`

Jump to content





รีวิวหนัง Wall-E - วอลล์-อี หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย


4 replies to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 15 December 2008 - 10:09 PM

Wall-E - วอลล์-อี หุ่นจิ๋วหัวใจเกินร้อย


+พิกซาร์ยังคงเป็นเดี่ยวมือวางอันดับหนึ่งเสมอ สำหรับวงการหนังอะนิเมชั่น 3 มิติที่สร้างจากความพิวเตอร์ และเมื่อมองที่ Wall-E หนังการ์ตูนอารมณ์ดีเรื่องใหม่ ที่เล่นประเด็นอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยผลกระทบจากขยะ และแฝงมาพร้อมกับเรื่องราวความรักของหุ่นยนต์แล้ว มองย้อนกลับไปถึงผลงานที่ผ่านๆมา ยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่า นอกจากเทคนิคในงานสร้างจะพัฒนาขึ้นตามกาลเวลาแล้ว กับเนื้อหาของหนังก็ต้องบอกว่า พิกซาร์ "เขี้ยว" และ "เข้ม" ขึ้นกว่าเดิมในทุกๆครั้งเช่นกัน . . .


+บทหนังของแอนดรูว์ สแตนตัน และจิม เรียร์ดอนเปิดเรื่องได้อย่างน่าสนใจ เมื่อโลกตกอยู่ในภาวะหายนะ เหล่ามนุษยชาติจึงพากันอพยพไปอยู่นอกโลกกันหมด ทิ้งไว้แต่เพียง "Wall-E" หุ่นยนต์กำจัดขยะ ที่มีชื่อเต็มยาวเหยียดว่า Waste Allocation Load Lifter Warth-Class ทำหน้าที่เก็บขยะอยู่บนโลกตัวเดียวเพียงลำพัง โดยเจ้าหุ่นน้อย Wall-E ผู้น่าสงสารมีเพียงแมลงสาบตัวเล็กๆเท่านั้นที่เป็นเพื่อน . .

+แต่แล้ววันหนึ่ง ยานอวกาศลึกลับก็ส่งหุ่นยนต์สีขาวไฮเทคอย่าง "Eve" ที่มีชื่อเต็มยาวพอๆกันว่า Extra-terrestrial Vegetation Evaluator ลงมายังโลก เพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่แมลงสาบ (!?) . . หลังจากผ่านท่าทีแสนดุดันเกรี้ยวกราด อีฟก็เริ่มตอบรับไมตรีจากวอลล์-อี จากที่อยู่ตัวลำพังมานาน วันนี้วอลล์-อีก็มีเพื่อนกับเขาในที่สุดจนได้ และเป็นเหมือนกับที่เห็นกันมาในหนังตัวอย่าง วอลล์-อีตกหลุมรักอีฟเข้าให้แล้ว!!


+หลังจากสานสัมพันธ์ จนก่อกำเนิดเป็นความรัก อีฟก็ได้รับของขวัญชิ้นพิเศษจากวอลล์-อี และของขวัญชิ้นนั้นก็คือสิ่งที่อีฟได้รับมอบหมายให้มาค้นหา และร่างกายของเธอหยุดทำงาน ตรงนี้เองคือจุดพลิกผัน เพราะก่อนที่ยานอวกาศจะกลับมารับเธอ วอลล์-อีตัดสินใจจากโลกด้วยการเกาะยานตามไป และได้พบว่าสิ่งที่อยู่ในยานอวกาศเหล่านี้ก็คือเหล่ามนุษยชาติรูปร่างตุ๊ต๊ะบ๊ะหลาม ที่ดูจะไม่รู้จักเลยว่า "บ้าน" ที่แท้จริงของพวกเขานั้น ก็คือโลก หาใช่ที่ๆพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในขณะนี้ไม่!? . . และกับพืชต้นเล็กๆ ที่อีฟนำมา ก็ก่อให้เกิดเหตุการณ์สำคัญที่มีผลต่อทุกคนบนยานลำนี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีชีวิต หรือไม่มีชีวิตก็ตาม และทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล!!


+เพียงแค่เริ่มต้นเรื่องราวได้ไม่นาน พิกซาร์ก็เผยแบ็คกราวน์ของเรื่องราวได้อย่างชัดเจน และสร้างตัวละครให้เข้าไปอยู่ในหัวใจของผู้ชมได้สำเร็จ คงจะมีเพียงไม่กี่คน ที่ไม่ "เหงา" ไปกับหุ่นกระป๋องตัวเล็กๆ ที่อยู่ผู้เดียวลำพังบนโลก โดยมีแมลงสาบตัวจ้อยเป็นเพื่อนข้างกาย ที่ทั้งน่าเป็นห่วงและต้องลุ้นระแวดระวังไปกับภาพการทำงานของหุ่นตัวน้อยๆ ที่แม้จะเห็นแค่ครั้งแรก แต่ก็สัมผัสได้ทันทีว่า นี่คือภารกิจที่แสนน่าเบื่อ ซ้ำซาก กินเวลายาวนาน และไม่มีวันจบสิ้น!!

+ตรงนี้ถือว่าหนังเล่าเรื่องได้อย่างมีชั้นเชิง และมีเสน่ห์โดนใจคนดูอย่างยิ่ง . . เพราะภาพกิจวัตรประจำวันของวอลล์-อีที่หนังนำเสนอ ล้วนตกอยู่ในภาวะเดียวกับวิล สมิธจาก I Am Legend ผู้อยู่โดดเดี่ยวลำพังท่ามกลางเมืองนิวยอร์กที่ถูกทิ้งให้รกร้าง และเต็มเกลื่อนไปด้วยขยะ!! วอลล์-อีขยันปฏิบัติทำหน้าที่เก็บขยะอย่างต่อเนื่องมากว่า 800 ปี และที่รอดมาได้ก็เพราะถูกออกแบบมาให้ซ่อมแซมตัวเองได้ และเรียนรู้ที่จะจัดการกับความเหงาเยียวยาตัวเองด้วยการ หาสะสมของเก่า และดูหนังเก่าๆ . . .

+แค่ไม่กี่วินาทีที่ได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับวอลล์-อี รวมทั้งได้เห็นสิ่งต่างๆที่หุ่นยนต์ตัวนี้ทำ โดยเฉพาะกับการนั่งชมภาพหนังจากเพลง Hello Dolly ก็สามารถทำให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วมไปกับความอ้างว้างโดดเดี่ยวของมัน ผู้เป็นหุ่นยนต์ตัวสุดท้ายบนโลก และร่วมอินไปกับอาการรักแรกพบของวอลล์-อี ทันทีที่ได้เห็นอีฟ!!


+เช่นเดียวกับหนังโรแมนติก-คอมิดี้ทั้งหลาย ในกลุ่มเดียวกับดอกฟ้าและหมาวัด . . เมื่อสองตัวละครที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว อีฟ-เป็นหุ่นรุ่นใหม่สุดไฮเทค ดูดี และมีสไตล์ ส่วนวอลล์-อี เป็นหุ่นยนต์รุ่นโบราณ ดีไซน์ปุปะ คร่ำครึ แต่ในฐานะที่เป็นหุ่นยนต์เหมือนกัน และถือเป็นเสน่ห์ของทั้งคู่ ก็คือความไร้เดียงสา และพฤติกรรมอยากรู้อยากเห็นแบบเด็กๆที่ชวนให้เอ็นดู ซึ่งทำให้ผู้ชมเราอินได้ไม่ยากไปกับความรักของพวกมัน . .

+ถือเป็นความสำเร็จที่น่ายกย่องสำหรับการดึงให้คนดู "รัก" ตัวละครในหนัง และร่วม "เห็นใจ" ไปกับชะตากรรมที่เกิดขึ้นกับพวกมันได้ ทั้งๆที่มีเวลาเพียงไม่กี่น่ที และที่ยิ่งต้องให้ความดีความชอบเพิ่มเข้าไปอีกเมื่อหนังสานต่อสิ่งที่เริ่มต้นได้
อย่างลงตัว และกลมกลืน โดยเฉพาะการสามารถสร้างเรื่องราวสุดโรแมนติกให้กับตัวละครที่เป็นหุ่นยนต์ 2 ตัวได้สำเร็จและน่าเชื่อถือ หรือไม่ก็ทำให้คนดูลืมไปเลย ว่านี่คือ "หุ่นยนต์"!!!


+แต่วอลล์-อียังมีอะไรมากไปกว่านั้น หนังพาคนดูไปพบกับเรื่องราวที่น่าตะลึงเกี่ยวกับชีวิตในโลกอนาคต และตอกย้ำความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก วอลล์-อีและอีฟในอารมณ์โรแมนติกอย่างได้ใจผู้ชม ในขณะเดียวกันก็มีความสนุกในแบบหนังแอ็คชั่นเติมเข้ามาเป็นสีสัน โดยที่ไม่หย่อนขาดอารมณ์ขันน่ารักๆที่ถูกหยอดใส่ลงมาอย่างถูกจังหวะจะโคนและลงตัว จนกลายเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของหนัง . . .

+ถือว่าแอนดรูว์ สแตนตันทำ Wall-E ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และไม่ได้มีเพียงเรื่องราวเฉพาะของตัวบุคคลที่เป็นเรื่องราวของความรัก ที่เป็นเรื่องโรแมนติกระหว่างหุ่นยนต์ 2 ยุค 2 สมัยได้อย่างอิ่มใจเท่านั้น หากยังเสียดสีพฤติกรรมของมนุษย์ในแบบบริโภคนิยมได้อย่างถึงใจอีกด้วย บรรดาภาพชีวิตของคนบนยาน ที่หลบหนีปัญหาสภาวะแวดล้อมเป็นพิษมาจากโลก วิถีชีวิตอันสะดวกสบายในยานอวกาศหรูเลิศ และมีเหล่าหุ่นยนต์ในบริการติดต่อสื่อสารกันผ่านระบบอินเตอร์เน็ตสามมิติ ส่งผลให้มนุษย์มีรูปร่างอ้วนฉุ อุดมไปด้วยไขมันเหมือนลูกฟัก จะลุกจะเดินจะเหินก็ลำบากไปพร้อมๆกัน . . .


+ภาพของเหล่ามนุษย์บนยาน นอกจากจะเสียดสีปัญหาโรคอ้วนที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมอเมริกันแล้ว ภาพการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ตสามมิติ ยังจิกกัดพฤติกรรมการสื่อสารของมนุษย์ในยุคไอที ที่มีปฏิสัมพันธ์กันผ่านการติดต่อสื่อสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้อย่างเจ็บแสบ . . รวมไปจนถึงการเสียดสีกลยุทธ์การตลาด กระบวนการล้างสมองมนุษย์ผ่านการโฆษณา และการโฆษณาชวนเชื่อที่แทรกซึมเข้าไปในระบบการเรียนการสอนกันตั้งแต่ชั้นอนุบาล ขนาดการเรียนภาษา ตัวอักษรที่เป็นตัวย่อของบริษัทท่องเที่ยว ยังถูกนำไปโยงเข้ากับสโลแกนของบริษัทได้อย่างแนบเนียน . . .

+และที่ถือว่าเย้ยหยันแดกดันได้จี๊ดอารมณ์เอามากๆ ก็คือ การที่ตัวละครมนุษย์ล้วนทำทุกอย่างตามที่ถูกโปรแกรมเอาไว้ และมีความเป็น "หุ่นยนต์" มากกว่าหุ่นยนต์แท้ๆของจริง ที่ยังดูมีอารมณ์ มีชีวิตชีวา มีความรู้สึกนึกคิด และมีความเป็น "มนุษย์" มากกว่าตัวมนุษย์เองจริงๆในเรื่องอย่างเห็นได้ชัดซะอีก . . ขณะเดียวกัน ในช่วงท้ายของหนัง ก็ยังหยิบเอาประเด็นผลร้ายจากการตั้งโปรแกรมให้กับหุ่นยนต์ ให้ทำงานโดยอัตโนมัติมานำเสนอ ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยเห็นๆกันมาบ้างแล้วในหนังอย่าง Alien ที่ไม่รู้ว่าเป็นการจงใจของทีมงาม หรือเป็นความบังเอิญ กับการให้
ซิกอร์นีย์ วีเวอร์มาพากย์เสียงหุ่นยนต์ผู้ทำหน้าที่ควบคุมยานแอ็คเซี่ยม เพราะทำให้รู้สึกถึงนัยเสียดสีอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความที่ครั้งหนึ่ง ตัวละครริปลีย์ที่เธอเล่นไว้ใน Alien ก็ต้องเผชิญหน้ากับหุ่นแอนดรอยด์ตัวร้ายที่ถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้เช่นกัน . . .


+ลูกเล่นอีกอย่างที่หนังทำได้น่ารักมากก็คือ การนำเอาภาพจากหนังฮอลลีวู้ดคลาสสิคของจริง มาผสมกับงานการ์ตูนคอมพิวเตอร์ได้อย่างแนบเนียน และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสื่ออารมณ์เหงา และอารมณ์รักของวอลล์-อี ก็คือหนังเพลงคลาสสิคอย่าง Hell Dolly . . ส่วนการเฉลยว่าอะไรเกิดขึ้นกับโลก นำเสนอด้วยภาพจากคลิปลับสุดยอด และภาพเจ้าของกิจการยานสำราญท่องอวกาศ ผู้มีวาระซ่อนเร้นที่อพยพมนุษย์ออกจากโลกที่ถูกทำร้ายด้วยน้ำมือของมนุษย์เอง เป็นภาพที่ทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในรูปร่างของมนุษย์ในช่วงเวลา 800 ปีได้อย่างมีชั้นเชิง . . .


+และจุดเด่นอีกอย่างที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ การเล่าเรื่องด้วยเทคนิคสมัยเมื่อแรกมีภาพยนตร์ ที่ย้อนกลับไปสู่ยุคหนังเงียบ ด้วยเงื่อนไขที่ว่าหุ่นยนต์ไม่จำเป็นจะต้องพูด อารมณ์ของสองตัวละครหลัก และผองเพื่อนหุ่นยนต์ในกลุ่มหุ่นทำงาน ก็เลยต้องสื่อสารผ่านภาษากาย ออกท่าออกทาง ผ่านการออกแบบเสียงของเบ็น เบิร์ตต์ ที่ช่วยเสริมให้เจ้าหุ่นทั้งหลายมีมิติทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในตัวละครที่ได้ใจผู้ชม และขยันขโมยซีนได้ทุกฉากที่ปรากฎตัว ก็คือเจ้าหุ่น "โม" หุ่นยนต์ทำความสะอาด ที่คอยตามล้างตามเช็ดสารปนเปื้อนที่วอลล์-อีทำทิ้งไว้นั่นเอง!!!


+กับเรื่องของสภาพแวดล้อม การอนุรักษ์ธรรมชาติ และปลุกสำนึกให้รักในบ้านเกิด ที่ใส่เข้ามาใน Wall-E นั้น ก็ไม่รู้สึกเหมือนถูกยัดเยียดเหมือนที่เคยเป็นกับ Happy Feet ทั้งๆที่ต่างก็เป็นประเด็นที่หนังวางไว้เป็นพื้นหลังของเรื่องราวทั้งหมดเหมือนกัน แม้อาจจะโดนเรื่องราวฉากหน้าอย่างเรื่องโรแมนติกของวอลล์-อี และอีฟ หรืออย่างเรื่องการขบถบนยานแอ็คเซี่ยมดึงความสนใจไป แต่ประเด็นเรื่องของสภาพแวดล้อม และการอนุรักษ์ธรรมชาติ ก็เผยให้เห็นกันมาตลอดตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องมาจนถึงแากปิดเรื่อง แต่ต่อให้มองไม่เห็นประเด็นที่ว่า อย่างน้อยก็น่าจะรู้สึกได้ถึงความสำคัญของ "โลก" ที่ซึ่งหนังเน้นย้ำว่าคือ "บ้าน" อยู่เสมอมา . . .


+แม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง กับเหตุการณ์ไล่ล่าในบางฉาก หรือกับบางสถานการณ์ที่ออกจะดูยาวไปนิดสำหรับบางคน และกับบทสรุปที่ค่อนข้างง่าย หรือรวบรัดไปนิดของวอลล์-อี และอีฟ แต่ก็เป็นเพียงรอยตำหนิเล็กๆ และดูเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับสิ่งที่หนังนำเสนอมาตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเนื้อหา หรือว่าสไตล์ในการเล่าเรื่อง ตลอดจนเทคนิคในการสร้างก็ตาม . . Wall-E ก็คือตัวอย่างที่ดี ของงานที่บอกถึงคุณค่าด้านสว่างของการใช้ชีวิต ที่แม้จะอยู่เพียงลำพัง แต่ก็ยังสร้างความรื่นรมย์ให้กับชีวิตได้ ขอเพียงแค่ศรัทธา และไม่สิ้นหวังค่ะ!!!

+ให้ 3 ดาวครึ่งค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) yoyo_55.gif yoyo_55.gif

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/?movie_id=1556 ค่ะ


QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ yoyo_55.gifเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 19 November 2009 - 01:02 PM.


#2 black0

    นักเล่นเกมฝึกหัดระดับ 3

  • High Members
  • PipPipPipPip
  • 146 posts
  • Gender:Male

Posted 16 December 2008 - 11:45 AM

เรื่องนี้ดู แล้วสนุกมากๆๆๆ เลยครับ ตลกดีด้วย

ผมให้ 10/10 เลย สนุกจิงๆ baa60776.gif

#3 mitsurugi

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 1

  • Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPip
  • 777 posts
  • Interests:katana

Posted 25 December 2008 - 12:21 PM

คนชอบการตูนนี่เป็นคน จิตใจดีน่ะครับ ว่าจะถาม ปรกติ shop หนังที่ไหนเหรอคับ ผมชอบไป แม่สาย (เชียงราย ) เพราะนอกจากหนังแล้วยังมี ของน่ารักๆ (เราไม่พูดถึง คุณภาพน่ะ) ของเล่นก็เยอะ แต่อย่างอื่นไม่ค่อยดี (พวกแขกนิสัยไม่ดีมีเยอะ)

แล้วในสต๊อค มี บลูเรย์เยอะไม๊ ครับ เคยได้ยินว่ามี The Terminator 2 ด้วย ภาพนี่ระดับ 1080 p หรือ 1080i ครับ บอกทีดิครับ yoyo_18.gif

#4 Sora-K

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 3

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1359 posts

Posted 01 January 2009 - 05:54 PM

เรื่องนี้ผมว่าสร้างสรรค์ดีครับ

#5 momo

    เซียนเกม

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4742 posts
  • Gender:Male
  • Location:Nonthaburi Province

Posted 18 December 2010 - 02:53 PM

เธชเธ™เธธเธเธกเธฒเธเน†เน†เน† เนƒเธซเน‰ 10/10 เน€เธขเธตเนˆเธขเธก :cat_dance: