0
แต่มันก็มีช่องเสียบ phone (หูฟัง) และก็ใส่ถ่าน AA สองก้อน ผมก็คิดว่า มันต้องพก
ออกไปใช้ข้างนอกได้สิ จริงม่ะ
สืบเนื่องจากว่า ผมมี Sony Discman รุ่น D-34 ของโซนี่ที่ตัวหนา ๆ ใส่ถ่าน 4 ก้อน
ซื้อมาตอนปี 1993 ไม่ก็ 1994 นี่ละครับ พ.ศ. 2536 นั่นเอง (นานจัง)
กินพลังไฟ 9V ซึ่งผมชอบพลังเสียงของมันมาก ๆ
อยู่ดี ๆ ก็เกิดอาการ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ไม่ยอมอ่านแผ่น CD ซะงั้น
แล้วแต่อารมณ์ของมัน เอาไปให้ อมร ดูก็บอกซ่อมไม่ได้ ไม่มีอะไหล่
เอาไปให้บ้านหม้อซ่อม ก็บอกซ่อมไม่ได้ (ว่าจะเอาไปให้ sony service ซ่อมดูเหมือนกัน)
ก็เลยเกิดแนวคิดที่ว่า เราต้องหา Discman เสียงดี ๆ มาทนแทนเจ้า D-34 ของเราซะแล้ว
ก็ได้เข้าไปดูทั้ง ebay และ yahoo jp ก็เจอรุ่น ใหม่ ๆ พวก NE730 830 ซึ่งเป็นรุ่นบาง ๆ
ก็สวยดีนะครับ ผลิตใน มาเลเซีย กันหมดแล้วรุ่นใหม่ ๆ ก็ยังไม่โดนใจ เพราะกลัวเรื่อง
กำลังขับนี่ละครับ มันต้องแน่น ๆ พวก Discman รุ่นเก่า ๆ มักจะทำได้เต็มที่ในเรื่องนี้
ผมก็พยายามเสาะหา เฝ้ารอ จนวันนี้ก็มี Sony Car Discman D-848K โผล่มา
ผมก็เช็คสเปคเลย หาเว็บโหลดคู่มือมาดูสเปคก่อน ก็ได้สเปคดังนี้
ถูกใจครับ รุ่นเก่าด้วย สมัยปี 1995 แนะ (แต่มาซื้อปี 2009 อ่า ไทม์แมนชีน)
และก็ตรงกำลังขับ 20mW ทีเดียว ชอบ ๆ
คือ ผมก็ลองโหลดดู spec ของพวกรุ่นใหม่ ๆ แล้วกำลังขับจะ 5mW ทั้งนั้น
และผมก็ได้มาแบบ ของใหม่มือหนึ่ง กริ๊บ ๆ เลย
แรก ๆ ก็กังวล มันเป็น Car Discman มันจะฟังแบบพกออกไปได้เหรอเนี่ย
ก็อ่านคู่มือไป ก็ปรากฎว่า โอเค ไม่มีปัญหา (คงเป็นเพราะว่าเมื่อ 14 ปีที่แล้ว
พวกรถยนต์มักจะมีแต่วิทยุเทปติดรถยนต์ หาแบบมี CD ด้วยยาก ไม่เหมือนสมัยนี้ครับ)
รุ่นนี้จึงผลิตออกมาเพื่อใช้ในรถยนต์ก็ได้ด้วย
พอแกะกล่องออกมาก็จะเจอสองชั้น ทั้งกล่องนี้หนัก 1.5 กิโลกรัมครับ
ทำให้ผมโดนภาษี และค่าขนส่งไปเกือบสองพันครับ T_T พี่ศุลฯ ไม่น่าเลย
ถ้าไม่โดนละก็ งานนี้ถือว่าไม่แพงมากนัก แต่นี่ขึ้นเลขนำหน้า เลข 4 เลยจ้า T_T
แกะกล่องมาก็จะเจอ 2 ชั้นแบบนี้
พอเอาของออกมาก็จะได้รวม ๆ ประมาณนี้ครับ
ถูกต้องแล้วครับ มันไม่แถมหูฟังมาให้ (ในคู่มือ ก็เช็คของแล้ว ไม่มีแถมจริง ๆ ครับ)
ส่วนใหญ่จะเป็นอุปกรณ์ที่นำไว้ใช้ในรถ
ก็เพราะฉันคือ CAR Discman นั่นเอง (แต่ผมจะพกพาออกไปฟังอ่ะ)
ตอนแรกคิดว่า รีโมท จะใช้แบบไร้สายได้ แต่สุดท้ายต้องเสียบ Adaptor ด้วยถึงจะใช้ได้
ผมเลยไม่สนใจตัวรีโมทของมันละ
เอาละมาดูหน้าตาเครื่องนี้กันหน่อย
มีระบบ Automatic open lid ก็คือ เปิดฝาแบบอัตโนมัติ กดปุ๊บ จะค่อย ๆ เปิดฝา
ใส่แผ่นเสร็จกดอีกที ฝาก็จะค่อย ๆ ปิด เท่ห์ไปเลย
ผมก็กังวลเหมือนกันนะครับว่า ปี 1995 นี่มันจะมี G protection หรือยังเนี่ย
เพราะพวก discman รุ่นเก่า ๆ มักจะแตะไม่ได้เลย แตะเป็นกระตุก
แต่พอเห็นคำว่า ESP (Super Electronic Shock Protection) ก็เลยโล่งอกครับ
คราวนี้มาดูปุ่มและช่องต่อเชื่อมต่าง ๆ รอบ ๆ เครื่องกันบ้าง
ปุ่มใช้งานก็ปกติพื้นฐานครับมีมาให้ครบ มี line out ด้วย (ก็แน่ละ ต้องมีสิ)
ใช้หม้อแปลง 4.5 V หรือถ่าน AA 2 ก้อน (ใช้ได้ประมาณ 5 ชั่วโมง)
กลัวไม่รู้ครับว่า made in japan เลยถ่ายมาให้ดู เอิ๊กๆๆ
อ้อ ใช้ถ่าน 2 ก้อน ถ่าน AA นี่ละครับ สบายเลย ผมก็ใช้ถ่านชาร์จครับ
มีระบบ SUPER ESP (Super Electronic Shock Protection)
skipping sound by using a buffer memory 10 second
แบ็ตเตอรี่ใช้ได้ 5 - 6 ชั่วโมง ถ้าเปิดระบบ SUPER ESP
(แต่สเปคนี้อยู่บนพื้นฐานถ่านชาร์จ AA 650 มิลลิแอมป์ในสมัยนู้น)
แต่ปัจจุบันผมใช้ 2,000 มิลลิแอมป์ เอิ๊กๆๆ
ปกติผมใช้ Discman เวลากดปุ่ม open ฝาก็จะเด้งขึ้นมาเล็กน้อย แล้วเราก็งัดขึ้น
แต่เจ้า D-848K ตัวนี้ กดยังไงก็ไม่เด้ง เอ้ย ทำไมอ่ะ
ผมเลยจับใส่ถ่านให้เรียบร้อยแล้วกดปุ่ม open
มันถึงจะเปิดขึ้นมาให้อัตโนมัติครับเลื่อนขึ้นมาอย่างเท่ห์ ๆ
(ถ้าระบบตรงนี้มันเสื่อมหรือมันพัง ผมก็คงหงอยเช่นกัน เอาน่าอย่าเพิ่งไปคิดถึงวันนั้น)
จับมาวางเทียบกับลูกรัก Sony D-34 ที่ คงต้องเก็บเข้ากรุ รอซ่อม
วางคู่กันแล้ว ปรากฎว่า ไม่ได้เล็กกว่ากันเท่าไหร่เลยน่ะ D-848K ของผมตัวนี้
พอ ๆ กับรุ่นเก่าเลย (จริง ๆ มันก็รุ่นเก่ากันทั้งคู่ละ ปี 93 กับ 95)
ไม่เชื่อสายตาตัวเองก็เลยจับ D-848K ขี่เจ้า D-34
ต่างกันนิดหน่อยจริง ๆ
เวลาใช้หูฟังนั้น ต้องเปิด volume ประมาณ 2 - 3 ก็เพียงพอครับ
เสียงอะไรต่อมิอะไร ออกมาหมด ถ้าหูดี ๆ นี่ออกหมด ถูกใจครับ
ในใจตอนแรกผมก็ลุ้นนะ มันรุ่น D-848K อาจจะแถมหูฟัง 484 มาให้ก็ได้เนอะ ฮ่าๆๆ
แต่สุดท้ายไม่แถมซักหู เพราะฉันคือ CarDiscman นั่นเอง ฮ่าๆๆ
ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ
auns555
