`

Jump to content





รีวิวหนัง The Mummy : Tomb of the Dragon Emperor


2 replies to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 12 December 2008 - 05:52 PM

The Mummy : Tomb of the Dragon Emperor

-เดอะ มัมมี่ 3 : คืนชีพจักรพรรดิมังกร-


+หลังจากเอาใจผู้ชมและครอบครัว ไปกับหนังผจญภัย-แฟนตาซี พาเที่ยวสะดือโลกอย่าง Journey to the Center of the Earth ไปเมื่อกลางซัมเมอร์แล้ว เบรเแดน เฟรเซอร์กลับมาใหม่พร้อมกับ The Mummy ผลงานสร้างชื่อในฐานะพระเอกหนังแฟนตาซี-ผจญภัยที่ฮิตสุดขีดเมื่อทศวรรษที่แล้วทันที และเป็นเช่นเดียวกับงานสองภาคก่อนหน้า ที่อย่างไรเสียก็ต้องกลับมาประมือกับมัมมี่พันปีอีกหนอย่างเลี่ยงไม่ได้ หากแต่คราวนี้ข้ามฟากจากอาณาจักรอียิปต์มาเป็นซีอานแทน . . .


+Tomb of the Dragon Emperor หรือ "คืนชีพจักรพรรดิมังกร" ภาคสามของหนังชุด The Mummy เปิดเรื่องด้วยการนำผู้ชมย้อนเวลากลับไปสู่อาณาจักรจีนเมื่อสองพันปีก่อน หนังอ้างถึงตำนานจักรพรรดิจีน ผู้สร้างกำแพงเมืองจีนพระองค์หนึ่ง ผู้ปรารถนาจะมีชีวิตอมตะ ไร้เทียมทาน แต่เพราะตระบัดสัตย์ พระองค์จึงถูกสาปให้กลายเป็นมัมมี่ดินเผาไปตลอดกาล ส่วนขุนศึกชาตินักรบหนึ่งหมื่นนายของพระองค์ก็พลัดติดร่างแห พลอยถูกสาปจนกลายเป็นหุ่นสลักปั้นดินเผาตามผู้เป็นนายไปด้วย และถูกเก็บรักษาไว้ในสุสานกษัตริย์แห่งเมืองซีอานตลอดชั่วกาลนาน . . .


+หนังตัดกลับมาที่ครอบครัวโอคอนเนลล์ในปี 1946 . . สิบปีให้หลังจากการเผชิญหน้ากับมัมมี่อิมโฮเทปครั้งที่แล้ว บัดนี้หนูน้อย "อเล็กซ์" ลูกชายเติบโตเป็นหนุ่มใสวัย 21 และเดินตามรอยของผู้เป็นพ่อแม่ ด้วยการเป็นนักศึกษาโบราณคดี แต่กลับแอบหนีพ่อและแม่ไปขุดสุสานจักรพรรดิที่ซีอานแทน ส่วน "ริค และเอเวลีน หรือ อีวี่" ที่กำลังเซ็งกับชีวิตจืดชืดไร้สีสัน ก็ได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ให้นำเพชรล้ำค่า ซึ่งเป็นโบราณวัตถุชิ้นสำคัญของประวัติศาสตร์ ไปส่งมอบคืนให้กับรัฐบาลจีน ที่เซี่ยงไฮ้ . . .


+ทว่า . . เพชรที่ริคและอีวี่ นำไปส่งคืนให้กับรัฐบาลจีนนั้น กลับกลายเป็นกุญแจสำคัญที่ไปช่วยชุบคืนชีวิตให้กับจักรพรรดิที่ถูกสาป งานนี้เหล่าสมาชิกในครอบครัวโอคอนเนลล์ "ริค , อีวี่ , อเล็กซ์ และลุงโจนาธาน" จึงต้องหาทางร่วมมือกับ "หลิน" สาวจีนลึกลับ ผู้ดูแลสุสานโบราณ เดินทางไปยังเชียงกรีล่า เมืองในตำนาน เพื่อสกัดกั้นมิให้องค์จักรพรรดิที่ฟื้นคืนจากคำสาป ได้ดื่มน้ำอมฤตจากบ่อทิพย์ ซึ่งจะทำให้พระองค์กลายเป็นอมตะ ไร้ผู้ต่อต้าน และมีฤทธิ์ปลุกกองทัพนักรบดินเผาของพระองค์ขึ้นมาครองโลกได้ทันท่วงที . . .


+และจากที่ได้เห็นกันมาจากหนังตัวอย่าง ห้าสหายล้มเหลวในภารกิจกู้โลก จักรพรรดิมังกรฟื้นฟูพลังได้สำเร็จ และปลุกกองทัพนักรบคู่ใจของพระองค์ขึ้นมาได้ งานนี้ "ซิหยวน" หญิงลึกลับผู้ร่ายคำสาปขังองค์จักรพรรดิเมื่อหลายพันปีก่อน และยังเป็นแม่ของหลิง (!?) จึงต้องออกมาร่ายมนต์ปลุกชีพเชลยศึกที่ล้มตาย และถูกฝังไว้ใต้กำแพงเมืองจีนขึ้นมาช่วย ขณะที่สามสมาชิกในตระกูลโอคอนเนลล์ พยายามหาทางสังหารจักรพรรดิมังกรผู้เหี้ยมโหดให้จงได้ โดยวิธีแทงมีดหมอลงอาคมลงที่หัวใจของพระองค์พอดิบพอดี . . ซึ่งไม่ต้องลุ้นแต่อย่างใด เพราะบทสรุปของหนังนั้นเป็นไปตามที่คุณๆคาดอย่างแน่นอน (^ ^)


+Tomb of the Dragon Emperor ไม่ต่างไปจากงานในหนังสองภาคก่อนหน้าของ The Mummy คือยังคงเป็นหนังแอ็คชั่น-คอมิดี้ ผสมแฟนตาซีและผจญภัย ที่เอาใจตลาด ไม่เน้นสาระ หากแต่ดูเพื่อความมัน และเน้นเอาฮาอย่างแท้จริง . . และเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ หลังจากสู้รบตบมือกับมัมมี่อียิปต์ตัวเดิมมาแล้วถึงสองครั้ง คราวนี้ก็เลยต้องหามุขใหม่ เพื่อมิให้ซ้ำซากและจำเจ ด้วยการข้ามฟากจากอียิปต์มายังจีน และหยิบยกเอาตำนานจากประวัติศาสตร์จีนมายำใหญ่ และม่วนขนาดเละเป็นโจ๊กร้อนๆเลยก็ว่าได้ ก็คือ "จิ๋นซีฮ่องเต้" ที่อ้างถึงโดยไม่บอกพระนามมาตรงๆอีกต่างหาก ด้วยติ๊ต่างในฐานะของจักรพรรดิมังกร ผู้สร้างกำแพงเมืองจีน ซึ่งที่วางตัวให้มารับบทนี้โดยเฉพาะก็คือ "เจ็ท ลี" ซึ่งโผล่หน้ามาให้แฟนๆหายคิดถึงแค่ในช่วงต้นเรื่อง และท้ายเรื่อง โดยลีขึ้นจอในมาดของจักรพรรดิเจ้าเล่ห์ เหี้ยมโหด และบ้าอำนาจ ซึ่งเป็นพิมพ์นิยมของผู้นำทรราชแบบที่เราเห็นกันชินตาในหนังจีนกำลังภายในทั่วไป ซึ่งกับบทแบนๆ ไร้มิติ และสีสันพื้นๆแบบนี้ กับเวลาที่หนังมีให้ เจ็ท ลี ก็ยังคงทำได้สมมาตรฐานเดิมๆของตัวเองเหมือนๆงานที่ผ่านๆมา ไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่มีดีอะไรให้ประทับใจค่ะ . . .


+สมทบหญิงอย่าง "มิเชลล์ โหย่ว" วับไปแว่บมาตลอดทั้งเรื่อง ในบทซิหยวน หญิงงามผู้ค้นพบคัมภีร์โบราณ ซึ่งเปลี่ยนมนต์ให้คงชีวิตอมตะ มาเป็นคำสาปแสนชั่วร้าย เพราะจักรพรรดิตระบัดสัตย์ ขึ้นจอในสภาพจืดชืด ไร้เสน่ห์ ไร้สีสัน ที่ไม่น่าจะร้อนแรงเข้าตาพอจะเป็นหญิงที่ก่อให้เกิดปมรักสามเส้า ระหว่างองค์จักรพรรดิกับขุนศึกคู่ใจได้แต่อย่างใด . . ส่วนอิซาเบลล่า เหลียง มาในบท "หลิน" สาวรุ่นผู้ทำหน้าที่เฝ้าสุสาน และเป็นลูกสาวของซิหยวน หญิงสาวที่อเล็กซ์หมายปอง มาในแบบหนังเอกหนังแอ็คชั่นทั่วไป นอกจากจะโดดเด่นในด้านศิลปะการต่อสู้แล้ว ในส่วนอื่นๆไม่มีอะไรให้จดจำ . . .


+สำหรับสมาชิกในครอบครัวโอคอนเนลล์ หน้าใหม่ก็คือหนุ่มใสชาวออสเตรเลีย "ลุค ฟอร์ด" ผู้รับบทเป็นอเล็กซ์ ลูกชายสุดห้าว วัย 21 ของริค และอีวี่ ซึ่งแม้จะได้รับบทเด่นชนิดโผล่มาเห็นหน้าเกือบทั้งเรื่อง แต่ลุค ฟอร์ดกลับแสดงได้ไร้เสน่ห์เสียเหลือเกิน จัดเป็นดาราเด่นในกลุ่มลูกชายที่อยู่ใต้ความสำเร็จของผู้เป็นพ่อ เป็นแค่ตัวตามพระ ชนิดผู้ชมพร้อมจะลืมหน้าทันทีที่เดินออกจากโรง . . .

+กับมาเรีย เบลโล่ ผู้รับบทเป็นเอเวลีน หรืออีวี่ หากเทียบกับนางเอกคนเดิมอย่างเรเชล ไวสซ์ที่ขึ้นกล้องสุดๆจากสองภาคที่แล้ว สถานการณ์ของเบลโล่ไม่ได้ดีกว่าแต่อย่างใด โดยเฉพาะกับบทเรียบๆ ไร้สีสันแบบนี้ และอย่าแปลกใจที่เหตุใด นักแสดงสาวที่ไปได้ดีแล้วอย่างไวสซ์ ไม่คิดจะกลับมา . . ส่วนสองดาราที่กลับมารับบทเดิมอย่าง เบรแดน เฟรเซอร์ ในบทริค และจอห์น ฮันนาห์ ในบทลุงโจนาธาน ก็ยังคงรักษาภาพเดิมๆของแคแรคเตอร์เมื่อทศวรรษที่แล้วไว้อย่างเหนียวแน่น เฟรเซอร์นั้นยังฟิต ฟอร์มสด และบู๊ได้สุดตัวสมกับภาพที่หนังต้องการ ส่วนฮันนาห์นั้น แม้จะร่วงโรย และเฟอะฟะ แต่ก็ยังทำได้ดีกับบทบาทคนไม่เก่ง แต่ (ดัน) ดวงดี และอึดเหมือนแมลงสาบ (!?) . . .


+บทหนังของอัลเฟร็ด กัฟ และไมลส์ มิลลาร์ หยิบเอาเรื่องราวตำนานชีวิตอมตะ ที่มีทั้งคัมภีร์โบราณ น้ำทิพย์จากสุสานจักรพรรดิที่ซีอาน ไปจนถึงเชียงกรีลา มาผสมเข้ากับเรื่องของจิ๋นซีฮ่องเต้ ผนวกกับการพยายามจะครองโลกของนายพลจีนบ้าอำนาจในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง . . และเพราะพล็อตหลักเป็นแบบนี้ ไม่น่าแปลกใจที่หนังจะมาพร้อมกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ที่มีทั้งตัวเยติ มนุษย์หิมะ หรือการแปลงร่างของจักรพรรดิมังกร เป็นมังกรสามหัว และตัวประหลาดในเทพนิยายอื่นๆ ซึ่งล้วนแต่เปิดโอกาสให้ทีมงานเทคนิคพิเศษได้โชว์ฝีมืออย่างเต็มที่ และแม้ The Mummy จะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ๆให้กับเทคนิคพิเศษ จากฉากการคืนชีพให้กับมัมมี่ทั้งหลาย ที่เป็นแม่แบบของการประกอบร่างกลับจากโครงกระดูก คืนสู่เนื้อหนัง รวมไปจนถึงฉากกองทัพโครงกระดูกนับพันนับหมื่นทั้งหลายก็ตาม . .

+หากแต่หลังจากที่กอร์ เวอร์บินสกี้ คืนชีวิตใหม่ให้กับเหล่าโจรสลัดใน Pirates Of The Caribbean และฉากการยกทัพสุดอลังการของ
เหล่าออร์คในมหากาพย์อย่าง Lord Of The Rings แล้ว ฉากที่เป็นไฮไลท์กะโชว์ในเรื่องที่ว่า ซึ่งเป็นการปะทะกันของกองทัพนักรบดินเผา กับเหล่าซากเชลยศึกที่ถูกปลุกขึ้นมารบ ก็เลยกร่อยสนิท และกลายเป็นของธรรมดาๆ พื้นๆไปเลย . . .


+เห็นได้ชัดว่า ช่วงเวลาที่หนังห่างจอไป เทคโนโลยีของหนังยุคใหม่ก้าวไปได้ไกลแค่ไหน ชนิดๆดูๆกันไป ยังแยกกันไม่ค่อยจะออกเลยว่าอันไหนจริง อันไหนหลอก และแม้จะมาพร้อมกับ "ชื่อเก่า" ที่พร้อมจะขายได้ และคับคั่งไปด้วยเทคนิคพิเศษอัดให้ดูกันตระการตาไปตลอดทั้งเรื่อง แต่หากมันไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้ดึงดูดใจแล้ว บางทีหนังใหญ่ๆก็แป้กได้เหมือนกัน และ The Mummy : Tomb of the Dragon Emperor ก็จัดอยู่ในกลุ่มงานภาคต่อที่แย่กว่าสองภาคที่ผ่านๆมาในทุกๆด้าน แต่ก็ยังพอดูได้เพลินๆ ชนิดจบแล้วก็จบกันไป และไม่มีอะไรให้จดจำค่ะ . . .

+ให้ 2 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) yoyo_55.gif yoyo_55.gif

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1576.html ค่ะ


+The Mummy : Tomb of the Dragon Emperor Trailer+
http://www.youtube.com/watch?v=ol-U0ibnVD4...player_embedded

QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ yoyo_55.gifเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 19 November 2009 - 01:25 PM.


#2 kikuntin

    บันทึกลับอสูรฟ้า เคล็ดวิชาอมตะ ตำนานกระบี่เมตไตร ม้วนภาพเทพยุทธ์

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 10921 posts
  • Gender:Male

Posted 12 December 2008 - 11:03 PM

สำหรับหนังเรื่องนี้ที่ผมไปดูมาในโรงก็มีความเห็นเช่นเดียวกับน้องตูน และก็คิดว่าเนื้อเรื่องน่าจะยาวกว่านี้และมีสีสันมากกว่านี้

แต่ที่ทำออกมามันค่อนข้างที่จะน้อยมากกับความรอคอย 2ดาวก็เหมาะสมดีครับ

#3 mitsurugi

    นักเล่นเกมระดับสูงชั้นที่ 1

  • Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPip
  • 777 posts
  • Interests:katana

Posted 07 January 2009 - 03:54 PM

คงจะบอกว่า คิดเห็นเหมือนข้างบนน่ะครับ