อลันหลบมันแล้วออกประตูไปที่หน้าประตูทางออกอ
าคารแล้วล่อใหลูกเหล็กพุ่งใส่ประตูแล้วโดดหลบประตูพังแล้วออกมาด้านนอก จะเจอ Barry ที่ด้านนอกรั้วเขาให้ไฟฉายมา ตึกคลีนิคจะโดนความมืดกลืนกินจนหมดแล้ว ข้าวของต่างๆจะปลิวพุ่งเข้าใส่อลันมากมายจัดการทำลายมันด้วยแสงไฟฉายให้หมดแล้วทำลาย
ประตูรั้วทางออกด้วยแสงจากไฟฉายแล้วออกมาที่สวนวงกตที่วกวน เดินเข้าไปแล้วหาทางออกมาที่อีกด้านเข้ามาจนถึงโดมด้านนอกจะพบ บอส Dr. Hartman ที่โดนความมืดควบคุมแล้วมันจะออกมาพร้อมฝูงนกเงา จัดการนกเงาก่อนแล้วค่อยจัดการ Dr. Hartman ซึ่งไม่ยากนักแล้วเดินเข้าไปด้านในต่อจนถึงประตูทางออกที่ปิดล็อคอยู่ Barry จะอยู่ด้านนอกและพยายามจะงัดประตูเข้ามา ช่วงนี้จัดการศัตรูที่ล้อมเข้ามาให้หมดจนกว่า Barry จะขับรถพังประตูเข้ามารับ อลันเพื่อเดินทางต่อ

Alan กับ Barry ขับรถเดินทางโดยมีจุดหมายคือที่ฟาร์ม Valhalla ซึ่งเป็นบ้านของ2 พี่น้อง Anderson ที่รู้ความลับบางอย่างที่จะเอาชนะความมืดได้ แต่ได้เกิดอุบัติเหตุทำให้รถคว่ำ barry จะหล่นไปด้านล่างกับรถส่วนอลันจะตกมาที่ไหล่เขาด้านบน เดินไปตามไหล่เขาจนสุดทางอลันจะมองเห็นฟาร์มอยู่ไกลๆ เดินไปตามทางรถรางจนถึงประตูที่มีความมืดกั้นทางเอาไว้แต่ตอนนี้อลันยังไม่มีไฟฉายติ
ดตัวจึงต้องขึ้นบันไดด้านหลังขึ้นไปเปิดเครื่องปั่นไฟแล้วโยกเสาไฟมาส่องทำลายประตูเข
้าไป เก็บไฟฉายมาอลันจะเห็นรถแล่นเข้าไปในฟาร์มเดินต่อโดยระวังกับดักที่พื้นด้วย เก็บปืน Shot Gun ที่เครื่องปั่นไฟเดินผ่านป่าจนถึงบ้านพักเข้าไปด้านในขึ้นชั้น 2 จะพบคนไข้ที่หนีออกมาจากคลีนิคโดนทำร้ายจนตายเก็บของให้หมดแล้ว ลงมาด้านล่างจัดการ danny ที่โดนความมืดครอบงำแล้วออกมาด้านนอกขับรถลงมาตามทางลงเขาจนถึงลานกว้างหน้าฟาร์มจัด
การศัตรูให้หมดแล้วลงรถเข้าไปจะพบ รถแทรกเตอร์ที่โดนความมืดควบคุมเข้าโจมตีใส่อลัน จัดการมันแล้วเข้าไปตามทางที่ลานกว้างจะพบเวทีคอนเสริต์ของพี่น้อง Anderson ศัตรูจะเริ่มบุกเข้ามามากมาย Barry จะใช้ พลุที่ใช้ในการแสดงยิงเพื่อจัดการพวกเงา ร่วมมือกับ Barry จัดการพวกศัตรูที่บุกเข้ามาอย่างมากมาย แต่ไม่ต้องกลัวกระสุนมีมากพอและพลุที่ Barry คอยยิงขึ้นฟ้าก้จะทำลายพวกมันได้ง่ายยิ่งขึ้น จัดการจนหมดแล้วออกมาทางรั้วพังไปตามทางจนถึง Silo ปีนยันไดทางขวาขึ้นไปสับสวิตซ์ให้ถังน้ำมันยกให้พ้นประตู เข้าไปด้านในจะพบว่าประตูอีกด้านก็ปิดอยู่ เดินขึ้นชั้นบนกดสวิตซืที่แท่นให้เรือที่แขวนอยู่ไปกระแทกประตูอีกด้านจนพัง แล้วออกไปตามทางจัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปในบ้านด้านในประตุอีกด้านจะปิดอีกแล้ว ขึ้นไปชั้นบนสุดเปืดเครื่องปั่นไฟให้กระเช้าเข้ามาหา นั่งกระเช้าลงมาด้านล่างอีกด้านของประตู เดินเข้ามาจนถึงคอกเลี้ยงสัตว์จะพบกับ รถตัดหญ้าที่เข้ามาพุ่งใส่อลันจัดการมันแล้วเข้าไปด้านในเข้าห้องเก็บของเก็บกุญแจ Silo มาแล้วมาไขที่ประตูให้ Barry ออกมาเดินเข้าไปด้านในจนถึงทางเข้าบ้านของ 2 พี่น้อง Anderson

เข้ามาในบ้านแล้วขึ้นชั้นบนไปหาคัทเอ๊าท์ไฟฟ้าในบ้านให้มีไฟขึ้นมาแบ้วจะมีเสียงเพลง
ดังขึ้นมาเดินลงมาหาที่เครื่องเล่นแผ่นเสียง อลัน จะฟังเนื้อเพลงที่แต่งไว้เป็นคำบอกใบ้ในการเอาชนะความมืดอาไว้ เมื่อทั้งคู่หาของที่ต้องการจนได้เบาะแสมาแล้ว Berry จะชวน Alan ดิ่มเหล้าแก้เซ็งจนทั้งคู่เมาหลับไป อลันจะฝันถึงตอนที่อยู่ที่บ้านริมทะเลสาปที่ Alice หายตัวไป อลันจะนึกถึงความทรงจำที่หายไปของเขาขึ้นมา อลันวิ่งลงไปช่วง Alice ที่โดนทะเลสาปแห่งความมืดดึงลงไปในน้ำ อลันเสียใจมากจนอีกด้านนึงของจิตใจเขาปรากฎออกมาจึงเป็นการง่ายที่ Dark Presence จะชักจูงให้อลันเขียนนิยายเรื่อง Departure ขึ้นมาและพลังแห่งความมืดจะทำให้นิยายของอลันเป็นความจริงขึ้นมา ในขณะที่เขาเขียนจนเสร็จเหลือแค่หน้าสุดท้าย ชายในขุดเก็บแสงจะออกมาและเก็บต้นฉบับนิยายเอาไว้แล้วไล่อลันออกไปที่ด้านนอกบ้าน อลันตกใจจึงขับรถหนีไปจนเกิดอุบัติเหตุตกเขาในที่สุด อลันตื่นขึ้นมาจะพบเจ้าหน้าที่ FBI Nightingale เข้ามาจับตัวพอดี

Episode 5: The Clicker
Alan กับ Barry จะโดนจับมาที่สถานีตำรวจ Sarah พยายามจะให้ Nightingale หาหลักฐานให้ดีวะก่อนที่จะจับอลันซึ่งเธอค่อนข้างจะเชื่อในตัวอลันอยู่ แต่จู่ความมืดก็เข้าโจมตีสถานีตำรวจและเจ้าหน้าที่ Nightingale ก็โดนความมืดดึงตัวไป Sarah ตกใจมากเอรีบปล่อยพวกอลันออกมาแล้วพาไปที่ห้องทำงาน เก็บปืนไฟฉายกระสุนให้หมดแล้วตาม Sarah ออกมานอกอาคารแต่ประตูรั้วจะเปิดไม่ออก เดินมุดรั้วเข้าไปในสวนปีนบันไดขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกแล้วลงลิฟท์มาอีกด้านของประตูรั้วจ
ัดการศัตรูแล้วเข้าไปเปิดสวิตซ์ประตูเปิดให้ Sarah ออกมาร่วมมือกันจัดการศัตรูที่ออกมาตามถนนในเมืองแวะเข้าร้านอาหารเข้าไปเก็บไฟฉายอั
นใหญ่กระสุนแล้วตาม Sarah เข้าไปในเมืองคุ้มกันเธอให้ไขรั้วเข้าไปในสำนักงานด้านใน เข้าห้องด้านในเก็บของมาให้หมดรวมทั้งกุญแจคอปเตอร์ด้วย ในขณะที่ออกมาด้านนอกถนนจะเห็น Barry วิ่งหนีความมืดที่ไล่หลังเขามาจนรถลอยมาขวางทางเอาไว้ ตาม sarah อ้อมไปอีกด้านเข้าไปที่ร้านขายหลังสือแล้วทะลุออกมาด้านหลัง เดินมาที่โบส์ถแล้ว Sarah จะพยายามไขประตุเข้าไปต้านศัตรูที่บุกเข้ามาเอาไว้จนเธอไขประตูเปิดเข้าไปในโบส์ถได้ ลงทางใต้โบส์ถไปตามอุโมงค์ใต้ดินจนมาออกอีกด้านของถนนพวกเงาจะบุกเข้ามาแต่ Barry จะเขามาช่วยซึ่งเขาได้มุขใหม่มาใช้คือเอาไฟต้นคริสมาสมาพันรอบตัวเอาไว้เลยทีเดียว ช่วยกันยิงศัตรูจนเข้ามาจนถึงสถานีดับเพลิงจะพบ เฮลิคอปเตอร์จอดอยู่ Sarah จะขึ้นไปสตาร์ท์เครื่องยนต์ตอนนี้ก็พยายามต้านศัตรูที่มันบุกเข้ามาจนกว่า Sarah จะติดเครื่องได้แล้วทั้งหมดจะบินหนีออกมาจากที่นี่

ทั้งหมดจะบินมาที่เป้าหมายคือโรงไฟฟ้า แต่คอปเตอร์จะโดนฝูงนกเล่นงานจนอลันตกลงมาด้านล่างจัดการฝูงนกให้หมดแล้วเข้าไปที่อา
คารไม้ด้านในประตูจะปิดอยู่ใช้ปืนยิงโซ่ใหเหลุดและประตูจะค่อยๆเปิด ศัตรูจะเริ่มออกมาจัดการมันให้หมดแล้วเข้าบ้านไปทะลุมาออกอีกด้านอลันจะเห็นโรงไฟฟ้า
อีกฝั่งของแม่น้ำ เข้าไปในเขตสายไฟจัดการศัตรูที่ออกมาให้หมดจนถึงหน้าสะพาน Randall เข้าไปในห้องควบคุมเปิดสวิตซ์ให้สะพานหมุนออกมา แต่มันจะไม่หยุดให้ขึ้นน๊ะต้องหาจังหวะโดดขึ้นไปบนสะพานจัดการฝูงนกที่เข้ามาโจมตีให
้หมดแล้วหาจังหวะโดดไปที่ฝั่งตรงข้าม ข้ามาแล้วคอปเตอร์ของ Sarah จะบินมาคอยส่องไฟคุ้มกันให้ ศัตรูจะเริ่มบุกเข้ามาแต่ถึงจะส่องไฟไว้แต่มันเป็นแสงที่อ่อนทำให้ศัตรูมันก็จะบุกเข
้ามาอยู่ดี ศัตรูจะค่อนข้างออกมาเยอะ จัดการศัตรูแล้วขึ้นเนินไปจนถึงทางเข้าโรงไฟฟ้าเข้าไปด้านในจะพบกับ Cynthia Woaver ในนามของ Lady of Light ความหวังสุดท้ายในความมืดมิดนี้ คุยจบเก็บของให้หมดแล้วเธอจะให้ไปเปิดสวิตซ์งานที่ตรงประตูน้ำด้านนอกให้น้ำในท่อหยุ
ดทำงาน ออกมาด้านนอกจัดการศัตรูที่ออกมาแล้วเข้ามาถึงประตูน้ำที่มีสวิตซ์เปิดสะพานเล็กอยู่ 3 ปุ่มกดปุ่มซ้าย – กลาง สะพานเล็กๆก็จะเชื่อมออกมาทั้ง 3 อัน เดินข้ามไปเปิดสวิตซ์แล้วกลับออกมา สะพานจะเริ่มเคลื่อนไหวหาจังหวะโดดข้ามมาให้ได้ จัดการศัตรูที่บุกเข้ามาให้หมดแล้วกลับไปหา Cynthia ในโรงไฟฟ้า เธอจะพาทุกคนลงไปตามท่อน้ำใต้ดินซึ่ง Barry จะโทรมาบอกว่าคอปเตอร์กำลังจะตกแล้ว ออกมาจากท่ออีกด้านแล้วเข้าไปในป่าเรื่อยๆจนถึงจุดตกของคอปเตอร์แต่จะไม่พบใคร เดินขึ้นเนินไปจะพบ Berry กับ Sarah กำลังสู้กับพวกเงาอยู่ ช่วยกันจัดการให้หมด แล้วขึ้นเนินไปที่อาคารใต้เขื่อนกดสวิตซ์ให้ลิฟท์ลงมา แล้วจัดการศัตรูไปจนกว่าลิฟท์จะลงมาถึง ขึ้นไปจนถึงเนินด้านบน กดสวิตซ์ค้างเพื่อเปิดประตูด้านในกดค้างจน Berry กับ Sarah เข้าไปได้แล้วความมืดจะเข้ามาพัดให้สิ่งของมากั้นประตูเอาไว้ ซึ่งทำให้อลันต้องอ้อมไปอีกด้านแทน โดยปีนขึ้นไปบนสันเขื่อนศัตรูจะออกมามากมายใช้สปอทไลท์ช่วยในการจัดการศัตรูให้หมด แล้วพายุแห่งความมืดจะพัดไล่หลังเข้มาแล้ว รีบวิ่งหนีไปบนทางขึ้นสันเขื่อนระวังอย่าให้ตกลงไปด้านล่างเพราะพื้นเหล็กก็จะเริ่มพ
ังลงไปที่ละชิ้น ขึ้นไปจนถึงลิฟท์ด้านบนจะพบ Berry , Sarah และ Cynthia รอยู่ลงลิฟท์ไปจนถึงด้านในจะพบห้องที่เก็บ อาวุธสุดยอดที่เอาไว้ใช้ขจัดความมืดนั่นคือ The Clicker สวิตซ์เปิดปิดซึ่ง Thomas Zane สามีของ Cynthia ได้เก็บเอาไว้ให้ อลัน ใช้เป็นไพ่ตายเพื่อเข้าไปจัดการกับ Dark Presence

Episode 6: Departure
… กล่าวถึงเมื่อ 2 ปีก่อนตอนที่ Alan กับ Alice ที่อาพาร์ทเมนท์ใน New York แล้ว … ในปัจจุบันขณะที่อลันได้ The Clicker มาแล้วเขาก็จะมุ่งหน้าไปที่บ้านริมทะเลสาปใน Cauldron ในทันทีเพื่อเขียนนิยายตอนจบให้เสร็จ ขับรถมาตามทางในตอนกลางวันจนถึงอุโมงค์ที่มีรถขวางทางอยู่ลงรถแล้วเข้าไปในอุโมงค์ลอ
ดมาอีกฝั่งจะเปลี่ยนเป้นตอนกลางคินทันที ศัตรูเริ่มออกมาโจมตีจัดการมันให้หมดแล้วเดินไปตามถนนจนเจอรถขับต่อไปตามถนนจนถึงโรง
แรม Majestic เก็บของมาให้หมดแล้วเข้าไปสำรวจในห้องพักด้านในจะเป็นห้องของ เจ้าหน้าที่ FBI Nightingale เก็บของให้หมดแล้วกลับออกมาด้านนอกขับรถไปต่อจนถึงสะพานเหล็กลงรถแล้วปีนขึ้นไปด้านบ
นสะพานข้ามไปพร้อมกับจัดการศัตรูไปจนถึงทางออกขับรถเดินทางต่อตามทางจนถึง อู่ซ่อมรถปีนขึ้นไปเปิดเครื่องปั่นไฟแล้วกลับลงมา จัดการกับรถแทรกเตอร์ที่ออกมาแล้วเปิดสวิตซ์เข้าประตูไป ขับรถไปต่อตามถนนจนถึง Ghost Town อลันจะเห็นพายุแห่งความมืดพัดมาพร้อมศัตรุที่ออกมากมากมายจัดการมันให้หมดโดยใช้สปอต
ไลท์ช่วยอีกแรง เข้าไปในซากโบส์ถทะลุออกมาอีกด้าน นั่งรถรางต่อจนมาอีกฝั่งจนถึงทางเข้าป่า เส้นทางนี้จะมีแต่ศัตรูที่เป็นเงาแบบความเร็วสูงเต็มไปหมด พยายามเอาตัวรอดจนมาถึงซากเมืองให้ได้ เข้ามาที่กระเช้าแล้วเดินไปเปิดเครื่องปั่นไฟแล้วศัตรูจะเริ่มออกมา จัดการมันให้หมดแล้วขึ้นกระเช้าไปด้านบน ตามทาง Dark Presence ไม่ยอมให้อลันเข้าไปถึงจุดหมายง่ายๆแน่นอนมันส่งสิ่งของต่างๆมากั้นทางเอาไว้จัดการท
ำลายมันให้หมดแล้วลอดเข้าอุโมงค์ไปหลบหินที่พุ่งเข้ามาขัดขวางเรื่อยๆจนถึงทางออกจะพบ Dark Tornado เข้าไปให้ใกล้มันที่สุดแล้วเก็บปืนยิงพลุจัดการยิงไปที่ในกลางของมันจนทำลายมันลงไปไ
ด้

อลันตัดสินใจโดดลงไปในทะเลสาปแห่งความมืดด้านล่างจนทำให้เขามาฟื้นที่อาพาร์ทเมนท์ขอ
งเขา Alan ได้เจอ Alice ที่ปลุกเขาขึ้นมาเหมือนเคยแต่ตอนนี้ Alan ไม่ไว้ใจแล้ว เดินเข้ามาในห้องรับแขกทางซ้ายเพื่อเก็บไฟฉายและสวิตซ์ The Clicker แล้วทำการส่องไฟฉายใส่ Alice ตัวปลอมจนมันสลายหายไป อลันหลุดมาที่มิติที่สับสนอีกเดินเข้าไปตามทางจะพบคำต่างๆเขียนอยู่ตามพื้นให้ใช้ไฟฉ
ายส่องทำลายแต่คำที่เป็นสีเขียวคือ คำว่า Bridge (สะพาน ) แล้วสะพานก็จะออกมาให้ข้ามไปด้านในต่อ ใช้ไฟฉายส่องไปที่ประโยค Bird Leg Cabin บ้านพักริมทะเลสาปก็จะออกมาเข้าไปด้านในจะพบ Dark Presence อลันจะใช้สวิตซ์เปิดไฟใส่เข้าไปในตัวของมันทำให้มันสลายไปในที่สุด ในความทรงจำที่เลื่อนราง Thomas Zane ที่อยู่ในชุดเก็บแสงที่โดนขังเอาไว้จะบอกกับอลันว่า อลัน เป็นคน 2 บุคลิกเหมือนกับขาวและดำซึ่งในขณะที่อลันไม่รู้สึกตัว Mr. Scratch อีกบุคลิกก็จะออกมาทำเรื่องขั่วร้าย ….. เมื่ออลันรู้สึกตัวแล้วเขาเริ่มเขียนนิยาย Departure หน้าสุดท้ายตอนจบที่ค้างเอาไว้จนจบ ทำให้เหตุการ์รถูกย้อนเวลามาตอนที่ Alice จมลงไปในทะเลสาปแห่งความมืดเธอถูกดึงลงไปในน้ำอีกครั้งแต่คราวนี้ลำแสงสีขาวจะช่วยพา
ให้ Alice รอดขึ้นมาจากทะเลสาปได้ Alice รอดออกมาแล้วเธอจะเริ่มมองหา Alan ซึ่งเธอพยายามตะโกนเรียก แต่ Alan ได้หายไปในความมืดมิดเสียแล้ว

ชาวเมือง Bright Falls ที่หายไปจะกลับมาเหมือนเดิม พวกเขากำลังจัดงานฉลองประจำเมืองอย่างมีความสุข แต่ก็โดนแอบมองด้วยสายตาแข็งกร้าวจาก โรส และ ชายปริศนาที่อยู่ในมุมมืดของห้อง ความสุขของชาวเมือง Bright Falls จะสงบสุขจริงๆหรือ ในขณะที่ Alan กำลังเขียนนิยายของเขาอยู่ที่ไหนสักแห่งในความมืด Alan แก้ไขนิยายของเขา อลันเปลี่ยนคำว่า Lake ไปเป็นคำว่า Ocean ซึ่งความมืดที่จะกลับมาอีกครั้งมันจะไม่ใช่อยู่แค่ ทะเลสาป แต่มันจะเป็น มหาสมุทร ที่กว้างใหญ่กว่า !! ……….




----------------------------- THE END ------------------------------------------------------

#2 snooze

    ѡͩҨ

  • Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 686 posts
  • Gender:Male

Posted 10 May 2010 - 10:50 PM

thank


#3 tvmb

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1888 posts
  • Gender:Male

Posted 10 May 2010 - 11:05 PM

Decibel per - oxide คนนี้เซียนครับ เคยคุยกัน ที่ msn นิสัยดีมากครับ

#4 AkutyBoy

    ѡ§

  • High Members
  • PipPipPipPipPip
  • 349 posts

Posted 10 May 2010 - 11:13 PM

ขอบคุณมากครับท่าน yoyo_33.gif

#5 bathlover

    ѡͩѧ

  • High Members
  • PipPipPipPipPipPip
  • 355 posts

Posted 11 May 2010 - 07:32 AM



ขอบคุณครับ

เขียนได้ดีมาก ๆ ท่านหนึ่งเลยทีเดียว

ไว้จะนำไปเป็นบทสรุปเคียงข้างกาย ขณะเสพเกมส์นี้เลยครับ

#6 aordy

    ѡдѺ٧鹷 3

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1393 posts
  • Gender:Male

Posted 11 May 2010 - 08:24 AM

อ่านแล้วยิ่งอยากเล่น

#7 b11901b

    ѡдѺ٧鹷 1

  • Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPip
  • 911 posts
  • Gender:Male

Posted 11 May 2010 - 10:55 AM

เยี่ยมครับผมกำลังอยากหาอ่านอยู่เลยเพราะตอนเล่นเกม เนื้อเรื่องอ่านยากไม่ค่อยปะติะปะต่อ

หน้าปักหมุดไว้น่ะครับ

#8 Medt

    ѡдѺ٧鹷 3

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1470 posts
  • Gender:Male

Posted 11 May 2010 - 01:08 PM

ขอบคุณครับ

#9 pokojung

    Шѧ͢෾

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 6387 posts
  • Gender:Male

Posted 11 May 2010 - 01:11 PM

ขอบคุณหลายๆจ้า yoyo_52.gif

#10 Balloon99

    ѡ

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1979 posts

Posted 11 May 2010 - 06:08 PM

ขอบคุณมากครับ

#11 lcat

    ѡ鹤

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2194 posts
  • Gender:Male
  • Interests:My love freedom 087-4063532

Posted 11 May 2010 - 08:40 PM

ไม่พลาดแน่นอนครับ เกมนี้

#12 WinZero

    ѡ¹鹷 1

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2507 posts
  • Gender:Male

Posted 14 May 2010 - 03:28 PM

ใจจ้า...

#13 gimkung

    ѡдѺ٧鹷 2

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1014 posts
  • Gender:Male

Posted 14 May 2010 - 04:22 PM

ขอบคุณมากครับ น่าสนใจ ๆ ว่าแต่อ่านก่อนเล่น มันจะอดลุ้นป่าวครับ efb50fe2.gif

#14 eicqx

    ѡ¹鹷 1

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2781 posts
  • Gender:Male

Posted 24 May 2010 - 09:30 AM

ขอเก็บไว้ก่อน...เด๋วเล่นแล้วจะดูอย่างแน่นอน ขอบคุณมาก ๆ

#15 MoDiFy

    Old SuanKuLarB 122

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 10860 posts
  • Gender:Male
  • Location:Bkk, Thailand

Posted 24 May 2010 - 12:21 PM

แหล่มเลย

#16 Lagunaneo

    ѡͩҨ

  • Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 616 posts
  • Gender:Male

Posted 04 August 2011 - 05:10 PM

秵͹