`

Jump to content





รีวิวหนัง Seven Swords - 7 กระบี่เทวดา


3 replies to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 11 January 2009 - 08:11 PM

Seven Swords - 7 กระบี่เทวดา


+หายหน้าหายตาไปหลายปี แล้วตามด้วยการกลับมาทำภาพยนตร์กำลังภายใน ที่สร้างจากนวนิยายเรื่องดังของเนี่ยอู้เช็ง "7 มือกระบี่แห่งเทียนซาน" ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นการกลับมาที่ได้น้ำได้เนื้อทีเดียวสำหรับ "ฉีเคอะ" โดยเฉพาะเมื่อดูจากเครดิตงานเก่าๆในอดีต ที่เห็นได้ชัดว่า เขามักจะไปได้สวยกับงานหนังกำลังภายใน หรือเรื่องราวที่ตัวละครนำ ต้องมาพร้อมกับชุดจีนโบราณ ไม่ว่าจะเป็น A Chinese Ghost Story (โปเยโปโลเย) , Zu : Warriors From The Magic Mountain (ซูซัน เทพยุทธเขามหัศจรรย์) , The Legend of Zu (ซูซัน ศึกเทพยุทธถล่มฟ้า) และหนังชุด Once Upan A Time In Chaina (หวงเฟยหง)


+หากที่สุดแล้ว ผลงานนับการกลับมา หลังจากหายหน้าไปนานของฉีเคอะ จะให้ผลลัพธ์ออกมาได้แค่ "เกือบดี" ก็ตาม และที่จุกจนพูดไม่ออกสำหรับคนดู ไม่ว่าจะเป็นแฟนหนังของฉีเคอะหรือไม่ก็ตาม ก็คือ ปัญหาที่ทำให้ Seven Swords ออกมาได้เพียงแค่นี้ ดันเป็นปัญหาเดียวกันกับหนังอลังการงานสร้าง เน้นขายฉากแอ็คชั่นเรื่องหนึ่ง ของพระเอกนักบู๊ชั้นยอดของเมืองไทย ในแบบที่ Seven Swords ขายฉากยุทธ์ และคิวบู๊ที่แปลกตา หนังไทยเรื่องที่ว่าก็ไม่ต่างกัน นั่นก็คือเรื่องของ "การเล่าเรื่อง" หรือว่า "บทภาพยนตร์" นั่นเอง . . .

+ที่ต่างออกไปก็คือ ในส่วนรายละเอียดของปัญหา ขณะที่หนังอย่างต้มยำกุ้ง หนังมีเนื้อน้อยเกินไป จนกลายเป็นหนังรวมไฮไลต์ฉากแอ็คชั่นที่มีเนื้อหาเละเป็นโจ๊กร้อนๆ และแย่ในระดับที่ร้อยกันติดไม่ได้ ซึ่งก็รวมถึงความน่าเชื่อถือของเหตุการณ์ และการกระทำของตัวละคร ซึ่ง "บท" ที่ว่าก็ยังให้มาไม่ได้อีกต่างหาก . . .


+แต่กับ Seven Swords การณ์กลับกลายเป็นว่า หนังมาพร้อมกับความเทอะทะใหญ่โต ทั้งในส่วนของเนื้อหา ในส่วนของฉากอลังการ ในแบบที่ว่ามีเรื่องราวมากมายให้อยากเล่า มีอะไรมากมายที่อยากให้ดู หากแต่ว่า . . มันมากเกินกว่าจะเล่าจบในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง . . ซึ่งจากที่เห็น รู้สึกได้ทันทีเลยว่าหนังเรื่องนี้ จริงๆแล้วน่าจะเสร็จจบสมบูรณ์ด้วยความยาวที่มากกว่า 2 ชั่วโมงอยู่ไม่ใช่น้อย ก่อนจะถูกตัด ถูกเหลา ถูกเกลา ถูกกลึง เล็มนั่น ตัดนี่หน่อย ด้วยเหตุผลในการฉาย จนทำให้เรื่องที่ถูกเล่าเป็นภาพนั้นมีแต่รอยสะดุด และขาดความเชื่อมโยงที่ลงตัวไปซะหมด . . ไหนจะสิ่งที่ "ควร" จะเป็น ในหลายๆช่วงของหนัง ที่โดดไป โดดมา เต็มไปด้วยร่องรอยขรุขระ ในแบบพยายามปะติดเต็มไปหมด เพื่อให้หนังออกมาครบทั้งเรื่องที่อยากเล่า และสิ่งที่ต้องการนำเสนอ ภายในเวลาจำกัดจำเขี่ย ซึ่งแม้จะพยายามสรุปออกมาเป็นเรื่องราวคร่าวๆได้ว่า . . นี่คือ . .

+เรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคราชวงศ์ชิง ที่ฮ่องเต้มีคำสั่งให้กำจัดจอมยุทธ์ทั่วทั้งแผ่นดิน เพื่อไม่ให้มาเป็นเสี้ยนหนามต่อราชบัลลังก์ โดยมอบหมายให้พวกนักล่าค่าหัวภายใต้การนำของ "วายุไฟ" ทำการนี้ไป ซึ่งทุกอย่างก็ดำเนินไปได้ด้วยดี จนกระทั่งมาถึงหมู่บ้านจอมยุทธ์ กองทัพของกลุ่มนักล่าค่าหัวจึงได้พบกับการต่อต้าน และทำให้ทัพหน้าของกองกำลังถึงกับพ่ายแพ้ ด้วยฝีมือของมือกระบี่เพียงแค่ 7 คน ที่หนึ่งคือ "จอมยุทธ์นิรนาม" ที่มักจะปรากฎตัวออกมาขโมยป้ายชื่อผู้เสียชีวิต ซึ่งจะใช้นำไปขึ้นเงินค่าจ้างกับทางการของพวกนักล่าค่าหัว . . สองคือคู่หนุ่ม-สาวจากหมู่บ้านจอมยุทธ์ "ฮั่น และฟู่" ที่เป็นผู้พาจอมยุทธ์นิรนามในสภาพบาดเจ็บสาหัส และเป็นผู้ต้องหาในสิ่งที่เคยทำในอดีต หนีออกจากหมู่บ้านก่อนที่จะถูกตัดสินโทษประหาร ซึ่งจอมยุทธ์นิรนามได้ขอร้องให้ทั้งคู่ พาเขาไปยังเขาเทียนซาน เพื่อขอกำลังมาช่วย . . ซึ่งนอกจากจะได้สุดยอดมือกระบี่ ที่มีความต่างทั้งอาวุธคู่กาย และอุปนิสัยใจคออีก 4 คน มาช่วยรับมือกับทัพของวายุไฟแล้ว ทั้งอาฟู่ และอาฮั่น ต่างก็ได้รับกระบี่ชั้นยอด และยังกลายเป็นศิษย์ของปรมาจารย์กระบี่แห่งผู้เขาเทียนซานอีกด้วย . . .


+หลังจากที่ไล่กองทัพของวายุไฟออกจากหมู่บ้านแล้ว ทั้ง 7 คนยังตามไปสำทับ ด้วยการถล่มหน้าด่านของวายุไฟจนเละเทะ ก่อนที่จะพาชาวหมู่บ้านจอมยุทธ์อพยพออกไปหาที่ปักหลักใหม่ที่ปลอดภัยยิ่งกว่า ซึ่งวายุไฟเองก็ส่งกองทัพตามมาจัดการอย่างไม่ลดละ . . ในขณะเดียวกัน ในหมู่ชาวบ้านเองก็กำลังมีหน่อนบ่อนไส้ ที่ลักลอบแอบบอกเส้นทาง การเดินทางของพวกเขาให้วายุไฟรับรู้เช่นกัน . . รวมไปจนถึงเรื่องราวความรักของมือกระบี่ ผู้มีวิทยายุทธ์สูงส่งที่สุดในกลุ่มอย่าง "ฉู่จ้าวหนาน" เจ้าของกระบี่มังกร กับนางบำเรอโฉมสะคราญชาวเกาหลีของวายุไฟชาว ที่ทำให้เขา และพวกพ้องตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน อันเป็นที่มาของฉากการต่อสู้ครั้งใหญ่ และไคลแม็กซ์สุดระทึกใจในตอนท้าย . . .


+ดูกันเพียงเท่านี้ ก็ไม่น่าจะรู้สึกว่า Seven Swords มีปัญหาอะไรที่ว่าไว้ในข้างต้น เรื่องราวก็ดูชัดเจน และน่าจะมีที่มาที่ไปในแบบที่น่าเชื่อถือ แต่ . . ด้วยความที่หนังพยายามเล่าเรื่องไปพร้อมๆกับการนำเสนอฉากแอ็คชั่น ที่มีทั้งใหญ่ๆ หรือไม่ก็ยาวๆ หรือเอามันทั้ง 2 อย่างอยู่ตลอดเวลา ก็ทำให้ "เวลา" สำหรับการปูปูมหลังของตัวละคร รวมทั้งความเป็นมาเป็นไปของเนื้อหา ถูกเล็ม ขลิบหายไปจนหมด โดยเฉพาะในช่วงต้นๆ ที่หนังพยายามเล่าเรื่องราวอย่างรวบรัด ก่อนที่จะกระโดดไปแบบสุดๆ เมื่อฮั่น และฟู่ พาจอมยุทธ์นิรนามไปเขาเทียนซาน ที่จู่ๆทั้งคู่ก็ถูกสั่งให้ออกไปตามหาอุกกาบาต ก่อนจะพลัดตกเขาไป แล้วไปๆมาๆ ก็กลายเป็นถูกสั่งให้ออกไปเอากระบี่ และตบท้ายด้วยการเป็นศิษย์ของอาจารย์แห่งเขาเทียนซานซะอย่างนั้น (!?) เช่นเดียวกับคำสั่งของอาจารย์ ที่มอบหมายให้บรรดายอดมือกระบี่ออกเดินทางมาช่วยหมู่บ้านจอมยุทธ์ เรื่องราวในช่วงนี้ของหนัง เข้าขั้นสับสนอลหม่าน จับต้นชนปลายไม่ถูก ในระดับที่ทำให้คนดูกลายเป็นคนเกาหลี ที่ชื่อ "มึน อึน งง" ได้สบายๆ (^ ^)


+ในขณะเดียวกัน กับการขาดแคลนปูมหลังของตัวละครต่างๆ หรือที่มาที่ไป ยังส่งผลเสียให้คนดูไม่รู้สึกผูกพันกับตัวละครตัวใดในเรื่องเลยแม้แต่น้อย เช่นเดียวกับที่ไม่รู้สึกอะไรกับความรักที่ "จ้าวหนาน" มีให้กับนางบำเรอของวายุไฟที่ชื่อ "มุกมรกต" ทั้งๆที่หนังน่าจะสร้างความสะเทือนใจในส่วนนี้ได้ดีกว่าที่เห็น ซึ่งก็ต้องรวมไปถึงชะตากรรมร้ายๆที่ "ฟาง" สาวคนรักของฮั่นต้องเจอ . . ซึ่งแน่นอนว่าฉีเคอะ ไม่สามารถสร้างอารมณ์ร่วมกัน ระหว่างผู้ชมกับตัวหนังได้เลยแม้แต่น้อย . .

+และนั่นก็ส่งให้ฉาก "พยายาม" สร้างความประทับใจ ที่เป็นการเล่าถึงปูมหลังของจอมยุทธ์แต่ละคนเพียง "สั้นๆ" ในช่วงที่ทั้งหมดเดินทางกลับไปที่ด่านของวายุไฟอีกครั้งเพื่อช่วยจ้าวหนาน กลายเป็นฉากที่เปิดรอยโหว่ของหนังในเรื่องของความอ่อนด้อย ในการทิ่มแทงความรู้สึกของคนดูให้ชัดขึ้นไปอีก . . เพราะมากันถึงตอนนี้ หากไม่ใส่มายังอาจจะดูดีซะกว่าด้วยซ้ำ อย่างน้อยๆ ก็น่าจะทำให้ประหยัดเวลา และหนังรัดกุมขึ้นอีกโข . . แต่ก็ยังดี ที่ฉีเคอะยังเอา "อยู่" ในส่วนของคิวบู๊ และบรรยากาศโดยรวมของหนัง หรืออาจจะรวมถึงแง่คิดประเด็นเกี่ยวกับ "คุณธรรมของผู้กล้า" ซึ่งเป็นประเด็นที่แข็งแรงในแบบหนังจีนกำลังภายในยุคโบราณก็ยังได้ ที่มีตัวเอกเป็นฮีโร่ในแบบโรแมนติกเต็มที่ ถึงอาจจะดูไม่ดี แต่ก็ยัง "เท่" ได้ใจ . .


+กับฉากแอ็คชั่น และคิวบู๊ที่มี Seven Swords ทำได้ "ถึง" ดู "จริง" และ "สุดยอด" ตรงนี้ต้องขอคารวะ โดยเฉพาะฉากดวลกระบี่ในทางเดินแคบๆ ของวายุไฟ กับจ้าวหนาน ที่น่าจะกลายเป็นฉากคลาสสิคได้ไม่ต่างไปจากฉากการต่อสู้บนชั้นไม้ไผ่ของ Once Upon A Time In China II . . อีกทั้งแบบดีไซน์กระบี่ของจอมยุทธ์แต่ละคน หรือแม้แต่อาวุธคู่ใจของนายกองทัพวายุไฟ ที่ดูแปลกตา ทั้งรูปลักษณ์ และการใช้งาน ซึ่งกับงานในส่วนนี้ค่อนข้างโดดเด่น คล้ายๆกับบุคลิกลักษณะของตัวละครแต่ละตัว ที่ออกมาเท่ และมีความน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่ม 4 มือกระบี่ หรือว่ากลุ่มยอดฝีมือหัวแถวของวายุไฟก็ตาม . . .


+กับโทนบรรยากาศที่ค่อนข้างดิบที่ฉีเคอะนำเสนอ ช่วยขับเน้นความเป็นเรียลลิสติกในแบบเดียวกับที่เห็นกันมาใน The Balde (เดชไอ้ด้วน แขนหลุดไม่หลุดแค้น) หรือ Musa และช่วยสร้างความจริงจังให้กับเนื้อหาของหนังได้เป็นอย่างดี แม้โดยรวมๆ เมื่อบวกไปกับการเล่าเรื่อง Seven Swords ค่อนข้างจะอัดคนดูด้วยความมึนงงอยู่ตลอดเวลา จนน่าจะมีอะไรมาผ่อนบ้างก็ตามที . . และที่ลืมไม่ได้เลยก็คืองานดนประกอบของหนัง ที่ประพันธ์โดย "เคนจิ คาวาอิ" ที่ช่วยให้เรื่องไม่แข็งกระด้าง หรือว่าแห้งแล้งความรู้สึกเกินไปในหลายๆช่วง . . .


+จากเท่าที่เห็น ถึงแม้จะพอมีข้อแก้ต่างให้ได้บ้าง กับหนังที่ว่ากันว่ายังมีฉบับสมบูรณ์ ความยาว 4 ชั่วโมงให้ได้ชมกันในเวอร์ชั่น DVD แต่ก็ถือเอาเป็นข้ออ้างไม่ได้ว่าการที่ต้องตัดหนังทิ้งไปเป็นชั่วโมงๆ และทำให้หนังขาดๆเกินๆจากหลายๆส่วนที่จะช่วยเติมเต็มให้กับการเล่าเรื่องไป เพราะหากจะว่าไปแล้ว กับภาพยนตร์ที่ดีนั้น การเล่าเรื่องของหนัง ไม่ว่าจะหนึ่ง หรือสอง หรือยาวไปจนถึงสามชั่วโมงก็ตามที ไม่ว่าจะใช้เวลาในการฉายขนาดไหน มันก็ต้องมีความลงตัว และมีความสมบูรณ์อยู่ในตัวของมันเอง ไม่ใช่ว่ายิ่งเวลายิ่งน้อย เรื่องราวที่อยากเล่าก็ยิ่งกระพร่องกระแพร่ง ติดขัด รวบรัดไปหมดจนดูแทบไม่รู้เรื่องเลยซะอย่างนั้น . . .

+ที่สุดแล้วอย่างน้อย Seven Swords ก็ยังทำให้ระลึกถึงหนังกำลังภายในยุคเก่าๆ ที่คิวบู๊เน้นความดิบ ดุดัน รวดเร็ว สมจริงสมจัง และความสามารถของนักแสดง มากกว่าจะเน้นความสวยงามของฉาก หรือความเป็นศิลปะ เหมือนหนังจีนกำลังภายในบางเรื่องในช่วงหลังๆมาด้วยซ้ำ . . อาจไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบของฉีเคอะ แต่คอหนังกำลังภายในทั้งหลายก็ไม่ควรพลาดค่ะ!!

+ให้ 2 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) yoyo_55.gif yoyo_55.gif

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/mt_picture.php?movie_id=560 ค่ะ


QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ yoyo_55.gifเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 19 November 2009 - 12:27 PM.


#2 mitsurugi

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 1

  • Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPip
  • 777 posts
  • Interests:katana

Posted 12 January 2009 - 01:47 PM

ผมเริ่มล่ะกัน
ความรู้สึกแรกที่ได้ดูก็ โอ หนังของฉีเคอะเหรอ ว๊าวว (ผมเป็นแฟนหนังกำลังภายใน แต่ต้องของ จางเชอะเท่านั้น)

เอาสิ่งที่ไม่ชอบน่ะครับ
1.ตัวเอก(แก่ไปหน่อย )ความมีมิติก็ไม่มี ดูเอาเพลินๆ (เหมือนดู อภินิหารโป๊ยเซียนมากกว่า)
2.ตัวร้าย แมร่งโรคจิตทำอะไรไร้เหตุผลมากเกินจำเป็น
3.การวางเรื่องราว ถ้าคุณเป็นแฟน Onimusha2 คุณจะรู้ว่า เนื้อหาบางตอน เครื่องแต่งตัวบางชิ้น ลอกแบบมาจากเกมนี้ ชัดๆ เซ๊งเป็ด
เอาแค่หอมปากหอมคอดีกว่าน่ะครับ เรื่องที่ไม่ชอบยังมีอีกเยอะ

สิ่งที่ชอบ
1.นางเอกสวย (บอกว่าเป็นเกาหลี)จริงป่าวไม่รู้
2.คิวบู๊ ก็สนุกดี มีไม่กี่ช่วง
3.ผมว่าบท ภาพยนต์อ่อนน่ะครับ ผิดฟอร์มมากจริงๆ ก็ผิดฟอร์มมาตั้งแต่ เทพยุทธ์ซูซันแล้ว ยิงลำแสงกัน บ้าบอ ที่ดีก็ โปเยอ่ะ ในใจผมเลย(ผมชอบหวังจู่เสียน)
ภาวนาว่า อย่ามีภาคต่อเลย ครับ มันเริ่มเหม็นหืนอ่อนๆ แล้วบทอ่ะครับ อ่ะเห็นแก่ Rbgel ให้ไป 2 ดาว พอนั่งหลับได้ บ้าง ac0d5cff.gif

#3 The Fool

    LaW GaRDeN

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 5362 posts
  • Gender:Male

Posted 16 January 2009 - 09:06 PM

ผมให้ดาวเดียวเลย ห่วยสุดๆ

#4 RONAN321

    ให้มากกว่าที่ผู้อื่นคาดหวัง...และให้ด้วยความเต็มใจเสมอ

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 14002 posts
  • Gender:Male

Posted 17 January 2009 - 11:16 AM

ให้ดาวกันน้อยจัง ว่าจะหามาดูซักหน่อย...ว้า yoyo_73.gif