`

Jump to content





Walkthrough Discworld


8 replies to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 21 April 2010 - 11:48 PM

~Welcome to Just Adventure~


DISCWORLD

-อภินิหารตำนานพิภพแบน-

Posted Image

~DOSBox & ScummVM & PS & SS~


"If you like Adventure , you will also like"


Quote

-ความในใจจากผู้เขียน-

+Discworld เป็นอีกหนึ่งเกมแอดเวนเจอร์ พอยท์ แอนด์ คลิ๊กเรื่องโปรดที่ผู้เขียนชื่นชอบมากที่สุดซีรีย์สหนึ่ง นอกเหนือจากตระกูลเควสต์ทั้งหลายของเซียร์ร่า และลูคัส อาร์ตค่ะ . . สมัยเกมออกใหม่ๆ ช่วงปี 2538 (1995) บน PC ยุค DOS เมื่อครั้งกระโน้น . . จำได้ติดตาว่า พอถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ทีไร ผู้เขียนกับน้องสาวในวัยคอซองนี่ แทบจะนัดกันเล่นหามรุ่งหามค่ำ ชนิดเอาตายกันเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่เกมมีความยาวมาก และภาษาที่ออกจะเกินกำลังเด็กๆ ไปสักหน่อย (แหะแหะ) สุดท้ายก็ต้องพึ่งคัมภีร์อย่าง IT Games นำทางจนได้ กว่าจะจบกะเค้าลง (^ ^)

+หลังจากนั้นไม่นาน ต่อมาพอเกมถูกพอร์ตมาลง PS1 และ SS ด้วยทั้ง 2 ภาค ผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะหามาเล่นซ้ำอีกรอบค่ะ นับว่าแหวกกระแสในยุคนั้นไม่ใช่น้อย (55) และก็นับเป็นเรื่องดี ที่เกม PC ระดับคุณภาพในยุคนั้น หลายต่อหลายเกมก็ถูกพอร์ตมาลง PS + SS ด้วยเช่นกัน แม้จะออกไปในแนวแอ็คชั่น มุมมองบุคคลที่ 3 หรือเกมเดินหน้ายิงเสียส่วนใหญ่ก็ตามที ไม่ว่าจะเป็น Alone in the Dark 2 , Fade to Back , Dark Force , Duke Nukem 3D , Doom 2 และอื่นๆ อีกมากมาย

+แต่สำหรับผู้เขียน ซึ่งรัก และคลั่งไคล้เกมแนวแอดเวนเจอร์แท้ๆ เอามากๆ ไม่รู้จะด้วยความฝังใจ กับความยากของภาษา และยาวของเกม หรือจะเพราะประทับใจกับเนื้อเรื่องแบบเทพนิยาย แฟนตาซี หรือการ์ตูนเรื่องยาวที่ผู้เขียนชื่นชอบมากตั้งแต่เด็กๆ ก็ตาม ก็ยังใจชื้นอยู่บ้าง เพราะเกมแอดเวนเจอร์ แนว พ้อยนต์ แอนด์ คลิกยังไม่ตายหายจากวงการไปเสียทีเดียวนัก เมื่อเกมดีๆ อย่าง Discworld ทั้ง 2 ภาค , Return to Zork , Myth หรือแม้แต่สุดยอดเกมแอดเวนเจอร์ระดับปราบเซียนอย่าง Broken Sword ก็ยังพอร์ตมาลงให้ 2 คอนโซลสุดฮิตในตอนนั้นด้วยเช่นกัน

+มาจนปัจจุบันนี้ ผู้เขียนก็ยังรักที่จะเล่นเกมแนวนี้อย่างไม่เสื่อมคลาย ไม่ว่าจะจากโปรแกรม ScummVM ทั้งบน PC , DC , X-Box , PSP หรือกระทั่ง DS ก็ตาม ไปจนถึง Dosbox สำหรับเกมแอดเวนเจอร์ตระกูลอื่นๆ ค่ะ ชนิดว่าเปลี่ยนไปจับเครื่องไหน ก็ยังมีเกมเพื่อนเกลอให้เล่นแทนกันได้ยังไงยังงั้นเลยทีเดียวเจียว . . สำหรับท่านอื่นๆ ที่ยังคงแคลงใจกับมนต์เสน่ห์ลึกลับของเกมตระกูลแอดเวนเจอร์ ลองหันมาลองกับเกมชุด Discworld นี้ไปพร้อมๆ กันก็ได้นะคะ (แฮ่ม)

-เกี่ยวกับ Discworld-

+มาว่ากันถึงเกม Discworld กันต่อ . . Discworld ถูกสร้างมาจากตอนหนึ่งของนวนิยายแฟนตาซีขายดี ชุดยาว ของนักเขียนชาวอังกฤษชื่อก้อง นาม “มร.เทอร์รี แพรตเช็ตต์” (Terry Pratchett) ค่ะ ซึ่งเขียนงานในชุด Discworld นี้ต่อเนื่องกันมายาวนานถึง 30 กว่าเล่ม (ซึ่งก็ยังไม่จบ) และจัดเป็นนิยายแฟนตาซีที่ขายดีที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบยี่สิบปีของฝรั่งเค้ากันเลยทีเดียว . . .

Posted Image


+ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่ผู้แต่งจับโน่นหยิบนี่มาเขียนล้อ หยอกเอินเค้าไปทั่วแบบครอบจักรวาลมั่วไปหมด แฝงอารมณ์ขันแบบกัดเล็กๆ สไตล์แนว Fantasy Parody ผ่านสำนวนอ่านง่ายๆ แต่ติดตา . . ซึ่งหากไม่แน่จริงแล้วละก็ นิยายชุดนี้คงไม่ได้เข้าไปอยู่ในใจคอหนังสือทั่วโลก ข้ามผ่านกาลเวลามาจนบัดนี้อย่างแน่นอนค่ะ . . ผู้อ่านที่รักท่านใดสนใจ ลองหาสืบค้นได้ตามร้านหนังสือคู่ใจดูนะคะ ไม่แน่ บางที Discworld เรื่องนี้ อาจจะกลายเป็นนวนิยายชุดโปรดตลอดกาลเรื่องใหม่ของคุณๆ ก็เป็นได้นะ!!

Posted Image


+ในฉบับนิยายนั้น เนื้อหาของ Discworld ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกันทุกตอนนะคะ และหนังสือแต่ละเล่มก็ไม่ได้แสดงนำโดยตัวละครตัวเดียวกันตลอด หากแต่แบ่งตัวเอก และธีมของเรื่องแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งผู้ที่ไม่ได้ติดตามมาตั้งแต่ต้น ก็สามารถอ่านแยก พร้อมทำความเข้าใจได้ไม่ยากค่ะ และในส่วนของเกมภาคนี้ ก็จับเอาเรื่องราวการผจญภัยสุดเปิ่น ของพ่อมดยอดชาย “นายรินซ์วินด์” (Rincewind) มานำเสนอ ให้เราๆ ชาวเกมเมอร์ได้หัวร่อ-งอหาย และประทับใจอย่างสุดซึ้งไปกับตะแกค่ะ . . พร้อมแล้ว . . ตามมาเล่นไปพร้อมๆ กันเลยนะ . . ขอต้อนรับสู่ Discworld ค่ะ!!

Quote

-Prologue-

+เรื่องราวเกิดขึ้นในจักรวาลคู่ขนานแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อว่า “พิภพแบน” หรือ “Discworld” ซึ่งเป็นมหานครที่มีลักษณะเป็นแผ่นดินแบนๆ ระนาบเดียว (สมชื่อ) และรายล้อมด้วยทะเลครามอันกว้างใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนหลังช้างเผือก 4 เชือก และเจ้าช้างทั้ง 4 ที่ทูนโลกนี้ไว้ ก็ยืนอยู่บนหลังของมหาเต่าดารา “อาทูอิน” อีกทีหนึ่ง และแหวกว่ายอยู่ในทะเลดาวอันเวิ้งว้าง ซึ่งทอดไกล และไม่มีวันจบสิ้นชั่วกาลนานค่ะ (นึกไม่ออก ดูภาพประกอบตามนะคะ)

+ชาวประชาทุกชีวิตในอาณาจักร Discworld ใช้ชีวิตด้วยความสงบสุขเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ , พ่อมด , แม่มด , เอลฟ์ , โทรลล์ , คนแคระ , กษัตริย์ผู้สาบสูญ , เทพเจ้าโบราณองค์ต่างๆ หรือแม้แต่บรรดาสัตว์ประหลาดในเทพนิยายแฟนตาซีก็ตาม . .

+แต่ความผาสุกก็หาได้ยืนยาวไม่ เมื่อสมาชิกลัทธิมืดกลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกัน เพื่อทำการอัญเชิญมังกรมา เพราะหวังจะใช้เป็นฐานอำนาจ ในการอาละวาดเผาทำลายบ้านเมือง ซึ่งก็ได้ผลดังคาด เพราะบัดนี้ความหวาดกลัว และหวาดหวั่นแพร่กระจายไปครอบคลุมทั่วทั้ง Ankh-Morpork (อังค์-มอร์พอร์ค) เมืองหลวงของ Discworld เรียบร้อยแล้ว

+เรื่องราวความเดือดร้อนของมหันตภัยครั้งนี้ถูกร้องเรียนไปยังท่านอธิการใหญ่ (Arch Chanceller) แห่งมหาวิทยาลัยพ่อมด และผู้วิเศษ “Unseen University” (แปลได้ความว่า มหาวิทยาลัยลับแล ที่ไม่เคยมีใครพบเห็น . . ฮา) ในที่สุด . .

+หลังจากไตร่ตรองอยู่นานด้วยความกังวลใจเหลือจะกล่าว ท่านอธิการจึงได้ทำการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการรับภารกิจกู้โลกนี้ ซึ่งหวยก็มาออกเอาที่ มร.รินซ์วินด์ (Rincewind) พ่อมดเซ่อซ่าที่เด๋อด๋าที่สุดในสถาบันนั่นเอง (55) เอาล่ะสิ!!

-รู้จักระบบเกมสักนิด ก่อนจะออกเดินทาง-

-การพูดคุยกับชาวเมืองเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ในการคุยแต่ละครั้งจะมีหัวข้อให้เลือกคุยต่างกันด้วย ฉะนั้นหากเลือก
คีย์เวิร์ด (หัวข้อคุย) ถูก ตัวละครก็จะรู้ตามผู้เล่นได้ และดำเนินเรื่องต่อได้ค่ะ

-คลิกเม้าส์ซ้าย คือกำหนดจุดพ้อยต์ที่ตัวละครต้องการเดินไป หรือต้องการดู หรือทำอะไร หากกดดับเบิ้ลคลิกคือการสั่งเก็บของ หรือใช้ไอเท็มค่ะ รวมทั้งการเปิด-ปิดประตูด้วย

-คลิกเม้าส์ขวา คือการสำรวจไอเท็มให้ตัวละครทราบค่ะ หากไม่ใช้คำสั่งนี้ บางครั้ง ตัวละครจะไม่รู้ตามผู้เล่น (ใช้ในฉากช่องเก็บของ Inventory ได้ด้วย)

-การรวมไอเท็ม ทำได้โดยการกดเข้าเมนู Inventory ค่ะ ให้คลิกไอเท็มชิ้นหนึ่งไปวางทับไอเท็มอีกชิ้น แล้วกดดับเบิ้ลคลิกได้เลยค่ะ (มุขนี้ใช้เยอะมาก)

-เกมมีเนื้อหายาวมากๆ ฉะนั้นหมั่นเซฟให้บ่อยๆ ค่ะ เกมมีสล็อตว่างให้เซฟตั้ง 30 สล็อตแน่ะ

-บทที่ 1 – ตามรอยมังกร-

Posted Image


+เริ่มเกมมา เราจะหลับอุตุอยู่บนที่นอนค่ะ ซึ่งหลังจากถูกปลุกกวนใจโก๋แล้ว จะมีตัวชี้ (เคอร์เซอร์) ปิ๊งๆ ตกมาจากเพดานให้เราใช้สั่งการ “รินซ์วินด์” ค่ะ . . ให้กดเปิดประตูตู้เสื้อผ้า (Wardrobe) ก่อนเลย จะได้ “กระเป๋าตังค์” (Pouch) มา 1 ใบค่ะ

Note - คลิกไอเท็มเก็บไว้ที่ตัวเลยค่ะ โดยรินซ์วินด์จะสามารถพกพาไอเท็มติดตัวได้เพียง 4 ชิ้นเท่านั้น ยกเว้นของที่มีขนาดใหญ่มาก จะไม่สามารถเก็บใส่ได้

Posted Image


+ออกจากห้อง ลงไปยังชั้นกลาง ซึ่งในชั้นนี้จะมีทางแยก 2 ทางคือ หากไปทางซ้ายจะไปห้องท่านอธิการบดี (Arch Chanceller’s Room) ส่วนทางขวาคือห้องอาหารของมหาวิทยาลัย (Dining Room) ค่ะ . . ตรงนี้เลือกไปหาท่านอธิการก่อนนะ

+คุยกับท่านอธิการแล้ว เขาจะมอบหมายงานให้เราไปตามหา “Featherwinkle’s Concise Compendium Dragon of Liars” หรือว่ากันง่ายๆ ก็คือ “ตำราประดิษฐ์เครื่องตรวจหามังกร” มาค่ะ เพื่อเอามาใช้ไล่ล่ามังกรร้ายที่แอบกบดานอยู่นั่นเอง

+เดินลงไปยังชั้นล่างของมหาวิทยาลัย ซึ่งที่นี่จะมีห้องอยู่ทั้งหมด 3 ห้อง ดังนี้ค่ะ คือ ห้องเก็บของ (Closet) , ห้องสมุด (Library) และห้องครัว (Kitchen) . . ตรงนี้ให้เลือกไปยังห้องเก็บของก่อน

+ที่ห้องเก็บของ เก็บไม้กวาด (Broom) ที่วางพิงผนังอยู่ แล้วกลับขึ้นไปยังห้องของเราที่ชั้นบนสุดค่ะ

Posted Image


+สังเกตดูบนหลังตู้ จะเห็น “กำปั่นสีทอง” (The Luggage - เธอะ ลักเกจ) นอนหลับอย่างสบายใจค่ะ . . จัดการเอาไม้กวาดไปกระทุ้งมันซะ แล้วเจ้ากำปั่นจอมขี้เซาก็จะบิดขี้เกียจตื่นขึ้นมาในที่สุด . . ซึ่งเจ้ากำปั่นนี้จะคอยเดินตามเราไปยังทุกแห่งหน และสามารถใช้เก็บไอเท็มได้ไม่มีวันเต็ม (เหมือนกระเป๋าวิเศษ มิติที่ 4 ของโดราเอม่อนนั่นล่ะค่ะ)

Note - หน้าต่างวินโดว์ในเมนูช่องเก็บไอเท็มของ The Luggage สามารถลากเม้าส์ย่อ-ขยาย ได้ตามใจเลยค่ะ

Posted Image


+ลองกดสำรวจที่ตัวกำปั่น จะได้กล้วย (Banana) มา 1 ผลค่ะ จากนั้นลงไปยังห้องสมุด จะเจอคุณลิงบรรณารักษ์ดูแลอยู่ . . ลองถามถึงหนังสือที่ตามหาดู แต่ดูท่าจะคุยกันภาษาลิงไม่รู้เรื่อง เพราะนอกจากนั้นหมอจะไม่ยอมช่วยหาหนังสือให้แล้ว ยังตบกบาลเรามาฉาดใหญ่ๆ อีกตะหาก (กร๊ากกกกก)

+เจอเข้าแบบนี้ ก็ต้องเล่นมุขใหม่ . . เที่ยวนี้หยิบเอากล้วยยื่นให้หมอไปเลยค่ะ ซึ่งก็ได้ผล เพราะคุณจ๋อจะดีใจ รีบไปค้นหนังสือที่ว่ามาให้ด้วยความลิงโลดทันที (แหม ต้องเอาของกินมาล่อนะ ฮึ่ม)

Posted Image


+กลับเอาตำราประดิษฐ์เครื่องตรวจหามังกร ไปมอบให้ท่านอธิการที่ห้องทำงานค่ะ . . หลังจากพินิจเนื้อหาในหนังสือแล้ว ท่านอธิการก็จะรู้ส่วนประกอบที่จำเป็นทั้งหมด ในการใช้สร้างเครื่องตรวจหามังกรค่ะ พร้อมกับมอบหมายงานใหม่ ให้เราไปตามหาอุปกรณ์ทั้งหมด 5 ชิ้น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ คือ ไม้เท้าเวทย์มนตร์ (Stuff) , ภูติจิ๋ว (Imp) , ลมหายใจมังกร (Dragon Breath) , ขดลวดเวทย์มนตร์ (Magic Coil) และ กระทะเหล็ก (Metal Container) ค่ะ

Note - หลังจากได้หนังสือคืนมาแล้ว หากกดใช้หนังสือ (ดับเบิ้ลคลิก) ในเมนูช่องเก็บไอเท็มของ The Luggage จะแสดงรายการของทั้ง 5 ขึ้นมาให้เราทราบค่ะ

-ภารกิจชิ้นที่ 1 – เสาะหาไม้เท้ากายสิทธิ์-

+ไปยังห้องอาหาร (Dining Room) แล้วเดินเข้าไปด้านใน จะเจอ “Windle Poons” พ่อมดม่วง นั่งอยู่บนเก้าอี้ ผู้ชื่นชอบขนมจุกจิก และลองวิชาเสกเวทย์มนตร์อยู่เป็นนิจค่ะ ซึ่งไม้เท้าในมือเขานี่แหล่ะค่ะ คือของที่เราต้องการ แต่ขอดีๆ หมอคงไม่ให้อยู่แล้ว . .

Posted Image


+ตรงนี้ให้เอาไม้กวาดมาถือไว้ค่ะ จากนั้นไปยืนใกล้ๆ เขา แล้วรอจังหวะดีๆ พอ Windle Poons หันไปกินขนม รีบกดใช้ไม้กวาด สลับกับไม้เท้าในมือแกเลยค่ะ (คลิกที่ Stuff) . . แล้วเราก็จะได้ไม้เท้ากายสิทธิ์มาง่ายๆ โดยที่เขาไม่รู้ตัว (55)

-ภารกิจชิ้นที่ 2 – แกะรอยภูติจิ๋ว จอมลี้ลับ-

Posted Image


+เดินออกไปลานกว้างหน้ามหาวิทยาลัย จะเจอพ่อมดฝึกหัด (Apprentice Wizard) คนหนึ่งนั่งท่องตำรา และกินขนมขบเคี้ยวอยู่ค่ะ . . คุยกับเขา (เลือกหัวข้อ ?) แล้วหมอจะช่วยคลายผนึกประตูให้ออกไปข้างนอกได้ค่ะ แต่ก่อนไป อย่าลืมเก็บ “กบ” ที่ริมสระมาด้วยนะ

Posted Image


+จากนั้นเลือกไปยัง Livery Stable (โรงวัว) ก่อนค่ะ (อยู่บริเวณล่างขวาของแผนที่ – ดูรูปประกอบนะคะ) แล้วจะเจอ “กระสอบ” (Sack) ใบหนึ่งวางพิงเกวียนอยู่ ลองสำรวจดู จะได้ “เมล็ดพันธุ์ข้าวโพด” (Corn) มา 1 กำค่ะ

Posted Image


+ไปต่อยัง Alley (ตรอกพิสดาร) ซึ่งทางเดินบริเวณกลางซอยนี้ มันจะมีอยู่บล็อกหนึ่งค่ะ ที่พอเดินไปเหยียบแล้ว มันจะส่งเราเด้งลอยไปอยู่บนหลังคาทันที . . ตอนนี้ให้เดินเลี่ยงๆ ไปยังบ้านหลังสุดซอยกันก่อนนะคะ (ตอนเผลอไปเหยียบบล็อกโดน แล้วเรากำลังทำท่าตกใจ สามารถกดเดินหนีออกมาได้นะ)

Note 1 - ในซอยนี้ จะมีนินจาอยู่คนหนึ่งค่ะ ชอบออกมาฝึกวิชาเหินหาวอยู่บนหลังคาเป็นประจำ
Note 2 - ถ้าพลาดถูกบล็อกเหลี่ยมเด้งไปอยู่บนหลังคาซะก่อน ให้คลิกไปยังหน้าต่าง (Window) ของบ้านหลังทางซ้าย ก็จะกลับมายังซอยชั้นล่างได้อีกครั้งค่ะ

Posted Image


+เข้ามาในบ้านที่มีรูปปลาแขวนอยู่ จะพบว่านี่คือบ้านของนักเคมี จอมแปรธาตุ (Alchemist) ค่ะ . . ให้เอาพันธุ์ข้าวโพดที่เก็บมา ไปใช้กับขวดแก้วทดลองบนโต๊ะ . . ซึ่งได้ผลค่ะ เกิดปฏิกิริยาวี้ดบูมขึ้นมาจนข้าวโพดระเบิด กระจายเต็มไปหมด ทำให้นักเคมีเจ้าบ้านรีบลงไปหมอบอยู่ใต้โต๊ะด้วยความตกใจทันที

+จังหวะนี้ รีบเดินไปสำรวจกล่อง (Box) ที่วางอยู่บนโต๊ะทันทีเลยค่ะ (กดคลิกเม้าส์ขวา) แล้วเราจะซูมดูในระยะใกล้ได้ ซึ่งที่แท้กล่องที่ว่า จริงๆ แล้วก็คือกล้องถ่ายรูป (Camera) นั่นเอง

Posted Image


+กดคลิกที่ชัตเตอร์สีแดงทางขวา (ตุ้มกลมๆ) แล้วบานเลื่อนกล้องจะเปิดออกมา เผยให้เห็นเจ้าของฝีมือ “แสงแฟลช” แชะ แชะ ข้างใน ซึ่งก็คือเจ้าภูติจิ๋ว (Imp) ที่เราตามหาอยู่นั่นเอง จากนั้นกดกลับออกมายังหน้าจอปกติค่ะ

+ลองจับตัวภูติจิ๋วอีกที (คลิกที่กล้อง จะขึ้นชื่อ Imp แล้ว) แต่จะวืดไปค่ะ เพราะมันตัวเล็ก แล้วก็เร็วมากด้ว ชนิดจับไม่ได้ ไล่ไม่ทันกันเลยทีเดียว สุดท้ายมันจะมุดหนีไปซ่อนยังรูหนู (Hole) หน้าบ้านจนได้ (T_T) . . ตอนนี้ต้องไปหาอะไรมาช่วยจับมันก่อนนะ!!

Posted Image


+ออกไปยังแผนที่โลกอีกครั้ง แล้วไปที่ Square (จัตุรัสของเมือง) ค่ะ แล้วหยิบมะเขือเทศ (Tomato) จากชั้นวางมา 1 ลูกค่ะ แล้วเดินเอาไปปาใส่หน้านักโทษ (Tax Collector) ที่ถูกตรึงประจานอยู่ทางขวาค่ะ (55)

Posted Image


+เดินกลับไปเก็บมะเขือเทศอีกครั้ง แต่รอบนี้จะเจอหนอนค่ะ (อี๋!!) ซึ่งพระเอกของเราก็รีบสะบัดทิ้งด้วยความเร็วไว . . จากนั้นสังเกตที่พื้นดีๆ จะเห็นว่ามีอะไรคลานดื้บๆ วับไป แวบมาอยู่ . . ให้ลองเก็บขึ้นมาดู ก็จะได้หนอน (Worm) มา 1 ตัวค่ะ

+กลับไปยังแผนที่โลก แล้วไปที่ย่านการค้า ถนนคนเดินประจำเมือง (Street) ต่อค่ะ . . ซึ่งที่นี่จะมีร้านค้าสำคัญอยู่ 4 ร้าน ดังนี้คือ ร้านขายของเล่น ต้นซอย , ร้านขายของโทรลล์ กลางซอย (เปิดเฉพาะกลางคืนเท่านั้น) , ร้านขายปลา (ข้างร้านมีห้องน้ำคนจร) และร้านตัดผม ท้ายซอยค่ะ

+เลือกไปยังร้านขายของเล่นก่อน แล้วเก็บ “เชือก” (String) มาจากเคาน์เตอร์ค่ะ แล้วกลับไปยังตรอก Alley อีกครั้ง คราวนี้เราจะตกภูติจิ๋วจอมแสบกันแล้ว ^ ^

Posted Image


+กดเข้าเมนูช่องเก็บไอเท็มของ The Luggage แล้วใช้ String กับหนอนค่ะ ก็จะได้เหยื่อล่อมา (รูปหนอนจะมีเชือกผูกแล้ว) จากนั้นกดใช้หนอนล่อภูติจิ๋วออกมาจากรู ซึ่งพอมันเดินตามออกมาก็โป๊ะเช๊ะค่ะ . . ในที่สุดเราก็ได้ตัว Imp มาสมใจ

-ภารกิจชิ้นที่ 3 – ตามล่าลมแห่งใจแห่งเพลิง-

+ออกมายังแผนที่โลกแล้ว มุ่งไปยังพระราชวัง (Palace) ต่อเลยค่ะ จะเจอยามเฝ้าประตูอ้วน-ผอมคู่หนึ่งเฝ้าอยู่ . . ให้คุยกับยามคนไหนก็ได้ค่ะ (ด้วยหัวข้อ ?) แล้วพวกเขาจะทะเลาะกันเอง จนไม่สนใจเรา และยอมให้ผ่านประตูเข้ามาในที่สุด (55)

Posted Image


+เดินเข้าไปในวัง จะเจอผู้พิพากษากำลังไต่ตวนคดีที่มีชาวประชามารอร้องเรียนอยู่ค่ะ พร้อมกับตลกหลวง (Fool) คู่ใจ . . แต่ตอนนี้ยังไม่ต้องไปสนใจค่ะ เดินเข้าห้องน้ำ (ประตูรูปดาว) แล้วเก็บ “กระจก” (Mirror) มาติดตัวเราไว้เลยค่ะ แล้วออกไปยังแผนที่โลกได้เลย . . .

Posted Image


+กลับไปยืนเหยียบบล็อกจอมเด้ง ในตรอก Alley อีกครั้ง แล้วเราจะกระดอนขึ้นมาอยู่บนหลังคาในที่สุด . . ตรงนี้สังเกตเห็นหอคอยสูงๆ (Tower) ที่อยู่ข้างหลังเราไหมคะ ให้คลิกไปที่นั่นเลยค่ะ

+มาถึงแล้ว สั่งให้รินซ์วินด์สำรวจยังปลายสุดของเสา (Tip) ที่แขวนอยู่ตรงหน้า แล้วท่านยมทูต ผู้พรากวิญญาณ (Death) จะปรากฏตัวขึ้นมาทักทายค่ะ

Posted Image


+เอากระจกที่ติดตัวมาไปแขวนยังปลายสุดของเสา (Tip) แล้วกดหมุนกระจกอีกครั้ง . . รินซ์วินด์จะสะท้อนแสงไปเข้าหน้าเจ้ามังกรที่เกาะอยู่ยังยอดหอคอยข้างๆ เข้าอย่างจังค่ะ . . ซึ่งมันจะบินตามมาเอาเรื่องทันที

+แต่พอเห็นกระจกเข้า หมอก็ลืมตัวอดส่องโชว์หล่อไม่ได้ ซ้ำยังเผลอพ่นไฟเข้าใส่กระจกซะอีกแน่ะ แต่นั่นล่ะค่ะที่เราต้องการ ด้วยเพราะตอนนี้ เราได้ลมหายใจของมังกรมาเรียบร้อยแล้ว . . .

+จากนั้นเดินกลับไปยังโซนหลังคาอีกครั้งค่ะ แต่ก่อนจะลงมาข้างล่าง อย่าลืมเก็บบันได (Ladder) ที่พาดอยู่ทางซ้ายมาด้วยนะ . . ซึ่งพอมร.นินจาเดินกลับมาเหยียบอีกครั้ง ก็จะร่วงปุลงไปเลย (ฮา)

-ภารกิจชิ้นที่ 4 – ขดลวดหาไม่ได้ เอาอะไรแทนดีนะ!?-

+ไปยังจัตุรัส Square ค่ะ แล้วเดินไปคุยกับ “เออร์ชิน” (Urchin) เด็กเร่ร่อน จอมแสบประจำซอย (ยืนใกล้ๆ กับนักรบสาวอเมซอน) ซึ่งเขาจะสอนวิชา “แซงค์เทวดา”(Pickpocket) ให้กับเราค่ะ

Posted Image


+โดยเราจะไปลองวิชากับแก๊งผู้เฒ่าทั้ง 4 (Old Timers) แล้วจะได้ของชิ้นหนึ่งติดไม้ติดมือมาด้วย นั่นคือ “ชุดชั้นในสตรี สีชมพูจ๋า” (Bloomers) นั่นเอง (ตาเฒ่าแอบจิต 55)

Note - วิชา Pickpocket จะถูกเก็บอยู่ในเมนูไอเท็มติดตัวของรินซ์วินด์ค่ะ เป็นไอค่อนรูปมือล้วงกระเป๋า

Posted Image


+กลับไปยังย่าน Street อีกครั้ง แล้วเลือกไปยังร้านตัดผมท้ายซอยค่ะ . . พอเข้ามาแล้วจะเจอช่าง (Barber) คนหนึ่งกำลังวุ่นกับการทำผมลูกค้าคนสำคัญอยู่ . .

+ดูๆ จะเห็นว่าเธอคาดโรลม้วนผมอยู่ใช่ไหมคะ!? . . ลองคลิกสำรวจที่โรลม้วนผม (Hair Roller) ดูก่อน (คลิกเม้าส์ขวา) แล้วคุยกับเธอเลยค่ะ . . รินซ์วินด์จะแกล้งอำโดยบอกว่าโครงหน้าแบบเธอนั้น ไม่เหมาะกับผมทรงนี้เลยสักนิด ทางที่ดีควรจะเลือกทรงผมตรงน่าจะเหมาะกว่า . . .

+พอได้ยินเข้าแบบนี้ คุณลูกค้าหุ่นอวบก็จัดแจงสั่งช่างรื้อผมทำใหม่ตามคำแนะนำของเราเลยค่ะ (ฮ่า) แต่เจ้าโรลที่ว่านั่น นายช่างตัวดีดันเก็บไว้กับตัวแทนซะนี่ . . .

+ให้ชวนช่างตัดผมคุยด้วยค่ะ แล้วหมอจะเพ้อกลางวันถึงคนรักแสนสวยของเขา จังหวะนี้ให้รีบใช้วิชา “Pickpocket” แฮ๊บโรลมาจากกระเป๋าเสื้อ (Pocket) ของเขาเลยค่ะ . . แค่นี้ก็ได้ไอเท็มเอาไปใช้แทนขดลวดเวทย์มนตร์แล้ว (ขดๆ ม้วนๆ เหมือนกัน หยวนๆ กันได้ค่ะ . . เฮ)

Note - คลิกให้โดนกระเป๋าเสื้อ (Pocket) นะ ไม่งั้นเก็บโรลไม่ได้ . . จะบอกให้

-ภารกิจชิ้นที่ 5 – กระทะนั้นสำคัญไฉน!?-

+กลับไปยังจัตุรัส Square อีกครั้ง แล้วเข้าไปยังคลินิกจิตแพทย์ค่ะ (จะมีคนขายโดนัท “มร.ดิบเบลอร์”ยืนอยู่หน้าร้าน) . . พอเข้ามาแล้ว จะเจอคุณเลขาปากดีสั่งให้นั่งตามลำดับคิวทันที . . เอ้า นั่งก็นั่งเนาะ

Posted Image


+เป้าหมายของเราคือ “สวิงจับแมลง” (Butterfly Net) ที่แขวนอยู่หลังเก้าอี้คิวที่ 2 นี่แหล่ะค่ะ แต่ดันมีคุณโทรลล์นั่งอยู่ก่อนแล้วนี่สิ . . ให้คุยกับโทรลล์ (เลือกหัวข้อ ?) แล้วเดินออกจากร้านไปเลยค่ะ . . .

+ลองกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง ทีนี้มร.โทรลล์ผู้อารีจะเขยิบที่ให้เราไปนั่งตรงกลางแทนแล้ว (คุยอะไรกันนะ ^ ^) เราก็จะได้สวิงจับแมลงมาได้อย่างสบาย ๆ . . ตรงนี้ให้เก็บไว้กับตัวเลยค่ะ เพราะเดี๋ยวจะต้องใช้อีก

Posted Image


+กลับไปยังลานกว้างหน้ามหาวิทยาลัย แล้วเดินอ้อมไปทางด้านหลัง (Path) แล้วเอาบันไดมาวางพาดกับขอบหน้าต่างเลยค่ะ . . พอปีนขี้นไปดู จะพบว่าด้านหน้าของห้องนี้ก็คือห้องครัวนั่นเอง . . ซึ่งพ่อครัวคนดีก็กำลังสาละวนกับการทอดขนมแพนเค้ก-ลอยฟ้าอยู่ค่ะ

Posted Image


+จัดการเอาสวิงมาช้อนคว้าแพนเค้กที่ลอยอยู่ให้ได้ แล้วพ่อครัวที่รออยู่ข้างล่างจะหัวเสีย ที่แพนเค้กไม่ตกลงมาสักที จนหมอน้อยใจพาลหงุดหงิดเดินหนีไปในที่สุดค่ะ (ฮ่า)

+ปีนกลับลงมาแล้ว ลองสำรวจที่กองถุงสีน้ำตาลที่วางพิงผนังอยู่ จะได้ “กระสอบปุ๋ย” (Fertilizer) มา 1 ถุงค่ะ จากนั้นเดินกลับไปยังห้องครัว เพื่อหยิบ “กระทะเหล็ก”(Frying Pan) ที่วางอยู่บนเตาได้เลย . . เย้ เย้ . .

Posted Image


+เมื่อได้ของที่ต้องการครบหมดแล้ว ให้เดินกลับเอาไปให้ท่านอธิการได้เลยค่ะ ซึ่งท่านก็จะขอเวลาสักแป๊ป สร้างเครื่องแกะรอยมังกรขึ้นมาจนได้ . . แต่แล้วพระเอกเราก็ถูกด้านมืดเข้าครอบงำจนได้ เพราะหมอหวังจะใช้ตามหารังมังกร เพื่อค้นหาสมบัติไปในตัวค่ะ (55)

+แน่นอนว่าท่านอธิการรีบค้านหัวชนฝาทันที แต่สุดท้ายก็ถูกความเจ้าเล่ห์ของรินซ์วินด์ปั่นหัว จนพลาดท่าถูกพระเอกตัวดีหลอกเอาเครื่องแกะรอยมังกรออกมาใช้จนได้ (ฮ่า)

Posted Image


+ในฉากแผนที่ ให้เดินไปสำรวจบริเวณด้านล่างทางซ้าย ก็จะเจอ “โรงนา” (Barn) ซึ่งเป็นแหล่งกบดานของมังกรค่ะ . . แต่พอรินซ์วินด์เดินไปเจอสมบัติกองใหญ่เข้า ก็หน้ามืดดีใจ อารามรีบไปกอบโกยเหรียญทองกองโตเป็นการใหญ่ โดยคงลืมตัวไปกระมัง ว่าที่นี่คือรังของมังกร (ฮี่ ฮี่)

Posted Image


+ในที่สุดพญามังกรก็ปรากฏตัวขึ้นค่ะ พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้ ด้วยการขอให้เราช่วยปลดปล่อยมันเป็นอิสระจากคนที่ปลุกมันขึ้นมาให้ที แลกกับสมบัติกองใหญ่กองนั้น ซึ่งรินซ์วินด์ก็ตกลงค่ะ

+โดยไอเท็มสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ในพิธีปลดพันธนาการก็คือ การรวบรวมของใช้ติดตัวล้ำค่าของกลุ่มคนที่ปลุกมันขึ้นมานั่นเอง!! โอย! แล้วพ่อยอดชายของเราจะไหวไหมเนี่ย . .

Edited by rbgel, 29 July 2010 - 08:48 PM.


#2 kikuntin

    บันทึกลับอสูรฟ้า เคล็ดวิชาอมตะ ตำนานกระบี่เมตไตร ม้วนภาพเทพยุทธ์

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 10921 posts
  • Gender:Male

Posted 21 April 2010 - 11:54 PM

เธกเธฒเธŠเนˆเธงเธขเนเธฅเน‰เธงเธ„เธฃเธฑเธšเธซเธ™เธนเธ•เธนเธ™ เธญเธนเธงเธฅเธฒเธฒเธฒเธฒเธฒเธฒเธฒ

#3 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 21 April 2010 - 11:55 PM

-บทที่ 2 – วิบากกรรมของผู้กล้า!!-

+หลังจากรับฟังคำร้องขอของมังกรตัวยักษ์ ที่ไม่ต่างกับการถูกบังคับทางอ้อมเลยสักนิด พระเอกเราก็จำใจต้องยอมช่วยในที่สุดค่ะ . . ซึ่งการจะรู้ว่าใครคนไหนบ้างที่เป็นคนปลุกมันขึ้นมา ก็เห็นจะมีแต่ต้องย้อนเวลากลับไปดูในอดีตเท่านั้น . . ว่าแต่ จะย้อนเวลาได้ยังไงล่ะ . . ดูท่าการผจญภัยครั้งใหม่จะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เสียแล้ว!!

Posted Image


+กลับไปยังมหาวิทยาลัย แล้วตรงไปยังห้องสมุดทันทีค่ะ . . ที่ด้านในสุดของห้องสมุด จะเจอ “มร.สเลซี่ กาย” (Sleazy Guy) ชายแปลกหน้าท่าทีลับๆ ล่อๆ ยืนอยู่ข้างๆ ชั้นหนังสือ

+ลองกดสำรวจที่ศรีษะของเขาดู จะพบว่าหมอแขวน “กล้วยทองคำ” (Gold Banana) ไว้ที่หัวค่ะ . . จากนั้นลองคุยกับเขา (หัวข้อ ?) แล้วเขาจะขอแลกกล้วยทองคำ กับสมบัติของมังกรทั้งหมดที่เราได้มาจากโรงนาค่ะ

Posted Image


+ให้เอาทองคำที่เก็บมาให้เขาไปทั้งหมด แล้วหมอจะให้กล้วยทองคำเรามาค่ะ . . จากนั้นเดินเอากล้วยทองคำไปยื่นให้คุณจ๋อบรรณารักษ์ แล้วตะแกจะแจ้นไปเปิดประตูเวลาที่ซ่อนอยู่หลังตู้หนังสือให้เราค่ะ . . ซึ่งเจ้าประตูมิติลับ (L-Space) แห่งนี้เอง จะทำให้เราสามารถย้อนเวลากลับไปยังช่วง 12 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ได้ค่ะ . . รินซ์วินด์ กับแฟ้มลับคดีพิศวงเริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ บัดนี้!!

Posted Image


+พอข้ามเวลามาแล้ว ให้รีบไปยืนหลบตรงชั้นวางหนังสือ (Book Shelf) ทางซ้าย (ที่คุณจ๋อเธอนอนอยู่น่ะค่ะ) แล้วรอสักพัก ก็จะเจอหัวขโมยตัวดีแอบย่องมาขโมยหนังสือเล่มหนึ่งออกไปค่ะ ซึ่งเจ้าหนังสือที่ว่า แท้ที่จริงแล้วก็คือ “ตำราปลุกชีพมังกร” นั่นเอง

Posted Image


+พอเจ้าขโมยเปิดทางลับ (Book Shelf) ออกไปแล้ว ให้รีบตามหมอแกออกไปยังแผนที่โลกเลยค่ะ . . สังเกตดูจะพบว่าเจ้าขโมยจะหนีไปซ่อนยังแหล่งกบดาน (Hide Out) ของมัน ซึ่งแน่นอนว่า สถานที่แห่งนี้ต้องเป็นที่เกิดเหตุในการคืนชีพมังกร และเป็นแหล่งชุมนุมของสมาชิกคนอื่นๆ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย . . .

+ตามเข้าไปยังแหล่งกบดาน จะพบว่าเราไม่มีรหัสสำหรับผ่านประตู และจะโดนยามเฝ้าไล่ออกมาในที่สุด (ฮ่า)

Posted Image


+ไปยังสวนสาธารณะ (Park) ที่อยู่ใกล้ๆ กัน จะพบพ่อมดขี้เมา (Drunk) คนหนึ่ง นอนหลับอยู่บนม้านั่งค่ะ . . สังเกตดูจะเห็นว่ามีผีเสื้อตัวหนึ่ง บินขึ้น-บินลงตามจังหวะนอนกรนของหมอด้วยนะ . . ให้จัดการเอากบยัดปากตะแกซะเลยค่ะ จะทำให้ผีเสื้อบินต่ำลงมาได้ (เพราไม่มีเสียงนอนกรนแล้ว) จากนั้นเอาสวิงมาเหวี่ยงจับ “ผีเสื้อ” (Butterfly) มาซะเลย (ฮี่ ฮี่)

Posted Image


+มุ่งหน้าต่อไปยังย่าน Street แล้วไปยังร้านขายของโทรลล์ บริเวณกลางซอย . . เก็บ “หม้อ” (Pot) ที่วางอยู่บนขอบหน้าต่างทางซ้ายมา แล้วเอาผีเสื้อไปใส่ยัง “ตะเกียง” (Lamp) ที่แขวนอยู่หน้าร้านค่ะ . . ซึ่งภาพจะตัดไปยังอนาคตในอีก 12 ชม.ต่อมา (ยุคปัจจุบัน) ซึ่งจะมีนักบวชคนหนึ่งยืนอยู่ แล้วจู่ๆ ก็ถูกฝนจนเปียกปอนไปหมดทั้งตัว (ฮ่า)

Quote

Note – มุขในเกมตรงนี้ ล้อ ”ทฤษฎีผีเสื้อขยับปีก” (The Butterfly Effect) หรือ “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” ค่ะ ซึ่งเชื่อว่าเหตุการณ์ในอดีตและปัจจุบัน อยู่บนเส้นแกนเวลาเดียวกัน ดังนั้นการกระทำการใดๆ ในอดีตย่อมส่งผลกระทบถึงปัจจุบัน ดังคำกล่าว "แม้ผีเสื้อกระพือปีก ก็อาจเกิดพายุกระหน่ำ ถึงครึ่งโลก" ค่ะ . . แสดงถึงแนวคิดการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในเงื่อนไขของระบบนิเวศ แต่ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ ที่นำไปสู่ปรากฏการณ์ขนาดใหญ่ในที่สุด

Posted Image


+จากนั้น กลับไปยังย่าน Street ในยุคปัจจุบันอีกครั้ง ผ่านทางลับข้างมหาวิทยาลัย (Hole) ที่เราออกมาค่ะ . . แล้วไปยังซอย (Alley) ที่อยู่ข้างๆ ร้านขายปลา จะเจอ “เสื้อคลุมสีดำ” (Robe) ตัวหนึ่ง แขวนอยู่ที่ราวหน้าห้องน้ำ จัดการแฮ๊บมาซะเลยค่ะ (55)

Posted Image


+มุ่งหน้าไปยังบาร์เหล้า “Broken Drum” กันต่อค่ะ (อยู่ข้างล่างพระราชวังนิดนึง) . . เดินเข้าไปข้างใน แล้วลองสั่งอะไรมาดื่มดับกระหายกับเจ้าของร้าน (Barman) ซดเสร็จแล้วเก็บ “เหยือกเบียร์” (Tankard) มาด้วยนะคะ

+มีอะไรกลั้วคอแล้วชักติดใจ . . แหม ลองสำรวจชั้นวางเหล้าหลังเคาน์เตอร์ดูสิคะ (คลิกเม้าส์ขวา) จะเจอเหล้า “Counterwise Wine” (ขวดสีเขียว) ให้ลองสั่งมาย้อมใจอีกสัก 1 จอก . . อะฮ่าลลลลล . . ชื่นใจ . . กินเสร็จแล้ว เก็บ “แก้วเปล่า” (Glass) เก็บไว้อีกหนึ่งใบค่ะ พร้อมกับ “กลักไม้ขีด” (Matches) ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ทางขวามือด้วยนะ แล้วออกจากร้านไปเลยค่ะ

Posted Image


+กลับไปยังแหล่งกบดานของโจรในยุคอดีตอีกครั้ง . . มาถึงแล้วรีบกดหมุนท่อน้ำ (Drainpipe) ทางซ้าย (อยู่เหนือถังไม้) ให้หันไปทางประตู แล้วรีบเดินมาหลบยังหลังกำแพงทางขวามือทันที . . รอสักพักแล้วเจ้าขโมยตัวดีจะปรากฏตัวขึ้นมาตอบรหัสผ่านประตูค่ะ ตรงนี้ให้รีบกดใช้แก้วเปล่าแนบกับท่อน้ำที่อยู่ข้างๆ ทางขวามือได้เลยค่ะ ซึ่งวิธีนี้ก็จะทำให้เราทราบรหัสผ่าน (ที่ยาวโคตรๆ) มาจนได้ (^ ^)

Posted Image


+เอาเสื้อคลุมดำมากดใช้กับตัวเอง แล้วแอบเนียนเข้าไปเคาะประตู ขอร่วมพิธีกรรมอัญเชิญมังกรได้เลยค่ะ . . ซึ่งตรงนี้เราจะได้เห็นพิธีการทั้งหมด รวมทั้งเหล่าผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหลายในลัทธิมืดกลุ่มนี้ด้วย . . หน้าที่ต่อไปของรินซ์วินด์ก็คือการตามไล่ล่าเอาสมบัติติดตัวของลูกพรรคแต่ละคนมา เพื่อปลดปล่อยมังกรร้ายให้จงได้ค่ะ . . ว่าแต่สมาชิกที่ว่านั้น มีใครกันบ้างล่ะ!?

-รินซ์วินด์ กับแฟ้มลับคดีพิศวง ภาคไขปริศนา ตอนที่ 1-


Posted Image


+กลับไปยังยุคปัจจุบันกันก่อนค่ะ แล้วไปที่บาร์ Broken Drum อีกครั้ง . . ลองหาข่าวสารโดยการคุยกับชาวเมืองคนอื่นๆ ดู ซึ่งตรงนี้จะเจอกับ “มร.สแคเร็ด กาย” (Scared Guy) ผู้มีท่าทีหวาดหวั่นอยู่ตลอดเวลาค่ะ . . คุยกันแล้ว เขาจะเล่าเรื่องน่ากลัวที่เพิ่งประสบมาเมื่อคืนให้เราฟังค่ะ เหตุที่มีผีผ้าห่มปรากฏตัวขึ้นมาชิงใบผ่านทางของเขาไป . . .

Posted Image


+จากนั้น ให้ไปยังโรงแรม Inn ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือกันต่อค่ะ . . มาถึงแล้วเข้าไปยังห้องแรกของโรงแรม แล้วสำรวจบนเตียง จะได้ “ผ้าปูที่นอน” ( Sheet) มา 1 ผืนค่ะ แล้วไปหยิบ “ครีมอาบน้ำ” (Bubble Bath) จากห้องน้ำทางขวามาซะด้วยเลย

Posted Image


+ย้อนเวลา กลับไปยังโรงแรม Inn ในอดีตอีกครั้ง คราวนี้จะเจอจอมตาขาว “สแคเร็ด กาย” กำลังหลับอุตุอยู่เลย . . ให้จัดการเอาผ้าปูที่นอนคลุมตัวไว้ แล้วคุยกับเขาดูค่ะ แต่หมอจะไม่ยอมคุยด้วย นอกจากนั่งตัวสั่นงั่กๆ คลุมโปงท่าเดียว (สรุปแล้วเราคือผีคนที่ว่านั่นเอง . . ฮ่า)

+เดินไปปิดประตูห้อง แล้วลองสำรวจ “กล่องเก็บเครื่องเพชร” (Jewelry Box) ที่หัวเตียงดู แล้วเราจะได้รหัสสำหรับเปิดตู้เซฟทางซ้ายมาค่ะ . . แต่พอลองเปิดเข้าจริงๆ กลับไม่ยักกะเปิดได้ (อ้าว) สงสัยต้องกลับไปเค้นถามหมอนี่ในยุคปัจจุบันอีกทีซะแล้วสิเนี่ย

+ย้อนเวลา กลับไปยังบาร์ Broken Drum ในยุคปัจจุบันอีกครั้ง แล้วสอบถามรหัสเปิดเซฟจากมร.สแคเร็ด กายอีกรอบ . . จากนั้นรีบย้อนกลับไปยังโรงแรม Inn ในอดีตทันทีเลยค่ะ

Posted Image


+มาถึงแล้ว จัดการแกล้งหลอกเป็นผีผ้าห่มอีกรอบ . . พอหมอคลุมโปงแล้ว รีบไปสำรวจกล่องเก็บเครื่องเพชรตามเดิมค่ะ แต่เที่ยวนี้เราจะหา “ใบผ่านประตูเมือง” (Pass) เจอจนได้ (เพราะพี่เล่นซ่อนไว้อีกที่นั่นเอง)

Posted Image


+ย้อนเวลากลับไปยังยุคปัจจุบัน แล้วไปยังประตูเมือง (City Gate) ที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือกันต่อค่ะ . . เอาใบผ่านทางแสดงให้ยามเฝ้าประตูดู แล้วเขาจะอนุญาตให้เราออกไปยังนอกเมืองได้ค่ะ

Posted Image


+ที่นอกเมือง จะมีสถานที่สำคัญหลายที่ดังนี้คือ ป่าเขียว (Woods) ซึ่งข้างในจะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ , ป่าทมิฬ (Dark Wood) ซึ่งเป็นที่อยู่ของ “แนนนี่ อ็อก” (Nanny Ogg) หนึ่งในสามแม่มดผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักร Discworld ค่ะ , สุดขอบจานของพิภพ (Edge of World) ชายขอบที่ทุกอย่างถูกพัดพาหลุดออกไปด้วยน้ำตกขนาดมโหฬารที่ตกออกไปในอวกาศ , ช่องแคบกลางหุบเขา (Gorge) ที่ซ่อนของสุสานโบราณ (ยังไม่ปรากฏในตอนนี้) และแห่งสุดท้าย “เหมืองแร่”(Mine) ที่อยู่ของคนแคระช่างตีดาบค่ะ (ยังไม่ปรากฎในตอนนี้)

Posted Image


+ก่อนอื่น ให้เดินไปยังแนวภูเขาสีขาวที่กั้นระหว่างป่ากันก่อนค่ะ . . ซึ่งในนี้ระหว่างทางที่เดินๆ อยู่ เราจะเจอกับมอนสเตอร์ “ไก่มังกร” ตัวหนึ่ง แต่ระหว่างที่คุยกันอยู่นั้นเอง เจ้ากำปั่นคู่ใจดันเผลอวิ่งมาชนเข้าอย่างจัง จนมันเตลิดหนีไปในที่สุดค่ะ . . ทิ้งไว้แต่ “ไข่” (Egg) และ “ขนของมัน” (Feather) ให้ดูต่างหน้า . . จัดการเก็บมาแล้วไปกันต่อเลย

Posted Image


+มุ่งหน้าไปยัง “ขอบจานของพิภพ” (Edge of World) ที่อยู่ไกลสุดขอบฟ้า (ดูแผนที่นะคะ) . . แล้วลองเดินไปเขย่าต้นมะพร้าว จะทำให้ลูกมะพร้าว (Coconuts) ตกลงมาค่ะ แต่ดันตกลงไปในน้ำนี่สิ!? . . ไม่เป็นไรค่ะ จัดการเอาสวิงจับแมลงมาช้อนมันขึ้นมาซะเลย (แฮ่ม)

+กลับไปยังโรงนา (Barn) ที่พบมังกรอีกครั้ง แล้วลองสำรวจที่กำแพง (จุดที่มีตะปูแขวนอยู่) บริเวณหน้ามังกร จะได้ “ไขควง” (Screwdriver) มา 1 อันค่ะ . . จัดการเอาไขควงมาเฉาะมะพร้าวให้แตกออก เตรียมไว้ซะเลย

-ยุทธการท้าพิสูจน์ความเป็นชายชาตรี-

+มุ่งหน้าไปยังจัตุรัส Square ค่ะ แล้วไปคุยกับเจ้าเด็กเร่ร่อน “เออร์ชิน” คนเดิม จะพบว่าตอนนี้หมอเลื่อนขั้นตัวเองกลายเป็น “ดาวป๊อปประจำซอย” (Lovable Street Starfish) ไปซะแล้ว (ฮ่า) ซึ่งพอคุยกันแล้ว เขาจะสาธิตวิธีทักทายแบบพิลึกพิลั่น ซึ่งกำลังฮิตมากในตอนนี้ให้เราดูค่ะ . . .

Posted Image


+แต่พอเราอยากจะลองทำตามบ้าง เจ้าเด็กจอมแสบดันกลับไม่สอนให้ซะอย่างนั้น จนกว่าเราจะแสดงสัญลักษณ์ความเป็นลูกผู้ชายให้เห็นค่ะ . . แล้วมันทำยังไงกันล่ะ ไอ้เจ้าความสมชาย ใจร้อยแรงม้าเนี่ย!?

Posted Image


+ก่อนอื่นเดินเข้าไปยังคลินิกจิตแพทย์ก่อนค่ะ . . แล้วนั่งรอคิวตามเคย . . ช่วงนี้ลองชวนคุณโทรลล์หินเจ้าเก่าคุยดู แล้วมิสเลขาฯ ปากดีจะเรียกให้ขึ้นไปพบคุณหมอที่ชั้น 2 เพื่อตรวจอาการค่ะ

+ระหว่างนอนตรวจอาการอยู่นั้น คุณหมอก็จะซักโน่นถามนี่ไปเรื่อยๆ และที่สุดแล้วเขาจะมอบ “ภาพหยดหมึก” (Ink Blot) ให้เรามา 2 ใบค่ะ

Quote

Note – เทคนิคหยดหมึก “Inkblot Technique” หรือแบบทดสอบบุคลิกภาพ Rorschach Test (เรียกเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้คิดค้น คือจิตแพทย์เฮอร์มานน์ รอร์สชาช) เป็นวิธีที่จิตแพทย์ใช้ทดสอบบุคลิกภาพ เพื่อเปิดเผยสิงที่อยู่ในใจของผู้ถูกทดสอบ โดยการดูภาพของหยดหมึก แล้วตอบคำถามจากภาพที่เห็นค่ะ

+กลับไปยังพระราชวัง แล้วเอารูปหยดหมึกภาพใดภาพหนึ่งยื่นให้ยามคนใดก็ได้ค่ะ แล้วเขาจะทะเลาะจนตีกันเองอีกตามเคย (ฮา) ทำให้เราผ่านเข้าประตูวังได้โดยสะดวก

Posted Image


+ที่หน้าบัลลังก์ไต่สวนคดี ให้เดินไปคุยกับ “มร.เพซซันท์ (Peasant) ที่ยืนต่อคิวอยู่ ซึ่งก็คือชาวไร่ที่ห้อยลูกเจี๊ยบไว้ตามตัวนั่นล่ะค่ะ . . แล้วเขาจะเล่ารายละเอียด รวมทั้งวิธีการเข้าไปใน “ย่านอโคจร” (Shades) ซึ่งมีแต่มหาโจร และหญิงงามเมืองให้เราฟัง

Posted Image


+คุยจบแล้ว กลับเข้าไปยังทางเดินด้านหลังมหาวิทยาลัยอีกครั้ง แล้วเก็บ “ถังขยะ” (Garbage Can) ที่กองอยู่ข้างผนังมา แล้วไปหยิบ “กล้วย” (Banana) และ“แป้งข้าวโพด” (Cornflour) มาจากชั้นวางในห้องครัวของมหาวิทยาลัยค่ะ

Posted Image


+ย้อนเวลา กลับไปยังย่าน Street ในยุคอดีต แล้วไปยังตรอกเล็กๆ ที่อยู่ติดกับร้านขายปลาค่ะ . . มาถึงแล้วให้เปิดประตูห้องน้ำ แล้วลองสำรวจ (คลิกขวา) “ข้อความที่สลักอยู่หลังประตู” (Graffiti) ดู จะพบสารลับที่บอกใบ้ ได้ใจความว่า “จงมุ่งหาแซลลี่ หากถวิลความเป็นชาย” (!?) . . แล้วแม่แซลลี่จอมลึกลับนี่เป็นใครกันละเนี่ย!?

Posted Image


+มุ่งหน้าไปยังย่าน Shades ทันที (ตรอกนี้ไม่ว่าจะมาเวลาไหน ก็จะมืดครึ้มเป็นกลางคืนอยู่เสมอไป) แล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านที่อยู่บนเนินสูง ณ สุดซอยค่ะ . . มาถึงแล้วจะพบว่าแท้ที่จริงแล้ว ที่นี่คือ “เคหาสน์นางโลม” (Cathouse) นั่นเอง!!

+ลองสอบถามแม่สาวชุดแดงที่ยืนหว่านเสน่ห์อยู่บนระเบียงชั้น 2 ถึงวิธีแสดงความเป็นลูกผู้ชายดู แล้วเธอจะขอของสำคัญ 3 อย่าง เพื่อใช้ทำความประสงค์เราให้เป็นจริง ดังนี้คือนม , ไข่ และแป้งข้าวโพดค่ะ . . .

+ให้จัดการค้นสรรพไอเท็มในกำปั่นคู่ใจ แล้วมอบ “ไข่มังกร , แป้งข้าวโพด และมะพร้าวที่เจาะแล้ว (กะทิแทนนม)” ให้เธอไปเลยค่ะ . . แล้วเธอจะชวนเราเข้าไปข้างในหอสวีต เพื่อสอนวิธีกวนคัสตาร์ดชวนชื่นกัน 2 ต่อ 2 จ้า แถมเมื่อสำเร็จวิชาแล้ว เธอยังให้ “ชั้นในสตรี สีเหลือง” (Bloomers) เรามาเป็นที่ระลึกอีกต่างหาก (^ ^)

Posted Image


+รีบเอาชั้นในตัวใหม่นี้ไปให้เจ้าเด็ก “เออร์ชิน” ตัวดีที่จตุรัส Square ในยุคปัจจุบันทันทีค่ะ แล้วหมอจะยอมรับในความเป็นชายชาตรีของเรา จนยอมสอนท่าทักทายสุดแนวให้กับเราในที่สุด (เฮ) . . และเมื่อลองวิชาดูครั้งแรก กับแก๊งผู้เฒ่า Old Timers ทั้ง 3 (ไปเฝ้าเง็กเซียนคนหนึ่งแล้วค่ะ . . ฮ่า) ดู ก็จะได้ “ยกทรง” (Bra) ติดมือมา 1 ตัว อีกตะหาก (ตาแก่แอบจิต!?)

Note – ความสามารถ Handshake นี้ จะถูกเก็บอยู่ในเมนูไอเท็มติดตัวของรินซ์วินด์ค่ะ เป็นไอค่อนรูปจับมือกัน

Edited by rbgel, 29 July 2010 - 08:50 PM.


#4 kikuntin

    บันทึกลับอสูรฟ้า เคล็ดวิชาอมตะ ตำนานกระบี่เมตไตร ม้วนภาพเทพยุทธ์

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 10921 posts
  • Gender:Male

Posted 21 April 2010 - 11:56 PM

เธชเธนเน‰เน‚เธงเน‰เธขเธขเธขเธขเธขเธขเธขเธขเธข เธ•เธฒเธกเธšเธฑเธเธŠเธฒเธซเธ™เธนเธ•เธนเธ™

#5 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 21 April 2010 - 11:57 PM

-ยุทธการตามล่าล้างทรชน-

-เป้าหมายที่ 1 – ตลกหลวง “Fool” แห่งพระราชวัง-

+มุ่งหน้าไปยังพระราชวัง แล้วเอารูปหยดหมึกที่เหลืออีกภาพ ยื่นให้ยามคนใดก็ได้เหมือนเช่นเคยค่ะ ก็จะผ่านประตูวังมาได้อย่างง่ายดาย (กัดกันประจำคู่นี้)

Posted Image


+เข้ามาแล้ว จัดการเอาถังขยะไปเทใส่เจ้าตัวตลกที่ยืนทำหน้าทะเล้นอยู่ข้างบัลลังก์ แล้วหมอจะรีบแจ้นไปล้างตัวในห้องน้ำทันที (ฮ่า) . . ให้รีบตามเข้าไปทันทีค่ะ จะเจอจอมตลกกำลังอาบน้ำล้างตัวอย่างสบายใจอยู่ในอ่าง ซึ่งข้างๆ กันนี้ก็มี “ฮู้ดคลุมหัวที่มีกระพรวนทองห้อยอยู่” (Cap) แขวนอยู่ด้วย ซึ่งไอเท็มชิ้นนี้ก็คือเป้าหมายของเรานั่นเอง!!

Posted Image


+ให้เอาครีมอาบน้ำเทใส่อ่าง (Bath) แล้วจะเกิดฟองฟู่เต็มไปหมด ซึ่งสามารถใช้พรางตาในการจารกรรมได้เป็นอย่างดี (ไม่งั้นเจ้าคฑาจอมโวยวายจะร้องเตือนให้เจ้าของมันรู้ตัวค่ะ) . . ในที่สุดเราก็ได้มาแล้ว ไอเท็มสำคัญชิ้นแรกในการคืนอิสรภาพให้กับมังกร (เฮ)

-เป้าหมายที่ 2 – เมสัน “ช่างปูน” แห่งย่านอโคจร-


Posted Image


+มุ่งหน้าไปยังย่าน Shades แล้วเดินไปยังบริเวณกลางซอย (อยู่กึ่งกลางระหว่างเคหาสน์นางโลม) . . ที่นี่ เราจะเจอ “มร.เมสัน” ช่างปูนคนขยันกำลังฉาบผนังอยู่ค่ะ . . ให้จัดการทักทายเขาด้วยท่า Handshake สุดแนว แล้วจะสามารถชิง “เกรียงทองคำ” (Trowel) มาได้อย่างง่ายดาย (ฮัดช่า)

-เป้าหมายที่ 3 – ตีนแมวขี้เซา “Theif” แห่งย่านอโคจร-


Posted Image


+จากจุดที่พบเมสัน ให้กลับไปยังทางเดินทางขวา บริเวณหน้าเคหาสน์นางโลมค่ะ จะเจอบ้านประหลาด (Hovel) อยู่หลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่โด่ๆ โดยไม่มีทางเดินไปถึงแต่อย่างใด . . ให้จัดการเอายกทรงมาพันขาบันไดซะ แล้วค่อยใช้บันไดพาดเป็นทางเชื่อมเข้าประตูบ้านแทนค่ะ

Posted Image

+พอเข้ามาข้างในแล้ว จะเจอขโมยคนหนึ่งนอนหลับอยู่อย่างสบายอุราเลยทีเดียว . . สังเกตที่เอวดูสิคะ หมอแกคล้อง “กุญแจกระโหลกทอง” (Skeleton Key) ติดตัวไว้ซะด้วยนะ . . แต่พอลองหยิบดู ตะแกกลับดิ้นพลิกตัวกลับซะงั้น (บ๊ะ) . . ให้เอาขนไก่มังกรมาแหย่เท้าหมอเลยค่ะ แล้วแกจะดิ้นยุกยิกๆ พลิกตัวกลับมา ให้เราปล้นกุญแจทองได้อย่างสบาย ๆ (ฮ่า)

Note – ขากลับ อย่าลืมเก็บบันไดมาด้วยนะ ตอนหลังต้องใช้อีก!!

-เป้าหมายที่ 4 – ช่างกล “Dunnyman” แห่งจัตุรัสกลางเมือง-


Posted Image


+มุ่งหน้าไปยังจัตุรัส Square แล้วไปคุยกับมร.ดิบเบลอร์ที่ยืนขายโดนัทอยู่หน้าร้าน (เลือกคุยไอค่อนรูปปาก) แล้วจะได้ “โดนัท” (Donut) มากินฟรีๆ 1 ชิ้นค่ะ

Posted Image


+จากนั้นเดินเข้าไปในตรอกเล็กๆ ที่อยู่หลังมร.ดิบเบลอร์ (ติดกับแผงมะเขือเทศ) จะเจอเครื่องจักรขนาดยักษ์เครื่องหนึ่งกำลังทำงานอย่างแข็งขัน . . ให้ยืนรอตรงนี้สักพักแล้ว “มร.แดนนี่แมน” ช่างเครื่องประจำซอย จะเดินมาตรวจงานค่ะ . . ให้เอาโดนัทของโปรดยื่นให้เขากิน แล้วจู่ๆ หมอจะเกิดอาการปวดฟันขึ้นมาจนทนไม่ไหว จนถึงกับต้องแจ้นไปหาหมอฟันกันเลยทีเดียว . . .

Posted Image


+กลับออกมาแล้วไปยังคลินิกจิตแพทย์อีกครั้งค่ะ . . หลังจากนั่งรอตามคิวแล้ว ให้ลองคุยกับคุณผู้หญิงผมทองคิวแรกดู ก็จะรู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว เธอก็คือนางในฝัน แฟนสาวสุดเลิฟของช่างตัดผมแห่งย่าน Street นั่นเอง ซึ่งตรงนี้เธอจะฝาก “โน้ตสื่อรัก” (Note) มาให้เราเป็นตัวแทนไปยื่นให้เจ้าตัวด้วยนะ

Posted Image


+ไปยังร้านตัดผมในย่าน Street ทันทีเลยค่ะ ก็จะพบหมอฟันคนที่ว่า ซึ่งจริงๆ แล้วก็คืออีตาช่างตัดผมเจ้าเก่านี่เอง (รับหลายจ๊อบเหลือเกิน . . ฮ่า) ให้เอาโน้ตสวีตยื่นให้เขาดู แล้วหมอจะเกิดอาการตาลุก รีบฝากร้านให้เราดูแทนก่อนจะแจ้นไปหาแฟนสาวสุดเลิฟในทันใด (^ ^)

Posted Image


+เจ้าของร้านตัวจริงไม่อยู่แล้ว อย่างนี้ก็สวยสิคะ ว่าแล้วก็ทำเนียนจัดการถอดฟันคุดเจ้าปัญหาต่อดีกว่า . . ให้สำรวจที่ “เครื่องถอนฟัน” (Apparatus) ทางขวามือ แล้วเราก็จะปลุกปล้ำขย้ำคอจนสามารถถอน “ฟันทอง” (Tooth) ของแดนนี่แมนมาจนได้ ในที่สุดค่ะ (เฮ)

-เป้าหมายที่ 5 – พ่อค้าปลา “Fishmonger” แห่งย่านการค้า-

+ย้อนเวลากลับไปยังบาร์ Drum ในอดีต แล้วเข้าไปคุยกับ “มร.ฮับแลนเดอร์” (Hublander) ขาเปรี้ยว (เลือกคุยไอค่อนรูปปาก) แล้วจะถูกหมอต่อยเอาดื้อๆ ซะ 2 หมัดเฉยเลย (อ้าว!?) . .

Posted Image


+ไม่เป็นไรค่ะ เปลี่ยนไปคุยกับ “มร.ลิตเติ้ล กาย” (Little Guy) ชายเจี๋ยมเจี๊ยมที่โต๊ะข้างๆ แทนดีกว่า . . พอคุยจบแล้ว ให้สำรวจ “รูปภาพ” (Picture) ที่แขวนอยู่ข้างหลังทันที แล้วมร.ลิตเติ้ล กายจะเหลียวกลับไปมองด้วยความสนใจ

Posted Image


+จังหวะนี้ รีบเดินไปคว่ำ “แก้ว” (Glass) ที่วางอยู่บนโต๊ะทันใด ทำนองชวนหาเรื่อง ซึ่งพอมร.เจี๋ยมเจี๊ยมหันมาเจออีกที ก็ของขึ้น หันไปเขม่นกับโต๊ะข้างๆ ซึ่งกำลังร้อนวิชาอยู่พอดี . . แน่นอนล่ะค่ะ ว่าต่อมาทั่วทั้งร้านต่างก็วิวาทกันชุลมุนชุลเกมั่วไปหมด ไม่เว้นแม้แต่พระเอกของเราก็ยังถูกลูกหลง โดนจับโยนออกมาข้างนอกด้วยเช่นกัน (ฮ่า)

Quote

Note – หนึ่งในเกร็ดน่ารู้ประจำวงเหล้าคือ หากต้องกินเหล้ากับฝรั่ง ห้ามคว่ำแก้วโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในถิ่นของเค้าด้วยแล้ว เพราะการทำเช่นนั้น หมายความว่า คุณท้าต่อยกับทุกคนในร้านนั้นค่ะ ^ ^

Posted Image


+เหตุการณ์เลือดเดือดลุกลามใหญ่โตจนท่าจะไม่จบลงง่ายๆ ร้อนถึงพี่โทรลล์ขาเบิ้มที่ยืนคุมอยู่หน้าร้านต้องแจ้นเข้าไปห้ามศึกอย่างช่วยไม่ได้ (รู้แล้วใช่ไหมคะ ว่าทำไมร้านในปัจจุบันถึงชื่อ Broken Drum!?) . . จังหวะนี้เอง ให้รีบเอาบันไดพาดขอบประตูปีนขึ้นไปเก็บ “ไม้กลอง” (Drumstick) ที่แขวนอยู่หน้าร้านมาค่ะ

Posted Image


+ย้อนเวลากลับไปยังมหาวิทยาลัยในยุคปัจจุบัน แล้วตรงดิ่งไปยังห้องอาหารทันที . . ให้เอาไม้กลองไปตีก๊อง ก๊องกับกลองใหญ่ที่อยู่ทางขวา แล้วนายพ่อมดฝึกหัดที่นั่งท่องตำราอยู่ในสวนหน้ามหาวิทยาลัย จะรีบแจ้นขึ้นมาโซ้ยอาหารด้วยความดีใจ ด้วยเข้าใจว่าเป็นสัญญาณบอกมื้อว่างแล้วนั่นเอง (ฮ่า)

+เดินกลับไปยังสวนหน้ามหาวิทยาลัย แล้วสำรวจบนม้านั่ง จะเจอ “ลูกพรุนแห้ง” (Prunes) ขนมกรุบที่พ่อมดฝึกหัดชอบกินเล่นนั่นเองวางอยู่ . . จัดการแฮ๊บมาซะเลย (ฮี่ ฮี่)

Posted Image


+กลับออกไปนอกเมือง แล้วมุ่งหน้าไปยังกระท่อมที่ตั้งอยู่เดียวดายในป่า “Dark Wood” ซึ่งที่นี่จะเจอหม้อยา ขนาดเขื่อง (Cauldron) กำลังตั้งไฟเดือดปุดๆ อยู่ใบหนึ่งค่ะ . . ให้เอาหม้อที่เก็บมา จัดการตัก “คัสตาร์ด” (Custard) ที่เคี่ยวอยู่ในนั้นมาเสีย แล้วกลับไปยังร้านขายปลาที่ตั้งอยู่ในย่าน Street ได้เลยค่ะ

Posted Image


+มาถึงแล้ว จัดการเอาเชือก String มามัดกับปลาหมึกเขียว (Octopus) ที่วางอยู่ทางขวา แล้วเดินไปยังตรอกเล็กๆ หลังร้านต่อทันใด . . จัดการเอาหม้อคัสตาร์ดเทใส่โถชักโครก (Can) แล้วเอาปลาหมึกอวบยัดตามลงไปอีกที . .

Posted Image


+จากนั้นแอบเอาลูกพรุนไปยัดไส้ “ไข่ปลาคาร์เวียร์” (Caviar) ที่พ่อค้าปลาชอบกิน ซึ่งสักพักก็ได้เรื่องค่ะ เพราะหมอจะออกอาการจู๊ดๆ ขึ้นทันตา ซึ่งพอวิ่งไปเจอะโถสวรรค์หลังร้านเข้าก็ถึงกับโตะกระจาย จากมหกรรมระเบิดส้วมที่เราวางยาไว้ (ฮ่า) . . หลังจากพ่อค้าน็อกมืดไปแล้ว ก็จัดแจงเก็บ “เข็มขัดทองคำ” (Belt) ที่กองอยู่มาได้เลยค่ะ (อี๋!!)

-เป้าหมายที่ 6 – คนล้างปล่องไฟ “Chimney Sweep” แห่งตรอกพิสดาร-


+ไปยังร้านขายของเล่นที่อยู่ต้นซอย แล้วหยิบ “ตุ๊กตาซานตาครอส” (Doll) ที่วางอยู่ในกระบะเซลล์มาเก็บไว้กับตัวของรินซ์วินด์ จากนั้นมุ่งหน้าไปยังประตูเมืองค่ะ ลองสำรวจที่ลัง (Crate) ดู แล้วจะได้ “ถังดินประสิว” (Keg) และ “ประทัด” (Fireworks) มาค่ะ

Posted Image


+กลับไปยืนเหยียบบล็อกลอยฟ้า ยังกลางตรอกพิสดาร พอเราโดนดีดลอยกระเด้งขึ้นไปหล่นบนหลังคาแล้ว ให้เอาตุ๊กตาซานตาครอสไปหย่อนลงในปล่องไฟ (Chimney) ทางขวา ซึ่งเป็นบ้านของจอมแปรธาตุค่ะ

Posted Image


+ผลก็คือตอนนี้ฝุ่นผงจำนวนมหาศาลจะฟุ้งตลบกระจายทั่วบ้านเต็มไปหมด ร้อนถึงเจ้าของบ้านแกยังทนไม่ได้ ต้องแจ้นหนีไปหาที่สูดอากาศหายใจกันทีเดียวค่ะ (ฮา) จากนั้นปีนหน้าต่างกลับลงไปข้างล่างได้เลย

Note – คนล้างปล่องไฟ เป้าหมายคนสุดท้ายของเรา ก็กำลังง่วนขัดปล่องไฟอยู่หลังคาบ้านข้างหลังนี่เองนะคะ

+เดินเข้าไปในบ้าน แล้วจัดการเอาถังดินประสิวไปวางใส่เตาผิง (Fireplace) ทางซ้ายมือ แล้วใช้เชือก (String) กับถังดินประสิว (Keg of Gunpowder) อีกที เป็นการเดินสายชนวน ซึ่งรินซ์วินด์เราจะลากสายนี้ออกไปข้างนอกบ้านผ่านทางท่อระบายน้ำค่ะ

Posted Image


+กลับออกไปนอกบ้าน จะเห็นว่าที่ปลายท่อจะมีสายชนวน (Fuse) โผล่ออกมาแล้ว . . อย่ามัวรอช้าค่ะ รีบเอาไม้ขีดมาจุดซะเลย แล้วทุกอย่างก็จะระเบิดตูม!!! ซึ่งแน่นอนว่าสหายล้างปล่องไฟของเราก็หลบไม่พ้น โดนแรงระเบิดอัดเข้าอย่างจังจนกระเด็นไปไกล แล้ว “แปรงขัดทองคำ” (Brush) ก็จะมาอยู่ในความครอบครองของเราอย่างง่ายดาย

+จากนั้น รีบเอาสมบัติทองคำทั้ง 6 ชิ้น อันได้แก่ กระพรวนทองคำ (ติดหมวก) , เกรียงทองคำ , ฟันทองคำ , เข็มขัดทองคำ , กุญแจทองคำ และแปรงขัดทองคำ ไปมอบให้พญามังกรตัวแสบทันทีค่ะ

-การล้างแค้นของมังกร-

+แต่ปัญหายุ่งๆ ก็ตามมาอีกจนได้ เพราะหลังจากพญามังกรได้รับอิสรภาพแล้ว มันกลับแข็งข้อ ไม่ยอมกลับไปยังถิ่นเดิมตามสัญญา และยังเลยเถิดไปถึงขั้นผูกใจเจ็บ และคิดจะแก้แค้นผู้ที่ปลุกมันขึ้นมาซะด้วยสิ . . อ้าว! เวรแล้วไง! . . เจอเข้าอีแบบนี้ เห็นทีพระเอกของเราต้องตามไปยับยั้งไม่ให้มีพิธีกรรมปลุกมันขึ้นมา ท่าจะดีกว่าละมั้งเนี่ย

+มุ่งหน้าไปยังจัตุรัสกลางเมือง ซึ่งคราวนี้จะเจอแม่มด “แนนนี่ อ็อก” มาเปิดแผงขายพรมอยู่ที่นี่ด้วยค่ะ (ยืนอยู่ข้างๆ มร.ดิบเบลอร์) คุยแล้วแนนนี่ด้วยหัวข้อ ? แล้วรินซ์วินด์จะขอซื้อ “พรม” (Carpet) ต่อจากเธอมาด้วย 1 ผืน

Posted Image


+จากนั้นคุยต่อกับแนนนี่อีกครั้ง ด้วยหัวข้อตัวตลก ซึ่งไม่รู้จะด้วยความพิศวาส หรืออะไรดลใจก็ตามแต่ สุดท้ายเธอจะขอจุมพิตจากเราค่ะ (o____O) ซึ่งระหว่างที่แม่มดสาวกำลังหลับตาพริ้มอยู่นั้น ให้รีบแฮ๊บ “ตำราทำคัสตาร์ด” (Custard Book) ที่อยู่ในมือเธอมาเลยค่ะ (เล็งดีๆ นะ เพราะมันเล็กมากๆ)

Note – หากกดไม่ทันก็ไม่เป็นไรค่ะ ให้ชวนคุยด้วยหัวข้อตัวตลกแก้ตัว เพื่อ “เก็บ” ใหม่ได้เรื่อยๆ นะ

+รีบย้อนเวลากลับไปยังห้องสมุดของมหาวิทยาลัยในยุคอดีตทันที เมื่อมาถึงแล้ว ให้รีบหยิบ “ตำราการปลุกชีพมังกร” (Dragon Book) จากบนชั้นทางขวา (ข้างประตูมิติ L-Space) มาเก็บไว้

+จากนั้นกดเข้าเมนูช่องเก็บของ แล้วรีบสับตำราทำคัสตาร์ดมาเปลี่ยนปกกับตำราปลุกชีพมังกร แล้วเอาไปวางคืนยังช่องว่างบนชั้นหนังสือ (Empty Place) ตามเดิมทันที (ควรเซฟไว้ก่อนนะคะ)

Posted Image


+ซึ่งทีนี้พอหัวขโมยจอมแสบมาขโมยตำราปลุกชีพมังกรปลอมไปทำพิธีก็เละน่ะสิคะ ด้วยเพราะหยิบไปผิดเล่ม อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ ผลก็คือพิธีกรรมล่มอย่างไม่เป็นท่า เพราะกลายเป็นการสาธิตทำคัสตาร์ดไปแทนซะแล้ว!!

Posted Image


+หลังจากสู้ฝ่าฟัน จนสามารถหยุดพิธีกรรมคืนชีพมังกรได้ รินซ์วินด์ของเราก็รีบแจ้นกลับไปยังยุคปัจจุบัน เพื่อหวังเอาความดีความชอบเรื่องกำจัดมังกรจากพระราชาทันทีค่ะ แต่กลายเป็นว่าไม่มีใครยอมเชื่อเรื่องมังกรเลย แม้รินซ์วินด์จะยืนกรานหนักแน่นขนาดไหนก็ตาม

Posted Image


+แต่ขณะที่ต่างฝ่ายกำลังเถียงกันอย่างเอาตายอยู่นั้นเอง จู่ๆ มังกรที่ไม่น่าจะมีตัวตนอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ กลับบุกมาอาละวาด และทำลายปราสาทซะพังไปครึ่งวังเลยค่ะ . . งานนี้ความซวยก็เลยมาตกอยู่ที่รินซ์วินด์อีกจนได้ เพราะนอกจะไม่ได้หน้าแล้ว ยังถูกหาว่าเป็นคนชักนำมังกรมาบุกเมืองอีกต่างหาก ฉะนั้นแล้วหน้าที่กำราบมังกรนั้น ก็จะเป็นใครไปเสียไม่ได้เลย นอกจากเรานี่เอง (T_T)

Edited by rbgel, 29 July 2010 - 08:51 PM.


#6 kikuntin

    บันทึกลับอสูรฟ้า เคล็ดวิชาอมตะ ตำนานกระบี่เมตไตร ม้วนภาพเทพยุทธ์

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 10921 posts
  • Gender:Male

Posted 21 April 2010 - 11:58 PM

เธกเธฒเธ„เธฑเนˆเธ™เธ„เธฃเธฑเธšเธœเธก

#7 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 21 April 2010 - 11:59 PM

-บทที่ 3 จำกัดความของผู้กล้า-

+ผู้ที่จะปราบมังกรได้ ก็ย่อมเป็นผู้กล้า อันนี้ใครๆ ก็รู้ แต่ปัญหาก็คือพระเอกของเราดันไม่รู้จักน่ะสิคะ ว่าไอ้ความเป็นผู้กล้าเนี้ย เค้าทำ และต้องเป็นกันยังไง ฉะนั้นช่วงนี้ เราก็ต้องไล่ตระเวนสอบถามข้อมูล-ความคิดเห็นจากชาวเมืองคนอื่นๆ ดูค่ะ ว่าผู้กล้าในมุมมองของพวกเค้า ควรจะมีลักษณะอย่างไร ซึ่งตรงนี้แน่นอนว่าแต่ละคน ก็ต้องคิดไม่เหมือนกันแน่ๆ ค่ะ

Quote

Note – ทุกๆ ครั้งที่สอบถามความเห็นใหม่ๆ จากชาวเมืองได้ สามารถมาอัพเดต ลองแต่งตัวรินซ์วินด์เป็นผู้กล้าได้ ด้วยการคุยกับยามคนซ้ายมือนะคะ (การแต่งตัว สามารถใส่ทั้งหมดพร้อมกันก็ได้นะ)

+ลองไปคุยกับยามที่เฝ้าประตูเมืองดู เขาจะบอกว่าผู้กล้าน่าจะใส่หน้ากากดำ(1) ปกปิดหน้าตา , มีปาน(2) (Birthmark) ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และยังต้องใช้เวทย์มนต์(3) เป็นด้วยนะ

+ไปคุยกับแก๊งผู้เฒ่า Old Timers ทั้ง 3 ที่จัตุรัสกลางเมือง (เลือกหัวข้อ ?) แล้วเขาจะบอกว่าผู้กล้าควรจะใส่กระจับ(4) (Posing Pouch) เพื่อปกปิดอวัยวะส่วนสำคัญด้วย

+เดินไปคุยกับอัศวินสาว เผ่าอเมซอนทางขวามือ แล้วเธอจะบอกว่าผู้กล้าน่าจะไว้หนวด(5) และต้องมีดาบกายสิทธิ์(6) ที่ฟันแล้วต้องมีเสียงดัง “ติ๊ง” ออกมาด้วย

+ลองไปถามเรื่องนิยามของผู้กล้า จากกลุ่มพ่อมดในห้องอาหารของมหาวิทยาลัยลับแลดู (คนเสื้อน้ำเงิน ที่นั่งใกล้ประตู) พวกเขาจะแนะนำว่า ผู้กล้าน่าจะห้อยเครื่องรางเวทย์มนต์(7) (Magical Talisman) ติดตัวด้วย

+ไปคุยกับแม่หญิงงามเมืองในย่านอโคจร แล้วพวกเธอจะบอกว่า ถ้าผู้กล้าทาสีพรางหน้า(8)ด้วยละก็นะ รับรองเท่สุดๆ

Posted Image


+เมื่อไล่ถามครบหมดแล้ว (มุมมองต่อผู้กล้าทั้ง 8 อย่าง) ให้กลับไปคุยกับยามหน้าประตูเมือง แล้วลองแต่งตัวตามที่เราได้ยินมาทั้งหมดเลยค่ะ . .

+ซึ่งตรงนี้คุณยามคนเก่งก็จะแนะนำด้วยความหวังดี (มั้ง) ว่า ถึงแม้เราจะมีคุณสมบัติของผู้กล้าครบทั้งหมดแล้วก็ตาม แต่โอกาสที่จะพิชิตมังกรได้ ก็ยังเป็นหนึ่งในล้านอยู่ดี (o_____O)

-ยุทธการล้างบางมังกร-

+มุ่งหน้าไปยังแหล่งกบดาน (Hide Out) ที่ทำพิธีปลุกมังกรก่อนค่ะ แล้วเคาะประตูถามแบบเดิม แต่คราวนี้ยามเฝ้าประตูจะให้ “คัสตาร์ดรสเด็ด”(Custard Tart) เรามา 1 ถาด ด้วยเพราะมีจนเกินพอนั่นเอง!! (ฮา)

+กลับไปคุยกับจอมแปรธาตุที่ตรอกพิสดาร แล้วจะรู้ว่าเขาต้องการข้าวโพดไปทำการทดลองเพิ่มขึ้นอีกค่ะ . . ให้บอกที่มาของแหล่งข้าวโพดกับเขาไป (เลือกหัวข้อ “ตัวตลก”) แล้วหมอจะรีบแจ้นไปยังสถานที่นั่นทันที . . ซึ่งพอเจ้าของบ้านไม่อยู่แล้ว เราก็จัดการแฮ๊บ “กล้องถ่ายรูป” (Impstamatic) มาเก็บไว้ได้เลยค่ะ

Posted Image


+เดินตามจอมแปรธาตุไปยังโรงวัว (Livery Stable) จะพบว่าถุงข้าวโพดที่ว่านั่นหายไปแล้ว!! . . ให้ลองสำรวจ (คลิกขวา) ที่ป้ายท้ายเกวียน (Bumper Bar) ดู

Posted Image


+ซึ่งตรงนี้จะมีป้ายโฆษณาอยู่ 2 อันด้วยกัน ให้กดอ่าน (คลิกขวา) ที่ป้าย Bumper Sticker อันขวา แล้วรินซ์วินด์จะรู้ว่า คุณผู้หญิง “แรมกิ้น ซันนี่เวล” (Ramkin’s Sunnyvale) ผู้ใจบุญ ได้เปิดบ้านเมตตา สำหรับอนุรักษ์มังกร (Dragon Sanctuary) ไว้ด้วยค่ะ

Posted Image


+เดินกลับออกมายังฉากแผนที่โลก แล้วจะพบ Dragon Sanctuary ที่ว่านั่นโผล่ขึ้นมาค่ะ โดยจะอยู่กึ่งกลางระหว่างโรงแรม กับสวนสาธารณะพอดี . . อย่ารอช้า รีบเข้าไปที่นั่นกันเลยค่ะ

+เข้าไปเคาะประตูบ้าน แล้วเจ้าบ้านจะออกมาต้อนรับทันใด ให้คุยกับคุณผู้หญิงแรมกิ้นสักพัก แล้วเธอจะขอตัวไปทำธุระต่อค่ะ

Posted Image


+ลองเคาะประตูดูอีกครั้ง รอจนเธอมาเปิดประตูแล้ว ให้รีบชิ่งเดินอ้อมไปทางซ้าย (Path) เพื่อลัดไปยังหลังบ้านทันทีค่ะ ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นลานเลี้ยงมังกรเต็มไปหมดเลย

+เดินไปหยิบ “โบว์กุหลาบสีน้ำเงิน” (Rosette) , “สายรัดคอ” (Leash) ที่แขวนอยู่ และ “ตะปู” (Nail) ที่ปักติดเสามาเก็บไว้ แล้วมุ่งหน้าไปยังบาร์ Broken Drum ทันที

Posted Image


+มาถึงแล้ว ลองสำรวจ (คลิกขวา) เครื่องดื่ม “กระบองเพชรชื่นใจ” (Cactus Juice) ที่วางอยู่บนชั้นหลังเคาน์เตอร์ดูนะคะ (ขวดสีเขียวๆ) แล้วสั่งมาซดดับกระหายได้เลย . . แต่ขณะกำลังชิมๆ อยู่ดีๆ จู่ๆ รินซ์วินด์ก็ทำท่ากระอั่กกระอ่วนขึ้นมา ลองสำรวจที่แก้วดู ก็จะพบต้นเหตุค่ะ เพราะเหล้าเจ้ากรรมดันแถม “หนอน” (Worm) มาให้ซะด้วยสิ

+กลับไปยังจัตุรัสกลางเมือง แล้วไปคุยกับมร.ดิบเบลอร์ ซึ่งเที่ยวนี้ เขาจะแจก “ถุงกระดาษ” (Paper bag) ให้เรามาฟรีๆ 1 ถุงค่ะ

+ไปที่พระราชวังกันต่อ ซึ่งรอบนี้รินซ์วินด์ก็ยังคงถูก 2 ยามเจ้าปัญหากักตัวไว้ตามเดิม . . ให้กดเข้าเมนูช่องเก็บของแล้วสำรวจ (ดับเบิ้ลคลิก) ที่ถุงกระดาษดูอีกครั้ง แล้วจะเจอ “ปลิง” (Leeches) 1 ตัวค่ะ!! (แจกถุงแล้วแถมปลิงด้วยเรอะ!?)

+เอาปลิง หรือถุงกระดาษ ให้ยามคนใดคนหนึ่งก็ได้ค่ะ แล้วหมอจะทะเลาะกันอีกแล้ว ทำให้เราผ่านประตูได้อย่างโสภาสถาพรกันเลยทีเดียว

Posted Image


+เดินผ่านหน้าบัลลังก์ไปทางขวา จะพบทางลงสู่คุกใต้ดิน (Dungeon) ค่ะ . . พอลงไปแล้ว เดินไปทางขวาจนสุดทาง แล้วจะเจอโพรงเล็กๆ อยู่ที่ผนังค่ะ ให้เอาหนอนมาใช้กับรู แล้วรินซ์วินด์จะดักจับ “หนู” มาได้ในที่สุด

+กดเข้าเมนูช่องเก็บของ แล้วลองสำรวจ (ดับเบิ้ลคลิก) ที่ตัวหนูดูนะคะ แล้วจะพบว่า แท้ที่จริงแล้ว มันคือ “ภูติจิ๋ว” (Imp) ปลอมตัวมานั่นเอง!! ว่าแล้วก็จับเจ้า Imp ตัวแสบไปใส่ในกล้องซะเลย

Posted Image


+กลับไปร้านขายปลา ณ ถนนการค้า (Street) แล้วเก็บ “รูปปลาหมึก” (Picture) ที่แขวนอยู่มาเก็บไว้ค่ะ แล้วออกนอกเมืองไปยังป่าทมิฬ (Dark Woods) กันเลย

Posted Image


+เข้าไปยังกระท่อมของแม่มด “แนนนี่ อ็อก” แล้วลองสำรวจโต๊ะเล็กทางขวามือดู จะพบขวดยาวางอยู่เต็มเลยค่ะ ซึ่งของที่เราต้องการก็คือ “ยาน้ำสัจธรรม”(Truth Potion) ขวดสีชมพูนั่นเอง!!

+ให้คุยกับแนนนี่ แล้วลองขอยาน้ำสัจธรรมจากเธอดู (เลือกหัวข้อ “ขวดสีชมพู”) ซึ่งเธอก็ยินยอมจะให้แต่โดยดี แต่มีข้อแม้คือต้องจุมพิตเธอเป็นการแลกเปลี่ยนค่ะ!? เอาละเหวยงานนี้ มีเฮแน่นอน!!

Posted Image


+มาถึงขั้นนี้แล้ว จะถอยกลับไม่ได้ค่ะ ให้เอาขนมคัสตาร์ดมากินย้อมใจ แล้วรินซ์วินด์จะพลุ่งพล่านไปด้วยพลังแห่งรัก จนหน้ามืดยอมไปบรรเลงเพลงจูบอย่างถึงพริกถึงขิง ให้แม่มดสาว (ใหญ่) จนสมใจ (55) จากนั้นเราก็จัดการหยิบ “ยาน้ำสัจธรรม”มาเก็บไว้ได้เลยค่ะ

+จากนั้น ลองสำรวจ “เส้นไหม” (Wool) ที่กองระเกะระกะอยู่บนพื้นดู แล้วรินซ์วินด์จะไล่สาวแกะรอยจนสามารถตามไปถึงที่มาของมันจนได้ นั่นก็คือ “คุณแกะ” ที่อยู่หลังบ้านนั่นเองค่ะ

Posted Image


+ให้เอา “โบว์กุหลาบสีน้ำเงิน” ไปติดที่ตัวแกะ แล้วเอา “กล้องถ่ายรูป” มากดแช๊ะๆ นายแบบขนงามของเราซะเลย แล้วเราจะได้ “รูปคุณแกะผู้แสนเท่” มา 1 ใบค่ะ . . ก่อนจะกลับออกไป อย่าลืมสำรวจที่กองฟืนข้างๆ จะได้ “ค้อนไม้” (Mallet) มา 1 อันด้วยนะ

-ไกลสุดฟ้า ก็จะตามไล่คว้าเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์-

+กลับไปยังบาร์ Broken Drum อีกครั้ง ซึ่งทางด้านซ้ายมือของเคาน์เตอร์จะมีเสาตั้งอยู่ 1 ต้นค่ะ ลองสำรวจที่กึ่งกลางเสาดีๆ จะพบขื่อสลัก (Beam) อยู่ ตรงนี้ให้เอาตะปูตอกไปเลยค่ะ . . จากนั้นเอารูปภาพปลาหมึก กับคุณแกะมาแปะรวมกัน แล้วเอาภาพใบใหม่นี้แขวนลงไปบนขื่อสลักเลยค่ะ

Posted Image


+จากนั้น ให้ชวน “มร.แบร็กการ์ต” สิงห์ขี้คุยที่นั่งเดียวดายอยู่ข้างเสาคุยเลยค่ะ ซึ่งระหว่างที่กำลังคุยอย่างออกรสอยู่นี้เอง เราจะอาสาลุกไปสั่งเบียร์มาเลี้ยงเขาค่ะ และก่อนจะกลับไปที่โต๊ะ ให้เอายาน้ำสัจธรรมเหยาะใส่เบียร์ให้เขาดื่มด้วยนะ

+แต่. . ดูท่ามร.จอมโวจะไม่ยอมหลงกลง่ายๆ เพราะนอกจากหมอจะไม่ยอมดื่มแล้ว ยังแกล้งหมุนโต๊ะเพื่อหวังสับแก้วกับเราด้วยค่ะ ซึ่งรินซ์วินด์เองก็ไม่ยอมแพ้ อาศัยไหวพริบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จนสามารถบีบให้แบร็กการ์ต
ยอมกินเบียร์ลงไปจนได้ในที่สุดค่ะ . . ซึ่งก่อนจะจากกัน จอมโวยังเล่าถึงสถานที่แห่งใหม่ ซึ่งก็คือ “ช่องแคบกลางหุบเขา ” (Gorge) ให้เราฟังด้วยนะคะ

Posted Image


+เดินออกไปนอกเมือง แล้วมุ่งหน้าไปยัง Gorge ทันทีเลยค่ะ ซึ่งพอมาถึง จะพบชายชุดดำลึกลับยืนขวางสะพานอยู่ ให้เอาพรมแดงไปปูยังกลางสะพานเลยค่ะ ซึ่งพอเขารี่เข้ามาเอาเรื่อง พระเอกของเราก็จะชักพรมกลับ ทำให้ตะแกกระเด็นตกแม่น้ำข้างล่างไปเลย (ฮา)

Posted Image


+จากนั้นเดินเข้าถ้ำทางขวามือไปเลยค่ะ จะพบว่าแท้ที่จริงแล้วที่นี่ก็คือ “สุสานโบราณ” นั่นเอง!! ซึ่งไม่รู้จะด้วยบรรยากาศวังเวงชวนหวาดหวั่นหรืออย่างไร!? จู่ๆ รินซ์วินด์ก็ออกอาการใจฝ่อปอดแหกขึ้นมา จนไม่กล้าก้าวขาเดินต่อ

+ตรงนี้ให้สำรวจ “ผ้าพันคอสีน้ำเงิน” (Bandana) ที่แขวนอยู่บนเสาทางซ้ายมือมา แล้วจะได้ “ผ้าปิดตา” (Blindfold) มาแทนค่ะ . . ให้เอาสายรัดคอ (Leash) ไปผูกติดกับกำปั่นทองคำ แล้วใช้ผ้าปิดตากับตัวเอง แล้วรินซ์วินด์ก็จะใช้กำปั่นนำทางแบบขอทานคนจร ไปจนถึงขุมทรัพย์ชั้นในสุดจนได้ค่ะ

Posted Image


+ที่แท่นศักดิ์สิทธิ์กลางห้อง เราจะพบอัญมณี “Eye of Offler” วางอยู่ ตรงนี้ให้เอากระเป๋าสตางค์ (Pouch) ของเรา ไปตักทราย (Sand) ที่ไหลกองอยู่ทางมุมขวาของแท่นให้เต็ม แล้วนำไปวางแทนที่อัญมณีล้ำค่าแทนค่ะ (มุขคุ้นๆ นะ)

Posted Image


+และแล้ว. . กับดักป้องกันผู้บุกรุกของขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าก็ทำงาน (^ ^) แต่ที่สุดแล้ว รินซ์วินด์ก็สามารถเอาตัวรอดมาได้อย่างทุลักทุเลค่ะ (55) และแน่นอนว่าตอนนี้ เราก็ได้หนึ่งในสมบัติชิ้นสำคัญ ที่จะทำให้เรากลายเป็นผู้กล้ามาครอบครองแล้ว นั่นก็คือ “เครื่องรางเวทย์มนต์” (Magical Talisman) นั้นเอง!!

-ติดหนวดเสริมสง่า แด่ผู้กล้าผู้มาดแมน-

Posted Image


+มุ่งหน้าไปยังป่าเขียว (Woods) จะเจอช่างตัดผมตัวดียืนรอแฟน อยู่ข้างๆ บ่อน้ำบาดาลค่ะ . . เดินไปสำรวจ (ดับเบิ้ลคลิก) ที่แกนหมุน (Crank) แล้วรินซ์วินด์จะโยกน้ำขึ้นมา 1 ถัง . . ตรงนี้ให้เอาหม้อ (Pot) ของเราตักน้ำในถังให้เต็มเลยค่ะ แล้วรีบกลับเข้าไปยังโรงแรมในเมืองทันที

+มาถึงแล้ว เดินเข้าไปในห้องน้ำทางขวามือ แล้วเอาหม้อที่มีน้ำจุอยู่เต็มไปใช้กับสบู่เหลว (Soap) ที่วางอยู่บนขอบอ่างอาบน้ำค่ะ แล้วเราจะได้ “น้ำสบู่ฟองฟ่อด” มา

+กลับไปที่พระราชวัง แล้วใช้ปลิง หรือถุงกระดาษ กับยามคนใดคนหนึ่งก็ได้ค่ะ แล้วเราจะผ่านมาได้อย่างเนียนๆ เหมือนเช่นเคย

Posted Image


+เข้าไปหยิบ “แปรงขัดตัว” (Brush) ที่วางบนขอบอ่างมา แล้วไปยังโรงวัวต่อเลยค่ะ . . มาถึงแล้ว ให้เอาแปรงจุ่มน้ำสบู่ แล้วไปใช้ขัดกับป้าย Bumper Bar ที่แปะอยู่ท้ายเกวียน

Posted Image


+จากนั้นกดสำรวจ (คลิกขวา) ที่ป้ายอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ เราจะเห็นรหัส “Sore xxx” ที่สลักอยู่บนป้ายแดงอันซ้ายมือได้ชัดเจนขึ้นแล้ว

+กลับไปยังบ้านที่ต้องใช้บันไดพาดข้ามไป (Hovel) ที่อยู่ในย่านอโคจร (Shades) แล้วลองสำรวจกระเป๋าที่วางอยู่บนชั้นวางของดู จะได้ “มีดสั้น” (Knife) มาค่ะ ให้เอาเก็บไว้กับตัวเลยนะ

+ไปยืนบนบล็อกเหินหาวที่อยู่กลางตรอกพิสดาร เพื่อใช้ส่งตัวเรากระเด้งขึ้นไปบนหลังคาค่ะ . . ขึ้นมาแล้ว เดินไปทางซ้าย แล้วใช้มีดตัดผ้าที่มัดบันไดไว้ซะเลย แล้วปีนหน้าต่างกลับไปข้างล่าง เพื่อรอดูวีรกรรมที่ทำไว้ (55)

Posted Image


+ทีนี้ก็ได้เรื่อง เพราะพอนินจาเจ้าเก่าโผล่มาแล้ว ก็จะเผลอเหยียบบันไดด้วยความเคยชิน แต่.. ทว่า ตอนนี้มันไม่มีแล้ว หมอก็เลยหล่นปุลงมาจูบพื้นข้างล่างแบบงงๆ

+เดินไปคุยกับนินจาดวงจู๋ แล้วตะแกจะถามรหัสของเกวียนในโรงวัวเรามาค่ะ ซึ่งรินซ์วินด์ก็จะตอบกลับไปว่า “ก็ Sore xxx” นั่นปะไรล่ะ!! . . จากนั้นกลับไปเก็บ “กรรไกร” (Scissors) จากบนเคาน์เตอร์ร้านช่างตัดผม แล้วไปยังจัตุรัสกลางเมืองกันต่อเลย

Posted Image


+มาถึงแล้ว จะพบเจ้าลาที่โรงวัวถูกจับมัดประจานกับขื่ออยู่ค่ะ ให้เอากรรไกรตัดหาง (Tail) ของมันมา แล้วเราก็จะได้ “หนวด” (Moustache) มาทำเนียนเป็นผู้กล้าได้สมใจ

Edited by rbgel, 29 July 2010 - 08:52 PM.


#8 kikuntin

    บันทึกลับอสูรฟ้า เคล็ดวิชาอมตะ ตำนานกระบี่เมตไตร ม้วนภาพเทพยุทธ์

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 10921 posts
  • Gender:Male

Posted 22 April 2010 - 12:00 AM

เธกเธฒเธŠเนˆเธงเธขเนเธฅเน‰เธงเธˆเน‰เธฒ

#9 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 22 April 2010 - 12:02 AM

-เมื่อวีรบุรุษตกโลก!!-

Posted Image


+กลับไปยังคุกใต้ดินในพระราชวังอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้จะเดินต่อไปทางขวาได้แล้วค่ะ แล้วเราจะพบตลกหลวงตัวแสบถูกจับมัดรอการลงลงทัณฑ์อยู่ ตรงนี้ให้สำรวจที่กองซากกระดูก (Skeleton) ทางขวามือดู แล้วจะได้ “กระดูก” (Bone) มา 1 ชิ้นค่ะ . .

+จากนั้นเอากระดูกที่ได้ ไปใช้จุ่มลงในขวดกาว (Glue Pot) ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ในร้านขายของเล่น ในย่านการค้า ก็จะได้ “กระดูกเหนียวหนึบ” มาแทน

Posted Image


+เอากระดูกชุ่มกาวไปให้สุนัขที่นั่งอยู่หน้าร้าน ข้างโรงแรมกิน แล้วมันจะไม่เห่ากวนใจเราอีกต่อไป (ฮา) . . ทีนี้ให้ลองสำรวจ (คลิกขวา) รอยสัก (Tattoo) ที่แขนกะลาสีดูค่ะ ซึ่งรินซ์วินด์ก็จะปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่า บางทีสิ่งนี้อาจจะใช้แทนปานตำหนิ (Birthmark) ที่ติดตัวผู้กล้าได้เหมือนกันนะ . .

+ลองสอบถามกะลาสีหนุ่มถึงร้านรับสักดู แต่เขาจะขอนมแก้วนึงเป็นค่าเล่าค่ะ . . ให้เราเดินไปสั่งกับผู้ดูแลโรงแรม (Innkepper) ที่หน้าเคาน์เตอร์ แล้วกลับมาคุยต่อ ซึ่งเขาจะขอร้องให้เราช่วยตามหานกแก้วที่หายไปมาคืนให้ได้ซะก่อน เขาถึงจะยอมบอกที่มาของรอยสักให้ค่ะ พร้อมกับมอบ “นกหวีด” (Whistle) สำหรับเรียกนกแก้วให้เรามาด้วย (ไอเท็นชิ้นนี้ จะเก็บอยู่กับตัวรินซ์วินด์นะ)

+ไปยังจัตุรัสกลางเมือง แล้วหยิบ “ไข่” (Egg) จากแผงทางขวามือของมร.ดิบเบลอร์มา 1 ฟอง แต่รินซ์วินด์จะเผลอทำตกแตกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ทว่า. . มันจะฟักออกมาเป็นงู (Snake) พอดีค่ะ!? . . ให้จัดการเก็บมาซะเลย

Posted Image


+กลับไปยังห้องเก็บของ (Closet) ชั้นล่างของมหาวิทยาลัย แล้วใช้ไม้ขีดจุดที่ขอบประตู (Shape) แล้วทั้งห้องจะสว่างขึ้นมาให้เรามองเห็นอะไรๆ ได้ค่ะ (จริงๆ มันคือตะเกียง แต่ห้องมันมืดไงคะ เลยดูไม่ออก) . . ทีนี้ให้ลองสำรวจถุงเล็กๆ (Packet) ที่วางอยู่บนชั้นดู แล้วจะได้ “แป้ง” (Starch) มาแทนค่ะ

+ขึ้นไปยังห้องอาหารที่ชั้นกลาง แล้วจัดการเอาแป้งมาพอกที่ตัวงู แล้วมันจะแข็งตัวตรงแน่วไปเลย จากนั้นเอางูแข็งไปหมักกับปุ๋ย (Fertiliser) อีกที แล้วมันจะกลายเป็น “ไม้เท้างู” ได้อย่างน่าอัศจรรย์

Posted Image


+เอาไม้เท้างูไปสับกับด้ามไม้กวาดในมือพ่อมดม่วง (ที่เราเคยอำตะแกมาแล้วในตอนแรก) แล้วเราจะได้ “ด้ามไม้กวาด” (Broom Handle) คืนมาในที่สุดค่ะ . . จัดการเอาด้ามไม้กวาดมาต่อกับสวิง แค่นี้ด้ามจับมันก็จะยาวขึ้นแล้ว!!

+ขึ้นไปหาท่านอธิการบดีที่ห้องทำงาน จะพบว่าท่านไม่อยู่ค่ะ ว่าแล้วก็จัดการแฮ๊บ “หมวก” (Hat) มาเก็บไว้ซะเลย จากนั้นออกไปยังสุดขอบโลกได้เลยค่ะ

+มาถึงแล้ว ลองหยิบนกหวีดมาเป่าเล่นดู แล้วนกแก้วตัวดีจะบินมาหาค่ะ ตรงนี้จัดการเปิดกำปั่นทองคำ แล้วคลิกสำรวจ 1 ครั้งที่กองดอกไม้ไฟ จะสามารถแยกประทัดเดี่ยวๆ ( Firecrackers) ออกมาได้อันนึง

Posted Image


+จากนั้นให้เอาไม้ขีดจุดประทัด แล้วโยนใส่นกแก้วซะเลย ซึ่งมันก็จะช็อคตกใจจากเสียงดังตูมตาม จนหมดสติร่วงผล็อยหล่นลงทะเลไป ทีนี้เราก็เอาสวิงอันใหม่มาช้อนตักมันขึ้นมาได้แล้วค่ะ . . แต่ก็ด้วยความเฟอะฟะของรินซ์วินด์อีกนั่นแหละที่ทำเรื่องอีกจนได้ เพราะขณะเจ้าตัวกำลังช้อนตักนกเจ้าปัญหาอยู่นั้นเอง หมอก็ซุ่มซ่ามเผลอทำนกหวีดตกน้ำไหลหล่นลงขอบโลกไปจนได้

+สำรวจที่โป๊ะไฟ (Lamp) ทางซ้ายมือ แล้วเราจะได้ “ตะเกียง” (Lantern) มาแทน จากนั้นกดเข้าหีบสมบัติ แล้วไปสำรวจ (คลิกขวา) ที่หมวกพ่อมดของท่านอธิการ จะพบว่ามีกระต่ายแอบซ่อนอยู่ในนั้นด้วยค่ะ!? ที่แท้มันก็คือหมวกสำหรับเล่นมายากลนี่เองเนาะ!!

Posted Image


+เอาหมวกมายากลไปวางที่สามง่าม (Fork) ที่แขวนตะเกียง แล้วรินซ์วินด์ก็จะโชว์ทักษะดึงผ้านับไม่ถ้วน ออกจากหมวกแบบนักมายากลชั้นเซียนให้ดู (แปะ แปะ!) จากนั้นให้ไต่ผ้าลงยังชั้นล่างสุดของสุดขอบโลกได้เลยค่ะ

+พอลงมาอยู่บนหลังเต่าแล้ว ให้เดินไปสำรวจที่จุดกระพริบแวบๆ ทางขวา (Glint) แล้วเราจะได้นกหวีดคืนมาค่ะ จากนั้นไต่ผ้ากลับขึ้นไปข้างบนได้เลย (นกหวีดเก็บไว้ที่ตัวนะ)

-รอยสักแห่งความทรนง-

+เอานกแก้ว และนกหวีดกลับไปคืนให้กะลาสีที่โรงแรม แล้วเขาจะบอกว่าคนที่สักให้ แท้ที่จริงแล้วก็คือช่างตัดผมคนขยันนั่นเอง!! (รับทุกจ๊อบจริงๆ) ว่าแล้วก็ไปตามหาเค้าที่ป่าเขียวกันต่อเลยค่ะ

Posted Image


+คุยกับช่างตัดผมแล้ว จะรู้ว่าเขากำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ ด้วยเพราะยืนรอหวานใจมาตั้งนานแล้ว แต่สาวเจ้าก็ยังไม่ยอมมาตามนัดสักที เพราะงั้นเขาถึงไม่อยากเสวนาใดๆ กับเราค่ะ

+กลับไปยังร้านของช่างตัดผม แล้วสำรวจสมุดเล่มเล็ก (Little Book) ที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์ดู ก็จะได้ “สมุดนัดหมาย” (Appointment Book) มาแทน จากนั้นรีบไปยังคลินิกจิตแพทย์ ในจัตุรัสกลางเมืองทันที

Posted Image


+เข้ามาถึง ก็จะพบว่าตอนนี้ในร้านกลายเป็นสถานที่ออดิชั่นดาราหนังจอเงินกันไปแล้ว ซึ่งเราจะได้เป็นคิวที่ 3 ค่ะ. . ให้คุยกับมร.โทรลล์ที่นั่งอยู่ แล้วออกจากร้านไป เพื่อกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง

+เข้ามาอีกที จะพบว่าคุณโทรลล์ขี้หลี ยอมสละที่ให้เราเป็นคิวแรกไปแล้ว (สงสัยกลัวเสียเวลาจู๋จี๋กับสาว) . . คุยกับหวานใจของช่างตัดผม พร้อมกับเอาสมุดนัดยื่นให้เธอดู แล้วสาวเจ้าจะเขียนสถานที่ และเวลานัดใหม่ให้เรามาค่ะ

Posted Image


+จากนั้นเราจะได้ขึ้นไปสนทนาฮาเฮกับคุณหมอ เวอร์ชั่นใหม่ ที่กลายเป็นผู้กำกับหนังพันล้านไปแล้ว ด้วยผลงานสะท้านบล็อกบัสเตอร์อย่าง “โฉมงามกับโทรลล์หินพันธุ์ถึก!!”

+เอาสมุดนัดใหม่ไปยื่นให้ช่างตัดผม ผู้ยืนเดียวดาวอยู่ที่ป่าเขียวดู แล้วเขาจะดีใจมาก พร้อมกับบอกให้เราไปรอที่ร้านได้เลย ก่อนจะจากไปด้วยความลิงโลด

+มุ่งหน้าไปยังร้านของช่างตัดผมทันที ซึ่งพอมาถึงเขาก็จะเตือนเราว่าการสักเนี่ยมันเจ็บนะ . . ซึ่งพอได้ยินเข้าแบบนี้ ความป๊อดก็เข้าครอบงำรินซ์วินด์อย่างไม่ลังเลทันที ก็ใจไม่กล้าพอ เพราะกลัวเจ็บอ้ะ!!

Posted Image


+ทีนี้ช่างตัดผมก็เลยแนะนำว่า เอาแบบนี้แล้วกัน งั้นลองใช้รูปลอกรอยสักน้ำ แบบที่แถมมากับหมากฝรั่งอย่างลูกชายเขาดูก็แล้วกัน รับรองว่าปลอดภัย และไม่มีเจ็บแน่ๆ ซึ่งลูกชายคนที่ว่าของเขา แท้ที่จริงแล้วก็คือเจ้าเด็กเหลือขอ “เออร์ชิน” ที่ยืนเตร่อยู่ที่จัตุรัสกลางเมืองนั่นเอง!!

+รีบกลับไปขอรูปลอกน้ำจากเจ้าเด็กแสบทันที แต่หมอก็ดันออกลีลายียวน กวนบาทาไม่ยอมให้มาง่ายๆ ซะอีกแน่ะ . . ไม่เป็นไร ขอดีๆ ไม่ให้ งั้นเราไม่ง้อก็ได้ค่ะ

+ให้เข้าไปในตรอกที่อยู่ข้างหลังมร.ดิบเบลอร์ แล้วใช้มีดตัดสายพาน (Rubber Band) ของเครื่องจักรมาเก็บไว้กับตัวเองค่ะ

+จากนั้นกลับไปเหยียบบล็อกกระเด้งในตรอกพิสดาร เพื่อใช้ส่งตัวเราขึ้นไปบนหลังคาเมืองค่ะ . . พอขึ้นมาแล้ว ให้ไปยังหอคอย (Tower) ที่อยู่ข้างหลังทันที

Posted Image


+จัดการเอาสายพานยางมาผูกที่ปลายเสา (Tip) แล้วรินซ์วินด์ก็จะโชว์ทักษะ “บันจี้ จัมพ์” ในการดิ่งพสุธา ลงมาคว้ารูปลอกน้ำไปจากมือเจ้าเด็กตัวแสบได้อย่างไม่มีใครคาดถึงค่ะ . . แล้วเราก็ได้ไอเท็มสำคัญ ชิ้นที่ 3 ในการเป็นผู้กล้ามาครอบครองเข้าจนได้

-คาถาของจอมเวทย์-

Posted Image


+กลับไปยังห้องสมุดชั้น 1 ของมหาวิทยาลัยอีกครั้ง จะพบว่าตอนนี้ “มร.สเลซี่ กาย” หายตัวไปแล้วค่ะ . . ให้ลองสำรวจชั้นหนังสือ แถวๆ ที่เขาเคยยืนอยู่ดีๆ แล้วเราก็จะได้ไอเท็มสำคัญ ชิ้นที่ 4 ในการเป็นผู้กล้า “ตำราเวทย์มนต์” (Magic Spell) มาอย่างง่ายดาย

-ลายพรางเพิ่มความห้าว-

Posted Image


+ออกมายังห้องครัว แล้วหยิบ “ตะหลิว” (Spatula) ที่แขวนอยู่มาด้วยค่ะ แล้วมุ่งหน้าไปยังย่านอโคจร (Shades) เป็นลำดับต่อไป ซึ่งบริเวณทางแยกกลางซอย เราจะเจอ “คราบสีดำ” (Mural) เลอะอยู่ที่ข้างผนังค่ะ . . ให้จัดการเอาตะหลิวมาขูดซะเลย แล้วเราก็จะได้ “เขม่า” (Soot) มาใช้สำหรับทาหน้าให้ดูน่าเกรงขาม แทนลายพราง (Camel Flage) ได้

-ดาบกายสิทธิ์พิชิตทั่วหล้า-

+สมบัติสำคัญชิ้นสุดท้ายคือการตามหาดาบวิเศษค่ะ และต้องมีเสียงดัง “ติ๊ง” เท่านั้นด้วยนะ ก่อนอื่นให้ไปที่ป่าเขียว (Woods) ก่อนเลย แล้วใช้ไขควงขันเอา “ประแจ” (Crank) บ่อน้ำมาเก็บไว้ค่ะ

Posted Image


+กลับไปยังคุกใต้ดิน ในพระราชวัง แล้วมุ่งหน้าไปยังห้องทรมานนักโทษทันที . . ตรงนี้ให้ใช้ประแจขันที่ขั้ว (Rack) ของเตียงนักโทษที่ตลกหลวงนอนอยู่ และเตียงที่มีไม้เท้าปากดีถูกมัดอยู่ทั้งคู่เลยค่ะ แล้วเราจะได้ดาบวิเศษมา 1 เล่ม แต่เสียงของมันดันดัง “พล๊อง! นี่น่ะสิ . . ฉะนั้น หากอยากให้มันใช้การได้ เราต้องเอาไปจูนใหม่ซะก่อนค่ะ

+ออกไปถามยามที่หน้าประตูเมือง แล้วเขาจะบอกที่อยู่ของคนแคระ ผู้สามารถจูนดาบได้ให้เราทราบค่ะ . . พอ
ออกไปนอกเมืองอีกครั้ง ก็จะเห็น “เหมืองใต้ดิน” (Mine) โผล่ขึ้นมาแล้วค่ะ เข้าไปกันเลยนะ

Posted Image


+เดินเข้าไปยังห้องชั้นในสุดทางซ้าย แล้วจะเจอคนแคระนักตีดาบที่ว่าค่ะ . . เอาดาบยื่นให้ พร้อมขอร้องให้เขาช่วยจูนให้ แต่ช่างดาบจะปฏิเสธกลับมาอย่างไม่ไยดี พร้อมยื่นคำขาดว่า เขาจะยอมทำให้ก็ต่อเมื่อได้ลิ้มรสเหล้า “Elderberry Wine” ของโปรดซะก่อนค่ะ

Posted Image


+กลับไปคุยกับเจ้าของบาร์ Brocken Drum ถึงเหล้าที่เราต้องการ แล้วเจ้าของร้านจะบอกว่าเหล้าที่ว่านั้นน่ะ เขาเก็บไว้ยังห้องหมักไวน์ชั้นใต้ดิน ซึ่งมืดมากๆ แถมตอนนี้ก็มีหมาป่าแอบเข้าไปกบดานอยู่ในนั้นเพียบเลย . .

+ให้ลองเดินลงไปยังห้องใต้ดิน (ทางลงจะอยู่หลังมร.แบร็กการ์ต) ที่ว่าดู จะพบว่ามีประกายตาแข็งกร้าวจ้องมองอยู่เต็มเลยค่ะ ส่วนพระเอกของเราน่ะเหรอ เปิดแน่บกลับไปตั้งนานแล้ว!!

Posted Image


+กลับไปที่โรงแรม แล้วลองกดคลิกขวาสำรวจที่ประตูดู แล้วรินซ์วินด์จะรู้สึกว่าเหมือนมีใครแอบอยู่หลังประตูบานนี้ด้วย!? รู้แบบนี้แล้ว ให้กดดับเบิ้ลคลิกสำรวจที่ประตูหลายๆ ครั้งเลยค่ะ แล้วพระเอกของเราจะทราบว่าชายลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่นั้น มีนามว่า “มร.บูกี้แมน” (Bogeyman) นั่นเอง!! . . ซึ่งไม่ว่ารินซ์วินด์จะชักแม่น้ำทั้ง 5 ยังไง หมอก็ไม่ยอมโผล่ออกมาง่ายๆ ค่ะ

+จัดการเอาไขควงไขบานประตูทั้งอันมันซะเลย ดูซิ ทีนี้จะซ่อนตัวยังไง! เสร็จแล้วคุยกับเขาใหม่อีกรอบค่ะ (เลือกหัวข้อรูป “เมฆ”) ซึ่งคราวนี้เราจะรู้แล้วว่าพ่อขี้อายพอจะมีความรู้เรื่องหมาป่าอยู่บ้าง ซึ่งพอได้ยินเรื่องจากเราแล้ว เขาจะรีบไปไล่หมาป่าในห้องหมักไวน์ใต้ดินให้เราเองค่ะ

Posted Image


+ว่าแล้วก็กลับไปยังห้องใต้ดินของบาร์ Broken Drum อีกครั้งได้เลย . . พอลงมาแล้ว กดคลิกขวาสำรวจหาถังเหล้า “Elderberry Wine” ให้เจอค่ะ แล้วเอาแก้วเบียร์ (Tankard) รินเหล้ามาเก็บไว้ที่ตัวเราเลยนะ

+เอาเหล้า “Elderberry Wine” กลับไปมอบให้คนแคระช่างตีดาบ พร้อมกับส่งดาบให้เขาตามสัญญา ซึ่งหลังจากดื่มด่ำกับความละมุนของเหล้าสุดโปรดแล้ว เขาก็จะเริ่มจูนดาบให้กับเราในที่สุดค่ะ . . และแล้วดาบกายสิทธิ์ชิ้นสุดท้าย ก็มีเสียงดัง “ติ๊ง” อย่างที่ต้องการซะที!!

-เปิดตำนานผู้กล้าปราบมังกร-

Posted Image


+หลังจากได้ไอเท็มสำคัญครบทั้ง 5 ชิ้นแล้ว ให้มุ่งหน้าไปยังจัตุรัสกลางเมืองทันทีค่ะ ซึ่งคราวนี้จะพบว่าชาวประชาทั่วราชอาณาจักรทั้งหลาย จะแห่มาประชุมกันเต็มไปหมดเลย . . ทั้งนี้ก็เพื่อรอชมพิธีกรรมบูชายัญมังกร ซึ่งเป็นทางเลือกสุดท้ายในการปกป้องอาณาจักร โดยผู้ที่ถูกคัดเลือกมาเป็นเหยื่อสังเวยก็คือ “คุณผู้หญิงแรมกิ้น” เจ้าของสถานอนุรักษ์มังกร ผู้ใจบุญนั่นเอง!!

Posted Image


+แต่พระเอกอย่างรินซ์วินด์มีหรือจะยอมง่ายๆ ว่าแล้วเขาก็ระดมของวิเศษทั้งหมดเข้าโจมตีมังกรร้ายอย่างบ้าคลั่งทันที แต่ผลก็คือนอกจากจะทำอะไรมันไม่ได้แล้ว รินซ์วินด์ยังถูกโต้กลับ จนพ่ายแพ้กลับไปอย่างไม่เป็นท่า และแบบนกกระจอกไม่ทันกินน้ำเสียด้วยสิ (ฮา)

-บทที่ 4 - กำเนิดใหม่มังกรเพลิง-

Posted Image


+หลังจากโดนน็อคมืด รินซ์วินซ์จะถอยกลับมาตั้งหลักยังฉากแผนที่โลกค่ะ แหม . . อุตส่าห์เสียเวลารวบรวมของเสียตั้งนาน จู่ๆ ปฎิบัติการก็ล้มเหลวเอาง่ายๆ ซะงั้น . .

+ก่อนอื่นให้กลับไปยังจัตุรัสกลางเมืองก่อนค่ะ ลองสำรวจที่กระโปรงของคุณผู้หญิงแรมกิ้นดู แล้วจะได้ “กุญแจ” มา 1 ดอก

Posted Image


+กลับไปยังลานเลี้ยงมังกร ที่อยู่หลังบ้านคุณผู้หญิงแรมกิ้น (Dragon Sanctuary) แล้วใช้กุญแจที่เพิ่งเก็บมา ไขกรงเข้าไป แล้วพยายามอุ้มตัว “แมมโบ้” ที่อยู่ข้างในสุดออกมาให้ได้* ซึ่งหากทำสำเร็จ รินซ์วินด์จะดัดตัวมันให้กลายเป็น “ปืน M16 แมมโบ้” แทนค่ะ

Note - *ที่ว่าต้องพยายามอุ้มแมมโบ้ออกมาให้ได้ เพราะเกมมีบั๊กนิดๆ ค่ะ พอกดเดินเข้าไป เกมมันจะผลักเราออกมาเองเฉยเลย ลองทำสัก 2-3 เที่ยว ก็จะเข้ากรงได้ไม่ยากค่ะ (^ ^)

Posted Image


+ได้สุดยอดอาวุธคู่ใจมาแล้ว คราวนี้กลับไปแก้เผ็ดคืนที่จัตุรัสกลางเมืองเลยค่ะ . . ไปยืนเผชิญหน้ากับมังกร แล้วเอาประทัดออกมาอันนึง แล้วใช้ไม้ขีดจุดตาม จากนั้นเอาประทัดที่จุดไฟแล้วยัดใส่ปากแมมโบ้อีกที แล้วใช้ปืน M16 แมมโบ้ยิงมังกรไปเลยค่ะ!!

Posted Image


+แต่ว่า . . ก็ยังทำอะไรมันไม่ได้อยู่ดีน่ะแหละนะ . . เอาไงดีล่ะ ของวิเศษอะไรก็ใช้ไปหมดแล้ว แม้แต่ปืนสุดยอดก็ยังทำอะไรมันไม่ได้ เพราะงั้นไม่ต้องใช้อาวง-อาวุธซัดอะไรแล้วค่ะ ควักเอาขนมคัสตาร์ดรสเด็ดเนี่ยอ่ะแหละ ปาสวนไปเลย . .

Posted Image


+ซึ่งก็ปรากฏว่า . . เอ่อ . . มันได้ผลค่ะ (อะไรฟร้ะ!?) หลังจากโดนโบ๊ะด้วยคัสตาร์ดไปแล้ว คุณมังกรเจ๊ใหญ่เธอก็ดันเกิดอารมณ์ “ออล-อิน-เลิฟ” กับแมมโม้ขึ้นมาเฉยเลย ก่อนจะจูงมือคู่กันบินจากไปด้วยความสุข ส่วนรินซ์
วินด์พระเอกของเราก็ได้หน้าในการปราบมังกรไปค่ะ . . และแล้วเรื่องราวทุกอย่าง ก็จบลงแบบแฮ็บปี้ เอ็นดิ้งด้วยประการฉะนี้!!

-THE END-


Quote

+ข้อมูลอ้างอิงจากเว็ปไซด์ / ขอขอบคุณ ทุกท่าน ณ ที่นี้ด้วยค่ะ+
http://house.exteen....70603/discworld
http://www.bloggang....group=4&gblog=1
http://topicstock.pa...8/A2532088.html


+ท่านใดประสงค์จะนำ Walkthrough Discworld ฉบับสมบูรณ์นี้ไปลงที่เว็ปไซต์อื่น กรุณาขออนุญาตผู้เขียนก่อนนะคะ . . และอย่าลืมลงนามเครดิตผู้จัดทำ และบอร์ด DGO เพื่อเคารพเจ้าของผลงานด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

Edited by rbgel, 29 July 2010 - 08:54 PM.