`

Jump to content





ความรู้เรื่องเลนส์แบบต่างๆ


32 replies to this topic

#1 Novemzer

    นักเล่นเกมตัวยง

  • High Members
  • PipPipPipPipPip
  • 343 posts

Posted 02 February 2010 - 03:48 PM

<!--sizeo:7--><span style="font-size:36pt;line-height:100%"><!--/sizeo--><u>ความยาวโฟกัส
</u><!--sizec--></span><!--/sizec-->
................................................................................
...................

ตัวเลขหลักที่ใช้ในการเลือกเลนส์คือ ความยาวโฟกัส ครับ (หน่วยเป็น มิลลิเมตร-mm)

ความยาวโฟกัสของเลนส์ที่แตกต่างกันจะให้ลักษณะภาพที่ต่างกันครับ โดยแบ่งคร่าวๆได้ดังนี้ครับ

ความยาวโฟกัสน้อยๆ (ประมาณไม่เกิน 28) จะเรียกว่าเลนส์ไวด์ คือกว้าง ถ่ายเห็นทั้งภูเขา
ความยาวโฟกัสกลางๆ (ประมาณ 28-70) จะเรียกว่าเลนส์นอร์มอล คือ เท่าๆสายตามนุษย์ เพราะสายตาคนเรามีความยาวโฟกัสประมาณ 50mm ครับ
ความยาวโฟกัสมากๆ (ประมาณ 70 ขึ้นไป) จะเรียกว่าเลนส์เทเล พูดง่ายๆก็คือ ซูมไกลๆนั่นเองครับ

................................................................................
...................

เลนส์บางตัวบอกเป็นช่วง เช่น เลนส์ kit 18-55mm...หมายถึงเลนส์ตัวนี้มีความยาวโฟกัสเริ่มต้นที่ 18mm และซูมได้จนถึง 55mm ครับ
---> เรียกเลนส์แบบนี้ว่าเลนส์ซูมครับ

16-35mm
18-55mm
17-85mm
55-250mm
70-200mm
100-400mm

เหล่านี้คือเลนส์ซูมทั้งสิ้นครับ

เลนส์ ซูมมักเป็นที่นิยมของตากล้องทั่วไป เพราะสามารถเปลี่ยนความยาวโฟกัสได้ด้วยการซูม ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน เช่น 17-85 ที่สามารถ่ายกว้างก็ได้ ถ่ายเจาะก็ได้...ข้อเสียมีบ้างคือบางตัวมีรูรับแสงไม่กว้างนัก (อย่าเพิ่ง งง อ่านต่อไปเดี๋ยวเจอ) และราคามักจะแพงกว่าเลนส์ที่ซูมไม่ได้ที่ความยาวโฟกัสเดียวกัน

................................................................................
...................

เลนส์บางตัวบอกความยาวโฟกัสเป็นเลขตัวเดียว เช่น 50mm...เลนส์แบบนี้คือเลนส์ที่ซูมไม่ได้ครับ อยากซูมต้องเดินเอา
---> เรียกเลนส์แบบนี้ว่า เลนส์ Prime หรือที่คนไทยชอบเรียกว่าเลนส์ Fixed ครับ

15mm
24mm
35mm
50mm
85mm
100mm
135mm
200mm

เหล่านี้คือเลนส์ฟิกซ์ทั้งสิ้นครับ

เลนส์ Fixed ใช้งานยากกว่าเลนส์ซูม เพราะซูมไม่ได้ หากต้องการจัดองค์ประกอบภาพ ต้องเดินเข้าเดินออกเอาเอง หรือถ้าอยากเปลี่ยนความยาวโฟกัสก็ต้องเปลี่ยนเลนส์ ขณะที่เลนส์ซูมแค่หมุนเอาก็เสร็จแล้ว...ถามว่าใช้งานยุ่งยากแบบนี้แล้วมันมี ดีอะไร...มีดีคือเลนส์ Fixed มักจะให้ภาพที่คุณภาพดีกว่าเลนส์ซูมมาก และรูรับแสงก็ยังกว้างมากด้วย (อาจกว้างกว่าเลนส์ซูมที่ความยาวโฟกัสเดียวกันถึง 2 stop) ในขณะที่ราคาค่อนข้างถูกกว่าเลนส์ซูม...ถ้านับเฉพาะความคม เลนส์ Fixed ถูกๆบางตัวอาจคมกว่าเลนส์ซูมที่ราคาแพงกว่า 5-10 เท่าได้ เช่น 50 f/1.8 ที่คมกว่า 17-85 f/3.5-5.6 IS...เลนส์ Fixed จึงค่อนข้างเป็นที่นิยมในกลุ่มช่างภาพมือโปรที่ต้องการคุณภาพสูงสุดซึ่งไม่ เกี่ยงการเปลี่ยนเลนส์ หรืออาจใช้ในการถ่ายใน Studio ที่ระยะการถ่ายค่อนข้างตายตัว

................................................................................
...................

ถ้าจะเรียกชื่อเลนส์ตามความยาวโฟกัส ก็มักจะได้ยินชื่อเลนส์ต่อไปนี้ครับ

เลนส์ไวด์
เลนส์นอร์มอล
เลนส์เทเล
เลนส์ไวด์ซูม
เลนส์นอร์มอลซูม
เลนส์เทเลซูม
เลนส์ครอบจักรวาล คือ ซูมได้ตั้งแต่ไวด์ยันเทเล

ขอบคุณ คุณเลนส์มันแพงพอๆกับกล้องเลยนะครับ เตรียมใจไว้รึยัง

................................................................................
...................

ตัวเลขหลักที่ใช้ในการเลือกเลนส์คือ ความยาวโฟกัส ครับ (หน่วยเป็น มิลลิเมตร-mm)

ความยาวโฟกัสของเลนส์ที่แตกต่างกันจะให้ลักษณะภาพที่ต่างกันครับ โดยแบ่งคร่าวๆได้ดังนี้ครับ

ความยาวโฟกัสน้อยๆ (ประมาณไม่เกิน 28) จะเรียกว่าเลนส์ไวด์ คือกว้าง ถ่ายเห็นทั้งภูเขา
ความยาวโฟกัสกลางๆ (ประมาณ 28-70) จะเรียกว่าเลนส์นอร์มอล คือ เท่าๆสายตามนุษย์ เพราะสายตาคนเรามีความยาวโฟกัสประมาณ 50mm ครับ
ความยาวโฟกัสมากๆ (ประมาณ 70 ขึ้นไป) จะเรียกว่าเลนส์เทเล พูดง่ายๆก็คือ ซูมไกลๆนั่นเองครับ

................................................................................
...................





ขอบคุณ คุณ stamp ด้วยครับ
จากhttp://www.rpst-digital.org/forum/showthread.php?t=14128











<u><!--coloro:#2E8B57--><span style="color:#2E8B57"><!--/coloro--><!--sizeo:7--><span style="font-size:36pt;line-height:100%"><!--/sizeo-->รูรับแสง<!--sizec--></span><!--/sizec--><!--colorc--></span><!--/colorc--></u>


เลนส์ไม่ได้มีแต่ความยาวโฟกัสบอกครับ

จะมี f-number บอกด้วย...มันคือ รูรับแสงกว้างสุดของเลนส์ตัวนั้น ครับ

f มาก รูแคบ
f น้อย รูกว้าง

เลนส์ ที่มี f น้อยๆ (รูกว้าง) เช่น f/1.2, f/1.4, f/1.8, f/2, f/2.8 ราคามักจะแพงครับ เพราะชิ้นเลนส์จะใหญ่ขึ้น และเปิดให้แสงเข้าได้มาก เวลามองจากช่องมองภาพ จะเห็นภาพชัดและสว่าง และจะทำให้กล้องโฟกัสได้ดีขึ้นครับ และยิ่ง f กว้างมากขึ้นแบบผิดปกติเมื่อไร ราคาจะเริ่มทวีคูณเพราะการออกแบบเลนส์จะยากขึ้นมากและคุณภาพจะเริ่มเข้าสู่ ระดับความบ้าคลั่ง เช่น 85 f/1.8 กับ 85 f/1.2L ที่รูรับแสงต่างกันแค่ 1 stop แต่ราคาต่างกันเกือบ 7 เท่าครับ...แต่อย่างไรก็ตาม การที่เลนส์ f กว้างๆ ราคาแพงมหาศาลขนาดนั้น มักไม่ได้มาจาก f กว้างอย่างเดียว แต่มักมาจากหลายๆอย่าง เช่น คมขึ้น สีสันคอนทราสต์ดีขึ้น ระบบการโฟกัสดีขึ้น การประกอบดีขึ้น ควบคุมแสงแฟลร์/แสงฟุ้งได้ดีขึ้น เป็นต้นครับ...เมื่อรวมๆกันหลายๆอย่าง ราคาจึงแพงขึ้นมากๆครับ

................................................................................
...

เลนส์จะมีค่า f อยู่ 2 แบบครับ คือ

- f ที่กว้างสุดของเลนส์คงที่ตลอดช่วงซูม
- f ที่กว้างสุดของเลนส์เปลี่ยนไปตามช่วงซูม

ซึ่ง เลนส์ดีๆ มักจะมี f กว้างสุดคงที่ตลอดช่วงซูมครับ เพราะว่าทำให้ค่าแสงไม่เปลี่ยนเมื่อทำการซูมเพื่อจัดองค์ประกอบภาพ เช่น 70-200 f/2.8

ส่วนเลนส์ที่มี f กว้างสุดเปลี่ยนไปตามช่วงซูม จะเป็นเลนส์ที่ยิ่งซูมรูยิ่งแคบลงครับ เช่น 18-200 f/3.5-6.3 หมายถึง เริ่มที่ 18mm จะให้ f กว้างสุดที่ f/3.5 และเมื่อซูมไปเรื่อยๆ ค่า f ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ(รูแคบลง) จนถึงที่ 200mm จะให้ f กว้างสุดแค่ที่ f/6.3 ครับ...ข้อเสียของเลนส์แบบนี้คือ ภาพที่เห็นในช่องมองภาพจะมืดลงเรื่อยๆเมื่อซูม และ shutter speed จะลดลง และมีโอกาสที่ภาพจะเบลอจะมากขึ้นครับ

................................................................................
...

ค่า f-number นี้ เราสามารถปรับลดลงได้นะครับ บางคนอาจคิดว่า ถ้าชั้นซื้อเลนส์ f/2.8 คงที่ตลอดช่วงซูมมา ชั้นก็ถ่ายที่ f/8 หรือ f/22 ไม่ได้น่ะซิ...อันนี้ปรับได้นะครับ...เพราะค่า f ที่เค้าบอกคืือค่า f กว้างสุดนะครับ (ย้ำจนไม่รู้จะย้ำยังไง) มันปรับแคบลงได้

................................................................................
...

f-number ของเลนส์จะเป็นเลขแปลกๆ...ซึ่งที่มาของมันมาจากการคำนวณพื้นที่วงกลมที่ เพิ่มขึ้นทีละ 1 เท่าครับ...ผลจากการคำนวณส่งผลให้ความกว้างของเลนส์ (เส้นผ่านศูนย์กลางของหน้าเลนส์) ที่เพิ่มขึ้นทีละ รูท2 เท่า (ประมาณ 1.4) จะทำให้พื้นที่รับแสงของเลนส์มากขึ้น 1 เท่าครับ

ลำดับการเรียงจะเป็นดังนี้ครับ

ทีละ 1 stop
1--1.4--2--2.8--4--5.6--8--11--16--22--32
(สังเกตว่าคูณเลขตัวแรกด้วย 1.4 จะได้เลขถัดไป)

ทีละ 1/3 stop
1--1.1--1.2--1.4--1.6--1.8--2--2.2--2.5--2.8--3.2--3.5--4--4.5--5.0--5.6--6.3--7.1--8--9--10--11--13--14--16--18--20--22









<!--sizeo:7--><span style="font-size:36pt;line-height:100%"><!--/sizeo--><u>
ข้อดีสำหรับเลนส์สำหรับกล้องดิจิตอลคือ...ถูก และ ขนาดเล็กลงครับ</u><!--sizec--></span><!--/sizec-->



อย่างไรก็ตาม
เราก็ยังเอาเลนส์สำหรับกล้องฟิล์มมาใช้กับกล้องดิจิตอลตัวคูณได้อยู่นะครับ
แต่ จะเอาเลนส์สำหรับกล้องดิจิตอลมาใส่กับกล้องฟิล์ม หรือ กล้องฟูลเฟรมไม่ได้ครับ (กล้องฟูลเฟรม คือ กล้องที่มีเซนเซอร์ใหญ่เท่าฟิล์ม คือ 5D กับ 1Ds)

(สาเหตุที่เอา เลนส์สำหรับกล้องดิจิตอลมาใส่กล้องฟิล์มไม่ได้ก็เพราะ มันจะมีภาพแค่ในบริเวณกรอบสีแดงน่ะครับ...บริเวณขอบภาพจะดำหมดเลย...เรียก ว่าติดขอบดำครับ...นอกจากนั้น ถ้าเป็นเลนส์สำหรับกล้องดิจิตอลของ Canon (รหัส EF-S) ตูดเลนส์จะยื่นเข้าไปในบอดี้มากกว่าปกติ...ซึ่งตูดเลนส์ที่ยื่นออกไปนี้จะไป ขวางกระจกสะท้อนภาพไว้ ทำให้กระจกสะท้อนภาพยกขึ้นไม่ได้และถ่ายภาพไม่ได้ครับ)

ซึ่งเลนส์ทุกตัว ถ้าเอามาเสียบกับกล้องดิจิตอลตัวคูณ (ของ Canon)
ความยาวโฟกัสจะถูกคูณด้วย 1.6 ทุกตัวครับ
(บางคนสับสนว่าเลนส์สำหรับดิจิตอลไม่ต้องคูณ...จริงๆต้องคูณทุกตัวนะครับ)

ที่ต้องคูณเพราะ ขนาดเซนเซอร์มันเล็กลง ภาพที่ได้จึงเสมือนว่าถูกซูมเข้าไปอีกนิดนึงครับ เช่น จาก 50 กลายเป็น 80 เป็นต้น

ทั้งนี้ทั้งนั้น มันไม่ใช่การซูมจริงๆนะครับ มันเป็นแค่การ crop ภาพตรงกลางมาเท่านั้นเอง

ถ้าเป็นเลนส์ Canon จะมีรหัสนำหน้า 2 แบบคือ
EF...ใช้ได้กับฟิล์มและดิจิตอลรวมทั้งฟูลเฟรม
EF-S...ใช้ได้กับกล้องตัวคูณเท่านั้น

ถ้าเป็นเลนส์ Sigma จะเขียนรหัสต่อท้ายเลนส์ไว้คือ
DG...ใช้ได้กับฟิล์มและดิจิตอลรวมทั้งฟูลเฟรม
DC...ทำมาเพื่อกล้องตัวคูณเท่านั้น เอาไปใช้กับฟิล์มหรือฟูลเฟรมได้ แต่จะติดขอบดำ

ถ้าเป็นเลนส์ Tamron จะเขียนรหัสต่อท้ายเลนส์ไว้เหมือนกันครับ คือ
DI...ใช้ได้กับฟิล์มและดิจิตอลรวมทั้งฟูลเฟรม
DI II...ทำมาเพื่อกล้องตัวคูณเท่านั้น เอาไปใช้กับฟิล์มหรือฟูลเฟรมได้ แต่จะติดขอบดำ


<!--coloro:#2E8B57--><span style="color:#2E8B57"><!--/coloro-->
<u><!--sizeo:7--><span style="font-size:36pt;line-height:100%"><!--/sizeo-->
เลือกเลนส์<!--sizec--></span><!--/sizec--></u>
<!--colorc--></span><!--/colorc-->


<u>ถ่ายวิว ใช้เลนส์ไวด์ครับ</u>

- EF-S 18-55 f/3.5-5.6...เลนส์คิท ถ่ายได้ทุกอย่าง
- EF-S 18-55 f/3.5-5.6 IS...เป็นเลนส์คิทตัวใหม่จาก Canon ครับ ติดกันสั่นมาให้ และมีคุณภาพ Optic ดีกว่าเดิมพอสมควร ราคาประมาณ 3500 ครับ
- EF-S 10-22 f/3.5-4.5 USM...2 หมื่นนิดๆ กว้างที่สุดสำหรับกล้องตัวคูณครับ
- Sigma 10-20 f/4-5.6 DC HSM...เลนส์ค่ายอิสระ หมื่นต้นๆ กว้างสะใจเช่นกัน เขาบอกกันมาว่าคมและสีพอๆกับ EF-S 10-22...แต่สังเกตให้ดีๆ เลนส์ Sigma ตัวนี้จะมี f แคบกว่า Canon นะครับ
- EF 17-40 f/4L USM...2 หมื่นต้นๆ มีรูรับรับแสงคงที่ คมมาก สีสวย และโฟกัสเร็วครับ (L ที่ต่อท้ายชื่อเลนส์ หมายถึง เลนส์นี้เป็นเลนส์ระดับโปรของ Canon ครับ คุณภาพทาง optic และโครงสร้างจะดีกว่าเลนส์ทั่วไป)
- EF 16-35 f/2.8L II USM...เลนส์ไวด์ซูมที่ดีที่สุดของ Canon ครับ 4 หมื่นนิดๆ


<u>ถ่ายทั่วไป ใช้เลนส์นอร์มอลครับ</u>

- EF-S 18-55 f/3.5-5.6...ก็เป็นนอร์มอลเหมือนกัน
- EF-S 18-55 f/3.5-5.6 IS...เหมือนตัวบน แต่ติดกันสั่นมาให้ ทำให้ถือเดินเล่นได้สบายขึ้นในที่แสงน้อยๆครับ
- EF 17-40 f/4L USM...ก็ใช้ถ่ายทั่วไปได้ สำหรับคนไม่ต้องการซูมมากๆ แต่อยากได้คมๆ สีสวยๆ
- Tamron 17-50 f/2.8 DI II...หมื่นนิดๆ รูรับแสงคงที่ ตัวนี้คมมากครับ ติดว่าโฟกัสช้านิดนึง และสีค่อนข้างอมเหลือง (อมส้ม)
- Tamron 28-75 f/2.8 DI...หมื่นนิดๆ เหมือนกันกับข้างบน ผลิตมาเพื่อใช้กับกล้องฟิล์มครับ (แต่ดิจิตอลก็ใช้ได้ โปรดสังเกตว่า 17-50 คูณ 1.6 จะได้ประมาณ 28-80 คือช่วงเดียวกัน)
- EF 50 f/1.8...ไม่เกิน 4 พัน เป็นเลนส์ที่ทุกคนที่เล่น SLR เคยใช้ครับ และส่วนใหญ่จะมีเป็นของตัวเอง ด้วยราคาที่ถูกแต่คุณภาพเหลือล้น เพราะเป็นเลนส์ฟิกซ์ ทำให้ภาพคม (มาก) และให้ f สูงสุดถึง 1.8 ทำให้สามารถนำไปถ่ายในที่แสงน้อยๆได้ดี
- EF-S 17-85 f/4-5.6 IS USM...หมื่นต้นๆ ซูมได้เยอะ โฟกัสเร็ว และมีระบบ IS คือ กันสั่น ช่วยให้ถือกล้องถ่ายด้วยมือเปล่าได้ที่ความเร็วชัตเตอร์น้อยกว่าปกติครับ เอาไว้ถ่ายตอนแสงน้อยๆ
- Sigma 18-200 f/3.5-6.3 DC OS...หมื่นปลายๆ เลนส์ครอบจักรวาลจาก Sigma ที่มาพร้อมกันสั่น (OS ก็คือ IS นั่นล่ะครับ แต่เป็นของ Sigma) สำหรับคนขี้เกียจเปลี่ยนเลนส์ครับ
- EF-S 18-200 f/3.5-5.6 IS...เลนส์ครอบจักรวาลของ Canon ครับ คุณภาพดีใช้ได้ ที่แน่ๆก็ดีกว่า Sigma แน่นอนครับ อย่างน้อยๆก็ f กว้างกว่าหน่อยนึงละ ราคาประมาณ 2หมื่น

(เพิ่มนิดนึงครับ...คนที่เพิ่งเปลี่ยนจากเล่น compact มาเป็น SLR มักจะอยากได้เลนส์ประเภทนี้ คือ ซูมทั้งใกล้และไกลในตัวเดียวกัน แต่ผมไม่แนะนำครับ เพราะ
- คุณภาพไม่ดี...ไวด์ภาพป่อง นอร์มอลภาพไม่คม เทเลภาพซอฟต์
- ซูมไกล แต่รูรับแสงแคบ ทำให้สปีดตก...ภาพเบลอ ถึงจะมีกันสั่นก็ช่วยไม่ค่อยไหวครับ
- แพง...สามารถซื้อเลนส์แยกช่วงคุณภาพดีๆ ได้เกือบ 2 ตัวแน่ะ
สรุปว่าได้แต่สะดวกครับ ซึ่งไหนๆเราก็ซื้อกล้องที่มันเปลี่ยนเลนส์ได้แล้วก็น่าจะซื้อเลนส์มาเปลี่ยนบ้างนะคร
ับ)

- EF 24-105 f/4L IS USM...3 หมื่นนิดๆ
- EF 24-70 f/2.8L USM...4 หมื่น
- EF-S 17-55 f/2.8 IS USM...3 หมื่นนิดๆ

สามตัวนี้เป็นเลนส์เทพช่วงนอร์มอลของ Canon ครับ ว่างๆจะมาเพิ่มรายละเอียดนะครับ
<u>
ถ่ายไกลๆ ใช้เลนส์เทเลครับ</u>

- EF 75-300 f/4-5.6 USM...6-7 พัน โฟกัสเร็วดี
- Sigma 70-300 f/4-5.6 DG macro...6-7 พันเช่นกัน เห็นเขาว่าดีกัน แต่ผมไม่เคยใช้ครับ macro ไ้ด้หน่อยๆ โฟกัสช้ากว่าตัวแรกครับ
- EF 70-300 f/4-5.6 IS USM...สองหมื่นนิดๆ คุณภาพสูสีกับ 70-200 f/4L ครับ คม สีสวย แพ้ที่เรื่องโครงสร้างและระบบโฟกัสนิดหน่อย แต่ก็ดีกว่าตัว 75-300 กับ Sigma 70-300 อยู่มากทีเดียว แถมมีกันสั่นอีกด้วยครับ
- EF-S 55-250 f/4-5.6 IS...เก้าพัน เลนส์ดีคุ้มราคา คมใช้ได้ ที่สำคัญ มีกันสั่นครับ สำหรับคนงบน้อยแต่อยากได้กันสั่น
- EF 70-200 f/4L USM...2 หมื่นกว่าๆ เลนส์โปรยอดนิยมครับ ถูกสุดแล้วในบรรดาเลนส์ L ภาพคม สีสวย โฟกัสเร็ว และที่เจ๋งคือ ซูมไม่ยื่นครับ
- EF 70-200 f/4L IS USM...3 หมื่นกลางๆ คมและสีสดกว่า 70-200 f4L ตัวข้างบนครับ กันสั่นอีกต่างหาก อย่างเทพ
- EF 70-200 f/2.8L USM...3 หมื่นกลางๆ รูรับแสงเบ้อเร่อครับ อย่างเทพ
- EF 70-200 f/2.8L IS USM...6 หมื่น เทพกว่า เพราะกันสั่น

ถ่ายคน ใช้เลนส์ที่ f น้อยๆ หรือเลนส์เทเลครับ (ประมาณ 85-135)
เพราะจะทำให้หลังเบลอสวย ช่วยขับตัวแบบให้เด่นขึ้นมาครับ

- EF 50 f/1.8...แม้ความยาวโฟกัสจะไม่ค่อยใช่...แต่ f น้อย หลังเบลอกระจายครับ ที่สำคัญคือถูกจัง
- EF 50 f/1.4 USM...f กว้างกว่า คมกว่า บอดี้ดีกว่า โฟกัสเร็วกว่าตัวข้างบนครับ หมื่นนิดๆ
- Sigma 70-300 f/4-5.6 DG macro...เลนส์เทเลยิ่งซูมมากยิ่งเบลอครับ
- EF-S 55-250 f/4-5.6 IS...เลนส์เทเลใช้ได้ทั้งนั้นครับ หลังเบลอง่าย
- EF 70-300 f/4-5.6 IS USM...นี่ก็น่าใช้ เพราะคมดี สีสวยครับ
- EF 70-200 f/4L USM...เลนส์เทเล แค่ f4 ก็ถือว่าน้อยแล้วครับ อีกทั้งตัวนี้เป็นเลนส์ L ภาพที่ได้จะมีสีสวยเป็นพิเศษครับ โดยเฉพาะ skin tone จะดูนุ่มๆ เนียนตาครับ
- EF 70-200 f/4L IS USM...อย่างเทพ
- EF 70-200 f/2.8L USM...อย่างเทพ
- EF 70-200 f/2.8L IS USM...เทพมาก
- EF 85 f/1.8 USM...หมื่นนิดๆ เลนส์ที่มีความยาวโฟกัส 85mm จะมีชื่อเล่นคือ Portrait Lens ครับ นิยมเอาไว้ถ่ายคนโดยเฉพาะ เพราะ f น้อย และยังเทเลด้วย ถ่ายแล้วสีสวย ผิวเนียน ข้อเสียนิดนึงคือมันเป็นเลนส์เทเลแบบความยาวโฟกัสคงที่ แถมคูณ 1.6 เข้าไปก็กลายเป็น 136 เวลาถ่ายซักทีต้องเดินหามุมกันเมื่อยล่ะครับ ***แต่ถ้าชินแล้วจะชอบครับ คม สวย เบา
- EF 85 f/1.2L USM...สังเกต f number ไหมครับ...เป็นเลนส์ที่มี f กว้างที่สุดของ Canon ครับ (เท่าที่ยังผลิตขาย) ราคาก็เต็มเหนี่ยวที่ 6 หมื่นกว่าๆครับ เทพสุด

<u>ถ่าย macro ใช้เลนส์ macro ครับ</u>

(เลนส์ มาโคร ส่วนใหญ่ คือเลนส์ที่มีความยาวโฟกัสมาก แต่กลับมีระยะโฟกัสใกล้สุดที่ใกล้มากครับ คืออยู่ที่ประมาณ 20-30cm เท่านั้นเอง ภาพที่ถ่ายได้จึงขยายใหญ่มากครับ...เสริมมาอีกนิด...ความหมายจริงๆของเลนส์ มาโครคือเลนส์ที่มีกำลังขยายสูงมากครับ พูดง่ายๆคือเลนส์ที่มีคุณสมบัติคล้ายๆแว่นขยายครับ...ที่บอกอย่างนี้เพราะมี เลนส์มาโครบางตัวมีความยาวโฟกัสแค่ 35mm ก็มีครับ (ของ Olympus)

คุณสมบัติพิเศษของเลนส์มาโครคือ คมมากๆๆๆๆๆ และเก็บรายละเอียดได้เยอะมากครับ

เลนส์ มาโครสามารถเอาไปถ่ายคนก็ได้ แต่บางคนอาจไม่ชอบ เพราะว่ามันคมมาก และสามารถเก็บรายละเอียดของสิวหรือริ้วรอยได้อย่างคมชัดมากครับ
แต่บางคนก็ชอบนะครับ เพราะยังไงซะถ่ายมาคมๆก็เอามาแต่ง photoshop ทีหลังได้ง่ายกว่าถ่ายมาไม่คมนี่ครับ)

- EF 100 f/2.8 macro USM...หมื่นปลายๆ เป็นเลนส์ macro แท้ๆครับ ให้อัตราขยาย 1 เท่า (1:1) ขณะที่เลนส์เท่าไปให้ได้แค่ประมาณ 0.28 เท่า (ประมาณ 1:3 ถึง 1:4) ครับ คมมาก สีสด คอนทราสต์จัด
- EF-S 60 f/2.8 macro USM...หมื่นกลางๆ ทำมาสำหรับกล้องตัวคูณครับ ระยะถอยจะไม่ไกลเท่า 100 macro แต่คมชัดเท่าๆกันครับ และกำลังขยาย 1 เท่าเหมือนกันครับ

(เลนส์ มาโครที่มีความยาวโฟกัสสูงๆจะมีข้อได้เปรียบคือระยะถอยจะไกลกว่า ทำให้ถ่ายแมลงได้ดี เพราะแมลงจะไม่บินหนีไปไหนครับ แต่ข้อเสียคือจะต้องใช้สปีดสูงขึ้น ตามกฎ ชัตเตอร์สปีด=1/ความยาวโฟกัส

ส่วน เลนส์มาโครที่มีความยาวโฟกัสน้อยๆจะมีข้อได้เปรียบคือระยะถอยไม่ไกลนัก เอาไว้ถ่ายเล่นรอบๆบ้านได้ง่ายดี ถ่ายดอกไม้ ถ่ายของเล่น สบายๆ สปีดไม่ต้องสูงนัก เพราะความยาวโฟกัสน้อยกว่า และมี perspective คล้ายๆกับที่ตาเห็น สัดส่วนจะสมจริง ข้อเสียคือ ถ้าจะเอาไปถ่ายแมลงจะยากนิดนึง เพราะต้องเข้าใกล้มากไปหน่อย แมลงอาจบินหนีได้ครับ)

- Tamron 90 f/2.8 DI macro...หมื่นนิดๆ สำหรับคนรักมาโครแต่งบไม่ถึง Canon ครับ คมใช้ได้ แต่โฟกัสแล้วกระบอกยื่นครับ (ยื่นมากซะด้วย) แต่ก็นะครับ มันถูกกว่ากันเกือบหมื่น อัตราขยาย 1 เท่าเช่นกันครับ
- Sigma 70-300 f/4-5.6 DG macro...มาโครเทียม ขยาย 0.5 เท่า (1:2) ครับ








<u><!--sizeo:7--><span style="font-size:36pt;line-height:100%"><!--/sizeo-->ถ้าจะให้แนะนำสำหรับคนทั่วๆไป<!--sizec--></span><!--/sizec--></u>



ถ่ายวิว...EF-S 10-22 หรือ Sigma 10-20
ถ่ายทั่วไป...EF-S 18-55 IS หรือ EF-S 17-85 IS หรือ Tamron 17-50 f/2.8
ถ่ายไกล...งบมาก EF 70-200 f/4L งบน้อย EF-S 55-250 IS
ถ่ายคน...งบมาก EF 70-200 f/4L งบน้อย EF 50 f/1.8 หรือชอบมากๆก็ EF 85 f/1.8
ถ่าย macro...เด่นอยู่ตัวเดียว EF 100 f/2.8 macro

(กรณีงบมากหน่อยก็เลือกกันเองตามอัธยาศัยนะครับ)

แต่

ที่ แนะนำจริงๆคือ ให้ใช้เลนส์ kit ถ่ายไปซักเดือนสองเดือนก่อนครับ แล้วค่อยซื้อเลนส์เพิ่ม เพราะจะทำให้เรารู้เองว่าเราชอบถ่ายอะไร จะได้เลือกง่ายขึ้น และไม่เปลืองตังจนเกินเหตุครับ (ช่วงนี้ Kit IS เค้าดีจริงครับ)

เช่นนอร์มอล,พอร์ตเทรต ใช้แค่ 50 f1.8 ก็ได้ครับ ลำบากนิดหน่อยที่ซูมไม่ได้ แต่ภาพออกมาสวย คม ถ่ายคนหลังเบลอครับ

ไวด์ก็ใช้ kit ถ่ายเอาก่อนก็ได้ กว้างกว่ากล้อง compact เยอะอยู่ครับ

เท เล ควรจะมี แต่ก็ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ คนเราไม่ได้ต้องการซูมอะไรขนาดนั้นตลอดเวลาหรอกครับ (70-300 ถ้าคิดแบบกล้อง compact ก็จะประมาณ 12x อ่ะครับ เยอะอยู่นะ)

และ macro นี่ ถ้าไม่ใจรัก ก็ควรเอาไว้หลังสุดเลยครับ เพราะแพง

สุดท้าย...กล้องเป็นแค่อุปกรณ์ครับ ถ้าถ่ายไม่เป็น ต่อให้ใช้เลนส์แพงแค่ไหนภาพก็ไม่สวยหรอกครับ
แต่ถ้าถ่ายเป็น แค่ kit กับ 50 f1.8 ก็ท่องโลกได้ครับ

อันนี้ชาว Nik เดี๋ยวน้อยจายยยย


Nikkor Lens

นอร์มอล

AF-S 18-55 f/3.5-5.6 VR...(3k) มาตรฐานชายไทย ทำได้ทุกอย่าง
AF-S 18-70 f/3.5-4.5...(6k-8k) ดีขึ้นมาอีกหน่อย รูรับแสงกว้างขึ้น โฟกัสเร็วขึ้น
AF-S 18-135 f/3.5-5.6...(6k-8k) ซูมไกลดี แต่รูรับแสงแคบลงเร็วมาก ถ้าจำไม่ผิดจะเริ่ม f/5.6 ตั้งแต่ 85
AF-S 16-85 f/4-5.6 VR...(18k-20k) เหมือน 18-55VR ที่พัฒนาทุกอย่างแล้ว ไวด์ขึ้น เทเลขึ้น คมขึ้น VR ดีขึ้น รวมแล้วทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ดีมาก แต่แพงหน่อย
AF-S 18-200 f/3.5-5.6 VR...(18k-20k) ดีกว่า ไวด์ไม่มาก แต่ซูมไกลมาก เหมาะสำหรับคนไม่ชอบเปลี่ยนเลนส์ คมดี VR ดี
AF-S 18-105 f/3.5-5.6 VR...(8k-10k) ทำมาแทน 18-135 ที่รูรับแสงแคบ เค้าเลยลดให้ซูมได้น้อยลงนิดนึง แต่ใส่ VR มาแทนจะได้ถือถ่ายได้ง่ายขึ้น
AF-S 17-55 f/2.8...(35k-45k) คม สีสวย f กว้าง บอดี้ทนทึก สรุป ดีทุกอย่าง แต่ซูมได้ไม่มากและราคาประมาณครึ่งแสน
AF-S 24-70 f/2.8 Nano...(55k-65k) เทพจุติ เลนส์เปอร์เฟค หาที่ติไม่ได้ เหมาะสำหรับกล้อง FullFrame หนักประมาณ 1กิโล

(VR ของ Nikon มี 2 รุ่นคือ I กับ II...รุ่น II จะทำงานได้เร็วกว่าและกันสั่นได้มากกว่า)

เทเล

AF-S 55-200 f/4-5.6 VR...(6k-8k) รุ่นเล็ก เบาๆ มีกันสั่น พกพาง่าย
AF-S 70-300 f/4.5-5.6 VR...(16k-18k) ใหญ่ขึ้นมา คมขึ้น สีดีขึ้น โฟกัสไวขึ้น VR ดีขึ้น
AF 80-200 f/2.8...(25k-30k) คม สีสวย f กว้าง หนักมาก (กิโลกว่า) เลนส์ดีอีกหนึ่งตัว
AF-S 70-200 f/2.8 VR...(55k-60k) เทพช่วงเทเล ดีทุกอย่าง มาพร้อมน้ำหนักกิโลครึ่ง ราคา 65k อีกแล้ว

ไวด์

AF-S 12-24 f/4...(25k-30k) คมดี สีสวย แพงหน่อย
AF-S 14-24 f/2.8 Nano...(55k-65k) เทพจุติ เลนส์เปอร์เฟค หาที่ติไม่ได้ ราคา 65k เหมาะสำหรับกล้อง FullFrame ถ้าเอามาใส่กับตัวคูณจะไม่ไวด์เท่าไร
AF-S 10-24 f/3.5-4.5...(ไม่ทราบราคา) ไวด์ขึ้นมาหน่อย แต่รูรับแสงแคบลงนิดนึง

มาโคร

AF-S 60 f/2.8 Macro Nano...(15k-18k) มาโครช่วงสั้น คุณภาพดีมาก เพราะมี Nano เหมาะสำหรับถ่ายดอกไม้หรือของในบ้านเพราะไม่ต้องถอยไกล
AF-S 105 f/2.8 VR Macro Nano...(25k-28k) มาโครช่วงยาวมานิดนึง คุณภาพดีมาก มีกันสั่นซะด้วย แต่ไม่ทำงานที่ระยะโฟกัสใกล้สุด เหมาะสำหรับถ่ายแมลง เพราะไม่ต้องเข้าใกล้มากนัก

ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมด จากคุณ กวางต้นน้ำ
เว็ป <a href="http://www.4x4.in.th/outdoor/show.php?category=photograph&No=1460" target="_blank">http://www.4x4.in.th/outdoor/show.php?cate...aph&No=1460</a>

#2 Indyhell

    ไม่มีเงิน ไม่มีสิทธิ์หรือไงวะ!!!!!!!

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 10620 posts
  • Gender:Male
  • Interests:FB-http://www.facebook.com/indyhellnumber2

Posted 02 February 2010 - 03:55 PM

นี่ละที่ผมต้องการ

ไม่ปักหมุด ผมไม่ยอมนะนั่น

ขอบคุณครับ

#3 Zard

    DGO 2011

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 5521 posts
  • Gender:Male
  • Location:Bangkok, Thailand
  • Interests:Uncharted 3, Tommy Emmanuel, Joe Robinson

Posted 02 February 2010 - 03:57 PM

ความรู้ดีๆ ปักหมุดให้เลยครับ ขอบคุณมากๆ yoyo_52.gif

#4 Novemzer

    นักเล่นเกมตัวยง

  • High Members
  • PipPipPipPipPip
  • 343 posts

Posted 02 February 2010 - 03:59 PM

ความยาวโฟกัส มีข้อความซ้ำกันอยู่นะครับ รบกวนมอดเเก้ให้ทีครับ
ขออภัยตรวจไม่ดี d33561e9.gif

กด ctrl+v 2 ทีเฉยเรย

#5 Zard

    DGO 2011

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 5521 posts
  • Gender:Male
  • Location:Bangkok, Thailand
  • Interests:Uncharted 3, Tommy Emmanuel, Joe Robinson

Posted 02 February 2010 - 04:00 PM

QUOTE(Novemzer @ Feb 2 2010, 03:59 PM) <{POST_SNAPBACK}>
ความยาวโฟกัส มีข้อความซ้ำกันอยู่นะครับ รบกวนมอดเเก้ให้ทีครับ
ขออภัยตรวจไม่ดี d33561e9.gif

กด ctrl+v 2 ทีเฉยเรย


แก้ให้เรียบร้อยแล้วครับ

#6 eva

    ชีวิตคือการเดินทาง

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4941 posts
  • Gender:Male
  • Interests:PLC

Posted 02 February 2010 - 04:17 PM

ดีจังครับว่างเดียวมาอ่านอีก

#7 royviter

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 3

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1447 posts
  • Gender:Male

Posted 02 February 2010 - 04:18 PM

แจ่มมากครับ ขัอมูลแน่นปึ้ก อ่านเพลินเลย

#8 Jokuto

    นักเกมมือเซียนชั้นที่ 1

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2577 posts

Posted 02 February 2010 - 04:23 PM

ขอบคุณครับ

#9 Novemzer

    นักเล่นเกมตัวยง

  • High Members
  • PipPipPipPipPip
  • 343 posts

Posted 02 February 2010 - 04:29 PM




อธิบายภาพ... ถ้าเป็นเลนส์สำหรับกล้องฟิล์ม ต้องออกแบบให้ได้ภาพ คลุมทั้งกรอบสีฟ้า แต่ถ้าเป็นเลนส์สำหรับกล้องดิจิตอลตัวคูณ ออกแบบให้ได้ภาพ คลุมแค่กรอบสีแดงก็พอ (เล็กลง)





อธิบายภาพ...เปรียบเทียบภาพที่ได้จากกล้องดิจิตอล full-frame หรือกล้องฟิล์ม กับกล้องดิจิตอลตัวคูณแบบทั่วไป

เลนส์ของ Canon (รวมถึงเลนส์ของยี่ห้ออิสระทั้งหลาย) ในปัจจุบันจะทำออกมาสำหรับกล้องดิจิตอลที่มีตัวคูณ (ทุกรุ่นที่ไม่ใช่ 5D กับ 1Ds)...สาเหตุเนื่องมาจากกล้องพวกนี้จะมีเซนเซอร์รับภาพที่มีขนาดเล็กกว่า ฟิล์มครับ ดังนั้น เขาจึงทำเลนส์ออกมาให้ได้ภาพตกที่เซนเซอร์แบบพอดีๆครับ

#10 classic

    เกมส์ยิงกันออนไลน์เท่านั้นที่โดนใจ!!

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3203 posts
  • Gender:Male
  • Interests:COD: Modern Warfare series
    Battlefield series

Posted 02 February 2010 - 04:55 PM

ด้วยความเคารพและนับถือ

นี่แหละข้อมูลสำหรับมือใหม่หัดถ่ายกล้อง DSLR อย่างผมที่ใฝ่หามาตลอด

ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆ นะครับ

ผมขออนุญาติพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษเอามานั่งอ่าน นอนอ่าน ต่อนะครับ สุโค่ย จริงๆ yoyo_83.gif yoyo_51.gif yoyo_16.gif

#11 royviter

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 3

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1447 posts
  • Gender:Male

Posted 02 February 2010 - 05:48 PM

QUOTE(classic @ Feb 2 2010, 04:55 PM) <{POST_SNAPBACK}>
ด้วยความเคารพและนับถือ

นี่แหละข้อมูลสำหรับมือใหม่หัดถ่ายกล้อง DSLR อย่างผมที่ใฝ่หามาตลอด

ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆ นะครับ

ผมขออนุญาติพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษเอามานั่งอ่าน นอนอ่าน ต่อนะครับ สุโค่ย จริงๆ yoyo_83.gif yoyo_51.gif yoyo_16.gif


แล้วอย่าลืมลองถ่ายให้คล่องก่อนวันที่ 6 นะครับ หุๆ

#12 Indyhell

    ไม่มีเงิน ไม่มีสิทธิ์หรือไงวะ!!!!!!!

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 10620 posts
  • Gender:Male
  • Interests:FB-http://www.facebook.com/indyhellnumber2

Posted 02 February 2010 - 06:18 PM

วันที่ 6 มีอะไร อยากรู้ efb50fe2.gif

#13 royviter

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 3

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1447 posts
  • Gender:Male

Posted 02 February 2010 - 10:58 PM

QUOTE(Indyhell @ Feb 2 2010, 06:18 PM) <{POST_SNAPBACK}>
วันที่ 6 มีอะไร อยากรู้ efb50fe2.gif

อ่อ ไปงานแต่งงานเพื่อนที่หัวหินกันน่ะครับ

#14 Novemzer

    นักเล่นเกมตัวยง

  • High Members
  • PipPipPipPipPip
  • 343 posts

Posted 03 February 2010 - 02:14 AM

QUOTE(classic @ Feb 2 2010, 04:55 PM) <{POST_SNAPBACK}>
ด้วยความเคารพและนับถือ

นี่แหละข้อมูลสำหรับมือใหม่หัดถ่ายกล้อง DSLR อย่างผมที่ใฝ่หามาตลอด

ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆ นะครับ

ผมขออนุญาติพิมพ์ออกมาเป็นกระดาษเอามานั่งอ่าน นอนอ่าน ต่อนะครับ สุโค่ย จริงๆ :


yoyo_65.gif โอยไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับ ตามสบายเรยครับท่าน ผมเห็นว่ามีประโยชน์ก็เลยก๊อบมาให้ชาวกล้องของ DGO อ่านกัน yoyo_70.gif

ปล.ท่าน Zard ยังไม่ได้ลบข้อความที่ซ้ำให้ผมเรย yoyo_63.gif

#15 onetwoshow

    Party Party

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3143 posts
  • Gender:Male

Posted 03 February 2010 - 02:39 AM

อยากถามว่า EF-S 18-200 f/3.5-5.6 IS.

ถ้าเทียบกับ เลนkit + EF-S 55-250 f/4-5.6 IS

อันไหนคุ้มกว่าสำหรับมือใหม่ครับ ราคาแตกต่างกันพอสมควรเลย EF-S 18-200 f/3.5-5.6 IS. แพงกว่าเยอะมากครับ

#16 Novemzer

    นักเล่นเกมตัวยง

  • High Members
  • PipPipPipPipPip
  • 343 posts

Posted 03 February 2010 - 03:46 AM

QUOTE(onetwoshow @ Feb 3 2010, 02:39 AM) <{POST_SNAPBACK}>
อยากถามว่า EF-S 18-200 f/3.5-5.6 IS.

ถ้าเทียบกับ เลนkit + EF-S 55-250 f/4-5.6 IS

อันไหนคุ้มกว่าสำหรับมือใหม่ครับ ราคาแตกต่างกันพอสมควรเลย EF-S 18-200 f/3.5-5.6 IS. แพงกว่าเยอะมากครับ




EF-S 18-200 f/3.5-5.6 IS...อย่างว่าเเหละครับเป็นเลนส์ครอบจักรวาลจริงๆ ถ่ายได้ยังแต่ ไวด์ ยัน เทเล

EF-S 55-250 f/4-5.6 IS...ส่วนตัวนี้มันถ่าย ตั้งเเต่ นอร์มอล ถึงเทเล

ผมว่าอย่างแรกเรยต้องมองก่อนเเหละว่าคุณชอบถ่ายภาพเเบบไหน คือผมเองมองว่า EF-S 18-200 f/3.5-5.6 IS นั้นมันถ่ายได้หมดจริงๆ ภูเขา วิว ถ่ายเห็นทั้งภูเขา ถ่ายทั่วไป ถ่ายไกลๆ ส่วนเจ้า EF-S 55-250 f/4-5.6 IS คงจะเป็นการถ่ายทั่วไปกับถ่ายไกลๆ ไม่ใช่ว่าถ่ายไม่ได้นะครับแต่เลนส์ช่วงไวด์จะเก็บภาพได้กว้างกว่าหนะครับ

และอีกอย่าง ค่า f ที่น้อยกว่า ตามบทความข้างบน ยิ่ิ่ง f กว้างมากขึ้น ราคาจะเริ่มทวีคูณเพราะการออกแบบเลนส์จะยากขึ้นมากและคุณภาพจะเริ่มเข้าสู่ ระดับความบ้าคลั่ง เช่น 85 f/1.8 กับ 85 f/1.2L ที่รูรับแสงต่างกันแค่ 1 stop แต่ราคาต่างกันเกือบ 7 เท่าครับ การที่เลนส์ f กว้างๆ ราคาแพงมหาศาลขนาดนั้น มักไม่ได้มาจาก f กว้างอย่างเดียว แต่มักมาจากหลายๆอย่าง เช่น คมขึ้น สีสันคอนทราสต์ดีขึ้น ระบบการโฟกัสดีขึ้น การประกอบดีขึ้น ควบคุมแสงแฟลร์/แสงฟุ้งได้ดีขึ้น เป็นต้นครับ...เมื่อรวมๆกันหลายๆอย่าง ราคาจึงแพงขึ้นมากๆครับ

ปล. เชียร์ EF-S 18-200 f/3.5-5.6 IS นะครับถ่ายชอบถ่ายวิว เพราะเหมือนซื้อทีเดียว แต่ราคาก็ต้องดูงบท่านด้วยเพราะต่างกันเกือบเท่าตัวนะครับ yoyo_57.gif
ปล. ตอบแบบคนที่พอรู้นะครับ ยังไงเด๋วรอเซียนมาตอบอีกที lol.gif

#17 Novemzer

    นักเล่นเกมตัวยง

  • High Members
  • PipPipPipPipPip
  • 343 posts

Posted 03 February 2010 - 04:04 AM

เลนส์ APO คืออะไร




วันนี้ถ้าคุณดูแคตตาล็อคเลนส์ยี่ห้อต่างๆ คุณจะพบว่ามีคำพ่วงท้ายเช่น APO, L, LD, หรือ ED เป็นคำต่อพวงท้ายที่บ่งบอกว่า เจ้าเลนส์ตัวนั้นมีคุณสมบัติที่พิเศษแตกต่างจากเลนส์ทั่วไปทั้งในด้านคุณภาพ และราคา แต่ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร จึงได้แพงมากขึ้น

ถ้าคุณเอาแว่นขยายที่ใช้ดูลายมือมาส่องดูภาพหรือลายมือ คุณจะเห็นว่าภาพบริเวณตรงกลางจะมีความคมชัด แต่ขอบภาพจะมีการเหลื่อมของสีคล้ายสีรุ้ง ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่า ความคลาดสี (Chromatic Aberation) ซึ่งจะเกิดกับเลนส์ทั่วไปแทบทุกชนิด สาเหตุเนื่องมาจากดัชนีหักเหของแก้วที่ใช้ทำเลนส์ และยังขึ้นกับความยาวคลื่นแสงที่ผ่านเข้ามา แสงสีขาวประกอบด้วยแสงสีเขียว แสงสีแดง แสงสีน้ำเงิน (RGB) ที่มีความยาวคลื่นต่างๆ กัน เมื่อแสงสีขาวผ่านชิ้นเลนส์จึงแยกออกเป็นแสงสีเขียว แสงสีแดง และแสงสีน้ำเงิน ผลของความคลาดสี ทำให้ภาพขาดความคมชัดและมีอาการเหลือบสีขึ้น การทดสอบง่ายๆ ก็คือการให้แสงผ่านแท่งปริซึมเหมือนที่เราเคยทดลองเล่นกันในสมัยเด็กๆ นั่นแหละจะพบว่าแสงมีการแยกตัวกันเป็นสีรุ้ง

ในสมัยก่อน ไอแซค นิวตัน เชื่อว่าความคลาดสีไม่สามารถแก้ได้ วิธีแก้มีทางเดียวคือ การใช้เลนส์กระจกแทนเลนส์แก้ว จึงมีการใช้เลนส์กระจกทำกล้องส่องทางไกล ต่อมาในปี 1726 ถึง 1760 มีการพัฒนาแก้วแบบต่างๆ ที่ใช้ทำเลนส์ขึ้นมา Chester Moor Hall และ John Dolland สามารถทำเลนส์ Acromat ซึ่งแก้ความคลาดสีได้ 2 สี คือสีน้ำเงินและแดง โดยการใช้ชิ้นเลนส์ 2 ชิ้น ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ชิ้นหนึ่งทำจากแก้ว Crown มีดัชนีหักเหและการกระจายแสงต่ำ ประกบกับแก้ว Flint ทีมีดัชนีหักเหและการกระจายแสงสูง โดยเรียกลักษณะของเลนส์แบบนี้ว่า Achromatic Doublet ทั้งแก้ว Crown และแก้ว Flint มีส่วนประกอบของ ซิลิคอน ออกไซด์ อลูมีเนียม แคลเซียม โปแตสเซียม และตะกั่ว เป็นส่วนผสม ซึ่งตะกั่วเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดดัชนีหักเหของเลนส์

ต่อมาเมื่อมีความต้องการเลนส์คุณภาพสูงมาใช้งานในด้านดาราศาสตร์ ซึ่งสามารถส่องผ่านรังสีอุลตร้าไวโอเลต และ อินฟราเรดได้ ตั้งแต่ความยาวคลื่น 350 ถึง 28,000 นาโนเมตร จึงมีการผลิตแก้วสังเคราะห์สามารถให้แสงส่องผ่านได้ถึงความยาวคลื่น 170 นาโนเมตร โดยใช้ผลึกลิเทียมฟลูออไรด์ และแคลเซียมฟลูออไรด์

แคลเซียมฟลูออไรด์ หรือฟลูออไรท์ มีการนำมาใช้ตั้งแต่ปี 1870 เพื่อทำชิ้นแก้ว Apochromatic ในกล้องจุลทรรศน์ เมื่อมีการพัฒนาให้มีการทำชิ้นเลนส์ชนิดนี้ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อใช้ใน เลนส์ซูมและเลนส์เทเลโฟโต้ ทำให้เลนส์มีคุณภาพดีขึ้นเป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือชิ้นเลนส์ฟลูออไรด์ไม่คงตัว ขนาดจะมีการเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ ทำให้ระยะชัดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ การฝนเลนส์และการทำเลนส์มีความยากมากทำให้เลนส์มีราคาสูง







เลนส์ Apochromatic สามารถทำให้แสงสีเขียว สีแดง และสีน้ำเงิน รวมมาตกที่จุดใกล้กันมากจนเกือบจะเป็นจุดเดียวกัน เลนส์ APO มีการใช้ชิ้นเลนส์ 3 ชิ้นที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันในการลดความคลาดสี ทั้งในส่วนกลางภาพและขอบภาพ ผลก็คือ ภาพที่ได้จากเลนส์ APO มีความคมชัด และสีสันอิ่มตัวเป็นเยี่ยม ในขณะที่ราคาของเลนส์ก็วิ่งสูงตามขึ้นมาด้วย

เลนส์อีกประเภทหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดของเลนส์ก็คือ Superapochromatic คือนอกเหนือจากมีการแก้ไขความคลาดสีของแสงสีขาวให้สมบูรณ์มากขึ้นแล้ว ยังสามารถแก้ไขความคลาดสีของรังสี UV และ IR ตั้งแต่ความยาวคลื่น 400-1000 นาโนเมตร เลนส์ประเภทนี้มีอยู่ไม่มากนักเช่น Zeiss Superapochromat 250 mm F 5.6, Leica Apotelyte 280 mm F2.8, Olympus 180mm F2, Zeiss UV Sonna 105 mm. F4.3 เป็นต้น เลนส์พวกนี้วันนี้ถือว่าเป็นเลนส์รุ่นเก่าแก่ทั้งสิ้นใช้สำหรับการถ่ายภาพ ธรรมดาและงานทางวิทยาศาสตร์

แม้ว่าเลนส์ Apochromatic จะเป็นเลนส์ที่มีคุณภาพสูงมากเพียงไรก็ตาม แต่ถ้ามองในแง่ความจำเป็นในการใช้งานแล้ว หากการใช้เลนส์ถ่ายภาพทางยาวโฟกัสไม่เกิน 300 มม. และไม่ต้องการอัตราการขยายภาพมากนัก เลนส์ Apo ก็ไม่ได้มีความจำเป็นสูง แต่ถ้าต้องการคุณภาพสูงและมีความสามารถในการหาซื้อใช้งาน คุณก็สามารถหาซื้อเลนส์ Apo มาใช้งานได้ไม่ยากนัก

ผู้ผลิตเลนส์ค่ายต่างๆ ทั้งเยอรมันและญี่ปุ่น มีการทำเลนส์ APO ออกมากันมากมาย ซึ่งมีทั้งที่เป็น APO แท้ๆ และเป็นชิ้นเลนส์ที่มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับ APO ซึ่งก็มีหลายรายที่เรียกว่า APO เลยก็มี แต่ผู้ใช้ไม่อาจจะทราบได้ว่าเลนส์นั้นมีคุณภาพระดับ APO แท้ๆ หรือเปล่า

ทั้ง Nikon, Canon, Minolta (เป็นอดีตไปแล้ว), OLYMPUS, Sigma, Tamron ต่างก็มีการผลิตเลนส์ประเภทนี้ ซึ่ง Nikon และ Olympus เรียกชื่อว่า ED สำหรับ Canon เรียกชื่อว่า L, LD หรือ Tamron ใช้เรียกว่า LD, Tokina เรียกชื่อว่า SD ส่วน Leica, Zeiss และ Sigma ใช้เรียกว่า APO

วันนี้มีเลนส์หลากหลายตัวในท้องตลาดที่มีรหัสสรรพคุณต่อท้ายที่ดูเหมือนมี คุณภาพอยู่ในระดับ APO แต่คุณภาพไม่ถึงระดับ APO ก็มี ในขณะที่มีเลนส์อยู่หลายยี่ห้อ เช่น Zeiss, Leica หรือแม้แต่เลนส์บางตัวของ Olympus ที่มีการใช้ชิ้นเลนส์พิเศษกับเลนส์ที่ผลิตออกมาแต่ไม่บอกว่าเลนส์ตัวนั้น เป็น APO การที่จะรู้ว่าเลนส์นั้นมีคุณภาพอย่างไรจึงเป็นเรื่องที่ผู้ใช้ต้องพยายามหา คำตอบให้กับตนเอง วิธีหนึ่งที่พอพิจารณาได้บ้างก็คือการศึกษาเรื่องข้อมูลจำเพาะของเลนส์ว่ามี การใช้ชิ้นเลนส์พิเศษอยู่มากน้อยเท่าไร แต่ที่แน่ๆ ก็คือราคาไม่มีถูกครับ


เครดิต camerartmagazine จ้า

ปล.เพิ่มเติมให้เรื่องเลนส์ yoyo_11.gif

#18 Novemzer

    นักเล่นเกมตัวยง

  • High Members
  • PipPipPipPipPip
  • 343 posts

Posted 03 February 2010 - 04:42 AM

เพิ่มเติมเลนส์ มาโคร ที่น่าสนใจ นะครับ
1.canon ef100 f2.8 ครับ ราคา 1หมื่นปลายๆ แล้วแต่ร้าน
2.sigma 105,150,70 ครับ แล้วแต่ชอบ 105 ราคาประมาณ 15,xxx บาท ส่วน 150 ราคาประมาณ 2x,xxx บาท ส่วน 70 ไม่แน่ใจ
3.tokina 100 f2.8 ตัวนี้ก็น่าสนใจมากเลย ราคา อยู่ที่ 12xxx ถึง 13xxx ไม่แน่ใจ
4.tamron 90 f2.8 ราคาใกล้เคียง sigma 105

ปล.Edit ไม่ได้หงะ yoyo_02.gif

#19 yapramard

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 3

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1292 posts
  • Gender:Male
  • Interests:Movie Game

Posted 03 February 2010 - 11:29 AM

ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่นำมาให้อ่านครับ

#20 pokojung

    โปโกะจังหล่อขั้นเทพ

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 6387 posts
  • Gender:Male

Posted 03 February 2010 - 12:36 PM

อ่า สาระมากมาย ขอบคุณนะครับ yoyo_04.gif