~Welcome to Just Adventure~
DISCWORLD
-อภินิหารตำนานพิภพแบน-
~DOSBox & ScummVM & PS & SS~
"If you like Adventure , you will also like"
Quote
-ความในใจจากผู้เขียน-
+Discworld เป็นอีกหนึ่งเกมแอดเวนเจอร์ พอยท์ แอนด์ คลิ๊กเรื่องโปรดที่ผู้เขียนชื่นชอบมากที่สุดซีรีย์สหนึ่ง นอกเหนือจากตระกูลเควสต์ทั้งหลายของเซียร์ร่า และลูคัส อาร์ตค่ะ . . สมัยเกมออกใหม่ๆ ช่วงปี 2538 (1995) บน PC ยุค DOS เมื่อครั้งกระโน้น . . จำได้ติดตาว่า พอถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ทีไร ผู้เขียนกับน้องสาวในวัยคอซองนี่ แทบจะนัดกันเล่นหามรุ่งหามค่ำ ชนิดเอาตายกันเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่เกมมีความยาวมาก และภาษาที่ออกจะเกินกำลังเด็กๆ ไปสักหน่อย (แหะแหะ) สุดท้ายก็ต้องพึ่งคัมภีร์อย่าง IT Games นำทางจนได้ กว่าจะจบกะเค้าลง (^ ^)+หลังจากนั้นไม่นาน ต่อมาพอเกมถูกพอร์ตมาลง PS1 และ SS ด้วยทั้ง 2 ภาค ผู้เขียนก็ไม่พลาดที่จะหามาเล่นซ้ำอีกรอบค่ะ นับว่าแหวกกระแสในยุคนั้นไม่ใช่น้อย (55) และก็นับเป็นเรื่องดี ที่เกม PC ระดับคุณภาพในยุคนั้น หลายต่อหลายเกมก็ถูกพอร์ตมาลง PS + SS ด้วยเช่นกัน แม้จะออกไปในแนวแอ็คชั่น มุมมองบุคคลที่ 3 หรือเกมเดินหน้ายิงเสียส่วนใหญ่ก็ตามที ไม่ว่าจะเป็น Alone in the Dark 2 , Fade to Back , Dark Force , Duke Nukem 3D , Doom 2 และอื่นๆ อีกมากมาย
+แต่สำหรับผู้เขียน ซึ่งรัก และคลั่งไคล้เกมแนวแอดเวนเจอร์แท้ๆ เอามากๆ ไม่รู้จะด้วยความฝังใจ กับความยากของภาษา และยาวของเกม หรือจะเพราะประทับใจกับเนื้อเรื่องแบบเทพนิยาย แฟนตาซี หรือการ์ตูนเรื่องยาวที่ผู้เขียนชื่นชอบมากตั้งแต่เด็กๆ ก็ตาม ก็ยังใจชื้นอยู่บ้าง เพราะเกมแอดเวนเจอร์ แนว พ้อยนต์ แอนด์ คลิกยังไม่ตายหายจากวงการไปเสียทีเดียวนัก เมื่อเกมดีๆ อย่าง Discworld ทั้ง 2 ภาค , Return to Zork , Myth หรือแม้แต่สุดยอดเกมแอดเวนเจอร์ระดับปราบเซียนอย่าง Broken Sword ก็ยังพอร์ตมาลงให้ 2 คอนโซลสุดฮิตในตอนนั้นด้วยเช่นกัน
+มาจนปัจจุบันนี้ ผู้เขียนก็ยังรักที่จะเล่นเกมแนวนี้อย่างไม่เสื่อมคลาย ไม่ว่าจะจากโปรแกรม ScummVM ทั้งบน PC , DC , X-Box , PSP หรือกระทั่ง DS ก็ตาม ไปจนถึง Dosbox สำหรับเกมแอดเวนเจอร์ตระกูลอื่นๆ ค่ะ ชนิดว่าเปลี่ยนไปจับเครื่องไหน ก็ยังมีเกมเพื่อนเกลอให้เล่นแทนกันได้ยังไงยังงั้นเลยทีเดียวเจียว . . สำหรับท่านอื่นๆ ที่ยังคงแคลงใจกับมนต์เสน่ห์ลึกลับของเกมตระกูลแอดเวนเจอร์ ลองหันมาลองกับเกมชุด Discworld นี้ไปพร้อมๆ กันก็ได้นะคะ (แฮ่ม)
-เกี่ยวกับ Discworld-
+มาว่ากันถึงเกม Discworld กันต่อ . . Discworld ถูกสร้างมาจากตอนหนึ่งของนวนิยายแฟนตาซีขายดี ชุดยาว ของนักเขียนชาวอังกฤษชื่อก้อง นาม “มร.เทอร์รี แพรตเช็ตต์” (Terry Pratchett) ค่ะ ซึ่งเขียนงานในชุด Discworld นี้ต่อเนื่องกันมายาวนานถึง 30 กว่าเล่ม (ซึ่งก็ยังไม่จบ) และจัดเป็นนิยายแฟนตาซีที่ขายดีที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบยี่สิบปีของฝรั่งเค้ากันเลยทีเดียว . . .+ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่ผู้แต่งจับโน่นหยิบนี่มาเขียนล้อ หยอกเอินเค้าไปทั่วแบบครอบจักรวาลมั่วไปหมด แฝงอารมณ์ขันแบบกัดเล็กๆ สไตล์แนว Fantasy Parody ผ่านสำนวนอ่านง่ายๆ แต่ติดตา . . ซึ่งหากไม่แน่จริงแล้วละก็ นิยายชุดนี้คงไม่ได้เข้าไปอยู่ในใจคอหนังสือทั่วโลก ข้ามผ่านกาลเวลามาจนบัดนี้อย่างแน่นอนค่ะ . . ผู้อ่านที่รักท่านใดสนใจ ลองหาสืบค้นได้ตามร้านหนังสือคู่ใจดูนะคะ ไม่แน่ บางที Discworld เรื่องนี้ อาจจะกลายเป็นนวนิยายชุดโปรดตลอดกาลเรื่องใหม่ของคุณๆ ก็เป็นได้นะ!!
+ในฉบับนิยายนั้น เนื้อหาของ Discworld ไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกันทุกตอนนะคะ และหนังสือแต่ละเล่มก็ไม่ได้แสดงนำโดยตัวละครตัวเดียวกันตลอด หากแต่แบ่งตัวเอก และธีมของเรื่องแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งผู้ที่ไม่ได้ติดตามมาตั้งแต่ต้น ก็สามารถอ่านแยก พร้อมทำความเข้าใจได้ไม่ยากค่ะ และในส่วนของเกมภาคนี้ ก็จับเอาเรื่องราวการผจญภัยสุดเปิ่น ของพ่อมดยอดชาย “นายรินซ์วินด์” (Rincewind) มานำเสนอ ให้เราๆ ชาวเกมเมอร์ได้หัวร่อ-งอหาย และประทับใจอย่างสุดซึ้งไปกับตะแกค่ะ . . พร้อมแล้ว . . ตามมาเล่นไปพร้อมๆ กันเลยนะ . . ขอต้อนรับสู่ Discworld ค่ะ!!
Quote
-Prologue-
+เรื่องราวเกิดขึ้นในจักรวาลคู่ขนานแห่งหนึ่ง ที่มีชื่อว่า “พิภพแบน” หรือ “Discworld” ซึ่งเป็นมหานครที่มีลักษณะเป็นแผ่นดินแบนๆ ระนาบเดียว (สมชื่อ) และรายล้อมด้วยทะเลครามอันกว้างใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนหลังช้างเผือก 4 เชือก และเจ้าช้างทั้ง 4 ที่ทูนโลกนี้ไว้ ก็ยืนอยู่บนหลังของมหาเต่าดารา “อาทูอิน” อีกทีหนึ่ง และแหวกว่ายอยู่ในทะเลดาวอันเวิ้งว้าง ซึ่งทอดไกล และไม่มีวันจบสิ้นชั่วกาลนานค่ะ (นึกไม่ออก ดูภาพประกอบตามนะคะ)+ชาวประชาทุกชีวิตในอาณาจักร Discworld ใช้ชีวิตด้วยความสงบสุขเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ , พ่อมด , แม่มด , เอลฟ์ , โทรลล์ , คนแคระ , กษัตริย์ผู้สาบสูญ , เทพเจ้าโบราณองค์ต่างๆ หรือแม้แต่บรรดาสัตว์ประหลาดในเทพนิยายแฟนตาซีก็ตาม . .
+แต่ความผาสุกก็หาได้ยืนยาวไม่ เมื่อสมาชิกลัทธิมืดกลุ่มหนึ่งได้รวมตัวกัน เพื่อทำการอัญเชิญมังกรมา เพราะหวังจะใช้เป็นฐานอำนาจ ในการอาละวาดเผาทำลายบ้านเมือง ซึ่งก็ได้ผลดังคาด เพราะบัดนี้ความหวาดกลัว และหวาดหวั่นแพร่กระจายไปครอบคลุมทั่วทั้ง Ankh-Morpork (อังค์-มอร์พอร์ค) เมืองหลวงของ Discworld เรียบร้อยแล้ว
+เรื่องราวความเดือดร้อนของมหันตภัยครั้งนี้ถูกร้องเรียนไปยังท่านอธิการใหญ่ (Arch Chanceller) แห่งมหาวิทยาลัยพ่อมด และผู้วิเศษ “Unseen University” (แปลได้ความว่า มหาวิทยาลัยลับแล ที่ไม่เคยมีใครพบเห็น . . ฮา) ในที่สุด . .
+หลังจากไตร่ตรองอยู่นานด้วยความกังวลใจเหลือจะกล่าว ท่านอธิการจึงได้ทำการคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการรับภารกิจกู้โลกนี้ ซึ่งหวยก็มาออกเอาที่ มร.รินซ์วินด์ (Rincewind) พ่อมดเซ่อซ่าที่เด๋อด๋าที่สุดในสถาบันนั่นเอง (55) เอาล่ะสิ!!
-รู้จักระบบเกมสักนิด ก่อนจะออกเดินทาง-
-การพูดคุยกับชาวเมืองเป็นสิ่งสำคัญค่ะ ในการคุยแต่ละครั้งจะมีหัวข้อให้เลือกคุยต่างกันด้วย ฉะนั้นหากเลือกคีย์เวิร์ด (หัวข้อคุย) ถูก ตัวละครก็จะรู้ตามผู้เล่นได้ และดำเนินเรื่องต่อได้ค่ะ
-คลิกเม้าส์ซ้าย คือกำหนดจุดพ้อยต์ที่ตัวละครต้องการเดินไป หรือต้องการดู หรือทำอะไร หากกดดับเบิ้ลคลิกคือการสั่งเก็บของ หรือใช้ไอเท็มค่ะ รวมทั้งการเปิด-ปิดประตูด้วย
-คลิกเม้าส์ขวา คือการสำรวจไอเท็มให้ตัวละครทราบค่ะ หากไม่ใช้คำสั่งนี้ บางครั้ง ตัวละครจะไม่รู้ตามผู้เล่น (ใช้ในฉากช่องเก็บของ Inventory ได้ด้วย)
-การรวมไอเท็ม ทำได้โดยการกดเข้าเมนู Inventory ค่ะ ให้คลิกไอเท็มชิ้นหนึ่งไปวางทับไอเท็มอีกชิ้น แล้วกดดับเบิ้ลคลิกได้เลยค่ะ (มุขนี้ใช้เยอะมาก)
-เกมมีเนื้อหายาวมากๆ ฉะนั้นหมั่นเซฟให้บ่อยๆ ค่ะ เกมมีสล็อตว่างให้เซฟตั้ง 30 สล็อตแน่ะ
-บทที่ 1 – ตามรอยมังกร-
+เริ่มเกมมา เราจะหลับอุตุอยู่บนที่นอนค่ะ ซึ่งหลังจากถูกปลุกกวนใจโก๋แล้ว จะมีตัวชี้ (เคอร์เซอร์) ปิ๊งๆ ตกมาจากเพดานให้เราใช้สั่งการ “รินซ์วินด์” ค่ะ . . ให้กดเปิดประตูตู้เสื้อผ้า (Wardrobe) ก่อนเลย จะได้ “กระเป๋าตังค์” (Pouch) มา 1 ใบค่ะ
Note - คลิกไอเท็มเก็บไว้ที่ตัวเลยค่ะ โดยรินซ์วินด์จะสามารถพกพาไอเท็มติดตัวได้เพียง 4 ชิ้นเท่านั้น ยกเว้นของที่มีขนาดใหญ่มาก จะไม่สามารถเก็บใส่ได้
+ออกจากห้อง ลงไปยังชั้นกลาง ซึ่งในชั้นนี้จะมีทางแยก 2 ทางคือ หากไปทางซ้ายจะไปห้องท่านอธิการบดี (Arch Chanceller’s Room) ส่วนทางขวาคือห้องอาหารของมหาวิทยาลัย (Dining Room) ค่ะ . . ตรงนี้เลือกไปหาท่านอธิการก่อนนะ
+คุยกับท่านอธิการแล้ว เขาจะมอบหมายงานให้เราไปตามหา “Featherwinkle’s Concise Compendium Dragon of Liars” หรือว่ากันง่ายๆ ก็คือ “ตำราประดิษฐ์เครื่องตรวจหามังกร” มาค่ะ เพื่อเอามาใช้ไล่ล่ามังกรร้ายที่แอบกบดานอยู่นั่นเอง
+เดินลงไปยังชั้นล่างของมหาวิทยาลัย ซึ่งที่นี่จะมีห้องอยู่ทั้งหมด 3 ห้อง ดังนี้ค่ะ คือ ห้องเก็บของ (Closet) , ห้องสมุด (Library) และห้องครัว (Kitchen) . . ตรงนี้ให้เลือกไปยังห้องเก็บของก่อน
+ที่ห้องเก็บของ เก็บไม้กวาด (Broom) ที่วางพิงผนังอยู่ แล้วกลับขึ้นไปยังห้องของเราที่ชั้นบนสุดค่ะ
+สังเกตดูบนหลังตู้ จะเห็น “กำปั่นสีทอง” (The Luggage - เธอะ ลักเกจ) นอนหลับอย่างสบายใจค่ะ . . จัดการเอาไม้กวาดไปกระทุ้งมันซะ แล้วเจ้ากำปั่นจอมขี้เซาก็จะบิดขี้เกียจตื่นขึ้นมาในที่สุด . . ซึ่งเจ้ากำปั่นนี้จะคอยเดินตามเราไปยังทุกแห่งหน และสามารถใช้เก็บไอเท็มได้ไม่มีวันเต็ม (เหมือนกระเป๋าวิเศษ มิติที่ 4 ของโดราเอม่อนนั่นล่ะค่ะ)
Note - หน้าต่างวินโดว์ในเมนูช่องเก็บไอเท็มของ The Luggage สามารถลากเม้าส์ย่อ-ขยาย ได้ตามใจเลยค่ะ
+ลองกดสำรวจที่ตัวกำปั่น จะได้กล้วย (Banana) มา 1 ผลค่ะ จากนั้นลงไปยังห้องสมุด จะเจอคุณลิงบรรณารักษ์ดูแลอยู่ . . ลองถามถึงหนังสือที่ตามหาดู แต่ดูท่าจะคุยกันภาษาลิงไม่รู้เรื่อง เพราะนอกจากนั้นหมอจะไม่ยอมช่วยหาหนังสือให้แล้ว ยังตบกบาลเรามาฉาดใหญ่ๆ อีกตะหาก (กร๊ากกกกก)
+เจอเข้าแบบนี้ ก็ต้องเล่นมุขใหม่ . . เที่ยวนี้หยิบเอากล้วยยื่นให้หมอไปเลยค่ะ ซึ่งก็ได้ผล เพราะคุณจ๋อจะดีใจ รีบไปค้นหนังสือที่ว่ามาให้ด้วยความลิงโลดทันที (แหม ต้องเอาของกินมาล่อนะ ฮึ่ม)
+กลับเอาตำราประดิษฐ์เครื่องตรวจหามังกร ไปมอบให้ท่านอธิการที่ห้องทำงานค่ะ . . หลังจากพินิจเนื้อหาในหนังสือแล้ว ท่านอธิการก็จะรู้ส่วนประกอบที่จำเป็นทั้งหมด ในการใช้สร้างเครื่องตรวจหามังกรค่ะ พร้อมกับมอบหมายงานใหม่ ให้เราไปตามหาอุปกรณ์ทั้งหมด 5 ชิ้น ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ คือ ไม้เท้าเวทย์มนตร์ (Stuff) , ภูติจิ๋ว (Imp) , ลมหายใจมังกร (Dragon Breath) , ขดลวดเวทย์มนตร์ (Magic Coil) และ กระทะเหล็ก (Metal Container) ค่ะ
Note - หลังจากได้หนังสือคืนมาแล้ว หากกดใช้หนังสือ (ดับเบิ้ลคลิก) ในเมนูช่องเก็บไอเท็มของ The Luggage จะแสดงรายการของทั้ง 5 ขึ้นมาให้เราทราบค่ะ
-ภารกิจชิ้นที่ 1 – เสาะหาไม้เท้ากายสิทธิ์-
+ไปยังห้องอาหาร (Dining Room) แล้วเดินเข้าไปด้านใน จะเจอ “Windle Poons” พ่อมดม่วง นั่งอยู่บนเก้าอี้ ผู้ชื่นชอบขนมจุกจิก และลองวิชาเสกเวทย์มนตร์อยู่เป็นนิจค่ะ ซึ่งไม้เท้าในมือเขานี่แหล่ะค่ะ คือของที่เราต้องการ แต่ขอดีๆ หมอคงไม่ให้อยู่แล้ว . .+ตรงนี้ให้เอาไม้กวาดมาถือไว้ค่ะ จากนั้นไปยืนใกล้ๆ เขา แล้วรอจังหวะดีๆ พอ Windle Poons หันไปกินขนม รีบกดใช้ไม้กวาด สลับกับไม้เท้าในมือแกเลยค่ะ (คลิกที่ Stuff) . . แล้วเราก็จะได้ไม้เท้ากายสิทธิ์มาง่ายๆ โดยที่เขาไม่รู้ตัว (55)
-ภารกิจชิ้นที่ 2 – แกะรอยภูติจิ๋ว จอมลี้ลับ-
+เดินออกไปลานกว้างหน้ามหาวิทยาลัย จะเจอพ่อมดฝึกหัด (Apprentice Wizard) คนหนึ่งนั่งท่องตำรา และกินขนมขบเคี้ยวอยู่ค่ะ . . คุยกับเขา (เลือกหัวข้อ ?) แล้วหมอจะช่วยคลายผนึกประตูให้ออกไปข้างนอกได้ค่ะ แต่ก่อนไป อย่าลืมเก็บ “กบ” ที่ริมสระมาด้วยนะ
+จากนั้นเลือกไปยัง Livery Stable (โรงวัว) ก่อนค่ะ (อยู่บริเวณล่างขวาของแผนที่ – ดูรูปประกอบนะคะ) แล้วจะเจอ “กระสอบ” (Sack) ใบหนึ่งวางพิงเกวียนอยู่ ลองสำรวจดู จะได้ “เมล็ดพันธุ์ข้าวโพด” (Corn) มา 1 กำค่ะ
+ไปต่อยัง Alley (ตรอกพิสดาร) ซึ่งทางเดินบริเวณกลางซอยนี้ มันจะมีอยู่บล็อกหนึ่งค่ะ ที่พอเดินไปเหยียบแล้ว มันจะส่งเราเด้งลอยไปอยู่บนหลังคาทันที . . ตอนนี้ให้เดินเลี่ยงๆ ไปยังบ้านหลังสุดซอยกันก่อนนะคะ (ตอนเผลอไปเหยียบบล็อกโดน แล้วเรากำลังทำท่าตกใจ สามารถกดเดินหนีออกมาได้นะ)
Note 1 - ในซอยนี้ จะมีนินจาอยู่คนหนึ่งค่ะ ชอบออกมาฝึกวิชาเหินหาวอยู่บนหลังคาเป็นประจำ
Note 2 - ถ้าพลาดถูกบล็อกเหลี่ยมเด้งไปอยู่บนหลังคาซะก่อน ให้คลิกไปยังหน้าต่าง (Window) ของบ้านหลังทางซ้าย ก็จะกลับมายังซอยชั้นล่างได้อีกครั้งค่ะ
+เข้ามาในบ้านที่มีรูปปลาแขวนอยู่ จะพบว่านี่คือบ้านของนักเคมี จอมแปรธาตุ (Alchemist) ค่ะ . . ให้เอาพันธุ์ข้าวโพดที่เก็บมา ไปใช้กับขวดแก้วทดลองบนโต๊ะ . . ซึ่งได้ผลค่ะ เกิดปฏิกิริยาวี้ดบูมขึ้นมาจนข้าวโพดระเบิด กระจายเต็มไปหมด ทำให้นักเคมีเจ้าบ้านรีบลงไปหมอบอยู่ใต้โต๊ะด้วยความตกใจทันที
+จังหวะนี้ รีบเดินไปสำรวจกล่อง (Box) ที่วางอยู่บนโต๊ะทันทีเลยค่ะ (กดคลิกเม้าส์ขวา) แล้วเราจะซูมดูในระยะใกล้ได้ ซึ่งที่แท้กล่องที่ว่า จริงๆ แล้วก็คือกล้องถ่ายรูป (Camera) นั่นเอง
+กดคลิกที่ชัตเตอร์สีแดงทางขวา (ตุ้มกลมๆ) แล้วบานเลื่อนกล้องจะเปิดออกมา เผยให้เห็นเจ้าของฝีมือ “แสงแฟลช” แชะ แชะ ข้างใน ซึ่งก็คือเจ้าภูติจิ๋ว (Imp) ที่เราตามหาอยู่นั่นเอง จากนั้นกดกลับออกมายังหน้าจอปกติค่ะ
+ลองจับตัวภูติจิ๋วอีกที (คลิกที่กล้อง จะขึ้นชื่อ Imp แล้ว) แต่จะวืดไปค่ะ เพราะมันตัวเล็ก แล้วก็เร็วมากด้ว ชนิดจับไม่ได้ ไล่ไม่ทันกันเลยทีเดียว สุดท้ายมันจะมุดหนีไปซ่อนยังรูหนู (Hole) หน้าบ้านจนได้ (T_T) . . ตอนนี้ต้องไปหาอะไรมาช่วยจับมันก่อนนะ!!
+ออกไปยังแผนที่โลกอีกครั้ง แล้วไปที่ Square (จัตุรัสของเมือง) ค่ะ แล้วหยิบมะเขือเทศ (Tomato) จากชั้นวางมา 1 ลูกค่ะ แล้วเดินเอาไปปาใส่หน้านักโทษ (Tax Collector) ที่ถูกตรึงประจานอยู่ทางขวาค่ะ (55)
+เดินกลับไปเก็บมะเขือเทศอีกครั้ง แต่รอบนี้จะเจอหนอนค่ะ (อี๋!!) ซึ่งพระเอกของเราก็รีบสะบัดทิ้งด้วยความเร็วไว . . จากนั้นสังเกตที่พื้นดีๆ จะเห็นว่ามีอะไรคลานดื้บๆ วับไป แวบมาอยู่ . . ให้ลองเก็บขึ้นมาดู ก็จะได้หนอน (Worm) มา 1 ตัวค่ะ
+กลับไปยังแผนที่โลก แล้วไปที่ย่านการค้า ถนนคนเดินประจำเมือง (Street) ต่อค่ะ . . ซึ่งที่นี่จะมีร้านค้าสำคัญอยู่ 4 ร้าน ดังนี้คือ ร้านขายของเล่น ต้นซอย , ร้านขายของโทรลล์ กลางซอย (เปิดเฉพาะกลางคืนเท่านั้น) , ร้านขายปลา (ข้างร้านมีห้องน้ำคนจร) และร้านตัดผม ท้ายซอยค่ะ
+เลือกไปยังร้านขายของเล่นก่อน แล้วเก็บ “เชือก” (String) มาจากเคาน์เตอร์ค่ะ แล้วกลับไปยังตรอก Alley อีกครั้ง คราวนี้เราจะตกภูติจิ๋วจอมแสบกันแล้ว ^ ^
+กดเข้าเมนูช่องเก็บไอเท็มของ The Luggage แล้วใช้ String กับหนอนค่ะ ก็จะได้เหยื่อล่อมา (รูปหนอนจะมีเชือกผูกแล้ว) จากนั้นกดใช้หนอนล่อภูติจิ๋วออกมาจากรู ซึ่งพอมันเดินตามออกมาก็โป๊ะเช๊ะค่ะ . . ในที่สุดเราก็ได้ตัว Imp มาสมใจ
-ภารกิจชิ้นที่ 3 – ตามล่าลมแห่งใจแห่งเพลิง-
+ออกมายังแผนที่โลกแล้ว มุ่งไปยังพระราชวัง (Palace) ต่อเลยค่ะ จะเจอยามเฝ้าประตูอ้วน-ผอมคู่หนึ่งเฝ้าอยู่ . . ให้คุยกับยามคนไหนก็ได้ค่ะ (ด้วยหัวข้อ ?) แล้วพวกเขาจะทะเลาะกันเอง จนไม่สนใจเรา และยอมให้ผ่านประตูเข้ามาในที่สุด (55)+เดินเข้าไปในวัง จะเจอผู้พิพากษากำลังไต่ตวนคดีที่มีชาวประชามารอร้องเรียนอยู่ค่ะ พร้อมกับตลกหลวง (Fool) คู่ใจ . . แต่ตอนนี้ยังไม่ต้องไปสนใจค่ะ เดินเข้าห้องน้ำ (ประตูรูปดาว) แล้วเก็บ “กระจก” (Mirror) มาติดตัวเราไว้เลยค่ะ แล้วออกไปยังแผนที่โลกได้เลย . . .
+กลับไปยืนเหยียบบล็อกจอมเด้ง ในตรอก Alley อีกครั้ง แล้วเราจะกระดอนขึ้นมาอยู่บนหลังคาในที่สุด . . ตรงนี้สังเกตเห็นหอคอยสูงๆ (Tower) ที่อยู่ข้างหลังเราไหมคะ ให้คลิกไปที่นั่นเลยค่ะ
+มาถึงแล้ว สั่งให้รินซ์วินด์สำรวจยังปลายสุดของเสา (Tip) ที่แขวนอยู่ตรงหน้า แล้วท่านยมทูต ผู้พรากวิญญาณ (Death) จะปรากฏตัวขึ้นมาทักทายค่ะ
+เอากระจกที่ติดตัวมาไปแขวนยังปลายสุดของเสา (Tip) แล้วกดหมุนกระจกอีกครั้ง . . รินซ์วินด์จะสะท้อนแสงไปเข้าหน้าเจ้ามังกรที่เกาะอยู่ยังยอดหอคอยข้างๆ เข้าอย่างจังค่ะ . . ซึ่งมันจะบินตามมาเอาเรื่องทันที
+แต่พอเห็นกระจกเข้า หมอก็ลืมตัวอดส่องโชว์หล่อไม่ได้ ซ้ำยังเผลอพ่นไฟเข้าใส่กระจกซะอีกแน่ะ แต่นั่นล่ะค่ะที่เราต้องการ ด้วยเพราะตอนนี้ เราได้ลมหายใจของมังกรมาเรียบร้อยแล้ว . . .
+จากนั้นเดินกลับไปยังโซนหลังคาอีกครั้งค่ะ แต่ก่อนจะลงมาข้างล่าง อย่าลืมเก็บบันได (Ladder) ที่พาดอยู่ทางซ้ายมาด้วยนะ . . ซึ่งพอมร.นินจาเดินกลับมาเหยียบอีกครั้ง ก็จะร่วงปุลงไปเลย (ฮา)
-ภารกิจชิ้นที่ 4 – ขดลวดหาไม่ได้ เอาอะไรแทนดีนะ!?-
+ไปยังจัตุรัส Square ค่ะ แล้วเดินไปคุยกับ “เออร์ชิน” (Urchin) เด็กเร่ร่อน จอมแสบประจำซอย (ยืนใกล้ๆ กับนักรบสาวอเมซอน) ซึ่งเขาจะสอนวิชา “แซงค์เทวดา”(Pickpocket) ให้กับเราค่ะ+โดยเราจะไปลองวิชากับแก๊งผู้เฒ่าทั้ง 4 (Old Timers) แล้วจะได้ของชิ้นหนึ่งติดไม้ติดมือมาด้วย นั่นคือ “ชุดชั้นในสตรี สีชมพูจ๋า” (Bloomers) นั่นเอง (ตาเฒ่าแอบจิต 55)
Note - วิชา Pickpocket จะถูกเก็บอยู่ในเมนูไอเท็มติดตัวของรินซ์วินด์ค่ะ เป็นไอค่อนรูปมือล้วงกระเป๋า
+กลับไปยังย่าน Street อีกครั้ง แล้วเลือกไปยังร้านตัดผมท้ายซอยค่ะ . . พอเข้ามาแล้วจะเจอช่าง (Barber) คนหนึ่งกำลังวุ่นกับการทำผมลูกค้าคนสำคัญอยู่ . .
+ดูๆ จะเห็นว่าเธอคาดโรลม้วนผมอยู่ใช่ไหมคะ!? . . ลองคลิกสำรวจที่โรลม้วนผม (Hair Roller) ดูก่อน (คลิกเม้าส์ขวา) แล้วคุยกับเธอเลยค่ะ . . รินซ์วินด์จะแกล้งอำโดยบอกว่าโครงหน้าแบบเธอนั้น ไม่เหมาะกับผมทรงนี้เลยสักนิด ทางที่ดีควรจะเลือกทรงผมตรงน่าจะเหมาะกว่า . . .
+พอได้ยินเข้าแบบนี้ คุณลูกค้าหุ่นอวบก็จัดแจงสั่งช่างรื้อผมทำใหม่ตามคำแนะนำของเราเลยค่ะ (ฮ่า) แต่เจ้าโรลที่ว่านั่น นายช่างตัวดีดันเก็บไว้กับตัวแทนซะนี่ . . .
+ให้ชวนช่างตัดผมคุยด้วยค่ะ แล้วหมอจะเพ้อกลางวันถึงคนรักแสนสวยของเขา จังหวะนี้ให้รีบใช้วิชา “Pickpocket” แฮ๊บโรลมาจากกระเป๋าเสื้อ (Pocket) ของเขาเลยค่ะ . . แค่นี้ก็ได้ไอเท็มเอาไปใช้แทนขดลวดเวทย์มนตร์แล้ว (ขดๆ ม้วนๆ เหมือนกัน หยวนๆ กันได้ค่ะ . . เฮ)
Note - คลิกให้โดนกระเป๋าเสื้อ (Pocket) นะ ไม่งั้นเก็บโรลไม่ได้ . . จะบอกให้
-ภารกิจชิ้นที่ 5 – กระทะนั้นสำคัญไฉน!?-
+กลับไปยังจัตุรัส Square อีกครั้ง แล้วเข้าไปยังคลินิกจิตแพทย์ค่ะ (จะมีคนขายโดนัท “มร.ดิบเบลอร์”ยืนอยู่หน้าร้าน) . . พอเข้ามาแล้ว จะเจอคุณเลขาปากดีสั่งให้นั่งตามลำดับคิวทันที . . เอ้า นั่งก็นั่งเนาะ+เป้าหมายของเราคือ “สวิงจับแมลง” (Butterfly Net) ที่แขวนอยู่หลังเก้าอี้คิวที่ 2 นี่แหล่ะค่ะ แต่ดันมีคุณโทรลล์นั่งอยู่ก่อนแล้วนี่สิ . . ให้คุยกับโทรลล์ (เลือกหัวข้อ ?) แล้วเดินออกจากร้านไปเลยค่ะ . . .
+ลองกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง ทีนี้มร.โทรลล์ผู้อารีจะเขยิบที่ให้เราไปนั่งตรงกลางแทนแล้ว (คุยอะไรกันนะ ^ ^) เราก็จะได้สวิงจับแมลงมาได้อย่างสบาย ๆ . . ตรงนี้ให้เก็บไว้กับตัวเลยค่ะ เพราะเดี๋ยวจะต้องใช้อีก
+กลับไปยังลานกว้างหน้ามหาวิทยาลัย แล้วเดินอ้อมไปทางด้านหลัง (Path) แล้วเอาบันไดมาวางพาดกับขอบหน้าต่างเลยค่ะ . . พอปีนขี้นไปดู จะพบว่าด้านหน้าของห้องนี้ก็คือห้องครัวนั่นเอง . . ซึ่งพ่อครัวคนดีก็กำลังสาละวนกับการทอดขนมแพนเค้ก-ลอยฟ้าอยู่ค่ะ
+จัดการเอาสวิงมาช้อนคว้าแพนเค้กที่ลอยอยู่ให้ได้ แล้วพ่อครัวที่รออยู่ข้างล่างจะหัวเสีย ที่แพนเค้กไม่ตกลงมาสักที จนหมอน้อยใจพาลหงุดหงิดเดินหนีไปในที่สุดค่ะ (ฮ่า)
+ปีนกลับลงมาแล้ว ลองสำรวจที่กองถุงสีน้ำตาลที่วางพิงผนังอยู่ จะได้ “กระสอบปุ๋ย” (Fertilizer) มา 1 ถุงค่ะ จากนั้นเดินกลับไปยังห้องครัว เพื่อหยิบ “กระทะเหล็ก”(Frying Pan) ที่วางอยู่บนเตาได้เลย . . เย้ เย้ . .
+เมื่อได้ของที่ต้องการครบหมดแล้ว ให้เดินกลับเอาไปให้ท่านอธิการได้เลยค่ะ ซึ่งท่านก็จะขอเวลาสักแป๊ป สร้างเครื่องแกะรอยมังกรขึ้นมาจนได้ . . แต่แล้วพระเอกเราก็ถูกด้านมืดเข้าครอบงำจนได้ เพราะหมอหวังจะใช้ตามหารังมังกร เพื่อค้นหาสมบัติไปในตัวค่ะ (55)
+แน่นอนว่าท่านอธิการรีบค้านหัวชนฝาทันที แต่สุดท้ายก็ถูกความเจ้าเล่ห์ของรินซ์วินด์ปั่นหัว จนพลาดท่าถูกพระเอกตัวดีหลอกเอาเครื่องแกะรอยมังกรออกมาใช้จนได้ (ฮ่า)
+ในฉากแผนที่ ให้เดินไปสำรวจบริเวณด้านล่างทางซ้าย ก็จะเจอ “โรงนา” (Barn) ซึ่งเป็นแหล่งกบดานของมังกรค่ะ . . แต่พอรินซ์วินด์เดินไปเจอสมบัติกองใหญ่เข้า ก็หน้ามืดดีใจ อารามรีบไปกอบโกยเหรียญทองกองโตเป็นการใหญ่ โดยคงลืมตัวไปกระมัง ว่าที่นี่คือรังของมังกร (ฮี่ ฮี่)
+ในที่สุดพญามังกรก็ปรากฏตัวขึ้นค่ะ พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้ ด้วยการขอให้เราช่วยปลดปล่อยมันเป็นอิสระจากคนที่ปลุกมันขึ้นมาให้ที แลกกับสมบัติกองใหญ่กองนั้น ซึ่งรินซ์วินด์ก็ตกลงค่ะ
+โดยไอเท็มสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ในพิธีปลดพันธนาการก็คือ การรวบรวมของใช้ติดตัวล้ำค่าของกลุ่มคนที่ปลุกมันขึ้นมานั่นเอง!! โอย! แล้วพ่อยอดชายของเราจะไหวไหมเนี่ย . .
Edited by rbgel, 29 July 2010 - 08:48 PM.