0
Teeth - กลีบเขมือบ
+ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าช่วงกลางทศวรรษ 90 บริษัทสร้างหนังอิสระรายเล็กๆ อย่างไดเมนชั่น จะสามารถเติบโตเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่กับเขาได้เหมือนกัน ด้วยผลงานหนังเขย่าขวัญตระกูล
"หวีด" ซึ่งนอกจากจะปลุกกระแสหนังเขย่าขวัญวัยรุ่นได้สำเร็จแล้ว ก็ยังสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับหนังทำนองนี้ได้อีกต่างหาก และยังจะเป็นการแจ้งเกิดนักแสดงเลือดใหม่ขึ้นมาประดับวงการอย่างเจนนิเฟอร์ เลิฟ ฮิววิตต์ , เฟร็ดดี้ ปริ้นซ์ จูเนียร์ หรือว่าเนฟ แคมป์เบลล์ และที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ ไรอัน ฟิลิปปี้ . . .
+รวมทั้งยังเป็นการแจ้งเกิดยอดมือเขียนบท อย่างเควิน วิลเลียมสัน ที่ครั้งหนึ่งเคยรุ่งขนาดถึงขั้นได้ทำซีรีย์ Dawson's Creek และที่สำคัญ ยังช่วยให้เวส คราเว่นกลับมาเป็นผู้กำกับหัวแถวอีกครั้ง หลังจากที่เคยประสบความสำเร็จไปกับหนังชุด Nightmare on Elm Street ในช่วงปลายยุค 80's ก่อนที่จะถูกลืมหายไปหลังจากนั้นไม่นาน . . .
+กับ Teeth ผลงานชิ้นล่าสุดของไดเมนชั่น ก็ยังคงเป็นงานหนังเขย่าขวัญวัยรุ่น ที่เล่นแง่ของชีวิตที่เกี่ยวพันติดอยู่กับเรื่องเซ็กส์ และการจับคู่เดท ซึ่งไม่ต่างไปจากหนังชุด Scream แต่อย่างใด หากแต่ครั้งนี้หนังมาพร้อมกับอารมณ์เพี้ยนๆหลุดโลกยิ่งกว่า ซึ่งก็สมกับที่เป็นผลงานของไดเมนชั่น เอ็กซ์ทรีมเป็นแน่แท้ . . .
+เพราะ Teeth ก็คือเรื่องราวของ "ดอว์น" สาวเอ๊าะรุ่นไฮสคูลสุดเช้ง ที่เกิดมาพร้อมกับความผิดปกติของร่างกาย เมื่อภายในช่องคลอดของเธอกลับมีฟันแหลมคม ที่พร้อมจะกัดฉีกสิ่งต่างๆที่พยายามล่วงล้ำเข้ามาได้ หากเธอรู้สึกตระหนก หรือไม่เต็มใจ (!?) . . ในขณะเดียวกันเธอก็ยังเป็นนักพูดฝีปากกล้าของชมรมรักษาพรหมจรรย์ ที่เชื่อมั่นในการมอบความบริสุทธิ์ให้กับคนที่ดีที่สุด ในวัยและเวลาอันควร นั่นก็คือ "คืนวันแต่งงาน" นั่นเอง!!!
+ดอว์นอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง ที่มีลูกติดเป็นวันรุ่นชายชื่อ "แบรด" ที่มีท่าทีห่ามๆ และเป็นพวกคลั่งเซ็กส์ ซึ่งทำให้เขากลายเป็นพวกแปลกแยกจากคนอื่นๆในบ้าน ที่ดูจะเป็นคนที่เชื่อมั่น และศรัทธาในศาสนาอย่างแรงกล้า แถมลึกๆแล้ว ในจิตใจของแบรดเอง ก็เหมือนจะต้องการบางสิ่งบางอย่างจากตัวของดอว์นด้วยเช่นกัน . . ทุกอย่างดูเหมือนจะดำเนินไปตามทางของมัน จนกระทั่งดอว์นได้พบกับหนุ่มใสอย่าง "โทบี้" ทั้งคู่นัดไปออกเดทกัน แต่แล้วโทบี้กลับพยายามจะเป็นชายคนแรกของดอว์นให้ได้ และเขา . . กับสัญลักษณ์ความเป็นชายของตัวเอง ก็กลายเป็นเหยื่อรายแรกของอวัยวะอันผิดปกติของดอว์น และเชื่อได้เลยว่านี่ไม่ใช่รายสุดท้ายแน่นอน . . .
+จากพล็อตที่ว่า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พล็อตหลักของ Teeth นั้นสามารถเล่นได้มันส์ กวน และมีจุดขายประหลาดๆที่น่าสนใจ ซึ่งน่าจะทำออกมาเป็นหนังสนุกๆอารมณ์กวนๆได้ไม่ยาก โดยเฉพาะการเป็นหนังที่มีจุดร่วมให้เอื้อผสมผสานได้ ระหว่าง เซ็กส์ สยอง และอารมณ์ขันร้ายๆรวมกัน ซึ่งอาจจะเป็นงานในแบบตลกร้าย-เสียดสี หรือว่าล้อเลียนก็ได้ทั้งนั้น แถมยังเป็นงานที่มาพร้อมกับตัวละครวัยรุ่น ที่น่าจะขายคนดูวัยเดียวกันได้ ซึ่งชอบอะไรห่ามๆแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว . . .
+ทว่า . . มิตเชลล์ ลิคเทนสไตน์ ผู้เขียนบท-กำกับภาพยนตร์ และยังเป็นเจ้าของไอเดียพิลึกพิลั่นในเรื่องด้วย กลับไม่สามารถใช้สิ่งที่ตัวเองมีอยู่ในมือ มาสร้างสานเป็นหนังสนุกๆ คันๆ ผสมอารมณ์หวั่นๆ หลอนๆ ได้อย่างที่ควรจะเป็น . . หนังไม่สามารถเป็นความสยองขวัญที่นำมาด้วยความเซ็กซี่ได้สำเร็จ ซึ่งทั้งความเป็นอีโรติกในตัว และความสยองขวัญ ความน่าสะพรึงกลัวที่ปรากฎอยู่ในหนังนั้น กลับเป็นอารมณ์ในแบบกึ่งๆ กั๊กๆ และไปได้ไม่สุดสักทาง ซึ่งเห็นได้ชัดว่า นอกจากจะใช้งานหน้าตา และเรือนร่างของ "เจสส์ ไวกซ์เลอร์" ผู้รับบทเป็นดอว์น ซึ่งพกพาเสน่ห์มาเต็มกระเป๋าไม่เป็นแล้ว ตัวลิคเทนสไตน์เอง ก็ไม่สามารถสร้างความหวาดหวั่น และลุ้นระทึกให้กับการ "งาบ" เหยื่อทุกครั้ง ของช่องคลอดมีฟันของดอว์นได้ ^ ^
+ขณะที่อารมณ์ขันของหนังเอง ก็ออกมาแบนๆไม่อย่างกัน เป็นอารมณ์ขันในแบบ "ช่างคิดได้เนอะ" มากกว่าจะรู้สึกจากสิ่งที่หนังพาไป . . โดยเฉพาะกับการตรวจภายใน ที่สามารถเล่นให้เป็นสถานการณ์ชวนระทึก น่าหวาดหวั่นได้ทันที ชนิดตบอารมณ์จมท้ายด้วยอารมณ์ขัน ระคนหวาดเสียวก็ยังได้ แต่เอาเข้าจริงๆ กลับทำให้ได้แค่พออมยิ้ม หึ หึอยู่ในคอก็เท่านั้น ขณะที่อารมณ์เสียวๆ ลุ้นๆนั้น บางทีผู้ชมมาลุ้นว่ามันจะขำหรือเปล่า ดูจะสนุกกว่าเองด้วยซ้ำ . . และที่แย่ไปกว่า นั่นก็คือบทหนังของลิคเทนสไตน์นั้น ล้วนอยู่ในสถานการณ์ประเภทตามหลังความคิดของผู้ชมอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นจุดพลิกผันต่างๆ หรือเหตุการณ์ชวนระทึกที่หนังนำเสนอ ที่ลิคเทนสไตน์ไม่สามารถก้าวนำคนดูได้เลย . . ไม่แปลก ที่ Teeth จะไม่มีอะไรให้ลุ้น ให้ระทึก หรือว่าหัวเราะได้อย่างเต็มใจดังที่ว่า เพราะไปๆมาๆคนดูทั้งหลายก็ลัดมาดักรอเรื่องราวของหนังจนหมดแล้ว . . .
+เพราะฉะนั้น กับเรื่องนัยเปรียบเทียบในเชิงสัญลักษณ์ ระหว่างการพยายามรักษาพรหมจรรย์ กับช่องคลอดมีฟันอันน่าสยดสยองของดอว์น ที่อุปมา อุปมัยว่า เป็นการรักษาสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิต ให้กับคนล้ำค่าที่สุด ซึ่งในตำนานก็คือนักรบผู้กล้า ก็เลยกลายเป็นแค่สิ่งเบาบาง ลอยไปลอยมา ที่ไม่มีอะไรแน่นหนา ซึ่งอ่อนแอมากกว่าการใช้อาวุธชิ้นนี้ในร่างกาย ไปจัดการกับเหล่าผู้ชายที่คิดจะหาเศษหาเลยกับสาวๆ และเห็นผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องเล่นสนุกทางเพศ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญปิดท้าย . . ซึ่งในที่สุด สิ่งที่ผู้ชายอยากล่วงล้ำ และโหยหา ก็กลายมาเป็นอาวุธ และกับดักที่คอยเข่นฆ่าพวกเขาเอง!!!
+ประเด็นตรงนี้ของหนังถือเป็นมุมที่แข็งแรงกว่าอย่างเห็นได้ชัด จนทำให้เรื่องของการรักษาพรหมจรรย์กลายเป็นมุขแป้ก ที่ใช้ล้อเลียนกลับถึงพฤติกรรมวัยรุ่นในช่วงเวลาหนึ่งๆของหนังก็เท่านั้น . . แต่ในความไม่ลงตัวของการผสานอารมณ์ต่างๆของหนังนั้น ซึ่งกับความ "ไม่ถึง" ของ Teeth เองก็ยังมีข้อดีอยู่ที่เรื่องของไอเดียของพล็อต ที่ถือว่ากล้าเล่น ของแรง และน่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งหากทำดีๆ ตัวละครดอว์นในหนังเรื่องนี้ก็จะดูแรงได้ แม้อาจจะไม่ถึงในระดับที่เห็นกันจาก Carries แต่อย่างน้อยก็น่าจะทำให้ถูกพูดถึงเกี่ยวพันกันได้ เพราะอย่างไรก็ดี เจสส์ ไวกซ์เลอร์ก็ยังทำหน้าที่ของเธอได้อย่างที่หนังควรจะได้รับ นอกเหนือไปจากการที่หน้าตา และเรือนร่างของเธอเป็นทุนทรัพย์ให้ตั้งแต่แรก . . .
+และด้วยไอเดียแปลกๆ พิลึกพิลั่น กับการนำเสนอที่ไม่ดีพร้อมแบบนี้ ไม่น่าแปลกใจที่ Teeth อาจจะกลายเป็นหนึ่งในหนังคัลท์วัยรุ่น ที่มีเรื่องเซ็กส์ อารมณ์ขัน ปนอารมณ์สยองแบบชวนหัวเป็นเสน่ห์สำคัญได้ เหมือนกับที่หนังเล็กๆ ที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบเพียบพร้อมมากนัก หากแต่มีไอเดียบางอย่างที่ไปได้ และโดนใจ โดยเฉพาะกับกลุ่มเป้าหมายก่อนหน้า ซึ่งหลายๆคนก็เคยเป็นมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนังในชุด Nightmare on Elm Street หรือจะหนังตลกวัยรุ่น-สัปดน
ในกลุ่ม American Pie เองก็ตามที . . ซึ่งกับทุกอย่างที่ Teeth มี ก็ยังถือว่าใช้ได้ แม้จะเก๋แค่เฉพาะไอเดียก็ตาม ส่วนที่เหลือนอกจากนั้น ก็ขึ้นอยู่กับรสนิยม และความชอบพอ แม้บางทีจะได้ยินแค่พล็อต และอ่านเรื่องย่อ จะสนุกกว่าดูจริงบนจอก็ตามที . . .
+ให้ 2 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว)
+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1669.html ค่ะ
QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+ +
เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+ ++อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ
QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ
+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ
+ดูหนังให้สนุกนะคะ+
Edited by rbgel, 19 November 2009 - 01:36 PM.
