0
การชดเชยแสง
ปกติกล้องมันจะมองแสงที่สะท้อนออกมาจากวัตถุเป็นสีเทา 18% (สีเทากลางๆ)
ดังนั้นบางทีเราถ่ายรูปที่มีสีดำ รูปออกมาสีกลับไม่ค่อยดำ หรือถ่ายรูปสีขาว รูปออกมาสีก็ไม่ค่อยขาว
เราก็ต้องแก้ปัญหานี้โดยการชดเชยแสงที่เราเรียกกันว่าค่า EV (Exposure Value)
ซึ่งสามารถปรับไปทาง - หรือ + ได้
ภาพมืดเกินไป = under
ถ้าเราวัดแสงกับวัตถุที่มีความสว่างกว่าสีเทา 18% ภาพที่ไม่ปรับ EV ออกมาก็จะมืดๆ หน่อย
เพราะกล้องจะคิดว่าภาพนั้นมันสว่าง ก็เลยไปปรับให้ภาพมืดลง
อย่างเช่นในภาพ landscape ถ้าเราไปวัดแสงที่ท้องฟ้าซึ่งมีสีฟ้าอ่อนๆ หรือสีขาว
สังเกตว่าภาพที่ถ่ายนั้น ด้านล่างในส่วนของพื้นดิน จะสีมืด เราจึงต้องแก้โดยการชดเชยแสงไปทางบวกเล็กน้อย
อาจจะ +1/3 EV หรือ +2/3 EV
ภาพสว่างเกินไป = over
แต่ถ้าเราไปวัดแสงที่สิ่งต่างๆ บนพื้นดิน แล้วสีเข้มกว่าสีเทา 18% กล้องก็จะปรับให้ภาพสว่างขึ้น
ผลคือท้องฟ้าก็จะขาวโพลน ขาดรายละเอียดของเมฆ การแก้ก็ต้องชดเชยแสงไปทางลบเล็กน้อย
ถ้าสีเข้มมากจนถึงสีดำ ก็อาจจะ -1 EV หรือ -2 EV ไปเลย
ดังนั้นบางทีภาพที่เราถ่ายรู้สึกมืดเกินไป หรือสว่างเกินไป ก็อยู่ที่ว่าเราวัดแสงไปที่วัตถุอะไร
และวัตถุนั้นมีความสว่างมากน้อยแค่ีไ่หน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างค่ารูรับแสง ความเร็วชัตเตอร์
และความไวแสงอีกด้วยเช่นกัน
HDR (High Dynamic Range)
เมื่อพูดถึงเรื่อง EV ไปแล้ว ก็ขอต่อด้วยเรื่องของ HDR ต่อเลยนะครับ
บางครั้งเราอยากได้รายละเอียดของทั้งพื้นดินและเมฆบนท้องฟ้า
ก็นำภาพไปทำเป็น HDR (High Dynamic Range) โดยการถ่ายภาพคร่อมแบบชดเชยแสง 3 รูป (ควรใช้ขาตั้ง)
โดยตั้งว่าจะให้ค่าแสงต่างกันเท่าไหร่ เช่นต่างกันรูปละ 1 stop รูปที่ได้ก็จะเป็น -1 EV, 0 EV, +1 EV (1EV = 1stop)
แล้วนำไปทำการ merge รูปในโปรแกรมแต่งภาพต่างๆ
หรือถ่ายภาพมาเพียง 1 ภาพ แล้วไปทำการปรับแต่งค่า EV ในโปรแกรมเอาให้เป็น 3 รูป แล้วก็ merge ให้เป็น HDR ก็ได้ครับ
ภาพที่ได้จากการทำ HDR ก็จะมีสีและรายละเอียดครบทั้งภาพ สีจะดูแปลกๆ สวยไปอีีกแบบครับ
(รายละเอียดการใช้โปรแกรมทำ HDR ยังไม่พูดถึงในที่นี้นะครับ)
เอา 3 รูปนี้มารวมให้เป็น HDR
credit รูป HDR จาก http://gotoknow.org/blog/aussie/143975
