`

Jump to content





รีวิวหนัง Wallace & Gromit : The Curse of the Were-Rabbit


  • You cannot reply to this topic
No replies to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 31 March 2009 - 04:21 PM

Wallace & Gromit : The Curse of the Were-Rabbit

-วอลเลซ & กรอมมิท กู้วิกฤตป่วนสวนผัก-


+แม้ Wallace & Gromit : A Grand Day Out หนังอะนิเมชั่นขนาดสั้น โปรเจ็คต์เพื่อจบการศึกษาของนิค พาร์ค นักศึกษาสถาบันภาพยนตร์ และโทรทัศน์แห่งชาติของอังกฤษ จะพลาด
ออสก้าร์สาขารางวัลการ์ตูนสั้นยอดเยี่ยมในการเข้าชิงครั้งแรก เมื่อปี 1990 โน่น ทว่า . . ในครั้งนั้น นิค พาร์คก็ไม่ได้กลับบ้านมือเปล่า เพราะที่สุดแล้วที่คว้าไปได้ก็คือผลงานสร้างสรรค์อีกเรื่องหนึ่งของเขาอย่าง “Creature Comforts” ซึ่งมีตัวเอกของเรื่อง คือ “วอลเลซ” นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องผู้หลงใหลในรสชาติของชีส และคู่หูอย่าง “กรอมมิท” เจ้าหมาเพื่อนใจที่แสนซื่อสัตย์ ก็สามารถแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการในโลกของการ์ตูนได้อย่างสวยงาม ก่อนจะกลับมาคว้ารางวัลออสก้าร์ไปได้เป็นครั้งแรกในปี 1994 จากตอนที่มีชื่อว่า The Wrong Trousers และกลับมารับรางวัลเดิมอีกครั้งในอีก 2 ปีต่อมาจาก A Close Shave . . เครดิตสุดยอดมหากาฬขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าคู่ดูโอการ์ตูนดินปั้นคู่นี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน . . .


+ข้ามมายังปี 2005 นิค พาร์ค กลับมาร่วมงานกับอาร์ตแมนอะนิเมชั่นส์อีกครั้ง ภายใต้การบริหารของปีเตอร์ ลอร์ด และเดวิด สพร็อกซ์ตัน นำวอลเลซ และ
กรอมมิทมาขึ้นจอใหญ่ในฐานะหนังยาวเป็นครั้งแรก โดยมีสองมือเขียนบท “บ๊อบ เบเกอร์” ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วจากตอนทำ The Wrong Trousers และ A Close Shave และได้ “มาร์ก เบอร์ตัน” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ Chicken Run” มาช่วยกันนำสองคู่หูตัวป่วนสู่การผจญภัยครั้งใหม่ใน The Curse of the Were-Rabbit หนังเขย่าขวัญพันธุ์มังสวิรัติเรื่องแรกของโลก (^ ^)


+ครั้งนี้ วอลเลซ และกรอมมิท กลับมาในฐานะเจ้าของบริษัทกำจัดศัตรูพืช “แอนตี้เพสโต้” ซึ่งคอยทำหน้าที่จัดการและปราบปรามกระต่ายห้าวจอมกินผัก ด้วยวิธีการสมานฉันท์แบบชอบธรรม นั่นคือ ไม่ฆ่า แต่จับมาเลี้ยงไว้ ระหว่างที่พัฒนาเครื่องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปพร้อมๆกัน เพื่อให้พวกมันละเลิกนิสัยชอบกินผัก (!?) และเหตุนี้เอง ที่ทำให้ “เลดี้ท็อตติงตัน” โฉมสะคราญผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตา เรียกใช้บริการของแอนตี้เพสโต้ เพื่อให้จัดการกับเจ้าตัวกินผักที่เล่นงานสวนของเธอ แทนวิคเตอร์ ควอร์เตอร์แมน หนุ่มสตึผู้นิยมความรุนแรง และหมายปองเธออยู่เช่นกัน . . .


+เพราะผลงานดีเป็นที่ถูกใจ ฉะนั้นเมื่อเกิดเหตุสัตว์ประหลาดลึกลับบุกเข้าทำลายพืชผักพันธุ์ยักษ์ ที่ชาวบ้านเกษตกรเฝ้าดูแล เพื่อจะส่งเข้าประกวดในงานเทศกาลผักประจำปีเสียสิ้น . . เลดี้ท็อตติงตันในฐานะแม่งานใหญ่จึงมอบหมายให้แอนตี้เพสโต้หาทางจัดการกับสัตว์
ประหลาดตัวนี้. . และระหว่างภารกิจปฏิบัติการตามล่าสัตว์ประหลาด วิคเตอร์กลับตามเกาะติด 2 คู่หูเพื่อนซี้ เพื่อฉวยโอกาสเรียกคะแนนนิยมจากเลดี้ท็อตติงตันกลับคืน ในฐานะผู้พิชิตสัตว์ประหลาดด้วยเช่นกัน และที่สุดของการตามล่าหาความจริงนี้ พวกเขาก็ต้องพบกับความจริงที่น่าตระหนก!? ที่จะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล . . ความลับซ่อนเร้นตรงนี้คืออะไร สำหรับท่านที่ยังไม่ได้ดู ต้องไปตามลุ้นจากแผ่นกันเองนะคะ (^ ^)


+เหมือนเมื่อครั้งที่เป็นการ์ตูนสั้น นอกจากบุคลิกอันโดดเด่นของแคแร็คเตอร์วอลเลซ และกรอมมิท , สิ่งประดิษฐ์ล้ำยุค และมุขตลกร้ายชนิดเจ็บตัว-เอาตาย สไตล์ทอม แอนด์ เจอร์รี่แล้ว ทางทีมงานผู้สร้างก็ยังคงยึดสูตรสำเร็จเดิมๆไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยลูกเล่นลูกฮา ที่ดูเหมือนว่า จะกลายเป็นธรรมเนียมนิยมของหนังอะนิเมชั่นยุคใหม่ไปแล้ว นั่นก็คือการล้อเลียนเหล่าหนังดังในอดีต . . และมาคราวนี้ ก็ถึงคิวของหนังสยองขวัญยุคคลาสสิคของยูนิเวอร์แซล อย่างมนุษย์หมาป่า ไล่มาจนถึงลิงยักษ์คิงคองจนได้ . . .


+งานสร้างในส่วนของเทคนิคดินปั้น (Clay Animation) ยังคงอยู่ในระดับสุดยอด และที่ถือเป็นที่สุดแล้วของเทคนิคแบบนี้ก็คือ ฉากโชว์การกลายร่างเป็นมนุษย์กระต่ายของ!? ตรงนี้จะเป็นคน หรืออะไร!? ก็ต้องไปหาคำตอบกันเอง . . และที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของวอลเลซ และกรอมมิทอีกอย่างหนึ่งก็คือ “เสียงพากย์” ที่งานนี้ยังคงเป็นหน้าที่ของปีเตอร์ ซัลลิส เจ้าเก่าผู้คร่ำหวอดในวงการละครเวทีของอังกฤษ ซึ่งให้เสียงของวอลเลซมาตั้งแต่ตอนแรก A Grand Day Out และอีกส่วนที่เข้ามาเสริม และถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายของหนังก็คือ การร่วมทีมพากย์ของสองนักแสดงชื่อดังชาวอังกฤษ “เฮเลน่า บอนแฮม คาเตอร์” ผู้ให้เสียง เลดี้ท็อตติ้งตัน และอดีตดาราออสก้าร์ขายฝีมือ “เรล์ฟ ไฟน์” ให้เสียงพากย์ตัวละคร วิคเตอร์ ควอร์เตอร์แมน ผู้หยิ่งยโส คู่ปรับคนสำคัญของวอล
เลซ ซึ่งทั้งคู่ก็ทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้หุ่นดินมีชีวิต มีวิญญาณ ให้สัมผัสได้อย่างอัศจรรย์ . . .


+ตัวละครที่ผู้เขียนชื่นชอบมากที่สุด ก็คือ “กรอมมิท” ค่ะ น้องหมาแสนดีที่ไม่เห่าหอนให้หนวกหู และยังสามารถถ่ายทอดอารมณ์ ตลอดจนความรู้สึกต่างๆผ่านแววตา และท่วงท่าของมันได้อย่างเป็นธรรมชาติ . . ความสัมพันธ์ของวอลเลซ และกรอมมิทก็เป็นเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ในหนังคู่หูหลายๆเรื่อง นั่นคือฝ่ายแรกนั้นเป็นตัวสร้างปัญหา โดยมีฝ่ายหลังตามเป็นผู้รับหน้าที่สะสางปัญหา โดยยอมเสียสละแม้สิ่งที่มันหวงแหนมากที่สุด เพื่อช่วยเจ้านายอันเป็นที่รักก็ตาม . . .


+นอกจากประเด็นที่สอดแทรกเรื่องความพยายามอยู่ร่วมกันอย่างสมานฉันท์แล้ว หนังยังล้อเลียน-เสียดสีเรื่องเล็กๆที่หลายคนมองข้ามได้อย่างน่าสนใจ นั่นก็คือพฤติกรรมของวอลเลซ นักประดิษฐ์สมองใส ผู้ชาญฉลาดแต่ขาดความรอบคอบ มองเห็นแต่ทางได้ โดยลืมคิดไปว่าทุกอย่างมีสองด้านในตัวเองเสมอ และนั่น . . ก็คือสาเหตุของความหายนะครั้งใหญ่ที่เกิดตามมาในภายหลัง!!


+หากลองมอง และตรองกันดีๆ การเล็งเห็นเพียงผลแต่ในด้านบวก โดยไม่ได้มองคิดถึงผลในด้านลบ ที่กำลังจะเกิดขึ้นตามมานี่แหล่ะ ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นครั้งแล้ว ครั้งเล่าบนโลกใบนี้อยู่เสมอ . . และหากไม่ใช่คนงกความคุ้มค่า ชนิดเลือกดูหนังอะไร ก็หวังจะต้องได้ข้อคิดเตือนใจที่สอดแทรกอยู่เสมอๆก็ตามแล้วละก้อ . . สิ่งที่ผู้ชมจะได้แน่ๆ สำหรับหนังอะนิเมชั่นสยองขวัญ พันธุ์มังสวิรัติ เรื่องแรกของโลกเรื่องนี้ ก็คือ “รอยยิ้มแสนสุข” นั่นเองค่ะ!!

+ให้ 3 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) yoyo_55.gif yoyo_55.gif

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/?movie_id=34 ค่ะ


+Wallace & Gromit - The Curse of the Were-Rabbit Trailer+
http://www.youtube.com/watch?v=566_PBg6jkE

QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ yoyo_55.gifเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 17 November 2009 - 06:46 PM.