`

Jump to content





รีวิวหนัง My Sassy Girl - ยกหัวใจให้ 'ยัยตัวร้าย'


3 replies to this topic

#1 rbgel

    <อัศวินมาไค ยศกาโร่>

  • DGO Reporter
  • 6945 posts
  • Gender:Female

Posted 26 November 2008 - 08:02 PM

My Sassy Girl - ยกหัวใจให้ "ยัยตัวร้าย"


+อีกหนึ่งความล้มเหลวของการนำหนังจากต่างแดนไปทำใหม่ของฮอลลีวู้ด ที่น่าจะถือได้ว่าเป็นเรื่องที่นำไปรีเมคใหม่
ได้แย่ที่สุดเรื่องหนึ่ง ก็คงไม่ใช่เรื่องเกินเลยแต่อย่างใด หากนำไปเทียบกับงานอีกหลายๆเรื่องก่อนหน้า ชนิดที่ว่าขนาดในตลาดของอเมริกาเอง กับหนังที่ทำให้คนทั้งเอเชียรู้จัก "จวน จี ฮุน" นางเอกจากต้นฉบับ รวมทั้งยังเป็นหนังเกาหลีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเรื่องหนึ่งในตลาดเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยด้วย กลับทำได้แค่ส่งตรงลงแผ่นทันที โดยไม่มีโอกาสฉายในโรงภาพยนตร์ด้วยซ้ำไป!!!


+แม้ตัวหนังเอง จะพยายามเดินเรื่องในแบบเดียวกับหนังต้นฉบับชนิดเกาะติด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า หนังจะให้ผลลัพธ์ในแบบเดียวกับที่ต้นฉบับเคยทำได้มาแล้วซะเมื่อไหร่!? ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้เป็นเช่นนั้น ก็คือเรื่องความ "ต่าง" ทางวัฒนธรรม ที่ส่งผลให้การกระทำในแบบเดียวกัน ไม่สามารถทำได้เมื่อไปอยู่ในอีกที่หนึ่ง ที่เมื่อฉากหนังของหนังถูกเปลี่ยนจากกรุงโซล ไปเป็นนิวยอร์ก อเมริกา . . อะไรๆที่ได้เห็นในหนังก็เลยกลายเป็นความไม่น่าเชื่อถือ หรือความไม่น่าเป็นไปได้นั่นเอง . . และเมื่อหนังทำให้รู้สึกเชื่อในสิ่งที่เห็นไม่สำเร็จ ก็คงไม่ต้องขยายความไปถึงเรื่องอื่นอีกแต่อย่างใด . . .

+กับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดเลยว่าเริ่มมากันตั้งแต่บทภาพยนตร์ ที่เป็นฝีมือของ วิคเตอร์ เลอไวน์ ผู้คลุกคลีกับงานแนวโรแมนติก-คอมิดี้มาก็ไม่ใช่น้อย ไม่ว่าจะเป็นซีรีย์ Mad About You หรือแม้กับหนังที่เคยถูกมองว่าน่าจะแรงอย่าง Win A Date With Ted Hamilton ก็ยังได้ ที่ดูเหมือนจะจับบทดั้งเดิมของ "กวักแจยัง" มาดัดแปลงแค่สถานที่ และปรับสถานภาพของตัวละครให้กลายมาเป็นอเมริกันเอาแค่นั้น โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องความต่างอย่างที่บอกเอาไว้ข้างต้น . . และด้วยเหตุนี้ My Sassy Girl เวอร์ชั่นอเมริกัน ก็เลยมาพร้อมกับความไม่น่าเชื่อของเหตุการณ์ และการกระทำของตัวละคร . . .


+ผิดกับงานรีเมค เวอร์ชั่นอเมริกัน อย่าง The Departed ของ "มาร์ติน สกอร์เซซี่" ที่แม้จะคงฉากเดิมๆของหนังต้นฉบับเอาไว้ แถมยังไปหยิบยืมงานภาค 2 ของหนังต้นฉบับมาเติมแต่งในเรื่องอีกต่างหาก แต่งานของสกอร์เซซี่นั้นยังพยายามปรับตัวละคร และการกระทำของพวกเขาให้เป็นอเมริกันได้อย่างน่าเชื่อ จนทำให้เรื่องของสายตำรวจ และสายโจรที่เข้าไปแฝงตัวอยู่คนละฝั่งนั้น กลายเป็นหนังแก๊งสเตอร์-อเมริกันแบบดิบๆจนได้ในที่สุด . . .

+หนังไม่น่าเชื่อขนาดไหน!? กับการที่ผู้หญิงเมาๆ คนหนึ่ง ไปตบผู้ชายแปลกหน้าที่ไม่ลุกให้หญิงแก่นั่ง ในสถานีรถไฟใต้ดินนิวยอร์ก แล้วไม่โดนตอบโต้อะไรกลับมา และที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าก็คือ สาวผมบลอนด์ อวบเอ็กซ์ สามารถเมาจนหมดสติ แล้วมีผู้ชายนั่งรถมาส่งถึงบ้านทุกครั้งไป และโดยที่มาถึงบ้านในสภาพที่ไม่โดนล่วงล้ำอะไรอีกต่างหาก ในประเทศที่เรื่องการมีสัมพันธ์ ไม่ใช่เรื่องที่ปกปิด หรือมิดชิดอะไร!! ซึ่งที่สุดแล้ววิคเตอร์ เลอไวน์ ไม่ได้เข้าใจเลยถึงความต่างของวัฒนธรรม และไม่รู้สึกถึงความแปลกแยกทางความคิด และรูปแบบการใช้ชีวิตของประเทศตะวันออก และตะวันตก . . .


+ขณะเดียวกัน บทภาพยนตร์เองก็ขาดมิติ และความลึกในเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร หนังไม่ได้ทำให้รู้สึกขึ้นมาเลยว่า จอร์แดนมีอะไรที่ทำให้ชาร์ลี "รัก" ขึ้นมาได้ หรือในอีกมุมหนึ่งก็คือ ทั้งคู่สามารถ "รัก" กันได้อย่างที่หนังแสดงให้เห็นจริงๆนะหรือ!? ในเมื่อหนังไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อน หรือความอ่อนไหวในตัวละครฝ่ายหญิง ที่ในเวอร์ชั่น อเมริกันใช้ชื่อว่า "จอร์แดน โร้ค" ซึ่งส่งผลให้ตัวละครฝ่ายชาย ที่หนนี้มีชื่อแบบอเมริกันเช่นกันว่า "ชาร์ลี เบลโลว์" รู้สึกรักขึ้นมาได้ . . .

+ซึ่งหากจะว่าไป กับบทดัดแปลงที่แทบจะไม่ได้ดัดแปลงฉบับนี้ออกจะดูฉาบฉวยอยู่ไม่ใช่น้อย จนคล้ายๆกับเป็นการพยายามใส่ภาพน่ารักๆ และสถานการณ์ซึ้งๆจากหนังต้นฉบับเข้ามา หากแต่จะเอามาก็แค่ภาพที่ไปได้ ส่วนอารมณ์ และความลึกซึ้งนั้นไม่ได้หยิบติดมาด้วยแต่อย่างใด . . และเมื่อหนังในส่วนแรกที่เป็นเสมือนแก่นสำคัญของเรื่อง ซึ่งปูเอาไว้ตบในส่วนหลังไม่ได้ กับเรื่องราวในส่วนหลังของหนัง ที่ว่ากันด้วยเรื่องของความลึกซึ้งล้วนๆ ที่ไม่ว่าจะพยายามเข็น พยายามดันกันสักเท่าไหร่ ก็ไม่มีทางขึ้นไปสู่จุดพีคอะไรได้เพราะเหตุนี้ . . .


+แล้วก็ไม่ใช่เฉพาะแค่บทหนังเท่านั้นที่มีปัญหา เพราะกับนักแสดงหลักทั้งสองคน ที่ต้องมาถือหนังทั้งเรื่องเอาไว้ในมือก็อยู่ในสภาพที่น่าเป็นห่วงพอๆกัน . . หากดูแค่ตาเห็น ทั้งเจสซี่ แบรดฟอร์ด และอลิชา คัธเบิร์ทนั้นต่างก็ดูดีทั้งคู่ มีความน่ารักสดใสที่ฉายจับให้เห็นตั้งแต่แรกมอง แต่ก็ไม่ได้เป็นตรารับประกันว่า หากทั้งสองคนมาเข้าคู่กันบนจอ และยิ่งย้ำกันให้ชัดๆในหนังเรื่องนี้แล้ว จะออกมาดูดีเหมือนกับในภาพนิ่งที่เห็นเสียเมื่อไหร่!?


+ฝ่ายชาย "เจสซี่ แบรดฟอร์ด แม้จะดูเป็นคนแหยๆอย่างที่บทต้องกรในระดับหนึ่ง แต่แบรดฟอร์ดไม่สามารถแสดงให้เห็นด้านลึกของตัวละครได้มากกว่านั้น ส่วนอลิชา คัธเบิร์ทนั้นถึงแม้ภาพนิ่งในใบปิดจะได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ความเป็น Sassy ในแบบของเธอ ไม่ใช่ผู้หญิงแก่นๆ เซี้ยว เฮี้ยว ที่เอาความห้าวมา-กลบความอ่อนไหวในตัวเอง หากเป็นผู้หญิงวางโต เรื่องมาก ช่างหาเรื่อง ที่ดูจะน่ารำคาญมากกว่าจะน่ารัก น่าชังเหมือนต้นฉบับ และที่สำคัญคัธเบิร์ทเล่นออกมาแบบแกนๆ และแบนบาง ซึ่งไม่สามารถแสดงความซับซ้อนที่อยู่ในตัวละครที่เธอรับบทได้เลย . . จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ My Sassy Girl เวอร์ชั่นคัธเบิร์ท จะไม่ใช่ยัยตัวร้ายในแบบที่คนดูให้ใจได้ไม่ยากอย่าง "จวนจีฮุน" และเจส
ซี่ แบรดฟอร์ด ก็ดูจะไม่ใช่คนที่มีบางอย่างที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นได้อย่างที่ "ชาแตฮุน" เล่นเอาไว้ในต้นฉบับ . . .


+งานโปรดัคชั่นด้านอื่นๆของหนัง ดูจะพยายามหาทางส่ง และดันหนังกันเต็มที่ โดยเฉพาะกับงานด้านภาพ ที่มีการย้อมให้ได้สีแปลกๆ กับดนตรีประกอบ และเพลงประกอบที่ใส่เข้ามากระตุ้นความรู้สึกเป็นระยะๆ แต่ท้ายที่สุดแล้ว หากองค์ประกอบหลักไม่ได้ ที่จะพยายามเติมเสริมเข้ามา ก็เลยกลายเป็นได้แค่ส่วนเกิน หรือฟังแล้วไม่ลงตัวไปซะอย่างนั้น . . ซึ่งจริงๆแล้ว หากจะเริ่มต้นพูดกันที่บทซึ่งดัดแปลงมา แล้ว "ล้มเหลว" บางทีคงไม่ต้องไปพูดถึงมุมอื่นของหนังก็ยังได้ เพราะคงไม่มีใครสร้างหนังที่ดีได้จากบทประมาณนี้ แต่อย่างน้อยที่สุดกับหนังหลายๆเรื่องที่มีบทที่ไม่ได้ความสักเท่าไหร่ ก็รู้ตัวเองดีว่า จะ "ขาย" หรือจะ "ทำ" อะไร . . แต่กับ My Sassy Girl เวอร์ชั่น อเมริกันกลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ . . .


+ถือเป็นงานรีเมคที่พร้อมจะถูกลืมไปในทันที และไม่ว่าจะดูในแบบที่ว่านี่คือหนังรีเมค หรือหนังที่มีตัวเองเป็นต้นฉบับ ซึ่งจะดูกันในมุมไหน ท่าไหน My Sassy Girl ของยานน์ ซามูเอลล์ก็ไม่ใช่หนังที่น่าจดจำ ชนิดทำให้ผู้ชมประทับใจ และต่อยอดไปจนประสบความสำเร็จอะไรได้ . . ซึ่งก็เป็นเช่นเดียวกับหนังรีเมคอีกหลายๆเรื่องก่อนหน้านี้ ที่มีชะตากรรมไม่ต่างกันค่ะ . . .

+ให้ 2 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว) yoyo_55.gif yoyo_55.gif

+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1613.html ค่ะ


QUOTE
+ขอเก็บค่าอ่านคนละ 1 คอมเม้นต์เท่านั้นจ้า+
+ yoyo_55.gifเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนค่ะจ้า . . ไม่ตอบ Reply ให้กันมั่ง ขอให้จู๊ดๆ (นิสัยๆ ^ ^)+yoyo_55.gif +


+อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ

QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย
2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง


+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ

+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ


+ดูหนังให้สนุกนะคะ+

Edited by rbgel, 19 November 2009 - 02:34 PM.


#2 bankcodelove

    Mr.Tottenham

  • Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1926 posts
  • Gender:Male
  • Location:White Hart Lane
  • Interests:The Eye of Judgment (PS3)

Posted 26 November 2008 - 09:14 PM

ขอบคุณครับ

แฟนผมว่าจะซื้อมาด๔อยู่เชียว แบบนี้ต้องไปเบรคซะล่ะ อิอิ จะได้เอาตังค์ไปซื้อเกม 555+

#3 Brutal-Method

    เซียนเกม

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 6439 posts
  • Gender:Male

Posted 30 November 2008 - 12:48 PM

โหลดมานานมากๆ
ไม่มีเวลาดูซักที

จนแผ่นหาไม่เจอแล้ว yoyo_71.gif

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

#4 kikuntin

    บันทึกลับอสูรฟ้า เคล็ดวิชาอมตะ ตำนานกระบี่เมตไตร ม้วนภาพเทพยุทธ์

  • High Royal Executive Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 10921 posts
  • Gender:Male

Posted 30 November 2008 - 11:08 PM

เพิ่งรู้ว่ามันเวอร์ชั่นนี้ด้วย