นั่งหาราคาจอ LED ไปเจอ Optoma HD20 เข้า
#1
Posted 27 November 2009 - 01:39 PM
มีใครใช้อยู่บ้าง เห็นเขาเทสกับหนังมันสุดยอด อยากรู้หากนำมาเล่นเกมมันจะยังคงความสุดยอดอยู่หรือเปล่า
โอยอยากได้ซักตัว ครั้นจะรอคุณ lek คงอีกนานแน่เลย
ผลการเทสครับ
ส่วนนี่ที่ขายครับ
#2
Posted 27 November 2009 - 01:48 PM
รับรองว่า ได้อรรถรส ในการดูหนัง เล่นเกมส์ ขึ้นอีก เยอะมากๆ
แล้ว จะติดใจ กับจอใหญ่ครับ
แต่ต้องเตรียมเงิน ไว้ค่าหลอดด้วยนะครับ ถ้าคิดเอามาเล่นเกมส์ด้วย อายุหลอดก็ หมดเร็วตามไปด้วย
แต่ projector รุ่นใหม่เดี๋ยวนี้ อายุหลอด ก็เพิ่มขึ้น เป็น 5000 ชม. ก็ดูได้นานขึ้นไปอีกครับ
ของผม เน้นดูหนังอย่างเดียว นอกจาก เพื่อนมาบ้าน จะเปิด บอล คู่บิ๊กแมตซ์ หรือ เล่นวินนิ่งกัน เท่านั้นครับ
ซื้อเลยครับ ยิ่งใหญ่ยิ่งมันส์
#3
Posted 27 November 2009 - 01:56 PM
แต่ว่าประสพการณ์ที่ได้รับ มันสุดยอดแน่นอน ทั้งดูหนัง และ เล่นเกม
ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้มีทีวีธรรมดาเครื่องนึง ไว้ใช้ทั่วไป
ส่วน projector ไว้ดูหนัง หรือเล่นเกม ในเวลาที่เฉพาะ (เช่นกลางคืน) มากกว่า
#4 Guest_draftsmart_*
Posted 27 November 2009 - 02:19 PM
ก็ซัด 32b650 มาไว้เล่นเเกม
optoma hd 20 ไว้ดูหนัง
ซื้อ 2 จอไปเลยครับ ง่ายดี
รวมๆ 6 หมื่นหน่อยๆ
plasma ดูหนัง 50 นิ้วดีๆ ก็ 4 ปลายแล้วจ้า
#5
Posted 27 November 2009 - 02:48 PM
แต่ว่าประสพการณ์ที่ได้รับ มันสุดยอดแน่นอน ทั้งดูหนัง และ เล่นเกม
ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้มีทีวีธรรมดาเครื่องนึง ไว้ใช้ทั่วไป
ส่วน projector ไว้ดูหนัง หรือเล่นเกม ในเวลาที่เฉพาะ (เช่นกลางคืน) มากกว่า
เห็นด้วยครับ เรื่องความสะดวกสบาย การควบคุมแสง ของห้อง ความกังวลเรื่อง ชม. หลอดภาพ
ผมเลยต้องมี plasma อีกเครื่อง วางใกล้กัน เอาไว้ ดู TV เล่นเกมส์ ต่างหาก
เล่นprojector 1080 อย่าลืมเผื่องบ เรื่องจอ ด้วยครับ ถ้าเอาแบบดีๆ หน่อย ราคาก็เอาเรื่องเหมือนกัน
แต่ถ้าไม่ซีเรียส ดูได้ ผมว่า ไม่เกิน หมื่น ก็ ok แล้ว
#6
Posted 27 November 2009 - 04:32 PM
ส่วนจอรับภาพผมใช้ Dalite รุ่น High Contrast ขาวด้าน ราคา 12,000 บาท (พร้อมติดตั้ง) จากบริษัท Maxnet
ผมเน้นดูหนัง ดูคอนเสิร์ต ครับ ได้อารมณ์ร่วมในการชมมากกว่า ทีวีจอแบน 50" หรือ 60" มากเลยครับ แต่ภาพที่ได้จะประมาณว่าเราเข้าโรงหนัง Digital นะครับ ความสว่างและความคม จะไม่เท่ากับ พวกทีวี LCD, LED, Plasma รุ่นเทพๆ ได้ (แน่นอนล่ะ ราคาอันหลังมันแพงกว่าเยอะนิ แต่จอเล็กกว่าเยอะ หุๆ)
ส่วนการเล่นเกม ผมใช้จอ FullHD Plasma 50" จะเหมาะสมกว่าครับ เพราะเวลาผมเล่นเกม จะใช้เวลานาน 3-4 ชั่วโมงขึ้นไป / วัน คงจะไม่เหมาะกับการใช้ Projector เพราะอายุของหลอดภาพจะมีแค่ 3000 ชั่วโมงโดยเฉลี่ยเท่านั้นครับ นานๆ เล่นกับเกมได้ แต่บ่อยๆ คงไม่เหมาะแน่ครับ
สรุป : ดูหนัง ดูคอนเสิร์ต ต้องยกให้ FullHD Projector มันสุดยอดจริงๆ แต่เล่นเกม ต้องยกให้ ทีวีจอแบน Plasma, LED หรือ LCD จะดีกว่าครับ
#7
Posted 27 November 2009 - 04:55 PM
ส่วนจอรับภาพผมใช้ Dalite รุ่น High Contrast ขาวด้าน ราคา 12,000 บาท (พร้อมติดตั้ง) จากบริษัท Maxnet
ผมเน้นดูหนัง ดูคอนเสิร์ต ครับ ได้อารมณ์ร่วมในการชมมากกว่า ทีวีจอแบน 50" หรือ 60" มากเลยครับ แต่ภาพที่ได้จะประมาณว่าเราเข้าโรงหนัง Digital นะครับ ความสว่างและความคม จะไม่เท่ากับ พวกทีวี LCD, LED, Plasma รุ่นเทพๆ ได้ (แน่นอนล่ะ ราคาอันหลังมันแพงกว่าเยอะนิ แต่จอเล็กกว่าเยอะ หุๆ)
ส่วนการเล่นเกม ผมใช้จอ FullHD Plasma 50" จะเหมาะสมกว่าครับ เพราะเวลาผมเล่นเกม จะใช้เวลานาน 3-4 ชั่วโมงขึ้นไป / วัน คงจะไม่เหมาะกับการใช้ Projector เพราะอายุของหลอดภาพจะมีแค่ 3000 ชั่วโมงโดยเฉลี่ยเท่านั้นครับ นานๆ เล่นกับเกมได้ แต่บ่อยๆ คงไม่เหมาะแน่ครับ
สรุป : ดูหนัง ดูคอนเสิร์ต ต้องยกให้ FullHD Projector มันสุดยอดจริงๆ แต่เล่นเกม ต้องยกให้ ทีวีจอแบน Plasma, LED หรือ LCD จะดีกว่าครับ
ได้ฟังจากผู้ใช้งานจริงแบบนี้ ค่อยดีหน่อย คงตัดสินใจได้ครับว่าจะออกแนวไหน ขอไปปรึกษาคนที่บ้านก่อนครับ
ขอบคุณทุกความเห็นครับ โดยเฉพาะคุณ classic ครับ
#8
Posted 27 November 2009 - 07:08 PM
คือในตัว projector มันจะมี scaler ในตัว ภาพจะดูเนียนกว่าปรกติ
อีกอย่างความละเอียดมันมากยิ่งเนียนไปใหญ่
#9
Posted 27 November 2009 - 07:50 PM
ส่วนจอรับภาพผมใช้ Dalite รุ่น High Contrast ขาวด้าน ราคา 12,000 บาท (พร้อมติดตั้ง) จากบริษัท Maxnet
ผมเน้นดูหนัง ดูคอนเสิร์ต ครับ ได้อารมณ์ร่วมในการชมมากกว่า ทีวีจอแบน 50" หรือ 60" มากเลยครับ แต่ภาพที่ได้จะประมาณว่าเราเข้าโรงหนัง Digital นะครับ ความสว่างและความคม จะไม่เท่ากับ พวกทีวี LCD, LED, Plasma รุ่นเทพๆ ได้ (แน่นอนล่ะ ราคาอันหลังมันแพงกว่าเยอะนิ แต่จอเล็กกว่าเยอะ หุๆ)
ส่วนการเล่นเกม ผมใช้จอ FullHD Plasma 50" จะเหมาะสมกว่าครับ เพราะเวลาผมเล่นเกม จะใช้เวลานาน 3-4 ชั่วโมงขึ้นไป / วัน คงจะไม่เหมาะกับการใช้ Projector เพราะอายุของหลอดภาพจะมีแค่ 3000 ชั่วโมงโดยเฉลี่ยเท่านั้นครับ นานๆ เล่นกับเกมได้ แต่บ่อยๆ คงไม่เหมาะแน่ครับ
สรุป : ดูหนัง ดูคอนเสิร์ต ต้องยกให้ FullHD Projector มันสุดยอดจริงๆ แต่เล่นเกม ต้องยกให้ ทีวีจอแบน Plasma, LED หรือ LCD จะดีกว่าครับ
ได้มาราคาน่าสนมากๆ
กำลังเล็ง mitsu 3800 อยู่ ชักลังเลซะแล้ว
#10
Posted 27 November 2009 - 08:14 PM
#11
Posted 27 November 2009 - 08:19 PM
#12
Posted 27 November 2009 - 10:32 PM
#13
Posted 27 November 2009 - 11:28 PM
คือในตัว projector มันจะมี scaler ในตัว ภาพจะดูเนียนกว่าปรกติ
อีกอย่างความละเอียดมันมากยิ่งเนียนไปใหญ่
จอแบบดิจิตอลทุกตัวมี scaler หมดแหละครับ
ดี หรือ แย่ ก็ต่างกันไป แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ
กลับกัน โดยมาก scaler ใน projector มักจะไม่ได้หรูหราอะไรมากมาย
ยกเว้นพวกแพงๆ ก็จะยัด chip แรงๆ ไปเลย อย่าง Dragonfly อะไรพวกเนี้ย
ส่วนภาพที่ว่าเนียนๆ ส่วนนึงเพราะว่า projector มันซ้อนสามสีได้สนิทครับ
ต่างกับ lcd-plasma เพราะมันเอาจุดสามสีมาเรียงกัน แทนที่จะซ้อนกันจริงๆ แบบ projector
แต่แนะนำว่าเวลาดู projector ควรจะดูกับ hidef ไม่ว่าจะ blu-ray หรือ mkv
เพราะถ้าดู dvd แรกๆ มันก็จะรู้สึกดี ดูไปนานๆ จะรู้ว่ามันไม่ค่อยชัด
Edited by Burm, 27 November 2009 - 11:30 PM.
#14
Posted 28 November 2009 - 10:36 AM
#15
Posted 30 November 2009 - 10:44 AM
ส่วนจอรับภาพผมใช้ Dalite รุ่น High Contrast ขาวด้าน ราคา 12,000 บาท (พร้อมติดตั้ง) จากบริษัท Maxnet
ผมเน้นดูหนัง ดูคอนเสิร์ต ครับ ได้อารมณ์ร่วมในการชมมากกว่า ทีวีจอแบน 50" หรือ 60" มากเลยครับ แต่ภาพที่ได้จะประมาณว่าเราเข้าโรงหนัง Digital นะครับ ความสว่างและความคม จะไม่เท่ากับ พวกทีวี LCD, LED, Plasma รุ่นเทพๆ ได้ (แน่นอนล่ะ ราคาอันหลังมันแพงกว่าเยอะนิ แต่จอเล็กกว่าเยอะ หุๆ)
ส่วนการเล่นเกม ผมใช้จอ FullHD Plasma 50" จะเหมาะสมกว่าครับ เพราะเวลาผมเล่นเกม จะใช้เวลานาน 3-4 ชั่วโมงขึ้นไป / วัน คงจะไม่เหมาะกับการใช้ Projector เพราะอายุของหลอดภาพจะมีแค่ 3000 ชั่วโมงโดยเฉลี่ยเท่านั้นครับ นานๆ เล่นกับเกมได้ แต่บ่อยๆ คงไม่เหมาะแน่ครับ
สรุป : ดูหนัง ดูคอนเสิร์ต ต้องยกให้ FullHD Projector มันสุดยอดจริงๆ แต่เล่นเกม ต้องยกให้ ทีวีจอแบน Plasma, LED หรือ LCD จะดีกว่าครับ
ขอภาพ set up แบบไม่ปิดไฟได้ไหมครับ อยากรู้ว่าวางจอยังไง เพราะตอนนี้ห้องเล่นเกมส์ผมเต็ม แล้ว ทำได้เต็มที่ก็ต้องติดจอแบบม้วนลงมาครับ
อยากรู้ความเป็นไปได้
#16
Posted 30 November 2009 - 01:06 PM
อย่างที่เพื่อน ๆ บอกล่ะครับ คงต้องเอาไว้ดูหนังครับ กับเล่นเกมบ้างบางครั้ง หากคิดจะเอามาเล่นเกมอย่างเดียวคงไม่ไหว
หากคิดเป็นค่าหลอดซื้อมาราคาก็คงไม่เกิน 12,000.- บาท ใช้ได้นาน 3,000 ชั่วโมง ลองหารดูก็ตก ชั่วโมงล่ะ 4 บาท
ดูหนังไปเรื่องหนึ่งก็ประมาณ 10 บาท สำหรับค่าหลอด หากเล่นเกมวันล่ะ 10 ชั่วโมง ก็ตกวันละ 40 บาท
หากคิดแบบนี้มันไม่แพงนะครับ คุ้มกว่าไปดูหนังข้างนอกอีก เรื่องหนึ่ง ๆ ก็ 100-120 บาทล่ะ
เพียงแต่ว่าถึงเวลาต้องซื้อเนี่ย 12,000.- บาท ก็เอาเรื่องเหมือนกันนะ
#17
Posted 30 November 2009 - 01:11 PM
หากคิดเป็นค่าหลอดซื้อมาราคาก็คงไม่เกิน 12,000.- บาท ใช้ได้นาน 3,000 ชั่วโมง ลองหารดูก็ตก ชั่วโมงล่ะ 4 บาท
ดูหนังไปเรื่องหนึ่งก็ประมาณ 10 บาท สำหรับค่าหลอด หากเล่นเกมวันล่ะ 10 ชั่วโมง ก็ตกวันละ 40 บาท
หากคิดแบบนี้มันไม่แพงนะครับ คุ้มกว่าไปดูหนังข้างนอกอีก เรื่องหนึ่ง ๆ ก็ 100-120 บาทล่ะ
เพียงแต่ว่าถึงเวลาต้องซื้อเนี่ย 12,000.- บาท ก็เอาเรื่องเหมือนกันนะ
ค่าไฟ ค่าสถานที่ อีกล่ะงับ ......
หยอกเล่นนะงับ
#18
Posted 30 November 2009 - 02:00 PM
อยากรู้ความเป็นไปได้
ผมก็ใช้จอม้วนครับ
ยังไงก็ต้องมีม่านปิดครับ ถ้าจะดูกลางวัน
ไม่ถึงกับว่าต้องมืดสนิทจนมองไม่เห็น
แต่มืดหน่อยมันก็จะดีครับ
#19
Posted 30 November 2009 - 02:13 PM
หยอกเล่นนะงับ
พูดถึงค่าไฟ หากเทียบกับ LED 46 นี่ ตัวไหนมันจะกินไฟมากกว่ากันครับ
#20
Posted 30 November 2009 - 05:13 PM
แอลอีดี ขนาด 55 นิ้ว ( เอจแอลอีดี ) .... กินไฟน้อยกว่า 32 นิ้วแอลซีดีปรกติอยู่หน่อย ( กินสูงสุดไม่เกิน 120 วัตต์ปรกติราว ๆ 80 - 90 วัตต์ ) คาดว่าโปรเจคเตอร์น่าจะกินไฟหนักกว่าครับ