1 reply to this topic

[rbgel]

ตกผลึกความคิด และเก็บความประทับใจจากหนัง

"TOOTSIE"

-ฤาจะใส่ใจเข้าหา . . ฤาจะออกใจห่างเหิน-

+ยุค 80's ถือเป็นหนึ่งในยุคทองของหนังสร้างปรากฎการณ์ และสร้างสรรค์ความบันเทิงระดับคลาสสิคของคอหนังทั่วโลกอย่างแท้จริง และปี 1982 ก็ต้องถือเป็นหนึ่งในปีที่เยี่ยมที่สุดในแง่คุณภาพของหนังตลอดกาล เพราะนั่นเป็นปีที่สตูดิโอทั่วทั้งฮอลลีวู้ดสนุกกับการสร้างสรรค์ผลงานเยี่ยมๆ หลากหลายแนวออกมา และเป็นปีที่ผู้ชมสนุกกับการติดตามและเลือกชมผลงานในระดับสุดยอด ที่มีตั้งแต่ที่สุดของหนังไซไฟ-ผจญภัยเอาใจครอบครัว อย่าง ET. The Extra-Terrestrial , สุดยอดหนังดราม่าขายการแสดง Gandhi หนังใหญ่ที่คว้ารางวัลออสการ์ในปีนั้นไปถึง 8 ตัว และ Sophie's Choice , สุดยอดหนังดราม่า-ซ่อนเงื่อน Missing และ The Verdict ไปจนถึงยอดหนังโรแมนติก-ดราม่า อย่าง An Officer and a Gentleman (กับชื่อไทย "สุภาพบุรุษ ลูกผู้ชาย" ที่รับประกันได้ว่าคอละครหลังข่าวบ้านเราต้องถูกใจกันอย่างแน่นอน)

+แต่อย่างไรก็ดี ถ้าจะนับเอาสุดยอดหนังตลกเอาใจผู้ชมวัยผู้ใหญ่แห่งปีแล้วละก็ ตำแหน่งนั้นก็คงจะต้องเป็นของ Toosties อย่างไม่มีข้อกังขา เพราะนี่เป็นหนึ่งในหนังยุค 80's ที่ไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็ยังดูได้ไม่เชยเหนือกาลเวลา และที่สำคัญถ้าลองมองย้อนกลับไป นี่คือหนังที่ไม่ขายงานเอ็ฟเฟ็คต์พิเศษที่ยากที่จะสร้างได้ออกมาดูน่าเชื่อถือ
ตลอดกาล . . .

"Desperate, he took a female role and became a star"

+แต่การที่ Toosties กลายเป็นหนึ่งในความสำเร็จในทุกๆทางแห่งปี 1982 ผู้ที่สมควรได้รับคำชมก็คือทีมงานหลักทั้งหมด ที่ช่วยกันเติมเต็มความบันเทิงนี้ให้สมบูรณ์ได้อย่างลงตัว . . แต่ถึงกระทั่งอย่างนั้น ก็ยังมีอีกสองรายที่สมควรเป็นเจ้าของเสียงปรบมือเหนือชาวบ้านเค้า คนแรกก็คือตัวผู้กำกับของเรื่อง "ซิดนีย์ พอลแล็ค" (ซึ่งเพิ่งจะลาจากโลกนี้ไปด้วยโรคมะเร็ง เมื่อกลางปี 2008 ที่ผ่านมา) และคนที่สองก็คือพระเอก "ดัสติน ฮอฟฟ์แมน" ที่แสดงได้อย่างโดดเด่น และถือเป็นบทที่ประทับใจผู้ชมมากที่สุดบทหนึ่งในชีวิตการแสดงของเขาเลยก็ว่าได้ . . และท้ายที่สุด ถ้าไม่ใช่การแสดงของฮอฟฟ์แมนแล้ว ก็ยากเหมือนกันที่ Toosties จะกลายเป็นหนึ่งในหนังตลกคลาสสิคตลอดกาลอย่างที่หนังเป็นอยู่ในยุคปัจจุบันได้ . . .

"If only he could tell the woman he loves"

+ฮอฟฟ์แมนตอนนั้นกำลังอยู่ในช่วงเวลาทองของการเป็นสุดยอดนักแสดงชาย และก่อนหน้านั้นในปี 1979 เขาก็เพิ่งจะคว้าออสการ์นำชายยอดเยี่ยม จากบทบาทของคุณพ่อผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิ์ในการเลี้ยงดูบุตรชายใน Kramer vs. Kramer แน่นอนว่าถึงตอนนั้น ไม่มีใครกังขาในฝีมือการเล่นบทดราม่าของฮอฟฟ์แมน แต่อย่างไรก็ดี กับ Toosties ในที่นี้นั้นต่างออกไป ก็จริงอยู่ที่บทนักแสดงตกงานที่ฮอฟฟ์แมนเล่นจะมีความเป็นดราม่าอยู่ในตัว แต่ทว่าบทภาพยนตร์ของลาร์ลี่ เกลบาร์ต , เมอร์เร่ย์ ชิสกัล และดอน แม็กไกวร์ และการกำกับของพอลแล็คนั้นยิ่งกว่า ก็เพราะทั้งสี่คนนี่แหล่ะ ที่ทำให้ฮอฟฟ์แมนมีโอกาสได้แสดงความเป็นสุดยอดในการแสดงบทตลกชวนหัวในตัวออกมาได้
อย่างเต็มที่ . . .

+ในเมื่อไม่มีงานแสดงให้ทำ นักแสดงหนุ่มชาวนิวยอร์คที่ชื่อ "ไมเคิล ดอร์ซีย์" ที่ฮอฟฟ์แมนเล่น ก็เลยจัดการแต่งตัวเป็นผู้หญิง (!?) แล้วก็ใช้ชื่อใหม่ในวงการเป็นโดโรธีเสียเลย แต่ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ จากที่เคยเป็นไมเคิลผู้เตี้ยล่ำ และหน้าตาจืดชืด ไม่หล่อเหลาเอาเสียเลย ไมเคิลกลับกลายเป็นสาวเอ๊าะทรงเสน่ห์ที่ดูดี . . ขึ้นกล้อง และโดดเด่นในเรื่องของการแสดงในมาดของโดโรธีอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งตอนที่โดโรธีดังมันก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่เพราะยังไงไมเคิลก็ต้องซ่อนความจริงเป็นความลับให้ได้นานที่สุดนั่นไง ปัญหามันอยู่ตรงนี้? ซึ่งถ้าไมเคิลในมาดโดโรธีไม่ไปตกหลุมรักเพื่อนนักแสดงหญิงคนหนึ่ง ที่รับบทโดยเจสสิก้า แลงจ์ ที่ยอมสนิทสนมกับเขาเพราะเธอซึ้งน้ำใจในความเป็นกัลยาณมิตรของโดโรธี ไม่อย่างนั้น ไมเคิลก็คงจะหากิน และทำเงินทำทองจากการเป็นโดโรธีไปได้อีกนาน . . .

"He's Tootsie... She's Dustin Hoffman"

+ฮอฟฟ์แมนไม่ได้ทำให้แลงจ์ในบท "จูลี่" หลงรักโดโรธีได้เท่านั้น แต่เขายังทำให้ผู้ชมในหนัง และผู้ชมจริงๆของหนัง Toosties อย่างเราๆ หลงรักในความน่ารักของโดโรธีด้วย ถึงจุดนั้นผู้กำกับพอลแล็ค และพระเอกฮอฟฟ์แมนก็ช่วยกันทำให้ Toosties กลายเป็นหนังตลก ที่ดูสนุกได้ทั้งความบันเทิง และมีระดับในตัวด้วยเช่นกันไปเรียบร้อย . . โดยเฉพาะฮอฟฟ์แมนนั้น แสดงให้เห็นว่าการแสดงในระดับที่เป็นสุดยอดนั้นเป็นอย่างไร และอันที่จริงเขาควรจะเป็นเจ้าของออสการ์นำชายตัวที่สองในชีวิต ตั้งแต่ตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ แต่ก็อย่างที่รู้ๆกัน ในสายตาของออสการ์นั้น การแสดงในบทตลกชวนหัวมักจะถูกมองว่าเป็นรอง
บทดราม่ามาแต่ไหนแต่ไรมา ถึงแม้ว่าในความเป็นจริง การแสดงให้ตลกมันไม่ได้ง่ายไปกว่าบทดราม่าเลยก็ตาม . . แต่ถึงจะไม่มีออสการ์เป็นประกัน แต่ยังไงเสียบทบาทไมเคิล/โดโรธีก็คือหนึ่งในบทที่ดีที่สุดในการชีวิตการแสดงของฮอฟฟ์แมนอย่างไม่ต้องสงสัย . . .

+Toosties ไม่ได้เป็นแค่หนังตลก-ดราม่าสร้างปรากฎการณ์เท่านั้น หากยังเป็นหนังรักโรแมนติกที่ถือเป็นความทรงจำที่ดีได้ด้วยซ้ำจากเหตุการณ์ครึ่งหลัง
ของเรื่อง ซึ่งการแสดงอันเป็นธรรมชาติมากถึงมากที่สุดของแลงจ์ ก็คือส่วนที่ทำให้ความรักที่ไมเคิลมีต่อจูลี่ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาต้องกระชากหน้ากากตัวเอง มีทั้งความน่าเห็นใจและน่าประทับใจอยู่ในตัว ซึ่งความจริงแล้วแลงจ์เป็นถึงนางเอกของเรื่องอันนี้จริงอยู่ แต่หลังจากล้มเหลวในการขึ้นจอใหญ่เป็นครั้งแรกกับ King Kong ซ้ำยังถูกบรรดานักวิจาณ์โจมตีอย่างไม่มีชิ้นดี แลงจ์ก็กลับมากู้ชื่อได้ในผลงานถัดมาติดๆกันถึง 2 เรื่อง ซึ่งก็คือ All That Jazz (1979) และ The Postman Always Ring Twice (1981) และสานต่อด้วยบทบาทที่แทบจะเป็นตัวจริงของเธอใน Toosties . . ซึ่งก็ต้องถือได้ว่างานนี้ แลงจ์เจอส้มหล่นเข้าอย่างจัง และการที่สตูดิโอต้นสังกัดกลับเสนอชื่อเธอให้เป็นว่าที่ผู้เข้าชิง แค่ในสาขา "สมทบหญิง" มันก็เป็นเรื่องที่สมควร เพราะท้ายที่สุดแล้วก็ทำให้แลงจ์กลายเป็นเจ้าของออสการ์สาขาสมทบหญิง และนั่นก็เป็นรางวัลใหญ่รางวัลเดียวที่ Toosties ทำได้จากเวทีออสการ์ ปี 1982 จากที่เข้าชิงด้วยกันทั้งสิ้นถึง 10 รางวัลอย่างที่เห็น . . .

+ไม่ว่าวงการภาพยนตร์จะก้าวหน้ามาไกลแค่ไหน Toosties ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของหนังตลกระดับคุณภาพที่แพ้หนังดราม่าคุณภาพ เพราะภาพความเป็นหนังตลกของตัวเองในเวทีออสการ์ แต่ไม่ว่าจะเป็นแค่พระรองในเวทีออสการ์หรือไม่!? Toosties ก็พิสูจน์ตัวเองผ่านสายตาผู้ชมทั่วโลก และต้องถูกยกให้เป็นหนึ่งในหนังโรแมนติก-คอมิดี้ เอาใจผู้ชมผู้ใหญ่ที่ดูสนุก และยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลแน่นอนค่ะ . . .

-ไม่มีดาวให้ เพราะไม่ใช่รีวิวนะคะ-

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

+Ost.Tootsie - It Might Be You - Stephen Bishop+
http://www.youtube.com/watch?v=TUJOnLOQVTY...player_embedded

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

+ในส่วนของ ตกผลึกความคิด จะพูดถึงแง่คิดดีๆ + ความประทับใจที่ได้จากหนังเรื่องนั้นค่ะ โดยจะเขียนลงสลับกับรีวิวค่ะ (เรื่องไหนน่าสนใจ จะนำมาเขียนเป็นตกผลึกค่ะ)

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

+ช่วยคอมเม้นต์ให้สักนิดนะคะ เพียงเพื่อ+

+ เป็นกำลังใจให้กับผู้เขียน เพราะห้องมันเงียบเหลือเกินนะ . . กลัวผีหลอกจ้ะ +

-ดูหนังให้สนุกนะคะ-

Edited by rbgel, 18 November 2009 - 05:46 PM.

[jaraba]

ขอบคุณมากครับ คุณตูน เรียบเรียงมาได้อ่านเพลิน ทุกครั้งเลยครับ