0
Max Payne
-ฅนมหากาฬถอนรากทรชน-
-ฅนมหากาฬถอนรากทรชน-
+จากเกมแอ็คชั่นเดินยิง มุมมองบุคคลที่ 3 ชื่อดัง ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในระดับสร้างปรากฏการณ์เกมหนึ่ง . . ในที่สุด Max Payne ก็กลายมาเป็นภาพยนตร์จอใหญ่ เช่นเดียวเกมดังๆ อีกหลายต่อหลายเกมที่ได้ขึ้นจอมาก่อนหน้า หลังจากเก็บเกี่ยวความสำเร็จมากมายมหาศาลจากเครื่องเล่น เพลย์สเตชั่น 2 , เอ็กซ์บ็อกซ์ หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคลก็ตามที . . แต่ทว่า การขึ้นจอใหญ่ของ Max Payne ก็ไม่ต่างไปจากหนังสร้างจากเกมอีกหลายๆเรื่อง ที่มักจะไม่ค่อยเอาอ่าว เอาทะเลสักเท่าไหร่ ชนิดแฟนประจำที่ติดตามกันมายังเอือมระอา และหากเทียบกับ Hitman ที่สร้างมาจากเกมประเภทเดียวกันแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่า Max Payne นั้น อยู่ในระดับย่ำแย่ยิ่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเรื่องของความบันเทิงที่มอบให้กับคนดู . . .
+ทั้งๆที่หนังก็อยู่ในการดูแลของจอห์น มัวร์ ผู้กำกับหนังตลาดเน้นความบันเทิง ผู้เคยทำหนังแอ็คชั่นมันสะเด่าอย่าง Behind The Enemy Lines มาก่อนหน้านี้ด้วยแท้ๆ . . แต่ Max Payne ก็แทบจะไม่มีส่วนที่เรียกได้ว่า "ตื่นเต้น" ระทึกใจให้รู้สึกเลยด้วยซ้ำ . . จากเท่าที่เห็น หนังพยายามวางตัวเป็นหนังแอ็คชั่น อาชญากรรม สืบสวน-สอบสวน เน้นขายสไตล์ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ที่หนังทำได้ก็เป็นแค่ความพยายาม เพราะ Max Payne ไม่สามารถไปถึงจุดไหนได้เลยสักทาง
+ไม่ว่าจะเป็นตัวเรื่องที่อืด เรื่อยๆ มาเรียงๆ ขณะที่สไตล์ที่ใช้นั้น หากไม่นับที่การสร้างบรรยากาศนัวร์ๆ ทึมๆ ที่ค่อนข้างโดดเด่นทั้งโทนสีของภาพ การจัดแสง ที่ทำได้เต็มอารมณ์ชนิดถอดแบบมาจากฉากคัตซีนในเกมได้อย่างสมบูรณ์ รวมไปจนถึงสภาพอากาศในเรื่องที่ดูอึมครึม ชวนอึดอัดตามต้นฉบับ หากแต่ดูๆไป กับสิ่งต่างๆที่ว่า ครั้นจะมีอารมณ์ และความรู้สึกมากกว่าบรรดาตัวละครในเรื่องเสียอีกต่างหาก เพราะนอกจากนั้นแล้ว หนังก็แทบไม่มีอะไรที่เป็นจุดสนใจเลย . . .
+แถมเสน่ห์จากเกมที่มี ก็เก็บมาได้เพียงบรรยากาศที่ว่ามาเท่านั้น แม้พล็อตของหนัง และบุคลิกต่างๆของตัวละคร พยายามจะคง หรือให้ใกล้เคียงกับที่เกมเป็นมากที่สุด . . ทว่า ความโดดเด่นในเรื่องของการใช้เทคนิค Bullet Time ในแบบที่เป็นจุดขายหลักของเกมนั้น หนังกลับมีให้เห็นเพียงไม่กี่ฉากเท่านั้น . . .
+บทหนังของโบ ธอร์นที่ดัดแปลงมาจากโครงเรื่องในเกมของแซม เลคอีกที เล่าเรื่องได้อย่างเหนื่อยๆ ชืดช้า และขาดจังหวะที่สมดุลในการวางฉากแอ็คชั่น และการสร้างความตื่นเต้นในสถานการณ์ต่างๆ รวมไปถึงการพยายามสร้างอารมณ์ และพาผู้ชมเดินเข้าไปสัมผัสจิตใจที่รวดร้าวของ Max Payne (แบบเดียวกับที่เล่นคำ Max Pain = ความเจ็บปวดทรมานอย่างที่สุดยังไงยังงั้น) หนังก็ยัง
ทำไม่ได้ผล
+และยิ่งพยายามสร้างความซับซ้อนมากขึ้นเท่าไหร่ ด้วยการเปิดตัวละคร ที่ส่วนใหญ่มาพร้อมกับปูมหลังที่ลึกลับดำมืด ทว่าไปๆมาๆ กลับเป็นพวกมาๆ หายๆ ดูลอยไปลอยมาเอาซะอย่าง
นั้น ก็แทบไม่มีความจำเป็นกับหนังแต่อย่างใด บวกกับอารมณ์ที่แห้งแล้งในทุกแคแร็คเตอร์ของแต่ละคน ก็เลยยิ่งทำให้จังหวะของหนังที่เอื่อยๆ หนืดๆอยู่แล้ว ยิ่งเสียเข้าไปใหญ่ . . .
+ไม่แปลก ที่ Max Payne จะออกมาจืดสนิทสมบูรณ์แบบ ชนิดคอเกมเดนตายยังสะอึก กลายเป็นหนังแแอ็คชั่นที่ยิ่งดู ยิ่งยวบยิ่งกว่าซีรีย์เกาหลีหลายระดับชั้น โดยไม่ต้องไปพูดถึงการแสดงของทีมนักแสดงแต่ละคน ที่ชวนกันมาดับอนาถคาจอกันแทบทั้งนั้น โดยเฉพาะดารานำของเรื่อง "มาร์ค วอห์ลเบิร์ก" ที่จับเสน่ห์ที่เป็นอารมณ์ขันร้ายๆ กวนๆบางอย่างในแบบที่ตัวละครตัวนี้มีแบบในเกมไม่ได้เลย จนแทบไม่ต่างไปจากสภาพของนิโคลาส เคจ ใน Bangkok Dangerous แต่อย่างใด . . กระทั่งสาวบอนด์คนใหญ่อย่าง "ออลก้า คูรีเล็นโก้" ก็เป็นเพียงไม้ประดับ ที่เหมือนๆใส่ๆเข้ามาให้ครบๆไปซะอย่างนั้น และที่น่าตลกไม่ใช่น้อยก็คือ นี่คือหนังแอ็คชั่นสร้างจากวิดีโอเกมเรื่องที่ 2 แล้ว ที่เธอรับเล่น แถมยังออกฉายต้นปี-ชนปีซะอีก (^ ^)
+ไม่ว่าจะมองในมุม ในแง่ไหน Max Payne ก็แทบจะไม่มีมุมดีให้จับต้องสักเท่าไหร่ และหากมองกันถึงที่มาที่สร้างมาจากเกม หนังก็ให้อารมณ์แบบนั้นไม่ได้ และหากมองอย่างหนังแอ็คชั่น-ดูเอามัน ก็คงยิ่งลำบาก เพราะหนังเองวางตัวไปทางสืบสวน-ซ่อนเงื่อนเสียมากกว่า ทั้งๆที่ในต้นฉบับ ก็ไม่ได้ผ่อนปมความน่าติดตามอันซับซ้อนแต่อย่างใด ครั้นพอถึงเวลาบู๊ ก็ยิงกันสนั่น ชนิดหูดับตับไหม้อีกต่างหาก . . และเพราะมีปัญหาซะขนาดนี้ แฟนๆที่คาดหวัง และติดตามกันมาก็เลยต้องทำใจ ชนิดกลับไปลุยหน้าจอยังจะมันซะกว่า . . ปัง! ปัง! ปัง!
+ให้ 2 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว)
+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/?movie_id=1646 ค่ะ
QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+ +
เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+ ++อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ
QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ
+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ
+ดูหนังให้สนุกนะคะ+
Edited by rbgel, 18 November 2009 - 05:01 PM.
