`

Jump to content





Walkthrough The Legend of Kyrandia : Book One


1 reply to this topic

#1 rbgel

    <Թ ȡ>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 26 April 2010 - 11:09 AM

~Welcome to Just Adventure~


The Legend of Kyrandia

"Book One"

"มหัศจรรย์ตำนานแห่งไคแรนเดีย บทที่ 1
ตอน กษัตริย์คืนบัลลังก์"


Posted Image

-DOSBox & ScummVM-


"If you like Adventure , you will also like"


Quote

-จากใจผู้เขียน-

”ผจญภัยในดินแดนเทพนิยาย สถานที่ซึ่งมีพ่อมด ภูติพราย ต้นไม้พูดได้ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ปีศาจ เจ้าหญิง และสิ่งสวยงามต่างๆ มากมาย ลองออกสำรวจสิ่งต่างๆ เหล่านี้ด้วยตัวคุณเองเถิด แล้วคุณจะลืมโลก”

+ทิ้งช่วงไปเกือบปีได้ค่ะ นับจากลงงานเขียน Walkthrough เฉลยเกมภาค 3 ของเกมตระกูลนี้ไป วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่อาบีจังจะขอเสนอภาคปฐมบท ต้นกำเนิดตำนานของไคแรนเดีย ให้แฟนๆ เกมแอดเวนเจอร์ทั้งหลายได้ทัศนากันค่ะเจ้า

+The Legend of Kyrandia ไตรภาค เป็นผลงานแฟนตาซีล้ำจินตนาการของบริษัท Westwood Studios ที่คอเกมทุกคนรู้จักกันดีจากเกมวางแผน เชิงกลยุทธ์ชื่อดังอย่างซีรีส์ Command & Conquer นั่นเองค่ะ . .

+Kyrandia ภาคแรกนั้น ไม่มีชื่อตอนค่ะ มีแต่ชื่อภาคสั้นๆ ว่า Book One เท่านั้น โดยถูกสร้างมาจากนิยายต้นฉบับที่มีชื่อว่า “Fables & Fiends” ค่ะ โดยออกวางจำหน่ายในปี 1992 ส่วน ภาค 2 Hand of Fate และภาค 3 Malcolm's Revenge ก็ออกวางตลาดในปี 1993 และ 1994 ตามลำดับติดต่อกัน . . และเพราะการที่เกมลงชื่อภาคไว้นี่เอง แสดงว่าเวสต์วู้ดต้องหมายมั่นปั้นมือ เตรียมแผนจะสร้างเป็นไตรภาคมาตั้งแต่แรกแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย . .

+และเมื่อ The Legend of Kyrandia Book One ได้อวดโฉมเป็นครั้งแรกในวงการเกมพีซีนั้น ก็ไม่ทำให้ทีมผู้สร้างผิดหวังค่ะ เพราะเกมสร้างความประทับใจ และได้รับคำชมจากแฟนๆ ไปไม่น้อยทีเดียวค่ะ ก่อนจะมาฮิตสุดๆ กับภาค 2 และภาค 3 ในเวลาต่อมา . .

+ซึ่งเกมนี้เจ๋งขนาดไหนนั้น ก็ถึงขนาดที่ว่า Westwood ยอมเข็นออกเป็น ซีดีรอม เพื่อความสมบูรณ์ของภาพ และเสียงด้วยนะคะ (แถมลงมัลติ-แพล็ตฟอร์มอีกต่างหาก) ซึ่งตรงนี้อาบีจังเองมีบุญได้เล่นแค่เวอร์ชั่นฟล็อปปี้ดิสก์ค่ะ ด้วยเพราะชุดบ็อกเซ็ทซีดีนำเข้าสุดหรูในยุคนั้น ราคาเกิน (เด็ก) เอื้อมตั้งเฉียดพันแน่ะ แถมเวอร์ชั่นดิสก์ที่ได้มา ยังติดโปรเท็คมาอีกต่างหาก ต้องไปถามหาจากร้านเกมให้วุ่นวายเสียตั้งหลายรอบ กว่าจะเล่นจบกับเค้าได้ T_T

+พูดถึงเกมแนวแอดเวนเจอร์กับภาพลักษณ์ของเวสต์วู้ดแล้ว หลายๆ คนอาจจะไม่เชื่อนะคะ ว่าเจ้าพ่อเกมวางแผนสุดเก๋าระดับนั้น ไหงมาทำเกมผจญภัย ริแชร์ตลาดกับพี่เบิ้มขาใหญ่ของวงการในยุคนั้นอย่างลูคัส อาร์ต กับเซียร์ร่าได้ . . แต่เชื่อเถอะค่ะ เพราะนอกจากเวสต์วู้ดจะทำได้แล้ว ยังทำได้ดีมากๆ อีกต่างหาก ชนิดที่ว่าหากให้ลองไล่ชื่อเกมแอดเวนเจอร์ยอดเยี่ยมตลอดกาลดูแล้วละก็ ชื่อของ Kyrandia ก็ต้องเป็นหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน!!

-Prolouge-

+กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ อาณาจักรอันเกรียงไกรที่มีนามว่า “ไคแรนเดีย” กษัตริย์วิลเลี่ยม และราชินีแคทเธอรีนได้ถูกลอบปลงพระชนม์โดย “มัลคอล์ม” ตลกหลวงผู้ชั่วร้าย และทรงอำนาจเวทย์มนต์ที่สุด . .

+ในเวลานั้นเอง “เจ้าชายแบรนดอน” พระโอรสของมหากษัตริย์แห่งไคแรนเดีย ได้ถูกลี้ภัยพาไปซ่อนตัวอยู่ในป่า ภายใต้การดูแลของ “คัลแลก” ที่ปรึกษาอาวุโสในราชสำนัก . . ซึ่งชายชราก็ให้ความรัก และเฝ้าอบรมพร่ำสอนเจ้าชายน้อยราวกับเป็นหลานชายของตนเลยทีเดียว

+หลังจากมัลคอล์มยึดอำนาจได้แล้ว ก็เหิมเกริมคิดการใหญ่ด้วยการออกตระเวนไล่ทำลายล้างทั่วทั้งอาณาจักรไคแรนเดีย อย่างไม่มีหยุดหย่อนทันที . . จนกระทั่งในที่สุด วันที่จอมมารร้ายย่างเท้าเข้ามาถึงป่าที่คัลแลก และแบรนดอนหลบซ่อนตัวอยู่ก็มาถึงจนได้ . .

+คัลแลกนั้นสัมผัสได้ถึงประสงค์ร้ายของมัลคอล์ม จึงรีบร่างจดหมายขอความช่วยเหลือถึง “เทพธิดาไบรน์น” สหายเก่าของเขา ซึ่งเป็นผู้พิทักษ์ป่าแห่งไคแรนเดียทันที

+ทว่า. . สายเกินไป เพราะมัลคอล์มเข้าถึงตัวคัลแลกได้ก่อน พร้อมกับทำการสะสางหนี้แค้นครั้งก่อนเก่าที่เขาเคยถูกชายชราจับตรวนไว้ในคุกหลวง ด้วยการสาปให้คัลแลกกลายเป็นหิน ก่อนจะจากไปด้วยความสำราญใจทันที. . ขณะที่แบรนดอนผู้ไร้เดียงสาก็กลับมาพบกับเรื่องไม่คาดฝันเข้าทันใดเช่นกัน . . ตำนานการผจญภัยบทใหม่ของเจ้าชายไร้บัลลังก์ได้เปิดม่านขึ้นแล้ว!!

+รู้จักกับระบบเกมสักนิด+

+การ ควบคุมเกมไคแรนเดียนี้ ก็ไม่ได้ต่างไปจากเกมแอดเวนเจอร์-ผจญภัยแนวๆ เดียวกันสักเท่าไหร่ค่ะ . . แต่ทางเวสต์วู้ดได้ปรับแต่งให้เกมเล่นง่ายกว่าบรรดาเกมอื่นๆ ในท้องตลาดทั่วไปขึ้นไปอีก ด้วยการลดอินเตอร์เฟสแสนยุ่งยาก กับชุดคำสั่งออกแอ็คชั่นยาวๆ บนหน้าจอไปจนหมดสิ้นค่ะ . .

+ฉะนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่า คุณๆ สามารถสั่งการให้ตัวเอกในเกมทำอะไรก็ได้ตามใจปรารถนา เพียงแค่คลิกเม้าส์ซ้ายปุ่มเดียวเท่านั้นเองค่ะ . . นับว่าเป็นจุดเด่นหลักๆ ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือนของเกมตระกูลนี้เลยก็ว่าได้

+การเก็บไอเท็ม และใช้ของ+

+หลักพื้นฐานสำหรับการเล่นเกมแอดเวนเจอร์ก็คือต้องงกไว้ก่อนค่ะ พูดง่ายๆ ก็คือตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเจออะไรตก หรือวางกองอยู่ที่พื้น ให้จัดการเก็บมาให้หมดเลยนะ เพราะเป็นไอเท็มที่จำเป็นต่อการดำเนินเรื่องแทบทั้งนั้น (แต่ของไร้ประโยชน์ก็มีไม่ใช่น้อยนะ)

+แต่ข้อจำกัดของเกมไคแรนเดียภาคนี้ก็คือ แบรนดอนจะสามารถพกพาไอเท็มติดตัวไปได้เพียง 10 ชิ้นเท่านั้นนะคะ โดยหากไอเท็มชิ้นไหนไม่ใช้แล้ว หรือยังไม่จำเป็นในตอนนี้ เราสามารถวางทิ้งไว้ที่พื้นตามทางผ่านทั่วไปได้ค่ะ แต่วางได้จำกัดจำนวนต่อ 1 ฉากเท่านั้นนะ และหากต้องการใช้ ก็สามารถเดินกลับมาเก็บคืนได้ทุกเมื่อ จนกว่าจะตัดบทบังคับตามเนื้อเรื่องค่ะ . . ซึ่งตรงนี้ อาจจะถือเป็นระบบต้นแบบที่ทาง Capcom หยิบยืมไปต่อยอดอีกที กับเกมดังอย่าง Resident Evil Zero ในเวลาต่อมา ก็ได้จ้า

+เซฟบ่อยๆ เข้าไว้ ช่วยผ่อนร้ายให้คลายเป็นดี+

+เกมนี้ เราสามารถเซฟได้ทุกที่ ทุกเวลา และอย่างไม่มีจำกัดเสียด้วยค่ะ ตรงนี้อาบีจังขอแนะนำว่า หมั่นเซฟให้บ่อยๆ เข้าไว้ เป็นการดีนะคะ และจะวิเศษมาก หากคุณแยกเซฟ และเซฟสลับไปกันค่ะ . . ด้วยเพราะเกมมีจุดอันตรายหลายจุดที่ผู้เล่นคาดไม่ถึง และมันสามารถสร้างความหายนะให้กับแบรนดอนได้อย่างไม่ต้องสงสัย ชนิดเผลอพลาดไปที เกมโอเวอร์เปล่าๆ ปลี้ๆ ไม่มีคอนตินิวแต่อย่างใดนะคะ

+ซึ่งหากเจอเหตุแบบนี้เข้า สิ่งที่พอจะช่วยยาใจได้ก็คือ เรียกเซฟล่าสุดขึ้นมาแก้ตัวใหม่ค่ะ . . แต่ก็เท่านั้น เพราะหากผู้เล่นไม่เคยเซฟเลย หรือเซฟไว้ก็ตั้งไกลมะโว้ ตรงนี้ก็คงต้องขอให้ยอมทำใจ เพราะคุณๆ ต้องไล่เล่นใหม่สถานเดียวค่ะ (ฮา)

-บทที่ 1 ค้นหาเครื่องรางเวทย์มนตร์-

+เกมจะเริ่มต้นที่บ้านของแบรนดอนค่ะ ก่อนอื่นให้เก็บ “จดหมาย” (Note) และ “โกเมน” (Garnet) มาจากบนโต๊ะ , “เลื่อยตัดไม้” (Saw) จากใต้โต๊ะ และ “แอปเปิ้ล” จากหม้อสีม่วงทางซ้ายมือมาค่ะ

Posted Image


+เดินออกข้างนอก (ขอบล่างของจอ) แล้วจิตวิญญาณของป่าจะปรากฏตัวขึ้นมา ขอร้องให้แบรนดอนช่วยคืนความสมดุลให้กับธรรมชาติด้วย ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป พร้อมยังเท้าความถึงกำเนิดของเขา และอัญมณีศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง ที่มีชื่อว่า “Kyragem” ให้ฟังด้วย

Posted Image


+ลงมาจากบ้านต้นไม้แล้ว เดินไปทางขวา 2 ฉาก จะพบกับ “บ่อน้ำวิปโยค” (Pool of Sorrow) ค่ะ เอามือไปริน “หยดน้ำ” (Teardrop) ที่ตกลงมา แล้วนำไปเยียวยาต้นไม้ที่กำลังเหี่ยวเฉา ซึ่งอยู่ทางซ้ายมือของบ้านต้นไม้ค่ะ

Posted Image


+หลังจากเอาหยดน้ำวิเศษใส่ลงไปในรอยแตกกลางต้นไม้แล้ว ทั่วทั้งป่าก็จะกลับมาชุ่มชื้นเขียวขจีดังเดิมอีกครั้ง . . แต่แล้ว “เมอริธ” สหายของแบรนดอนจะเดินเข้ามาท้าให้เล่นวิ่งไล่จับกันค่ะ ซึ่งหากหาตัวเขาเจอ สหายจอมซนจะยอมมอบ “ลูกหิน” (Marble) แห่งป่า Altar ให้เป็นรางวัลด้วยนะ . . ให้เดินตามเขาไปเลยค่ะ

Posted Image


+ตามเมอริธไปทางขวา 4 ฉาก แล้วจะเจอใบไม้ตกลงมา กลายสภาพเป็น “ลูกไม้ Peridot” ตรงนี้จะเก็บ หรือไม่เก็บก็ได้นะ แล้วเดินขึ้นเหนือไปเลยค่ะ ซึ่งก็จะเจอเมอริธซ่อนตัวอยู่พอดี แล้วแบรนดอนจะแกล้งย่องไปเปิ๊บเขาข้างหลัง จนหมอตกใจกระโดดตัวลอยขึ้นไปค้างอยู่บนต้นไม้เลย (^ ^) ตรงนี้ให้เก็บ “ลูกหิน” (Marble) และ “พลอยหินม่วง”(Amethyst) ที่ตกอยู่มาด้วยค่ะ

Posted Image


+เดินไปทางขวา 1 ฉาก จะพบบัลลังก์เงิน (A Forest Altar) แตกหักอยู่ จัดการเอาลูกหินที่ได้จากเมอริธมาซ่อมแซมมันเสีย แล้วมันจะฟื้นสภาพกลับมาสวยงามดังเดิมค่ะ จากนั้นเก็บ “กุหลาบม่วง” (Rose) จากพุ่มข้างๆ มา 1 ดอก

Posted Image


+เดินไปหาเฮอร์แมนที่สะพานใต้อุโมงค์ (ซ้าย , ล่าง , ล่าง , ล่าง และซ้าย) จะพบว่าสะพานขาดค่ะ ซึ่งเฮอร์แมนก็พยายามจะซ่อมมัน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะไม่มีเลื่อย . . ตรงนี้ เอาเลื่อยให้เขาไปค่ะ แล้วเฮอร์แมนจะออกไปตัดไม้มาต่อสะพานทันที

Posted Image


+มุ่งหน้าไปหาเทพธิดาไบรน์นที่วิหารแห่งไคแรนเดีย แล้วนำจดหมายของคัลแลกยื่นให้เธอ ซึ่งไบรน์นจะแปลรหัสข้อความในสาส์น ให้เป็นภาษาที่แบรนดอนสามารถอ่านเข้าใจได้

Posted Image


+ซึ่งเนื้อความในจดหมายจะเตือนให้ไบรน์นคอยระวังแผนการร้ายของมัลคอล์มให้ดี และยังขอให้เธอช่วยนำทางแบรนดอน ในการใช้กุหลาบม่วงเป็นกุญแจสำคัญ เพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องรางเวทย์มนตร์อีกด้วย ทั้งยังลงท้ายด้วยการแนะนำจอมเวทย์อีก 2 คนที่สามารถช่วยเติมเต็มในการนี้ได้ นั่นก็คือ “พ่อมดดาร์ม” และ “แม่มดแซนเธีย” ผู้ยิ่งใหญ่นั่นเอง!!

Posted Image


+เอากุหลาบม่วงยื่นให้ไบรน์นไป แล้วเธอจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็น “กุหลาบเงิน” (Silver Rose) แทนค่ะ พร้อมกับบอกที่อยู่ของพ่อมด “ดาร์ม” แห่งป่าทิมเบอร์มิสต์ให้เราฟัง ก่อนจะจากมาด้วย

+เอากุหลาบเงินกลับไปวางที่บัลลังก์เงิน แล้วเราจะได้เครื่องรางเวทย์มนตร์มาค่ะ (ปรากฏในช่องเมนู มุมขวาล่าง) ทว่า. . มันยังไร้ซึ่งพลังในตอนนี้

+กลับไปหาเฮอร์แมนอีกครั้ง จะพบว่าเขาซ่อมสะพานเสร็จแล้วค่ะ เราก็ใช้มันข้ามผ่านไปยังป่าทิมเบอร์มิสต์ที่อยู่ ณ อีกฝั่งได้เลย

-บทที่ 2 ศิลาศักดิ์สิทธิ์-


Posted Image


+เข้าไปยังที่พำนักของดาร์ม จะพบว่าเขาคือจอมเวทย์ชราผู้ขี้หลงขี้ลืม และอาศัยอยู่กับ “แบรนดี้วีน” มังกรสาวคู่ใจตัวใหญ่ยักษ์ค่ะ ซึ่งดาร์มจะออกปากให้เราช่วยไปตามหาปากกาขนนกมาคืนให้เขาหน่อย เพราะเขาต้องใช้มันเขียนตำราเวทย์ค่ะ

+ลงมาจากกระท่อมของดาร์ม 1 ฉาก จะเจออนุสาวรีย์วีรชนค่ะ ให้ไปทางซ้าย 2 ฉาก จะเจอป่าต้นโอ๊ก ให้เด็ด “ลูกโอ๊ก” (Acorn) มาเก็บไว้ แล้วกลับไปยังอนุสาวรีย์วีรชนอีกครั้ง

+ลงมาข้างล่าง 1 ฉากจะเจอต้นไม้เก่าแก่แห่งไคแรนเดียค่ะ . . ให้เดินไปทางซ้าย 1 ฉาก จะเจอ “เมล็ดต้นสน (Pinecone) ตกอยู่ค่ะ จัดการเก็บมาซะ

+กลับไปเริ่มต้นที่ฉากอนุสาวรีย์วีรชนอีกครั้ง แล้วเดินไปทางขวา จะเจอนกน้อยนอนบาดเจ็บอยู่ ซึ่งที่ใต้ต้นไม้ จะมี “ผลวอลนัท” ตกอยู่ด้วย อย่าลืมหยิบมาซะล่ะ

Posted Image


+กลับไปตั้งต้นที่ฉากอนุสาวรีย์วีรชนเหมือนเช่นเคย (ซ้าย) แล้วมุ่งหน้าไปยังป่า “Deadwood Glade” ทันทีค่ะ (ล่าง , ขวา , ล่าง , ล่าง) มาถึงแล้ว ให้นำเมล็ดพันธุ์ทั้งสามไปปลูกในหลุมดินหน้าซากตอไม้ แล้วมันจะเติบโตขึ้นเป็นไม้ดอกพันธุ์งาม พร้อมกับกล่าวขอบคุณแบรนดอน ที่ช่วยคืนชีวิตให้กับป่าแห่งนี้ ก่อนจะมอบพลังเวทย์สีเหลือง ซึ่งมีพลังในการเยียวยารักษามาเป็นสิ่งตอบแทนค่ะ

Note - พลังของเวทย์มนตร์สีเหลือง นอกจากจะมีอำนาจในการรักษาอาการบาดเจ็บ และช่วยขับพิษทุกประการแล้ว ยังสามารถใช้กล่อมประสาทให้หมดสติชั่วขณะได้ด้วย

Posted Image


+ให้นำพลังนี้กลับไปรักษาอาการบาดเจ็บของนกน้อย (บน , บน , บน) ซึ่งเมื่อหายดีแล้ว มันจะสลัด “ขน” ให้เรามาแทนคำขอบคุณค่ะ

+นำขนนกกลับไปมอบให้ดาร์ม (ซ้าย , บน) แล้วเขาจะใช้ปากกาขนนกด้ามใหม่เขียน “ตำราเวทย์แห่งเหมันต์” ให้เราค่ะ ซึ่งพลังของมัน นอกจากจะใช้เรียกไอเย็นของหิมะได้แล้ว ยังทำให้อุณภูมิรอบข้างลดต่ำลงจนถึงระดับจุดเยือกแข็งได้ด้วย (กดใช้ที่ตัวแบรนดอน)

+คุยกับดาร์มอีกครั้ง แล้วเขาจะเล่ารายละเอียดของ “ศิลาแห่งการกำเนิด” (Birthstone) ให้เราฟังค่ะ แต่ที่แย่ก็คือ เขาจำไม่ค่อยได้แล้ว ว่ามันถูกซุกซ่อนไว้ที่ไหนในป่าแห่งนี้น่ะสิ!?

Posted Image


+อย่างที่เราๆ รู้กันดี ว่า”น้ำคือจุดกำเนิดของชีวิต!!” เพราะฉะนั้นแล้ว ที่ซ่อนของศิลาแห่งการกำเนิด ก็ย่อมจะต้องเป็นสถานที่ที่มีน้ำอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย . . รู้ดังนี้แล้ว ให้มุ่งหน้าไปยังธารน้ำ “Bubbling Spring” ก่อนทันที (หน้ากระท่อม , ล่าง , ล่าง , ขวา , ขวา)

+มาถึงแล้ว ให้ลองสำรวจที่กลางลำธารดู แล้วจะเจอ “ศิลาแห่งตะวัน” (Sunstone) ซ่อนอยู่ข้างใต้ค่ะ และก่อนไป อย่าลืมเด็ด “ดอกทิวลิปสีเหลือง” (Tulip) ที่ขึ้นอยู่ทางขวามาด้วยนะ

+ต่อจากไปนี้ เราจะต้องไปตามหาอัญมณีที่ตกอยู่ในป่า มาทั้งหมดดังนี้ค่ะ Opal , Onyx , Diamond , Ruby , Topaz , Garnet , Peridot , Aquamarine , Sapphire , Garnet , Pearl และ Amethyst (อาจจะไม่ต้องครบทั้งหมดก็ได้ แต่มีมากๆ ไว้ก่อนเป็นการดีค่ะ)

Note - หากสำรวจรอบๆ ป่าทิมเบอร์มิสต์แล้วไม่เจออัญมณีบางเม็ด ให้ลองกลับไปยังป่าแห่งแรก (บ้านของแบรนดอน) ดูสิ คราวนี้จะมีอัญมณีตกอยู่เต็มเลยนะ

Posted Image


+สำหรับนั้น Ruby นั้น สามารถไปเก็บได้ที่ต้นทับทิมค่ะ (อนุสาวรีย์วีรชน , ซ้าย , ซ้าย , บน) โดยจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 เม็ด แต่เราเอาแค่เม็ดเดียวก็พอ . . ซึ่งขณะเอื้อมมือไปหยิบมานั้น เราจะถูกงูเฝ้าทรัพย์เล่นงานค่ะ แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะหลังจากฉกฉวยของดีมาได้แล้ว แค่กดใช้เวทย์มนตร์สีเหลืองทันใด อาการติดพิษปางตายก็จะหายเป็นปลิดทิ้งทันที

Posted Image


+หลังจากได้อัญมณีมากพอแล้ว ให้กลับไปยังแท่นศิลาศักดิ์สิทธิ์ “Marble Altar” ค่ะ (ต้นทับทิม , ล่าง , ขวา) ตรงนี้ให้เซฟกันเหนียวสักนิดนะคะ แล้วนำศิลาแห่งตะวันไปวางยังพานทองกลางแท่น จากนั้นให้ลองนำอัญมณีสีต่างๆ ใส่ตามลำดับให้ครบค่ะ ซึ่งหากเรียงได้ถูกต้อง เราจะได้ “ขลุ่ยวิเศษ” (Magic Flute) มาค่ะ แต่หากใส่ผิด อัญมณีเม็ดนั้นจะสูญสลายไปแทน

Note - หากเรียงอัญมณีผิด ก็โหลดเซฟแก้ตัวใหม่นะคะ ซึ่งตรงนี้เฉลยให้ไม่ได้ เพราะระบบเกมแรนด้อมค่ะ

Posted Image


+หลังจากได้ขลุ่ยวิเศษมาแล้ว ให้มุ่งหน้าไปยังถ้ำมังกรทันที (แท่นศิลาศักดิ์สิทธิ์ , ขวา , ขวา , ล่าง , ขวา , ล่าง , ล่าง , ขวา) แต่ขณะกำลังเดินเข้าถ้ำอยู่นั้นเอง จู่ๆ มัลคอล์มจะปรากฏตัวขึ้นมาขวางไว้ค่ะ แต่แบรนดอนก็ไม่กลัว ซ้ำยังท้าทายจอมมารกลับไปอย่างไม่หวั่นเกรงซะด้วย ส่งผลให้มัลคอล์มสติแตกที่ถูกลองดี หมอจึงปากริชสั้นโจมตีใส่แบรนดอนทันใด ทว่า. . โชคดีที่พระเอกของเราโยกตัวหลบได้ทันหวุดหวิดพอดีเช่นกัน

Posted Image


+หยิบกริชที่ปักคาอยู่บนต้นไม้ ปากลับไปยังมัลคอล์ม แต่ก็ทำอะไรหมอไม่ได้ เพราะตะแกปัดทิ้งได้ทันซะก่อน . . หลังจากสงบอารมณ์ได้ มัลคอล์มจะท้าทายให้แบรนดอนตามเข้ามาในถ้ำมังกร ก่อนจะร่ายเวทย์น้ำแข็งปิดปากถ้ำไว้ค่ะ

+หยิบขลุ่ยเวทย์มนตร์ขึ้นมาบรรเลง (กดใช้กับตัวเอง) แล้วกำแพงน้ำแข็งที่ปากถ้ำ จะถูกทำลายด้วยพลังคลื่นเสียงอย่างง่ายดาย

-บทที่ 3 ค้นหาทางออก ในวงกตแห่งความตาย-

+ก่อนจะเข้าไปข้างใน ให้นำอัญมณีทุกเม็ด และไอเท็มทุกอย่างวางกองไว้ที่ปากถ้ำก่อนนะคะ แล้วเดินตัวเปล่าเข้าไปท้าทายความมืดมิดด้วยกันเลย

Posted Image


+เดินไปทางขวา 2 ฉาก จะมาโผล่ยังห้องที่มีตุ้มเหล็ก กับพานติดโซ่แขวนอยู่ค่ะ แต่เมื่อแบรนดอนเดินเข้ามา ประตูกลด้านหลังจะถูกปิดตายลงทันที!! ดูท่าจะต้องหาอะไรมาถ่วงใส่พานเหล็กแล้วกระมัง บานเลื่อนขนาดยักษ์นี้อาจจะเปิดขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นได้!!

Posted Image


+ในถ้ำวงกตแห่งความมืดมิดนิรันดร์กาลนี้ สิ่งที่จะใช้เป็นแสงสว่างนำทางได้มีเพียง “ผล Fireberry” เท่านั้นค่ะ ซึ่งสามารถเก็บได้ 3 ลูกต่อ 1 ครั้งเท่านั้น (น้อยกว่านั้นได้) ซึ่งเราจะต้องใช้ผล Fireberry 1 ลูก วางตามพื้น ในการให้แสงสว่างในแต่ละฉากที่ผ่านไปค่ะ และหากไร้ซึ่งผล Fireberry แล้วละก็ เราจะถูกฝูงอสูรกระหายเลือดที่กบดานอยู่ในถ้ำ รุมกัดกิดจนถึงแต่ความตายค่ะ!!

Note - วาง Fireberry 1 ลูกในฉากนี้ จะมีผลสว่างวาบต่อฉากข้างหน้า 1 ฉาก แต่หากวางแล้ว เดินย้อนกลับมา จะถูกฝูงศัตรูไร้ตัวตนรุมสังหารทันที!! แม้จะเคยวาง Fireberry ในฉากก่อนหน้ามาแล้วก็ตาม . . สรุปง่ายๆ ก็คือ ห้ามเดินย้อนกลับค่ะ ฉะนั้นอ่านคำแนะนำดีๆ อย่าให้พลาดนะ

+เส้นทางเดินในถ้ำ และวางผล Fireberry ให้ทำตามนี้เลยนะคะ+

1.ห้องกับดักประตูกล , ไปทางขวา (เจอต้น Fireberry) ให้เก็บมา 3 ลูก
2.ขึ้นไปข้างบน และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
3.ไปทางขวา และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
4.ลงไปข้างล่าง และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก

5.ลงไปข้างล่าง (เจอต้น Fireberry) ให้เก็บมา 3 ลูก
6.ไปทางขวา และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
7.ขึ้นไปข้างบน , วาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก แล้วเก็บหินมา
8.ขึ้นไปข้างบน และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก

9.ไปทางขวา (เจอต้น Fireberry) ให้เก็บมา 3 ลูก
10.ไปทางขวา และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
11.ขึ้นไปข้างบน และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
12.ไปทางขวา จะเจอ “วิหารแห่งจันทรา” (The Pantheon of Moonlight) ซึ่งตรงนี้ จะเจอดวงจิตของเทพยดา (Will-O-Wisps) อารักษ์อยู่ด้วยค่ะ คุยกับพวกเขาแล้ว จะทราบว่าเจ้าที่ทั้ง 2 อยากจะหนีไปจากที่นี่เหลือเกิน ด้วยเพราะอยู่เฝ้ามานานจนเกินพอแล้ว (^ ^) ซึ่งหากเราช่วยเขาได้ เขาจะสอนมนตร์ลอยตัวให้เป็นการตอบแทนค่ะ

13.วิหารแห่งจันทรา , ไปทางขวา (เจอต้น Fireberry) ให้เก็บมา 3 ลูก
14.ลงไปข้างล่าง , วาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก แล้วเก็บหินมา
15.ลงไปข้างล่าง และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
16.ไปทางซ้าย และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก

17.ลงไปข้างล่าง (เจอต้น Fireberry) ให้เก็บมา 2 ลูก
18.ลงไปข้างล่าง และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
19.ลงไปข้างล่าง และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
20.ไปทางขวา จะเจอ “อ่าวถ้ำจันทรา” (Moonlight Bay Cave) ให้เก็บหิน และ “เหรียญทองคำ” (Gold Coin) ที่ตกอยู่ตรงหน้ามา

21.อ่าวถ้ำจันทรา , ไปทางขวา (เจอต้น Fireberry) ให้เก็บมา 3 ลูก
22.ไปทางขวา และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
23.ขึ้นไปข้างบน และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
24.ไปทางซ้าย และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก

25.ขึ้นไปข้างบน (เจอต้น Fireberry) ให้เก็บมา 3 ลูก
26.ขึ้นไปข้างบน , วาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก แล้วเก็บหินมา
27.ไปทางขวา และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
28.ไปทางขวา และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก

29.ลงไปข้างล่าง (เจอต้น Fireberry) ให้เก็บมา 2 ลูก
30.ไปทางขวา และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
31.ขึ้นไปข้างบน จะเจอ “ถ้ำแห่งมรกต” (Emerald Cavern) ค่ะ
32.ขึ้นไปข้างบน และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก

33.ไปทางขวา (เจอต้น Fireberry) ให้เก็บมา 2 ลูก
34.ไปทางขวา และวาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก
35.ขึ้นไปข้างบน วาง Fireberry ที่พื้น 1 ลูก แล้วเก็บหินก้อนสุดท้ายมา

Posted Image


+หลังจากรวบรวมหินจนครบทั้ง 5 ก้อน รวมทั้งได้ “เหรียญทองคำ” แห่งวงกตนิรันดร์กาลมาครอบครองแล้ว ให้มุ่งหน้ากลับไปยังประตูทางเข้าถ้ำได้เลยค่ะ ซึ่งสามารถเดินได้ตามไกด์แนะนำข้างล่างนี้

Note - ตอนนี้เราวาง Fireberry ไว้ครอบคลุมเกือบทุกส่วนของถ้ำแล้วค่ะ จึงไม่ต้องกลัวอันตรายซ่อนเร้นแต่อย่างใด)

Posted Image


+ลงไปข้างล่าง , ซ้าย , ซ้าย , ล่าง (กลับมายังถ้ำมรกต) , ซ้าย , ซ้าย , ซ้าย , ล่าง , ล่าง , ขวา , ล่าง , ซ้าย , ซ้าย (กลับมายังอ่าวถ้ำจันทรา) , ซ้าย , บน , บน , บน , ขวา , บน , บน , ซ้าย (กลับมายังวิหารแห่งจันทรา) , ซ้าย , ล่าง , ซ้าย , ซ้าย , ล่าง , ซ้าย , บน , ซ้าย , ล่าง และซ้าย ก็จะกลับมายังห้องประตูกลได้ค่ะ

+นำหินทั้ง 5 ก้อนไปโยนใส่พานเหล็กที่แขวนอยู่กลางห้อง แล้วประตูบานยักษ์จะเปิดออกอีกครั้ง คราวนี้เราก็กลับออกมาข้างนอกได้เลยค่ะ (ซ้าย , ซ้าย , ซ้าย)

Posted Image


+มาถึงแล้วให้เก็บไอเท็มคืนมาให้หมด แล้วมุ่งหน้าไปยังบ่อน้ำโบราณ “Ancient Well” กันต่อค่ะ (หน้าถ้ำ , ซ้าย , บน , ซ้าย , บน)

+นำเหรียญทองคำโยนลงบ่อไป แล้วมันจะทำปฏิกิริยากับน้ำบาดาลในก้นบ่อ จนกลายสภาพเป็น “ศิลาแห่งจันทรา” (Moonstone) ในที่สุดค่ะ

+ก่อนจะออกท่องโลกอีกครั้ง ตรงนี้คุณๆ จะต้องมีไอเท็มดังต่อไปนี้ติดตัวแล้วนะคะ อันได้แก่ “Sapphire , Topaz , Garnet หรือ Ruby อย่างใดอย่างหนึ่ง , ดอกทิวลิป , แอปเปิ้ล , ขลุ่ยวิเศษ และตำราเวทย์แห่งเหมันต์” ซึ่งหากขาดอัญมณีเม็ดใดไป ให้ไปเดินสำรวจป่าสะสมเอานะ เพราะเป็นไอเท็มที่สำคัญต่อการดำเนินเรื่องค่ะ

+หลังจากเตรียมไอเท็มทุกอย่างพร้อมแล้ว ให้มุ่งหน้าไปยังวิหารแห่งจันทราที่อยู่ในถ้ำมังกรได้เลยค่ะ (ห้องประตูกล , ขวา , บน , ขวา , ล่าง , ขวา , บน , ขวา , ขวา , บน , ขวา)

Posted Image


+มาถึงแล้ว ให้นำศิลาแห่งจันทราไปวางใส่ร่องสีดำ บนแท่นสลักกลางห้องได้เลยค่ะ แค่นี้จิตของเทพยดาทั้ง 2 ก็จะเป็นอิสระ แล้วเขาจะให้หยิบยืมพลัง ทั้งยังร่วมเดินทางไปกับเราด้วยตามสัญญา ซึ่งพลังเวทย์มนตร์สีม่วงของทั้งสองเทพยดา ก็คือการเปลี่ยนร่างแบรนดอน ให้กลายเป็นดวงจิตไร้รูปลักษณ์แบบที่พวกเขาเป็นนั่นเอง!!

Note - พลังเวทย์สีม่วง จะช่วยให้แบรนดอนสามารถเปลี่ยนร่างเป็นดวงจิต ที่สามารถใช้ลอยตัวข้ามหุบเหว หรือทางขาดอื่นๆ ในถ้ำได้ แถมยังเรืองแสงในตัวได้อีกต่างหาก ฉะนั้น เหล่าฝูงปีศาจในถ้ำทั้งหลาย จึงไม่สามารถทำอันตรายอะไรแก่เราได้เลย

Posted Image


+ให้มุ่งหน้าไปยังอ่าวถ้ำจันทราเป็นลำดับต่อไป (วิหารแห่งจันทรา , ขวา , ล่าง , ล่าง , ซ้าย , ล่าง , ล่าง , ล่าง , ขวา) มาถึงที่นี่แล้ว ให้แบรนดอนแปลงร่างเป็นดวงจิต แล้วเดินไปตามเส้นทางดังต่อไปนี้ “อ่าวถ้ำจันทรา , ขวา , ขวา , ขวา , บน , ขวา , ล่าง , ขวา แล้วเราจะมาหยุด ณ ธารภูเขาไฟใต้พิภพค่ะ

Posted Image


+หยิบตำราเวทย์แห่งเหมันต์ขึ้นมาร่าย แล้วทุกๆ อย่างรอบตัวจะหยุดนิ่งกลายเป็นน้ำแข็งจนหมด ไม่เว้นแม้แต่ธารลาวาอันร้อนแรงด้วยทำให้เราสามารถข้ามผ่านไปได้อย่างง่ายดาย

+เดินขึ้นไปข้างบน 1 ฉาก ก็จะเจอ “กุญแจเหล็ก” (Iron Key) วางอยู่ค่ะ จัดการเก็บมาซะ . .

Posted Image


+จากนั้นให้แปลงร่างเป็นดวงจิตอีกครั้ง แล้วกลับไปยังทางเข้าถ้ำได้เลย โดยเดินตามไกด์แนะนำ ดังนี้ “ธารภูเขาไฟ , ซ้าย , บน , ซ้าย , ล่าง , ซ้าย ซ้าย , ซ้าย (อ่าวถ้ำจันทรา) , ซ้าย , บน , บน , บน , ขวา , บน , บน , ซ้าย (วิหารแห่งจันทรา) , ซ้าย , ล่าง , ซ้าย , ซ้าย , ล่าง , ซ้าย , บน , ซ้าย , ล่าง , ซ้าย” ก็จะกลับมายังห้องประตูกลได้ค่ะ

Posted Image


+จากนั้นให้เดินตามเส้นทางดังนี้ “ห้องประตูกล , ขวา , บน , บน” จะมาโผล่ยังเหวลึก ณ ใจกลางถ้ำได้ค่ะ . . ให้แปลงร่างเป็นดวงจิตลอยข้ามไปได้เลย ซึ่งตรงนี้หากพลังเวทย์หมดจนกลับสู่ร่างเนื้อซะก่อน ให้รอสักพักนะคะ จึงจะใช้ได้ใหม่อีกครั้ง . .

+ให้ลอยไปตามทาง (บน , ขวา) เรื่อยๆ ในที่สุดก็จะออกมายังอีกฝั่งหนึ่งของถ้ำได้ค่ะ ซึ่งตรงนี้ หากไม่ได้เก็บแอปเปิ้ลติดตัวมา จะมีสำรองตรงปากถ้ำให้อีกลูกด้วยนะ

- -> โปรดติดตามตอนต่อไป


Edited by rbgel, 29 July 2010 - 08:20 PM.


#2 rbgel

    <Թ ȡ>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 29 July 2010 - 05:36 PM

-บทที่ 4 วิถีสู่ปราสาทไคแรนเดีย-

+เดินไปทางขวา 2 ฉาก แล้วแบรนดอนจะถูกกิ่งไม้ใหญ่หล่นใส่หัวจนหมดสติไปค่ะ (^ ^) ซึ่งพอรู้สึกตัวขึ้นมาอีกที จะพบว่ามาอยู่ในกระท่อมของ “จอมเวทย์สาวแซนเธีย” เรียบร้อยแล้ว

Posted Image


+แซนเธียจะเปิดเผยสถานภาพที่แท้จริงของแบรนดอนให้ฟัง ทำให้ชายหนุ่มตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อรับรู้ว่าตนเป็นถึงทายาทเชื้อพระวงศ์ผู้ปกครองอาณาจักรเลยทีเดียว . . พร้อมกันนี้แซนเธียจะไหว้วานให้แบรนดอนช่วยไปตักน้ำศักดิ์สิทธิ์มาให้เธอหน่อยค่ะ เพราะต้องใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในพิธีปรุงยานั่นเอง!! ทั้งยังให้ “ขวดเปล่า” เรามา 1 ใบ ด้วย

Posted Image


+เอาอัญมณี และไอเท็มทุกอย่างวางฝากไว้ที่พื้นกระท่อมก่อนค่ะ ยกเว้นตำราตำราเวทย์แห่งเหมันต์ที่ต้องนำติดตัวไปด้วย . . แล้วเดินไปทางซ้าย , ซ้าย และซ้าย ก็จะเจอกับบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ . . ซึ่งเมื่อแรกมาถึง ก็จะพบมัลคอล์มนั่งรออยู่แล้ว!!

+มัลคอล์มจะชิงผลึกแก้ววิเศษไป พร้อมกับใช้พลังของด้านมืดเปลี่ยนสภาพให้ทุกอย่างกลายเป็นความแห้งแล้งกันดารทั้งหมดเลย ก่อนจะหนีไปอย่างสำราญใจ

Posted Image


+จากลานน้ำพุที่เหือดแห้ง ให้เดินไปทาง ซ้าย , ซ้าย , ล่าง , ล่าง , ซ้าย , บน , บน ก็จะเจอพุ่มไม้ที่ถูกเปลวเพลิงเผาไหม้อยู่ค่ะ ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว นี่ก็คือ “ผลึกแก้ว” ที่มัลคอล์มนำมาซ่อนไว้ ก่อนจะร่ายเวทย์เพลิงกำกับ เพื่อป้องกันผู้บุกรุกนั่นเอง!!

+ให้ร่ายตำราเวทย์แห่งเหมันต์กับกองเพลิง แล้วเราจะสามารถเอื้อมมือไปหยิบ “ผลึกแก้ว” (Crystal Ball) ที่เย็นตัวลงได้อย่างง่ายดาย จากนั้นให้เอาไปใส่คืนยังบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ได้เลยค่ะ (ล่าง , ล่าง , ขวา , บน , บน , ขวา , ขวา)

Note - ตรงนี้สามารถทิ้งตำราเวทย์แห่งเหมันต์ไปได้เลยนะคะ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไปแล้ว

Posted Image


+หลังจากวางผลึกแก้วกลับเข้าที่แล้ว น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ก็จะคืนสู่สภาพสมบูรณ์ดังเดิมอีกครั้ง ให้นำขวดเปล่าตักน้ำในบ่อมาดื่ม แล้วเราจะได้พลังเวทย์มนตร์สีน้ำเงินมาค่ะ จากนั้นให้ตักอีกขวด เพื่อนำไปมอบให้แซนเธียตามคำร้อง

Note - พลังของเวทย์มนตร์สีน้ำเงิน สามารถใช้ดึง และผลักวัตถุได้ ไม่เว้นแม้แต่ห้วงมิติอันบิดเบี้ยวที่เกิดจากพลังเวทย์ด้านมืดก็ตาม

Posted Image


+กลับไปยังกระท่อมของแซนเธียอีกครั้ง (น้ำพุศักดิ์สิทธิ์ , ขวา , ขวา , ขวา) เอานำศักดิ์สิทธิ์ยื่นให้เธอ แล้วแซนเธียจะเล่ารายละเอียดของกษัตริย์วิลเลี่ยม และราชินีแคทเธอรีนให้แบรนดอนฟังค่ะ รวมทั้งตำนานของอัญมณีคู่บัลลังก์ที่ชื่อว่า “Kyragem” ด้วย . . ซึ่งก่อนจะลงลึกรายละเอียดต่อไป แซนเธียจะไหว้วานให้เราช่วยไปหา “ผลบลูเบอร์รี่” มาให้เธอหน่อยค่ะ

+เดินไปทางซ้าย , ซ้าย , ซ้าย (น้ำพุศักดิ์สิทธิ์) , ซ้าย , ซ้าย , ล่าง , ล่าง , ซ้าย , บน , ซ้าย , ซ้าย , ซ้าย และบน ก็จะมาถึง “น้ำตกสีรุ้ง” ได้ค่ะ

+เก็บ “ผลบลูเบอร์รี่” จากต้นมันมา แล้วกลับเอาไปให้แซนเธียได้เลยค่ะ (น้ำตกสีรุ้ง , ล่าง , ขวา , ขวา , ขวา , ล่าง , ขวา , บน , บน , ขวา , ขวา , ขวา , ขวา , ขวา)

Posted Image


+แต่พอกลับมาถึง จะพบว่าแซนเธียหายตัวไปแล้วค่ะ (o_____O) ตรงนี้หากลองสังเกตพรมทางขวามือดูดีๆ จะเห็นว่าเป็นรอยนูนขยักขึ้นมา เหมือนปกปิดอะไรสักอย่างข้างใต้ด้วย . . ว่าแล้วให้เปิดมันออกเลยค่ะ แล้วจะพบทางลับซ่อนอยู่ข้างล่าง ดูท่าแซนเธียจะใช้มันลงไปที่ไหนสักแห่งเป็นแน่ รู้แบบนี้แล้วให้ตามลงไปเลยค่ะ

Posted Image


+ทว่า. . เมื่อขึ้นมาแล้ว จะพบว่าเรามาอยู่ยังป่าหลังกระท่อมแทน แถมก็ไม่มีวี่แววของแม่มดสาวแม้แต่น้อยด้วย . . จากทางลับหลังกระท่อม ให้เดินไปทางขวา , บน , บน , ขวา , ขวา และบน ก็จะมาถึงยังชายหาดทางตะวันออกได้ค่ะ

+ให้เก็บ “ดอกกล้วยไม้สีแดง” (Orchid) จากต้นของมันมา แล้วกลับไปยังกระท่อมของแซนเธียได้เลยค่ะ ได้เวลาปรุงยากันแล้ว!! (ชายหาด , ล่าง , ซ้าย , ซ้าย , ล่าง , ล่าง , ซ้าย , ลงทางลับไป)

+มาถึงแล้ว หยิบขวดเปล่าที่พื้นมา แล้วออกไปนอกกระท่อม และกลับมาอีกครั้ง จะเจอขวดเปล่าอีกใบวางอยู่ค่ะ เก็บมาแล้วออกไปข้างนอกอีกครั้ง ซึ่งพอกลับเข้ามาอีกรอบ ก็จะได้ขวดเปล่าใบที่ 4 มา

+เอาล่ะค่ะ ตอนนี้เราจะต้องมีไอเท็มดังต่อไปนี้ติดตัวแล้วนะคะ (ที่วางกองพื้นไว้ก่อนหน้านี้ไง) อันได้แก่ ขวดเปล่า 4 ใบ , ดอกกล้วยไม้สีแดง , ดอกทิวลิป , ผลบลูเบอร์รี่ , Sapphire , Topaz , Garnet หรือ Ruby อย่างใดอย่างหนึ่ง ค่ะ ซึ่งหากใครพลาดอัญมณีอย่างใดอย่างหนึ่งไป ให้กลับไปเดินป่าหาสะสมเอานะ

Quote

+กระบวนการปรุงยา+

1.ให้นำดอกกล้วยไม้สีแดงใส่ลงในหม้อต้ม แล้วนำ Garnet หรือ Ruby ก็ได้ ใส่ตามลงไป ก็จะได้ “ยาน้ำสีแดง” (Red Potion) มาค่ะ ให้ตักเก็บไว้ 2 ขวด

2.ให้นำดอกทิวลิปสีเหลือง ใส่ลงในหม้อต้ม แล้วนำ Topaz ใส่ตามลงไป ก็จะได้ “ยาน้ำสีเหลือง” (Yellow Potion) มาค่ะ ให้ตักเก็บไว้ 1 ขวด

3.ให้นำผลบลูเบอร์รี่ ใส่ลงในหม้อต้ม แล้วนำ Sapphire ใส่ตามลงไป ก็จะได้ “ยาน้ำสีน้ำเงิน” (Blue Potion) มาค่ะ ให้ตักเก็บไว้ 1 ขวด

Posted Image


+หลังจากปรุงยาน้ำได้ครบทั้ง 3 สี แต่ 4 ขวดแล้ว ให้เดินลงทางลับไปเลยค่ะ ซึ่งพอโผล่มายังป่าหลังกระท่อมแล้ว ให้เดินไปตามทิศทาง ดังนี้ “ล่าง , ล่าง , ซ้าย , ล่าง , ล่าง , ขวา และบน” ก็จะมาถึงยัง “ผลึกแปรธาตุ” (The Crystal of Alchemy) ในที่สุดค่ะ

1.จากนั้นให้นำ “ยาน้ำสีแดง” และ “ยาน้ำสีเหลือง” ไปใส่ยังแท่นผลึก แล้วจะได้ “ยาน้ำสีส้ม” มาค่ะ

2.นำ “ยาน้ำสีน้ำเงิน” และ “ยาน้ำสีแดง” ไปใส่ยังแท่นผลึกอีกครั้ง แล้วจะได้ “ยาน้ำสีม่วง” มาค่ะ

Posted Image


+กลับไปยังกระท่อมของแซนเธียอีกครั้ง (ล่าง , ซ้าย , บน , บน , ขวา , บน , บน , ลงทางลับไป) อย่าลืมเก็บแอปเปิ้ลติดตัวมาด้วย แล้วมุ่งหน้าต่อไปตามทิศทางดังนี้ “ในกระท่อม , ซ้าย , ซ้าย , ซ้าย , ล่าง และซ้าย” ก็จะเจอ “จอกแห่งราชวงศ์” (Royal Chalice) หนึ่งในสามสมบัติล้ำค่าของอาณาจักร ที่สูญหายไปล่องลอยอยู่ค่ะ

Posted Image


+สั่งให้แบรนดอนร่ายเวทย์มนตร์สีน้ำเงิน แล้วพลังไร้ขอบเขตของมันจะเหนี่ยวนำจนจอกแห่งราชวงศ์ตกลงมาบนพื้นจนได้ . . ทว่า . . ก่อนที่แบรนดอนจะคิดทำการใดต่อไปทัน จู่ๆ กลับปรากฏ “ฟอน” ตัวจ้อยเข้ามาฉกฉวยแย่งสมบัติชิ้นสำคัญไปซึ่งๆ หน้า ก่อนจะแจ้นลับตาไปด้วยความว่องไว!!

Note - ฟอน (หรือแพน ในภาษาอังกฤษ) เป็นสัตว์ประหลาดครึ่งคนครึ่งผีในเทพนิยาย ลักษณะเด่นๆ คือจะมีเขาสั้นๆ 2 เขาบนหน้าผาก , มีขนปกคลุมตามร่างกาย , ยืนหลังตรงแบบมนุษย์ แต่ขา และเท้าจะมีลักษณะเป็นกีบเหมือนแพะ

Posted Image


+เดินตามไปทางขวา 1 ฉาก ก็จะเจอโพรงไม้เล็กๆ ที่เป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าฟอนตัวแสบค่ะ . . ให้ซดยาน้ำสีม่วงลงคอทันใด แล้วตัวของแบรนดอนจะย่อส่วนลงอย่างรวดเร็ว จนเล็กพอที่จะมุดโพรงเข้าไปได้ค่ะ

+เข้าไปทวงถามจอกแห่งราชวงศ์คืนจากเพื่อนจิ๋วตัวดี แต่เขาจะบอกว่าหากอยากได้คืน ให้นำอะไรมาแลกค่ะ . . ตรงนี้ เอาแอปเปิ้ลยื่นให้เขาไป แล้วฟอนหัวหมอจะกระซิบว่า ให้ไปดูที่ยอดต้นสนหน้าบ้านเอาเองค่ะ

+กลับออกมาข้างนอก ก็จะเจอสมบัติชั้นสำคัญแขวนเหน็บอยู่ที่ยอดต้นสนตามคำบอกค่ะ จัดการเก็บมาซะ (เอาไปแขวนไว้ตอนไหนนะ ก่อนเข้าไปไม่ยักเห็น . . ฮา)

+จากนั้นให้กลับไปยังกระท่อมของแซนเธียอีกครั้ง (บน , ขวา , ขวา , ขวา) ซึ่งตอนนี้ไอเท็มสำคัญ ที่จะต้องมีติดตัวไว้ มีดังนี้ค่ะ “ยาน้ำสีส้ม , กุญแจเหล็ก และจอกแห่งราชวงศ์” นอกเหนือจากนั้น ไม่จำเป็นแล้วค่ะ เอาวางทิ้งไว้ได้เลยนะ

Posted Image


+เดินลงทางลับ แล้วเดินทางต่อไปตามทิศทางดังนี้ “หลังกระท่อม , บน , บน , ขวา , ขวา , ขวา และบน” ก็จะกลับมายังชายหาดทางตะวันออกได้ค่ะ

+เก็บดอกกล้วยไม้สีแดงมา แล้วไปยืนตรงลานม้าบิน ณ กลางฉาก จากนั้นดื่มยาน้ำสีส้มเข้าไปซะ แล้วแบรนดอนจะกลายร่างเป็นอาชาสวรรค์ “เพกาซัส” เหาะกลับไปยังไคแรนเดียได้ค่ะ

Note - ห้ามแปลงร่างเป็นดวงจิตลอยข้ามทะเลไปนะ เพราะจะถูกพรายทะเลคาบไปกินได้ค่ะ (55)

-สงครามครั้งสุดท้าย-

+ในที่สุดแบรนดอนก็ได้กลับคืนสู่ไคแรนเดียบ้านเกิดอีกครั้ง ทว่า. . ชายหนุ่มก็ต้องตกใจ เพราะทั่วทั้งอาณาจักรแห่งนี้กลายสภาพเป็นดินแดนแห่งความตายไปเรียบร้อยแล้วค่ะ อย่าว่าแต่อาณาประชาราษฎร์เลย แม้กระทั่งมดสักตัว ก็ยังไร้ซึ่งวี่แววตัวซ้ำ

Posted Image


+เซฟไว้กันเหนียวสักนิด แล้วเดินเลาะไหล่เขาไปทางขวาได้เลยค่ะ แล้วจะเจอกับสุสานกษัตริย์ที่รกร้างในที่สุด . . เอาดอกกล้วยไม้สีแดงไปวางบนหลุมพระศพ . . แล้ววิญญาณของราชินีแคทเธอรีนจะปรากฏร่างขึ้นมา เพื่อตักเตือนไม่ให้แบรนดอนสะสางหนี้แค้นด้วยความโกรธค่ะ ก่อนจะให้พลังขั้นสุดท้าย “พลังเวทย์สีแดง” แก่ลูกชายสุดรักมาด้วย

Note - พลังเวทย์สีแดง สามารถทำให้แบรนดอนล่องหนได้ชั่วขณะค่ะ

+จากนั้นเดินไปทางขวา 1 ฉาก ก็จะเจอกับปราสาทไคแรนเดียตั้งตระหง่านอยู่ในราตรีอันน่าสะพรึง . . อย่ามัวรอช้า ใช้เดินลงไปยังประตูวังได้เลยค่ะ

Posted Image


+มาถึงแล้วอย่าเพิ่งผลีผลาม ให้กดใช้เวทย์มนตร์สีแดงเพื่อหายตัวเสียก่อน แล้วค่อยใช้กุญแจเหล็กบรรจงไขประตู ก็จะสามารถผ่านเข้ามาข้างในได้อย่างเนียนๆ ค่ะ . . ซึ่งหากลุยดุ่มๆ เข้าไปตรงๆ เราจะถูกภูติเฝ้าทวารรุมสังหารดับอนาถทันทีนะ

Posted Image


+ทว่า. . เมื่อแรกมาถึงยังพระราชวังชั้นใน กลับว่ามัลคอล์มนั้นมารออยู่แล้วค่ะ . . จอมตลกจะกล่าวชมเชยแบรนดอนที่อุตส่าห์ฟันฝ่ามาจนถึงที่นี่ได้ แต่เขาได้จัดเตรียมคนที่จะมาหยุดยั้งแบรนดอนไว้แล้วค่ะ ซึ่งก็คือ “เฮอร์แมน” สหายเก่านั่นเอง!! ก่อนจะจากไปอย่างอารมณ์ดี “เฮี้ย ฮะ ฮะ ฮ่า!”

Posted Image


+ลับหลังมัลคอล์มแล้ว ให้เดินไปตามทิศทางดังนี้ “ซ้าย , บน , บน” จะมาโผล่ยังห้องหนังสือได้ค่ะ ซึ่งข้างหลังเตาผิงรูปอสูรหินนี้ จะมีห้องลับซ่อนอยู่ด้วย แต่การจะเปิดมันได้นั้น จะต้องใส่รหัสแก้ว่า “OPEN” เสียก่อนค่ะ ซึ่งวิธีปลดล็อกประตูกลนั้น มีดังนี้

+ให้สำรวจหนังสือที่วางอยู่บนชั้นไม้ทั้ง 2 ฝั่งตามนี้+

[O] - ชั้นทางขวามือ , แถวล่างสุด , ริมขวา
[P] - ชั้นทางซ้ายมือ , แถวบนสุด , ริมซ้าย
[E] - ชั้นทางซ้ายมือ , แถวล่างสุด , ริมซ้าย
[N] - ชั้นทางซ้ายมือ , แถวล่างสุด , ริมขวา

+เมื่อทำสำเร็จแล้ว ทางลับด้านหลังก็จะเปิดออก เผยให้เห็นสมบัติที่ซ่อนอยู่ นั่นก็คือ “มงกุฎแห่งราชวงศ์” (Royal Crown) นั่นเองค่ะ จัดการเก็บมาแล้ว ให้เข้าไปยังห้องลับด้านหลังได้เลย

Posted Image


+จากนั้นให้เดินต่อไปตามทิศทางดังนี้ “ซ้าย , ซ้าย , บน , ซ้าย , บน , บน และขวา” ก็จะมาถึงยังห้องลับฝั่งตะวันตก ที่ถูกข่ายมนต์สะกดปิดทางอยู่ค่ะ . . ให้ใช้เวทย์มนตร์สีน้ำเงิน แล้วม่านพลังที่ปกคลุมอยู่ก็จะอันตรธานหายไปอย่างง่ายดาย

Posted Image


+เดินเข้าไปข้างใน แล้วเลี้ยวซ้าย 1 ครั้ง ก็จะมาถึงยังสุดทางของห้องลับได้ค่ะ . . ตรงนี้ หากลองสังเกตที่พื้นทางมุมบนขวาดูดีๆ จะเห็นว่ามีบล็อกนูนเด่นขึ้นมา 1 ช่อง ให้เปิดมันออกเลยค่ะ แล้วจะพบ “กุญแจทอง” ซ่อนอยู่ข้างใต้

+เก็บกุญแจแล้ว กลับออกไปยังห้องหนังสือด้วยทิศทางดังนี้ “ขวา , ล่าง , ซ้าย , ล่าง , ล่าง , ขวา , ล่าง , ขวา , ขวา และล่าง”

Posted Image


+ออกมาได้แล้ว ให้เดินไปทางขวา 1 ฉาก ก็จะมาถึงห้องอาหารของพระราชวังได้ค่ะ . . ให้เลือกเข้าประตูบานขวาบนไป แล้วไปทางขวาอีก 1 ฉาก จะมาโผล่ยังห้องครัว ฝั่งตะวันออกในที่สุดค่ะ

+ให้สำรวจในถังไม้ทางมุมบนขวาของห้อง แล้วจะเจอสมบัติชิ้นสุดท้ายซุกซ่อนอยู่ นั่นก็คือ “คทาแห่งราชวงศ์” (Royal Sceptre) นั่นเอง

+จากนั้นให้กลับไปยังบันไดกลาง ณ ท้องพระโรง เพื่อขึ้นไปยังปราสาทชั้นบนได้เลยค่ะ (ห้องครัว , ซ้าย , ล่าง , ล่าง และซ้าย)

Posted Image


+ขึ้นไปยังชั้น 2 แล้ว ให้เดินไปเข้าประตูฝั่งตะวันตก บานล่างทันทีค่ะ (ซ้าย , บน , ซ้าย) ทว่า. . ขณะกำลังเดินเข้าไปอยู่นั้นเอง จู่ๆ เฮอร์แมนจะปรากฏตัวขึ้นมาขวางแบรนดอนไว้ค่ะ ดูท่าเขาคงถูกมัลคอล์มสะกดให้อยู่ใต้อาณัติเป็นแน่ และคงไม่ได้มาดีเสียด้วยสิ!!

Note - หากสุ่มสี่สุ่มห้าผลีผลามเข้าไป จะถูกเฮอร์แมนบั่นคอด้วยเลื่อยคู่ใจทันที

Posted Image


+ใช้เวทย์มนต์สีเหลืองสะกดเฮอร์แมนให้หลับ ก็จะผ่านเขาเข้าไปยังห้องบรรทม ฝั่งตะวันตกได้อย่างง่ายดาย . . ตรงนี้ เราจะเจอปริศนาระฆังกลตั้งอยู่ด้วยค่ะ . . โดยวิธีแก้คือให้นับระฆังไล่จากซ้ายไปขวาคือ 1 2 3 4 แล้วเลือกตีตามลำดับดังนี้ 4-1-2-3 (อย่าลืมหยิบค้อนที่แขวนอยู่ทางขวาก่อนนะ ไม่งั้นตีไม่ได้จ้า)

+เมื่อทำสำเร็จ ช่องลับหลังภาพเขียนจะเปิดออก เผยให้เห็น “กุญแจทองดอกที่ 2” ซ่อนอยู่ค่ะ จัดการเก็บมา แล้วกลับลงไปยังห้องอาหารของพระราชวังได้เลย (ห้องบรรทม , ขวา , ล่าง , ขวา , ล่าง , ขวา , บน , ซ้าย)

Posted Image


+นำกุญแจทอง ทั้ง 2 ดอกไปไขยังประตูบานคู่ ที่อยู่ทางมุมซ้ายของห้องอาหาร แล้วจะมาถึงยัง “ห้องมหาสมบัติของพระราชวัง” ได้ค่ะ

+เซฟไว้ให้อุ่นใจสักนิด แล้วนำสมบัติราชวงศ์ทั้ง 3 ชิ้น วางเรียงใส่แท่น ไล่จากซ้ายไปขวาดังนี้ “คทาทองคำ , มงกุฎทองคำ และจอกทองคำ ตามลำดับ” ซึ่งเมื่อทำสำเร็จแล้ว ประตูบานสุดท้ายสู่สถานที่ปกปักอัญมณี Kyragem จะเปิดออกค่ะ

Posted Image


+ทว่า. . ขณะนั้นเอง จู่ๆ มัลคอล์มก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง ที่แท้เขารอโอกาสนี้อยู่นั่นเองค่ะ . . จอมมารจะเยาะเย้ยแบรนดอนด้วยความอวดดี แต่ชายหนุ่มก็หาได้หวั่นเกรงต่อคำปรามาสไม่ ซ้ำยังระดมกำปั่นลุ่นๆ เข้าใส่จนมัลคอล์มจนหงายเก๋งไปเลย!!

Posted Image


+แบรนดอนก็เลยฉวยโอกาสทองนี้ ลอบเข้าไปยังห้องแห่ง Kyragem จนได้ แต่มัลคอล์มก็ไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ค่ะ หมอรีบฮึดขึ้นมาอีกครั้งหมายจะเอาคืนเราเต็มที่ . . จังหวะนี้ ให้รีบกดร่ายเวทย์มนตร์สีแดงเพื่อกำบังตัว แล้วเขยิบไปยืนหน้ากระจกบานยักษ์ ทางขวามือให้เร็วที่สุดค่ะ . .

Posted Image


+ซึ่งพอมัลคอล์มหาเราไม่เจอ ก็จะกราดยิงพลังเวทย์ใส่ด้วยความคลั่งแค้น แต่สุดท้าย หมองูก็ต้องตายเพราะงูค่ะเพราะพลังเวทย์สายนั้นดันพุ่งไปโดนกระจก แล้วสะท้อนกลับไปหาเจ้าของ ราวยืมหอกสนองผู้ใช้ก็ไม่ปาน . . ส่งผลให้จอมมารกลายเป็นหินชั่วพริบตา!!

+เมื่อนั้น ความสงบสุขก็กลับมาเยือนไคแรนเดียอีกครั้ง และแบรนดอนก็ถูกสถาปนาให้กลายเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่ เพื่อปกครองราชอาณาจักรด้วยความผาสุกสืบไป!!

-THE END-


Quote

+ข้อมูลอ้างอิงจากเว็ปไซต์+
http://www.gamefaqs....le/562667/20066


+ท่านใดประสงค์จะนำ Walkthrough The Legend of Kyrandia : Book One นี้ไปลงที่เว็ปไซต์อื่น กรุณาขออนุญาตผู้เขียนก่อนนะคะ . . และอย่าลืมลงนามเครดิตผู้จัดทำ และบอร์ด DGO เพื่อเคารพเจ้าของผลงานด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

Edited by rbgel, 29 July 2010 - 05:41 PM.