0
Untraceable - โชว์ฆ่าถ่ายทอดสด
"เกมนี้ฆ่าตามเสียงโหวต โหดตามคำขอ"
"เกมนี้ฆ่าตามเสียงโหวต โหดตามคำขอ"
+ไม่เพียงได้ชมการถ่ายทอดสดการฆ่าคน หากแต่ผู้คลิกเข้าสู่เว็ปไซต์ชมการถ่ายทอดสด ก็จะมีส่วนร่วมในการสังหารด้วย โดยจำนวนผู้ชมจะเป็นตัวแปรของเวลาในการทรมาน และเร่งเวลาตายให้กับเหยื่อผู้โชคร้าย!!! ลูกเล่นในการฆาตกรรมของฆาตกรโรคจิตในหนังทริลเลอร์-สยองขวัญอย่าง Untraceable นั้น เสียดสีพฤติกรรมของผู้คนในสังคมมหรสพที่สนใจใคร่รู้เรื่องราวของคนอื่นได้อย่างน่าสน
ใจ และสะกิดต่อมศีลธรรมในตัวได้อย่างดีเลยทีเดียว . . .
+ศูนย์กลางของหนังอยู่ที่ "เจนนิเฟอร์ มาร์ช" (ไดแอน เลน) เจ้าหน้าที่พิเศษเอฟบีไอ ผู้ตามไล่ล่าเหล่าอาชญากรผู้ละเมิดคดีทางเพศ และการเงินในโลกไซเบอร์-อินเตอร์เน็ต . . แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อคลิกเข้าไปในเว็ปไซต์ Killwithme.com เธอก็ได้พบกับภาพการถ่ายทอดสดการฆ่าลูกแมวอย่างทารุณ และที่น่าช็อกยิ่งกว่า เพราะหลังจากนั้นสิ่งที่การถ่ายทอดสดนำเสนอก็คือ "ภาพการสังหารมนุษย์!!!"
+เจนนิเฟอร์และเพื่อนร่วมงาน "กริฟฟิน โดว์ด" (โคลิน แฮงค์) พบว่าจำนวนผู้คลิกเข้าชมการถ่ายทอดสดในเว็ปไซต์
มรณะแห่งนี้ คือตัวแปรที่ช่วยเร่งเวลาตายให้กับเหยื่อ และแม้เอฟบีไอจะแถลงข่าวขอความร่วมมือจากประชาชนผู้
นิยมท่องเน็ต มิให้เข้าชมการถ่ายทอดสด แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับตรงกันข้าม และดันกลายเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนแห่คลิกเข้าชมการถ่ายทอดสดในครั้งต่อมามาก
ยิ่งขึ้น . .
+เจนนิเฟอร์และกริฟฟินได้รับมอบหมายให้คลี่คลายคดีนี้ และเป็นไปตามสูตรเฉพาะของหนังแนวๆนี้ เมื่อเจนนิเฟอร์และคนที่เธอรักกลายมาเป็นเป้าสังหารของฆาตกรแทน . . ผลก็คือผู้ชมไม่เพียงได้ร่วมลุ้นไปกับการตามสืบสวนหาตัวฆาตกรเท่านั้น หากยังต้องลุ้นเอาใจช่วยว่าระหว่างเจนนิเฟอร์ หรือคนที่เธอรัก! คนไหนจะกลายเป็นเหยื่อของฆาตกรรายนี้กันแน่!?
+บทหนังของโรเบิร์ต พีโรเรนต์ , มาร์ค อาร์ บริงเคอร์ และอัลโลสัน เบอร์เน็ตต์ กระตุ้นอารมณ์ร่วมให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี ด้วยการเล่นกับความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ เปิดเรื่องด้วยการปกปิดตัวฆาตกรเอาไว้ และนำเสนอภาพการสังหารเหยื่อรายแรก . . ลูกแมว!? ตัดสลับกับการนำเสนอภาพการทำงานของเจนนิเฟอร์ , ความสัมพันธ์ของเธอกับเพื่อนร่วมงานคนสนิท และปูมหลังของเธอ . . .
+ความเข้มข้นของเรื่อง เริ่มต้นขึ้นจากการถ่ายทอดสด การฆ่าเหยื่อที่เป็นมนุษย์รายแรก และกว่าจะรู้ว่าฆาตกรนั้นไม่ได้เลือกเหยื่อแบบสะเปะสะปะ ที่จะเป็นใครก็ได้ ก็เอาเมื่อถ่ายทอดสดฆ่าเหยื่อรายที่สอง ซึ่งเมื่อมาถึงตอนนี้ หนังก็เผยตัวฆาตกร และเพิ่มระดับความระทึกให้กับผู้ชม ด้วยการตามคุกคามครอบครัวของเจนนิเฟอร์ ก่อนที่จะตัดเข้าสู่ไคลแม็กซ์การเผชิญหน้าระหว่างเจนนิเฟอร์กับฆาตกรโหด . . .
+ไดแอน เลน ที่เพิ่งจะเห็นหน้ากันในฐานะดาราสมทบใน Jumper มารับบทนำเป็นเจนนิเฟอร์ นางเอกคนเก่งของเรื่อง ใส่รายละเอียดในการทำงานที่ให้ผู้ชมเชื่อว่าเธอเป็นเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในการแกะ
รอยอาชญากรไซเบอร์ได้อย่างสมจริง แม้จะแค่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ตาม แต่บทหนังก็เสริมรายละเอียดเล็กๆที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกได้ว่า เธอ
มีทักษะในการต่อสู้มากพอที่จะเอาตัวรอดจากการเผชิญหน้าในฉากสุดท้ายของหนังได้ . .
+และด้วยสถานภาพหม้ายสาวสามีตาย ที่ต้องอยู่กับลูกสาวและแม่ ก็ทำให้ผู้ชมอดเป็นห่วงไม่ได้ว่าหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวสุดรักของเธอจะกลายมาเป็น
เหยื่อฆาตกรหรือไม่!? บวกกับความน่ารักของลูกสาวของเธอ ก็ยิ่งเสริมให้ผู้ชมมีอารมณ์ร่วม ลุ้นระทึกไปกับปฏิบัติการคุกคามครอบครัวของเธอจากฆาตกรโฉด ซึ่งตรงนี้ถือว่าไดแอน เลนสามารถทำหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี . . .
+โคลิน แฮงค์ ในบทกริฟฟิน เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ ที่ไม่เพียงเป็นผู้ร่วมงานธรรมดา แต่ยังเป็นเพื่อนสนิทของครอบครัวเจนนิเฟอร์อีกต่างหาก และจากสถานภาพเพื่อนสนิทของนางเอก (พระเอก) ของหนังแนวนี้ ทำให้ผู้ชมพอจะเดาได้ว่าเขาน่าจะเป็นผู้ค้บพบเงื่อนงำสำคัญที่จะนำไปสู่การคลี่คลายค
ดีได้ และสำหรับผู้ชมที่เป็นคอหนังทริลเลอร์ น่าจะคาดเดาได้ไม่ยากว่าชะตากรรมของเขาจะเป็นอย่างไร!?
+นักแสดงสมทบอย่างบิลลี่ เบิร์ค ที่เพิ่งจะร่วมงานกับผู้กำกับ "เกรกอรี่ ฮ็อบบลิต" เจ้าของผลงานที่น่าจดจำในปีก่อนจาก Fracture มารับบทเป็นตำรวจนักสืบจากพอร์ตแลนด์ ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ และด้วยรายละเอียดที่บทมีให้ ทำให้เขาทำได้แค่เดินตามเจนนิเฟอร์ นางเอกของเรื่องเท่านั้น . . ส่วนผู้ร้ายจอมโฉดของเรื่อง รับบทโดย "โจเซฟ ครอส" ที่ขึ้นจอในมาดของฆาตกรโรคจิตผู้มีรูปลักษณ์ที่ดูไม่น่ามีพิษมีภัย หากแต่แววตากลับแฝงรังสีอำมหิตที่ชวนสยองได้อย่างน่าขนลุก ในแบบเดียวกับเอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน จาก Primal Fear ซึ่งก็เป็นผลงานสร้างของของผู้กำกับเกรกอรี่เช่นกัน . . .
+และก็เป็นเช่นเดียวกับหนังทริลเลอร์ทั้งหลาย ยังไงเสียบทหนังก็ยังมีรอยโหว่ที่ทำตกหล่นไว้ และรอยใหญ่ที่สุดของหนังอยู่ในฉากที่เจนนิเฟอร์พลาดท่าติดกับ ถูกฆาตกรโรคจิตจับตัวได้ ทั้งๆที่มีอาการประเภทฉากมาฉากไปได้ทั้งเรื่อง กลับมาบื้อเอาในตอนที่ไม่ควรจะซื่ออย่างที่สุด และที่ชวนหงุดหงิดอย่างเสียไม่ได้ ก็คือการพบเงื่อนงำที่นำไปสู่การพบตัวฆาตกร ด้วยการถอดรหัสมอส ผ่านการกระพริบตาของเหยื่อที่กำลังจะตาย (!?)
+ส่วนที่เด่นที่สุดของ Untraceable ก็คือการนำเสนอภาพการถ่ายทอดสดการฆ่า ที่สุดยอดในเรื่องความคิดสร้างสรรค์ (!?) ในการหาวิธีสังหารเหยื่อ โดยเฉพาะกับเงื่อนไขให้ผู้คนที่เฝ้าตามดูการถ่ายทอดสด จะช่วยเร่งเวลาตายให้กับเหยื่อ ซึ่งหากมีคนล็อคออนเข้ามาดูในเว็บไซต์เมื่อไหร่ การฆาตรกรรมก็จะเริ่มขึ้นทันที และยิ่งมีคนเข้ามาดูมากเท่าไหร่ การฆาตรกรรมก็จะดำเนินต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น . . ซึ่งชนวนที่ว่านี้ช่วยจุดอารมณ์สยองได้น่าสะพรึงในระดับเดียวกับหนังตระกูล Saw เลยทีเดียว . . ทั้งๆที่ผู้กำกับไม่ได้นำเสนอภาพการหั่น เชือด เห็นเลือดกระเซ็นท่วมจอ หากแต่เสนอให้เห็นผ่านสปอตไลต์ที่ค่อยๆเปิดขึ้นทีละดวง ผิวหนังที่พองขึ้นเพราะต้องความร้อนจากสปอตไลต์ หยดยาที่ทำให้เลือดไม่แข็งตัวที่ถูกฉีดเข้ามาในตัวเหยื่อ แม้กระทั่งสีแดงของเลือด มาจนผิวหนังที่ค่อยๆลอกจากกรดที่เพิ่มขึ้นในน้ำที่แช่เหยื่อ ให้ความรู้สึกหลอน และติดตาในแบบที่คนจิตแข็งยังบอกเลยว่า สยดสยองมาก . . .
+ภาพสุดสยองเหล่านี้ ทำงานอย่างได้ผล และให้ผลลัพธ์ในแบบเดียวกับหนังทริลเลอร์ทั้งหลาย คือทำให้ผู้ชมเกิดอารมณ์ร่วมไปกับการสืบสวนเพื่อตามหาตัวฆาตกรของนางเอก ซึ่งอาจจะทำให้มองข้ามแก่นของเรื่องที่ว่าด้วยพฤติกรรมของผู้คนในสังคมมหรสรรพ ที่ความรุนแรงกลายมาป็นจุดขายในการสร้างเรตติ้งของสื่อ และประเด็นที่ว่าด้วยการควบคุมโพสต์ข้อความและภาพที่เหมาะสมในเว็ปไซต์ต่างๆ . . ซึ่งสำหรับคอหนังทริลเลอร์ทั้งหลาย เชื่อว่า Untraceable น่าจะทำให้คุณๆบันเทิงได้ แต่หากไม่ใช่ และจิตไม่แข็งพอ ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยง เพราะหนังโหด . . และเหี้ยมมากค่ะ . . .
+ให้ 2 ดาวค่ะ* (*ความคิดเห็นส่วนตัว)
+ภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่เหมาะกับเด็ก และคนขวัญอ่อน เพราะมีภาพฉากการสังหารที่สยดสยอง น่าหวาดกลัว และเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ชวนอึดอัด ตึงเครียด ตลอดทั้งเรื่องค่ะ
+ภาพประกอบจากเว็ปไซต์ http://www.nangdee.com/title/html/m1568.html ค่ะ
QUOTE
+ช่วยคอมเม้นต์ให้สักนิดนะคะ เพียงเพื่อ+
+ เป็นกำลังใจให้กับผู้เขียน เพราะห้องมันเงียบเหลือเกินนะ . . กลัวผีหลอกจ้ะ +
เป็นกำลังใจให้กับผู้เขียน เพราะห้องมันเงียบเหลือเกินนะ . . กลัวผีหลอกจ้ะ ++อีกสักนิด เนื่องจากมีเพื่อนๆ พี่ ๆ หลายท่าน ถามเรื่องระดับของดาวมา . . จะขอชี้แจงดังนี้ค่ะ
QUOTE
+ดาวที่ให้ วัดกันง่ายๆเลยจาก 1-4 ดาวค่ะ โดย+
1 ดาว - หนังดูไม่สนุกเอาซะเลย2 ดาว - หนังดูได้แบบเพลินๆ อย่างน้อยก็ยังดูเอามันได้
3 ดาว - หนังสนุก คุ้มค่า มีความน่าสนใจ และมีดีในระดับที่ชวนติดตาม และน่าซื้อหาเก็บไว้ยามออกเป็นแผ่น
4 ดาว - หนังยอดเยี่ยมอย่างที่สุด และพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
+และแน่นอนว่า ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน อาจจะไม่ตรงกับบางท่าน เพราะรสนิยมความชอบที่ต่างกันนั่นเองค่ะ
+ และสำหรับรีวิว เขียนเพื่อให้อ่านเป็นแนวทาง สำหรับการเลือกดู หรือเก็บสะสมแผ่น . . หรือแลกเปลี่ยนความรู้สึก และประสบการณ์จากหนังเรื่องนั้นค่ะ
+ดูหนังให้สนุกนะคะ+
Edited by rbgel, 20 November 2009 - 06:02 PM.
