-สู้ศึกพิพากษาในโลกกระจก!!-
Note - เพื่อความลื่นไหลในการรับชม ควรจะใช้โปรแกรมช่วยโหลด เซฟเก็บไว้ดูในเครื่องจะดีกว่าชมแบบออนไลน์ค่ะ
+Kamen Rider Decade Episode 6 1/3+
http://www.youtube.com/watch?v=yl-CQq_NJzY
+Kamen Rider Decade Episode 6 2/3+
http://www.youtube.com/watch?v=PWr7WVQz1XQ...feature=related
+Kamen Rider Decade Episode 6 3/3+
http://www.youtube.com/watch?v=SdDd1KkSahI...feature=related
--------------------------------------------------------------
-ไม่ดูคลิปก่อน ข้ามมาอ่านเลยไม่รู้ด้วยนะคะ-
+หลังจากสึคาสะ และยูสึเกะได้ช่วยชี้นำวาตารุน้อย ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดในโลกของคิบะ ให้ตระหนักถึงหน้าที่สำคัญที่ต้องรับผิดชอบ หรือจิตจิตวิญาณของไรเดอร์ได้แล้ว สถานที่ต่อไปที่สึคาสะ และยูสึเกะจะต้องไป ก็คือโลกของมาสค์ ไรเดอร์ ริวคินั่นเอง!! เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร!?
+นัทสึมิได้เข้าไปสืบค้นข้อมูลที่สำนักพิมพ์ Atashi Journal* โดยมีนัดสัมภาษณ์กับกองบรรณาธิการสาวที่ชื่อ “โมโมอิ” . . เรื่องราวที่คุยกัน สร้างความประหลาดใจให้นัทสึมิเป็นอย่างมาก เพราะในโลกแห่งนี้ ดูเหมือนสื่อมวลชนต่างๆนั้นต่างก็รู้จักไรเดอร์แห่งโลกกระจกเป็นอย่างดี . . แต่แล้วระหว่างสนทนา จู่ๆบก.สาวกลับเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ด้วยบาดแผลลึกลับที่ต้นคอ!? สร้างความตื่นตะลึงให้นัทสึมิเป็นอย่างมาก เพราะเธอเป็นผู้ต้องสงสัยเพียงคนเดียวในที่เกิดเหตุนี้ และในมือของเธอ ก็ถือ “ช้อนส้อม” ที่เตรียมไว้จะกินเค้กของว่างอยู่พอดิบพอดี (!?) ทันใดนั้น “ฮากุโระ เร็น” อดีตคอลัมนิสต์ของสำนักพิมพ์ ก็เปิดประตูห้องเข้ามาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดิบพอดี และตรงเข้าล็อกตัวนัทสึมิที่ยืนช็อคอยู่โดยไม่มีทางสู้ทันที . . .
Note – *ของซีรีย์สเดิม จะใช้ชื่อว่าสำนักพิมพ์ ORE Journal ค่ะ
+ขณะที่ตำรวจท้องที่เข้าทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอยู่นั้น “ทัตสึมิ ชินจิ”ช่างภาพของสำนักพิมพ์ก็เข้ามา และได้พบกับเร็น ที่ออกจากงานไปแล้ว ซึ่งสร้างความสงสัยให้ชินจิไม่ใช่น้อยว่า เร็นเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร . . ขณะยืนสงสัยอยู่นั้น “คามาตะ” รองบรรณาธิการก็เข้ามาสอบถามเหตุการณ์กับชินจิ แต่ชินจิไม่ทันได้ตอบ เพราะตามเร็นออกไปซะก่อน . . เมื่อทุกคนออกไปกันหมดแล้ว คามาตะกลับหยิบหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวของเหล่ามาสค์ไรเดอร์แห่งโลกกระจกขึ้นมา พลางยิ้มแบบมีเลศนัย . . ท่าทางนี่คงไม่ใช่คดีฆาตกรรมธรรมดาๆซะแล้วสิ!?
+ตัดมาที่ร้านถ่ายรูปของนัทสึมิ . . ยูสึเกะก็รู้เช่นกันว่าที่นี่คือโลกของริวคิ แต่ก็ยังกระตือรือร้นที่จะทำงานเต็มที่ ดูท่าตอนนี้เขาเองก็สนิทสนมกับค้างคาวคิบัตแบ๊ตตัวเมีย ที่อ้างว่าตามมาเพื่อคอยปกป้องบรรดาหนุ่มๆด้วยไม่ใช่น้อยเหมือนกัน แต่แล้วสึคาสะในชุดสูทหรู มีระดับ ก็เดินหน้าขรึมเข้ามา ซึ่งสถานภาพของเขาในตอนนี้ ก็คือ “ทนายความ” แห่งโลกริวคินั่นเอง!! สึคาสะนั้นยังคงตามถ่ายภาพสถานที่ต่างๆในโลกนี้เหมือนเช่นเคย และรูปที่ได้มา ก็ยังบิดเบี้ยวเหมือนเดิมเช่นกัน . . และเพราะวิเคราะห์ปัญหาของโลกนี้ไม่ได้เลย ยูสึเกะก็เลยเสนอให้ออกไปหาข้อมูลเพิ่มเติมในเมืองด้วยกัน แต่เมื่อมาถึงย่านชุมชน ซึ่งกำลังออนแอร์ข่าวสดคดีฆาตกรรมขึ้นมา ทั้งยูสึเกะ และสึคาสะก็ต้องตกใจอีกครั้ง เพราะนัทสึมิที่หายไปตั้งแต่เช้านั้น กลับเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ซะเอง!!
+ทางฝั่งนัทสึมิ ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนไต่สวนทางกระบวนการยุติธรรมของโลกนี้อยู่นั้น ก็ประหลาดใจ และเหนื่อยใจไม่แพ้กัน เพราะระบบศาลยุติธรรมของโลกนี้ ตัดสินโดยใช้ระบบไรเดอร์ในการชี้ขาด โดยผู้ที่มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับคดีทั้งหลายในโลกแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นทนายฝ่ายโจทก์ ทนายฝ่ายจำเลย อัยการ ไปจนถึงผู้เกี่ยวข้องในเหตุการณ์นี้ จะถูกคัดเลือกเป็น “ไรเดอร์” และจะต้องไปต่อสู้ตัดสินกันในโลกกระจก เพื่อหาคนแพ้-ชนะ ซึ่งผู้ที่อยู่รอดได้คนสุดท้าย ก็จะกลายมาเป็น “ผู้พิพากษา” ในคดีความนั้นนั่นเอง!! และบัดนี้ การต่อสู้ของไรเดอร์ ก็ได้เปิดฉากขึ้นแล้วเช่นกัน!!
+ไรเดอร์ ซิสเซอร์ (ปูทอง) VS. ไรเดอร์ เวอร์เต้ (กิ้งก่าเขียว)
+ไรเดอร์ ไทเกอร์ (เสือขาว) VS. ไรเดอร์ โซลด้า (กระทิงเขียว)
+ไรเดอร์ อิมเพอเรอร์ (กวางน้ำตาล) VS. ไรเดอร์ ไรอา (กระเบนชมพู) VS. ไรเดอร์ ไก (แรดเผือก)
+ตอนหลัง ไรเดอร์ ไนท์ (ค้างคาวน้ำเงิน) ก็มาร่วมวงต่อสู้ด้วยอีกคน
+นัทสึมินั้น ไม่ยอมรับการตัดสินด้วยระบบประหลาดๆแบบนี้อยู่แล้ว จึงขอสิทธิ์ในการเรียกทนายแต่โดยดี ซึ่งสึคาสะก็รับเป็นทนายแก้ต่างให้ แต่ก็ยังเย้าแหย่ กวนโมโหนัทสึมิเหมือนเช่นเคย . . ในห้องสอบสวนนี้ ชินจิก็มาร่วมให้ปากคำด้วย เขาบอกสึคาสะว่า ตนเองก็ไม่ปักใจเชื่อว่านัทสึมิจะเป็นฆาตกรเหมือนกัน เพราะรอยแผลที่คอศพนั้นดูแล้วไม่น่าจะเป็นรอยเดียวกับส้อมในมือของนัทสึมิ . . แต่คนแรกที่พบศพนั้น ก็คือเร็น อดีตพนักงานสำนักพิมพ์ต่างหาก (!?) . . นัทสึมิจึงเล่าเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุให้ฟังทั้งหมด และขอให้สึคาสะ และยูสึเกะเชื่อใจเธอ . . .
+หลังสอบสวนเสร็จ สึคาสะเดินออกมาพร้อมกับยูสึเกะ และชินจิ . . เพราะชอบถ่ายรูปเหมือนกัน ทั้งคู่เลยคุยกันได้อย่างไม่มีปัญหา ชินจินั้นยอมรับอย่างเปิดเผยว่า เขาเองก็ได้รับการคัดเลือกให้เป็นไรเดอร์คนหนึ่งเหมือนกัน พร้อมกับแสดง “เว้นต์เด็ค” ของริวคิ ให้ดูเป็นหลักฐาน แต่เขาเองไม่สนใจ และไม่คิดจะสู้ เพราะคิดว่านัทสึมิไม่ผิด เลยไม่อยากไปวุ่นวายอะไรด้วย . . .
+แต่ทันใดนั้นเอง สัมผัสเตือนของมิลเลอร์ เวิรลด์ก็ดังขึ้นมา แสดงถึงมีการต่อสู้กันอยู่ในโลกกระจก . . สึคาสะนั้นสนใจ และอยากลองไปทดสอบ
มิลเลอร์ เวิรลด์ดูบ้าง เขา แปลงร่างเป็นดีเคด และเข้าไปในมิลเลอร์ เวิรลด์ได้อย่างง่ายดาย (!?) ท่ามความตื่นเต้นของยูสึเกะอย่างออกนอกหน้า (^ ^)
+ผลการต่อสู้ของโลกกระจก ไรเดอร์ ไนท์เอาชนะไรเดอร์ ซิสเซอร์ได้อย่างง่ายดาย . . ซึ่งก่อนพ่าย ซิสเซอร์ได้ถามถึงเหตุผลที่เข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ ทว่าไนท์กลับบอกว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องการตัดสินคดีด้วยระบบไรเดอร์ลูกขุนแต่อย่างใด . . เมื่อพิชิตซิสเซอร์ลงได้แล้ว ไรเดอร์ไนท์ก็ได้การ์ด เว้นต์ของ
ซิสเซอร์มาครอบครองเพิ่มอีก 4 ใบ แต่ขณะนั้นเอง สึคาสะในร่างดีเคดก็เข้ามาท้าสู้ด้วย . . ไนท์นั้นไม่รอช้า รุกเข้าจู่โจมทันที แต่พอเห็นการ์ดที่ดีเคดใช้
ก็หยุดมือ เพราะดูท่าเป็นการ์ดคนละแบบกัน คงเอามาทำอะไรไม่ได้แน่ เลยไม่ยอมสู้ต่อและเดินจากไป . .
+ทันใดนั้นเอง ไรเดอร์ โซลด้าก็ปรากฏตัวขึ้นมา พร้อมกับโจมตีทั้งคู่ด้วยอาวุธหนักของตัวเองทันที ซึ่งแน่นอนว่าพลังทำลายมหาศาลขนาดนี้ แค่หลบให้พ้นได้ก็เต็มกลืนแล้ว . . สึคาสะถามเร็นว่าตัวจริงของโซลด้าเป็นใคร เร็นเองก็รู้แค่ว่าเป็นอัยการของรัฐ ซึ่งเชื่ออย่างสนิทใจว่านัทสึมิเป็นคนผิดแน่นอน ไม่แปลกที่เขาจะโจมตีแบบไม่มียั้งมือเลย . . สุดท้ายดีเคด และไนท์ก็ตั้งรับไม่ไหว ถูกโจมตีจนกระเด็นหลุดจากมิลเลอร์ เวิรลด์ออกมา
+สึคาสะ , ยูสึเกะ และชินจิ กลับไปรวบรวมข้อมูลที่สำนักพิมพ์อีกครั้ง เพื่อขอพบกับรองบก. คามาตะ พร้อมกับขอตรวจสอบห้องเกิดเหตุอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง . . จากการสนทนา คามาตะให้การว่าขณะเกิดเหตุ เขานั่งจิบกาแฟอยู่ที่ลานกว้าง ตรงข้ามออฟฟิศ และเขาปักใจเชื่อว่านัทสึมิคือฆาตกรอย่างแน่นอน เพราะอยู่ในห้องกับผู้ตาย 2 ต่อ 2 เท่านั้น . . ตรงนี้ยูสึเกะจึงสอบถามถึงเรื่องของเร็น ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรก ชินจิจึงตอบแทนให้ ว่าเร็นเคยทำงานที่สำนักพิมพ์แห่งนี้มาก่อน แต่ลาออกไปแล้ว เขาเองก็ไม่รู่เหมือนกัน ว่าทำไมวันนี้จึงกลับมาที่ออฟฟิศ และประจวบเหมาะเกิดเรื่องพอดิบพอดีอีกเหมือนกัน . . .
+จู่ๆคามาตะก็ตัดบทขึ้นมาว่า เร็นนั้น เข้าร่วมการต่อสู้ของไรเดอร์ด้วยเหมือนกัน ในฐานะของไรเดอร์ ไนท์ ซึ่งทำให้ชินจิตกใจ และไม่อยากเชื่อเป็นอย่างมาก . . มาถึงตรงนี้คามาตะก็แสดงตัวเป็นไรเดอร์ อาบิสทันที ซึ่งสึคาสะเองก็รอให้คามาตะพูดแบบนี้มานานแล้วเหมือนกัน . . ในฐานะที่เป็นทนายของนัทสึมิ เขาเรียกเข็มขัดออกมา และแปลงร่างเข้าไปสู้ศึกในมิลเลอร์ เวิรลด์ทันที
+ในโลกกระจก อาบิสประกาศกร้าวว่าไม่มีไรเดอร์คนไหนล้มเขาได้ สึคาสะได้ยินก็ยิ่งอยากท้าทายเข้าไปใหญ่ จึงเปิดฉากโจมตีก่อนทันที แต่ก็โดนอาบิสโต้กลับมาจนล้มไม่เป็นท่าเหมือนกัน แต่จู่ๆ ไรเดอร์อิมเพอเรอร์ก็ตรงดิ่งเข้ามา พร้อมกับมอนสเตอร์ในโลกกระจกจำนวนหนึ่ง และมุ่งเข้าโจมตีดีเคดเฉยเลย พอเห็นแบบนี้อาบิสก็เลยหลบฉาก ปล่อยให้ดีเคดโดนรุมผู้เดียวอย่างเมามัน
+ทางด้านยูสึเกะ ที่ตามไปสืบข้อมูลจากเร็น ก็ได้ความมาว่า เมื่อก่อนนั้นเขาเคยเป็นคู่หูของชินจิ โดยที่เร็นรับหน้าที่เขียนบทความ ส่วนชินจิเป็นช่างภาพ ซึ่งทั้งคู่ร่วมสร้างผลงานดีๆมากมาย แต่ . . อยู่ๆ เร็นก็ขอแยกตัวจากชินจิไปดื้อๆ และลาออกจากสำนักพิมพ์อย่างไม่บอกสาเหตุ ซึ่งดูเหมือนก่อนหน้านี้ เร็นเคยไปศึกษา และตรวจสอบเกี่ยวกับระบบไรเดอร์ลูกขุนมาก่อน และมีบางสิ่งบางอย่าง ที่เกี่ยวโยงกับไรเดอร์ ฟาม ซึ่งเคยมีเบื้องหลัง มีส่วนร่วมตัดสินในคดีครั้งก่อนๆด้วย เขาไปขุดคุ้ยเจออะไรกันแน่นะ!?
+ชินจิที่ตามเข้ามา แสดงท่าทีไม่พอใจที่อยู่ๆเร็นแยกตัวออกไปโดยไม่บอกกล่าว และสงสัยว่าเร็นต่างหากที่เป็นคนสังหารบก. และโยนความผิดให้นัตสึมิ และมาเป็นไรเดอร์เพื่อให้ตนเองพ้นผิด ซึ่งแม้ว่าเร็นพยายามจะอธิบายอย่างไร ชินจิก็ไม่ฟังเลยสักนิด สุดท้ายเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ทั้งคู่จึงต้องไปดวลกันแบบส่วนตัวในโลกกระจก!!
+ชินจิในร่างริวคินั้น ต่อสู้กับไนท์แบบไม่ยั้งมือเลย แต่เร็นไม่ยอมตอบโต้ด้วย เพราะรู้ว่าชินจิกำลังเข้าใจผิด แต่ขณะนั้นเอง สึคาสะก็ตามมาจัดการกับไรเดอร์อิมเพอร์เรอร์ได้พอดี
+หลังจากพิชิตอิมเพอร์เรอร์ได้ ดีเคดเลยหันมาท้าดวลกับไนท์ต่อ เพราะยังมีเรื่องค้างคากันอยู่ ซึ่งสึคาสะเห็นว่าไนท์เป็นค้างคาว ก็เลยนึกสนุก แปลงเป็น
คิบะเข้าสู้ซะเลย ซึ่งทั้งริวคิ และ
ไนท์เห็นเข้า ก็ยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่ เพราะไม่เคยเห็นไรเดอร์แปลงเป็นไรเดอร์ด้วยกันได้มาก่อน . . .
+ไนท์นั้นรู้ดีว่าดีเคดไม่ธรรมดา จึงทุ่มเทจู่โจมเต็มกำลัง ซึ่งก็สามารถรุกไล่จนดีเคดต้องเปลี่ยนฟอร์มรับมือหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งดีเคดเองก็ยังไม่วายปั่นป่วนสมาธิคู่ต่อสู้ได้อย่างชาญฉลาดว่าเขานี่แหล่ะรู้จัก
ไรเดอร์ทุกคนเป็นอย่างดี แม้แต่ริวคิ หรือตัวไนท์เองก็ตาม
+แน่นอนว่าฟอร์มต่างๆที่หลากหลายของดีเคด ทั้งการูลู หรือด๊อกก้านั้น แข็งแกร่งจนไนท์เริ่มตกเป็นรอง และที่สุดแล้วแม้แต่ท่าทริค เว้นต์ แยก 4 ร่างโจมตีพร้อมกันของไนท์ ก็ยังถูกดีเคดเอาชนะได้ . . และขณะที่เร็นเข้าตาจน ชินจิที่ตามมาก็ยังนิ่งเฉย ลังเลไม่ยอมเข้าช่วยเสียอีก . . .
+ข้อมูลหนัง และภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.j-hero.com/board/index.php?showtopic=9042 ค่ะ
Edited by rbgel, 17 November 2009 - 07:23 PM.